ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เผยจีนผลิตขีปนาวุธ"จมเรือบรรทุกเครื่องบิน"ได้แล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    หนังสือพิมพ์"อาซาฮี ชิมบุน"ของญี่ปุ่น รายงานเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ว่า พลเรือเอกโรเบิร์ต วิลลาร์ด ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐประจำภูมิภาคแปซิฟิกเปิดเผยว่า จีนกำลังพัฒนาขีปนาวุธซึ่งมีศักยภาพสามารถจมเรือบรรทุกเครื่องบินได้ และจะเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นมหาอำนาจทางทะเลของสหรัฐ โดยจรวดดังกล่าวมีชื่อว่า ดอง เฟ็ง 21D มีสมรรถภาพการโจมตีได้อย่างแม่นยำ และถูกสหรัฐมองว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในการขัดขวางเครื่องบินสหรัฐและเรือไม่ให้เข้าไปในบริเวณน่านฟ้าแถบจีนด้วย

    รายงานระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของจีนที่ต้องการจะผงาดเป็นมหาอำนาจทางทหาร สามารถปล่อยยิงจากบกไปสู่ท้องทะเลด้วยความแม่นยำอย่างสูง และสามารถรอดระบบป้องกันต่าง ๆ หรือแม้แต่ระบบป้องกันของเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่อยู่ภายในรัศมีมากกว่า 900 ไมล์ โดยจีนมีความต้องการจะขยายอิทธิพลทางทหารของตนในพื้นที่ทะเลเอเชีย รวมทั้งอาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการเข้าแทรกแซงสถานการณ์จีนโจมตีไต้หวัน หรือวิกฤตนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี

    นอกจากนี้ ในปีหน้า จีน ยังมีแผนจะบรรลุการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของประเทศในปีหน้า ซึ่งเร็วกว่าที่สหรัฐคาดการณ์ไว้ด้วย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หิมะป่วนสหรัฐลามข้ามพรมแดนถล่มแคนาดา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>พายุหิมะกำลังแรง ถล่มพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ จนใช้การไม่ได้เมื่อวันจันทร์ ต้องปิดสนามบินนิวยอร์ก และการขนส่งล่าช้า

    ขณะที่หิมะตกหนักเป็นอุปสรรคต่อแผนการท่องเที่ยวของนักเดินทางหลายคนในเทศกาลวันหยุด และขณะนี้พายุหิมะได้เคลื่อนตัวเข้าสู่แคนาดาแล้ว พายุหิมะที่มีมาตั้งแต่เมื่อเช้าวันอาทิตย์เริ่มเบาบางลงในบ่ายวันจันทร์ ท้องฟ้าเริ่มสดใสขึ้นบ้างทำให้เห็นหิมะและน้ำแข็งปกคลุมทั่วพื้นที่ จนทางหลวงใช้การไม่ได้ รถยนต์ตกค้างจำนวนมากและบริการระบบขนส่งสาธารณะเป็นไปอย่างเชื่องช้า เที่ยวบินมากกว่า 5,000 เที่ยวถูกยกเลิก ขณะที่ กระแสลมแรงความเร็ว 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถล่มหลายพื้นที่จากนอร์ท แคโรไลนา ถึงรัฐเมน

    อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติรายงานว่า พายุหิมะเคลื่อนตัวไปทางเหนือ มุ่งสู่แคนาดา ทำให้เกิดหิมะและลมแรงเช่นเดียวกับทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ แม้พายุจะเคลื่อนตัวออกมาแล้ว แต่ระบบขนส่งในใจกลางนครนิวยอร์กยังคงเป็นอัมพาตในช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดของ ทุกปี

    เจ้าหน้าที่ทางตะวันออกของแคนาดากล่าวว่า พายุทำให้หิมะตกหนักมาก ต้องยกเลิกเที่ยวบินระหว่างเฟรเดอริคตันและมองก์ตัน ขณะที่บ้านเรือนราว 40,000 หลัง ประสบปัญหาไฟดับ

    ด้านอัยการรัสเซีย สอบสวนสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ทำให้ประชาชนหลายพันคนติดค้างอยู่ที่สนามบินที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งในกรุงมอสโกได้อย่างไร ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องสิทธิของผู้โดยสาร ขณะที่ ผู้โดยสารที่โกรธแค้นจัดการประท้วงความโกลาหลดังกล่าว ทั้งนี้ สภาพอากาศเยือกแข็ง และไฟฟ้าดับทำให้เที่ยวบินกว่า 200 เที่ยวล่าช้าที่สนามบินโดโมเดโดโว และเชเรเมตเยโว เมื่อ 3 วันที่แล้ว ผู้โดยสารประท้วงบริเวณพื้นที่จุดตรวจความปลอดภัย ส่วนผู้โดยสารรถไฟ เดินทางถึงภาคใต้ของฝรั่งเศสแล้ว หลังจากขบวนรถไฟ ดีเลย์ 24 ชั่วโมง.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. pangbualun

    pangbualun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2010
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +285
    เขาหารู้ไม่ว่ากำลังก่อกรรมหนัก สงสารแท้ๆสัตว์ร่วมโลกด้วยกันก็รังแกกัน น่าสงสาร
     
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือน30ธ.ค.-2ม.ค. อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก2-4องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2553 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่เสริม ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 30 ธ.ค.- 2 ม.ค. นี้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิจะลดลงได้อีก 2-4 องศา และบริเวณยอดดอยและยอดภูในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

    สำหรับภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และฝนตกหนักได้บางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลม ในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ
    อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งได้ในบางพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งได้ในบางพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
    อ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น และมีหมอกบางในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผู้รักษาศีลคือผู้รักษาตน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    คำว่า "ศีล" ในที่นี้ ผู้เขียนหมายรวมไปถึงกรรมบถ ๑๐ ด้วย เพราะในกรรมบถ ๑๐ นั้น มีทั้งศีลและธรรมรวมกัน นี่ว่าเฉพาะที่รู้ๆ แล้ว ไม่ว่าศีล ๕ ศีล ๘ หรืออุโบสถศีล ท่านก็เรียกว่า "ธรรม" เหมือนกันหมด

    เหตุใดผู้รักษาศีลจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้รักตน ?

    ประเด็นนี้ เป็นจุดที่น่าให้ความสนใจมาก เพราะถ้าใครเข้าใจประเด็นนี้ได้อย่างถูกต้องแล้ว เขาจะสนใจศีลและหมั่นรักษาศีลไปตามลำดับขั้น ตั้งแต่ศีล ๕ อุโบสถศีล จนถึงกรรมบท ๑๐ ซึ่งมีครบทั้งกายวาจาและใจเลย เรามาดูกันง่ายๆ ไม่ต้องไปใช้วิชาคำนวณคำเนินอะไรให้มันเมื่อยมือ หรือเมื่อยสมองหรอก เอากันที่ศีล ๕ ก่อน

    การไม่ฆ่าคน เป็นเหตุให้เราไม่มีเวร ไม่ต้องคอยหลบซ่อนตัว กลัวเขาจะมาฆ่าตอบ หรือญาติมิตรของผู้ถูกฆ่าจะมาฆ่าตอบ จะไปไหน ? จะกินจะนอนมันก็สบายไม่ต้องคอยหวาดระแวงภัย

    การไม่ลักขโมยของคนอื่น ก็เป็นเหตุให้ไม่ต้องมีเรื่องฟ้องร้องขึ้นโรงศาล หรือถูกใส่ความเพราะความเป็นคนหัวขโมย ไม่ต้องถูกจับใส่คุกเพราะเหตุอทินนาทาน

    การไม่เป็นคนเจ้าชู้ประตูดิน ไม่เป็นคนเที่ยวสำส่อนไม่ว่าผัวเขาหรือเมียใครไชไม่เลือก ก็จะไม่ต้องคอยระวังว่าผัวหรือเมียเขาจะมาฆ่าแกง เพราะเหตุว่าไปแย่งหรือล่วงเกินของรักของหวงของเขา อันเป็นเหตุให้ไม่มีเรื่อง "ศึกในมุ้ง" ให้ขายหน้าไปทั่วแผ่นดิน และครอบครัวก็ไม่ปกติสุขถึงต้องฆ่ากันตายด้วย

    การไม่พูดปด ก็จะไม่เป็นเหตุให้ต้องถูกใส่ความหรือถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาท ทำให้คำพูดมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ น่าเคารพ เป็นที่ไว้วางใจของคนทั่วไปในเรื่องคำพูด

    การไม่ดื่มน้ำนรก นอกจากจะไม่เป็นต้นเหตุให้ก่อกรรมทำชั่วต่างๆ ได้มากมายแล้ว ยังไม่เป็นเหตุให้บั่นทอนกำลังกาย และกำลังสติปัญญาของตนอีกด้วย แถมยังจะปลอดโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นมาจากการเป็นคนขี้เหล้าได้อีกมากมายด้วย

    ท่านยังพอจะมองเห็นหรือยังว่า ศีลแต่ละข้อนั้นนอกจากจะไม่ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน อันเป็นทางไหลมาของเวรกรรมต่างๆ แล้ว ตัวเราเองก็จะมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุข ปิดภัยและเวรต่างๆ เสียได้อย่างสิ้นเชิง ที่จะแสดงออกมาทางกายและวาจา ด้วยเหตุดังกล่าวมา ผู้ที่รักษาศีลจึงได้ชื่อว่ารักตน

    นี่เป็นอานิสงส์ของศีล ๕ เรามาดูอานิสงส์ของศีล ๘ หรืออุโบสถศีลกันสักหน่อยเป็นไร ?

    ความจริงศีล ๘ นี้ สำหรับชาวบ้านก็ไม่มีความจำเป็นอะไรมากนักที่จะต้องรักษา โดยเฉพาะคนที่ยังอยู่ใน "วัยงาน" คือ ยังต้องประกอบสัมมาชีพเลี้ยงตัว เลี้ยงครอบครัวอยู่ โดยเฉพาะก็คนที่ยังไม่หมดในเรื่องของเพศหรือกามคุณ ถ้าผัวหรือเมียยังหนุ่มหรือสาวอยู่ ใครขืนรักษาศีล ๘ เป็นประจำ ถ้าเมียหรือผัวไม่มีชู้ และยังอยู่ด้วยกันได้ ก็ต้องจัดว่าเป็นสิ่งที่ผิดปกติไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ยกเว้นแต่ท่านผู้นั้นจะสำเร็จธรรมขั้นสูง คือ เป็นพระอนาคามีบุคคลไปแล้วเท่านั้น

    แต่สำหรับคน "วัยงอม" คือ วัยที่ปลดระวางแล้ว ก็สมควรที่จะรักษาศีล ๘ ได้แล้ว เพราะจะเป็นเหตุให้อายุยืนยาว ถ้างดเว้นเรื่องการกินให้น้อยลง หรือกินให้ถูกต้องตามวัย และงดเว้นกามกิจเสียได้ แต่ว่าศีลอุโบสถนี้ มีความสำคัญและจำเป็นแก่ทุกคนในแง่ของการพัฒนาชีวิต ถ้ามีโอกาสจะรักษาได้แม้นานๆ ครั้งก็ยังดี เพราะอุโบสถศีลเป็น "วัตร" ชนิดหนึ่งที่ช่วยฝึกหัดขัดเกลานิสัยส่วนเกินได้อย่างดี เมื่อเราได้รักษาศีล ๕ แล้ว ลองรักษาอุโบสถศีลแล้ว ก็น่าจะชิมลองรักษา "กรรมบถ ๑๐" ดูบ้าง ว่ามันจะมี รสชาติเป็นอย่างไร ? มันจะยากง่ายแค่ไหน ?

    ที่ผู้เขียนให้ความสนใจแก่กรรมบถ ก็เพราะในกรรมบถนั้นมีกระบวนการ "พัฒนาชีวิตครบวงจร" กล่าวคือ มีการพัฒนากาย วาจาและใจไปพร้อมกัน ไม่ต้องไปแยกทำทีละหนคนละคราว

    ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ผู้อ่านบางท่านคงเห็นแล้วว่าการล่วงละเมิดศีลนั้น มิได้จะทำให้คนอื่นหรือสัตว์อื่นเดือดร้อนเท่านั้น แต่ตัวเองนั่นแหละเดือดร้อนก่อน เมื่อตัวเองสร้างเหตุด้วยการนำเวรภัยมาสู่ตนเอง หรือหาสิ่งมึนเมามาประทุษร้ายสติสัมปชัญญะของตนเองให้เกิดความเดือดร้อนเช่นนี้แล้ว คนที่ล่วงศีลจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่รักตนเองได้อย่างไรกัน ? เพราะโดยปกติคนทั่วไป มักทำอะไรๆ ก็เพื่อจะให้ตัวเราสบายและสนุก ไม่เคยคิดถึงหัวอกของคนอื่นว่าเขาจะระทมขมขื่น หรือปวดร้าวหัวใจสักเพียงไหน ? ถ้าไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็รู้ได้ยาก

    นี่ว่าเฉพาะเหตุผลในปัจจุบัน ยังไม่ได้ว่าถึงผลแห่งกรรมที่ข้ามภพชาติ ที่เราจะต้องไปเสวยอีกนับไม่ถ้วนและยาวนาน ซึ่งมีอยู่แน่ๆ แต่เราไม่รู้ เพราะเราไม่มีญาณพิเศษอย่างพระพุทธเจ้า ด้วยเหตุดังกล่าวมา การรักษาศีลนอกจากจะไม่เป็นการประทุษร้ายตนเองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมแล้ว ยังจะได้ชื่อว่าเป็นผู้รักตนเองและรักผู้อื่น (คือไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเพราะตน) อีกด้วย

    ดังนั้น ผู้รักตนจึงควรรักษาศีล ๕ อุโบสถศีล กรรมบถ ๑๐ ตลอดจนการเจริญธรรมต่างๆ มีสติ สมาธิ และวิปัสสนา เป็นต้น อยู่เป็นประจำเถิด แล้วท่านจะพบกับความประเสริฐทั้งในชีวิตนี้และชีวิตหน้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย



    ที่มา
    http://www.dhammajak.net/
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ความขัดแย้งของสองมหาอำนาจ"จีนกับสหรัฐ"

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สหรัฐอเมริกาเผยจีนสร้างขีปนาวุธทำลายเรือบรรทุกเครื่องบินได้สำเร็จแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2010
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>10 ข่าวใหญ่แห่งปี 2553</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>1.ปราบม็อบเสื้อแดง

    ข่าวแห่งปี 2553 ไม่มีข่าวใดใหญ่ไปกว่าข่าวการชุมนุมของคนเสื้อแดง แล้วถูกเจ้าหน้าที่เข้าสลายจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 90 ศพ บาดเจ็บอีก 2 พันกว่าคน

    ขนาดไทม์ นิตยสารยักษ์ใหญ่ระดับโลก ยังยกเป็น 1 ใน 10 ข่าวแห่งปี

    การชุมนุมของคนเสื้อแดง ในนามกลุ่มนปช. เริ่มขึ้นช่วงกลางเดือนมี.ค. มวลชนจากทั่วประเทศมาชุมนุมใหญ่ที่สะพานผ่านฟ้า ถ.ราชดำเนิน ด้วยเงื่อนไขขับไล่อำมาตย์ และให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ กลายเป็นม็อบใหญ่กดดันรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างทรงพลัง

