มารที่ตามรังควานพระพุทธเจ้า

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 24 ตุลาคม 2010.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    [​IMG]

    มารที่ตามรังควานพระพุทธเจ้าและผู้ทำความดี
    จ ะ มี บ า ป ห รื อ ไ ม่

    อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ
    มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย


    ในอีกแง่หนึ่งจะมีส่วนได้บุญหรือไม่
    ในฐานะเป็นผู้ทดสอบการทำความดี

    พระพุทธเจ้าเมื่อทรงพูดจากับมาร

    ดูกร มารผู้มีบาป

    เพราะฉะนั้นมารผู้มีีบาปอยู่ในตัว
    จึงทำหน้าที่มารอันแปลว่าผู้ฆ่า หรือทำลาย

    ในแง่แห่งบุญ
    ถ้ามารนั้นกลับใจได้
    ทำความดีแทนความชั่ว มารนั้นก็จะได้บุญ

    ส่วนการทดสอบการทำความดีนั้นตัดสินง่ายๆ ได้ที่เจตนา

    ถ้าเจตนาจะช่วยทดสอบ หรือส่งเสริมคุณความดี
    เช่น ครูสอบถามนักเรียน
    หรือกวดขันให้มีความรู้ความประพฤติดียิ่งขึ้น ก็เป็นบุญ


    แต่ผู้ที่คอยรังแก หรือขัดขวางผู้อื่น
    ในการทำคุณงามความดีด้วยเจตนาร้าย หรือริษยา
    ก็เป็นมารผู้มีบาป


    [​IMG]
    [อาจารย์สุชีพ ปัญญานุภาพ]


    (ที่มา : คำถามคำตอบ ปัญหาทางพระพุทธศาสนา เล่ม ๒
    โดย อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ

    จัดพิมพ์โดย โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์, หน้า ๖๓)


    ที่มาแสดงกระทู้ - มารที่ตามรังควานพระพุทธเจ้าและผู้ทำความดีจะมีบาปหรือไม่ : • ลานธรรมจักร
     
  2. ตุ๊โต้ง

    ตุ๊โต้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +223
    พญามารบางตนก็ปรารถนาพุทธภูมินะครับที่ยกพวกมารบกวนพระพุทธเจ้าเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ตรัสให้มนุษย์ผู้ใดฟังครับวิตกจริตไปว่าพระพุทธองค์ที่จะตรัสรู้นั้นจะพาสัตว์ทั้งหลายไปนิพพานหมดจนไม่เหลือไว้ให้เป็นลูกศิษย์ในสมัยเขาน่ะซิ อันนี้ผมอ่านมาจากหนังสือธัมมวิโมกข์ อันเป็นการสนทนาธรรมของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) กับลูกศิษย์ครับท่านเล่าไว้ แต่ความเห็นส่วนตัวผมว่ายังมีสัตว์อีกมากที่ยังไม่พ้นบ่วงกรรมดูแต่แมลงชีปะขาวที่มาตายกองกันริมฝั่งโขงสิครับแล้วสัตว์ในโลกนี้อีกละมีสักกี่โกฏิดวงจิตกัน ผมขอโมทนาบุญกับทุกท่านที่เป็นพุทธภูมิครับขอให้สำเร็จโพธิญาณแลช่วยกันขนดวงจิตทุกดวงให้พ้นทุกข์เถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 ธันวาคม 2010
  3. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    พระยามาราธิราชโพธิสัตว์ ทรงไม่คิดอย่างที่ท่านนำมาให้อ่านหรอกมั้งครับ เพราะเวไนยทั้งหลายยังมีอีกเยอะให้ขนนะครับ
    ในพระไตรปิฏกกล่าาวไว้ว่า

