เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ค้นพบพระพุทธรูปอายุ 2600 ปี

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อวทม45, 8 กุมภาพันธ์ 2011.

แท็ก: เพิ่มแท็ก

หน้า 3 ของ 4

Phuket เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

26 ตุลาคม 2005

โพสต์:

499

ค่าพลัง:

+877
undersun said: ↑

ถูกต้องแล้วครับ การตรวจอายุใช้ คาร์บอน14 ซึ่งอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ เป็นสิบปี เป็นร้อยปี

ฝากถามผู้รู้ การได้ยินเรื่องราวต่างๆควรกำหนดรู้และหยุกการปรุงแต่งใช่ไหมครับ เป็นสิ่งควรทำ
แต่ผมก็ ยังอยากคิดอะครับ ทำไงดี - - เช่น มนุษย์พึ่งมาเป็นมนุษย์(มีวิทยาการ)เมื่อ ไม่กี่พันปีนี้เอง(แสนปีก่อนเป็นไพรเมตลิง ก่อนหน้านั้นโลกพึ่งกำเนิด) แล้วมนุษย์ในช่วงพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนคือช่วงไหนอะครับ (ถ้าไม่ควรคิดต่อโปรดแนะนำด้วยนะครับ- -)
เด็ก ม.ปลาย
Click to expand...

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พิสูจน์อะไรที่แน่นอนไม่ได้หรอก มนุษย์เราเองด้วย

ตามความคิดเห็นจากที่ได้ศึกษามานะว่า มนุษย์เรานั้นเอาตามหลักนักโบราณคดีเขาเชื่อว่ามนุษย์นั้นเกิดมาจากสมัยไดโนเสาร์ ยังไม่มีการพัฒนาการใดๆมากนัก แต่ในทางฝ่ายจีนว่ากันว่า เทวดามีมาก่อนโลกที่จะเกิดแล้ว

พระพุทธเจ้าศาสนโคดมเป็นพระพุทเจ้าองค์ที่เท่าไหร่ไม่ทราบแน่ชัด เพราะมีหลายแห่งบอกไว้มากมาย ส่วนพระเจ้าองค์ก่อนพระศาสนโคดมหรือองค์ปัจจุบันนี้ต้องดูย้อนหลังไปในพระไตรปิฏกนะครับน้อง ม.ปลาย แล้วจะทราบแน่ชัด แต่อย่าคิดไปซะมาก ปัจจุบันจะดีกว่า
แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 กุมภาพันธ์ 2011

ความโลภ คือ กิเลส

Phuket, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#41
วัยรุ่น สมาชิกใหม่

วันที่สมัครสมาชิก:

12 สิงหาคม 2009

โพสต์:

2

ค่าพลัง:

+1

เท่าที่ ข้าพเจ้าทราบมา เจ้าชายสิทธัตถะ ไม่ใช่พระพุทธเจ้าองค์แรกนะครับ

วัยรุ่น, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#42
horasarn เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

26 ธันวาคม 2005

โพสต์:

361

ค่าพลัง:

+3,255


[FONT=&quot]（一九五三年四月，中国佛教[/FONT][FONT=&quot]协会正式成立。大会中有提议毁戒者，师诃之，撰文寄慨。[/FONT][FONT=&quot]）[/FONT][FONT=&quot]ในปี คศ.1953 ได้มีการสถาปนาพุทธสมาคมแห่งสาธารณะรัฐประชาชนจีนขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ในการประชุมใหญ่ได้มีการหาข้อสรุปในบทพระวินัยสิกขาบท และอื่นๆ [/FONT]

[FONT=&quot]俗有言：秀才是孔子之罪人，和尚是佛之罪人。初以[/FONT][FONT=&quot]为言之甚也，今观末法现象，知亡六国者六国也，非秦也。族秦者秦也，非天下也。灭佛法者，僧徒也，非异教也。今因答客问，一发所蕴[/FONT][FONT=&quot]。[/FONT][FONT=&quot][/FONT]

[FONT=&quot]问：现今更改佛历年月，不用四月初八日为浴佛节，当否[/FONT][FONT=&quot]？[/FONT][FONT=&quot][/FONT]

[FONT=&quot]ถาม [/FONT][FONT=&quot]: ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงพุทธศักราช ไม่ใช้วันขึ้น 8 ค่ำเดือน 4 เป็นวันวิสาขะบูชาแล้ว ใช่หรือไม่ [/FONT]

[FONT=&quot]答曰：[/FONT][FONT=&quot]释迦佛的法运，有正、像、末三期。正法、像法各一千年，末法一[/FONT]

[FONT=&quot]ตอบ [/FONT][FONT=&quot]: [/FONT][FONT=&quot]ยุคของพระสัทธรรมพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอยู่สามยุคคือ 1 ยุคเจิ้ง (ยุคสัมมาปฎิปทา) 2ยุคเซี่ยง (ยุคธรรมลักษณ์) 3ยุคโม่ (ยุคเสื่อม) ยุคเจิ้ง กับยุค เซี่ยงมีอายุละ1000 ปี [/FONT]

[FONT=&quot] [/FONT]

[FONT=&quot]万年。正、像时期已过了，末法到现在已经过了九百八十二年了。末者，[/FONT]

[FONT=&quot]ส่วนยุคโม่ (เสื่อม) มีอายุ 1000 ปี สองยุคแรกได้ผ่านไปแล้ว ส่วนยุคเสื่อมจนถึงปัจจุบัน ได้ผ่านมาแล้ว 982 ปีแล้ว [/FONT]

horasarn, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#43
horasarn เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

26 ธันวาคม 2005

โพสต์:

361

ค่าพลัง:

+3,255

[FONT=&quot]他们对浴佛节也有不同说法，不承认四月初八日为浴佛节。我凭《法本内[/FONT]

[FONT=&quot]การนับวันวิสาขะบูชาของพวกเถรวาท ต่างก็มีวิธีนับแตกต่างกันไป และไม่ยอมรับวันขึ้น8 ค่ำเดือน 4 ของทางมหายานว่าเป็นวันวิสาขะบูชา อาตมาอ้างอิงจาก บันทึกของฝ่าเปิ่นเน่ยฉวน [/FONT]

[FONT=&quot]传》及摩腾法师对明帝曰：佛以甲寅之岁四月八[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]日生，此当周昭王二十四[/FONT]

