หลวงพ่อกบ เขาสาริกา พระอภิญญาผู้อยู่เหนือ 3 โลก

ทดสอบ

ศรัทธา ไม่สงสัย ไม่ลังเล

 

กราบกลวงพ่อด้วยเศียรเกล้า

 

ขอเพิ่มเติมนะครับ

ปฏิปทา

ปกติหลวงพ่อกบ จะบำเพ็ญเพียรภาวนาในท่านั่ง ยองๆ เป็นเวลายาวนานติดต่อกัน คราวละ 7 – 15 วัน โดยที่ท่านไม่ลุกไปไหนเลย
ไม่ฉันอาหาร น้ำ หรือแม้แต่การถ่ายหนักเบา

เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งสร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็น
เข้าใจกันว่า ปฏิปทาอันเหลือเชื่อของท่านเกิดขึ้นได้
เพราะท่านสามารถถอดจิตออกจากกายได้ ทำให้กายไม่รับรู้ต่อสภาพความหิว และความเจ็บปวดใดๆ

- นั่งท่ายองๆ ไม่ว่าจะสวดมนต์ หรือทำกิจวัตรใดๆ และนอนตะแคงขวาเป็นประจำ

- นุ่งสบงเก่าๆ ผืนเดียว ไม่ห่อจีวร ที่คอแขวนลูกกระพรวน

- อยู่แต่ในวัดไม่เคยเดินออกไปไหนเลย

- ใช้น้ำชา และต้มเครื่องเทศเป็นยารักษาโรค ชื่อเสียงของท่านถูกกล่าวขานปากต่อปาก ผู้คนจำนวนมากมารับการรักษาจากท่าน เป็นเรื่องที่ชี้ให้เห็นถึงปฏิปทาที่เต็มไปด้วยความเมตตาอย่างสูงของท่าน

 

หลวงพ่อมีวัดมารวิชัยพบปาฏิหาริย์หลวงพ่อกบ

ใน เวลาเช้า ณ เขาสาริกา พระธุดงค์ที่นำโดยหลวงพ่อ
มิได้เตรียมตัวที่จะออกบิณฑบาตกันตามปกติ
ขณะนั้นมีชายชราผู้หนึ่งแต่งกายด้วยชุดขาวล้วน ๆ
มาบอกว่า หลวงพ่อกบให้มานิมนต์พระคุณเจ้าทุกองค์
ขึ้นไปฉันเช้าบนถ้ำเขาสาริกา หลวงพ่อมีจึงนำพระภิกษุทั้งหลายติดตามตาผ้าขาวขึ้นเขาในทันที
เพราะเคยได้ยินชื่อเสียงของหลวงพ่อกบ ทั้งยังมีความตั้งใจ
จะขึ้นไปกราบนมัสการท่านอยู่ก่อนแล้ว

เมื่อพระธุดงค์ทั้งหมดขึ้นไปถึงก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง
เพราะ ภาพที่เห็นหลวงพ่อกบ ท่านได้จัดสำรับข้าวและแกงเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ทราบว่าท่านไปหามาจากไหนในเวลาอันเช้าตรู่เช่นนี้ พอฉันเสร็จก็พากันไปนมัสการหลวงพ่อกบ
ซึ่งแต่งกายด้วยผ้าอังสะ กำลังนั่งยอง ๆ เอาสิ่งของโยนใส่กองไฟ
เมื่อเข้าไปกราบหลวงพ่อกบ ท่านก็นั่งเฉยไม่เป็นธุระ
เอาแต่เผาไฟอยู่อย่างเดียว...

ฉันจึงกราบท่านหลวงพ่อครับผมขอให้หลวงพ่อช่วยแนะนำ
ทางธรรมบ้าง ท่านจึงหันมายิ้มแล้วพูดว่า.. “เรียนมากับหลวงพ่อปานนั่นดีแล้ว...ถูกแล้วปฏิบัติตามพระพุทธองค์ท่านไว้”...

ดูซิฉันยังไม่ทันได้บอกท่านเลยว่าเป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน
ท่านก็สามารถรู้ล่วงหน้าก่อนแล้ว...
ต่อจากนั้น ท่านก็แนะนำหลักปฏิบัติธรรมบางอย่าง
ให้และพูดถึงเรื่องการ เผาไฟของท่านว่า...

“มันเป็นการเผากิเลสนะ...
อ้ายพวกนั้นมันไม่เคยเห็นก็เลยตื่น กันใหญ่...
เราจะทำยังไง ที่ไหน มันก็เหมือน ๆ กันทั้งนั้น มันอยู่ที่ใจ...”

