เพี้ยนไปจากยุคสมณโคดมมากเหลือเกิน 2

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Amantrai, 11 มกราคม 2011.

  1. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    คิดว่าทุกท่านที่คลิกกระทู้นี้ ต้องคุ้นเคยกับพุทธพจน์

    อัตตาหิ อัตตาโห นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

    พุทธพจน์ คือ คำพูดจากพระโอษฐ์ ทั้งคำพูดและความหมายชัดเจนอยู่แล้วไม่ต้องอธิบาย ทำไมท่านไม่กล่าวว่า อนัตตาหิ อนัตตาโห นาโถ ในเมื่อ ทุกขํ อนิจจํ อนัตตา

    มหาบุรษผู้บรรลุอรหันต์เยี่ยงท่านย่อมไม่กล่าวอะไรที่ขัดกันเอง นอกเสียจากว่า เขียนกันขึ้นมาในภายหลัง

    จะดับทุกข์ก็ต้องดับตน
    เพราะตัวตนเป็นบ่อเกิดของทุกข์ ทุกข์เพราะเกิด แก่ เจ็บ ตาย
    เพราะมีตัวตนจึงเกิดได้ แก่ได้ เจ็บได้ ตายได้
    ถ้าไม่มีตัวตน จะเอาอะไรมาเกิด แก่ เจ็บ ตาย

    ผมเชื่อว่าสมัยสมณโคดม ท่านสอนวิธีดับทุกข์โดยตรง มากกว่าอะไรต่อมิอะไรมากมายก่ายกอง ดังปัจจุบัน


    ;);););)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  2. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,065
    ค่าพลัง:
    +2,682
    อ่านมาสองกระทู้..
    ยังไม่ละเอียดพอนะครับ ระวังจะเพี้ยนไปมากกว่านี้ก็เป็นพอ

    อย่างคำข้างบน คนปัญญาไม่พอบวกกับจังหวะผิดหวังของชีวิตอาจจะฆ่าตัวตายเพราะคำนี้ก็ได้นะ จะเป็นบาปแถมไม่มีความครบถ้วน ไม่มีคำสอนอ้างอิงจากตำรา

    ที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมก็เพราะต่างคนต่างตั้งตนเป็นที่ตั้งนี่แหละ
    ใส่ความชอบใจ ไม่ชอบใจ เข้าไปในพุทธวัจนะตามอำเภอใจ

    จะดับทุกข์ต้องดับที่ต้นเหตุแห่งทุกข์ไม่ใช่ดับที่ตัวตนที่หมายถึงขันธ์5 อายตนะ6
    ดับที่จิตที่เป็นทุกข์เป็นสุขต่างหาก ทุกข์สุขนี้ก็มีเหตุและปัจจัยทำให้เกิดและดับ
    และจะไม่เกิดและไม่ดับนี้ก็ด้วยเหตุและปัจจัยเช่นกัน กิเลส ตัณหา อุปาทาน


    เจริญธรรมครับ
     
  3. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +2,985
    อ้างอิง......

    จะดับทุกข์ต้องดับที่ต้นเหตุแห่งทุกข์ไม่ใช่ดับที่ตัวตนที่หมายถึงขันธ์5 อายตนะ6
    ดับที่จิตที่เป็นทุกข์เป็นสุขต่างหาก ทุกข์สุขนี้ก็มีเหตุและปัจจัยทำให้เกิดและดับ

    กาย คือ ต้นโพธิ์ จิต คือ กระจกเงา ถ้าไม่มีต้นโพธิ์และกระจกเงา ฝุ่นจะลงจับที่ใด.....
     
  4. YOMI_NK

    YOMI_NK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +91
    โลกไม่ได้บัดซบหรอกครับ...คนที่เกิดมาในโลกนี้ล้วนแต่มีสิ่งที่ต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้แน่นอนคับ เพราะโลกในสายตาของมนุษย์แล้วล้วนมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งสาวยงามถึงได้มากันมากมายอย่างนี้ไงคับ อย่างน้อยคุณกับผมก็ยังมองว่าผู้หญิงสวยๆนี่น่ากอดจังเลย....นั่นแหละที่ทำให้คุณกับผมเกิดมาบนโลกใบนี้....โลกใบนี้ไม่ได้บัดซบหรอกแต่ที่บัดซบคือคุณกับผมนั่นเอง....ที่ต้องการมาลิ้มรสของโลกใบนี้....^_^
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ในฐานะที่เป็นศิษย์ พระพุทธองค์ ตัวจริงเสียงจริง ก็จะขอกล่าวว่า

    นั่นเป็นเพียงที่คุณคาดเดาด้วย ความคิดความปรุงของตนเสียมากกว่าการพิสูจน์ได้ด้วยความจริง