[FONT=&quot]บันทึกเอาไว้ว่า ท่านพระมหาเถระ หมอเถิง (ผู้ที่นำศาสนาพุทธเข้าสู่ประเทศจีนเป็นครั้งแรก) ได้กล่าวกับพระเจ้าหมิงตี้ว่า พระศาสดาทรงประสูติเมื่อ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 4 ปี กะอิ๊ง ตรงกับศักราชพระเจ้าโจวเจาอ๋องปีที่ 24 [/FONT]

[FONT=&quot] [/FONT]

[FONT=&quot]年。魏[/FONT][FONT=&quot]书沙门昙谟最曰：佛以周昭王二十四年四月八日生，穆王五十二年[/FONT]

[FONT=&quot] [/FONT]

[FONT=&quot]และบันทึกของเว่ยซุเส้าเหมิน กล่าวว่า พระศาสดาสัมมาสัมพุทธทรงประสูติเมื่อขึ้น 8 ค่ำ เดือน 4 ศักราชโจวเจาอ๋องปีที่ 24 [/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ศักราชมู่อ๋องปีที่ 52[/FONT]

[FONT=&quot]二月十五日灭。这样年月，多少朝[/FONT][FONT=&quot]代都遵奉不改。周昭王甲寅到[/FONT][FONT=&quot]现[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]今已[/FONT]

[FONT=&quot] [/FONT]

[FONT=&quot]ขึ้น 15 ค่ำเดือนยี่ ทรงปรินิพพาน การบันทึกวันเดือนปีอย่างนี้ ไม่รู้กี่ยุคกี่สมัยกี่ราชวงศ์พวกเราก็ยึดถือปฎิบัติตามกันมาโดยไม่เคยเปลี่ยนแปลง ศักราโจวเจาอ๋องปีกะอิ๊ง นับถึงปัจจุบันนี้ (พ.ศ. 2502)[/FONT]

[FONT=&quot] [/FONT]

[FONT=&quot]二九八二年了，[/FONT][FONT=&quot]现在他们要改为二五零二年。本来孔子、老子生在佛后，[/FONT]

[FONT=&quot]ก็เป็น เวลาสองพันเก้าร้อยแปดสิบสอง ปีแล้ว [/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]แต่พวกเราต้องมาเปลี่ยนเป็นปี พศ.2502 [/FONT][FONT=&quot][/FONT]

[FONT=&quot]ก่อนหน้านี้ ข่งจื่อ และเหลาจื้อ ต่างก็เกิดหลังพุทธกาล[/FONT]

[FONT=&quot] [/FONT]

[FONT=&quot]今他把孔老摆在佛先。我当时在大会上和他们争论，戒律、年号、汉服不[/FONT]

[FONT=&quot]กลับกลายเป็นว่า เอาขงจื้อและเหล่าจื้อ ไปไว้ก่อนหน้าพุทธกาล อาตมาก็พยายามที่จะโต้แย้งกับพวกเขาในที่ประชุม แม้ในเรืองสิกขาบท เดือนปี ชุดการแต่งกายของชาวฮั่นที่ไม่ถูกตามสิกขาบท [/FONT]

[FONT=&quot] [/FONT]

[FONT=&quot]准毁。（编者[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]注：此年号[/FONT][FONT=&quot]为佛历，计算方法为佛历减去[/FONT][FONT=&quot]1027[/FONT][FONT=&quot]年即西元年[/FONT][FONT=&quot]历。如虚云老和尚当时为佛历二九八二，即西元一九五五年。[/FONT][FONT=&quot]）นับตามแบบมหายาน เปรียบเทียบ คศ. 1955 แปลงเป็นพุทธศักราช (ปี คศ + 1027 ปี) ก็จะเป็นปี พศ 2982 [/FONT][FONT=&quot][/FONT]

horasarn, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#44
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
MooDum สมาชิกใหม่

วันที่สมัครสมาชิก:

17 ธันวาคม 2010

โพสต์:

3

ค่าพลัง:

+4
ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในจีน ตอนที่ 1
หลักฐานเหตุการณ์วันประสูติ-ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
ที่ถูกบันทึกโดยราชวงศ์จีน ในสมัยพุทธกาล

ภาพอักษร ศิลาจารึกระบุว่า มีแผ่นดินไหวและแสงสว่าง 5 สี บนท้องฟ้า
สมัย ราชวงศ์โจว มีการบันทึกประวัติศาสตร์เหตุการณ์อัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจริงในสมัยนั้น เหตุการณ์หนึ่งบอกว่า
“ในสมัย กษัตริย์ โจวเจา (โจวเจาหวัง แปลว่า กษัตริย์โจวเจา) ปีที่ 26 เดือน 4 วันที่ 8 (นับแบบจีนโบราณ) ได้เกิดเหตุในเมืองจีนคือ1.น้ำขึ้นในแม่น้ำ(ซึ่งปกติเป็นช่วงน้ำลด) 2.น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติมีน้ำผุดขึ้นมาจนล้นทุกแห่ง3.แผ่นดินไหว 4.มีแสงสว่าง 5 สี (สำนวนจีนแปลว่าหลายสี) พวยพุ่งไปบนท้องฟ้า ส่องสว่างไปถึงยังนอกอวกาศ สุดลูกหูลูกตา ทำให้กษัตริย์ โจวเจา รู้สึกประหลาดใจ จึงสอบถามอำมาตย์ว่าเกิดอะไรขึ้น อำมาตย์ได้กราบทูลตอบว่า “ในทิศตะวันตก(ของจีน)ได้มีอริยบุคคล บังเกิดขึ้นแล้ว” กษัตริย์ โจวเจา จึงถามว่า “แล้วเราจะได้พบคำสอนของท่านผู้นั้นหรือไม่” อำมาตย์ตอบว่า “คำสอนของท่าน(อริยบุคคลนั้น)จะเผยแผ่เข้ามาในแผ่นดินจีนอีก 1 พันปีข้างหน้า” กษัตริย์ โจวเจาจึงมีรับสั่งให้บันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ โดยแกะสลักลงบนแผ่น ศิลาประวัติศาสตร์จีน”
80 ปีต่อมา ถึงยุคกษัตริย์ โจวมู่ ก็มีการบันทึกเหตุการณ์แปลกประหลาดอีก คือได้เกิดเหตุการณ์ แผ่นดินไหว มีลมพัดแรงในเมืองจีนและแสงสว่างคล้ายสีรุ้ง 12 เส้น ส่องมาจากทิศตะวันตก ทาบอยู่บนท้องฟ้าของเมืองจีนตลอดคืน อำมาตย์ทำนายว่า “กายหยาบของอริยบุคคลกำลังแตกดับจากโลกนี้ไป”

