แผนที่โลกปัจจุบัน ปกคลุมด้วยน้ำแข็งไปแล้วกว่าครึ่ง

เผยแผนที่โลกปัจจุบัน ปกคลุมด้วยน้ำแข็งไปแล้วกว่าครึ่ง

เผยแผนที่โลกปัจจุบัน ปกคลุมด้วยน้ำแข็งไปแล้วกว่าครึ่ง

62Share

แผนที่แสดงพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งทั่วโลก​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก noaa.gov

สมาคมวิจัยมหาสมุทรและบรรยากาศสากล หรือ NOAA เปิดเผยแผนที่แสดงสภาพภูมิประเทศโลกในปัจจุบัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแผ่นดินบนโลกถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งไปแล้วกว่าครึ่ง

โดยแผนที่ดังกล่าว ได้สร้างขึ้นจากภาพถ่ายดาวเทียมภาพล่าสุด แสดงให้เห็นว่า พื้นที่ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกากว่าครึ่งถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง อันเนื่องมาจากพายุฤดูหนาวกำลังเคลื่อนตัวเข้าปกคลุม และตั้งแต่ชายฝั่งตะวันตกของแคนนาดา ไปจนถึงชายฝั่งตะวันออกของประเทศจีน ก็มีสภาพอากาศหนาวจัด ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะเช่นกัน ซึ่ง พื้นที่ดังกล่าว หากรวมกับพื้นที่บริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้แล้ว ก็ถือเป็นพื้นที่เกินครึ่งของแผ่นดินบนโลกเลยทีเดียว โดยสมาคมวิจัยมหาสมุทรและบรรยากาศสากลได้ทำการวิจัยพื้นที่ที่มีน้ำแข็งปก คลุมและปริมาณหิมะ พบว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แผ่นดินบนโลกถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งแล้วกว่า 59.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่กินพื้นที่เพียง 47.7% เท่านั้น ขณะที่ปริมาณหิมะที่ปกคลุมบนผิวโลกมีความหนาเฉลี่ยประมาณ 8.2 นิ้ว ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากเลยทีเดียว

ทั้งนี้ สภาพอากาศทั่วโลกในช่วง 2-3 ปีมานี้ ถือว่าแปรปรวนเป็นอย่างมากที่สุด โดยปรากฎการณ์ดังกล่าว ถูกเชื่อว่ามาจากสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ การเปลี่ยนแปลงตามวัฏจักรของโลก และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่สูง ทำลายชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก จนทำให้เกิดปัญหาโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลายกลายเป็นน้ำเย็นเฉียบในทะเล เมื่อน้ำในทะเลมีอุณภูมิต่ำลงมาก ก็มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศให้หนาวจัดในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เช่นในอเมริกาที่พายุหิมะกำลังถล่มอย่างหนักในหลายรัฐ ส่งผลให้ประชาชนต้องเผชิญกับความหนาวเย็นและหิมะที่ปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ ก็เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง และวิถีชีวิตของคนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ส่วนในประเทศจีนก็หนาวจัดกว่าทุกปีที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากความหนาวเย็นไปหลายคนแล้ว

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์หลายท่าน ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากวิกฤติสภาพอากาศได้เกิดขึ้นแล้ว มันจะเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง พื้นที่ที่เคยร้อนจะเปลี่ยนเป็นหนาว พื้นที่หนาวจะร้อนขึ้น และอุณหภูมิของโลกโดยเฉลี่ยก็จะสูงขึ้นอีกด้วย

ที่มาของข้อมูล

 

งั้นประเทศไทยเร็วๆนี้ก็คงจะมีหิมะตกแน่นอน (คิดตามความเห็นของเจ้าของกระทู้) ^_^ พวกเราคงจะได้เปลี่ยนจากทานข้าวมาเป็นทานเผือกทานมันทานมันแกวแทนล่ะ อิอิ

 

อืมมมม ผมลองหาภาพล่าสุดของ วันที่ 3 ก.พ. 54 เวลาก็น่าจะประมาณ 16.00 น. (ดูจากลักษณะของเงามืดเอานะครับ)
เท่าที่ดูก็ยังเห็นว่าโซนเหนือๆ ก็ยังไม่ได้ขาวโพลนจนผิดปรกติไปนะครับ..