    ดังที่ยกมานี้ ความคิด ความเข้าใจของคุณ คิดไปเองว่า ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    คุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่า อนิจจังเป็นอย่างไร ทุกขังเป็นอย่างไร และ อนัตตาเป็นอย่างไร

    คุณยังเข้าใจธรรม เพียงธุลี แล้วจะไปสรุปว่า คนภายหลังแต่งเติมขึ้นมา หรือ ข้อสรุปอื่นๆ เป็นดังคนฟุ้งซ่าน แล้วอาศัยคิดเองเออเอง

    จะขอตอบให้ฟัง

    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็น สามัญลักษณะของสรรพสิ่ง

    แต่ หากสรรพสิ่งเป็นเช่นนั้นเสมอไป ก็แสดงว่า มีความจริงที่แน่ชัดว่า ความจริงนั้นครอบ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั้นจะไม่แปรเปลี่ยนไป ไม่เข้ากับสภาพอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    เรียกว่า ความบริบูรณ์ เพราะหากว่า ความจริงนั้นยังเข้ากฎ ไตรลักษณ์นี้ แสดงว่า ความจริงนั้น ก็ไม่เป็นจริง

    ก็ อัตตาหิ อัตโนนาโถ นั้นถูกแล้ว ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ก็หากว่า ตนเข้าถึงอมตะธรรมนั้น ตนจะต้องไป เข้าสู่กฎอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาอีกหรือ

    ธรรมเป็นตน ตนเป็นธรรม เป็นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ใจ ใจเป็นธรรม

    นี่แหละ แต่ฝากเอาไว้หนึ่งอย่างว่า อย่าคิดอนุมานด้วยตรรกะ
     
  6. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    หลวงตาบัว กล่าว พุทธพจน์เรื่องนี้ บ่อยๆว่า

    ตถาคต เป็นเพียงแต่ผู้บอก

    ตนแล เป็น ที่พึ่งแห่งตน

    ถ้าตนไม่พิจรณา หรือ ไม่ปฏิบัติ ใครละจะมาเป็นที่พึ่งให้เจ้ายาม เจ้าจะตาย

    พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะเป็นที่พึ่งให้ได้อย่างไร

    ถ้าตนแล ยังไม่เป็นที่พึ่งแห่งตน
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,670
    ค่าพลัง:
    +51,947
    <TABLE id=post880982 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>23-12-2007, 08:48 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #3 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_880982", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 10,962
    Groans: 1
    Groaned at 473 Times in 325 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 212
    ได้รับอนุโมทนา 70,509 ครั้ง ใน 10,075 โพส
    พลังการให้คะแนน: 5023 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_880982 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ****

    ตน ตัวแรก...คือ ตัวกระทำตนของเรา
    ตน ตัวหลัง....คือ ตัวตนของเรา


    ตัวกระทำ...คือ ผลการกระทำที่ไม่สูญสลาย ติดตัวเราไปตลอดกาล
    และส่งผลตอบแทนให้เสมอ
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,670
    ค่าพลัง:
    +51,947
    <TABLE id=post744363 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>07-10-2007, 03:51 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #8 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_744363", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 10,963
    Groans: 1
    Groaned at 473 Times in 325 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 212
    ได้รับอนุโมทนา 70,510 ครั้ง ใน 10,075 โพส
    พลังการให้คะแนน: 5023 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_744363 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** ลองพิจารณาทบทวน ****

    เหตุหนึ่งที่พระไตรปิฎกมาปรากฏ
    เพราะ..."หลักสัจจะธรรม" ความจริงในธรรมชาติถูกบดบังด้วยความเห็น
    คนไม่เห็นคุณค่าของ "สัจจะ"

    โลกุตตระกล่าวไว้ว่า....ทำดีก็เป็นตน ทำชั่วก็เป็นตน ทำโดยเจตนาก็เป็นตน ทำโดยไม่เจตนาก็เป็นตน

    แต่ทุกวันนี้....ไปสอนตามความคิดเห็น ไม่ตรงกับความจริง
    สอนว่า ....ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่มีเขา ไม่มีเรา
    จึงตรงข้ามกับ "ความจริง"...ตรงข้ามกับ "หลักสัจจะธรรม"

    เพราะ
    หลักสัจจะธรรม... เป็นเรื่องของผลการกระทำที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย ติดตัวเราไป และมีผลตอบแทน
    ผลการกระทำ จากสิ่งที่เราได้ทำไปแล้ว ...เรียกว่า "ตัวกระทำ"
    จึงเป็นเรื่องของตัวตนทั้งสิ้น

