เรื่องเด่น ลือ! รุ้งกินน้ำกลับด้าน สัญญาณโลกวินาศ

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย titawan, 8 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. titawan

    titawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,290
    ค่าพลัง:
    +5,139
    [​IMG]


    แสยะยิ้มพญายม อาเพศ รุ้งกินน้ำ (ไทยโพสต์)

    เมื่อ เกิดรุ้งกินน้ำหลังฝนตกในยามเช้าหรือเย็น วงโค้งรุ้งกินน้ำซึ่งมีอยู่ 7 สี ได้แก่ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง จะโค้งไปตามส่วนโค้งของเปลือกโลก แต่ในภาพเป็นรุ้งกินน้ำมีวงโค้งตรงกันข้ามกับรุ้งกินน้ำธรรมดา เป็นโค้งกลับด้าน ซึ่งแน่นอนว่าปรากฏการณ์เช่นนี้หาดูได้ยากยิ่ง

    การปรากฏของรุ้งกินน้ำส่วนใหญ่เป็นช่วงเวลาสดใส นกส่งเสียงร้องพร้อมกับอากาศดีบริสุทธิ์ แต่เมื่อใดรุ้งกินน้ำปรากฏกลับด้าน จึงเป็นสัญญาณเตือนว่ากลียุคกำลังบังเกิด

    รุ้งกลับหัวกลับหางที่ศัพท์ทางอังกฤษเรียกว่า เซอร์คัมเซนิทัล อาร์ก (Circumzenithal Arc) หรือวงแหวนครึ่งขอบฟ้า ซึ่งมีคำอธิบายโดยนักปราชญ์เมื่อ 100 กว่าปีก่อน ว่านี่คือรอยแสยะยิ้มพญายม (Cruach's Grin)

    ทักเกอร์ แม็กคาร์ตนีย์ นักมนุษยวิทยาชาวอเมริกัน ที่ฟิลาเดลเฟีย อธิบายว่า "ครูแอ็ก" เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งของชาวเซลติกโบราณ (บรรพบุรุษชาวอังกฤษ) เป็นเทพเจ้าแห่งความตายและการทำลายล้าง การสร้างรุ้งกินน้ำกลับด้านขึ้นบนท้องฟ้าจึงเป็นคำเตือนจากเทพเจ้าครูแอ็ก ว่า วาระสุดท้ายของโลกกำลังมาถึงแล้ว หรือในคัมภีร์ไบเบิลของชาวคริสต์ได้วาดภาพรุ้งกินน้ำกลับด้านเอาไว้ โดยระบุว่า เป็นลางบอกเหตุว่าโลกกำลังเกิดสงครามระหว่างธรรมะกับอธรรมขึ้นแล้ว

    คำทำนายจากยุคโบราณ หากนำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของโลกในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่าเข้าเค้า โดยเฉพาะปรากฏการณ์โลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้นอาจนำพาไปสู่วาระสุดท้ายของโลก ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ได้

    นักอุตุนิยมวิทยาในยุคปัจจุบันก็มีคำอธิบายถึงการเกิดรุ้งกลับหัวว่า เกิดจากภาวะภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง การเกิดรุ้งกินน้ำธรรมดาเกิดขึ้นโดยแสงแดดสาดส่องผ่านละอองน้ำหรืออากาศชื้น ในชั้นบรรยากาศ แต่รุ่งกินน้ำกลับหัวเกิดจากการผสมผสานอย่างผิดธรรมชาติ นั่นคือการผสมปนเประหว่างอากาศร้อนกับอากาศหนาวเหนือชั้นบรรยากาศ แล้วสะท้อนกลับมาเหมือนกระจก จึงเกิดรุ้งกินน้ำกลับหัวขึ้นมา

    ดร.แจ็กเกอลีน มิตตอง นักดาราศาสตร์ อวกาศแห่งแคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ เป็นผู้ถ่ายภาพรุ้งกินน้ำกลับหัวภาพนี้ได้จากท้องฟ้าใกล้บ้านพัก