    คนเสื้อแดงเพิ่มมาตรการกดดันด้วยการแยกม็อบ ไปชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ ตั้ง 2 เวทีพร้อมๆ กัน รัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉินวันที่ 10 เม.ย. ศอฉ.ปฏิบัติการ 'ขอพื้นที่คืน' บริเวณถ.ราชดำเนิน เกิดปะทะกันที่แยกคอกวัว ผู้ชุมนุมถูกยิงด้วยอาวุธสงครามเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้ง นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น ขณะที่ฝ่ายศอฉ.สูญเสียนายทหารระดับพ.อ. และกำลังพลจำนวนหนึ่ง แต่ก่อนสถานการณ์จะเลวร้ายหนักทั้ง 2 ฝ่ายยอมเจรจายุติการเผชิญหน้า

    ผ่านเหตุการณ์ 10 เม.ย. รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงทั้งในและนอกประเทศ คนเสื้อแดงเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน โดยสลายม็อบที่ราชดำเนินไปรวมเป็นหนึ่งเดียวที่ราชประสงค์ ระหว่างนั้นฝ่ายรัฐบาลและแกนนำนปช.เจรจากันเป็นระยะๆ มีแนวโน้มในทางที่ดี แต่แล้ววันที่ 19 พ.ค. ศอฉ.ก็ส่งกำลังเข้าปฏิบัติการ 'กระชับพื้นที่' ราชประสงค์ ใช้อาวุธหนัก ทั้งรถหุ้มเกราะ อาวุธสงคราม และสไนเปอร์ มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมกับเหตุการณ์ 10 เม.ย.แล้วมากถึงกว่า 90 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน รวมทั้งนายฟาบิโอ โปเลงกี นักข่าวชาวอิตาลี และอาสาพยาบาล หน่วยกู้ชีพอีก 6 ศพในเขตอภัยทาน วัดปทุมวนาราม สุดท้ายเพื่อไม่ให้มวลชนต้องสูญเสียไปมากกว่านี้ แกนนำยอมยุติการชุมนุมเข้ามอบตัว แต่ถูกดำเนินคดีข้อหาก่อการร้าย ถูกจับเข้าเรือนจำจนถึงทุกวันนี้ และยังมีผู้ชุมนุม ผู้บริสุทธิ์อีกจำนวนมากในหลายจังหวัดถูกจับกุม ไล่ล่า เล่นงาน เป็นประเด็นปัญหารุนแรงยืดเยื้อมาถึงปัจจุบัน

    การปราบคนเสื้อแดงกลายเป็นตราบาปของนายอภิสิทธิ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดยากที่จะลบเลือนได้


    2.คดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุฯ

    ความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบียกลับมาเป็นประเด็นใหญ่อีกครั้ง เมื่อต้นเดือนม.ค. 2553 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สั่งฟ้องพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 และพวกรวม 5 คน คดีร่วมกันฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจเชื้อพระวงศ์ซาอุฯ ที่หายตัวไปนานเกือบ 20 ปี ก่อนคดีหมดอายุความเพียง 1 เดือน แม้พล.ต.ท.สมคิดจะตกเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรงเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ก.ตร.กลับแต่งตั้งพล.ต.ท.สมคิด ขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับผู้มีอำนาจในรัฐบาล จนทางการซาอุฯ แสดงความไม่พอใจ นายนาบิล เอช อัชรี อุปทูตประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ รวมทั้งเข้าพบนายกฯ รองนายกฯ ผบ.ตร. และกมธ.ในสภา แต่ไม่มีความคืบหน้าและจริงใจจากรัฐบาลไทย กระทั่งทางการซาอุฯ ขู่ไม่ออกวีซ่าให้ชาวไทยมุสลิมไปแสวงบุญที่เมกกะ รัฐบาลไทยถึงรีบกระตือรือร้น

    สุดท้ายทางออกคือให้พล.ต.ท.สมคิดแถลงไม่ขอรับตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร. สถานการณ์ต่างๆ จึงดีขึ้น ซาอุฯ ยอมออกวีซ่าให้คนไทย


    3.แต่งตั้งผบ.ตร.

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในฐานะประธานก.ต.ช. ไม่สามารถแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ได้ หลังจากเล่นงานจน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พ้นจากตำแหน่ง เมื่อเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ต่อที่ประชุม ก.ต.ช.ถึง 2 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เนื่อง จาก ก.ต.ช. ส่วนใหญ่ต้องการให้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบ.ตร. ที่เหมาะสมกว่าทั้งความรู้ ความสามารถ ความยอมรับในองค์กร และยังมีสัญญาณพิเศษ ให้ขึ้นเป็นผบ.ตร.คนใหม่

    นายอภิสิทธิ์เหมือนถูกหักหน้า จึงใช้วิธีแต่งตั้งพล.ต.อ.ปทีปเป็นรักษาการผบ.ตร. โดยไม่สนเสียงส่วนใหญ่ของ ก.ต.ช. และสัญญาณพิเศษ ปล่อยองค์กรสำคัญอย่างตำรวจไร้หัวนานเกือบปี เกิดปัญหาการบริหารงานต่างๆมากมาย วันที่ 9 ส.ค.นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจประชุมก.ต.ช.แต่งตั้งพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1 ขึ้นเป็นผบ.ตร.คนใหม่ โดยไม่รอให้พล.ต.อ.ปทีป นั่งรักษาราชการผบ.ตร.ไปจนถึงเกษียณอายุในเดือนก.ย. เพื่อแก้ปัญหาที่สะสมหมักหมม

    องค์กรตำรวจมีผู้นำตัวจริงมาขับเคลื่อนอย่างถูกทิศถูกทางอีกครั้ง


    4.ฟุตบอลโลก

    มหกรรมกีฬาที่มีชาวติดตามมากที่สุดฟุตบอลโลก ระเบิดแข้งครั้งที่ 19 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 11 มิ.ย.ถึง 11 ก.ค. ถือเป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกจัดขึ้นในดินแดนกาฬทวีป มี 32 ชาติตัวแทนทวีปต่างๆ เข้าร่วม

    เวิลด์คัพ แอฟริกาใต้ มีตัวเก็งหลายทีม อาทิ บราซิล ดีกรีแชมป์ 5 สมัย, อาร์เจนตินา อดีตแชมป์ 2 สมัย, อิตาลี แชมป์เก่าและแชมป์ 4 สมัย, เยอรมัน แชมป์ 3 สมัย, อังกฤษ ทีมขวัญใจคนดู แชมป์ 1 สมัย และสเปน แชมป์ยุโรปล่าสุด

    ทั้ง 32 ทีมโม่แข้งกันจนได้คู่ชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมกระทิงดุ สเปน กับทีมจากแดนกังหัน ฮอลแลนด์ 2 ทีมตัวแทนทวีปยุโรป การแข่งขันเป็นไปอย่างสนุกตลอดเกม ก่อนอันเดรส อิเนียสต้า กองกลางจากบาร์เซโลน่า จะยิงประตูชัย นาที 116 ของช่วงต่อเวลาพิเศษ พาสเปนครองแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกอย่างยิ่งใหญ่ ขณะที่แอฟริกาใต้ก็ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพ


    5.แอนนี่กับฟิล์ม

    เกิดข่าวใหญ่เรียกเสียงฮือฮาจากคนทั้งประเทศรับเดือนก.ย. เมื่อ แอนนี่ บรู๊ค นักแสดงสาวลูกครึ่งไทย-สวิส อุ้มลูกชายหน้าตาน่ารัก วัย 3 เดือน ออกมาประกาศว่าเป็นลูกของ 'ฟิล์ม'รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ซูเปอร์สตาร์วงการบันเทิง ค่ายอาร์เอส โดยอ้างความสัมพันธ์เกิดขึ้นระหว่างเล่นละครเรื่อง 'ปีศาจแสนกล' ด้วยกัน ซึ่งซูเปอร์สตาร์หนุ่มและครอบครัวรับรู้ ยอมรับเด็กทารกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เพราะมาเยี่ยมหลังคลอด และส่งเงินช่วยเหลือเลี้ยงดูจำนวนหนึ่ง

    ขณะที่ฝ่ายซูเปอร์สตาร์หนุ่มออกแถลงยอมรับความสัมพันธ์ แต่ต้องการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อลูก โดยมี 'เฮียฮ้อ'สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ผู้บริหารอาร์เอส และคนในวงการที่ใกล้ชิดออกโรงสนับสนุน พร้อมกับตั้งคำถามและประเด็นย้อนกลับไปยังฝ่ายหญิง ขณะที่ แอนนี่ บรู๊ค ยืนยันไม่ตรวจ เพราะไม่ได้ต้องการให้ฟิล์มรับหรือไม่รับเป็นพ่อของลูกอยู่แล้ว ขอเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง เรียกความสงสารและเห็นใจจากสังคมได้อย่างล้นหลาม ถึงขนาดรัฐมนตรีและองค์กรผู้หญิงต้องเข้ามาช่วยเหลือปกป้อง ทั้งเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ และทางกฎหมาย โดยฟ้องร้องบุคคลที่หมิ่นประมาทให้เสียหาย

    ขณะที่ฟิล์มต้องเก็บตัวเงียบหลังถูกกระแสสังคมเล่นงาน กระทั่งตัดสินใจบวชพระเพื่อชำระจิตใจ เริ่มต้นชีวิตใหม่

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>6.น้ำท่วมใหญ่

    ประเทศไทยเกิดน้ำท่วมใหญ่หนักที่สุดในรอบหลายสิบปี เนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน วันที่ 10 ต.ค.น้ำไหลบ่าทะลักเข้าท่วมนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นน้ำท่วมก็ขยายพื้นที่ไปยังจังหวัดต่างๆเกือบทั่วประเทศ นอกจากน้ำท่วมจะมี ระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว ยังท่วมขังยาวนาน อุทกภัยครั้งนี้หลายจังหวัดรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ถึง 100 ปี สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างประเมินค่าไม่ได้ รัฐบาลโดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ถูก วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง เนื่องจากช่วยเหลือประชาชนล่าช้า และไม่เป็นผู้นำการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง สู้ภาคเอกชนที่เข้าถึงพื้นที่ได้รวดเร็วและทำงานเป็นระบบกว่าไม่ได้

    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย สรุปสถานการณ์มีพื้นที่ประสบภัย รวม 51 จังหวัด 550 อำเภอ 3,894 ตำบล 31,870 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,526,346 ครัวเรือน 8,667,192 คน มีผู้เสียชีวิต 233 ราย


    7.สุสานทารกทำแท้ง

    ประเทศไทยกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบซากทารกจากการทำแท้งในช่องเก็บศพวัดไผ่เงินโชตนาราม ย่านบางคอแหลม กทม. หลายร้อยศพ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ต่อมาขยายผลพบเพิ่มเติมอีกรวมแล้วมากถึง 2,002 ศพ ตำรวจจับกุม นายสุเทพ ชะบางบอน นายสุชิน ภูมี สัปเหร่อและผู้ช่วย สอบสวนรับสารภาพว่า ซากทารกทั้งหมดรับมาจากคลินิกทำแท้งเถื่อนเพื่อเตรียมเผาทำลาย จากนั้นตำรวจติดตามจับกุม น.ส.ลัญฉกร จันทมนัส อายุ 33 ปี ที่คลินิกทำแท้งเถื่อนย่านหนองแขม สอบสวนรับสารภาพว่ารับทำ แท้งเถื่อน ราคา 5 พันถึง 3 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังเป็นคนไปรับซากทารกตามคลินิกทำแท้งต่างๆ ย่านรังสิต มีนบุรี และ ฝั่งธนบุรี ทำมาแล้ว 5-6 ปี โดยนำไปส่งสัปเหร่อวัดไผ่เงิน ได้รับค่าจ้าง 500 บาท แบ่งให้สัปเหร่อ 100 บาท น.ส. สัญฉกรยังอ้างด้วยว่า มีดาราสาวชื่อดัง 2-3 คนเคยทำแท้ง กระทั่งดาราสาวที่ถูกพาดพิงต้องออกมาชี้แจงตอบโต้กลายเป็นข่าวครึก โครม

    กรณีพบสุสานซากทารก 2,002 ศพในวัดครั้งนี้ สร้างความสะเทือนใจแก่สังคมไทยอย่างมาก เพราะได้ชื่อเป็นเมืองพุทธ กลายเป็นกรณีปัญหาที่ทุกวงการตื่นตัวขยับขับเคลื่อนเพื่อหาทางแก้ไขและป้องกัน โดยเฉพาะเรื่องการทำแท้ง การจัดระเบียบวัดและสัปเหร่อ


    8.วิกเตอร์ บูท

    วิกเตอร์ บูท นักธุรกิจชาวรัสเซีย ถูกตำรวจไทยร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกา บุกจับกุมที่ห้องอาหารหรู ชั้น 27 โรงแรมใหญ่ย่านสีลม เมื่อเย็นวันที่ 6 มี.ค. 2551 ข้อหาก่อการร้าย ตามหมายจับศาลอาญา ขณะที่อัยการสหรัฐยื่นฟ้องต่อศาลนิวยอร์ก ภายหลังบูทถูกจับ ระบุว่า บูทเป็นพ่อค้าอาวุธข้ามชาติรายใหญ่ ศาลชั้นต้นยกคำร้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ส่งตัวบูทกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐ

    ทางการสหรัฐประสานทางการไทยให้ส่งตัวบูทเป็นผู้ร้ายข้ามแดน แต่ฝ่ายไทยยังไม่ตัดสินใจเนื่องจากเกรงเกิดปัญหากับรัสเซีย ซึ่งยืนยันความบริสุทธิ์ของพลเมืองรายนี้มาตลอด กระทั่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ผู้มีนโยบายไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ หลังปราบม็อบเสื้อแดงเดือนพ.ค. ก็มีข่าว นายศิริโชค โสภา เลขานุการส่วนตัวนายกฯ เจ้าของฉายาวอลเปเปอร์ เข้าไปพบบูทในเรือนจำด้วยวิธีพิเศษ มีการพูดคุยเพื่อให้เชื่อมโยงไปถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต นายศิริโชคทำได้เพียงชี้แจงแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ขณะเดียวกันสหรัฐส่งเครื่องบินมาจอดรอรับตัวบูทที่บน. 6 สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายรัสเซียอย่างมาก ท่ามกลางการจับตาของชาวไทยและชาวโลก ครม.อนุมัติส่งตัวบูทเป็นผู้ย้ายข้ามแดนไปสหรัฐ วันที่ 16 พ.ย.ตำรวจคอมมานโดคุมตัวไปขึ้นเครื่องบินของสหรัฐเดินทางสู่นิวยอร์ก

    กรณีบูทไม่จบลงแค่นั้น เมื่อวิกิลีกส์ เว็บไซต์จอมแฉชื่อดัง เปิดข้อมูลลับระบุเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยล็อบบี้นายอภิสิทธิ์ส่งตัวบูทไปสหรัฐ ถึงกับเสนอไปยังประธานาธิบดีโอบามาให้โทรศัพท์กดดันผู้นำไทยโดยตรง เป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก


    9.คลิปการเมือง

    ขณะที่คดียุบพรรคประชาธิปัตย์กำลังอยู่ในช่วงไคลแม็กซ์ ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อมีผู้นำคลิปโพสต์ในยูทูบ เป็นภาพ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการส่วนตัวประธานศาลรัฐธรรมนูญ พบปะพูดคุยกับ นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทีมกฎหมายสู้คดียุบพรรค ที่ร้านอาหารย่านประชาชื่น เมื่อวันที่ 18 ต.ค. เนื้อหาการสนทนาเกี่ยวข้องกับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นมีคลิป ตอนที่ 2 ที่ 3 ทยอยตามออกมา เป็นภาพที่อ้างว่าเป็นการประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเข้าไปวางแผนสั่งการบางอย่าง คลิปดังกล่าวเหล่านี้ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญตกเป็นจำเลยสังคมในทันที ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ทำได้เพียงเบี่ยงเบนประเด็นเป็นเรื่องถูกหลอกและใส่ร้าย หลีกเลี่ยงไม่พูดถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

    ต่อมานายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ปลดนายพสิษฐ์ หรือปอย ออกจากตำแหน่ง แต่นายชัชกับตุลาการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคลิปยังยืนยันทำหน้าที่ต่อไป ส่วนนายพิสิษฐ์มีข้อมูลว่าเดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.

