พ่อแม่ผมจะให้ผมพาแฟนไปทำแท้ง!!!!!?????

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย gamanbu, 18 ธันวาคม 2010.

  1. gamanbu

    gamanbu สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมกับแฟนเป็น นศ. ป.ตรีกำลังจะเรียนจบ จะจบซัมเมอร์นี้ครับ
    แต่ด้วยความผิดพลาด แฟนผมท้องได้สองเดือนแล้ว
    เราตกลงคุยกันว่าจะเอาเด็กไว้ ไม่อยากเอาออก กลัวบาปมาก
    อีกทั้งผมกับแฟนคบกันมาจะห้าปีแล้ว ผู้ใหญ่สองฝ่ายรับรู้มาตลอด
    พ่อแม่ผมก็บอกว่ารักแฟนผมเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง
    ผมกับแฟนก็ตกลงไปบอกพ่อกะแม่ว่าจะมีลูก คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรมาก
    แม่ผมเสียใจมาก อยากให้เอาออก เพราะเด็กเกิดมาบนความไม่พร้อมในหลายๆด้าน ไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องชอบธรรม เรียนไมjจบ อนาคตดับวูบ blah blah blah
    ผมกับแฟนก็ลังเลคิดว่าจะเอาออกดีมั้ย
    พ่อผมบอกแล้วแต่ผมกับแฟนตัดสินใจ แต่ต้องถามตัวเองให้ดีๆลึกๆโดยใช้ปัญญาไม่ใช่อารมณ์ว่า
    พร้อมจะเป็นพ่อคนแม่คนที่ดีมั้ย ไม่ให้เด็กเกิดมาแล้วเป็นทุกข์มั้ย พร้อมทิ้งความฝันของตัวเอง ความสุขแบบวัยรุ่นที่ขาดหายไปมั้ย พร้อมทนรับคำครหาต่างๆนานามั้ย blah blah blah
    และที่สำคัญ ที่จะเอาเด็กไว้ทั้งที่ไม่พร้อมนั้นเป็นการสร้างภาพหลอกตัวเองว่าเป็นคนรับผิดชอบเพื่อไม่ให้สังคมตราหน้ารึป่าว คิดเหมือนนิยาย ละคร รึเปล่า
    ผมกับแฟนหนักใจเลยทีนี้ แต่พอมาคิดดู ก็คิดว่าคงทนกับความรู้สึกผิดบาปไม่ได้หากเอาเด็กออก และถ้าเอาไว้ก็คงจะพอสู้ชีวิตกันไปได้
    วันต่อมา(ซึ่งก็คือเมื่อวาน)เลยบอกผู้ใหญ่ไปว่าจะเอาไว้
    ปรากฎว่าแม่ผมรับไม่ได้ ขู่จะกินยาตาย พูดจาว่าร้ายแฟนผมทั้งทีเมื่อก่อนก็ดีมาตลอด บอกว่าบาปกรรมอะไรช่างมัน เอาเด็กไว้ยิ่งเป็นบาปต่อพ่อแม่และทุกคนที่ต้องมาฝืนใจรับเรื่องนี้ เด็กโตมาบนความไม่พร้อมก็จะกลายเป็นเด็กมีปัญหาเสียเปล่าๆ พ่อผม(แกธรรมะธัมโมนิดหน่อย)คิดเหมือนแม่แต่ไม่พูดตรงๆ แกบอกว่า ท้องสองเดือนเอาออกไม่บาป เพราะไปคุยกับพระรูปหนึ่งบอกว่า วิญญาณจะเข้าท้องประมาณช่วง 4-5 เดือนเอาออกไม่เป็นไร!!! ผมนี่อย่าง งง ครับเพิ่งเคยได้ยิน ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า อยากปรึกษาเพื่อนๆ พี่ๆ ในประเด็นต่อไปนี้ว่าท่านคิดกันอย่างไร
    1.บาปมั้ย มากแค่ไหน วิญญาณเข้าครรภ์เมื่อไหร่ครับ(ถ้าไม่มีวิญญาณหากทำลายก็ไม่ผิดศีลข้อหนึ่ง !!???)
    2.ถ้าบาป ผมจะทำไงดี พ่อแม่อยากให้เอาออก ผมกับแฟนไม่อยาก แต่หากดันทุรังเอาเด็กไว้แม่ผมก็จะไม่รับรู้ไม่สนใจไม่ต้องเอาหลานมาล่อให้ใจอ่อน ไม่ใช่หนังไทย และขู่จะกินยานอนหลับตาย(แกว่าอย่างนี้จริงๆครับ-ผมรู้จักแม่ดีโอกาสที่แกจะทำจริงถ้าจะให้กะประมาณก็คงมี ร้อยละ60ครับ)แล้วผมจะเลือกทางไหนดีครับ!!!สับสนไปหมด ลูก บาป หรือพ่อแม่!?
    3.ถึงแม้ผมอยากเอาออก แต่แฟนผม(ไม่ยอมเอาออกแน่นอน) ทำอย่างไรดีครับ

    ช่วยด้วยนะครับโดนที่บ้านกดดันมากเหลือเกิน ต้องคุยกับทุกคนครั้งใหญ่คืนนี้ TT
     
  2. ผู้เลื่อมใสศรัทธา

    ผู้เลื่อมใสศรัทธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    911
    ค่าพลัง:
    +2,082
    เรื่องแบบนี้ ออกความคิดเห็นมากก็ไม่ได้ ดี๋ยวจะเป็นบาปไปเปล่าๆ

    จากเท่าที่ผมรู้มานะครับ

    พ่อคุณพูดผิด
    อันที่จริง จะมีวิญาณมาสถิตตั้งแต่ปฏิสนธิแล้ว ไม่ใช่ตอน 4-5 เดือน ถ้าคุณฆ่าเขาตั้งแต่ เดือน หรือ 2 เดือน ก็บาป

