นักปฏิบัติ ตอบกันทีคับผม

คุณลุงมหา ถ้าต้องการเลี่ยนเปลี่ยนการสนทนาธรรม
ผมยินดีสนทนาด้วย

หากเพียงแต่สนทนา เพื่อเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของตัวเอง
และเอาแต่ความคิดตัวเองเท่านั้น ไม่ฟังใคร
คงไม่มีประโยชน์อะไร เพราะคงมีแต่ถกเถียงกันเปล่า...

เรื่องหลวงปู่มหาบัว พิจารณาให้ดีรอบคอบ
หลวงตาฯท่านบรรลุธรรม ตั้งแต่ปี๒๔๙๓
ทำไมท่านฯไม่ประกาศตนว่า ท่านบรรลุธรรม
เพราะไม่มีเหตุอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น...
เนื่องมาจากเหตุอริยะประเพณีพระป่า ท่านเคารพพ่อแม่ครูจารย์

ในเมื่อยังมีทั้งหลวงปู่เทศน์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่ฝั้น ท่านพ่อลี ฯลฯ ยังมีชีวิตอยู่
ท่านฯเคารพในวัตรปฏิบัติ และเคารพอาวุโส ที่หลวงปู่มั่นพาดำเนินมา
ไม่มีเหตุที่จะต้องออกมาตะโกนขันแข่งอวดดัง
ไก่ป่าขันตัวเดียว ไม่ขันแข่งหัวหน้าฝูง

ทำไมท่านฯ ถึงประกาศตนว่า ท่านบรรลุธรรม ช่วงหาทองคำช่วยชาติ
เพราะมีเหตุที่สมควรที่ท่านฯพิจารณาแล้ว ถ้าท่านฯไม่ทำแล้วใครจะทำ
อีกทั้งหลวงตาฯ ขณะนี้ ท่านฯเป็นเสาหลักพระกรรมฐาน
เป็นพ่อแม่ครูจารย์ที่อาวุโสเป็นที่เคารพยกย่องมากที่สุด
ท่านฯพิจารณาถึงเหตุ เพราะเห็นว่า ถึงเวลาอันสมควรแล้วถึงได้ประกาศฯ
ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นหวงตาไม่เคยประกาศ
รอจนกระทั่ง...ช่วงหาทองคำช่วยชาติ ท่านจึงทำเช่นนั้น

แล้วทำไม...หลวงปู่ลี หลวงปู่บุญมี หลวงพ่อวันชัย หลวงพ่อจันเรียน
ทำไม...ถึงไม่ประกาศตนว่า..บรรลุธรรม กระทำตนเลียนแบบหลวงตาฯ
เพราะเหตุใด จึงมีแต่หลวงตาฯประกาศตนบรรลุธรรม
ลองทบทวน...พิจารณาดูใหม่

การประพฤติและการกระทำกิริยาต่างๆ ของพ่อแม่ครูจารย์
ไม่ใช่จะเลียนแบบได้ทุกเรื่อง...เพราะต่างนิสัยวาสนากัน
หลวงปู่เจี๊ยะ...หลวงพ่อสงบ ท่านไม่ให้เลียนแบบการประพฤติและกิริยาต่างๆ ของท่าน
ท่านฯ ให้เอาแต่ธรรมของท่านฯ เท่านั้น

หากเป็นนักปฏิบัติ ลูกศิษย์มีครู พิจารณาดูครับ

 

ผมขอ ออกความคิดเห็นบ้างนะครับ การปฎิบัติกรรมฐานเป็นไปเพื่อตัดอาสวะในความเข้าใจของผมเองนั้นก็คือสำนึกหรือที่เรียกกันว่าจิตสำนึก จิตที่มีมาแต่เกิดนั้นไร้ซึ่งสำนึกไม่มีอาการนึกคิดใดๆแต่ด้วยสภาพแวดล้อมความผูกพันตั้งแต่เกิดนั้นสร้างสำนึกให้เราทั้งหลายมีหลายสิ่งที่เรายึดติดโดยการบอก การสอน โดยที่เราไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าก็ยังเชื่อ หากแต่ว่าภพมนุษย์นั้นเป็นสถานที่ ที่ไม่เหมือนภพอื่นๆ ก็คือสามารถทำให้ถึงพระนิพพานได้ หรือ ที่สุดแห่งกองทุกข์ กายของเราไม่มีตัวตน จิตของเราไม่มีตัวตน แต่จะหลุดพ้นได้ต้องพึ่งจิตเป็นทางเดียวเท่านั้น การปฎิบัติไปถึงขั้นไหนสำหรับผมนั้นไม่มีความสำคัญครับ เพราะถึงขั้นไหนก็กลับมาเกิดเหมือนเดิม ผมกลัวแล้วครับความทุกข์ ผู้สร้างบ้านนั้นก็คือทางที่เราเดินนั้นแหละครับ(ในความคิดของผม)เพราะจิตของเรายังหยาบอยู่เลยไม่เห็นและยังจะรู้สึกมึนหัว เวียนหัว ในเรื่องที่เรารู้สึก งงๆ อวิชชา เกิดจากจิต ดับก็ดับที่จิต หากจิตมีตัวตนจริงให้เป็นเช่นที่เราต้องการได้ไหมครับ จิตนั้นล่ะครับผู้สร้างบ้าน

 

ปัญญา =หายโง่
ความรู้ =โง่อยู่
รูปฌาน =รู้สึก
อรูปฌาน =เหมือนไม่รู้สึก

 

อุ๊ย เผลอเข้ามาอ่านกระทู้นี้ แบบว่าไส้อั่วไม่ get เลยจ๊ะ เกือบต้องแขวนไส้ตัวเองแล้วซิ ไม่น่าเข้ามาเยย

 

ปัญญาและความรู้ ที่ว่านี่ มันหมายถึงทางโลกหรือทางธรรมละ เพราะคำตอบมันไม่เหมือนกัน

รูปฌาณ คือการ เข้าฌาณโดยพิจารณารูปธรรมเป็นอารมณ์


อรูปฌาณ คือการเข้าฌาณโดยพิจารณานามธรรมเป็นอารมณ์

เอวัง