    ก่อนวันตัดสินคดี วันที่ 27 พ.ย.นายพสิษฐ์ปรากฏตัวในคลิปของยูทูบ หวังว่าจะไม่ใช้คำว่า รอการกำหนดโทษ

    ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษา นายพสิษฐ์ออกคลิป ตอกย้ำศาลรัฐธรรมนูญสั่งยกฟ้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามความคาดหมาย


    10.ไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์

    ข่าวใหญ่ส่งท้ายปี คือ ข่าวพรรคประชาธิปัตย์รอดถูกยุบพรรค 2 คดีซ้อนในรอบ 10 วัน

    วันที่ 29 พ.ย.ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 4 ต่อ 2 ยกคำร้อง กรณีกกต. ยื่นร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เพราะนำเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จำนวน 29 ล้านบาท ไปใช้จ่ายไม่ถูกต้อง ตุลาการเสียงข้างมากเห็นว่าคำร้องไม่มีความเห็นของประธานกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง และยื่นคำร้องเลยกำหนดเวลา 15 วัน ตุลาการเสียงข้างมาก ประกอบด้วย นายจรัญ ภักดีธนากุล นายนุรักษ์ มาประณีต นายสุพจน์ ไข่มุกด์ และ นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ส่วนเสียงข้างน้อย ประกอบด้วย นายชัช ชลวร และ นายบุญส่ง กุลบุปผา

    กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นทำไมศาลไม่ยกคำร้องตั้งแต่ต้น หากเห็นว่าไม่มีความเห็นของนายทะเบียน และยื่นเลยกำหนดระยะเวลา แต่กลับให้สืบพยานมานานนับปี

    ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้พิสูจน์ความถูก ผิด แต่รอดไปได้ด้วยวิธีทางเทคนิค

    วันที่ 9 ธ.ค.ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีที่อัยการสูงสุดร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีรับเงินบริจาค 258 ล้านบาท จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน ผ่านบริษัท เมซไซอะ เข้าข่ายกระทำผิดตามพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

    ศาลมีมติยกคำร้อง ด้วยเสียงข้างมาก 4 ต่อ 3 ด้วยเหตุผลว่า ไม่มีความเห็นจากนายทะเบียน ตุลาการเสียงข้างมาก ประกอบด้วย นายจรัญ ภักดีธนากุล นายจรูญ อินทจาร นายนุรักษ์ มาประณีต และ นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ส่วนเสียงข้างน้อย ประกอบด้วย นายชัช ชลวร นายบุญส่ง กุลบุปผา และ นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี

    พรรคประชาธิปัตย์รอดถูกยุบพรรคเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 วัน โดยไม่ได้พิสูจน์ความถูก-ผิด เช่นเดียวกับคดี 29 ล้าน

    ขณะที่สังคมไม่ได้ตื่นเต้น หรือคาดหวังใดๆ เพราะคำตัดสินคดีแรกก็รู้ว่าคดีที่สองจะจบลงอย่างไร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ทั่วไทยอากาศยังหนาวเย็นต่อเนื่อง อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ แม่คะนิ้งดอยอินทนนท์-อ่างขาง เกิดต่อเนื่องติดกันยาวนานแล้ว 5 วัน
    29ธ.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า อากาศที่จังหวัดเชียงใหม่และหลายพื้นที่ในภาคเหนือยังคงหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแจ้งว่า ยังคงมีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า
    ทั้งนี้ อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ วัดได้ 3 องศาเซลเซียสที่ สถานที่เกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จนเกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า โดยตั้งแต่วันที่30 ธ.ค.53 จนถึงวันที่ 2 ม.ค. 2554 จะมีมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกระลอก ทำให้อากาศยังคงหนาวเย็นขึ้นอีกและอุณหภูมิจะลดลงอีก1-3 องศาเซลเซียส
    ขณะเดียวกัน นายสมชาย เขียวแดง ผู้อำนวยการโครงการเกษตรหลวงอ่างขาง เปิดเผยว่า อุณหภูมิบนยอดหญ้าที่ดอยอ่างขางช่วงเช้าของวันที่ 29 ธันวาคม ติดลบ 0.5 องศาเซลเซียส จนเกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า หรือ แม่คะนิ้ง โดยเกิดต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเกิดแม่คะนิ้งติดกันยาวนานเป็นเวลา 1 สัปดาห์เมื่อปี 2542 คาดว่าช่วงเทศกาลปีใหม่นี้อาจมีโอกาสเกิดแม่คะนิ้งขึ้นอีก เนื่องจากอุณหภูมิยัง คงลดลง ส่งผลให้ยอดจองบ้านพักในช่วงเทศกาลเต็มไปจนถึงหลังปีใหม่
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    [​IMG]
    ชาวบ้านในจังหวัดชลบุรี แห่กราบไหว้ต้นสนใหญ่ ลักษณะคล้ายพระพุทธรูป
    รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. บริเวณลานดินหมู่ที่ 3 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ดินของ นายอานนท์ และนางทรัพย์ ห้วยใหญ่ ที่ให้ นายทองหนาย กับนางยุพิน แดงน้อย 2 สามีภรรยา ปลูกบ้านพักอาศัย ได้มีชาวบ้าน ตำบลห้วยใหญ่ และตำบลใกล้เคียง แห่กันมาชมต้นสนใหญ่รูปร่างเหมือนพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ยืนต้นเด่นสง่า
    ทั้งนี้ มีการจุดธูปไหว้เพื่อขอพรจากพระศาสดา ตั้งแต่ช่วงเย็นพระอาทิตย์ตกจนถึงรุ่งเช้า บางครอบครัวพากันมาปูเสื่อนอนเฝ้าดู ความสง่างามขององค์พระพุทธรูป เนื่องจากมีความเชื่อกันว่าเป็นนิมิตที่ดีของผู้พบเห็น
    ขณะที่ นายทองหนาย กล่าวว่า เมื่อคืนก่อนได้ออกมานอกบ้าน เพื่อจุดธูปเทียนบอกกล่าวเจ้าที่ที่เข้ามาปลูกบ้านพักอาศัย โดยหันหน้าไปทางทิศเหนือ ปรากฏว่า ในป่ารกร้างด้านข้างกำแพงที่ดินได้เห็นเป็นรูปพระพุทธรูปขนาดใหญ่ยืนเด่นสง่า เป็นเงามืดจึงได้เรียกให้ภรรยามาดู ต่อมาชาวบ้านที่ทราบข่าวได้พากันมาดูอย่างเนืองแน่น โดยการดูต้องดูในเวลากลางคืน เพราะกลางวันก็จะเห็นเป็นต้นสนธรรมดา จะเห็นเป็นรูปชัดเจนเวลากลางคืนเท่านั้น
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จะทำน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืดเพื่อใช้ดื่มกินได้หรือไม่ ?

    [​IMG]

    ปัจจุบันมีผู้ที่คิดค้นวิธีการแปลงน้ำทะเลให้กลายเป็นน้ำจืดได้แล้ว โดยใช้กรรมวิธี “กลั่น” เพื่อไล่ความเค็มและแร่ธาตุต่างๆที่ปะปนอยู่ในน้ำทะเลออกไป จนมีคุณภาพเทียบเคียงกับน้ำจืดที่เราไว้ใช้บริโภคได้

    โดยวิธีการที่ใช้นั้นก็นำมาจากวิธีการทางธรรมชาติ ที่แสงแดดแผดเผาน้ำทะเลจนกลายเป็นไอลอยขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็จะเกิดการกลั่นตัวกลายเป็นเม็ดฝนตกลงมานั่นเอง แต่อันที่จริงแล้วมนุษย์เรียนรู้วิธีการทำน้ำทะเลให้กลายเป็นน้ำจืดก่อน คริสต์ศักราชนาน ๔๐๐ ปีแล้ว โดย อริสโตเติล (Aristotle) ปราชญ์ชาวกรีกค้นพบว่า เมื่อนำน้ำทะเลมาต้ม ส่วนที่เป็นน้ำจะระเหยกลายเป็นไอน้ำโดยทิ้งส่วนที่เป็นเกลือเอาไว้

    จากนั้นหากนำไอน้ำที่ได้จากการต้มมากลั่นอีกครั้งก็จะได้เป็นน้ำจืด ซึ่งกรรมวิธีที่มีผู้คิดค้นเครื่องเปลี่ยนแปลงสภาพน้ำทะเล ให้กลายเป็นน้ำจืดสำหรับบริโภคก็อาศัยหลักการของ อริสโตเติล นั่นเอง ซึ่งมีทั้งกรรมวิธีง่ายๆไปจนถึงที่ ยุ่งยากสักหน่อย แต่มีประสิทธิภาพสูงและรวดเร็วกว่าโดยแบบแรกนั้น ใช้วิธีนำน้ำทะเลเข้ามาเก็บกักไว้ในสระ แล้วครอบด้วยหลังคาที่ทำด้วยกระจกแล้วปล่อยให้แดดเผาน้ำทะเลที่กักไว้ให้เป็นไอน้ำลอยขึ้นไปเกาะบนแผ่นผืนกระจก เมื่อไอน้ำขึ้นไปเกาะอยู่บนกระจกแล้ว ก็จะกลั่นตัวกลายเป็นหยดน้ำและเมื่อจำนวนหยดมี มากขึ้น ก็จะมีน้ำหนักมากแล้วไหลลงไปตามผืนกระจกมาที่รางน้ำเบื้องล่าง ไหลต่อไปยังภาชนะเก็บ กลายเป็นน้ำจืดบริสุทธิ์สามารถนำมาใช้ดื่มได้ แต่วิธีกลั่นน้ำทะเลด้วยวิธีนี้ต้องใช้เนื้อที่มาก ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้น้ำจืดเพียงไม่กี่ลิตรต่อวันเท่านั้น

    สำหรับวิธีที่จะทำให้สามารถกลั่นน้ำทะเล เป็นน้ำจืดได้จำนวนมากและใช้เวลาน้อยกว่านั้น เป็นเครื่องต้มกลั่นน้ำทะเลที่มีผู้คิดสร้างขึ้นมาใช้สำหรับในภูมิภาคที่แห้งแล้งและขาดแคลนน้ำอย่างมาก นิยมนำไปใช้ในระบบผลิตน้ำของตนให้เพียงพอต่อการบริโภค เครื่องต้มน้ำกลั่นทะเลนี้จะมีลักษณะเป็นหม้อต้มกลั่นขนาดใหญ่ ซึ่งจะนำน้ำทะเลเข้าไปเก็บกักในหม้อต้มแล้วผ่านกระบวนการกลั่นโดยอาศัยความร้อนสูง ให้น้ำทะเลกลายเป็นไอน้ำด้วย วิธีการอีกมากกว่า ๑๐ ขั้นตอน ก่อนที่ไอน้ำจะถูกกลั่นกลายเป็นน้ำจืดที่มีความบริสุทธิ์สามารถนำมาดื่มหรือใช้ในกิจกรรมอื่นๆอย่างเช่นน้ำประปา

    วิธีต้มกลั่นน้ำทะเลด้วยเครื่องต้มกลั่นนี้ ถึงแม้จะต้องลงทุนในการสร้างเครื่องต้มกลั่นที่ค่อนข้างสูงแต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่ามาก เนื่องจากเครื่องต้มกลั่น แบบนี้สามารถให้ผลผลิตน้ำจืดจำนวนมากพอแก่การบริโภค ปัจจุบันประเทศที่ลงทุนสร้างเครื่องกลั่นชนิดนี้ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ประเทศบาห์เรน ตะวันออกกลาง ซึ่งสามารถผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลได้เป็นจำนวนมากถึง ๕๔ ล้านลิตรต่อเครื่องต่อวันเลยทีเดียว ?

    ที่มา http://shhexinyuan.com/?p=343

    พิษสึนามิทำเกาะขาดแคลนน้ำจืด-ดินเค็ม

    [​IMG]

    นักวิจัยม.เกษตรฯ เผยควันหลงสึนามิก่อปัญหาดินเค็ม และทำบ่อน้ำผิวดินมีรสเค็มจัด จนไม่สามารถนำมาใช้งานได้ ระบุอาจต้องใช้เวลานับปีฟื้นฟูสภาพพื้นดินและแหล่งน้ำ

    ตอนนี้ทำได้เพียงรอน้ำฝนมาชะล้างน้ำเค็มและเกลือที่เกาะติดอยู่ที่ชั้นดิน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำนานาชาติย้ำชัดภัยน้ำเค็มทะลักท่วมเกาะหลังวิกฤติคลื่นสึนามิถล่ม ส่งผลชาวเกาะขาดแคลนน้ำดื่มต้องพึ่งพาแหล่งน้ำแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก เชื่ออาจใช้เวลานานนับทศวรรษกว่าจะฟื้นสภาพกลับมาเป็นดังเดิม ​

    นายสมโภชน์ นิ้มสันติเจริญ หัวหน้าสถานีวิจัยทรัพยากรชายฝั่งระนอง สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิด้วย กล่าวถึงผลกระทบที่ตามมาจากคลื่นยักษ์ถล่มว่า นอกจากความเสียหายทางด้านสิ่งปลูกสร้างตลอดแนวอันดามันแล้ว ในแง่ทรัพยากรเองก็กำลังประเมินกันอยู่ว่าได้รับผลกระทบอย่างไร ​

    "จากการสำรวจพื้นที่เสียหาย พบว่า น้ำทะเลที่ท่วม ส่งผลกระทบมากต่อบ่อน้ำผิวดิน ซึ่งชาวบ้านนิยมขุดขึ้นมาใช้เองที่ระดับความลึกประมาณ 5-6 เมตร ขณะที่น้ำบาดาลไม่มีปัญหาน้ำเค็มแทรกซึม เนื่องจากลึก 30-70 เมตร โดยความเร็วในการแทรกซึมของน้ำเค็มเข้าสู่ชั้นดินนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่เป็นหลัก หากเป็นบริเวณดินเหนียว ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำสูง ก็จะไม่เร็วนัก แต่ถ้าเป็นดินทราย พอแห้งก็จะโปร่ง ทำให้น้ำเค็มไหลเข้าไปได้รวดเร็ว และเกลือก็จะฝังลงไปในชั้นดิน ดังนั้น ถ้าไม่มีน้ำจืดมาไล่ลงไป น้ำใต้ดินก็จะเริ่มเค็มมากขึ้น" นายสมโภชน์ กล่าว​