    พูดตามจริงนะครับ เรื่องนี้พูดยาก คนหนึ่งก็แม่บังเกิดเกล้า คนหนึ่งก็ลูกในใส้
    แล้วขอถามคุณนะครับ คุณมีปัญญาเลี้ยงเด็กไหม ถ้ามีปัญญาเลี้ยง
    คุณก็ต้องคุยกับแม่ให้รู้เรื่อง ไม่ใช่คุณด้วยอารมณ์ พูดคำเถียงคำ พูดขึ้นเสียง
    คุณต้องหาเหตุผลมาให้แม่ยอมรับให้ได้

    ผมพูดได้แค่นี้อะครับ
    ขอให้แม่คุณยอมรับ นะครับ
     
  3. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +4,065
    คุณนี่..คิดไม่เป็นเพราะขาดสำนึก ไม่ใช่ประสบการณ์ชีวิต ถ้าทำแท้งนี่พ่อแม่คุณบาปรึ..ตั้งคำถามแบบนี้มาโยนขี้ให้ท่านแล้วคุณได้บุญใช่ไหมคุณคิดแบบนี้รึ..ถ้าบาปจริง..บาปของท่านส่วนหนึ่งเพราะปราถนาดีกับคุณใช่ไหม..
    เรียนก็ยังไม่จบเงินยังขอพ่อแม่..มีลูกแล้วเอาอะไรกิน ..แน่จริงออกไปหากินเองซี่ มีตังค์ซื้อนมให้ลูกกินรึปล่าว..งานหาง่ายๆไหมตอนนี้ ที่เรียนจนจะจบอยู่นี่นะเงินใคร..สบายใช่ไหมไม่ต้องหาเอง ทุกอย่างเลยมองสวยหรูไปหมด ..ของฟรีว่างั้นเถอะ..แค่นี้ท่านก็ช้ำเท่าใดแล้วคุณยังเอาเรื่องมาประจานท่านอีก ความสุขและเกียรติยศ ของพ่อแม่นี่คุณรู้ไหมคืออะไร..
    ..จะบอกให้คือการเห็นลูกเรียนจบ ประสบความสำเร็จในชีวิต..เพราะพอพ่อแม่คุณแก่แล้ว..เขาจะไปไหนไม่ได้ จะคุยกับเพื่อนใกล้ชิด บ้านใกล้ๆกัน ทั้งชีวิตเขาจะคุยกับเพื่อนๆเดิมๆ เขาถึง.. "ลูก ความสำเร็จของลูกๆคือน้ำยาหล่อเลี้ยงชีวิตพวกเขาคนแก่ๆๆๆ.." ทีนี้เมื่อเพื่อนบ้านเขาคุยถึงลูกเขา ..พ่อแม่คุณเขาจะมีความภูมใจตรงไหนกับคุณ ..
    ไอ้เหา..อย่างคุณนี่จะรู้เรื่องอะไรยังไม่ทันปีกกล้าขาแข็งก็เอาพ่อแม่มประจานแบบขาดสำนึกเสียแล้ว ..!
    สรุป..อย่าทำแท้ง พาเมียไปอยู่บ้านพ่อตา แม่ยาย เลยหรือไม่ก็ออกไปทำมาหากินเอง หาเงินเลี้ยงลูกเอง..กล้าๆหน่อย กล้ารึปล่าว..ผมช่วยคุณแล้วนะอย่าหาว่าเสือกแต่เป็นยาแรงสำหรับคุณ ตามกระทุ้
     
  4. ดุสิตบุรี

    ดุสิตบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +273
    ในหลักของพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงการที่มนุษย์ได้ก่อกำเนิดขึ้นในครรภ์มารดาว่า จะต้องมีองค์ประกอบ ๓ ประการคือ
    ๑. มาตา อุตุนี โหติ แปลว่า มารดามีระดู
    ๒. มาตาปิตโร สนฺนิปาตา โหนฺติ แปลว่า มารดาบิดาอยู่ร่วมกัน
    ๓. คนฺธพฺโพ ปจฺจุปฏฺฐิโต โหติ แปลว่า มีสัตว์มาเกิด


    พระบาลีในสังยุตตนิกาย แสดงไว้ว่า
    "ปญฺจิเม โข ภิกฺขเว สตฺตาเห ปญฺจ ปิฬกา ชายนฺติ สณฺฑหนติ กมฺมโต ฯ"
    แปลว่า ในสัปดาห์ที่ ๕ นั้น ปิฬก คือ ปุ่มสำหรับจะเกิดเป็น ศีรษะ แขน ขา ก็ย่อมปรากฏเพราะกรรม แต่นั้นต่อไปจนถึง สัปดาห์ที่ ๑๑ คือ ๗๗ วัน จึงบริบูรณ์ด้วย จักขุ โสตะ ฆานะ ชิวหา รวม ๔ ประการ ปรากฏตามลำดับ….
    ทั้งหมดนี้ คือคำสอนในทางพุทธศาสนาที่มีมานานกว่า ๒,๕๐๐ ปี ซึ่งพระอรรถกถาจารย์ได้นำมาเรียบเรียงเป็นภาษาบาลี และถูกถ่ายทอดต่อๆ กันมาจนถึงยุคปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าการเกิดขึ้นเป็นมนุษย์นั้น จะต้องมีการเจริญเติบโตไปตามขั้นตอน ที่สรุปได้ดังนี้

    สัปดาห์ที่ ๑ เป็น กลละ มีลักษณะใสดุจน้ำมันเนย มีขนาดเล็กมากเท่าหยดน้ำมันงาที่นำปลายขนจามรีมาจุ่มและสลัดออก ๗ ครั้ง กลละจะมีขนาดเท่าหยดที่ ๗ ซึ่งเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้
    สัปดาห์ที่ ๒ เป็น อัพพุทะ มีลักษณะข้นขึ้น ดุจน้ำล้างเนื้อ

    ..................