ซึ่งวันที่ถูกจารึกในสมัย กษัตริย์โจวเจา ได้ตรงกับ วันประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ส่วนวันที่ถูกจารึกในสมัย กษัตริย์โจวมู่ ได้ตรงกับ วันปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่วันประสูติและปรินิพพานของพระพุทธเจ้าได้เกิด แผ่นดินไหวไปทั่วโลก ซึ่งชาวจีนก็ได้บันทึกไว้ในศิลาจารึกประวัติศาสตร์ของประเทศด้วย

ส่วนในวันตรัสรู้นั้น ได้มีหลักฐานบันทึกไว้ในบทขยายความว่า ก็เกิดเหตุมีแสงสว่างเกิดมาถึงเมืองจีนเช่นกัน
1 พันปีต่อมา ถึงยุคราชวงศ์ ฮั่น ของกษัตริย์ ฮั่นหมิงตี้ พระองค์ฝันเห็นบุรุษในรูปกายทองคำ สูงใหญ่ มีรัศมีเรืองรองกระจายไปทั่ว อำมาตย์ผู้ซึ่งชำนาญในประวัติศาสตร์ของจีน ทำนายฝันว่า “นั่นเป็นภาพของพระศาสดาพระองค์หนึ่ง ที่อยู่ทางทิศตะวันตก ที่เรียกว่า “ฝอ” หรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งสมัยที่พระองค์มีพระชนม์ชีพก็อยู่ในบริเวณประเทศอินเดีย” อำมาตย์คนที่ 2 ผู้จบการศึกษาสูงสุด กล่าวเสริมว่า “ใช่เลยพระเจ้าข้า เพราะในยุคของกษัตริย์โจวเจา ก็มีบันทึกในศิลาจารึก เรื่องอริยบุคคลในทิศตะวันตกนี้ไว้ ซึ่งตอนนี้ก็ครบ 1 พันปีพอดี ได้ถึงเวลาที่ศาสนาของพระองค์ ควรจะเข้ามาในจีนแล้ว เป็นบุญของพวกเราชาวจีนแล้ว”

กษัตริย์ฮั่นหมิงตี้ จึงส่งคณะทูตอันประกอบด้วยขุนนางผู้มีความรู้จำนวน 18 คนไปอัญเชิญพระพุทธศาสนามาที่เมืองจีน โดยใช้เวลาเดินทางไปกลับถึง 3 ปี ซึ่งคณะทูตทั้ง 18 ได้พบกับพระภิกษุในพระพุทธศาสนาชาวเอเชียกลางผสมกับอินเดีย จำนวน 2 รูป จึงได้นิมนต์ท่านมาที่จีนพร้อมกับพระสูตร พระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูป

เมื่อกลับมาถึงจึงได้มีการแปลพระสูตรเป็นภาษาจีนครั้งแรกที่ วัดม้าขาว (ซึ่งปัจจุบัน วัดนี้มีอายุถึง 1,900 ปี แต่เดิมเคยเป็นของความเชื่ออื่นมาก่อน) จึงถือว่าวัดนี้เป็นต้นกำเนิดพระพุทธศาสนาในประเทศจีน

อ้างอิงจาก ซื่อคู่เฉวียนซู : จึปู้ เล่มที่ 21 ซึ่งเป็นหนังสือชุดที่รวบรวมตำราความรู้ของจีนตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว จนถึง ยุคราชวงศ์ชิง

ชื่อหนังสือ สาระสำคัญซื่อคู่เฉวียนซู : จึปู้ เล่มที่ 21 , คณะผู้เรียบเรียง ยวี่หมินจงและคณะ , โรงพิมพ์ ฉางชุน จี่หลินเหยินหมิน, ความหนา 405 หน้า, ISBN7-206-02629-X

書名四庫全書薈要:子部第二十一冊
ISBN和價格 7-206-02629-X (精) 68.00
責任者於敏中等編修
出版發行項長春: 吉林人民出版社, 2002.5
物理描述項 405頁 26厘米

ที่มา : หลักฐานเหตุการณ์วันประสูติ-ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ที่ถูกบันทึกโดยราชวงศ์จีน - kalyanamitra webkal.org

------------------------
ก็เป็นข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม อดีตก็คือดีต นานไปยิ่งถูกลืมเลือน เหมือนสังขารขันธ์ที่โรยราลงไปทุกที
ธรรมะของพระองค์ฯ เท่านั้นเป็นปัจจุบันเสมอ
มุ่งทำนิพพานให้แจ้ง เพื่อให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์กันเถอะครับ

MooDum, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#45
- ถูกใจ x 4
- ดูรายการ
โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2009

โพสต์:

285

ค่าพลัง:

+331

ก็ไม่รู้นะครับ ในความคิดส่วนตัวของผมเอง ในการคำนวณอายุของวัตถุที่ค้นพบนั้น

พวกเขามีมาตรฐานอะไรมาวัด? จริงอยู่ผมเองก็ไม่ใช่นักโบราณคดี และตัวผมเอง

ก็ไม่ได้ร่ำเรียนมาทางนี้ เพราะวิชาโบราณคดีดังกล่าวก็รำเรียนมาจากตำราฝรั่งเขา

ดังนั้น ในหน้าประวัติศาสตร์กับคำจารึก ซึ่งแน่อยู่แล้วว่าจะต้องวิเคราห์ตามตำราฝรั่ง

ดูๆ แล้วอาจจะขัดหู ขัดตา บรรดาชาวพุทธศาสนิกชนอย่างเราๆ ไม่มากก็น้อย

เอาเป็นว่า ค่อยๆ คิด ค่อยๆ พิจารณารู้เห็นอะไรแปลกหู

แปลกตา คิดพิจารณาให้ดีก็แล้วกัน

โชเต, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#46
ksriuta เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

16 สิงหาคม 2007

โพสต์:

1,049

ค่าพลัง:

+2,966

undersun said: ↑

ถูกต้องแล้วครับ การตรวจอายุใช้ คาร์บอน14 ซึ่งอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ เป็นสิบปี เป็นร้อยปี

ฝากถามผู้รู้ การได้ยินเรื่องราวต่างๆควรกำหนดรู้และหยุกการปรุงแต่งใช่ไหมครับ เป็นสิ่งควรทำ
แต่ผมก็ ยังอยากคิดอะครับ ทำไงดี - - เช่น มนุษย์พึ่งมาเป็นมนุษย์(มีวิทยาการ)เมื่อ ไม่กี่พันปีนี้เอง(แสนปีก่อนเป็นไพรเมตลิง ก่อนหน้านั้นโลกพึ่งกำเนิด) แล้วมนุษย์ในช่วงพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนคือช่วงไหนอะครับ (ถ้าไม่ควรคิดต่อโปรดแนะนำด้วยนะครับ- -)
เด็ก ม.ปลาย
Click to expand...