    พระยามาราธิราชโพธิสัตว์ แท้ที่จริงแล้ว ท่านคือ พระมหาโพธิสัตว์พระองค์หนึ่ง จัดอยู่ในประเภท พระนิยตะโพธิสัตว์ คือ ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้วว่า จะได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอนในอนาคต เหตุที่ได้ชื่อว่า เป็นพระยามาราธิราช เนื่องด้วยพระองค์ทรงเกิดจิตอิจฉา ริษยา พระสมณโคดม ที่จะได้มาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนพระองค์ ทั้งที่พระองค์นั้นได้บำเพ็ญพระบารมีมาก่อน แต่เหตุไฉนใยฤา เหล่าพระพรหม และทวยเทพทั้งปวง จึงไม่อัญเชิญพระองค์ ซึ่งขณะนั้น หรือแม้ในขณะทุกวันนี้ เสวยพระชาติเป็น “ท้าวปรนิมิตตวสววัตตีมาราธิราช” เทวราชผู้เป็นใหญ่ 1 ใน 2พระองค์ที่ปกครองสวรรค์ชั้นที่ 6 ที่ชื่อว่า สวรรค์ชั้นปรนิมิตตวสวัตตีแต่กลับพากันไปอัญทูลเชิญ “ท้าวสันต์ดุสิตเทวราช” เทวราชาแห่งสวรรค์ชั้นที่ 4ที่ชื่อว่า ชั้นดุสิต ให้เสด็จลงมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่อไป ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงคอยหาจังหวะและโอกาส ที่จะขัดขวางการตรัสรู้ให้จงได้ และเมื่อสบโอกาสในช่วงค่ำ ของคืนวันเพ็ญเดือน 6 ในขณะที่พระสมณโคดมกำลังเตรียมการ ที่จะบำเพ็ญเพียรพระบารมีอย่างเต็มที่ ท้าวปรนิมิตตวสวัตตีมาราธิราช ได้จำแลงกายเป็น “พระยาวสวัตตีมาราธิราช” ทรงช้างนามว่า “ ครีเมขลา” พาเหล่าเสนามาร และกองทัพมารทั้งหลาย พรั่งพร้อมด้วยศาสตราวุธครบมือ มากันอย่างมืดฟ้ามัวดิน เข้ามารังควาญ โดยกล่าวว่า ที่นี่พระองค์ประทับใต้ต้นโพธิ์นี้ เป็นที่ของตน ต้องการให้พระสมณโคดมหลีกลี้หนีห่างไปให้พ้น ถ้าพูดกันดี ๆ ไม่ฟัง ก็คงต้องใช้กำลังกันล่ะแต่แทนที่พระพุทธองค์จะทรงเกรงกลัว กลับสงบนิ่ง พร้อมกับทรงดำรัสว่า “มารเอย ที่ท่านบอกว่าที่ที่เรานั่งอยู่นี้เป็นของท่าน แท้จริงแล้ว เป็นที่ที่เราได้เคยบำเพ็ญบารมีมาช้านาน ใยท่านมากล่าวตู่เช่นนี้” พระยามาราธิราช ได้ฟังดังนั้น ก็กล่าวถามไปว่า “การที่ท่านบอกว่า ที่ที่นี้เป็นที่ของท่านบำเพ็ญบารมีมานั้น ท่านมีพยานหลักฐานอันใดหรือ ส่วนเรานั้น เหล่าพลมารพวกนี้ เป็นพยานให้เราได้”พระสมณโคดมทรงดำรัสตอบว่า “ต้องการพยาน หลักฐาน กระนั้นหรือ ได้เลย พระยามาร” แล้วพระองค์ท่านก็ทรงเปลี่ยนพระอิริยาบถ จากท่าพระหัตถ์ประสานกันขวาทับซ้าย มาเป็นพระหัตถ์ขวาวางไว้ที่พระชานุ (เข่า) ชี้นิ้วพระหัตถ์ลงบนพื้นดิน ส่วนพระหัตถ์ซ้ายยังคงอยู่ที่เดิม หรือที่เรารู้จักกันในปางมารวิชัย และแล้ว ก็บังเกิดมีแม่พระธรณี แทรกแผ่นดินขึ้นมาต่อหน้าพระพักตร์ ระหว่างพระสมณโคดมกับพระยามาร พร้อมกับกล่าวว่า “ข้านี่แหละ เป็นพยานให้ เพราะรู้เห็นการบำเพ็ญเพียรของพระสมณโคดมมาตลอด และนี่คือหลักฐานที่พระสมณโคดม ได้หลั่งน้ำอุทิศในการบำเพ็ญทานบารมีเอาไว้”
     
  4. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603






    เมื่อไม่รู้...อวิชชา...บังอยู่ กิเลสก็มีล้นท่วมใจ...ไม่เว้นแม้..โพธิสัตว์




     
  5. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    953
    ค่าพลัง:
    +2,392
    โดยส่วนตัวไม่ได้คิดว่าท่านใดจะอิจฉาท่านใดเลย