    ขอหยิบยกมาแค่นี้ก่อนนะครับ

    ผมขอสรุปง่ายๆนะครับ พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์มารดาแล้วนั้น ตั้งแต่เป็น"กลละ คือในสัปดาห์แรก" บุคคลใดพึงกระทำบาปอกุศลกรรม มีจิตคิดพรากเด็กนั้น พรากเด็กนั้นหมายกระทำให้ชีวิตขาดหลุดออกจากครรภ์มารดาถือว่าเป็นการฆ่ามนุษย์ที่บริสุทธิ์ครับ"

    ถ้าเราเชื่อในพระพุทธเจ้า เราต้องเชื่อในกฏแห่งกรรม เชื่อในบุญและบาปครับ การที่ทำแท้งเอาเด็กออกถือว่าเป็นบาปอย่างมาก จะส่งผลทั้งในชาติปัจจุบันและชาติต่อๆไป คือในชาติปัจจุบันก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆนานาในชีวิต อาจจะทำมาหากินไม่ขึ้น เมื่อตายไปแล้วอาจจะต้องลงไปในยมโลกหรือก็มหานรกขุม 1 ด้วยกรรมปาณาติบาต อีกยาวนานครับ

    ผมว่าอย่าทำเลยครับ มันเป็นบาปอย่างมาก เอาความถูกต้องชนะความไม่ถูกต้องเถิดครับ ถือว่าเราได้ประกาศธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ทุกคนได้รู้ด้วยครับ

    ผมไม่ทราบว่าพ่อของคุณได้ไปถามพระสงฆ์รูปไหน แต่พระสงฆ์รูปนั้นมีเข้าใจผิดหรือท่านไม่ได้ศึกษาอ่านพระไตรปิฏก ต้องรีบไปบอกท่านเพราะท่านสอนแบบนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ จะเกิดอกุศลกรรมต่อท่านได้ครับ

    ด้วยความเคารพ
     
  5. Tuumm

    Tuumm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +7,528
    ขอตอบเป็นประเด็นดังนี้นะครับ

    ๑. เรื่องเวลาที่คุณและแฟนจะจบ
    คุณบอกว่าคุณจะจบซัมเมอร์นี้ ซึ่งก็คือประมาณไม่เกินเดือนพฤษภาคม 54 และแฟนคุณก็ท้องได้เจ็ดเดือน ผมว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนแต่ประการใด

    อุปสรรคที่สำคัญก็คือ คุณ แฟนคุณ และที่สำคัญพ่อแม่คุณรักศักดิ์ศรีจอมปลอมมากกว่าชีวิตเด็กคนหนึ่ง มันถูกต้องแล้วหรือ?

    ถูกของพ่อแม่คุณและพระที่ว่าสองเดือนยังไม่มีวิญญาณ แต่มันมีชีวิตเกิดขึ้นแล้ว เค้ามีหัวใจแล้วและเต้นด้วยครับ ศีลห้าข้อแรก เค้าห้ามฆ่าสิ่งมีชีวิต ไม่ได้ห้ามฆ่าวิญญาณนะ กลับไปบอกแม่คุณให้เข้าใจเสียใหม่ ศีลห้าข้อแรกยังไม่เข้าใจ ในชีวิตจะเข้าใจอะไรดีๆ ได้บ้าง

    ๒. เรื่องความพร้อม
    คุณบอกว่าตอนนี้คุณไม่มีงานทำ เลี้ยงเด็กไม่ได้ ผมว่าถ้าคุณไม่เลือกงาน มีโอกาสอะไรเข้ามาก็ทำไปก่อน ผมว่าคนระดับปริญญาตรีสองคนช่วยกันมันน่าจะเอาตัวรอดได้ ถ้ารอให้พร้อมแล้วเมื่อไหร่จะพร้อม ต้องมีเงินเท่าไหร่ดีครับ

    เชื่อผมเถอะ รักษาชีวิตเค้า และลูกคุณจะช่วยคุณ

    ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังซักสองเรื่องเกี่ยวกับเรื่องท้องตอนไม่พร้อม

    เรื่องแรก เป็นเรื่องของผมเอง ผมพบว่าแฟนของผมท้องเมื่อผมตกงานได้ประมาณสองเดือนในกลางปี 2549 แฟนของผมเองก็เงินเดือนน้อยประมาณ หมื่นห้าเอง ตอนนั้นผมกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย เพราะเป็นหนี้ประมาณสองล้านเพราะการใช้ชีวิตอย่างประมาท แต่ผมกับแฟนก็คุยกันว่าเราต้องรักษาเค้าเอาไว้และเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุด สุดกำลังของเรา หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ผมกับแฟนไปแต่งงานกันที่โรงพยาบาลสงฆ์ และเชิญแขกเฉพาะญาติและเพื่อนสนิทประมาณ 50 คน ต่อมาอีกหนึ่งเดือน ผมก็ได้งานใหม่ เงินเดือนมากกว่าเดิมก่อนที่จะตกงานประมาณ 20% และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เป็นผู้จัดการ ทุกวันนี้ก็เจริญรุ่งเรืองดี ตอนนี้เงินเดือนหกหลักแล้วครับ หนี้สินก็ลดลงจากสองล้านเหลือประมาณหกแสนบาท เพราะอาศัยลูกเป็นแรงบันดาลใจ