ลองไปกระทู้นี้ดูครับ หลวงพ่อเล่าตั้งแต่มนุษย์สมัยตอนโลกเกิดใหม่ๆเลยครับ ตามจารึกโบราณครับ ท่านไม่เชื่อว่ามนุษย์มาจากลิงครับ

http://palungjit.org/threads/คนไทยมาจากไหน-ประวัติศาสตร์ไทย-พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ.276390/

ขอให้ท่านทั้งหลาย รวมถึงเจ้ากรรมนายเวร เทวดาประจำตัว และผู้ที่เกี่ยวข้องกับท่านทั้งหลายทุกท่าน ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน จนถึงอนาคต ได้รับการสัพเพครอบวิมานจากองค์พระศรีอารยเมตไตรยโพธิสัตว์ด้วยเทอญ

ksriuta, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#47
horasarn เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

26 ธันวาคม 2005

โพสต์:

361

ค่าพลัง:

+3,255
把佛法传入中国的印度摩腾、竺法兰二尊者，
ผู้ที่อัญเชิญพุทธศาสนาเข้าประเทศจีนคือ พระหลันฝ่าหลันมหาเถระ

去佛灭的年代还不远。当时白马寺东，夜有异光，
ห่างจากสมัยพุทธกาลไม่นานนัก คืนนั้นวัดไป๋หม่าซื่อ (วัดม้าขาว) กลางคืนปรากฏแสงเจิดจรัส ทางทิศตะวันออก

摩腾指出为阿育王藏佛舍利之处，明帝建塔其上。
พระธรรมาจารย์หมอเถิง กล่าวว่าเป็นสถานที่ที่พระเจ้าอโศก บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ให้พระเจ้าหมิงตี้สร้างพระสถูปครอบเอาไว้

佛道角试优劣，摩腾踊身虚空，广现神变，法兰出大法音，
พุทธมรรคล้ำเลิศจะสถิตย์สถาพร ณ ที่แห่งนี้ พระหมอเถิงสำแดงฤทธิ์เหาะขึ้นในอากาศ แสดงฤทธิ์นานับประการ พระฝ่าหลันเถระก็กล่าวอนุโมทนาคาถา

宣明佛法。二尊者的智慧神通难道说不清年月？
ประกาศพุทธธรรมให้ปรากฏ ในบันทึกเหล่านี้แสดงว่าท่านพระมหาเถระทั้งสองเป็นผู้ทรงฤทธิ์ ทรงปัญญาญาณ แต่เหตุไฉนจึง ไม่กล่าวถึงเดือนปีให้ชัดเจน

后来的高僧，如罗什、法显、玄奘、道宣，虽有几种传说，
มหาเถระในสมัยต่อมา เช่น หลอเสิน ฝ่าเสี่ยน เซวียนจ้าง เต้าเซวียน ต่างก็มีบันทึกไว้ในเรื่องนี้แตกต่างกัน

也没有确定改变。及至民国二年，
และก็ไม่มีมติใดใดให้มีการเปลี่ยนแปลงวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน จวบจนกระทั่งปัจจุบัน(หมินก๊กปีที่ 2)

章太炎等居士在北京法源寺召开无遮大会，
จางไท่เหยียนและเหล่าอุบาสก ได้จัดการประชุมใหญ่ที่ วัดฝ่าหยวนซื่อ ปักกิ่ง

讨论佛的纪念日，议决四月初八日为浴佛节。
ได้มีการแสดงฉันทามติในที่ประชุม ประกาศให้วันขึ้น 8 ค่ำเดือน 4 ตามปฎิทินจัทรคตจีนเป็นวันวิสาขบูชา

现在世界多用耶历，而政府亦没有叫佛教改用耶历，
ปัจจุบันนี้ทั่วโลกต่างใช้ปฎิทินที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ก็ถูกทางรัฐบาลให้ยอมรับปฎิทินที่ไม่ถูกต้องดังกล่าว

我主张应用自己的佛历。是与不是，还以遵古为宜，改了不好。
อาตมาแนะนำว่าเราควรใช้ปฎิทินพุทธศาสนาของเราเอง จะใช่หรือไม่ก็ตาม แต่เป็นการแสดงเคารพในบูรพาจารย์ที่ยึดถือมาแต่โบราณ
หากเปลี่ยนแล้วจะไม่ดี ไม่เหมาะสม

而他们硬要把二月八日、四月八日、二月十五日、
แล้วพวกเขาจะเปลี่ยนจาก วันขึ้น 8ค่ำเดือน 2 ขึ้น 8ค่ำเดือน 4 ขึ้น 15ค่ำเดือน

腊月八日古有的纪念日都不要了，他们不用四月八日作浴佛节，
และวันขึ้น 8ค่ำเดือน 12 ที่บันทึกและยึดถือมาแต่โบราณ ให้ยกเลิกทั้งหมด พวกเขาไม่เอาวันขึ้น 8ค่ำเดือน 4

改四月十五才是浴佛节。
แต่ให้เปลี่ยนเป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 (จีน) เป็นวันวิสาขบูชาแทน

《梵网律》属华严时，《四分律》属阿含时，都要被他们毁了。
หากเป็นอย่างนั้น คัมภีร์ฟั่นหว่างลวี่ (คัมภีร์พระวินัย) อยู่ในส่วนของพระสูตรหัวเหยียน และคัมภีร์ซื่อเฟินลวี่ ที่อยู่ในส่วนของพระสุตตันตปิฎก
ถูกพวกเขาฉีกทำลายเสียแล้ว

《百丈清规》由唐至今，天下奉行，他们要改；汉朝到今，
คัมภีร์ไป๋จ้างชิงกุย ที่จารึกสมัยราชวงศ์ถัง ที่เราเคารพถึดถือปฎิบัติมา ก็ถูกพวกเขาแก้ไขเสียแล้ว

穿的大领衣也要改。你看是不是末法？因此和他们争论，
เสื้อชุดยาว ที่ใช้กันราชวงศ์ฮั่นจนถึงปัจจุบันก็ต้องเปลี่ยน พวกเธอดูสิว่านี่ใช่เป็นยุคเสื่อมธรรมหรือไม่ ดังนั้นหากเราไปโต้แย้งกับพวกเขา

说你们要改，你改你的。佛是印度人，印度一年分三季，
หากพวกคุณจะเปลี่ยน คุณก็เปลี่ยนขอคุณไปเถอะ พระพุทธองค์เป็นชาวอินเดีย อินเดียปีหนึ่งมีสามฤดูกาล

