ผ่าดวงเมือง ส่องเศรษฐกิจปีหมู

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">ผ่าดวงเมือง ส่องเศรษฐกิจปีหมู
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>สวัสดีปีใหม่ ท่านผู้อ่าน

 

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">โหรชี้ปี 50 ปัญหาการเมืองเดือด [31 ธ.ค. 49 - 03:37]

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>วานนี้ (30 ธ.ค.) นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีต ส.ว. ฉะเชิงเทรา เจ้าของฉายาโหรสภาสูง ได้เขียนบทความวิเคราะห์ดวงเมืองบางกอกปี 2550 โดยระบุว่าในภาพรวมของดวงเมืองเกือบตลอดทั้งปีคือตั้งวันที่ 1 ม.ค.2550 ไปจนถึง 15 พ.ย.2550 ไม่มีช่วงไหนเลยที่ดาวจะให้คุณ มีแต่จะให้โทษ เพียงแต่บางช่วงอาจหนักมากน้อยต่างกัน ถ้าจะวิเคราะห์กระแสดาวที่กระจายตัวอยู่รอบๆโลก พบว่าช่วงไตรมาสแรกคือ ม.ค.-มี.ค. จะมีปัญหาทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ภัยธรรมชาติและภัยจากน้ำมือมนุษย์ที่ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะตั้งแต่ 15 มี.ค.-13 เม.ย. เป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังปัญหาทางการเมืองและปัญหาด้านอื่น อาจเป็นความไม่พอใจของพรรคการเมือง หรือของประชาชนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือในหลายเรื่อง ส่วนไตรมาสที่สอง ระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. ค่อนข้างสงบกว่าไตรมาสแรกถึงปัญหาจะยังคงมีอยู่ก็ตาม
เดือน ก.ย.ดวงผู้นำประเทศตก
นายบุญเลิศกล่าวว่า สำหรับไตรมาสที่สาม ระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย. เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างอันตรายมากทั้งจากปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ภัยธรรมชาติและภัยจากน้ำมือมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. ไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. เพราะดาวที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้นำประเทศคือ อาทิตย์และพฤหัสบดีตกในเรือนเสียด้วยกันทั้งคู่ ขณะที่ดาวบาปเคราะห์คือ อังคาร เสาร์ มฤตยู เนปจูน พลูโตและราหูยังคงส่งกระแสร้ายทำลายดวงเมืองกรุงเทพฯอยู่อย่างเหนียวแน่น ดังนั้น ช่วงนี้จึงเป็นระยะที่ผู้นำประเทศ คมช. สนช. และ ส.ส.ร. จะต้องระมัดระวังในการร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยที่ก้าวหน้า และเป็นประโยชน์แก่ประชาชนให้มากกว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 ขออย่าให้เป็นรัฐธรรมนูญของข้าราชการ โดยข้าราชการและเพื่อข้าราชการ
ระวังปลายปีอาจเกิดเหตุรุนแรง
นายบุญเลิศกล่าวว่า สำหรับไตรมาสสุดท้ายคือช่วง ต.ค.-ธ.ค. อาจแบ่งได้ 2 ช่วง คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-15 พ.ย. จะเป็นระยะอันตรายต่อเนื่องจากเดือน ก.ย. และเป็นช่วงวิกฤติอีกเช่นกันเพราะดาวดีตกในที่เสียหมด ขณะที่ดาวร้ายก็รุมทำร้ายดวงเมือง คล้ายๆเมื่อครั้ง 14 ตุลาฯ หรือ 6 ตุลาฯ หรือพฤษภาฯทมิฬ อาจเกิดเหตุ รุนแรงที่ไม่ต่างกันมากนัก ในระหว่างวันที่ 18 ก.ย.-31 ต.ค. แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นดาวที่ให้ คุณสูงสุดในสุริยจักรวาล เคลื่อนจากราศีมรณะของดวงเมืองกรุงเทพฯเข้าสู่ราศีธนู ซึ่งเป็นเรือนเกษตรของดาวพฤหัสบดีในวันที่ 16 พ.ย. ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ปัญหาภัยธรรมชาติและภัยจากมนุษย์จะเบาบางลง ดวงเมืองกรุงเทพฯจะดีไปอีกหลายปีจนถึงวันที่ 25 เม.ย. 2553 การทำนายดวงเมืองบางกอกมาก็เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจของคนไทยทั้งชาติ โดย เฉพาะอย่างยิ่งผู้มีอำนาจวาสนาในการปกครองบ้านเมือง ขอจงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เพื่อหลีกเลี่ยงกระแสร้ายของดาวบนท้องฟ้า