    เรื่องที่สอง ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง เรียนปวช.ไม่จบเพราะแฟนเค้าท้อง แต่ทางเค้าสู้ และทางบ้านเพื่อนผมก็ให้รถหกล้อสภาพเก่ามากๆ มาคันหนึ่ง พ่อเค้าบอกว่าเตี่ยมีให้เท่านี้ เอาสร้างตัวนะ เพื่อนผมก็ขับรถคันนั้นไปหลายๆ ที่ เพื่อหาโอกาสทำมาหากิน จนมาถึงท่าเรือคลองเตย เพื่อนผมเห็นเรือที่มาเทียบท่ามีไม้ลังใช้แล้วเยอะมาก เค้าเลยไปบอกหัวหน้าคนงงานท่าเรือว่า "พี่ครับ แฟนผมท้อง ผมเรียนไม่จบ ผมต้องการไม้ไปขายหาเงินเลี้ยงลูก" หัวหน้าคนงานก็เมตตาว่าเพื่อนผมเป็นคนสู้ชีวิตและรับผิดชอบ เค้าเลยขายไม้ให้เพื่อนผมคนเดียว และเพื่อนผมก็ต่อยอดกิจการของเค้าเรื่อยมา จนกระทั่งตอนนี้เปิดโรงงานทำแพลเลทได้ มีบ้านสามหลัง รถอีกสี่ห้าคัน นี่แหละครับเด็กเรียนไม่จบปวช.เพราะท้องก่อนแต่ง แต่เค้าไม่ยอมแพ้โชคชะตาครับ

    ลองปริ้นคำตอบผมไปอ่านให้แม่คุณฟังนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ถ้าเด็กคนนั้น เขาเป็น ผู้มีบุญจะมาสร้างประโยชน์ให้กับโลก แต่โดนสะกัดดาวรุ่งเสียก่อน มันก็คงไม่เป็นธรรมนะครับ

    เราอย่าไปเห็นแก่ตัว เราจะทิ้งความฝันของเรา แล้ว ความฝันของเด็กที่จะเกิดมาหละครับ

    เอาง่ายๆ มองให้เห็นเป็นหนึ่งชีวิต ที่มีคุณค่าเท่ากับเรา แล้วเราจะเห็นทางออก
     
  7. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    1. การเรียนของฝ่ายหญิง ก็สามารถ ดรอป 1 term ได้ สูงสุดได้ 2 term ซึ่งก็
    น่าจะพอดี

    2. การเรียนฝ่ายชาย ไม่ต้องดรอป แต่จะต้องแบ่งเวลาไป หางานทำ แสดงความเป็นผู้
    นำครอบครัว ผู้หารายได้มาจุนเจือให้ได้ เมื่อคุณเป็นโล้เป็นพาย ไม่มีพ่อแม่คนไหนจะ
    ไม่ยินดีที่ลูกของตนสามารถตั้งตัวได้ แต่งานที่ไปทำ หากหาได้ที่ตรงกับความหวังพ่อแม่
    จะทำให้คุยง่ายขึ้น อย่าไปติดภาพกับระดับตำแหน่ง ให้ชงไปว่า เป็นการเรียนรู้งานที่เริ่ม
    จากล่างสุดไปบนสุดก็ได้ ฟรั่งเวลาเขาเอาลูกมาทำงาน เขาจะให้ทำตั้งแต่การเป็นภารโรงไปเลย เป็นต้น

    ตรงนี้จะช่วยเรื่องความ ติดเจ้ายศเจ้าอย่างของคนไทย หากเราเอาข้อดีของฟรั่งเข้ามา
    จรนัยให้ฟัง

    3. พาแฟนมาศึกษาธรรมะ ระหว่างที่ต้องว่างจากกิจกรรม ทั้งกิจกรรมวัยรุ่น กิจกรรม
    เพื่อนฝูง กินกรรมการเรียน กิจกรรมงานการหนักๆ อาจจะทำให้ฝุ่งซ่านได้ง่าย เราก็เอา
    ธรรมะมาเป็นเกราะป้องกัน รักษาได้ทั้งแม่และลูก....ลูกที่มีประโยชน์ต่อโลก(เขาว่า
    อย่างนั้น ก็ลองเชื่อๆดูก่อน)

    ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ พยายามดึงความเป็นผู้นำออกมา

    แล้วจะมีคนเข้าสนับสนุนเอง

    สู้ สู้ เนาะ
     
  8. โลกุตตระ

    โลกุตตระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    448
    ค่าพลัง:
    +2,624
    เมื่อมีการปฏิสนธิ วิญญาณก็เข้าครองแล้ว ไม่ใช่ว่าจะมาตอนสี่เดือนห้าเดือน หรอกนะ
    การทำแท้งก็เหมือนการฆ่ามนุษย์ บาปกรรมมหันต์ตกกับผู้ที่ทำ เห็นมาหลายรายแล้วนะ
    ไม่เจริญรุ่งเรือง ชีวิตตกอับ มีแต่ความอับเฉาหม่นหมองใจ เรื่องการทำแท้งให้
    เลิกคิดไปเถอะ และเราจะต้องเข้มแข็งยืนได้ด้วยตนเอง จบแล้วรีบหางานทำรับผิด
    ชอบภาระลูกเมียให้ได้ คุณค่าความเป็นคนอยู่ที่ความรับผิดชอบในปัญหาที่ตนได้
    กระทำไปแล้ว อย่าไปโยนความผิดให้พ่อแม่ แค่นี้ท่านก็ซ้ำใจพอแล้ว หากกลับกัน
    คุณเป็นพ่อแม่แล้วส่งเสียเลี้ยงดูลูกด้วยความฟูมฟัก อยากเห็นอนาคตที่ดีของลูก
    มาวันหนึ่งลูกยังเรียนไม่จบและมาบอกว่ากำลังจะมีลูก คุณจะรู้สึกอย่างไร...