一季四个月。我国一年分四季，一季三个月。我国有甲子分年号，
ฤดูกาลละ4เดือน แต่ประเทศจีนของเรา 1ปีมี 4ฤดูกาล 1ฤดูมี 3 เดือน ประเทศจีนของเรามีวิธีนับศักราชแบบ "ลักจับกะจื้อ"

印度没有，所以改朝换代，未免不错乱，故弄不清楚。玄奘在印度十八年，
แต่อินเดียไม่มี ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนยุคเปลี่ยนราชวงศ์ ก็ไม่สับสนคลาดเคลื่อน พระถังซำจั๋ง (เซวียนจั้ง) อยู่อินเดียถึง 18ปี

也未曾确定了年代。前人行了一两千年的四八浴佛腊八粥，
ก็ไม่เคยกล่าวถึงวันเดือนปีที่ชัดเจน ของวันประสูติของพุทธองค์ บรรพชนเราถือปฎิบัติวันวิสาขะบูชากันมาแล้วกว่า 2000 ปี

一旦改了不方便，我们何苦自己要改呢？
ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแล้วไม่เหมาะสม แล้วพวกเราจะเปลี่ยนทำไมกันเล่า

horasarn, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#48
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
horasarn เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

26 ธันวาคม 2005

โพสต์:

361

ค่าพลัง:

+3,255

บทความที่นักประวัติศาสตร์ยุคใหม่ไม่ยอมรับการบันทึกทางประวัติศาสตร์ของอินเดีย ในระยะ 12 ศตวรรษ ว่าอาจจะมีความคลาดเคลื่อน
และบางคนสรุปว่าพุทธปรินิพพานอาจจะประมาณ 1887 ปีก่อนคริตกาล หากนับปัจจุบัน ปีนี้จะเป็นปี พศ. 1887+2011 = พ.ศ.3898 แล้ว ! น่ากลัวไหม (หากข้อมูลนี้เป็นจริง)

I found different years cited as Buddha's birth year. They were 560, 563, 564, 623 and 624 BCE. Almost all sources cited the full moon of May as the birth date, although 2 sources cited April 8. The May full moons for these years are: May 7, May 11, May 21, May 14 and May 25. April 8 was a full moon in 560 BCE.
The Cambridge and Oxford histories of India accept 483 B.C as the date of Buddha's nirvana. He was 80 years old when he died, so this puts his birth year at 563 BCE.
If we accept 563 BCE as Buddha's birth year, his birth date would be May 11.
However, in January 2006 an Indian historian challenged the historical assertion that Buddha was born between 560-624 BCE. He cites evidence that Buddha was born in 1887 BCE. Assuming he was born on the May full moon, his date of birth would be May 8, 1887 BCE.
from Buddhist Channel | Buddhism News, Headlines | Books | Did Buddha live in 17th century B.C?
"author Kota Nityananda Sastry in his latest book 'Age of Lord Buddha' makes a critical appreciation of available data compiled by Western historians who, he thinks, made a mess of Indian history.
Sastry quotes his father Kota Venkatachelam's treatise 'Age of Buddha, Mililnda & Amtiyoka', which establishes that Buddha lived between 1887 B.C and 1807 B.C.
Venkatachelam's book 'The Plot in Indian Chronology' had gone into the history and the missing links in the chronology of events in Indian history.
Sastry states that Western scholars arbitrarily skipped 12 centuries of Indian history because their 'hypothesis' about Alexander's invasion did not match with centuries-old Indian chronology."
And in my opinion, this sounds like just the sort of thing that eurocentric British historians would do.
"The author asserts that Buddha was the contemporary of Kshemajit, Bimbisara and Ajatasatru, the 31st, 32nd and 33rd kings of Magadh respectively. This has been corroborated by the Puranic as well as Buddhist historical evidence, he adds.
Ultimately, Dr Sastry quoting evidences comes to the conviction that Lord Buddha was born in 1887 B.C and attained Nirvana in 1807 B.C."
see Buddhist Channel | Buddhism News, Headlines | Books | Did Buddha live in 17th century B.C?

Read more: Answers.com - What is Buddha's date of birth

แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 กุมภาพันธ์ 2011

horasarn, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#49
gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

29 มิถุนายน 2010

โพสต์:

701

ค่าพลัง:

+1,205
ขอเพิ่มความเห็นหน่อย น่าจะ ประมาณ 2600 ปีจริงๆ บางครั้งก็ดูบรรดาท่านๆทั้งหลายเป็นคนฉลาดบางครั้งก็ดูฉลาดน้อยๆอย่างไรก็ไม่รู้ อย่าลืมว่า พ.ศ.1 นะนับเอาช่วงหลังพระพุทธเจ้าปรินิพานนะ ปีนี้ 2554 การคำนวนอายุเขาคงจะใช้คำว่าประมาณ เขาจะไม่บอกว่าอายุ 2600 ปี อาจจะมีการสื่อสารกันผิดก็ได้ เคยเรียนไหมไอ้ค่าประมาณใกล้เคียงนะ

gun2555, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#50
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

7 พฤศจิกายน 2005

โพสต์:

330

ค่าพลัง:

+1,832

การกำเนิดพระพุทธรูปมีทรรศนะที่แตกต่างกันอยู่บ้าง
แบ่งออกเป็น ๓ ประเด็น คือ

๑. เชื่อว่าพระพุทธรูปที่เกิดมาในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงพระชนม์ชีพอยู่

ในหนังสือจดหมายเหตุของพระถังซัมจั๋งซึ่งเดินทางเข้าอินเดียได้กล่าวถึงพระ เจ้าอุเทนเมืองโกสัมพี สร้างพระพุทธรูปไม้จันทร์บูชาพระพุทธองค์ และพระเจ้าปเสนทิโกศล เมืองสาวัตถีก็สร้างพระพุทธปฏิมาขึ้นเช่นกัน แต่หลักฐานทางโบราณคดียังไม่มีการขุดพบ จึงยังไม่มีสิ่งยืนยันที่เด่นชัด หรือมีน้ำหนักพอ นอกจากนั้นยุคสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช หลังพุทธปรินิพพานสองร้อยปีเศษ ก็ไม่ปรากฏว่าพระองค์สร้างพระพุทธรูปแต่อย่างใด เป็นแต่แกะสลักรอยพระพุทธบาทแทนเท่านั้น

๒. เกิดในสมัยพระเจ้ามิลินท์ หรือเมนันเดอร์ซึ่งเป็นกษัตริย์กรีกปกครองอินเดียโดยมีเมืองหลวงที่สาคละ