    "ฉันไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน ฉันอายุ 60 ปีแล้ว ยังแปลกใจกับปรากฏการณ์ประหลาดนี้"

    รุ้งกินน้ำกลับหัว เมื่อเกิดขึ้นจะมีแสงสว่างมากกว่ารุ้งกินน้ำธรรมดาหลายเท่า เชื่อกันว่าวงโค้งกลับหัวเกิดจากการสะท้อนแสงมาจากวงแหวนฮาโล หรือฉัพพรรณรังสีของดวงอาทิตย์

    นายกรหริศ บัวสรวง โหรชื่อดัง เปิดเผยว่า จากปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำที่เกิดขึ้นในลักษณะกลับหัวที่ประเทศอังกฤษ ในทางโหราศาสตร์ทำนายว่าเป็นลางร้าย และจะเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในบ้าน เมืองนั้นๆ ตลอดจนเกิดผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่กับประเทศอื่นๆ ให้เกิดปัญหาเช่นเดียวกัน ประเทศอังกฤษอยู่ทางทิศตะวันตก มีดาวพฤหัสบดีเป็นตัวแทนประเทศตะวันตก ตอนนี้ดาวพฤหัสบดีเข้าไปอยู่ในภพวินาศของดวงโลก และเมื่อเกิดปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำกลับหัวซึ่งถือเป็นลางร้าย ก็บอกได้ว่าทั่วทั้งโลกจะเกิดความวุ่นวาย ความขัดแย้งหรือข้อพิพาทระหว่างประเทศ และปะทะสู้รบกันอย่างรุนแรง

    "รุ้งกินน้ำกลับหัวดาวทำมุมตรงกันข้าม แม้ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประเทศไทย แต่ก็อาจส่งผลทางอ้อม เช่น ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ก็เกิดขึ้นในช่วงที่ดาวพฤหัสบดีอยู่ในภพวินาศ ไทยกับเขมรจะมีปัญหาขัดแย้งกระทบกระทั่งกันตลอดตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม จากนั้นก็จะเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ" นายกรหริศเผย

    นาย อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา โหรชื่อดัง บอกเช่นเดียวกันว่า รุ้งกินน้ำกลับหัวเป็นเรื่องไม่ดี ให้ระวังภัยพิบัติ ปัญหาภายในบ้านเมือง ปัญหาระหว่างประเทศ จะเกิดการเจ็บป่วย สูญเสียบุคคลสำคัญต่าง ๆ ของประเทศ




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้

     
  2. อินทิราธา

    อินทิราธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2011
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +346
    อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด ความดีเท่านั้นที่จริงแท้
     
  3. poplight

    poplight Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +84
    แปลกมากๆครับ เกิดมาเพิ่งเคยเห็น ทุกสิ่งคงต้องเป็นไป
     
  4. Ronrit

    Ronrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +167
    น่าจะเป็นพระอาทิตย์ทรงกลดมากกว่านะครับ ถ้าถ่ายสูงขึ้นไปอีกนิดจะเห็นดวงอาทิตย์ กฎของแสงก็คือเมื่อกระทบกับไอน้ำจะทำให้เกิดเป็นสีรุ้ง อยู่ที่ต้นกำเนิดแสงอยู่ที่ใด ถ้าหาจุดศูนย์กลางของรุ้งก็จะได้ต้นกำเนิดรุ้งนะครับ นั่นก็คือดวงอาทิตย์นั่นเอง
     
  5. Sinderking

    Sinderking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +673
    ข้อความที่อ้างจากไบเบิ้ลไม่มีจริงครับ นอกนั้นไม่เถียง
     
  6. liuyifeiceo

    liuyifeiceo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +33
    ฉันใด ฉันนั้น
     
  7. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
    ทุกๆ อย่างคือการเตือนภัย ธรรมชาติ คือ ลางบอกเหตุ!!!
     
  8. รวียากร

    รวียากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +1,309
    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป....
     