พอท่านพูดจบก็นั่งเฉยนิ่งไม่พูดไม่จากับใครอีก ฉันไม่อยากรบกวนการปฏิบัติธรรมของท่านก็เลยกราบลาท่านลงจากเขาไป
หลวงพ่อมีเล่าเหตุการณ์ในระหว่างการเดินธุดงค์
ไปพบหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา และโชคดีได้ศึกษาหลักปฏิบัติธรรมบางประการจากท่านมาโดยบังเอิญ

 

กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอเพิ่มเติมตามความเห็นของผมอีกครั้งนะครับว่าในยุคปี พ.ศ.24XX กว่าๆ นี่ต้องถือว่าเป็นช่วงเสื่อมของลงสุดๆ ของพุทธศาสนาจริงๆ ในตอนนั้นมีพระอริยะเจ้า พระสุปฏิปันโนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพวกมีมืจฉาทิฏฐิเยอะมาก เช่น กรณีที่หลวงพ่อกบถูกจับสึก ครูบาศรีวิชัยต้องอธิกรณ์ หลวงพ่อคงวัดบางกระพ้อมถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน เป็นต้น สมัยนั้นพุทธศาสนาในเมืองไทยเสื่อมทรามลงมากจริงๆ ผมว่ายังยิ่งกว่าสมัยนี้เยอะ อย่างน้อยยุคนี้เค้าก็ไม่มีการสึกพระดีๆ แบบสมัย 2400 กว่าๆ ครับ

พวกเราโชคดีนะครับที่ได้เกิดมาในช่วงปี 25XX นี้ เพราะเป็นช่วงที่เริ่มครึ่งหลังของพุทธกาล ในช่วงนี้จะมีพระอริยะลงมาเกิดเยอะเพื่อสืบต่อพุทธศาสนาให้ครบ 5000 ปี

 

อนุโมทนาสาธุครับ

ขอกราบบูชาครูบาอาจารย์ทุกพระองค์ผู้ทรงศีล

 

กราบอนุโมทนาสาธุหลวงพ่อกบครับ

ลูกขอกราบอนุโมทนา สาธุ หลวงพ่อกบพระอริยสงฆ์ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ

 

ที่ จ.เพชรบูรณ์ ก็มีหลวงปู่ละมัย อายุ 130 ปี ท่านอยู่สวนสมุนไพร พวกผมไปเรียนการทำธาตุกายสิทธิ์จากท่านเพื่อใช้ฝึกอภิญญา และหลวงปู่ปิยะ สำนักปฏิบัติธรรมเสนานฤมิตร สกลนคร เป็นฆราวาสที่มีอภิญญา

 

กราบนมัสการครูบาอาจารย์หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกาครับ

 

เป็นกระทู้ที่ดีมาก อยู่ในอันดับต้นๆๆในใจผมเลย ของเว็บพลังจิต

ขออนุโมทนากับบทความนี้ด้วยครับ ขอบคุณจริงๆๆๆ............

 

กราบอนุโมทนาสาธุ ครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

ปลื้มใจจริงๆ ที่หลวงพ่อเป็นที่เคารพศรัทธามากมายขนาดนี้ ดังนั้นขอเรียนเชิญทุกท่านที่มีจิตศรัทธาได้เข้าไปเยี่ยมเยือนวัดเขาสาริกา เนื่องจากลูกๆของหลวงพ่อได้พร้อมใจกันสร้างองค์หลวงพ่อโดยเกาะสลักด้วยหินแกรนิตสีชมพูมีความสูงประมาณ 5 เมตรประดิษฐานไว้ที่วัดเขาสาริกาสวยงามมาก ช่างแกะสลักได้เล่าปาฏิหาริย์ให้ฟังว่า ช่วงระหว่างการแกะสลักยังไม่เสร็จในเวลากลางคืนบรรดาคนงานกำลังพักผ่อนกันอยู่ ได้เห็นลูกไฟ 4 ลูกพุ่งออกจากลำตัวขององค์หลวงพ่อเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก หัวหน้าคนงานเกิดศรัทธาเป็นอย่างมากในวันที่เคลื่อนองค์หลวงพ่อวันที่ 10 ธ.ค. 2553 ก็ได้ตามมาส่งด้วย หลวงพ่อไม่ได้ไปไหนยังคงอยู่ดูแลลูกหลานไม่ได้ขาด และยังเกิดสิ่งแปลกอีกอย่างหนึ่งคือเมื่อก่อนวันลอยกระทงสักสามวันของปีนี้ ได้มียานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวมาลอยลำอยู่เหนือเขาสาริกา 2 ลำประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆเป็นช่วงที่ผู้คนส่วนใหญ่นอนกันแล้ว ผู้เล่าไม่เห็นมนุษย์ต่างดาวเห็นแต่เพียงลำแสงสีขาวพุ่งลงมาบนพื้นเหมือนสปอตไลต์ตัวลำก็หมุนเป็นวงกลมอยู่บนอากาศ สันนิฐานว่าเขาคงมาหาหลวงพ่อผู้เล่าอยู่ในอาการตื่นเต้นจึงไม่สามารถเก็บภาพมาให้ดูได้

 