ในหนังสือตำนานพระพุทธเจดีย์ของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพกล่าวว่าเริ่ม สร้างสมัยนี้ แต่มาแพร่หลายสมัยพระเจ้ากนิษกะมหาราช ในหนังสือประวัติศาสตร์พุทธศาสนาของพระราชธรรมนิเทศ ( ระแบบ ฐิตญาโณ ) กล่าวว่าสร้างในสมัยพระเจ้ามิลินท์เช่นกัน ทฤษฎีนี้มีผู้ยอมรับมากที่สุด

๓. เกิดในสมัยพระเจ้ากนิษกะมหาราช ซึ่ง ปกครองอินเดียเหนือ โดยมีศูนย์กลางที่เมืองปุริษปุระ หรือเปชวาร์ หนังสือกำเนิดพระพุทธรูปหลายสมัยของบรรจบ เทียมทัต กล่าวว่า พระพุทธเจ้าแบบคันธาระเกิดในสมัยพระเจ้ากนิษกะนี้ ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการสร้างแต่อย่างใด พระเจ้ากนิษกะทรงรับสั่งให้ช่างกรีกสร้างพระพุทธรูปขึ้นตามแนวพุทธลักษณะ ศิลปะผสมกรีก – โรมัน

อย่างไรก็ตาม ในการสร้างพระพุทธรูปส่วนมากแล้วเชื่อกันว่าเริ่มจากสมัยพระเจ้ามิลินท์เป็น ต้นมา กล่าวคือเมื่อชนชาวกรีกสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์เข้ามารุกรานอินเดีย ได้ตั้งรกรากถาวรที่ บากเตรีย คันธาระ สาคละ และหลายส่วนของอัฟกานิสถาน ปากีสถาน และอินเดียตอนเหนือ คำว่า คันธาระ (Gandhara ) มาจากคำว่า คันธารี หมายถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในแคว้นคันธาระ

คติของพวกกรีกไม่รังเกียจในการสร้างรูปเคารพ และก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นพุทธมามกะ ก็ได้สร้างรูปเคารพของตนอยู่มากมายหลายองค์ด้วยกัน เช่น เทพเจ้าจูปีเตอร์ หรือ ซิวส์ ฮิรา เฮอร์มีส อิรีส อพอลโล อาร์เมตีส เอเธนา เป็นต้น เทพเจ้าเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเทพเจ้าประจำธรรมชาติ

และพวกกรีกสร้างเป็นเทวรูปดุจมนุษย์ที่มีสัดส่วนงดงาม จนจัดเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นแห่งปฏิมากรรมชาติกรีกโบราณ ครั้นเมื่อเปลี่ยนใจมาเลื่อมใสพุทธศาสนาแล้ว นิสัยความเคยชินที่ได้กราบไหว้บูชาเทวรูป ทำให้พวกกรีกเกิดมโนภาพคิดสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาทดแทนเทวรูป เพื่อให้เป็นทัศนานุสตินึกถึงพระบรมศาสดา ไม่เกิดความว้าเหว่เปลี่ยวใจ ฉะนั้นจึงได้เกิดคติในการสร้างพระพุทธรูปขึ้นในหมู่ชาวกรีกก่อน

อวทม45, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#51
armamulet สมาชิกใหม่

วันที่สมัครสมาชิก:

10 กุมภาพันธ์ 2011

โพสต์:

1

ค่าพลัง:

+0

ทุกเรื่องข้อเท็จจริงมันมีอยู่

เรื่องการค้นพบนี้ ผู้ที่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องในมุมพุทธศาสนามีอยู่มากมายหลายแง่มุม ซึ่งเขาเหล่านั้นได้มีข้อเท็จจริงอยู่แล้ว มีคำตอบให้อยู่แล้ว ส่วนตัวของพวกเรานั้นต้องศึกษาจริงๆ วิเคราะห์และสังเคราะห์ บูรณาการเป็น ไม่ใช่ได้ข้อมูลอะไรใหม่ๆมาแล้วไปตีความเอาเองเชื่อในมุมของตัวเองซึ่งมีโอกาสผิดมาก เสียหายมาก..............บาบมากไม่รู้จะบอกว่าอย่างไรดี แต่พระพุทธรูปที่ค้นพบเหล่านี้ ได้ถูกบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรมานานแล้ว ในราชสำนักจีนซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นหามานานหลายปีแล้วครับ ลองไปค้นคว้าศึกษาดูเองแล้วจะเข้าใจได้มาก และสถานที่สำคัญในสมัยพุทธกาลทุกๆที่ ก็ได้ถูกบันทึกไว้นานแล้วเหมือนกัน รอเพียงการค้นพบเท่านั้นเอง ส่วนพ.ศ.ที่สร้างก็ได้ถูกบันทึกไว้อ้างอิงแล้ว ชัดเจน ลองค้นคว้าหาดู แล้วปัญญาก็จะเกิดไม่ใช่จะมานั่งคาดเดาและจินตนาการเอง 2600 ปี บ้าง กี่ปี บ้าง คนที่เค้ารู้ยังมีอีกเยอะครับ ยิ่งให้ข้อมูลที่ผิดมาก.............บาบก็มากตามมานะครับ

armamulet, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#52
nopopathorn เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 กุมภาพันธ์ 2010

โพสต์:

316

ค่าพลัง:

+2,065

ผมว่าอย่าพูดเรื้องนิกายต้างต้างเลยจะทำสงฆ์ให้เเตกกันเป็น สังฆเภท ครับ
เป็นมหาอันตริยกรรมนะครับเป็นบาปหนักเท่ากับฆ่าพ่อฆ่าเเม่เลยนะครับ
ที่พระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้กล่าวไว้
ครับขนาดพระเทวทัตยังโดนส่งลงอเวจีมหานรกเลยเพราะทำให้สงฆ์เเตกกันเป็นสองผ่าย
พระเทวทัตยังเป็นผู้มักใหญ่ใฝ่สูง อยากจะเป็นพระศาสดาแทนพระพุทธองค์ โดยพระเทวทัตกระทำการถึงขั้นที่เสนอให้พระพุทธเจ้าลาออกจากตำแหน่งพระศาสดาแล้วให้พระเทวทัตเป็นพระศาสดาแทน<SUP id=cite_ref-7 class=reference>[8]</SUP> และพยายามทำตัวให้ดูเป็นผู้นำที่เคร่งครัดอย่างยิ่งยวดเพื่อแบ่งแยกคณะสงฆ์ เช่น เสนอพระวินัยอย่างเคร่งครัด เช่น กินเจตลอดชีวิต อยู่ป่าตลอดชีวิต แก่พระพุทธเจ้าเพื่อทรงบัญญัติ<SUP id=cite_ref-8 class=reference>[9]</SUP> ซึ่งเมื่อผู้คนเริ่มทราบความตั้งใจชั่วของท่าน ทำให้พระเจ้าอชาตศัตรูออกห่าง ไม่อุปถัมภ์บำรุง และโดนดูหมิ่นจากชาวบ้านและพระสงฆ์ ทำให้ในภายหลัง ท่านได้สำนึกผิด และเดินทางไปขอขมาพระพุทธเจ้า แต่ทว่าด้วยกรรมที่ท่านสร้างไว้นั้นหนักมาก จึงทำให้ท่านต้องถูกธรณีสูบลงสู่อเวจีนรก ณ ริมสระโบกขรณีหน้าวัดพระเชตวันมหาวิหาร
ถือว่าผมขอนะครับอย่าพูดเรื่องลัทธินิกายกันเลยครับ

แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 กุมภาพันธ์ 2011

nopopathorn, 10 กุมภาพันธ์ 2011

#53
กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

7 มกราคม 2009

โพสต์:

903

ค่าพลัง:

+979

เจ๋งครับ น่าสนใจ.......

เอามันส์

กุญแจไขปริศนา, 11 กุมภาพันธ์ 2011

#54
รัตนภูมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

5 กุมภาพันธ์ 2009

โพสต์:

219

ค่าพลัง:

+319

ทุกคนเคารพ นับถือ ศรัทธา พุทธศาสนาเพื่ออะไร???

รัตนภูมินทร์, 11 กุมภาพันธ์ 2011

#55
mp38 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

29 มีนาคม 2009

โพสต์:

206

ค่าพลัง:

+386

สาธุ***
อนุโมทนา และ อโหสิกรรม
สิ่งที่ท่านทั้งหลายกล่าวกันนี้ข้าพเจ้าก็ งงงงงงงง
พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งการท้าพิสูจน์
เมื่ออยากจะรู้กันจริงๆน่ะ ผมถามหน่อย คุณกล้ามัย
ปฏิบัติตามหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซิครับ
การปฏิบัติเพื่อความรู้แจ้งมีด้วยกัน 4 ทาง หรือ
ตามตำราท่านเรียก อัชฌาสัย ของผู้ปฏิบัติกรรมฐาน
1.อัชฌาสัย สุกขวิปัสโก
2.อัชฌาสัย เตวิโช
3.อัชฌาสัย ฉฬภิญโญ
4.อัชฌาสัย ปฏิสัมภิทัปปัตโต
*****ข้อที่ 2-4 นี้ ท่านสามารถรู้ทุกอย่างได้*******
ท่านกล้าปฏิบัติแบบเอาจริงกับการปฏิบัติมัย ไม่ใช่แค่นั่งเพ่งเพียง 1 นาที
แล้วบอกว่า มันไม่เห็นทำได้
กล้าเอาชีวิตเข้าแลกกับการได้มาซึ่งผลแห่งการปฏิบัติมัย
******ตามหลักพระพุทธฯถ้าปฏิบัติตามท่านไม่มีคำว่าไม่สำเร็จ(ปฏิบัติตามหลักที่ถูกต้อง********

ศิษย์หลวงปู่

mp38, 12 กุมภาพันธ์ 2011

#56
svt เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

18 มกราคม 2006

โพสต์:

235

ค่าพลัง:

+1,032
Astro Neemo said: ↑

พระพุทธองค์ทรงพระชนมอยู่เมื่อ 1,700 ปี ก่อนตริสตกาล

Did Buddha live in 17th century B.C?

newindpress.com, January 12, 2006

VIJAYAWADA, India -- When was Lord Buddha born? Or when did he attain Nirvana? The answers to such puzzling historical questions may be found in the texts of puranas and scriptures.

However, author Kota Nityananda Sastry in his latest book ‘Age of Lord Buddha’ makes a critical appreciation of available data compiled by Western historians who, he thinks, made a mess of Indian history.

The Cambridge and Oxford histories of India accept 483 B.C as the date of Buddha’s nirvana. But, William Jones, on the basis of Chinese and Tibetan records infers that Buddha lived in the 11th century B.C.

Historian Fleet, who makes a study of ‘Rajatarangini’, thinks that Buddha lived in the 17th century B.C. Chinese monk Fa-Hien puts Buddha’s Nirvana at 1050 B.C. These contradictory theories may confuse one altogether.

The history that Buddha lived in the 5th century B.C was propounded by E.J Rapson who writes that the exact date of Buddha’s Nirvana is not known and hence the popularly accepted year of Buddha’s Nirvana is imaginary.

Sastry quotes his father Kota Venkatachelam’s treatise ‘Age of Buddha, Mililnda & Amtiyoka’, which establishes that Buddha lived between 1887 B.C and 1807 B.C.

Venkatachelam’s book ‘The Plot in Indian Chronology’ had gone into the history and the missing links in the chronology of events in Indian history.

Sastry states that Western scholars arbitrarily skipped 12 centuries of Indian history because their ‘hypothesis’ about Alexander’s invasion did not match with centuries-old Indian chronology.

The author asserts that Buddha was the contemporary of Kshemajit, Bimbisara and Ajatasatru, the 31st, 32nd and 33rd kings of Magadh respectively. This has been corroborated by the Puranic as well as Buddhist historical evidence, he adds.

Ultimately, Dr Sastry quoting evidences comes to the conviction that Lord Buddha was born in 1887 B.C and attained Nirvana in 1807 B.C.

Sastry can be contacted at 23-34-18, II floor, Manepallivari Street, S.N Puam, Vijayawada-11.
Click to expand...

บทความด้านบน แปลภาษาไทย พอได้ใจความดังนี้ครับ

หรือพระพุทธเจ้าทรงมีพระชนม์อยู่เมื่อ 1700ปี ก่อนคริสตศักราช?