http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics&content=31905
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">มายาพยากรณ์ 'ฟันธง'...วงการสะเทือน!! [1 ม.ค. 50 - 02:20]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>สะเทือนแน่ล่ะ เพราะ “อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ” หมอดูฝีปากกล้า กลับมา “ฟัน (ธง) ไม่เลี้ยง” อีกครั้ง ทั้งดวงมายายันดวงดารา ปี 2550 ฟันโดนโชะๆ ตรงเป๊ะๆ เด็ดดวง แม่นยำ ขนาดที่ทำให้ “เจ้าของดวง” สะอึกได้ซักแค่ไหน ไปติดตามกันเลย....

บันเทิง...คลายทุกข์ ​

ภาพรวม ปี'50 วงการบันเทิงเป็นความหวังใหญ่และความหวังเดียวของประเทศ เนื่องจากราหูของวงการบันเทิงมีตำแหน่งเด่น ตั้งแต่ 29 ก.ย. 2549 ถึงอีก 3 ปีข้างหน้า ปีนี้จะมีเม็ดเงินและผลประกอบการที่ประสบผลสำเร็จอย่างแรง เนื่องจากคนเครียดจากสภาวะเศรษฐกิจ บันเทิงจะเป็นตัวคลายทุกข์ให้ ที่ผ่านมาเรามีภาพยนตร์ที่ต้องซื้อจากต่างประเทศเข้ามาฉาย ต่อไปต่างประเทศจะมาซื้อหนังของเราบ้าง ภาพยนตร์ที่มาแรงในปี'50 คือ นเรศวรมหาราช เป็นภาพยนตร์ที่สร้างอุตสาหกรรมหนังให้เมืองไทย ขายสายได้ทั่วโลกเป็นพันๆล้าน เป็นหนังเรื่องแรกที่ขายได้เป็นพันล้าน เพราะตรงกับยุคสมัย ภาคใต้กำลังมีปัญหา การกอบกู้ชาติของพระนเรศวร จะช่วยปลุกกระแสชาวไทยได้ ประกอบกับราศีเด่น แต่ปีนี้จะเป็นยุคของคนรุ่นใหม่ ยุคเปลี่ยนสมัย ดารารุ่นเก่าจะหมดจิตวิญญาณการแสดงออก ฉะนั้นใครไม่ใช่ตัวจริงก็จบ

อาร์เอสบี้แกรมมี่ ​

เพลงมาแรงคือเพลงลูกทุ่ง ที่สื่อความหมายดีๆชัดๆ ชอบก็บอกชอบ เกลียดก็บอกว่าเกลียด ปีนี้ อาร์เอส ชนะ แกรมมี่ ผมมั่นใจมาก แต่ถ้า แกรมมี่ เอา ก๊อต-จักรพรรณ์ มาสู้อาจจะกู้สถานการณ์ได้ แต่ เบิร์ด-ธงไชย มาออกอัลบั้มลูกทุ่งนี่ จบเลย ผมบอกหลายครั้งแล้วว่าหมดเวลาของเบิร์ดแล้ว ถึงคนจะคลั่งในความเป็นซุปเปอร์สตาร์ แต่เขาไม่เสพหน้าตา ถ้าแกรมมี่คิดจะหาคนมาชนโปงลางสะออนนะผมมั่นใจว่าคนนี้ชนได้ ฮาย-อาภาพร คนนี้แหละ ปีหน้า เชพบ๊ะ จะดังเป็นพลุ ฮิตติดปาก ติดตา ติดใจ ฟันธง! เพราะเข้ากับยุคหุ่นอวบ

หมดยุค “ไม้เสียบผี” ​

หลายปีที่ผ่านมาเรานิยมพระเอก-นางเอกผอมบาง แต่เทรนด์ในปี'50-52 เป็นเทรนด์ “อวบ” ดูจากนิตยสาร แพรว เอา แหม่ม-สุริวิภา ขึ้นปก เวทีนางแบบโลก ถ้าน้ำหนักไม่ได้มาตรฐานก็ไม่ให้ประกวด คนที่ไปทำศัลยกรรมหน้าตา หน้าอก จะดังแบบผีพุ่งใต้ แป๊บเดียวดับ ปีนี้เทรนด์คนอวบมาแรงมาก ขวัญ-อุษามณี ก็อวบ แหม่ม-สุริวิภา นี่อวบมาแรงแน่ๆ น้ำฝน-พัชรินทร์ ก็อวบดี อีกคนที่คล่องและเก่งคือ ซีแนม AF1 ถ้าได้โอกาสจากผู้ใหญ่ รับรองว่าเป็นปีทองของเธอแน่นอน