    สำหรับวิธีแก้ไขนั้น นายสมโภชน์ บอกว่า ต้องรอให้น้ำฝนตกลงมาไล่น้ำเค็มลงไป หรืออาจใช้วิธีปั๊มน้ำออกจากชั้นดินให้มากที่สุด ซึ่งทางทีมวิจัยเองก็ยังไม่แน่ใจว่าการแบ่งชั้นของน้ำในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร และขณะนี้อยู่ในช่วงภาวะแล้ง น้ำใต้ดินลดลงประมาณ 2-3 เมตร พอน้ำทะเลท่วม น้ำเค็มจึงเข้าไปแทนที่อย่างรวดเร็ว และเมื่อฝนไม่ตกก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้เร็วเพียงใด อาจต้องใช้เวลานานนับปีก็เป็นได้​

    นอกจากนี้ ปัญหาน้ำเค็มยังส่งผลกระทบต่อทรัพยากรต่างๆ ด้วย โดยเฉพาะพืชในพื้นที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งอาจไม่สามารถทนความเค็มได้ เชื่อว่าภายใน 1 เดือน จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของพืชได้อย่างชัดเจน ขณะที่ปัญหาเกลือสะสมในชั้นดินจนทำให้ดินเค็ม ก็จะส่งผลให้ไม่สามารถเพาะปลูกพืชได้อีก ซึ่งหากคิดจะปลูกพืชฟื้นฟูก็จะปลูกได้เฉพาะพืชทนดินเค็มเท่านั้น​

    ขณะเดียวกันวารสารออนไลน์นิวไซอันทิสต์ ได้รายงานว่า เกาะหลายแห่งในมหาสมุทรอินเดีย อาจไม่สามารถอยู่อาศัยได้เป็นการถาวร เนื่องจากปัญหาน้ำเค็มไหลท่วมเกาะจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิถล่มภูมิภาคเอเชียเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา​

    บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำเชื่อว่าในระยะยาว น้ำเค็มจะรุกล้ำเข้าไปทำลายผืนดินของเกาะ และซึมเข้าไปยังชั้นหินอุ้มน้ำ รวมทั้งบ่อน้ำจืดของชุมชน จนทำให้ผู้คนไม่สามารถใช้น้ำที่มีอยู่ได้ ต้องหันไปพึ่งพาความช่วยเหลือทั้งด้านอาหารและน้ำจากภายนอก ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเวลานานนับเดือนหรือนับปี​

    จากรายงานพบว่า น้ำทะเลที่ท่วมเกาะหลายแห่ง ทำให้ดินในพื้นที่ดังกล่าวเป็นพิษ จนไม่สามารถเพาะปลูกพืชไร่ใดๆ ได้ โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล ซึ่งประสบเหตุโดยตรงจากคลื่นยักษ์สึนามิ​

    "การฟื้นคืนน้ำจืดให้สามารถใช้งานได้ เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ ซึ่งขั้นตอนแรกที่ต้องทำก็คือต้องสูบน้ำเค็มออกจากบ่อมาให้หมด จากนั้นก็ฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนให้สิ้นซาก" นักวิชาการ กล่าว​

    โดย : กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 10/01/2005​


    เครื่องกลั่นน้ำทะเลให้เป็นน้ำบริสุทธิ์

    [​IMG]


    <TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" border=0 cellSpacing=2 borderColor=#000000 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR bgColor=#cc0000><TD vAlign=top width="100%">คุณสมบัติ เครื่องกลั่นน้ำดื่มบริสุทธิ์ Portable Water Distiller "MEGAHOME"</TD></TR><TR bgColor=#f9f9f9><TD vAlign=top width="100%">
    • สามารถกลั่นน้ำประปา น้ำบาดาล น้ำคลอง และน้ำทะเล ให้เป็นน้ำบริสุทธิ์
    • สามารถกลั่นน้ำได้วันละ 12 ลิตร เพียงพอสำหรับดื่มภายในครอบครัว 5-6 คน
    • เหมาะสำหรับดื่ม ชงนม ชา กาแฟ น้ำผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยโรคไต นิ่ว
    • น้ำกลั่นบริสุทธิ์ จะช่วยละลายสารตะกอนของแร่ธาตุที่สะสมอยู่ตามข้อต่อ และผนังเส้นเลือด อีกทั้งช่วยให้ ไตทำงานดีขึ้น
    • การดื่มน้ำบริสุทธิ์ ช่วยให้ระบบการย่อยอาหาร การดูดซึมอาหาร และการขับถ่ายของร่างกายมีประสิทธิภาพเต็มที่
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="100%">
    [​IMG]


    สถานที่สั่งซื้อในประเทศไทย
    บริษัท นอติลัสวอเตอร์เมคเกอร์ จำกัด

    ชวนชม ศิริประพันธ์
    20 / 76 ถนนพระราม 2 หมู่ 6 ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร 74000
    (Thailand)


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    http://www.gmwebsite.com/Website/ind...61227162005328

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2010
  8. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    มาอีกแล้วภัยธรรมชาติแบบฉับพลัน รุนแรง คราวนี้ที่ฟิลิปปินส์

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม ฟิลิปปินส์ ตายแล้ว 2 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>30 ธันวาคม 2553 16:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ทางการฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า มีประชาชนเสียชีวิต 2 คน และอีกราว 4,000 คน ต้องอพยพทิ้งบ้านเรือน หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของกรุงมะนิลา

    ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตดังกล่าว เป็นผู้หญิงอายุ 80 ปี และลูกชายอายุ 50 ปี ซึ่งถูกกระแสน้ำพัดหายไป หลังจากพยายามข้ามฝายน้ำล้น ไปยังศูนย์อพยพเมื่อวานนี้

    อย่างไรก็ดี ทางการฟิลิปปินส์ อาจจะต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง เพิ่มเติมอีก เนื่องจากอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนว่า จะมีฝนตกต่อไปจนถึงวันที่ 2 มกราคม ปีหน้า

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    30 ธ.ค. 53


    ทองคำเปลวกับร่ม

    ภาพแรกเป็นภาพทองคำเปลวที่หน่วยเหนือได้เสกให้โผล่ออกมาจากพื้นดิน
    ตรงนั้นแผ่นตรงนี้แผ่น เสกไปเรื่อยๆ ส่วนผมก็แกะทองคำเปลวแผ่นแรกออกมา
    แล้วนำไปคลึงกับแผ่นอื่นๆจนได้เป็นก้อนทองออกมา ก้อนใหญ่พอสมควร

    ภาพนี้จะมีความหมายว่า การทำงานเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จะค่อยเป็นค่อย
    ไปจนสำเร็จในที่สุด

    ส่วนอีกภาพเป็นภาพที่ผมกำลังนำร่มและคันร่มนำมาประกอบเข้าหากันแล้วนำ
    มากองรวมกันเพื่อรอแจก

    ภาพนี้ร่มจะสื่อความหมายถึงการให้ที่พักพิงแก่ผู้ที่จะเข้ามาอาศัยอยู่

    ส่วนท่านใดสนใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็เข้ามาคุยกันเผื่อเราจะมี
    บุญสัมพันธ์กัน



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +898
    ภัย จากชายแดนไทย เขมร เริ่มก่อตัว

    ไม่อยากให้บานปลาย กลายเป็น สงครามแห่งศักดิ์ศรี

    กลายเป็น สงคราม ชายแดน และ สงครามเบ็จเสร็จ
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รวมคำทำนายเรื่องภัยพิบัติ ปี 2555-2560
    โดยพระอริยะสงฆ์ของไทย

    [​IMG]

    คำตอบจากพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล

    คำถามนี้ถามเนื่องจาก เมื่อวันเสาร์ที่ 21 พ.ย. 2552 เวลาสองทุ่มกว่าๆ เกือบสามทุ่ม หลวงปู่พูดเปรยๆว่า:

    อีก 3 ปีไทยจะขาดแคลนน้ำ(เพราะน้ำจืดไม่มี มีแต่น้ำเค็ม) แต่ที่ไหนมีการแก้ไข ก็จะมีน้ำพออยู่กันได้

    ประมาณนี้.. ซึ่งเราก็เลยสงสัยเล็กน้อย ก็เลยคุยกับเพื่อนๆ คนนู้นคนนี้ เพื่อนคนหนึ่งเลยบอกให้ตั้งคำถามถามหลวงปู่สิ คนที่อยากรู้คงมีเยอะ เราจึงได้ถามคำถามไป 5 ข้อค่ะ และเมื่อวาน วันที่ 28 พ.ย. 2552 เวลาดึกๆหลังสามทุ่ม หลวงปู่ก็ตอบค่ะ:

    1. เฉพาะกับเหตุการณ์ครั้งนี้ มีรายละเอียดเรื่องนี้ในพระไตรปิฎก เล่มไหน หน้าไหน หรือเปล่าคะ (ส่วนเหตุการณ์ภัยพิบัติอื่นๆ หนูได้อ่านพระไตรปิฎกตามหัวข้อที่วัดคัดลอกมาแล้ว)

    หลวงปู่บอกว่า ทำนายฝัน พระเจ้าปเสนทิโกศล .. เหตุภัยพิบัติมันมีมานานแล้ว และมันก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ มา ไป มา ไป เป็นธรรมดาๆของมัน ไม่ถึงขนาดในหนังเรื่อง 2012 ที่มันเว่อร์ๆแบบนั้นหรอก

    2. ขาดแคลนน้ำด้วยสาเหตุอะไรคะ

    หลวงปู่บอกว่า เพราะน้ำจืดไม่มี มีแต่น้ำเค็ม เครื่องกรองน้ำเค็มเป็นน้ำจืดเดี๋ยวนี้ก็มี(ที่ประเทศบาห์เรน) แต่พอถึงเวลานั้นมันใช้ไม่ได้หรอก(คงเป็นเพราะสนามแม่เหล็กโลกแปรปรวน ระบบไฟฟ้าขัดข้องไปทั่วโลก)

    3. และพระอาจารย์พอจะบอกรายละเอียดเพิ่มเติมได้หรือไม่คะ ว่าท่านเห็นอะไรและอย่างไรบ้าง
    ผู้ช่วยอ่านคำถามบอกว่า เริ่มวิตกแล้วล่ะ

    หลวงปู่บอกว่า ไม่ต้องกังวลว่าจะตายหรอก ได้ตายแน่ๆแหละ(คนเราเมื่อหมดอายุขัยก็ต้องตายด้วยกันทุกคน)

    4. ที่อื่นๆนอกจากแถวน้ำหนาว พออยู่ได้ไหมคะ เช่น กรุงเทพ, นครปฐม, อเมริกาเหนือ

    หลวงปู่บอกว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งทวีป อยู่ได้หมด ที่ไหนมีการแก้ไขก็อยู่ได้ อุทิศบุญต่างๆนานา เกิดปัญหาอะไรก็ให้ค่อยๆแก้ไขไป

    ผู้ช่วยถามคำถามถามหลวงปู่ว่า มีคนรอดเยอะไหม

    หลวงปู่บอกว่า รอดเยอะมาก และตายเยอะมากเช่นกัน

    5. หนูและครอบครัวถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างเคร่งครัด พอช่วยได้ไหมคะ

    หลวงปู่บอกว่า ตอบไปแล้ว

    ประมาณนี้ค่ะ.. ขอบคุณค่ะ

    ไฟล์เสียง คำตอบจากพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

    ที่มา http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=2268.0

    *****************************************************************

    คำเตือนจากปู่อินทร์ตาทิพย์เขาตำแยอายุ 109 ปี

    ปู่บอกว่าภัยพิบัติจะเกิดตามหนังสือพุทธทำนายไว้ จะแรงบ้างหรือเบาบ้างขึ้นอยู่กับว่าครูบาอาจารย์ได้ช่วยไว้หรือไม่ แต่ปลายปี 2555 ต่อเนื่องปี 2556 เหตุการณ์จะรุนแรงมาก ด้วยเหตุ 3 อย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ประการแรก บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ หาก..... ละสังขาร ประการสอง พายุจะถล่มเมืองไทย และที่อื่นๆ ประการสามน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในโลก หลายๆประเทศจะต้องเกิดเหมือนกัน จะรุนแรงไปเรื่อยๆ ผู้คนจะตายมากเป็นประวัติการณ์ ผู้คนจะเหลือแค่ 30% ของประชากรที่นั้นๆ

    ปัจจุบันนี้ผู้คนไม่มีศีลธรรม ไม่ละอายแก่บาป เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่ใช่กรรมของใครๆ แต่นี่คือวัฎรจักรของโลก บ้านเมืองเจริญขึ้น แต่จิตใจมนุษย์เจริญลง ยิ่งการสมสู่มนุษย์ต่อกันเดียวนี้ไม่มีเลือกผัวเลือกเมียหรือลูกหลาน นี่แหละกลียุคตามคำทำนายขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าพุทธโคดม เหตุดังกล่าวจะเบาลงและสิ้นสุดปี 2560 ผู้คนที่รอดพ้นจากภัยพิภัยคือผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่ในศีลธรรม กตัญญูต่อบิดามารดา ละอายแก่บาป จงเป็นผู้รู้ในกิเลส และผู้ตื่นจากกิเลส สุดท้ายก็ไกลจากกิเลส

    ภัยพิบัติที่จะเกิด เมืองไทยจะมีการเตือนภัยล่วงหน้า จากในหลวงของเรา และท่านสมิทธ ธรรมสโรช (พูดแบบภาษาธรรม พระองค์ท่านในหลวงและคุณสมิทธมีสื่อจากผู้ดูแลมนุษย์ในโลกนี้ จะบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้คนเตรียมตัวหนีจากภัยที่จะเกิด) ส่วนเส้นทางหลบหนีปู่บอกว่าผู้คนจะหนีมุ่งหน้าไปทางถนนมิตรภาพ และรถจะติดมากผู้คนต่างแย่งกันโกลาหลน่าดู และสุดท้ายหางแถวจะหนีไม่รอดนั้นเอง สระบุรีตั้งที่องค์พระนั่งสูง ตรงนั้นแผ่นดินจะยุบตัวลง เพราะข้างล่างเป็นบ่อน้ำใต้บาดาล ส่วนถนนที่พอจะรอดก็คือ กบินทร์-นครราชสีมา,นครนายก หรือเส้นทางอื่นๆที่ไม่ใช่มิตรภาพ แต่ส่วนมากผู้คนจะเลือกเส้นทางมิตรภาพมากเพราะไปได้ทั้งเหนือและอีสาน ขอเตือนไม่จำเป็นจะต้องไปอีสานอย่างเดียวนะครับ ภาคเหนือก็ไปได้

    (ปู่บอกแล้วเตือนแล้ว จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่บุญของเขา แต่ผู้ที่ปฏิบัติธรรมส่วนมากจะรอด แม่บอกอย่างนี้) มนุษย์จากตัวใหญ่ลงมาถึงตัวเล็ก และกำลังเปลี่ยนแปลงจากเล็กไปหาใหญ่เรื่อยๆ สังเกตุจากลูกหลานจะเริ่มสูงใหญ่กว่าพ่อแม่แล้ว และค่อยเป็นค่อยเปลี่ยนไปตลอด