พระพุทธเจ้าเกิดเมื่อไหร่ ? หรือ พระองค์ปรินิพพานเมื่อไหร่ ? หลายๆคำตอบ ต่อ คำถามทางประวัติศาสตร์ที่น่างุนงงเช่นนี้อาจจะถูกพบในถ้อยคำเดิมของคัมภีร์ปุรณะ และในคัมภีร์อื่นๆ

อย่างไรก็ตาม นักประพันธ์ โกธะ นิตยนันดา สาสตรี ได้แสดงความเห็นในหนังสือเล่มล่าสุดของเขาที่ชื่อว่า ยุคของพระพุทธเจ้า (Age of Lord Buddha) กล่าววิจารณ์งานวิจัยค้นคว้าของนักประวัติศาสตร์ชาวตะวันตกว่าสร้างความสับสนต่อประวัติศาสตร์ของอินเดีย

*ปุราณะ ตำนานบันทึกคัมภีร์โบราณของชาวอินเดีย ที่มีประวัติศาสตร์ชาวอินเดีย, วิชาความรู้ศาสตร์แขนงต่างๆ ..ฯลฯ

(ภาควิชา)ประวัติศาสตร์อินเดียแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดและอ็อกฟอร์ด ยอมรับ 483 ปีก่อนคริสตศักราชเป็นวันปรินิพพานของพระพุทธเจ้า แต่ วิลเลียม โจนส์ อ้างตามหลักฐานการบันทึกของจีนและธิเบตที่แสดงไว้ว่าพระพุทธเจ้าอาศัยอยู่ในปี 1100 ก่อนคริสต์ศักราช

ฟลีท นักประวัติศาสตร์ ผู้ซึ่งทำการศึกษาเรื่อง ‘Rajatarangini’ คิดว่า
พระพุทธเจ้ามีชีวิตอยู่ในปี 1700 ก่อนคริสต์ศักราช
พระสงฆ์จีน ฟา เหลียนบอกว่า ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า คือ 1050 ปี ก่อนคริสต์ศักราช.
ทฤษฎีต่างๆเหล่านี้ที่ขัดแย้งกันอาจจะสร้างความสับสนให้คนทั้งหลาย

ประวัติศาสตร์ที่ว่าพระพุทธเจ้ามีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตศักราช ถูกเสนอโดย อี เจ แรพสันผู้ซึ่งเขียนว่าวันที่แน่ชัดที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไม่มีใครรู้ ดังนั้นปีที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายถึงการปรินิพพานของพระพุทธเจ้าคือ จินตนาการ

สาสตรีอ้างว่า พ่อของเขา Kota Venkatachelam ซึ่งประพันธ์หนังสือชื่อ “ยุคของพระพุทธเจ้า, พระยามิลินทร์ และ อัมติโยคะ” บอกว่าพระพุทธเจ้ามีชีวิตอยู่ระหว่างปี1887 และ ปี1807 ก่อนคริสตศักราช.

หนังสือ ของ Venkatachelam เรื่อง เค้าโครงจดหมายเหตุของอินเดีย ได้ถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ช่วงเวลาที่ขาดหายไปในประวัติศาสตร์อินเดีย

สาสตรีระบุว่า นักวิชาการตะวันตกหลายคนข้าม 12 ศตวรรษ ของประวัติศาสตร์ของชาวอินเดียอย่างไร้กฎเกณฑ์ เพราะว่าข้อสันนิษฐานของพวกเขาเกี่ยวกับการขยายดินแดนของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ไม่ตรงกับเรื่องราวที่เก่าแก่นับหลายๆศตวรรษของอินเดีย

ผู้ประพันธ์ยืนยันว่าเป็นพระพุทธเจ้าเป็นคนร่วมสมัยของ Kshemajit, Bimbisara(พระเจ้าพิมพิสาร) และ Ajatasatru(พระเจ้าอชาตศัตรู), 31, 32 และ 33 ตามลำดับพระมหากษัตริย์ของ Magadh

เรื่องนี้ถูกยืนยันโดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชาวพุทธและชาวปุรณะ, เขากล่าวเพิ่มเติม.

สุดท้าย ดร.สาสตรีอ้างหลักฐานหลายอย่างที่นำไปสู่การพิสูจน์ด้วยความเชื่อมั่นใจที่ว่า พระพุทธเจ้าประสูติในปี 1887 ก่อนคริสต์ศักราชและ เข้าสู่ปรินิพพานในปี 1807 ก่อนคริสต์ศักราช.

ติดต่อ สาสตรีได้ที่ 23-34-18, II floor, Manepallivari Street, S.N Puam, Vijayawada-11.

...................

อ้างอิง
ทีมาบทแปลไทย: ธรรมศาลา :: อ่าน - การค้นพบพระพุทธรูปเก่าแก่ถึง 2,600 ปี ที่อัฟกานิสถาน
แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มีนาคม 2011

svt, 28 กุมภาพันธ์ 2011

#57
neng007 สมาชิกใหม่

วันที่สมัครสมาชิก:

27 สิงหาคม 2011

โพสต์:

1

ค่าพลัง:

+0

พระพุทธองค์ทรงพระชนมอยู่เมื่อ 1,700 ปี ก่อนตริสตกาล

ดันไปเจอพระพุทธรูปที่อัฟกาอีก จะโดนระเบิดอีกมั้ยเนี้ย
:'''(

neng007, 24 กันยายน 2011

#58
Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

8 พฤษภาคม 2007

โพสต์:

568

ค่าพลัง:

+1,284
จะกี่ปีก็ช่างเถิด รู้แค่ว่า ตอนน้ีธรรมวินัยของพระพุทธเจ้ายังอยู่ ก็เท่ากับว่าศาสดาของศาสนาพุทธยังอยู่กับเราชาวพุทธเสมอ

พระพุทธเจ้าของเราไม่เคยตรัสไว้เลยว่า ศาสนาจะอยู่ได้ 5000 ปี
ท่านตรัสไว้ว่า ตราบใดที่ยังมีการปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้องตาม มรรค 8 หรือสติปัฏฐาน 4 โลกนี้จะไม่ว่างจะพระอรหันต์เลย

อายุศาสนาจริงๆอาจจะอยู่ได้เกิน 5000 ปี หรือน้อยกว่า 5000 ปีก็ได้ขึ้นกับว่าชาวพุทธจะรักษาธรรมวินัยไว้ได้นานแค่ไหน

Ron_, 29 ธันวาคม 2012

#59
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
กตเวท เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

21 เมษายน 2009

โพสต์:

194

ค่าพลัง:

+185
ดีแล้วละครับ ดูศิลปสวยงามมากๆ สะท้อนถึงจิตใจความศรัทธาปราถนาดีของผู้สร้าง
ท่านอนุรักษ์ไว้ ขอให้พวกท่านเจริญรุ่งเรืองขึ้นครับ

กตเวท, 29 ธันวาคม 2012

#60
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ

(คุณต้องเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน เพื่อที่จะโพสต์)

หน้า 3 ของ 4

แชร์หน้านี้

Loading...