“ตู้ม...ตู้ม” ไร้เสน่ห์ ​

ดาราเซ็กซี่ไม่หายไปไหนนะ แต่จะได้รับความนิยมน้อยลง เหมือนคนที่มีภรรยาไปทำหน้าอก กะภรรยาที่ไม่ได้ทำ การมองและการสัมผัส “ของปลอม” จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจกว่า “ของแท้” พวกที่ไปทำหน้าอกมาจะน่ากลัว ขอให้เร้าใจที่ใบหน้าและอารมณ์การแสดงจะดีกว่า เพราะอะไรที่มันอึ๋มๆ ไม่ตื่นตาตื่นใจเหมือนเดิมแล้ว อย่าง อั้ม-พัชราภา, ตั๊ก-บงกช, กระแต-ศุภักษร ผมไม่รู้ใครทำนมมาบ้าง แต่บอกเลยว่าปีนี้ศัลยกรรมไม่รุ่งโรจน์ ตัวจริง ของจริง เกิดได้แน่ ผมฝากเตือนผู้กำกับต่างๆที่พยายามให้ดาราจูบจริงและสร้างภาพรักโปรโมต สังคมไทยยี้นะ จริงๆก็ยี้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ “เจ้าหญิงเบนโล” แหละ

ดวงรัก...ร่วงดิ่ง ​

ปี'50 ยังเป็น “ปีรักร้าง” ราวเดือน ม.ค.-ส.ค. ยังมีอีกหลายคู่ที่ต้องเลิกรา มีทั้งแบบที่คบกันมานานแล้วไม่ได้แต่ง หรือที่แต่งแล้วไม่ใช่ตัวจริงแต่ต้องอดทนอยู่ก็ต้องเลิก ที่จริงวงการบันเทิงมีหลายคู่ที่เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัวแอ๊ด-สมบัติ ครอบครัวต้อย-เศรษฐา, หาญส์-ปู หิมะทองคำ, ฉัตรชัย-สินจัย เปล่งพานิช พวกเขาอดทนต่อวิบากกรรม ผมอยากให้ทุกคู่ระวังในการมีรัก ข้อเตือนใจสำหรับคนที่รักกันคือโกรธแล้วควรยอมง้อ เข้าใจกัน เรียนรู้กัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน ที่เตือนเพราะยังมีจุดดวงดาวที่สัมพันธ์กับดวงเมืองจะกระทบต่อดวงของคนในประเทศ โดยเฉพาะคนในวงการบันเทิง สถิติการหย่าร้างจะสูงขึ้น รวมถึงคนนอกวงการด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเตือนใจนี้อาจจะหมายถึงใครที่ไม่ใช่คู่กันแล้วต้องการสร้างภาพเพื่อให้ธงผมหักก็เลิกเถอะ อยู่กับความจริงดีกว่า