    หาก...สิ่งนี้ไม่ตรงกับความคิดท่าน
    ขอให้ท่านลองพิจารณาถึงเหตุและผล
    หาก...ทำไปแล้วไม่มีตัว ไม่มีตน....แล้วผลตอบแทนจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
    แล้ว คนจะสะสมบารมี เป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไร

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    ที่เจ้าของกระทู้ยกขึ้นมาคำว่า อัตตาหิ อัตตาโห นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ทำไมไม่กล่าวว่า อนัตตาหิ อนัตตาโห นาโถ ในเมื่อ ทุกขํ อนิจจํ อนัตตา จะดับทุกข์ก็ต้องดับตน
    เพราะตัวตนเป็นบ่อเกิดของทุกข์ ทุกข์เพราะเกิด แก่ เจ็บ ตาย
    เพราะมีตัวตนจึงเกิดได้ แก่ได้ เจ็บได้ ตายได้
    ถ้าไม่มีตัวตน จะเอาอะไรมาเกิด แก่ เจ็บ ตาย <<ส่วนนี้คือใจความสำคัญที่อยากถามถูกต้องนะครับ

    ก่อนอื่นให้เรามารู้จักคำว่า ตน หรือ อัตตา กันก่อน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้ว่า "ให้ระลึกไว้เสมอว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเราไม่ใช่ตัวเรา" จากที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดังนี้ แล้วตัวเราละอยู่ที่ไหน คำว่า ตนหรืออัตตาอยู่ตรงไหน เราก็มาดูที่จิตกันบ้างว่าจิตนี้ใช่ตัวเราไหม จากที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานฤาษี วัดท่าซุงได้เมตตาบอกไว้ว่า "สิ่งใดถ้าเป็นเราเป็นของเรา เราต้องบังคับมันได้" เราก็มาดูจิตกันว่าเวลาเรามีความรู้สึกรัก โลภ โกรธ หลง เราบังคับได้ไหม คำตอบก็คือ เราบังคับได้ระงับไว้ซึ่งอารมณ์แห่งจิตได้ แสดงว่าจิตนี้คือตัวของเรา ต่อไปมาดูทีร่างกายบ้าง เราบังคับร่างกายนี้ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ป่วย ไม่ให้แก่ ไม่ให้ตาย ไม่ให้หิวได้ไหม เกิดมาหน้าตาไม่ดีพิกลพิการ บังคับให้มันดีได้ไหม คำตอบก็คือเราบังคับมันไม่ได้ ก็แสดงว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ตัวเรา เข้าใจกันไหมครับ จากที่เจ้าของกระทู้ได้ถามมา เจ้าของกระทู้คิดว่าร่างกายนี่คือตัวเราของเราหรืออัตตา แต่ก็ยังเข้าใจว่าร่างกายนี้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทำให้เกิดความสับสนขึ้น ผมเข้าใจถูกนะครับ ทีนี้เราจะมาแก้ความสับสนกัน จากที่ผมอธิบายไว้ข้างบน ตัวเราหรืออัตตานี่คือจิต ส่วนร่างกายนี่ไม่ใช่ตัวเราไม่ใช่ของเรา ร่างกายนี้จึงเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ร่างกายนี้มันไม่เที่ยง เป็นทุกข์และสลายตายพังไปในที่สุด(จากที่เจ้าของกระทู้บอกว่าจะดับทุกข์ก็ต้องดับตน เพราะตัวตนเป็นบ่อเกิดของทุกข์ ทุกข์เพราะเกิด แก่ เจ็บ ตายมีความผิดพลาดไม่ตรงตามความจริงนิดหน่อยทำให้ท่านสับสน) ผมก็จะอธิบายว่า จะดับทุกข์ก็ต้องดับที่ตน คือดับที่จิตใจของเรา ไม่ให้รักโลภโกรธหลงครองใจเราเราก็จะหมดทุกข์ (ส่วนที่บอกว่าตัวตนเป็นบ่อเกิดของความทุกข์ทำให้เกิด แก่เจ็บ ตาย เจ้าของกระทู้หมายถึงร่างกาย) ผมก็จะอธิบายว่า ร่างกายนี้ทำให้เป็นทุกข์เจ้าของกระทู้ท่านเข้าใจถูก แต่ที่บอกว่าตัวตนของเราทำให้เกิดทุกข์เจ้าของกระทู้เข้าใจผิด เพราะร่างกายนี้ไม่ใช่ตัวเราไม่ใช่อัตตา แบบนี้พอจะหายสับสนไหมครับ ถ้าจะดับทุกข์ต้องดับที่จิตหรือตับที่ตัวเราหรืออัตตานั่นเอง(ดับที่จิตคือดับอารมณ์รักโลภโกรธหลงนะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจว่าให้ดับจิตให้สลายหายไป)ก็ต้องทำตามพุทธพจน์ที่ว่า "อัตตาหิ อัตตาโห นาโถ" ฝึกจิตเราไม่ให้หลงคิดว่าร่างกายนี้มันดีเป็นของดีเพราะร่างกายนี้มันไม่ใช่ตัวเราของเรา ร่างกายนี้มีแต่ความมีแต่ความทุกข์หาความสุขไม่ได้ ร่างกายนี้ตั้งอยู่ในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง และสลายหายไปในที่สุด ดังคำที่ว่า อนิจจังทุกขังอนัตตา
     
