ภาวนา"สัมปจิตฉามิ"จำเป็นต้องควบอานาปานสติด้วยหรือไม่

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย PrinceCharming, 17 ธันวาคม 2010.

  1. PrinceCharming

    PrinceCharming เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +773
    ตามที่หลวงพ่อฤาษีฯเคยแนะนำไว้ครับในเรื่องของผลพิเศษที่จะพึงได้หากภาวนาคาถา สัมปจิตฉามิ วันละ 1 ชม เป็นเวลา 3 เดือน ตามที่ผมอ่านมาหลวงพ่อไม่ได้กล่าวถึงอานาปานสติในตอนนี้ แต่ท่านบอกให้ภาวนาไปขณะที่จิตสบาย

    คำว่าจิตสบายของหลวงพ่อนี้ เป็นอย่างไรครับ สื่อถึงอานาปาฯหรือเปล่า เพราะผมมีปัญหามากหากต้องภาวนาควบอานาปานสติ ผมจะบังคับตัวเอง บังคับลมหายใจ ให้เข้าออกตรงคำภาวนา และเจ็บหน้าอกมากเมื่อภาวนาไปได้สักพักหนึ่ง ลองแก้แล้วแต่คิดว่ายากเกินไปและไม่คุ้มหากสามารถเปลี่ยนวิธีได้จะช่วยลดเวลาและความเหนื่อยลงได้มาก จึงอยากทราบว่าหากผมจะภาวนาคาถานี้พร้อมจับภาพพระ หรือจับแค่คำภาวนาให้ใจสงบ โดยไม่ควบอานาปาฯจะได้ผลตามที่หลวงพ่อบอกไว้หรือไม่

    ขอบคุณครับ ^_____________________________^
     
  2. sabainang

    sabainang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +139
    อยากทราบเหมือนกันเลย
    ภาวนา 1 ชั่วโมงอย่างที่ว่า อีกวันตัวร้อน
    ไม่สบายตัว ต้องหยุด 2-3 วัน
    นี่ว่าจะเริ่มใหม่อยู่
    ยังไงขอคำตอบผู้รู้ร่วมด้วยนะจ๊ะ
     
  3. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    ผมอยากได้ไฟล์เสียงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตอนที่ท่านกล่าวถึง สัมปะจิตฉามิ มากกว่า ที่ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือให้อ่าน(ที่ใครจะเอาชื่อท่านมาแอบอ้างก็ได้) ผมอยากฟังว่าจริงๆแล้วหลวงพ่อพระราชพรหมณ์ญาณ กล่าวถึงคาถาตัวนี้ไว้อย่างอย่างไรบ้าง
    ใครมีไฟล์หรือมีลิ้ง ช่วงสงเคราะห์ผมด้วยเถิด
     
  4. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ผมก็เคยน่ะครับ ตัวมันเหมือนจะหมุนๆ จะตื้อๆ อาการยังไงก็ไม่รู้ ไม่ไหวก็เลยหยุด เหมือนจะหลุด แปลกๆครับ คำภาวนานี้ส่งผลแปลกๆ จริงๆครับ
     
  5. สูร

    สูร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +31
    หลวงพ่อบอกว่าอานาปานสติกรรมฐาน
    เป็นพื้นฐานของสิ่งอื่นทั้งหมด
    ถ้าอานาปานสติกรรมฐานล่ม
    กรรมฐานอื่นๆก็ล้มตามๆกัน
     
  6. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    คาถาบทนี้ พระ องค์ที่ ๑๐ มาบอกหลวงพ่อในขณะที่หลวงพ่อพักอยู่ที่เมืองควีนทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๒๙ เวลา ๐๕.๐๐ น.
    ก่อนนอนหลวงพ่อนอนภาวนาเป็นปกติ ตื่นขึ้นมามีอาการปากขยับไม่ได้ มือขยับไม่ได้ รู้สึกอึดอัด คล้ายเป็นอัมพาต แต่ใจสบาย พระ องค์ที่ ๑๐ มาบอกว่า
    "เวลานี้มีคนคิดทำให้เธอเป็นแบบนี้"
    และท่านให้เห็นตัวผู้ทำชัดเจน พระ องค์ที่ ๑๐ ให้ภาวนาว่า "สัมปจิตฉามิ" จึงคลายตัว คาถาบทนี้ไม่ได้ให้ใช้เฉพาะหลวงพ่อเท่านั้น อนุญาตให้พุทธบริษัทศิษยานุศิษย์และลูกหลานหลวงพ่อใช้ได้ด้วย
    ก่อนนอนภาวนา ให้ตั้ง นะโม ๓ จบ และต่อด้วย พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
    และสวด อิติปิ โส ฯ ๓ จบ จึงภาวนาเรื่อย ๆ ในขณะที่ภาวนาให้ทำใจสบาย ๆ ผลของคาถาบทนี้ จะมีผลต่อผู้สั่ง ผู้รับคำสั่ง ผู้ร่วมมือ และผู้กระทำไสยศาสตร์มายังเราโดยฉับพลัน