    ปล.ลูกเมืองสกลฯ องค์ปู่อินทร์,ปู่ปิยะ และครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ คือพ่อ<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มาhttp://palungjit.org

    *****************************************************************

    เมย์พบพระผู้มี "อภิญญา" มีฤทธิ์มาก ท่านฝากเตือนมาว่า เวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว (ก่อน พ.ศ. 2560)

    พระ ผู้มีอภิญญาฤทธิ์ ลูกศิษย์เรียกท่านว่า "หลวงปู่ประเสริฐ"

    "หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านมีอภิญญาสูง มีฤทธิ์มาก เมย์เห็นมากับตาหลายครั้ง และลูกศิษย์ ก็เห็นมาหลายคน ใครเคยประสบด้วยตนเอง ช่วยมาโพสต์ในนี้ให้เพื่อนๆอ่านด้วยค่ะ (แต่วันนี้เมย์จะไม่เล่าเรื่อง อภิญญา ของหลวงปู่ เพราะมันเยอะ พิมพ์ไม่ไหว) แต่เมย์จะเล่าเรื่อง วาระสุดท้ายของโลกมนุษย์ค่ะ

    เมย์ ไปพบท่านเมื่อไม่นานมานี้เอง ไปกับกลุ่มของเพื่อนคุณพ่อค่ะ วันนั้นไปกันราว 10 คน พวกเรานั่งรถตู้ของเพื่อนคุณพ่อเมย์ นั่งรถตู้จากกรุงเทพ 8.00 น. กว่าจะถึง สำนักสงฆ์ของท่าน ก็เกือบเที่ยงอ่ะค่ะ เส้นทางวกวน เหมือนเขาวงกต เพราะสำนักสงฆ์อยู่บนเขาสูง (แถวนั้นเรียกว่า "ลำพญากลาง") สูงจากพื้นดินมากค่ะ เพราะทุกคนในรถตู้รู้สึก "หูอื้อ" ทุกคน พอไปถึงก็ยังไม่พบท่านหรอกค่ะ เพราะท่านอยู่ใน กุฏิ ด้านหลัง ซึ่งห้ามไม่ให้ใครเข้า สภาพของสำนักสงฆ์เรียบง่าย มีกุฏิ 2 หลัง, มีวิหารเล็กๆ 1 หลัง, มีโรงครัวเล็กๆ 1 หลัง, มีห้องน้ำราว 10 ห้อง ทั้งหมดมาจากเงินจากผู้บริจาค ของผู้ที่มากราบท่านทั้งสิ้น

    เพราะ หลวงปู่ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ พ.ศ. 2502 มาตั้งแต่ที่นี่ยังเป็นป่าอยู่เลย ยังไม่มีอะไรเลย มีแต่ป่าทั้งนั้น พอท่านอยู่ไปก็มี ผู้คนไปกราบไหว้ รวมคนที่ไปกราบท่านจนถึงปัจจุบันก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 100,000 คนค่ะ

    แล้ว หลวงปู่ท่านก็เดินลงมา แล้วตรงมาที่กลุ่มของเมย์ หลวงปู่ท่านอายุน่าจะ 80 ปีได้ค่ะ รูปร่างสูงสง่างาม (น่าจะสูงเกิน 180 ซม.) ดูท่านใจดี ลักษณะการเดินของท่านดูสูงส่งมากค่ะ (เดินสง่างาม น่าเลื่อมใส อธิบายไม่ถูก) น้ำเสียงที่นุ่มนวล ท่านบอกกับทุกคนว่า "เอาล่ะนะ" ถึงเวลาที่ชั้นจะบอกเรื่องสำคัญล่ะนะ ทุกคนตั้งใจฟังให้ดีๆ แล้วไปเตือนผู้คน และคนอื่นๆ

    ท่าน ก็เริ่มเทศนาว่า... แท้จริง ประเทศไทย และ ทุกประเทศทั่วโลก น่าจะพบกับความหายนะครั้งใหญ่ จากภัยธรรมชาติใหญ่ ซึ่งผู้คนต้องตายเกือบหมดโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 แต่ที่มันไม่เกิด ก็เพราะว่า มีพระผู้ทรงอิทธิฤทธิ์หลายท่าน รวมไปถึงเทวดาผู้รักษาโลกมนุษย์ ช่วยกัน อธิษฐานจิต ให้เหตุการผ่านพ้นไปก่อน ซึ่งในความเป็นจริง มันได้แค่เลื่อนออกไปเท่านั้น ยังไงๆเหตุการณ์ภัยธรรมชาตใหญ่ิ และความหายนะครั้งใหญ่ ต้องเกิดขึ้นแน่นอน

    นับ แต่เวลาี้นี้ พ.ศ. 2552 แรงอธิษฐานมันหมดกำลังลงแล้ว และจะไม่สามารถอธิษฐานเลื่อนได้อีกแล้ว ต่อจากนี้ไป ภัยธรรมชาติ และความหายนะครั้งใหญ่ จะค่อยๆปรากฏตัวเพิ่มมากขึ้นๆมากขึ้นๆ โดยเริ่มทีละน้อยจาก พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป จะค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นๆ สารพัดภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว, พายุ, ภูเขาไฟระเบิด, น้ำทะเลสูงท่วมแผ่นดิน, หมู่เกาะทั้งหมดจะจมใต้ทะเลทั้งหมด และสารพัดอย่างจะประดังเข้ามา ฯลฯ

    ทุกอย่าง จะจบสิ้นก่อนปี พ.ศ. 2560 มนุษย์ที่ศีลไม่ครบ จะถูกภัยธรรมชาติใหญ่ คร่าชีวิตทั้งหมด และมนุษย์ที่รอดชีวิตนั้นมีไม่กี่คนเท่านั้น และคนที่รอดชีวิตส่วนมาก จะเสียสติไปเลย เพราะตกใจกับเหตุการณ์แบบสุดชีวิต หลวงปู่บอกว่า เอายังงี้ละกันนะ คนจะตายกันเกือบหมดโลกเลย แต่ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุด คือรอดประมาณ 20-30 % ของประชากรไทย ไปคำนวณกันเอาเอง พูดง่ายๆ ตายเกือบหมดประเทศนั่นแหละ จะเหลือแค่คนมีศีลธรรมจริงๆเท่านั้นเอง

    หลัง ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป มนุษย์ชาติจะเข้าสู่ยุคใหม่ เรียกว่ายุคศิวิไลซ์ เนื่องจากคนไทยจะเหลือมากที่สุด (20-30 %) ต่อไปประเทศไทยจะได้เป็น มหาอำนาจ และเป็นศูนย์กลางของโลก เมื่อเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ ผู้คนยุคนั้นจะเปลี่ยนทัศนะคติ ในการดำเนินชีวิตใหม่ทั้งหมด ในยุคนั้น ผู้คนจะไม่สนใจเงินทองอีกเลย แต่จะมาแข่งขันในเรื่องของการ บำเพ็ญบุญ-กุศล

    ท่าน ว่าเวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว เหตุการณ์มันกำลังจะมาถึงแล้วนะ จะทำอะไรก็รีบๆทำ เลิกใช้ชีวิตแบบโง่เขลาเบาปัญญาเสียที สิ่งที่จะติดตัวเราไปมีเพียง บุญ-บาป เท่านั้น จำไปบอกต่อๆกันด้วยนะ ลูกหลาน ขอให้เอาชีวิตรอดให้ได้นะ ชั้นก็มีเรื่องจะบอกเท่านี้แหละนะ เจริญพร.......ทุกคนก็กราบท่าน ด้วยความกลัว ใจหวิวๆ บอกไม่ถูกค่ะ

    ตอน จะกลับ เมย์ว่าจะถ่ายรูปของหลวงปู่ มาให้เพื่อนๆใน "เว็บพลังจิต" ดูซะหน่อย แต่ทางสำนักสงฆ์ ติดป้ายไว้ว่่า "ห้ามถ่ายรูป" อ่ะค่ะ ...เอาไว้เพื่อนๆลองไปกราบหลวงปู่ท่านเองละกันนะคะ เมย์บอกที่อยู่ให้แล้วอ่ะค่ะ

    เมย์ขอปิดท้ายค่ะ ชาวพุทธทุกคนทราบดีว่า พุทธศาสนาจะมีอายุ 5,000 ปี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นค่ะ ประเด็นอยู่ที่ ในวันภัยพิบัติ คนที่จะรอดชีวิต ต้องมีศีลมีธรรมจริงๆเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนจะรอดค่ะ

    ที่มา http://palungjit.org

    ******************************************************************

    คำทำนายของหลวงปู่สรวง

    ."หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล" กล่าวไว้ว่า พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม จะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้

    [อ้างอิง หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) พูดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้...]

    ที่มา http://palungjit.org

    *****************************************************************<!-- google_ad_section_end -->


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2010
  12. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    ยังมีอีกครับเจ้าราชครูหลวงโพ้นสะเม็ก ก็ทำนายว่าปี 2555 เมื่องไทยจะตกต่ำ หลวงปู่เณรคำ ปัญญาพโล หลวงปู่เณรคำ ฉัตติดก และก็ หลวงพ่อวัชระ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อีก 2 ปี "ไม่มีน้ำจืด มีแต่น้ำเค็ม"

    [​IMG]

    "หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล" กล่าวไว้ว่า พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำ(ทะเล)ท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม จะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้

    [​IMG]

    วิธีกลั่นน้ำเค็มให้เป็นน้ำจืดแบบง่ายๆ

    ฟังดูแล้วน่าจะเป็นวิธีการที่ยุ่งยากเอาเรื่อง สมัยเป็นเด็กนักเรียนตอนเรียนวิชาเคมี จะต้องสร้างอุปกรณ์เอาน้ำใส่ภาชนะ จะเป็นขวดแก้ว หรือ Beaker ต้มให้กลายเป็นไอ ใช้กระจกอัง หรือผ่านไปตามท่อที่ผ่านความเย็น ให้กลั่นตัวกลายเป็นน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง กว่าจะได้เอาไปรับประทาน (ดื่ม)หรือเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น เติมแบตเตอรรี่ ช่างยากเย็นเหลือเกิน มาลองประดิษฐ์น้ำกลั่นง่าย ๆ กันดูดีกว่า

    ขั้นแรก จะต้องอาศัยร้านกระจกข้างบ้าน ตัดกระจกใสตามแบบและขนาดที่กำหนด (จะขยายหรือลดก็ไม่ว่ากัน สำคัญจะต้องแปรรูปได้)

    ขั้นที่สอง นำมาประกอบโดยการทากาว แบบที่ใช้ประกอบตู้ปลา รวมทั้งจัดหาท่อพีวีซีและอุปกรณ์อื่นๆ อีกเล็กน้อย หรือจะให้ดี ก็เพิ่มขดลวดไฟฟ้า ต้มน้ำแบบเสียบปลั๊กหรือจุ่มลงในน้ำ อีกอันหนึ่งก็จะเป็นการดียิ่งนัก เมื่อประกอบเป็นตัวตู้เรียบร้อยแล้ว ก็ทาสีดำที่ใต้พื้น เพื่อช่วยดูดความร้อน

    ขั้นตอนการผลิตน้ำกลั่น ก็ง่ายแสนง่ายเพียงแต่นำตั้งทิ้งไว้กลางแดด และเติมน้ำเข้าระบบ เท่านี้ท่านก็จะได้น้ำกลั่นแล้ว โดยขนาดพื้นที่ 1 ตารางเมตร จะสามารถกลั่นน้ำได้วันละ 1.5 -2 ลิตร หากวันไหนไม่มีแดด หรือต้องการน้ำกลั่นปริมาณมากทั้งวันทั้งคืน ก็ดึงสายไฟไปเสียบปลั๊ก ลงทุนค่าไฟอีกนิดหน่อยก็ได้น้ำกลั่นตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะตอนกลางคืนไอน้ำจะกระทบกับความเย็น ของกระจกได้ดีกว่า ทำให้ได้ปริมาณน้ำกลั่นมากขึ้น เท่านี้ท่านก็จะมีน้ำกลั่นสะอาดไว้ใช้ได้ทุกสถานการณ์

    ที่มา http://www.dgr.go.th/water2006/technique16.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P03.JPG
      P03.JPG
      ขนาดไฟล์:
      78.8 KB
      เปิดดู:
      959
    • P02.JPG
      P02.JPG
      ขนาดไฟล์:
      40.2 KB
      เปิดดู:
      2,143
    • P01.JPG
      P01.JPG
      ขนาดไฟล์:
      19.9 KB
      เปิดดู:
      75
    • distilation.jpg
      distilation.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.6 KB
      เปิดดู:
      104
    • North-trip-053.jpg
      North-trip-053.jpg
      ขนาดไฟล์:
      132.4 KB
      เปิดดู:
      200
    • 4647828.jpg
      4647828.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.5 KB
      เปิดดู:
      1,255
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2010
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกาหลีใต้ยืนยันพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกของปี

    [​IMG]

    โซล 30 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้เปิดเผยวันนี้ว่า พบชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ นับเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกจากโรคดังกล่าวของปีนี้

    ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแถลงว่า ชายวัย 30 ปีเริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และผลตรวจระบุว่า เขาติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 หลังจากนั้น เขาถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤตในโรงพยาบาลและเสียชีวิตลงเมื่อเช้าวานนี้ ด้านสำนักข่าวยอนฮัพของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ชายคนดังกล่าวเป็นผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกของปีนี้ โรคดังกล่าวคร่าชีวิตชาวเกาหลีใต้ไปกว่า 100 คนเมื่อปีที่แล้ว. -สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 30 ธ.ค. 2553

    ผู้นำเกาหลีใต้เรียกร้องกองทัพช่วยควบคุมโรคปากและเท้าเปื่อย

    [​IMG]

    โซล 30 ธ.ค.- ประธานาธิบดีลี มยองบัก ของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้กองทัพช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยครั้งเลวร้ายที่สุด หลังมีการฆ่าสัตว์ไปแล้วราว 500,000 ตัว

    ประธานาธิบดีลีกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีว่า เขาทราบว่ากองทัพได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว โดยการช่วยกำจัดสัตว์ แต่เขาอยากจะขอความร่วมมือเพิ่มเติมเมื่อโรคดังกล่าวแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่น และว่า หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะให้การดูแลเป็นพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมโครงการกำจัดสัตว์ รายงานระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีรายงานพบสัตว์ติดเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อยกว่า 60 รายทั่วประเทศ ทำให้ต้องกำจัดปศุสัตว์ หมู และสัตว์เท้ากีบไปแล้วกว่า 500,000 ตัว และก่อให้เกิดความเสียหายราว 400,000 ล้านวอน (ประมาณ 10,500 ล้านบาท). -สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 30 ธ.ค. 2553

    สหรัฐเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย

    [​IMG]

    สหรัฐ 30 ธ.ค.- ผู้คนตั้งแต่ในรัฐแคลิฟอร์เนียไปจนถึงรัฐวอชิงตันของสหรัฐ กำลังเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายทั้งพายุฝนและพายุหิมะ

