คำสอนสุดท้าย"หลวงตามหาบัว" : เราตายแล้ว เราจะไม่กลับมาเกิดในโลกนี้อีกต่อไป

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย titawan, 30 มกราคม 2011.

  1. titawan

    titawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,290
    ค่าพลัง:
    +5,139
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลังทราบข่าวสิ้น "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" หรือ พระธรรมวิสุทธิมงคล แล้ว บรรดาศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศที่เลื่อมใสศรัทธาต่างพากันโศกเศร้ากับการละสังขารของพระวิปัสสนากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่มีชื่อเสียงชื่อดังแห่งภาคอีสานรูปนี้เป็นอย่างมาก หลังเฝ้าติดตามอาการอาพาธมาด้วยอาการปอดติดเชื้อเป็นเวลาหลายวันด้วยความ เป็นห่วง


    พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มีนามเดิมว่า "บัว โลหิตดี" เกิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2456 ในครอบครัวชาวนาซึ่งค่อนข้างมีฐานะ ในบ้านตาด จ.อุดรธานี พี่น้องทั้งหมด 16 คน ท่านเริ่มฉายแววทางธรรมะมาตั้งแต่เด็ก โดยเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่เสมอ

    เมื่อสมัยเป็นหนุ่ม พ่อแม่ขอร้องให้บวชตามประเพณีอยู่หลายครั้ง ท่านก็ทำเฉย ๆ ตลอดมา ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด จนพ่อแม่น้ำตาร่วง ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า หวังพึ่งใบบุญจากการบวชของลูกให้ได้ ครั้งนี้ท่านรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจพ่อแม่มาก จึงตัดสินใจ และยอมบวชตามประเพณี เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ในวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ที่วัดโยธานิมิตร อุดรธานี โดยตั้งใจไว้ในตอนต้นนี้ว่า จะบวชเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น

    ต่อมา ท่านได้มีโอกาสพบเห็นท่าน "พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต" ที่วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นพระอาจารย์องค์สำคัญที่สุดในชีวิตของท่าน จากนั้น ท่านก็ศึกษาทางธรรมและปฏิบัติกรรมฐานมากยิ่งขึ้น

    ท่านมุ่งสู่วัดดอยธรรมเจดีย์ (ปัจจุบันอยู่ อ.โคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร) เป็นช่วงพรรษาที่ 16 ของท่าน ในช่วงนั้นเองที่ท่านได้"บรรลุธรรม"

    ตลอดชีวิตสมณเพศของท่าน ท่านได้พยายามสอนพระเณรอยู่เสมอในเรื่องความเรียบง่าย มักน้อยสันโดษ การใช้สอย ปัจจัยสี่ที่ศรัทธาญาติโยมถวายมานั้น ให้เป็นไปด้วยความประหยัด ใช้สอยในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น พร้อมทั้งสงเคราะห์ด้านธรรมะแก่พระเณร-ฆราวาสมาโดยตลอด ควบคู่ไปกับการบริจาคช่วยเหลือด้านวัตถุสิ่งของ ทั้งจตุปัจจัยไทยทาน แก่ประโยชน์ส่วนรวมตลอด 40 กว่าปี นับแต่ตั้งวัดป่าบ้านตาดขึ้นในปี 2498 ท่านเคยเล่าว่าหากจะนับเป็นมูลค่าน่าจะเป็นหมื่นล้านบาทขึ้นไป

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "โครงการช่วยชาติ โดย หลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน" ในขณะที่ประเทศชาติเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขั้นร้ายแรง หลวงตาตั้งใจจะนำ "ทองคำ" เข้าคลังหลวงให้ได้ 10 ตัน หรือ 10,000 กิโลกรัม ซึ่งที่ผ่านมาหลวงตามอบทองคำและดอลลาร์ที่มอบเข้าคลังหลวงไปแล้ว 15 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2541 ถึง 9 มกราคม 2553 รวมทั้งสิ้นเป็น ทองคำ 967 แท่ง หนัก 12,087.50 กิโลกรัม และดอลลาร์ (รวมดอกเบี้ย) 10,803,600 เหรียญสหรัฐ

    ตามปณิธานของท่านที่เคยตั้งไว้ว่า "เวลา มีชีวิตอยู่นี้ เราจะทำความดีให้โลกทั้งหลายได้เป็นคติตัวอย่างอันดีงาม และทำด้วยความเมตตาสงสาร เพราะหลังจากนี้แล้ว เราตายแล้ว เราจะไม่กลับมาเกิดในโลกนี้อีกต่อไป เป็นตลอดอนันตกาล"