ชะตาคู่รัก...คู่ร้าว ​

ปีที่ผ่านมาการได้เห็น เต๋า-สมชาย, นัท มีเรีย, วรรณษา ทองวิเศษ และอีกหลายคู่หย่าร้างกัน สะท้อนให้เห็นว่าคนในสังคมไทยรักชีวิตโสด ส่วน “คู่สมหวัง” ต้องรอหลัง ส.ค. ไปแล้ว คนที่คบกันมา 7-10 ปี ควรจะรีบแต่งปีนี้ เพราะเลยเวลาของการแต่งงานแล้ว สำหรับ หน่อย-บุษกร กับ เคน-ธีรเดช, กบ-สุวนันท์ กับ บรู๊ค-ดนุพร ผมเป็นห่วงมาก ถ้าไม่แต่งตอนนี้ จะมีลูกกันเมื่อไหร่ ถ้าแต่งก็จะได้รู้ว่าแต่ง ถ้ารู้ว่าเลิก ต่างคนจะได้เลิกไปคบคนอื่นได้ ผมพูดเพราะห่วงใย ไม่ได้แช่ง ตามดวงคือถ้านานเกินมันหมดเวลาแล้ว จริงๆคู่ เคน-หน่อย ควรจะแต่งตั้งแต่เมื่อ 1-2 ปีที่แล้ว ปีนี้ถ้ายังไม่แต่งงานก็ผีซ้ำด้ำพลอย ซวยนั่นซวยนี่ แต่งแล้วล้างซวยได้ เชื่อผมสิ
คู่ เจมส์-เรืองศักดิ์ กับ เอ๊ะ-ศศิกานต์ สำหรับ เจมส์ ปี'50 ไม่มีฤกษ์แต่งงาน ถ้าจะแต่งก็เพราะมีเหตุให้แต่ง ปี'51 น่าจะเหมาะที่สุด คู่นี้เป็นคู่ที่เกื้อกูลกันตามดวงชะตา แต่งแล้วมีความสุข
คู่ นุ่น-วรนุช กับไฮโซ ต๊อด-ปิติ ตามดวงชะตา นุ่น ควรเป็นซุปเปอร์สตาร์แทน แหม่ม-คัทลียา แต่ นุ่น ต้องโสด ถ้ามีคู่ดวงจะดรอปเพราะดวงนุ่นอาภัพรัก ทางที่ดีทุ่มเทเวลาให้การแสดงดีกว่า ควรหาผู้ชายนอกวงการ ดวงไม่ควรมีแฟนไฮโซ ผู้ชายธรรมดาน่าจะไปด้วยกันได้มากกว่า
คู่ สเตฟาน กับ น้ำฝน-กุลณัฐ สองคนนี้ไปด้วยกันยาก เพราะไม่ใช่คู่แท้ แค่คู่ผ่านๆเท่านั้นเอง
คู่ พอล-ภัทรพล กับ ซาร่า มาลากุล สำหรับพอลเป็นคนดวงดี มีเกณฑ์ร่ำรวยมากจากธุรกิจ ถ้าแต่งงานจะรวยเลย ผมเคยบอกว่า พอลคบกับใครในรอบปี'48-49 ต้องเลิก เลิกในกรณีที่เขาคบกันแล้วอยู่ใกล้กัน แต่เนื่องจากพอลกับซาร่าต้องเดินทางไปโน่นไปนี่ เลยแก้เคล็ดได้ ผมเชียร์คู่นี้นะ ตามราศีคนที่เกิดราศีกันย์ พิจิก มีน 3 ราศีนี้จะอาภัพรัก แต่ซาร่ามีราศีรอยต่อระหว่างมีนกะเมษ เป็นข้อยกเว้น 1 ในล้าน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปลี่ยนไปในทางที่ดี พอลเป็นผู้ชายสุภาพ ปี'50 เป็นปีทอง แม้งานพิธีกรจะไม่โดดเด่นเพราะมีดาวพูดเป็นมรณะ แต่งานละครโดดเด่น จะครองใจคนได้อีกนาน
“แหม่ม-คัทลียา จะเตียงหักไหม?” ดูจากดวงแหม่มเขามีจุดเปราะในเรื่องความรักและครอบครัวอยู่แล้ว น่าเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะช่วง ปี 50-51 แหม่มมีดวงแตก มีเกณฑ์เป็นม่ายไม่ว่าจะม่ายด้วยการตาย หรือการหย่า ส.ค. ปี 51-52 ปี 53-54 เป็นช่วงที่น่ากลัวที่สุด ถ้าพูดถึงเรื่องงาน การกลับมาเล่นละครของแหม่มจบไปแล้ว จะกลับมาโด่งดังอีกทีคือต้องทำรายการเกี่ยวกับแม่และเด็ก เอาชีวิตจริงของตัวเองและการเลี้ยงลูกมาขาย ความเป็นดาราดับไปแล้วไม่มีทางกลับมาได้
วิลลี่-เยลหลี แมคอินทอช ต้องระวัง ลูกมีเกณฑ์หลุดถึง 90% ดาวดวงลูกกำลังฝ่อ มีสิทธิ์แท้งสูงมาก ถ้าไม่ไปสวดมนต์ ไหว้พระขอให้เทวดามาเกิดจริงๆ ยากมาก วิธีแก้เคล็ดคือให้ไปที่วัดตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้ามีเทวดารักษาพระพุทธรูปที่หมดอายุไข ขอให้มาเกิดเป็นลูกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะเลี้ยงดูอย่างดี
ฟลุค-เกริกพล กับ โบ-ชญาดา ผมอยากให้คู่รักดาราที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว อดทนประคับประคองความรักให้มากที่สุด รวมถึงโบ-ฟลุค ด้วย โบเป็นผู้หญิงน่ารัก พร้อมจะให้อภัย ฟลุคเคยเป็นคาสโนว่า วันนี้เลิกไปเยอะแล้ว จะหมดหรือไม่หมด ไม่รู้ ทำอะไร อยากให้เห็นแก่ลูก