    สภาพอากาศตั้งแต่รัฐแคลิฟอร์เนียไปจนถึงรัฐวอชิงตันของสหรัฐ ขณะนี้ ผู้คนกำลังเผชิญกับทั้งพายุหิมะ และพายุฝน มีรายงานว่าทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย พายุฝนยังคงโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ขณะที่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คน เนื่องจากต้นไม้โค่นลงมาทับเต็นท์ ทำให้สตรีคนหนึ่งที่อยู่ภายในเต็นท์เสียชีวิตทันที

    ส่วนที่รัฐโอเรกอน ทางหลวงสายหนึ่งใช้การไม่ได้ หลังหินจากภูเขาถล่มลงมากีดขวางถนน ส่วนที่รัฐวอชิงตันความรุนแรงของพายุหิมะทำให้ชาวบ้านหลายครอบครัวไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ถนนหลายสายใช้การไม่ได้ คาดว่าสภาพอากาศทางภาคตะวันตกของสหรัฐจะหนาวเย็นลงอีก และมีกระแสลมแรง.-สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 30 ธ.ค. 2553

    อินโดนีเซียเตือนภัยพายุทอร์นาโดในกรุงจาการ์ตา

    [​IMG]

    จาการ์ตา 30 ธ.ค. - เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ประชาชนในกรุงจาการ์ตา นครหลวงของอินโดนีเซีย อาจต้องเผชิญกับทอร์นาโดอีกหลายลูกในสัปดาห์หน้า

    รายงานระบุว่า พายุทอร์นาโดขนาดเล็กพัดถล่มกรุงจาการ์ตาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนกว่า 50 หลัง ได้รับความเสียหายและต้นไม้หลายสิบต้นโค่นล้ม แต่ไม่มีรายงานพบผู้ได้รับบาดเจ็บ สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยาและธรณีฟิสิกส์เปิดเผยวันนี้ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำที่กำลังเคลื่อนตัวจากตอนเหนือของออสเตรเลียไปยังภูมิภาคดังกล่าวอาจก่อให้เกิดพายุทอร์นาโดพัดถล่มกรุงจาการ์ตา. - สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 30 ธ.ค. 2553

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE id=post4211868 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Crystal DNA<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4211868", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2010
    ข้อความ: 167
    Groans: 0
    Groaned at 4 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 17
    ได้รับอนุโมทนา 231 ครั้ง ใน 70 โพส
    พลังการให้คะแนน: 30 [​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4211868 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->แผ่นดินไหวที่ลาว 5.2 ริกเตอร์ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 01:50<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 300x250, created 21/07/09 */google_ad_slot = "6922411748";google_ad_width = 300;google_ad_height = 250;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20101214/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="https://ssl.gstatic.com/gb/js/gcm_66a225a4a9849ebff5b9f77536ce7311.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 300px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 250px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 300px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 250px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px" id=google_ads_frame1_anchor><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=google_ads_frame1 tabIndex=-1 height=250 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&output=html&h=250&slotname=6922411748&w=300&lmt=1293766773&flash=10.0.22.87&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff2%2F%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A7-5-2-%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-31-%E0%B8%98%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1-2553-01-50-a-273902.html&dt=1293766773429&shv=r20101117&jsv=r20101214&saldr=1&correlator=1293766773445&frm=0&adk=879531844&ga_vid=901062524.1293766738&ga_sid=1293766738&ga_hid=1628073952&ga_fc=1&ga_wpids=UA-7034934-1&u_tz=420&u_his=6&u_java=1&u_h=900&u_w=1600&u_ah=874&u_aw=1600&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1580&bih=758&eid=30143208&fu=0&ifi=1&dtd=141&gcv=gcm_66a225a4a9849ebff5b9f77536ce7311.js#id=google_ads_frame1&parent=http%3A%2F%2Fpalungjit.org&rpctoken=adsense_rpc_key&_methods=expand%2Ccollapse%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe" frameBorder=0 width=300 allowTransparency name=google_ads_frame1 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>
    ล่าสุดแผ่นดินไหวที่ลาว 5.2 ริกเตอร์ วันที่ 30 ธันวาคม 2553 18:50
    เวลาไทย +7 ก็ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 01:50
    - ข้อมูลจาก สำนักงานเฝ้าระวังแผ่นดินไหว :กรมอุตุนิยมวิทยา

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2>[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("4211868")</SCRIPT> [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือนเหนือ-อีสานอากาศเย็นลงอีก 2-4 องศา กทม.เย็นสุด 21-22องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ดังนี้
    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา และมีลมแรง
    ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป โดยบริเวณยอดดอยในภาคเหนือยังคงมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่
    สำหรับภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 53 - 2 ม.ค. 54

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
    ภาคเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด
    และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-7 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา และมีลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา และมีลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา และมีลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
    อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 23 องศา
    โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา และมีลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อึ้ง สหรัฐแฉเกาหลีเหนือสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ปีละลูก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ว่า นายวิลเลี่ยม เพอร์รี่ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยว่า


    จากการเปิดเผยของนายซิงไฟด์ แฮ็คเกอร์ นักวิทยาศาสตร์สหรํฐ ซึ่งได้เดินทางไปตรวจสอบโรงงานด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่า เกาหลีเหนือสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ 1 ลูกต่อปี หากเกาหลีเหนือทุ่มเทใช้เวลากับโรงงานผลิตนิวเคลียร์อย่างจริงจัง

    นายวิลเลี่ยมระบุว่า เขาเห็นว่า สหรัฐควรจะทบทวนนโยบายเกาหลีเหนือ และใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือ เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ขณะเดียวกัน ก็ควรจะร่วมมือกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ด้วยการส่งทูตพิเศษไปเจรจากับเกาหลีใต้ ซึ่งอาจจะเป็นนางเมเดลีน อัลไบร์ท อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ

    รายงานระบุว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายซิงไฟด์ ได้เดินทางไปเยือนโรงงานด้านนิวเคลียร์ในเมืองยองบอนของเกาหลีเหนือ และได้เห็นเครื่องแกว่งสารให้ตกตะกอนของแร่ยูเรเนียมจำนวน 2 พันเครื่อง โดยโรงงานดังกล่าวถูกออกแบบเพื่อสร้างเตาปฎิกรณ์ปรมาณู ไม่ใช่เพื่ออาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เกาหลีเหนือได้ใช้โรงงานดังกล่าวผลิตอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>7คนไทยนอนคุกยาวรอศาลตัดสินข้อหาฉกรรจ์ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    “กษิต” พบ “ฮอร์ นัม ฮง” เจรจา “ไทย-เขมร” ล้มเหลว อ้างคดี 7 คนไทยรุกล้ำเขตแดน อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ปล่อยตัวไม่ได้ ต้องให้นอนในเรือนจำรอคำพิพากษา “กษิต” เข้าพบคนไทยทั้งหมดในเรือนจำแล้ว จัดทีมทนายความช่วยเหลือทันที เผย โทษหนักติดคุก 18 เดือน “นายกฯอภิสิทธิ์” ถกเครียดฝ่ายความมั่นคง ลั่น ต้องปล่อยตัวตามข้อตกลงสองประเทศ “รองฯสุเทพ” ระบุ “พนิช” กับคณะ ล้ำเขตจริง 300-400 เมตร ตชด.ตามไปห้ามไม่ทันจึงถูกจับที่ “วัดโจ๊กเจีย” เผย ช่วงโดนรวบเจรจาใกล้สำเร็จ แต่ฝั่งกัมพูชาพบชื่อ “วีระ สมความคิด” เคยโดนจับเคยเตือนแล้ว ทำผิดซ้ำเลยเจอยัดเข้าคุก ขณะที่กองเขตแดน ลุยพื้นที่ พบล้ำเข้าเขตจริง เจอทหารเขมรตรึงกำลังเพียบ กองกำลังบูรพา สั่งเตรียมพร้อมเต็มที่ พ่อค้าแม่ค้า-แรงงานเขมร เศร้าต้องอพยพกลับประเทศ พธม.ขู่เคลื่อนไหวกดดันแล้ว

    จากกรณีทหารกัมพูชาจับกุมนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์และอดีตผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศ นายวีระ สมความคิด และคณะ รวมทั้งสิ้น 7คน เป็นชาย 5 คน และหญิง 2 คน บริเวณรอยต่อแนวชายแดน บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ขณะเข้าไปพิสูจน์ปัญหาการรุกล้ำอธิปไตย หลังจากมีชาวบ้านร้องเรียนว่าถูกทหารกัมพูชา ยึดพื้นที่นาที่มีเอกสารถูกต้อง เป็นเวลานาน เบื้องต้นนายพนิช ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่าถูกจับกุมจริง ทั้งๆที่แสดงตัวว่าเป็นส.ส.มาตรวจสอบพื้นที่ แต่ทหารไม่ฟัง โดยแจ้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือแล้ว เบื้องต้นทหารกัมพูชาได้ส่งตัวไปยังสำนักงานตำรวจจังหวัดบันเตียเมียนเจย เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีข้อหาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายนั้น


    มาร์คเครียดถกช่วยพนิช
    ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 30 ธ.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือนายพนิช และคนไทยอีก 6 คนว่า ทั้งนายกรัฐมนตรี และพวกตนได้พยายามที่จะติดต่อประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาตลอดทั้งวัน เดิมทีคิดว่าเขาจะผ่อนผันปล่อยคนไทยทั้ง 7 คนในตอนเย็นของวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าเขาไม่สามารถดำเนินการตามที่เราร้องขอได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เรียกตน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมกันเพื่อหาทางแก้ปัญหานี้
    “เราต้องดูหลายเรื่อง 1.จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าพื้นที่ที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุมไปนั้นอยู่ตรงบริเวณไหนและเหตุการณ์เกิดขึ้นมาอย่างไร 2.ต้องหาลู่ทางเจรจากับรัฐบาลกัมพูชาผ่านทางช่องทางต่างๆที่มีอยู่ และพอจะพูดจากันได้ 3.หากในที่สุดกัมพูชายังคงยืนยันที่จะนำคนไทยทั้ง 7 คน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และขึ้นศาล เราก็ต้องให้สถานทูตไทย และกระทรวงการต่างประเทศจัดหาทนายความไปช่วยเหลือ นอกจากนั้นก็ต้องหาวิธีอย่างอื่นว่าจะมีเงื่อนไขอะไรพิเศษที่จะใช้ในการเจรจาคราวนี้ได้บ้าง เมื่อเราได้พูดคุยกับเขา เจรจากับเขา และได้หาวิธีการทำทุกลู่ทางแล้ว ถ้าสำเร็จก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าไม่สำเร็จก็ค่อยปรึกษากันต่อไป” นายสุเทพ กล่าว

    ล้ำเข้าเขมร300-400ม.
    เมื่อถามว่าสาเหตุที่การเจรจาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ล้มเหลวเป็นเพราะอะไร นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝ่ายกัมพูชา เราก็เจรจาตั้งแต่ระดับล่าง ๆ เพราะปกติเจ้าหน้าที่ที่อยู่ชายแดนจะมีความคุ้นเคยกัน และพูดจากันได้ ทั้งระดับผู้ว่าฯ ผู้นำทหาร เวลานี้เหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเราก็เจรจากันทางช่องนี้ แต่ถ้าช่องทางนี้ยังมีปัญหา เราก็พยายามเจรจาในระดับสูงขึ้นตามขั้นตอน และพยายามใช้ทุกช่องทาง เมื่อถามว่า นายพนิชเข้าไปลึกระดับไหน นายสุเทพ กล่าวว่า จากรายการผ่านด่านตำรวจตระเวนชายแดนไป เจ้าหน้าที่พยายามที่จะขับรถตามไปบอกให้กลับ แต่คณะทั้งหมดได้หลุดเข้าไปในเขตพื้นที่ของกัมพูชาก่อนแล้ว 300-400 เมตร ทำให้ระงับยับยั้งไม่ทัน
    นายสุเทพ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามจะให้เจ้าหน้าที่นำแผนที่แสดงจุดเกิดเหตุมาแสดงสื่อมวลชนได้รับทราบ เราจะว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ถ้าฝ่ายเราไม่ผิด แต่เกิดเหตุในเขตที่เป็นของเรา หรือก้ำกึ่ง การต่อสู้ของเราก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และเมื่อถามว่าระดับแกนนำรัฐบาลได้คุยกับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชาหรือยัง เพราะออกมาประกาศว่าไม่ใช่เรื่องการแก้แค้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน และยังไม่ได้ติดต่อประสานกันถึงระดับนั้น เมื่อถามว่าพฤติกรรมของนายวีระ บริสุทธิ์ใจเพียงใด เพราะที่ผ่านมาก็พยายามเข้าไปป้วนเปี้ยนบริเวณนั้นเพื่อให้ถูกจับ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบจริงๆว่า เขามีเจตนาอย่างไร แต่การที่นายวีระเคยถูกจับ เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้การเจรจาขอตัวในครั้งนี้ทำได้ยากขึ้น

    วีระทำซวยเจอยัดคุก
    “ตอนแรกผมดีใจว่าเขาจะปล่อยอยู่แล้ว แต่พอเขาตรวจรายชื่อกัน และพบว่ามีชื่อคนที่เคยถูกจับมาก่อน เขาก็เลยมีปัญหา สำหรับตัวนายพนิช ที่อยู่ๆร่วมคณะเดินทางไปกับเขาด้วยนั้น ผมก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน เมื่อคืนวานก็นั่งอยู่กับผม ประชุมกันอยู่ดี ๆ เช้าก็ไปเสียแล้ว ตอนนี้ก็พยายามตรวจสอบอยู่ว่าไปในฐานะอะไร เพื่ออะไร เพราะเขาไม่ได้บอกใครไว้ด้วย ส่วนทีมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายพนิช เป็นผู้ไปเจรจาเป็นการภายในกับกลุ่มพันธมิตร อย่าเอาข่าวลือมาพูด ในสถานการณ์ที่เกิดเหตุแบบนี้ ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเรามันลุ่ม ๆ ดอน ๆ เดี๋ยวดี เดี๋ยวไม่ดี และก็มีเหตุทางการเมืองเข้ามาแทรก พอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าไปอยู่ในกัมพูชาก็เกิดความแข็งกร้าว มีปัญหากับเราไปพักหนึ่ง ตอนนี้ก็เริ่มผ่อนคลายลงและทำท่าจะดีอยู่แล้ว แต่ก็มีคนเข้าไปทำให้เกิดเหตุอีก เราก็ต้องระมัดระวัง”

    บัวแก้ว-ทหารเร่งช่วย
    นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวเพียงสั้นๆก่อนเข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการช่วยเหลือนายพนิช ว่า กำลังดำเนินการเจรจา ตอนนี้ทราบเพียงว่าจะขึ้นศาลแต่ยังไม่รู้ข้อหาใด
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องดูในรายละเอียดว่าการเข้าไปของคนไทยทั้ง 7 คนไทยนั้นผิดกฎหมายหรือไม่ หากไม่ผิดกฎหมายก็ต้องปล่อย เรื่องดังกล่าวต้องถามนายกษิต เนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงการช่วยเหลือว่า ไม่ต้องห่วง ขณะนี้กำลังเจรจากับทางกัมพูชา เพราะอยู่ในขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย เรากำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาอยู่ ส่วนพล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ขอให้ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงหารือกันอีกครั้งให้เคลียร์กันก่อน