    หลวงตาบัว เคยกล่าวไว้ว่า การช่วยชาติ ที่แท้จริง ให้ต่างหันมาแก้ไขที่ต้นเหตุ คือ การทรงมรดกธรรมของพระพุทธศาสนา เอาศีลเอาธรรม ความประพฤติดีงาม ด้วยเหตุผลหลักเกณฑ์เข้ามาอุดหนุนจิตใจ จนมีหลักประกันภายในใจ เรียกว่า มีหลักใจ โดยหันกลับมาปรับปรุงตัวเราแต่ละคน ๆ ให้มีความประหยัด ไม่ลืมเนื้อลืมตัว ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ด้วยการอยู่การกินการใช้การสอยการไปการมา โดยให้ดูแบบของพระผู้มีหลักเกณฑ์ภายในใจ เป็นแบบอย่างของความประหยัด ของผู้มีหลักเกณฑ์เหตุผล ให้มีธรรมคอยเหนี่ยวรั้งไว้ในใจไม่ให้ถูกลากจูงด้วยกิเลสตัณหาราคะ ด้วยความโลภโมโทสัน จนเลยเขตเลยแดน เหมือนรถที่มีแต่เหยียบคันเร่ง ไม่เหยียบเบรก ย่อมเป็นภัยอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ในที่สุด หากต่างมีการหันมาอุดหนุนทั้งทางด้านหลักทรัพย์ และหลักใจควบคู่กันไป ปัญหาต่าง ๆ ของชาติย่อมทุเลาเบาบางลงเป็นลำดับ ๆ ไป


    นอกจากนี้ หลวงตามหาบัว ยังเข้าไปมีบทบาททางการเมือง โดยในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2548 หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการรายวัน ได้ตีพิมพ์การเทศนาของพระธรรมวิสุทธิมงคล ซึ่งมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์ พ.ต.ท. ทักษิณ อย่างหนัก และมีเนื้อหาส่วนหนึ่งได้กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่ามีการใช้อำนาจ "...มุ่งหน้าต่อประธานาธิบดีชัดเจนแล้วเดี๋ยวนี้ พระมหากษัตริย์เหยียบลง ศาสนาเหยียบลง ชาติเหยียบลง..."<sup> </sup> ทำให้เกิดหัวข้อโต้เถียงกันเป็นวงกว้าง


    และเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 พระธรรมวิสุทธิมงคลได้แนะนำให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง และในการเทศนา ท่านได้อธิบายถึงรัฐบาลว่า "เลวทราม ฉ้อราษฎร์บังหลวง กระหายอำนาจและโลภ"


    จนกระทั่งเมื่อถึงอาการอาพาธครั้งสุดท้ายของท่าน

    หลวงตามหาบัว ได้เข้ารับการรักษาอาพาธ มาตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2553 ที่โรงพยาบาลศิริราช จากนั้นก็ได้กลับเข้าไปพักรักษาอาการป่วนที่วัดป่าบ้านตาด โดยในวันที่ 28 มกราคม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินถึงวัดป่าบ้านตาด เพื่อเยี่ยมอาการอาพาธเป็นการส่วนพระองค์ ถึงห้องปลอดเชื้อกุฎิหลวงตามหาบัว มีคณะแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลศรีนคริทร์ จ.ขอนแก่น และโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีกล่าวรายการ และเสด็จฯ กลับเข้าออก 3 ครั้ง โดยยังไม่มีแถลงอาการหลวงตามหาบัวออกมาจากคณะสงฆ์ มีเพียง"หมอจีน" มากราบชี้แจงต่อครูบาจารย์สายวัดป่าว่า การตรวจรักษาอาการอาพาธขณะนี้ได้ถอดสายและอุปกรณ์การแพทย์ออกหมดแล้ว เหลือเพียงออกซิเจนเท่านั้น

    ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 29 มกราคม พุทธศาสนิกชนหลายพันคน เดินทางมาทำบุญตักบาตรที่และเฝ้าติดตามดูอาการอาพาธของหลวงตามหาบัว พร้อมคอยฟังคำแถลงอาการอาพาธของหลวงตา และคอยเวลาเข้าไปกราบหลวงตาที่กุฏิ ที่คณะสงฆ์อนุญาตบางช่วงเวลา



