กายธาตุ ปราณ และวิญญาณ

มนุษย์เรา ต้องมีองค์ประกอบทั้ง 3 อย่างนี้ และเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้

กายธาตุ แม้วิทยาศาสตร์จะหาส่วนประกอบได้ แต่จะใช้ธาตุตามสัดส่วนทุกอย่างสร้างร่างกายไม่ได้

ปราณ สืบทอดจากพ่อแม่ไปสู่ลูกเท่านั้น พ่อไปสู่อสุจิ แม่ไปสู่ไข่ แล้วปฏิสนธิกันก็จะเป็นปราณก่อนกำเนิด

วิญญาณ ต้องผนึกเข้ากับปราณก่อนกำเนิดให้ทันในช่วงที่พอดีกับการปฏิสนธิ จึงจะเป็นเจ้าของปราณนั้นได้

หลังจากวิญญาณผนึกเข้ากับปราณเป็นจิต ก็จะใช้ปราณนั้นเรียกธาตุของเขาเข้าสู่ครรภ์มารดา เพื่อสร้างกายธาตุขึ้นมาใหม่

ผู้ที่มีพลังจิต ปรมาตมัน จะกำหนดรูปร่างที่เกิดใหม่ให้เหมือนเดิมได้ด้วยธาตุที่เป็นของเขา

ซากศพ หรือ กายธาตุของเขา ที่ถูกเผาไปเมื่อเขาตาย ธาตุของเขาไม่ได้ถูกเผาไหม้สลายไป เพียงแต่ถูกทำลายพันธะทางโมเลกุลเท่านั้น เพราะสสารย่อมไม่สูญสลายไปจากโลก

 

การสร้างกายธาตุเป็นเรื่องยากมากนะครับ

ขณะเป็นทารกคงสร้างไม่ไหวมั้ง >_<

 

วิชาของทางธิเบตเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะตายจะทำสมาธิและส่งความรู้สึกทั้งหมดออกไปทางจักระที่6 เชื่อว่าจะคงสัญญาในชาตินี้ไว้ได้เมื่อไปเกิดใหม่ในชาติต่อไป การสืบทอดตำแหน่งสำคัญของพระธิเบตจึงใช้หลักระลึกสัญญาในอดีตชาติเป็นเครื่องตัดสินว่าใครเป็นตัวจริง

 

ด้วยเหตุนี้เราจึงพบเห็นผู้มีปานดำประหลาดเป็นรูปมือ ลายก้นหอยของนิ้วมือ ตามตำแหน่งต่างๆในร่างกาย นั่นเพราะเพื่อนหรือญาติของเขาเมื่อชาติที่แล้วได้ใช้เขม่าทำเครื่องหมายไว้บนร่างอันไร้วิญญาณของผู้ตาย

เมื่อเขามาเกิดใหม่ เขาเรียกธาตุของเขามาสร้างร่างใหม่ สัญลักษณ์ที่ทำไว้จึงติดมาด้วยเพราะเป็นคาร์บอนเหมือนกันกับร่างกายของคนเราที่ประกอบด้วยดาร์บอนเป็นหลัก

 

เป็นทารกแต่ร่างกายเท่านั้นนะครับ

แต่จิต เป็นวิญญาณเดิมที่รวมกับปราณใหม่

 

จริง! หากมองธาตุทุกสิ่งเป็นเพียงพลังงานจะเข้าใจในสรรพสิ่งมากขึ้น!~
การเกิดดับของเซลย์ต่างๆในร่างกายนั้ก้เป็นเพียงการถ่ายเทเปลี่ยนแปลงพลังงานธาตุ!
วิทยาศาสตร์ศึกษา!~ หากได้เพียงแค่รู้!~ มิเหมือนพุทธะ สอนให้รู้จริงของการมีอยู่ของรูปพลังงานงาน ท้ายสุดจึงรู้แจ้งของการเกิดดับของพลังงาน...

เฉกเดียวกัน เทวะ และเดวะ ดำรงค์อยู่ด้วยรูปแห่งพลังงาน สุดแท้แต่ว่าแต่ละพระองค์ทรงดำรงค์ด้วยพลังงานแบบไหน หากท้ายที่สุดแล้ว ทรงดำรงค์ด้วย "หน้าที่"