    และที่สำคัญไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด เพราะฉะนั้นจงอย่าท้อ ตั้งสติแล้วหาทางออกให้ดี
    กับทุกๆฝ่าย โดยเราต้องรับผิดชอบและอดทนทุกอย่าง เพื่อให้ปัญหาคลี่คลายลง..
     
  9. banana603

    banana603 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +17
    ก่อนอื่น ขอถามว่า คุณนับถือพระพุทธศาสนา หรือปล่าว หากนับถือคือคุณพอมีความเชื่อในเรื่องดีชั่วบาปบุญคุณโทษ อยู่บ้างแล้ว ไม่มากก็น้อย ในการนี้
    กล่าวคือ การที่คุณทำผิดพลาด ไม่ว่าจะเหตุใดก็แล้วแต่ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา ก็คือ คุณนั่นแหละ การขาดสติยั้งคิดนั่นคือความประมาท ความประมาท ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างกรรมทั้งสิ้น หากคุณสำนึกในความประมาทในครานี้ คุณก็ควรจะไตร่ตรองให้ดีซะก่อน ถึงเรื่องความหนักเบาของกรรมต่าง ๆ

    1. ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจว่า คุณนั้นสร้างกรรมขึ้นมาแล้ว ทั้งสร้างปฏิฆะให้คนรอบข้างซะแล้ว หากแต่ผลกรรมที่ได้รับนั่นคือ ตอนนี้คุณเป็นทุกข์อยู่นั่นเอง นี่คือผลตั้งแต่เริ่มสร้าง
    2. ขณะนี้ คุณก็ยังส่งผลกรรม ให้ทั้ง พ่อแม่ ที่ต้องมานั่งกลุ้มใจเรื่องคุณอีก รวมทั้งคนรอบข้างอีกด้วย หากแต่ทำให้เขาทุกข์มาก นั่นก็คือผลกรรมที่คุณสร้างไว้

    ข้างต้นแค่พอให้ตรึกตรองได้เท่านั้นคับ แค่นี้พอแล้ว

    ส่วนเรื่องบาปนั้น ไม่ว่าคุณจะเก็บเด็กไว้ หรือจะไม่เก็บ ก็บาปทั้งสิ้น แต่ทว่า ความหนักเบาต่างกันตามเหตุ กันไป

    ถ้าคุณคิดจะทำแท้ง แน่นอนว่า ทั้งคุณ ทั้งแฟนคุณ พ่อแม่คุณ รวมถึงพ่อแม่ของแฟนคุณ ล้วนมีส่วนได้รับผลกรรมทั้งสิ้น เนื่องด้วยขาดซึ่งความรับผิดชอบการเป็นมนุษยชน แต่สิ่งแรกซึ่งส่งผลโดยตรง หากคุณทำ แม่ของเด็กรับทุกข์ทรมานแน่นอนคับ โดยตรงจากคุณเลย

    ถ้าคุณจะเก็บเด็กไว้ ใช่ว่าจะไม่ได้รับผลกรรมนะคับ แน่นอนผลกรรมในเบื้องต้นก็คือ อาจจะต้องกลุ้มใจเรื่อง อนาคตอันสั้นนี้ รวมทั้งเรื่องพ่อแม่ที่กำลังกลุ้มเรื่องคุณอยู่ด้วย แต่ทว่าเรื่องพวกนี้อาจส่งผลในระยะสั้น หรือระยะยาวก็เป็นได้ ขึ้นกับเหตุและปัจจัย ทั้งนี้ขอกล่าวไว้ว่า เป็นประสบการณ์สอบเราไปก็จะดี สำนึกไว้ใจจิตท่านเลยคับ

    ทางออกที่ควรแนะนำไว้คือ บอกพ่อแม่ว่า คุณสามารถเลี้ยงดูลูกของตนได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งให้พ่อแม่รับภาระไปด้วย หากคุณตั้งใจจริงที่จะไม่สร้างบาปต่อผู้อื่น ฉะนั้น คุณควรจะรับกรรรมแต่เพียงผู้ที่ร่วมสร้าง เท่านั้น.. จะเป็นหนทางไม่ผูกพยาบาทต่อไป เด็กก็จะได้ไม่จองเวรกันต่อ เนื่องด้วยเหตุนี้ แต่อนาคต บอกไม่ได้คับ..
    การตั้งตนอยู่ในความประมาท คือการสร้างกรรม อยู่ตลอดเวลา โดยที่ท่านอาจนึกไม่ถึง..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 ธันวาคม 2010
  10. Tuumm

    Tuumm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +7,528
    ความฝันของตัวและความฝันของวัยรุ่นเป็นเรื่องไร้สาระครับ ผมผ่านมาแล้ว มีแต่เรื่องของกาม ราคะ ใช้ชีวิตแบบประมาท ผมพูดตามตรงว่า ชีวิตผมดีขึ้น และมีความหมายมากขึ้นตั้งแต่มีลูกนี่แหละครับ คำพูดขอพ่อคุณนี่เป็นการพูดแบบไม่ใช่พ่อคนเลยนะ

     
  11. Tuumm

    Tuumm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +7,528
    แม่คุณฆ่าตัวตายเพราะเรื่องนี้ คุณไม่บาป มีแม่คุณคนเดียวที่บาป แต่ถ้าเอาเด็กออก บาปทั้งครอบครัวครับ

     
  12. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,359
    ค่าพลัง:
    +6,493
    ไม่ขอออกความเห็น ไม่อยากร่วมกรรมกับใคร ใครจะยังไง? อยู่ที่ปัญญาของแต่ละคน
     
  13. mccimai

    mccimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +119
    เรื่องนี้ มีผู้ตัดสินใจ 2 คนนะคือ
    คุณ ในฐานะของคนเป็นพ่อ
    แฟนคุณ ในฐานะของคนเป็นแม่