    หลวงตามหาบัวมีอาการอาพาธลำใส้อุดตัน และมีปอดติดเชื้อมานานถึง6เดือน คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่อาการอาพาธไม่ดีขึ้น กระทั่งเมื่อเวลา 03.53 น. วันที่ 30 ม.ค. หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ก็ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุ 98 ปี


    [​IMG]

    คำสอนสุดท้าย"หลวงตามหาบัว" : เราตายแล้ว เราจะไม่กลับมาเกิดในโลกนี้อีกต่อไป : มติชนออนไลน์
     
  2. โป๊ยเซียนสาว

    โป๊ยเซียนสาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,543
    ค่าพลัง:
    +2,279
    กราบส่งดวงจิตอันงดงามบรสุทธิ์ของหลวงตา สู่แดนพระนิพพานเจ้าค่ะ

    [​IMG]
     
  3. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    [​IMG]

    [​IMG]

    กราบ กราบ กราบ หลวงตาเจ้าค่ะ

    เคยมีบุญได้ฟังธรรมจากหลวงตา
    เคยได้รับเมตตามหาศาล
    บัดนี้..กราบหลวงตาสู่นิพพาน
    ในสถานทิพย์พิมาน..ณ แดนไกล..
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->​
     
  4. ขวดน้ำ

    ขวดน้ำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +90
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
    ขอกราบสรีระสังขารหลวงตาบัวครับ
     
  5. wav16

    wav16 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +85
    ขอกราบแทบเท้าองค์หลวงตามหาบัว ขอน้อมส่งหลางตาสู่แดนพระนิพพานครับ
     
  6. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    ขอกราบแทบเท้าองค์หลวงตา
    กรรมใดลูกเคยล่วงเกินทั้งกาย วาจา ใจ
    โดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ขอองค์หลวงตาโปรดประทานอโหสิกรรมแก่ลูกด้วย
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    จุติ จุตตํ อรหันต์ จุติ
     
  8. กิตติรัตน์ นพต

    กิตติรัตน์ นพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +363
    ขอกราบแทบเท้าองค์หลวงตาอย่างสุดจิตสุดใจครับ
     
  9. Bussarin.K

    Bussarin.K เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +326
    อนุโมทนาบุญกับหลวงตาด้วยค่ะ หลวงตามีแต่ให้ๆๆๆกับสัตว์โลก สาธุๆๆๆๆๆ^^
     
  10. pun_10

    pun_10 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +55
    สาธุ

    ขอน้อมส่งหลวงตาบัวสู่แดนพระนิพพาน

    กราบ กราบ กราบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitledก.bmp
      ขนาดไฟล์:
      41.2 KB
      เปิดดู:
      127
  11. ต้นโมก

    ต้นโมก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอกราบแทบเท้าองค์หลวงตามหาบัว
    กรรมใดลูกเคยล่วงเกินทั้งกาย วาจา ใจ
    โดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ขอองค์หลวงตาโปรดประทานอโหสิกรรมแก่ลูกด้วย<!-- google_ad_section_end -->
     
  12. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,012
    ตามปณิธานของท่านที่เคยตั้งไว้ว่า "เวลา มีชีวิตอยู่นี้ เราจะทำความดีให้โลกทั้งหลายได้เป็นคติตัวอย่างอันดีงาม และทำด้วยความเมตตาสงสาร เพราะหลังจากนี้แล้ว เราตายแล้ว เราจะไม่กลับมาเกิดในโลกนี้อีกต่อไป เป็นตลอดอนันตกาล" อันนี้คือที่ตั้งใจไว้ ผลก็จะอยู่ที่การกระทำ แต่จะได้ไม่ได้ก็อยู่ที่ผลของกรรมที่ทำมา แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านพูดว่า "เราตายแล้ว เราจะไม่กลับมาเกิดในโลกนี้อีกต่อไป เป็นตลอดอนันตกาล" ตัดแค่คำพูดนี้ว่าทำให้คนเข้าใจผิดกันเยอะ
     
  13. sakara

    sakara Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2006
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +80
    ขออนุโมทนาสาธุ ในธรรมที่ท่านได้สั่งสอน

    และขอระลึกและยึดเป็นตัวอย่างครับ
     
  14. lergu

    lergu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +70
    มรณะเพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตร์ แท้ๆๆ ขออนุโมทนาสาธุ ครับพระคุณเจ้า
     
  15. พลอยไพริน

    พลอยไพริน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +633
    กราบ กราบ กราบ
    ก้มกราบแทบเท้าหลวงตา สู่แดนพระนิพพาน ....สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...