โมทนาบุญกับทุกท่านครับ ขอกราบนมัสการสมเด็จบรมครูหลวงพ่อเขาสาริกา
พระพุทโธ พระธัมโม พระสังโฆ เป็นที่พึ่งที่ระลึกของข้าพเจ้าฯ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ dangcarry
เอ๊ะ รู้สึกว่าเคยถามท่านเก่ง ไปครั้งหนึ่ง ที่ห้องพุทธภูมิ ว่าท่านปราถนาพุทธภูมิหรือ
วันนี้จะขออนุญาติถามว่าท่านปราถนาพุทธภูมิ หรือเปล่าค่ะ
ถ้าไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไรน่ะค่ะ แค่อยากถามอ่ะค่ะ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
รู้แล้วช่วยให้อะไรๆมันดีขึ้นก็ดีอยู่นะ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะเรื่องแบบนี้ใครคิดเองได้ก็เท่ากับว่าเสียรู้กิเลส เหมือนกับไอ้พวกที่ปฏิบัติพออ่านออกเขียนได้สักหน่อยมันก็จะคิดว่าตนเองเป็นอริยะบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไรสำหรับผลการปฏิบัติ เหมือนกับคนที่บอกว่าผมนั้นปราถนานรกภูมินั่นแหละ พ่อแม่เขาไม่ได้สั่งไม่ได้สอน ครูบาอาจารย์เขาก็ไม่ได้สั่งไม่ได้สอน ว่าควรทำตัวอย่างไร แถมยังเอารูปหลวงตาบัวมาใช้แล้วยังปฏิบัติตัวอย่างคนขาดการอบรมสั่งสอนเที่ยวไปสอนคนนั้นคนนี้ด้วยโวหารต่างๆนานา แต่ที่จริงปัญญาและภูมิธรรมนั้นมีเท่าหางมด คงรู้นะหางมดคืออะไร(มันไม่มีไง) คุณแดงผมจะปราถนาอะไรก็ตามถ้าต้องการรู้ว่าอะไรอย่างไรก็ใช้การพิจารณาด้วยตนเองดีกว่า เพราะถึงผมบอกว่าผมปราถนาแต่การกระทำต่างๆมันไม่ใช่ก็ไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไรกับคุณ เช่นเดียวกับไอ้พวกมารศาสนาทั้งหลายที่ปากก็บอกว่าตนนั้นดุจดังอริยะบุคคลมากล้นด้วยปัญญา แต่ทั้งการกระทำ คำพูดจิตใจล้วนอยู่ในอเวจีทั้งนั้น จึงไม่มีความดีที่เป็นของตนจริงๆเลย คงไม่ต้องบอกนะว่าใคร คนที่ดีแต่พูด และใช้คำพูดเพื่อให้คนอื่นเสียหายนั้นมันก็เป็นเพียงภูมิหนึ่งที่ต้องรอส่วนบุญส่วนกุศลเท่านั้นเอง เพราะหลงคิดว่าทำสมาธิด้วยมิจฉาทิฐิจะได้กุศล อกุศลกรรมทั้งหลายไม่อาจตามได้ นั่นเพราะมันเป็นพวกมิจฉาทิฐิมันจึงได้ไม่รู้ตัวว่า มันเป็นอยู่และเป็นไปด้วยความหลงในสิ่งต่างๆ ด้วยตัวของมันเองเท่านั้น คุณแดงก็อย่าประมาทแล้วกันนะฟังได้แต่อย่าเชื่อให้พิจารณาเอาครับ ไอ้คนนั้นหนะที่ใช้รูปหลวงตามาบังหน้าหนะถ้าอยากจองเวรให้ถึงชาติสุดท้ายก็อธิฐานเอานะ ถ้าไม่อยากทำอย่างนั้นก็ไปกราบหลวงตาบ้างนะความชั่วในใจที่เป็นเหมือนหอกคอยทิ่มแทงคนอื่นมันจะได้หายไปบ้าง (วิญญาณไม่ดีๆ มันจะได้ออกไปจากจิตใจบ้าง)<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->

 

ปล่อยเขาไป 3 คำ (พูดมากไปจะเข้าตน)

 

ปริศนาทองหนึ่ง

บริสุทธิดั่งทอง

เป็นหนึ่ง ไม่มีสอง

เสียงสาธุดังกึกก้อง

แซ่ซ้องสรรเสริญคุณ

 

อ่านแล้วชอบมากเลยค่ะ ดีจริงๆค่ะ

 

กราบนมัสการ หลวงพ่อ ครับ

 

ในสมัยเป็นหนุ่มวัยรุ่น เคยห้อยเหรีญท่านที่คอ วันหนึ่งถูกสุนักดุมาก กัดที่หน่องแบบเต็มคำ แต่อัศจรรยฺ์ สุนักกัดเราไม่เข้า วันนี้จึงขอมากราบคุณท่าน ด้วยความเคารพอย่างสูงครับหลวงพ่อ