  10. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    ก็ไปเอาประเด็นที่ว่า บังคับไม่ให้แบบนั้นมาอ้าง ถามจริงเถอะ ทุกวันนี้ที่กินข้าว ล้างหน้า แปรงฟัน ฯลฯ ไม่ได้บังคับร่างกายตนเองหรือ ใครมาบังคับให้ทำไม่ทราบ

    ถ้าจะบังคับไม่ได้ก็ต้องไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่บังคับไม่ได้ด้วยกฏธรรมชาติมาอ้าง

    อย่างร่ายกายของคุณ ใช่! มันไม่ใช่ของผม ผมถึงบังคับมันไม่ได้เลย แต่ร่างกายของผม ผมบังคับมันได้ เว้นแต่วัฏจักรธรรมชาติ เกิด แก่ ตาย เท่านั้นที่ผมบังคับมันไม่ได้

    รู้ไหม? จากท่านอนหงาย ผมสามารถขึ้นมาอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิโดยไม่ต้องใช้มือท้าวยันพยุงตัวลุกขึ้นมา อย่างนี้เรียกว่าบังคับร่างกายตนเองหรือเปล่า?

    คนที่บังคับร่างกายตนเองไม่ได้ก็คือพวกโคม่า ตายทั้งเป็นไง เป็นเจ้าหญิงนิทรา


    ;););)
     
  11. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    ถ้าตรรกะเหตุผลใช้ไม่ได้ หรือคิดเองไม่ได้
    นั่นก็เป็นสภาวะที่จิตถูกชี้นำแล้ว ซึ่งอาจจะสถานเบากว่าถูกสกดจิตนิดหน่อยเท่านั้น

    มันเป็นเงื่อนไขทางจิตไง

    ห้ามคิดห้ามใช้ตรรกะ คุณต้องเชื่อแบบนี้ก่อน แล้วมันจะเป็นแบบนั้น แบบนี้มันเงื่อนไขทางจิตวิทยา

    ;);););)
     
  12. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    นับถือ นับถือ

    ชัดเจน เปลี่ยน

    ;););)
     
  13. ปรม

    ปรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +325
    เราเกิดมาชาติหนึ่ง ก็จะต้องเพิ่มอุปนิสัยที่ดี
    และขัดเกลาแก้ไขนิสัยที่ไม่ดีให้หมดไป
    เราต้องใช้วันเวลาเพื่อการนี้นะลูกนะ
    วันหนึ่งคืนหนึ่งมันประเดี๋ยวเดียว เดี๋ยวก็หมดเวลาแล้ว
    หลับตาลืมตา ไม่กี่ทีก็มืดแล้ว
    เราเกิดมาสร้างบารมี ก็ต้องสร้างบารมีให้เต็มที่
    อย่าให้กำลังใจของเราตกต่ำ อย่าไปหวังพึ่งกำลังใจจากใคร
    หรือไปเที่ยวขอกำลังใจจากคนอื่น
    เหมือนนวณิพกหรือเหมือนมหาทุคตะที่ยากจนกำลังใจ
    อย่าทำอย่างนั้นนะลูกนะ
    กำลังใจมันอยู่ในตัวเรา
    จะดึงเอาออกมาใช้เท่าไรก็ได้เท่านั้น
    แล้วมีมากไม่มีที่สิ้นสุด
    เหมือนภูเขาหรือทะเลแห่งกำลังใจที่ไม่มีฝั่ง
    และยิ่งใหญ่กว่าภูเขาพระสุเมรุ กว้างกว่าทะเลมหาสมุทร
    สอนตัวเองให้ได้อย่างนี้
    ดึงกำลังใจมาใช้ในการทำความดี ในการสร้างบารมี
    อย่าฝึกนิสัยท้อแท้ เบื่อหน่าย สิ้นหวัง อย่างนี้ไม่เอา
    เดี๋ยวมันจะติดข้ามภพข้ามชาติ

    โอวาทพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
     
  14. Candle light

    Candle light สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +4
    กิเลสของใครคนนั้นย่อมต้องเป็นคนดับด้วยตัวเอง ไม่มีใครมาช่วยคุณได้

    ..........................ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน...........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มกราคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...