    แต่เป็นบททดสอบซึ่งกันและกันมากกว่า
     
  6. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +526
    ตามตำนานที่พระพุทธเจ้าตรัส มีคนถามว่า ทำไม่ท่านไม่ทรมานพระยามาราธิราชล่ะ ท่านตอบว่า ไม่ใช่คู่ปรับกัน พระยามารนี่จองขัดคอ ให้ปั่นป่วนนิดหน่อย ไม่จองเวรแรงขนาดเทวทัต เมื่อสมัยนั้น ท่านเป็นคนเลี้ยงม้าด้วยกันทั้งคู่ จะม้าแข่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ซี ท่านไปเกี่ยวหญ้าม้ากัน ทีนี้ก็มีพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง เสด็จจาก ภูเขาคันธมาส กุฏิของท่าน มันไม่ค่อยดี ท่านต้องการ ต้นหญ้านี่ ไปผสมกับดินทาฝา เพราะพระจะเกี่ยวหญ้าเองก็ไม่ควร เมื่อเห็นสองคนนี้เกี่ยวหญ้า ท่านก็เหาะลงมายืนเฉย พระพุทธเจ้าของเรา ก็นึกในใจว่า เราเอาของเราถวายท่าน ก็เป็นการสมควร อยากจะเอาของเพื่อนถวายบ้างสักก้อนหนึ่ง แต่ถ้าเพื่อนกลับมาแล้วแสดงความไม่พอใจ ก็จะมีโทษมาก เพราะพระพุทธเจ้า เป็นพระที่มีบุญหนัก ก็เลยไม่ได้ถวายไป พอตอนเย็นกลับมารวมกัน ขนหญ้าขึ้นเกวียน ท่านก็เล่าเรื่องให้ฟัง เท่านั้นแหละแกโกรธหาว่า กลัวจะดีเท่าเทียม เอาละ ท่านไปไหนก็ตาม เราจะตามไปขัดคอ แต่ทุกชาติไม่ได้ขัด มาขัดเอาชาติสุดท้าย เมื่อ พระพุทธเจ้าตัดสินพระทัยออกมหาภิเนษกรมณ์ เห็นท่าไม่เป็นเรื่องแล้ว สิทธัตถะนี้ไปแน่ กูไม่ทันนี่หว่า แล้วก็มาขัดคอ ต่างๆ อย่างที่ทราบ กันดีอยู่แล้ว

    โดยส่วนตัว อัตภาพเดิมก็เคยเป็นมาร มาเหมือนกัน ชื่อว่า มาระวิกะ (อันนี้พระท่านสงเคราะห์ บอกกล่าวมา) แต่เลิกเป็นมานานแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2010
  7. baby dragon

    baby dragon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +8
    เราว่าคนเราก็ต้องเคยเป็นมารด้วยกันมาก่อนแล้วเหมือนกันอ่ะนะ
    อย่างที่เค้าบอกกันว่า ถ้าไม่ผิดแล้วจะถูกได้ยังงัยล่ะ
    แต่สุดท้ายแล้วท่านก็ดีกันนิ
    โดยเฉพาะพวกปรารถนาเป็นพุทธภูมิด้วยแล้วยิ่งต้องผ่านสิ่งผิดพลาดมาก่อนเยอะ
    เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านด้วยนะ


    เราเองก็เคยผิดเหมือนกัน
     
  8. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ภาพประกอบสวยงามมาก ๆ ค่ะ
     
  9. กิดากร

    กิดากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +1,039
    แต่หลวงพ่อเล่าว่า จริงๆ พระพุทธเจ้ากับมารตนนี้ เป็นเพื่อนกันมา มารตนนี้ชื่อว่าท้าวมาลัย ท้าวมาลัยตอนแรกแกก็ปราถนาพุทธภูมิเหมือนกัน แต่เพื่อนที่เป็นพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้เสียก่อน แกก็กลัวว่าเพื่อนจะตรัสรู้แล้วสอนคนไม่เป็นแกก็เลยมาแกล้งแหย่ที่ข้างเอวของพระพุทธเจ้าแล้วบอกว่า ท่านเลิกบำเพ็ญเถอะ จะเอาพระโพธิญาณไปทำไมกัน พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสว่า นี่มารผู้มีบาป อย่ามายุ่งกับตถาคต เพียงเท่านี้เอง ไม่ได้ยกมาเป็นขบวนอะไรเลย มาคนเดียว บาลีเขียนมากไปทำให้คนไม่เชื่อ ตอนนี้หลวงพ่อเคยบอกว่า ท่านท้าวมาลัยแกไม่รอตรัสรู้แล้ว ท่านเข้านิพพานไปแล้ว หาฟังได้จากวีดีโอหลวงพ่อผมจำไม่ได้แล้วว่าม้วนที่เท่าไร
     
  10. aun1971

    aun1971 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +273
    มารไม่มี บารมีไม่เกิดครับ
     
  11. ตุ๊โต้ง

    ตุ๊โต้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +223
    เออ... แต่ผมเคยอ่านเจอนะและยังสงสัยอยู่ท้าวมหาชมภูนี้ท่านเป็นเทวดาชั้นอะไร
    แล้วพวกที่สามารถคุมไม่ให้โรคอหิวาเกิดกับคนและสัตว์ได้นี้พวกไหน
     
  12. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    มีคำถามครับ พระแม่ธรณีฆ่ามารบาปหรือไม่ ถ้าบาปต้องไปตกนรกขุมไหน ถ้าไม่บาปทำไมมารไม่ได้เป็นสัตว์เหรอ ถึงฆ่าไม่บาป
     
  13. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +526
    มาร เท่าที่เคยสัมผัสด้วย ไม่มีตัวตนครับ เกิดจาก เทวดาบางจำพวกที่มี มิจฉาทิฐิ

    เห็นใครดีกว่าตนไม่ได้ ครับ การฆ่ามารในที่นี้คงจะหมายถึงมารภายใน ที่เกิดจากมารภายนอกมา ดลใจครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...