    พนิชไปตามคำสั่งนายกฯ

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ นายสุเทพ นายกษิต พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.ต่างประเทศ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สมช. เพื่อหารือเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ 7 คนที่ถูกกัมพูชาจับกุมโดยใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง
    หลังจากนั้นนายกรัฐบาล พร้อมคณะ ร่วมแถลงข่าว โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายพนิช ได้รับมอบหมายให้ไปประสานงานกับกลุ่มคนที่มีความคิดในเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา และได้แจ้งให้ตนทราบก่อนที่จะเดินทางลงไปดูพื้นที่ชายแดน เพราะมีประชาชนร้อนเรียนแต่ไม่ทราบเส้นทาง จนกระทั่งมาปรากฏเป็นข่าว ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องข้อเท็จจริงบริเวณนั้น จึงได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปในพื้นที่เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร

    ลั่นต้องปล่อย-กษิตไปคุย
    นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากฝั่งใดก็ควรได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วที่สุด เพราะรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารือและเห็นพ้องต้องกันแล้วว่ากรณีที่ประชาชนของทั้งสองฝ่ายรุกล้ำเขตแดนเข้ามานั้นไม่ควรถูกจับกุมและเข้าสู่กระบวนการศาล ตนได้มอบหมายให้นายกษิต เดินทางไปกัมพูชาในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้เพื่อพบกับนายฮอ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศกัมพูชาที่กรุงพนมเปญ เพื่อยืนยันท่าทีและข้อตกลงร่วมกัน นอกจากนั้นขณะนี้ยังมีการประสานงานในทุกระดับ ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเรื่องเขตแดนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องมีกระบวนการเจรจาพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง

    ต้องพิสูจน์โดนจับจุดใด
    นายสุเทพ กล่าวหลังหารือว่า เป็นประเด็นที่ทางกัมพูชาอ้างอย่างนั้นว่าจับ 7 คนไทยได้ที่วัดโจ๊กเจีย ซึ่งวัดดังกล่าวอยู่เลยเขตของไทยเข้าไปแล้ว ซึ่งถ้าความจริงปรากฏว่าถูกจับที่วัดโจ๊กเจียจริง ๆ เราก็เถียงไม่ได้เลยว่าล้ำหรือไม่ล้ำ เพราะวัดโจ๊กเจียอยู่ในเขตของเขา ดังนั้นก็ต้องไปพิสูจน์กันว่าถูกจับที่วัดโจ๊กเจียจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ไม่ต้องเถียงเขา การเจรจาช่วยเหลือก็ต้องไปพูดกันด้วยวิธีการอื่น ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ และทหาร ไปพิสูจน์จุดที่ถูกจับแล้ว
    เมื่อถามว่าหากพิสูจน์แล้วพบว่า 7 คนไทยเข้าไปในพื้นที่กัมพูชาจริง โทษหนักขนาดไหน นายสุเทพ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมีโทษ 3-5 ปี แต่เราก็จะพยายามพูดคุยกันว่า เป็นประเทศเพื่อนบ้านด้วยกัน และคนเหล่านี้ไม่ได้เข้าไปด้วยเจตนามุ่งร้ายต่ออธิปไตยของประเทศ ไม่มีการถืออาวุธเข้าไป เมื่อถามย้ำว่าแล้วกัมพูชาจะเชื่อหรือ เพราะเข้าไปพร้อมกับนายวีระ ที่เคยถูกจับกุมแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า “นั่นก็เป็นปัญหา” เมื่อถามว่ารู้สึกเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “เป็นธรรมดา มันงานเข้า” ด้านนายกษิต กล่าวว่า จะพยายามเดินหน้าประสานกับกัมพูชา เมื่อถามว่า เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ 7 คนไทยจะต้องถูกติดคุกในช่วงปีใหม่หรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า ไม่มีคำว่าปีใหม่ ไม่มีหยุด

    อุทาหรณ์สส.เข้าเขมร
    ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือนายพนิชว่า การแก้ปัญหาอาจต้องใช้วิธีการที่นิ่มนวล เพื่อไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องพบว่านายพนิช เดินทางไปทำหน้าที่ส.ส. และนายพนิช เป็นหนึ่งในกรรมาธิการเจบีซี.ด้วย เมื่อได้รับการร้องเรียนจึงต้องไปหาข้อเท็จจริง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯดังกล่าว อยากให้ส.ส.นำเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์ว่า ต่อไปคนที่เกี่ยวข้องกับงานเหล่านี้ขอให้พึงระมัดระวังด้วย ส่วนที่มีกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติที่เตรียมเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลนั้นอยากให้ให้เวลากับรัฐบาลในการแก้ปัญหาก่อน ไม่อยากให้มีการขยายผลจนกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว
    เมื่อถามว่านายพนิช เป็นอดีตเลขานุการรมว.ต่างประเทศ ไม่ทราบหรือว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดที่อ่อนไหว และต้องใช้ความระมัดระวัง นายเทพไท กล่าวว่า นายพนิช เดินทางไปส่วนตัว ถ้าเดินทางไปในนามตัวแทนขององค์กรก็จะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยรับทราบ ส่วนที่มองกันว่าเรื่องนี้เป็นการตบหน้ารัฐบาลไทย ที่เคยประกาศว่าความสัมพันธ์ของสองประเทศพัฒนาขึ้นแล้วนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องแยกกัน

    ฟ้องศาลพนมเปญ7คนไทย
    สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาว่า ทางการกัมพูชาได้ควบคุมตัวคนไทยทั้ง 7คน ซึ่งมีทั้ง นายพนิช นายวีระ และคณะ ไปยังศาลเทศบาลพนมเปญ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของกัมพูชาประกบตัวอย่างใกล้ชิด หลังลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยถูกจับกุมที่จังหวัดบันเตีย เมียนเจย ในเขตแดนของกัมพูชา
    สำหรับความผิดทั้งสองข้อหานี้ หากศาลตัดสินว่าผิดจริงแล้ว ต้องรับโทษสูงสุดคือ จำคุก 18 เดือน และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ศาลนัดไต่สวนนัดหน้าเมื่อใด หลังการพิจารณาคดีแล้ว ทั้งนายพนิชและคนไทยอีก 6 คน มีท่าทีเสียใจขณะถูกตำรวจคุมตัวออกจากศาล และถูกนำตัวไปยังเรือนจำเปร ซาร์ ชานกรุงพนมเปญ
    นายสก โรอุน รองอัยการศาลเทศบาลพนมเปญ เปิดเผยว่า ศาลได้แจ้งข้อหา 7 คนไทยว่า ลอบข้ามเขตแดนเข้ามาโดยผิดกฎหมายและรุกล้ำพื้นที่ทหารโดยมีเจตนาร้าย โดยระหว่างการพิจารณาคดี ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าว และ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศตึงเครียดขึ้นไปอีก หลังจากที่มีข้อพิพาทเรื่องดินแดนมานาน

    ไม่ได้ล้ำ-หวั่นติดคุกยาว
    ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพนิช ถูกจับกุม ว่า เดิมตนก็มีกำหนดการเดินทางไปกับนายพนิช ด้วย แต่บังเอิญติดภารกิจจึงไม่ได้ไป ทั้งนี้ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวเป็นการลงพื้นที่เพื่อดูข้อเท็จจริงเพื่อแก้ปัญหาข้อขัดแย้งตามที่ประชาชนแจ้งเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบ นายพนิช ในฐานะที่เป็นกรรมาธิการร่วมพิจารณากรอบเจบีซี จึงเดินทางไป ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการลุกล้ำพื้นที่ของประเทศกัมพูชา เบื้องต้นคาดว่าอาจจะเป็นความเข้าใจผิดเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถือว่าเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้พิสูจน์สิทธิ์ หรือ เรียกว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน
    “หากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อน ทางการของกัมพูชาไม่มีสิทธิที่จะมาจับตัวคนไทย แต่หากเป็นการเข้าใจผิดก็สามารถที่จะคุยกันได้ โดยไม่ต้องส่งขึ้นศาล ซึ่งการตัดสินใจเรื่องดังกล่าวทั้งหมดขึ้นอยู่กับสมเด็จฯฮุนเซน เพียงคนเดียว คาดว่าเรื่องดังกล่าวอาจจะมีลักษณะคล้ายกับกรณีที่นายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกจับกุมฐานจารกรรมข้อมูลการเดินทางเยือนกัมพูชาของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือ ผู้ที่ถูกจับจะถูกกักตัวระยะหนึ่ง และนำขึ้นสู่ศาลเพื่อรับฟังข้อกล่าวหาต่อไป” นายอรรถวิชช์ กล่าว

    กษิตเจรจาเหลวฮอร์ นัมฮอง

    ส่วนนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศของไทยได้เดินทางมาถึงกรุงพนมเปญแล้ว เพื่อหารือกับนายฮอร์ นัมฮอง รมว.ต่างประเทศของกัมพูชาในเรื่องนี้ แต่นายฮอร์ นัมฮอง เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ตนได้แจ้งให้นายกษิตทราบว่าจะยังไม่มีการปล่อยตัวคนไทยทั้ง 7 คนในขณะนี้ ขอให้ศาลได้ทำหน้าที่ตามกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงอะไรได้

    บัวแก้วลงพื้นที่ดูจุดจับกุม
    ต่อมาเวลา 13.30 น. นางวาสนา ห่อนบุญเหิม ผอ.กองเขตแดน กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะฯ เดินทางมาตรวจสอบบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น มีนายศานิตย์ นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้ว พ.ต.อ.ณัฐ สิงห์อุดม ผกก.ตชด.12 และ พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.โคกสูง ให้การต้อนรับและนำตรวจพื้นที่
    ทั้งนี้นายศานิตย์ นำคณะไปดูหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน ซึ่งเป็นจุดที่ 7 คนไทยถูกทหารเขมรจับกุม โดยเมื่อเดินลงพื้นที่ห่างจากถนนศรีเพ็ญ (ถนนเลียบแนวชายแดน) ประมาณ 600 เมตร ซึ่งเป็นแนวลวดหนามของศูนย์อพยพบ้านหนองจานเก่า เมื่อพ้นแนวลวดหนามเป็นชุมชนชาวกัมพูชาที่ปลูกบ้านรวมกว่า 500 หลังคา เมื่อถึงแนวลวดหนามมองห่างจากแนวลวดหนามประมาณ 600 เมตร เป็นถนนเคห้า มีทหารกัมพูชาจำนวนมากมีอาวุธครบมือยืนเรียงราย แล้วส่งสัญญาณห้ามเจ้าหน้าที่รุกล้ำเกินแนวลวดหนาม ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องถอยกลับมายังถนนศรีเพ็ญ

    จับเขตเขมร-เป็นจุดพิพาท
    หลังจากนั้นนางวาสนา ตรวจสอบพื้นที่ซึ่งเป็นทุ่งนาของชาวบ้านคนไทย นำแผนที่มาประกอบการและมีการสอบถามพยานที่เดินทางมากับกลุ่ม 7 คนไทยที่ถูกจับ และสรุปได้ว่าคนไทยทั้ง 7 คน เดินข้ามแนวลวดหนามเข้าไปจนถึงถนนเคห้า ซึ่งเป็นถนนของกัมพูชาคู่ขนานกับถนนศรีเพ็ญของไทย และถูกจับกุมตัวบริเวณหน้าวัดวัดโจ๊กเจีย หรือวัดโชคชัย ในหมู่บ้านโจ๊กเจีย ซึ่งอยู่ห่างจากถนนศรีเพ็ญประมาณ 1,200 เมตร
    นางวาสนา กล่าวว่า หลักเขตที่ 4647 และ 48 บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว คณะกรรมการเขตแดนยังไม่ได้เข้ามาสำรวจพื้นที่ในการปักปันเขตแดน ทำให้ประชาชนทั้งไทยและกัมพูชา เข้าใจคลาดเคลื่อนกรณีเขตแดน แต่ประชาชนทั้งสองประเทศต่างทำมาหากินกันในพื้นที่โดยไม่มีปัญหาใดๆ

    กษิตพบ7คนไทยจี้ช่วยคดี
    ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวง ให้สัมภาษณ์ถึงผลการหารือระหว่างนายกษิต และนายฮอร์ นัมฮง ว่า จากข้อมูลที่ทั้งสองฝ่ายได้ตรวจสอบ ชัดเจนว่า ทั้ง 7 คนล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชา โดยน่าจะพลัดหลงเข้าไป เรื่องดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยก็ให้ความเคารพต่อกระบวนการยุติธรรมดังกล่าว และหวังว่าจะมีการพิจารณาคดีโดยเร็ว โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ทั้งนี้นายกษิต มีโอกาสเข้าเยี่ยมคนไทย 7คนที่เรือนจำเปร ซาร์ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จัดหาทนายความเพื่อสู้คดีให้แล้ว

    พท.ติงพนิชขาดวุฒิภาวะ
    นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายพนิช ถูกจับกุมพร้อมนายวีระ ว่า ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่คนระดับนายพนิช ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศถูกจับตัว เพราะน่าจะมีความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎหมาย และสถานการณ์ที่ทั้ง 2 ประเทศกำลังมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกันอยู่ การเดินทางเข้าไปโดยไม่มีการประสานกับทางกัมพูชาก่อนน่าจะเป็นเรื่องผิดปกติ ไม่แน่ใจว่ามีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ และการที่นายพนิชเป็นส.ส.นั้น ยิ่งต้องระมัดระวัง เพราะกระทำดังกล่าวของนายพนิช มันอาจส่งผลกระทบถึงประเทศไทยโดยรวม ถือว่าขาดวุฒิภาวะทางการเมืองอย่างมาก
    “ส่วนตัวคิดว่านายพนิช คงมีเจตนาที่ดีที่จะเข้าไปหาข้อมูลเพื่อนำมาพิจารณาประกอบการเจรจา แต่การดำเนินการไม่เหมาะสม ในเรื่องนี้รัฐบาลต้องชี้แจงถึงการกระทำของนายพนิชให้ชัดเจน ถ้าหากรัฐบาลอยากให้ฝ่ายค้านประสานช่วยอีกแรงก็ยินดี เรามีความเป็นห่วงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฝ่ายค้านรู้สึกเป็นห่วงคือ เหตุการณ์ครั้งนี้นายวีระถูกจับกุมไปด้วย เกรงว่าจะคนบางกลุ่มปลุกกระแสชาตินิยมขึ้นมาอีก อาจทำให้เกิดเรื่องบานปลายกระทบต่อปัญหาอื่นๆอีก” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

    เจริญอัดอย่าขยายผล
    นายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมมาธิการร่วมพิจราณากรอบ เจบีซี กล่าวเรียกร้องให้นักการเมืองฝ่ายค้านยุติการนำประเด็นปัญหาชายแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชามาขยายผลเป็นประเด็นทางการเมือง เนื่องจากเกรงว่าจะกลายเป็นบทสะท้อนของความขัดแย้งภายในประเทศ ดังนั้นควรที่จะร่วมสนับสนุนหรือร่วมระดมสมองเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา

    พันธมิตรกดดันรัฐบาล
    ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 16.30 น. กลุ่มพันธมิตรฯ ประมาณ 20 คน นำโดย พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ เดินทางมายื่นหนังสือเร่งรัดให้รัฐบาลดำเนินการให้กัมพูชาปล่อยตัวคนไทยทั้ง 7 คน โดยไม่มีเงื่อนไขภายในเวลา 3 วัน และให้รัฐบาลดำเนินการเอาผิดกับทหารกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาจับคนไทยทั้ง 7 คนในดินแดนของไทย หากไม่มีคำตอบที่ชัดเจน วันที่ 31 ธ.ค.นี้จะเริ่มเคลื่อนไหวไปที่หน้ายูเอ็น และสถานทูตกัมพูชาต่อไป

    ตอบโต้ไล่เขมรพ้นไทย
    นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่และแกนนำพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า แกนนำพันธมิตรฯทั้งหมดได้ประชุมด่วนที่บ้านพระอาทิตย์ ในกรณีกัมพูชาจับ 7 คนไทยขึ้นศาลกัมพูชา โดยพันธมิตรฯเตรียมออกแถลงการณ์นัดชุมนุมเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาลไทย ให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือโดยไม่จำเป็นต้องขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม หากรัฐบาลกัมพูชา ไม่ปล่อยตัวคนไทย รัฐบาลไทยจะต้องดำเนินการผลักดันชาวเขมรที่ลุกล้ำพื้นที่รอบเขาพระวิหารออกไปให้หมดโดยเร็วเพื่อเป็นการต่อรองและกดดันรัฐบาลกัมพูชาบ้าง
    “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะกัมพูชาไม่มีความเกรงใจรัฐบาลไทยและไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ การเดินพลัดหลงเข้าเขตแดนที่ชายแดนติดต่อกันเป็นเรื่องปกติที่ประเทศทั่วโลกอื่นๆที่ชายแดนติดกันก็มีปัญหาอย่างนี้เกิดขึ้นเสมอ แต่ไม่มีประเทศใดดำเนินการโหดเหี้ยมอย่างนี้เพราะทุกประเทศในโลกถือว่าเป็นเรื่องต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของบุคคลด้วย ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่ดำเนินการอย่างใดพันธมิตรฯจะออกมาเคลื่อนไหวใหญ่ก่อนวันที่ 25 ม.ค.54 ที่ได้นัดชุมนุมให้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยูปี 43” นายสมศักดิ์ กล่าว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :จิ้มจุ่ม (สมาชิก) โพสเมื่อ [ วันศุกร์ ที่ 31 ธันวาคม 2553 เวลา 09:56 น.] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    31 ธ.ค. 53


    สวัสดีปี ๕๔

    สวัสดี-----------ปีกระต่าย--------ต้องตื่นตัว
    อย่าแต่มัว-------นอนหลับ--------เหมือนเรื่องเต่า
    ถ้าประมาท-------มัวแต่รอ--------ก็งานเข้า
    ชีวิตเรา----------ชีวิตเขา---------เฝ้าลำเค็ญ

    ขึ้นปีใหม่----------ทั้งที--------ขออวยพร
    ให้พี่น้อง----------ที่ทำดี-------มีเงินใช้
    ปราศจาก---------โรคะ--------อันตราย
    ให้พ้นภัย----------อยู่รอด------ตลอดเอย



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  18. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    Happy New Year 2011
    สุขสันต์วันปีใหม่2554ครับ

    http://palungjit.org/newreply.php?do=newreply&p=2795426
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2010
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "เราทำความพยายาม แม้จะตายก็พ้นคำครหา"

    [​IMG]

    ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 8

    จากตอนที่แล้วพระโพธิสัตว์ เมื่อทรงทราบว่า เรือจะต้องอับปางแน่นอน จึงได้รีบเสวยน้ำตาลกรวดคลุกกับเนยจนอิ่ม จากนั้นก็นำผ้าเนื้อเกลี้ยงสองผืนที่ชุบน้ำมันจนชุ่ม ทรงนุ่งให้กระชับ ประทับยืนเกาะเสากระโดง แล้วก็ทรงปีนขึ้นไปประทับยืนบนยอดเสากระโดงนั้น

    ในเวลาเรือจมลง ก็ทรงกำหนดทิศที่ตั้งของเมืองมิถิลา แล้วก็กระโดดจากยอดเสากระโดงไปทางทิศนั้น ข้ามพ้นฝูงปลาร้ายไปตกอยู่ในที่ไกลจากเรือ ​

    พระมหาชนกนั้น ทรงเพียรแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทร จนถึงวันที่ ๗ ได้ทรงสังเกตเห็นพระจันทร์เต็มดวง ก็ทรงรู้ว่าวันนี้เป็นวันอุโบสถ จึงใช้น้ำทะเลบ้วนพระโอษฐ์ และทรงสมาทานอุโบสถศีล ​

    ในวันนั้น นางมณีเมขลาได้มาตรวจตรามหาสมุทร ก็เห็นพระมหาชนกโพธิสัตว์ กำลังทรงแหวกว่ายอยู่กลางมหาสมุทรจึงคิดว่า “ถ้าพระมหาชนกสิ้นพระชนม์ในมหาสมุทร เราจะมีความผิดอย่างมหันต์” จึงรีบเหาะมาสถิตอยู่ในอากาศ เหนือท้องมหาสมุทรตรงที่พระโพธิสัตว์กำลังว่ายน้ำอยู่​

    นางเกิดความอัศจรรย์ใจ ว่าแม้ฝั่งก็มองไม่เห็น แล้วพระองค์จะว่ายไปทำไม จึงถามว่า “ใครหนอ แม้จะแลไม่เห็นฝั่งก็ยังพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร ท่านเห็นประโยชน์อะไรจึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้”​

    พระโพธิสัตว์ จึงตรัสตอบว่า “เราเห็นปฏิปทาของโลกและอานิสงส์แห่งความเพียร จึงพยายามเรื่อยไป หากไม่พากเพียรแล้วจะพบความสำเร็จได้อย่างไร”​

    นางมณีเมขลาได้ฟังความตั้งใจอันแน่วแน่ของพระโพธิสัตว์แล้ว ก็อัศจรรย์ เกิดกำลังใจใคร่จะฟังธรรมจากพระโพธิสัตว์ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป จึงถามต่ออีกว่า “มหาสมุทรลึกจนประมาณไม่ได้ แม้ฝั่งก็ไม่ปรากฏ ความพยายามอย่างลูกผู้ชายของท่านทำไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่ทันถึงฝั่งท่านก็จะต้องตายอย่างแน่นอน ท่านจะเพียรพยายามไปทำไมกัน”​

    พระมหาชนกตรัสว่า “ท่านพูดอะไรอย่างนั้น เราทำความพยายาม แม้จะตายก็พ้นคำครหา บุคคลเมื่อกระทำความเพียร แม้จะตายก็ได้ชื่อว่า ไม่เป็นหนี้ในระหว่างหมู่ญาติ กับทั้งบิดามารดาและเทวดา อนึ่ง บุคคลเมื่อทำกิจอย่างลูกผู้ชาย ย่อมไม่เดือดร้อนใจในภายหลัง ดูก่อนเทพธิดา บุคคลเมื่อทำความเพียร แม้จะตายก็ไม่เป็นหนี้ ย่อมไม่ถูกติเตียนในระหว่างหมู่ญาติ แม้เทวดาและพรหมก็สรรเสริญ”

    เทพธิดากล่าวแย้งว่า “ท่านมหาบุรุษ การงานอันใด แม้ทุ่มเทจนสุดกำลังแล้ว ก็ยังไม่บรรลุผลสำเร็จ การงานนั้นก็นับว่าไร้ผล เป็นความสูญเสียเปล่า ไม่เกิดประโยชน์ การทำความพยายามในฐานะอันไม่สมควรจนตัวเองต้องตาย ความพยายามนั้นจะมีประโยชน์อะไร”​

    พระมหาชนกได้สดับแล้ว เมื่อจะทรงยืนยันว่าความเพียรเป็นสิ่งที่ควรทำ แม้ชีวิตจะวอดวายไปก็ตาม จึงตรัสต่อไปว่า “ดูก่อนนางเทพธิดา ผู้ใดรู้แจ้งว่าการงานที่ทำจะไม่ลุล่วงไปได้ ถ้าผู้นั้นละความเพียรนั้นเสีย ก็ชื่อว่าไม่รักษาชีวิตของตน พึงรู้เถิดว่า นั่นเป็นผลแห่งความเกียจคร้านโดยแท้ ​

    ดูก่อนเทพธิดา คนบางพวกในโลกนี้ มองเห็นผลแห่งความประสงค์ของตน จึงประกอบการงานทั้งหลาย ไม่ว่าการงานเหล่านั้นจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ​

    ดูก่อนเทพธิดา ท่านก็เห็นประจักษ์แก่ตนแล้วมิใช่หรือ คนอื่นๆ จมลงในมหาสมุทรหมดแล้ว มีแต่เราคนเดียวยังว่ายอยู่ ก็เพราะความเพียรพยายามนี้เอง จึงทำให้เราได้เห็นท่านซึ่งมาสถิตอยู่ใกล้ๆ เรานั้นจักพยายามอย่างสุดความสามารถ จะทำความเพียรที่บุรุษควรทำ เพื่อไปถึงฝั่งแห่งมหาสมุทรนี้ให้จงได้”​

    เทพธิดาได้สดับพระวาจาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของพระโพธิสัตว์ ก็รู้สึกอัศจรรย์ในหัวใจที่ปราศจากความย่อท้อของพระมหาชนก นึกเลื่อมใสในคำภาษิตของพระองค์ ​

    จึงกล่าวสรรเสริญ พร้อมทั้งเชื้อเชิญให้ขึ้นจากมหาสมุทรว่า “ท่านใดถึงพร้อมด้วยความพยายามโดยธรรม ด้วยกิจคือความเพียรของบุรุษ ไม่ยอมจมลงในห้วงมหรรณพซึ่งกว้างใหญ่ประมาณมิได้เห็นปานนี้ ท่านนั้นจงไปยังสถานที่ที่ท่านชอบใจเถิด” ​

    เราจะเห็นได้ว่า ผู้มีความเพียรอย่างแท้จริงนั้น แม้ทอดสายตาออกไป จะไม่เห็นขอบฝั่งแห่งทะเล แต่จิตใจของท่านก็ไม่ท้อแท้ เมื่อรู้ว่าทะเลย่อมมีฝั่ง จึงคิดแต่จะว่ายไปให้ถึงฝั่งให้ได้ เมื่อเรี่ยวแรงยังไม่สิ้นสุด ท่านก็จะไม่หยุดยั้งในการทำความเพียร เพราะผู้ที่มีความเพียรแม้จะไม่สำเร็จก็ย่อมได้รับการสรรเสริญ ​

    ท่านทั้งหลาย คงได้ทราบถึงหัวใจที่กว้างใหญ่เกินฟ้าครอบของพระโพธิสัตว์กันแล้ว ว่าจะไม่ยอมหยุดทำความเพียรจนกว่าจะถึงเป้าหมาย แม้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต ซึ่งเมื่อนางมณีเมขลาได้ฟังถ้อยคำที่มุ่งมั่นของท่านแล้ว ก็ได้กล่าวสรรเสริญ ​

    เทพธิดาได้ถามพระโพธิสัตว์ว่า ท่านประสงค์จะไปในที่ใด เมื่อพระโพธิสัตว์ตรัสว่า มิถิลานคร นางจึงได้อุ้มพระมหาชนกโพธิสัตว์ขึ้นจากน้ำ โดยใช้แขนทั้งสองประคองให้นอนแนบทรวง พาเหาะไปในอากาศเหมือนมารดาอุ้มบุตรอันเป็นที่รัก ฉะนั้น​

    ขณะนั้น พระโพธิสัตว์มีผิวกายซูบซีดเศร้าหมองเปื่อยยุ่ย เพราะทรงแช่อยู่ในน้ำทะเลตลอด ๗ วัน ครั้นได้รับสัมผัสอันเป็นทิพย์ที่อบอุ่นนุ่มนวลของนางเทพธิดา ร่างกายก็กลับคืนสู่สภาพปกติได้บรรทมหลับไปอย่างมีความสุข ​

    นางมณีเมขลาได้นำพระมหาชนกไปถึงมิถิลานคร ให้บรรทมบนแผ่นมงคลศิลาในสวนมะม่วงโดยคลุมผ้าไว้ และมอบให้ภุมเทวดาในสวนอารักขาต่อไป แล้วจึงกลับไปสู่ที่อยู่ของตน​



    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2011
  20. คุชินาดะ

    คุชินาดะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +1,215
    [​IMG]

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทาน ส.ค.ส.ปี พ.ศ.2554 แก่ปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวาระดิถีขึ้นปีใหม่

    ส.ค.ส.พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในปีพุทธศักราช 2554 นี้เป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
    ในฉลองพระองค์สากลสีครีมผ้าปักพระกระเป๋าเป็นผ้าลายริ้วสีเหลืองสลับเทา ฉลองพระองค์ชั้นในเป็นเชิ้ตขาวทรงผูกเนคไทลายริ้วสีเหลืองสลับเทา
    ประทับบนเก้าอี้ด้านข้างพระเก้าอี้ที่ประทับทั้งสองข้างมีโต๊ะสูงโต๊ะด้านซ้ายวางแจกันแก้วก้านสูงปักดอกไม้หลากสีโต๊ะ
    ด้านขวาวางแจกันแก้วขนาดเล็กปักดอกไม้หลากสีเช่นกัน ทรงฉายกับสุนัขทรงเลี้ยง 2 สุนัข คือคุณทองแดงที่ทรงเลี้ยงมาตั้งแต่ปี 2541
    หมอบอยู่หน้าพระเก้าอี้ด้านขวาและคุณทองแท้ที่ทรงเลี้ยงมาตั้งแต่ปี 2542 หมอบอยู่หน้าพระเก้าอี้ด้านซ้าย

    ด้านหลังพระเก้าอี้ที่ประทับประดับเป็นผ้าม่านสีเทาอ่อนมีแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ปักดอกกุหลาบและดอกไฮเดรนเยียหลากสีตั้งอยู่
    2 แจกันแจกันด้านซ้ายมีตราพระมหาพิชัยมงกุฎประดับอยู่ ส่วนแจกันด้านขวามีผอบทองประดับอยู่ถัดไปทางด้านหลังทั้งสองด้านมีกระถางไม้ประดับตั้งอยู่

    มุมบนด้านซ้ายมีตัวอักษรสีเหลืองข้อความว่า ส.ค.ส. สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ มุมบนด้านขวามีข้อความภาษาอังกฤษ Happy New Year 2011

    ด้านล่างของ ส.ค.ส.มีข้อความเป็นตัวหนังสือพิมพ์ด้วยสีน้ำเงินว่า
    ขอจงมีความสุข ความเจริญ มุมล่างขวา
    มีข้อความ ก.ส. 9 ปรุง 121923 ธค.53
    พิมพ์ที่โรงพิมพ์สุวรรณชาด ท.พรหมบุตร, ผู้พิมพ์โฆษณา
    Printed at the Suvarnnachad publishing , D Bramaputra , Publisher

    กรอบของ ส.ค.ส. พระราชทานฉบับนี้เป็นภาพใบหน้าคนเล็กๆ เรียงกันด้านละ 3 แถวทุกหน้า มีแต่รอยยิ้ม

    ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...