    ถ้าทั้งสองคนตัดสินใจร่วมกันว่าจะเอาเด็กไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี อาจจะเรียนไม่จบ แต่สามารถดรอปไว้ก่อนได้ ปัญหาชีวิตแก้ไขได้ เรื่องที่แม่จะฆ่าตัวตาย ก็บอกแม่ไปตามตรงนะครับ ว่าจะให้ฆ่าลูกตัวเอง ทำไม่ได้หรอก ซึ่งถ้าคุยกันด้วยเหตุและผล น่าจะดีกว่า เพราะการทำแท้ง ซึ่งคุณและแฟนคุณ จะจบเรื่องนี้ไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวผู้ชายไม่เสียหายอะไร ถ้าไม่พูดถึงเรื่องเจ้ากรรมนายเวร แต่บาปนั้นจะอยู่ติดตัวคุณทั้งสองไปจนถึงลมหายใจสุดท้าย แล้วคุณคิดว่า คุณจะมีที่ไหนเป็นที่ไปเมื่อตายไปแล้ว ไม่ได้พูดให้ดูเลวร้ายนะ ซึ่งกรรม เป็นผลของการกระทำซึ่งเด็กที่จะมาเกิด ก็สร้างกรรมร่วมกับคุณมา พ่อแม่คุณก็สร้างกรรมร่วมกับคุณมา คุณกับแฟนคุณก็สร้างกรรมร่วมกันมา อยู่ที่คุณจะเลือกสร้างกรรมต่อ โดยการ ฆ่า หรือ ไม่สร้างต่อปล่อยให้เป็นไปตามกฏของกรรม คือต้องเลี้ยงลูกในขณะที่ยังเรียนไม่จบ ไม่รู้นะแต่โดยความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าไม่มีเรื่องนี้มาคุณก็มีเรื่องอื่นมาเล่นงานคุณแทน มันเป็นกฏของกรรม หนีไม่พ้นหรอก ไม่เจอชาตินี้ ชาติหน้าถ้ายังเกิดอยู่ก็ต้องเจออยู่ดี อยู่ที่จะสร้างกรรมต่อหรือไม่สร้างต่อก็แค่นั้น ตัวอย่างมีให้เห็น ในตำรามากมาย ซึ่งถ้าหนีได้กรรมนั้นก็ยังจะตามไปอยู่ดี

    ไม่ได้ชี้นำนะ อยู่ที่คุณสองคนตัดสินใจ
     
  14. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ครม.อนุมัตินร.ท้องเรียนได้-ลาคลอด

    สธ.เสนอ แก้ทำแท้ง ให้พม.รับ เลี้ยงเด็ก



    ครม.อนุมัติหลักการพ.ร.บ. คุ้มครองอนามัย เจริญพันธุ์ ให้ น.ร.-น.ศ.ที่ท้องสามารถเรียนต่อ หรือขอหยุดไปคลอดลูกแล้วมาเข้าเรียนใหม่ได้ หากหญิงท้องไม่พร้อมไร้ที่อยู่ให้พม.ช่วยจัดการ รวมถึงการหาพ่อ-แม่บุญธรรม กรณีที่แม่วัยเรียนไม่สามารถเลี้ยงดูได้เอง พร้อมให้ขยายความไปถึงบริษัทเอกชน-หน่วยราชการต้องห้ามขัดขวางการลาคลอด รวมทั้งให้ดูแลป้องกันการละเมิดทางเพศในที่ทำงาน หรือส่วนราชการด้วย รมว.สธ.เผยหากกฎหมายมีผลบังคับใช้จะตั้งกก.คุ้มครองอนามัยเจริญพันธุ์แห่งชาติ มีนายกฯเป็นประธาน ดูแลและให้คำปรึกษาปัญหาทางเพศอย่างเหมาะสม

    เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. น.พ.มารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า ครม.อนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอร่างพ.ร.บ.คุ้มครองอนามัยเจริญพันธุ์ พ.ศ... เพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสุขภาพทางเพศและสุขภาพของระบบเจริญพันธุ์ ของหญิง เด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาสในสังคมไทย สาระสำคัญของพ.ร.บ.ดังกล่าวเพื่อมีสถานบริการสาธารณสุข สถานศึกษา มีการพัฒนาครู บุคลากรทางการศึกษาให้คำปรึกษา อนามัยด้านการเจริญพันธุ์ สอนเรื่องเพศศึกษา นอกจากนี้ยังมีหลักเกณฑ์ วิธีการที่หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา นายจ้าง เอกชน ที่ต้องปฏิบัติต่อหญิงมีครรภ์ ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลูกจ้างที่ปฏิบัติงาน หรืออยู่ระหว่างศึกษาในสถานศึกษา ซึ่งหมายถึงนักเรียน เยาวชน ที่อาจเกิดตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ที่จะต้องขอลาหยุดเพื่อไปตั้งครรภ์จนคลอดแล้วสามารถกลับมาเรียนหนังสือได้อีก

    "เนื่องจากสังคมไทยประสบปัญหาจากกรณีที่พบซากทารก 2,002 ซากจึงต้องมีการเสนอ ร่างพ.ร.บ.นี้ขึ้นมา ซึ่งกระทรวงต่างๆ อาทิ ต่างประเทศ พม. แรงงาน ก.พ. ศึกษาธิการ ต่างแสดง ความเห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว" น.พ. มารุต กล่าว