  9. เหมียว_วัฒ

    เหมียว_วัฒ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2011
    โพสต์:
    272
    ค่าพลัง:
    +106
    อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด หากจะต้องตายก็คงต้องยอม แต่จะขอทำความดีตลอดไป
    สาธุ
     
  10. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กลัวทำไม? “รุ้งกลับหัว” แท้จริงคือลางดีจาก “อาทิตย์ทรงกลด” หาดูยาก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>8 กุมภาพันธ์ 2554 19:28 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000017287&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพอาทิตย์ทรงกลดต้นเหตุการวิพากษ์วิจารณ์ (kapook.com/รายการเรื่องเล่าเช้านี้)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>(บนซ้าย) ภาพอาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัล (ขวาบน) และหลักการเกิดอาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัลจากการหักเหของแสงผ่านผลึก 6 เหลี่ยม และภาพล่างแสดงการเกิดอาทิตย์ทรงกลดในรูปแบบต่างๆ ผ่านการหักเหของแสงผ่านผลึกรูปทรงต่างๆ (atoptics.co.uk) </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>อาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัล ที่หาดูได้ยาก (Cdlune1890) </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เป็นเรื่องเป็นราวอีกครั้งเมื่อ “ฟรีทีวี” เผยภาพ “รุ้งกินน้ำกลับหัว” พร้อมกับตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์และคำทำนายจาก “ท่านโหร” ว่าเป็นลางร้ายของบ้านเมือง ตลอดจนสัญญาณเตือนถึงภัยพิบัติ จนนักวิชาการต้องออกโรงชี้แจงว่าแท้จริงแล้วคือภาพของ “อาทิตย์ทรงกลด” รูปแบบที่หาดูได้ยากต่างหาก

    ภาพ “รุ้งกินน้ำกลับหัว” ต้นเหตุของกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงลางร้ายเป็นภาพท้องฟ้าที่บันทึกโดย ดร.แจ็กเกอลีน มิตตอง นักดาราศาสตร์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge University) จากบริเวณบ้านพักของเขาในอังกฤษ ซึ่ง ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สวทช.และผู้ก่อตั้งชมรมคนรักมวลเมฆ อธิบายผ่านศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทยว่าภาพดังกล่าวไม่ใช่รุ้งกินน้ำแต่อย่างใด

    ทั้งนี้ เนื่องจากปรากฏการณ์ในภาพนั้นไม่ได้เกิดจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่ผิวของหยดน้ำและหักเหออกมาเป็นแสงสีรุ้งเหมือนรุ้งกินน้ำทั่วไป หากแต่เกิดจากการที่แสงอาทิตย์ไปตกกระทบผลึกน้ำแข็งหกเหลี่ยมในเมฆ แล้วหักเหผ่านผลึกออกมาจนเกิดเป็นแถบสีรุ้งที่เรียกว่า “ อาทิตย์ทรงกลด” (solar halo) และภาพสีรุ้งที่ปรากฏในภาพนั้นคือ อาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัล (CircumZenithal Arc : CZA)

    อาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัลนี้ เกิดจากแสงอาทิตย์พุ่งเข้าผิวด้านบนของผลึกน้ำแข็งรูปหกเหลี่ยมแบนๆ ที่อยู่ภายในเมฆระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ เมฆซีร์โรสเตรตัส (Cirrostratus) แล้วหักเหภายในผลึกรูปแผ่นทะลุออกไปทางผิวด้านข้าง ซึ่งแสงที่เดินทางผ่านผลึกจะปรากฏเป็นเส้นโค้งสีรุ้งอยู่เหนือดวงอาทิตย์ โดยมีส่วนโค้งหงายขึ้น และมีสีแดงอยู่ด้านใกล้ดวงอาทิตย์

    “ปรากฏการณ์นี้เคยเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงฤดูฝนเมื่อปี 2553 โดยมีสมาชิกชมรมคนรักมวลเมฆ บันทึกภาพไว้ได้” ดร.บัญชากล่าว

