เทศน์ปรมัตถ์ (ภิกษุเสพเมถุน ต้องปาราชิก) ~ พระอาจารย์จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เฮียปอ ตำมะลัง, 19 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    เทศน์ปรมัตถ์


    คัดลอกมาจาก


    หนังสือ พระวินัย ๒๒๗


    เทศน์ภาคปฏิบัติ


    พระอาจารย์จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร


    โพสท์ในลานธรรมเสวนา กระทู้ที่ 003921 โดย คุณ : pang [ 19 ธ.ค. 2544]
    สิกขาบทที่ 1
    ภิกษุเสพเมถุน ต้องปาราชิก
    เสพอย่างไร บางคนไม่รู้นะ เสพเมถุนสังวาสกับมนุษย์ก็ดี สัตว์เดรัจฉานก็ดี ทางทวารหนัก ทวารเบา ตลอดถึงรักแร้ แอบแอขา หรือปากตุ๊กแก มันจะไม่กัดเอาบ่ บ่.. ตุ๊กแกมันตัวใหญ่นะสมัยนั้น กำปากให้มันอ้าแล้วเอาเหล็กแข็ง ๆ หั่นเขี้ยวมันหักแล้ว ปากมันแดงจ้า ยัดองคชาติเข้าไปมันก็ขบกัดเข้า ความกำหนัดเกิดขึ้น น้ำสุกกะ(อสุจิ) เคลื่อนออกก็สำเร็จได้เหมือนกัน
    เมื่อเสพเข้าไปแล้ว ทางทวารหนักก็ดี ทวารเบาก็ดี ตลอดถึงรักแร้ แอบแอขาของผู้หญิงนั่นแหละ ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง มีความกำหนัดพอที่จะเสพได้ทั้งนั้น ไม่เลือก ได้ทุกอย่าง ได้ทุกสถานที่ พอใจเสพได้ เพราะร่างกายของผู้หญิงนิ่มนวลดี กลิ่นมันก็หอมหื่นชื่นใจหอมหวนชวนใจ จับที่ไหนมาดมก็หอมหื่นชื่นใจ นี่ก็เป็นบ้าเลย บ้าตัณหา บ้ากามเกิดขึ้น ถ้าเสพเข้าไปแล้ว ยัดองคชาติเข้าไปทางทวารเบานั่น พอสัมผัสพึ่บ ความกำหนัดเกิดขึ้น เมื่อน้ำสุกกะเคลื่อนพึ่บ สะเม่นหมดตัวนะ
    นั่นแหละต้องอาบัติปาราชิกนะ อะสังวาโส
    หาสังวาสในศาสนาพุทธต่อไปไม่ได้ นี่แหละมันหนักแน่นถึงขนาดนั้น
    สิกขาบทนี้ ครั้งพุทธกาลโน้น พระสุทินเป็นตัวอย่าง ลูกชายของเศรษฐีเมืองเวสาลี บวชได้นานหลายปีแล้ว เจริญสมณธรรมก็ยังไม่เป็นไปเพราะอินทรีย์ยังอ่อน บารมียังอ่อน ไม่ถึงคราวจะเกิดขึ้น
    ไปเยี่ยมบ้านพ่อกับแม่และภรรยาเก่าก็ช่วยกันอ้อนวอนขอให้สึก
     
  2. aero1

    aero1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +54
    เคยเห็นหนังสืิอเล่มนี้เมื่อ สิบปีก่อน และตกใจมากที่เขียนวินัยกำกวมมาก ไม่ทราบว่าเกิดจากผู้เขียนที่คัดจากเสียงเทศน์ลอกมาผิดหรือท่านเทศน์อย่างนั้น แต่ผลเสียเกิดแน่ เพราะปาราชิกข้อนี้เกิดเมื่อ วัตถุชนวัตถุ โดยมีจิตยินดีแล้ว ไม่ใช่เป็นปาราชิกเพราะน้ำกามเคลื่อน อันตราย เพราะถ้ามีผู้ไม่รู้มาอ่านเข้าอาจคิดว่าเอางั้นก็ทำแบบไม่ต้องให้น้ำกามเคลื่อนสิจะได้ไม่ต้องปาราชิก วินัยเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ฉะนั้นการถ่ายทอดต้องเป็นผู้ที่รู้รอบจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...