ชี้ชัด...ฟันธง ​

ชาคริต แย้มนาม ปีนี้ดวงยังตกอยู่ ชะตาอาภัพความรักและสิ่งที่เขาต้องการ อยากมีครอบครัวก็จะไม่มี ยกเว้นถ้าเขาไม่ต้องการมันจะมา ต้องปล่อยไปเรื่อยๆเดี๋ยวมาเอง ดวงชะตาจะพบรักและได้แต่งงานราว ปี'52-53 แต่ต้องเงียบนะ เพราะดวงไม่เหมาะกับการประกาศให้คนรู้ หรือทำตามประเพณี อยู่กันไปเลย แล้วแต่งทีหลัง ผูกข้อไม้ข้อมือเงียบๆอย่าเปิดเผย ชาคริตเกิดราศีเมถุน เจ้าชู้ เจ้าสำราญ แต่ถ้ามีครอบครัวมีลูกจะหยุดเจ้าชู้ทันที เหมือนพีท ทองเจือ ฉะนั้นคนที่จะจับชาคริต ได้ต้องท้องอย่างเดียว...จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ ดวงชะตาอาภัพความรักมาก จึงไม่ควรใส่ใจกับความรัก อีก 2 ปีจะรุ่งโรจน์เรื่องการงาน ปีนี้จะมีผู้ชายเข้ามาอีก 2 คน ปี'51-52 จะเป็นตัวพิสูจน์ว่าเหลือกี่คน ดวงมีเกณฑ์เสียหายเพราะคู่ ต้องระวังตัว ความสัมพันธ์ที่เกินเลย เป็นข่าวเสียหาย ภาพหลุดทางอินเตอร์เน็ต ระวังท้องก่อนแต่ง เพราะมีดาวมรณะอยู่ ห้ามพลาด พลาดแล้วดับเลย ส่วนคู่ควรหาพ่อม่าย หรือต่างชาติ หรือคนที่เป็นลูกกำพร้าถึงจะเหมาะ...หยาดทิพย์ ราชปาล ดวงรักไม่โดดเด่น ปี'50 ยังเป็นปีทอง การงานจะรุ่งโรจน์ประสบความสำเร็จกว่าปีที่ผ่านมา ขายเซ็กซี่พอไหว หยาดทิพย์จะเป็นคู่แข่งของ อั้ม-พัชราภา ซึ่งรับรองว่าฝ่ายหลังแพ้ ยกเว้นว่าหยาดมีข่าวเสียเรื่องความรัก ม.ค.-ส.ค. ให้ระวังจะเสียหายเพราะความรัก คนที่คบอยู่ยังไม่ใช่ตัวจริง ปี'50 จะมีข่าวกับหนุ่มคนใหม่ หยาดมีดาวความรักในมุมวินาศ ลับลมคมใน ไม่ได้แปลว่าเจ้าชู้ แต่อาจจะคบคนมากกว่า 1 คน ไม่ได้คบเพื่อบริหารเสน่ห์ แต่คบเพราะเลือก
ปู-ไปรยา กะ แตงโม-ภัทรธิดา เมื่อปีก่อนดวงทั้งคู่เหมือนจะดังแล้วก็เงียบๆ ปูดับเพราะคบโจอี้ บอย ปี'50 ระวังจะอื้อฉาวเรื่องความรักหรือสัมพันธภาพของเขากะใครสักคน เป็นความสัมพันธ์แบบลึกซึ้ง แต่เป็นจังหวะที่ปูกำลังโดนกรรมเก่า จึงข้ามขั้นความสัมพันธ์ไป หมายความว่าปูไปมีความสัมพันธ์ก่อนที่จะเรียนรู้กัน ดวงปูควรจะไปเรียนต่อเมืองนอก กลับมาแล้วจะดังมาก...ขวัญ-อุษามณี ก็ไม่เหมาะกับการมีแฟน ถ้ามีก็เดี้ยง...