จากภาพ ไซโคลน "ยาซี" ถล่มออสเตเลียเต็มๆเลยครับ

 

อะไรเนี๋ยไม่อยากจะเชื่อ งั้นผมก็ไม่ต้องแก้ปัญหาโลกร้อนแล้วซิ เดี๋ยวลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน ไม่อยากจะเชื่อเลยเป็นไปได้ไงวะ

 

คิดไปให้ไกลกว่านั้นนะครับ

หลังจากหิมะละลาย น้ำจะไปไหน ?

แน่นอนว่าสุดท้ายแล้ว น้ำจะลงไปในมหาสมุทร นั่นก็แปลว่าน้ำเค็มจะถูกผสมกับน้ำจืดมากขึ้น ระบบนิเวทในทะเลจะผิดสมดุลไปจากเดิม แต่ก็ไม่น่าห่วงมากเพราะสัตว์น้ำเค็มมีพัฒนาการที่เร็วกว่าในหลายๆชนิด

ต้องดูว่าระดับอุณหภูมิหลังจากฤดูหนาวนี้สิ้นสุดมีความเร็วในการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด
หากเร็วเกินไปคงไม่ดีแน่..

ถ้าน้ำในทะเลอุ่น และ บนบกหนาว ก็ไม่ไว้ใจ หรือ น้ำทะเลเย็น บนบกอุ่นเกินไปก็เช่นกันมันจะพายุใหญ่ได้

 

เอ... แล้วอย่างนี้

หมีขั้วโลกเจออากาศร้อนๆหนาวๆ มันจะเป็นหมีขี้เรื้อนไหมเนี้ย

 

ครับ



ทำไมไม่เหมือนของคุณล่ะครับภาพถ่ายปัจจุบันที่ผมหามาได้ ก็เห็นๆอยู่ว่าน้ำแข็งเหลือน้อยแค่ไหน

 

โดนต้มสินะ...

 

ใครพอทราบความจริงช่วย แชร์ข้อมูลที่พบมาด้วยครับ ส่วนตัวผมข้อมูลนี้ไม่ได้คัดกรอง อ่านพบบนหน้าเว็บไซต์เห้นว่าน่าสนใจ จึงเอามาโพสให้อ่านกันครับ ตามความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่า อากาศปรวนแปร เปลี่ยนแปลงไวมาก

 

อันนี้ล่าสุดครับ ข่าวภาพเดียวกันแต่คนละเว็ปไซต์

4 ก.พ.54 รายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ขณะนี้พื้นที่ของโลกเกินกว่าครึ่งกำลังถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยองค์กรทางด้านการวิจัยทะเลและอากาศของสหรัฐ อเมริกา the National Oceanic And Atmospheric Association (NOAA) ด้วยหลักฐานที่เป็นรูปถ่ายทางดาวเทียม
ขณะที่ทางฝั่ง ของนักวิทยาศาสตร์ต่างกำลังถกเถียงกันอยู่ว่า เหตุใดหิมะจึงตกมามากผิดปกติขนาดนี้ โดยส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากภาวะโลกร้อน หรือโกลเบิล วอร์มมิ่้ง ที่โลกกำลังเผชิญอยู่
อย่างไรก็ตามในหลาย เมืองใหญ่กำลังเผชิญกับวิกฤตนี้ เช่น ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงรัฐคะฉิ่นของประเทศพม่า ที่เพิ่งเกิดหิมะตกครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News

 

อีกหน่อยคงแข็งโป้กกันหมด 55555

 

ผมคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาวแถบขั้วโลกเหนือ และใต้ สิ่งที่ต้องจำตามองคือ ช่วงฤดูร้อนครับ ถ้าอุณหภูมิโดยเฉลี่ยวัดได้ 45 องศาเซลเซียล จะทำให้เกิดไฮเปอร์เฮอริเคนหรือเฮอริเคนยักษ์ความเร็วลมอยู่ที่350 ก.ม./ วินาที ไม่ได้โม้

 

โลกร้อนขึ้นรึจะเย็นลงเนี่ย เดาใจธรรมชาติไม่ถูกแล้วอะ หวังว่าขอให้ยังอยู่รอดตลอดรอดฝั่งกันเด้อ