    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า หากผ่านขั้นตอนตามกฎหมายแล้ว และร่างพ.ร.บ. มีผลบังคับใช้ ก็จะตั้งคณะกรรม การคุ้มครองอนามัยเจริญพันธุ์แห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เนื้อหาสำคัญคือคุ้มครองผู้ที่อยู่ในวัยเจริญพันธ์ทุกเพศ และหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต้องให้บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางเพศอย่างเหมาะสม โดยต้องให้ข้อมูลและให้บริการผู้ที่มาขอรับคำปรึก ษาทุกคน และต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ หากเปิดเผยข้อมูลจะมีโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท นอกจากนี้ยังกำหนดให้ผู้ที่อยู่ในวัยเรียนหากเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและมีความประสงค์ที่จะศึกษาต่อ ทางสถานศึกษาต้องอนุญาตให้ศึกษาต่อ และหลังจากที่คลอดบุตรแล้วสามารถกลับไปศึกษาต่อได้ด้วย

    "ร่าง พ.ร.บ.นี้ไม่ได้ต้องการสนับสนุนให้เกิดการท้องในวัยเรียน แต่เพื่อคุ้มครองหากเกิดตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในระหว่างเรียนให้สามารถเรียนต่อไปได้ และในกฎหมายยังกำหนดด้วยว่าหากผู้ที่ตั้งครรภ์ประสงค์ที่จะเรียนต่อแล้วไม่มีที่พัก ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะให้ความช่วยเหลือจัดหาที่พักฉุกเฉิน และหากไม่สามารถรับเลี้ยงดูบุตรได้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯก็จะหาพ่อแม่ บุญธรรมให้" รมว.สาธารณสุข กล่าว

    นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวยังกำหนดให้กระทรวงศึกษาธิการ จัดสอนเรื่องเพศศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละช่วงชั้น ที่สำคัญร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ยังคุ้มครองการถูกคุกคามทางเพศในสถานที่ทำงาน โดยหากผู้บังคับบัญชาหน่วยงานของรัฐหรือนายจ้างภาคเอกชนปล่อยให้มีการกระทำใดๆ อันเป็นการล่วงเกิน คุกคาม หรือก่อความเดือดร้อนทางเพศต่อผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลูกจ้าง จะเข้าข่ายไม่ให้ความร่วมมือ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท ขณะเดียวกันยังกำหนดบทลงโทษหากหน่วยงานใดก็ตามที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่จะตั้งขึ้นตามร่างพ.ร.บ.นี้จะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับรายละเอียดมาตราที่สำคัญของร่างพ.ร.บ.คุ้มครองอนามัยการเจริญพันธุ์ ประกอบด้วย มาตรา 7 ให้สถานศึกษาจัดสอนเพศศึกษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับวุฒิภาวะและวัยของผู้เรียน โดยคำแนะนำของกรรมการ มาตรา 9 ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานของรัฐ หรือนายจ้างภาคเอกชนที่มีหญิงมีครรภ์ปฏิบัติงานต้องไม่กระทำการอันใดอันเป็นการขัดขวางการลาคลอดตามระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งต้องส่งเสริมให้หญิงซึ่งเป็นมารดาได้เลี้ยงดูบุตรด้วยน้ำนมมารดาอย่างต่อเนื่อง ตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
     
  15. item

    item Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +86
    เรียนไม่จบไม่ใช่ประเด็นใหญ่
    ผมกว่าการที่เราจะทำให้เขาไม่ได้เกิดมาเป็นลูกเรา
    สำคัญกว่าเรื่องเรียนเยอะเลยครับ
     
  16. ไก่ป่า

    ไก่ป่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +71
    ทำแท้งกรรมหนักมากครับ และผลกรรมจะตามมาเร็วมาก
    อย่าทำแท้งนะครับ
     
  17. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,676
    ค่าพลัง:
    +2,294
    อย่าเอาออกเลยค่ะ บาปกรรมมหันค่ะ เดือนที่แล้วเรานำของไปบริจาคให้เด็กอ่อนปากเกร็ดนนทบุรี ถ้าคุณไม่พร้อม ถ้าคุณไม่รังเกียจที่นี่ นำลูกของคุณไปฝากเลี้ยงไว้ที่นี่ก็ได้นะค่ะ เค้าให้ทำสัญญาไว้ได้ค่ะ ที่สำคัญคือเลี้ยงฟรีค่ะ ดีกว่าไปเอาเด็กออกนะค่ะ เป็นบาปกรรมมหันต์ค่ะ ทำอะไรก็ไม่ขึ้นค่ะ คิดดูดีๆนะค่ะ เราแค่เสนอความคิดให้คุณค่ะ
     
  18. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    อย่าทำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  19. หงษ์

    หงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +821
    กว่าจะได้เกิดเป็นมนุษย์เหมือนเต่าลอยอยู่กลางทะเล แล้วมาโผล่ที่ห่วงยาง คิดดูสิค่ะ การได้มาเกิดเป็นมนุษย์แสดงว่าต้องมีบุญและต้องสะสมบุญมามากขนาดไหน เมื่อทำแล้วต้องกล้ารับและต้องรับผิดชอบ อย่าพึ่งกลัวในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ปัญหาทุกอย่างมีทางออกค่ะ เวลาเท่านั้นจะทำให้คุณพ่อ คุณแม่ ของคุณเข้าใจ เผลอๆ เห็นหน้าหลาน สิ่งที่ท่านรู้สึกตอนนี้คงจะไม่มีแน่นอนค่ะ เชื่อเถอะค่ะ แม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่น ยังรักลูกเลยค่ะ แ้ม้จะลำบาก ก็ยังหาอาหารมาให้ลูกเลยเลี้ยงจนลูกโต คุณละค่ะเป็นผู้มีปัญญา มีการศึกษาสูง เมื่อมีชีวิตคำว่าโอกาสย่อมมีแน่นอนค่ะ บางคนที่เขายากจน ยังมีลูกหลายคน ก็ยังเลี้ยงได้ บางคนมีลูกพิการ เขาก็เลี้ยง และรักลูกเลยค่ะ เคยทำงานอยู่ที่หนึ่ง พอดีเด็กในร้านท้อง อายุ15เองค่ะ เจ้าของร้านก็จะให้ดิฉันพาน้องเขาไปทำแท้ง เชื่อไหมค่ะ ดิฉันกล้ายอมบาปกรรม โกหกว่าป้าเสียชีวิต ไม่ไปทำงานเป็นอาทิตย์ และก็โทรไปขอร้องน้องเขาว่าให้เอาไว้ น้องเขาบอกว่าแม่ต้องฆ่าตายแน่ ก็เลยบอกเขาว่าอย่ากลัวในสิ่งที่เราทำ พ่อ แม่ ยังไงก็คือพ่อ แม่ เขาอาจจะโกรธ แต่เห็นหลาน เชื่อเถอะทุกอย่างจะเปลี่ยน บาปนะ ถ้าทำบาปมากด้วย น้องเขาเลยไม่ทำยอมเผชิญกับสิ่งที่จะตามมา ปรากฏว่า ก็เหมือนอย่างที่บอก พอเห็นหน้าหลานก็ใจอ่อน ตอนนี้มีั2คนแล้วค่ะ สู้ สู้ค่ะ ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีค่ะ ถ้าเราอยู่กับความจริงค่ะ จะเป็นกำลังใจให้นะค่ะ อย่ากลัวกับอะไรที่ยังไม่เกิด จงกลัวกับสิ่งที่คิดจะทำ เพราะเมื่อทำแล้วไม่มีโอกาสแก้ไขอะไรได้อีกนะค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  20. pum_anatta

    pum_anatta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +805
    คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนดิฉันมีลูกตั้งแต่อายุ 20 เรียนยังไม่ทันจบ แต่ฝ่ายสามีมีความรับผิดชอบ หางานทำเลี้ยงดูครอบครัว ไม่ต้องพึ่งทางบ้านเลย ก็อยู่กันมาได้
    ตอนนี้ลูก 6 คน โตกันเกือบหมดแล้ว มีการศึกษาที่ดี กิจการที่บ้านไปได้ดี มีความสุขกันดี

    ผู้หญิงอีกคนนึงท้องตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือ ซ้ำฝ่ายชายยังไม่ยอมรับ ตัวเองก็เรียนต่อไปจนใกล้คลอดจึงดรอปไว้
    พอคลอดแล้วกลับไปเรียน ฝากให้แม่ช่วยดูแลตอนไปเรียน เรียนจบหางานทำเอง แถมยังเรียนต่อระดับปริญญาโทด้วย
    ตอนนี้เลี้ยงลูกจนโตมาด้วยกัน รักกันมาก เข้ากันได้ดีเหมือนเป็นเพื่อนกับลูกเลย มีความสุขทุกวัน
    จากตอนแรกที่พ่อแม่ฝ่ายหญิงต้องอับอาย ตอนนี้กลายเป็นว่าภูมิใจในตัวลูกสาวมากที่สามารถมีทุกอย่างได้จากความไม่พร้อม
    เรื่องของผู้หญิงคนนี้ได้ลงหนังสือด้วย แต่หามาอ้างอิงไม่ได้ต้องขออภัย(หาไม่เจอ)

    เรื่องของพวกเค้าเหล่านี้ ไม่ใช่ละคร !! ไม่ได้ทำไปเพราะอยากให้คนอื่นมองว่าเป็นคนมีคุณธรรม แต่ยอมสู้เพราะความรักตัวเอง(จริงๆ) รักลูกของตัวเอง
    ไม่ใช่คนดีมากกกกขนาดไม่กล้าทำร้ายใคร แต่เป็นคนธรรมดาที่จะไม่ยอมทำร้ายตัวเอง(ด้วยการทำร้ายชีวิตของลูกตัวเอง)

    เดี๋ยวนี้มีศูนย์สงเคราะห์หรือบ้านพักฉุกเฉินสำหรับกรณีแบบนี้มากมาย ลองหาดูก็ได้นะคะ
    ถ้ากลัวว่าคุณแม่จะทำร้ายตัวเองจริงๆก็ทำเป็นเออออไป หรือทำเฉยๆไว้ก่อน บอกไปว่าเดี๋ยวจัดการเอง ไม่ต้องห่วง ไม่ทำให้พ่อแม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ(ไปมากกว่านี้)หรอก

    หรือไม่ก็ลองถามพวกท่านดูว่า ถ้าสมมติว่าเด็กคนนี้คือลูกในท้องของท่าน ถ้าเกิดท่านตั้งท้องวัยเรียน แล้วเด็กคนนี้เกิดมาโตมาจะเป็นตัวคุณที่ยืนอยู่ต่อหน้าเนี่ย ท่านยังจะกล้าทำมั้ย?

    มันไม่เกี่ยวกับว่าตอนนี้เด็กมีรูปร่างยังไง มีอะไรๆเกิดขึ้นมาบ้างแล้ว สำคัญที่สุดคือ เด็กนี่คือคนๆนึง คือลูกของคุณ เลือดเนื้อของคุณ มีความรู้สึกร้อนหนาว เจ็บปวด หรือสุขสบาย อบอุ่นได้เหมือนๆกับคุณ

    มีความรู้สึกต่างๆได้ เหมือนคุณ !!




    ps. เห็นใจคุณ จขกท. นะคะ ขอให้แก้ปัญหาได้โดยเร็วและมีความสุขทุกๆฝ่ายค่ะ
    บาปแม้เล็กน้อยก็อย่าไปทำ บาปใหญ่ๆยิ่งไม่สมควรทำอย่างยิ่งเลยนะคะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังค่ะ เตือนด้วยความหวังดีจริงๆค่ะ อย่าได้คิดเป็นอื่นเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...