    เส้นโค้งนี้มีลักษณะเสมือนหนึ่งเป็นส่วนโค้งของวงกลมที่อยู่รอบจุดยอดฟ้า หรือจุดจอมฟ้า (zenith) ซึ่งเป็นจุดเหนือศีรษะ จึงเรียกว่า เส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัล (circumzenithal arc) หรือ เส้นโค้ง CZA โดยคำว่า circum นั้นมีรากศัพท์เดียวกับ circle ที่แปลว่าวงกลม และบางคนยังมองว่าเส้นโค้ง CZA เปรียบเสมือน “รอยยิ้มขนาดยักษ์บนท้องฟ้า”

    เส้นโค้ง CZA จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อดวงอาทิตย์อยู่ต่ำ หรือมีมุมเงยสูงจากขอบฟ้าไม่เกิน 32.3 องศา เท่านั้น เพราะที่ค่านี้ เส้นโค้ง CZA จะอยู่ใกล้จุดจอมฟ้าและจางลงจนมองไม่เห็น และโดยเราจะเห็นเส้นโค้ง CZA ได้ชัดเจนเมื่อดวงอาทิตย์มีมุมเงยในช่วง 15-25 องศา

    ดร.บัญชา กล่าวว่า คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าอาทิตย์ทรงกลดคือ วงกลมสีรุ้งล้อมรอบดวงอาทิตย์ หรือ การทรงกลดแบบวงกลม 22 องศา แต่ความจริงแล้วการทรงกลดของดวงอาทิตย์มีลักษณะที่แตกต่างกันมากกว่า 30 รูปแบบ เนื่องจากผลึกน้ำแข็งรูป 6 เหลี่ยม ที่ล่องลอยอยู่ในเมฆเมฆซีร์โรสเตรตัสนั้นมีถึง 3 แบบ ได้แก่ 1. ผลึกรูปแผ่น 2. ผลึกรูปแท่ง และ 3. ผลึกรูปพีระมิด อีกทั้งแสงอาทิตย์สามารถตกกระทบผ่านผลึกน้ำแข็งได้หลายทิศทาง จึงทำให้มีอาทิตย์ทรงกลดหลายรูปแบบ

    “ภาพ “รอยยิ้มสีรุ้ง” หรือ การอาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัลนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ไม่ง่ายนัก มองในแง่การเรียนรู้วิทยาศาสตร์จึงถือว่าเป็น “เรื่องดี” และเชื่อว่าเราจะยังมีโอกาสได้เห็นปรากฏการณ์อาทิตย์ทรงกลดรูปแบบอื่นๆ จำนวนมาก"

    "อีกทั้งเมื่อเดือนมิถุนายน 2553 ประเทศไทยก็ได้เกิดการทรงกลดแบบซันด็อก (Sun Dog) ที่อุบลราชธานีและศรีษะเกษ ซึ่งสร้างความประทับใจและทำให้คนจำนวนไม่น้อยสนใจท้องฟ้าและธรรมชาติรอบตัวเรา” ดร.บัญชากล่าว

    นาวาเอกฐากูร เกิดแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ (LESA) ให้ความเห็นแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ต่อปรากฏการณ์อาทิตย์ทรงกลดว่า เป็นปรากฏการณ์สามัญที่เกิดขึ้นบ่อย เพียงแต่เกิดขึ้นในช่วงจังหวะเวลาสั้นๆ และเกิดขึ้นในบางมุมเท่านั้น และในกรุงเทพฯ ก็เกิดขึ้นบ่อย แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยแหงนหน้ามองฟ้าจึงไม่ค่อยเห็น โดยส่วนตัวเขาจึงต้องพกกล้องตลอด เพราะหลายครั้งเห็นปรากฏการณ์แล้วบันทึกภาพไม่ทัน

    สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทรงกลดแบบต่างๆ ของดวงอาทิตย์ สามารถศึกษาจากเว็บของ ชมรมคนรักมวลเมฆ (การทรงกลด (Halos) :: ชมรมคนรักมวลเมฆ/) หรือสอบถาม ชมรมคนรักมวลเมฆ และสมัครเป็นสมาชิกของชมรมฯ ผ่านทาง Facebook ได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000017287
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2011
  11. chevasit

    chevasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +424
    จะัไม่แปลกใจเลยถ้ามีรูปดวงอาทิตย์อยุ่ตรงกลางรัศมี ในภาพด้วย แต่ผมว่า ดร.แจ็กเกอร์ลีน มิตตอง ที่มีอายุ 60 ปีแล้ว ก็คงไม่งี่เง่า เสียจนแยกไม่ออก เลยว่าอะไรคือ ดวงอาทิตย์ทรงกลด อะไรคือรุ้งกินน้ำกระมัง
     
  12. mariam

    mariam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +106
    พระอาทิตย์ทรงกลดค้า คนถ่ายคงถ่ายไม่หมดจริงๆ
     
  13. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,940
    ตัวใครก็ตัวมันล่ะครับ...เร่งทำบุญทำทานศีลภาวนาให้พร้อมก่อนตายดีกว่าครับ
     
  14. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ไม่ใช่ภาพรุ้งกินน้ำนี่คะ เป็นภาพพระอาทิตย์ทรงกลดนั่นแหละ^^
     
  15. Tom & Jerry

    Tom & Jerry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +536
    โธ่เอ๊ย...ก็แค่พระอาทิตย์ทรงกลดเท่านั้นเอง ตามปกติพระอาทิตย์ทรงกลดจะมีวงแหวนเป็นสีขาว แต่ถ้าวันนั้นมีไอน้ำในอากาศมากกว่าปกติ วงแหวนจะกลายเป็นสีรุ้งอย่างที่เห็นในภาพนั่นแหละ
    เราเห็นบ่อยๆ โดยเฉพาะวันที่มีแดดจัดในช่วงฤดูฝน คุณ ดร.แจคเกอร์ลีน นี่แกสู้ปัญญาคนไม่ได้เลยนะเนี่ย...
     
  16. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,305
    สงสัยผู้มีบุญมาเกิด มั้ง อยากฮาบ้าง ช่วงนี้สภาวะตึงๆ
    ออกแนว งมๆ บ้างก็ดี เฮอะ เฮอะ !yimm
     
  17. Na_Sa

    Na_Sa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +35
    พระอาทิตย์ทรงกลด ??
     
  18. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    ผมว่าทำไมไม่มองโลกในแง่ดีบ้าง
    ว่ารุ้งกินน้ำกำลังยิ้มให้กับโลก
    ความเจริญรุ่งเรืองกำลังบังเกิดขึ้น
    ความศิวิไลซ์ กำลังจะตามมา
    ความสันติสุขกำลังจะเกิดขึ้น
     
  19. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    [​IMG]

    รุ้งกินน้ำทำไมต้องโค้ง??

    และหาก คน2คนยืนอยู่ในตำแหน่งห่างกันประมาณ 2-3 ฟุต จะเห็นรุ้งกินน้ำขึ้นในตำแหน่งเดียวกัน แต่รุ้งกินน้ำที่ทั้งสองเห็นนั้นจะไม่ใช้รุ้งกินน้ำเส้นเดียวกัน เพราะอะไร?


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 56123.jpg
      56123.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.5 KB
      เปิดดู:
      1,715
  20. สายสุดสวาท

    สายสุดสวาท สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +4
    หากแต่ทุกคนทำความดี

    จิตเราก็ไปที่ที่ดี


    ความตายไม่ใช่จุดสุดท้าย

    เพราะชีวิตต้องว่ายวนไปเรื่อยๆ


    ตามแรงกรรม อาศัยบุญ-บาปเป็นเสบียง
    ...
    ดั้นด้นจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่<WBR>ง

    ในสังสารวัฎที่ไม่มีจุดเริ่มและ<WBR>ไม่มีจุดจบ

    ต่อเมื่อใดที่ใจตื่นขึ้นมาก็จะห<WBR>มดภาระนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2011

แชร์หน้านี้

Loading...