    ถ้าตั้งใจรักษาศีล ๕ บริสุทธิ์ หรือ ตั้งใจรักษากรรมบถ ๑๐ ได้ครบถ้วน สามารถระงับนิวรณ์ได้ ภาวนาวันละ ๑ ชั่วโมงเป็นเวลา ๓ เดือนติดต่อกัน จะมีผลคล้าย "อภิญญา"

    "สัมปจิตฉามิ" อ่านว่า สัม - ปะ - จิต - ฉา - มิ คาถาบทนี้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่เป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้น ไม่มีผลสำหรับผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ พระโมคคัลลาน์ท่านมายืนยันว่า คาถาบทนี้เป็นคาถาอภิญญา บอกว่าคนที่ได้อภิญญามาในชาติก่อน ถ้าใช้คาถาบทนี้ของเก่าจะรวมตัว คือว่า ทำไป ๆ ถ้าเข้าถึงผรณาปีติจะรู้สึกว่าตัวไม่มีเหลือแต่หน้า ต่อไปก็ไม่มีอะไรเหลือเลย หน้าก็ไม่มี ถ้าทำได้เช่นนี้บ่อย ๆ ไม่ช้าก็รวมตัวจะไปไหนก็ได้ เที่ยวต่างประเทศเรื่องเล็ก ฆราวาสทำได้ทุกอย่าง แต่พระห้ามแสดงต่อหน้าคน

    ถ้าท่อง ๑ เดือน นี่หมายถึงต้องการผล คล้ายอภิญญา นะ .. เพราะผลของพระคาถานี้ มีผล อยู่ ๔ อย่าง ถ้าจำไม่ผิด

    1.สะท้อนกลับคุณไสย
    2.รวมอภิญญาจากอดีตชาติ หรือเพื่อสร้างอภิญญา
    3.ทำให้จิตเป็นสมาธิ
    4.เร่งลาภให้เร็วขึ้น

    การท่อง คือการนึก คือนึกถึง พระคาถา จะควบคู่ ลมหายใจหรือไม่ ไม่จำเป็น และการภาวนา ไม่จำเป็นต้อง นั่งสมาธิเสมอไป ได้ทุกอิริยาบท จะหลับตา ลืมตา ท่านให้เอาจิตสบายเป็นหลัก คือจิตที่ปราศจากนิวรณ์ ส่วนผลอยู่ที่ตัวของเราเอง

    เหมือนตักน้ำใส่ตุ่ม ถึงตัวร้อน ไม่สบาย ก็ยังมีสติ ที่จะระลึกนึกถึง คำภาวนา อย่าเน้นเรื่อง อิริยาบท เราท่องด้วยจิต ไม่ได้ท่องด้วยกาย

    ถ้าเป็นหนังสือ ของวัดท่าซุง ล่ะ พอเชื่อถือได้ไหมครับ .. เพราะไฟล์เสียง จะค้นลำบาก
     
  7. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,260
    ... คือจริงๆแล้วเนี่ย แล้วแต่ตัวบุคคลนะคะ ว่าจะใช้วิธีไหน ถนัดวิธีมากกว่ากัน โดยส่วนตัว

    แล้ว จะภาวนาควบคู่กับ อานาปานุสติค่ะ ลมหายใจเข้า-สัมปจิต หายใจออก-ฉามิ และไม่

    กำหนดเวลา จะภาวนาไปเรื่อยจนหลับค่ะ

    ....จริงๆแล้ว อานาปานุสติ ไม่ใช่การบังคับลมหายใจนะคะ เป็นการเฝ้าดูลมหายใจของตัว

    หรือ ระลึกรู้ มีสติรู้ ลมหายใจของตัวเอง หายใจเข้ารู้ ออกก็รู้ ถ้าเราไปบังคับลมหายใจก็

    จะเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก
     
  8. wattanadist

    wattanadist เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +1,134
    ขั้นแรกลองลมหายใจยาว 3- 6 ครั้ง
    ขั้นสองลองลมหายใจสั้น 3-6 ครั้ง
    ขั้นต่อมาลองลมหายใจที่รู้สึกสบายที่สุดสำหรับตัวเรา แล้วใช้มันไปตลอดในการภาวนา แล้วแค่เฝ้าดูมันเป็นไป โดยใช้ ปลายจมูก ลำคอ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ที่สามารถรับรู้การเข้าออกของลมหายใจ จิตจะอยู่แค่ตรงนั้น พุทธ โธ จะอยู่เพียงแค่ส่วนนั้น...จากนั้นลองเปลี่ยนคำว่า พุทธ โธ เป็น สัมปะจิตฉามิ เข้า....สัมปะจิตฉามิ ออก ดู....คล้ายกับกสิณ ที่จำเป็นต้องใช้อานาปานสติเป็นบาท(พื้นฐาน) ก่อนในการภาวนา วาโย(หายใจเข้า)---กสิณัง(หายใจออก) ยกตัวอย่างกสิณลม.....จะเห็นได้ว่าอานาปณสติเป็นบาทที่สำคัญที่พระพุทธเจ้ายกย่องและสรรเสริญไว้และ เริ่มเป็นสิ่งแรกที่ให้ใช้พิจารณาจาก กรรมฐานทุกกอง ครับ

    อนุโมทนา สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...