แพนเค้ก-เขมนิจ ดวงชะตาดูดี ผู้ใหญ่รัก มีดาวศุกร์นำหน้าจุดเกิด สามารถอยู่ในวงการได้นาน วันข้างหน้าสามารถเป็นพิธีกรมีชื่อเสียงได้ แต่อาภัพเรื่องความรักมีดาวมฤตยูในจุดเกิด ดวงชะตาในปี'50 ถึงจะไม่ดังสุดๆ แต่ยังกระชากเรตติ้งได้ ไม่ควรขายภาพเซ็กซี่ ไม่งั้นจะกลายเป็นดาวดับทั้งขวัญและแพนเค้ก ควรปกปิดความลับที่สวรรค์ให้มา คนจะได้อยากรู้ตลอดเวลาและตลอดไป...ทาทา ยัง โกอินเตอร์อีกไกล ลักษณาอยู่ราศีเมถุน ดวงดี ระยะ 2 ปีนี้มีเกณฑ์แต่งงาน ในปี'50-51 มีสิทธิ์ดังมากขึ้น ต่างชาติจะยอมรับ 3-5 ปีต่อจากนี้ ทาทาจะดังเทียบเท่า บริทนี่ย์ มาดอนน่า ดวงนี้เกิดมาเพื่อเป็นซุปเปอร์สตาร์ของโลก ทาทาเดินมาถูกทางในการขายความเซ็กซี่ แต่อยากให้แฝงความเป็นไทยลงไปด้วยจะได้ช่วยประชาสัมพันธ์คนไทย ใครก็ว่าไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของคนไทยคนเดียว แต่เกิดมาเพื่อเป็นคนของโลก เปรม คือคนที่ใช่ในชีวิตทาทาถึง 90%...ฟิล์ม-รัฐภูมิ ดวงในรอบ 2 ปี จะประสบความสำเร็จอีกหลายเท่า เป็นปีแห่งการรุ่งโรจน์ ยิ่งเกิดราศีเดียวกับทักษิณ ชินวัตร เป็นดวงชะตาโดดเด่น มีชื่อเสียง มีสิทธิ์โกอินเตอร์ ปี'50 เป็นปีทองของฟิล์ม แต่ความรักต้องระวังให้มาก ยังไม่ถึงเวลาหรอก ฟิล์มชอบบริหารเสน่ห์ ต้องระวังตัวในความเสียหายอันเกิดจากผู้หญิง ถ้าฟิล์มมีแฟน คนที่รักฟิล์มจะลดลงเหลือครึ่งนึง ฉะนั้นถ้ามีแฟนห้ามเปิดเผย ต้องได้แฟนอายุมากกว่า แต่นิสัยเป็นเด็กขี้อ้อน น่ารัก หนังเรื่องใหม่ที่ฟิล์มแสดงจะทำเงินได้เยอะ ฟิล์มจะร้องเพลงดีขึ้น ถ้าให้มันออกมาจากอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง...เบิร์ด-ธงไชย ควรออกอัลบั้มเพลงเกี่ยวกับแม่ ขายในวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ผมเชื่อว่าขายได้เป็นล้านแผ่น ถ้าทำแบบนี้แล้วไม่ได้ผล ผมเลิกเป็นหมอดูเลย เพราะผมรู้ว่าทุกคนซื้อด้วยหัวใจ ดวงเบิร์ดคือขาลงแล้วนะ นี่คือทางแก้...พอลล่า เทเลอร์ หายไปเลย ดวงชะตามีดาวเซ็กซี่คุมจุดเกิด แต่ยังอยู่ในเรือนพระเสาร์ นับวันยิ่งบั่นทอน 2 ปีนี้มีจุดดวงตก มีเกณฑ์เลิกกับคนรัก มีเกณฑ์ตกเรื่องงานสูงมาก
กาละแมร์-พัชรศรี สาวราศีตุล จริงๆปี'49-50 กาละแมร์ต้องสมหวังในความรัก แต่ตัวเองมีอะไรเยอะเลยทำให้ ไม่ลงล็อก ปีทองในเรื่องงานแทน แต่อยู่ได้ ประมาณ ส.ค. ก็จะนิ่งแล้ว กาละแมร์เป็นคนที่โดดเด่นช่วงนึงแล้วก็จะตก เพราะมีดาวพฤหัสเป็นมรณะในดวงชะตา ทางแก้คือต้องไปเรียนต่อ ไม่งั้นถึงจุดๆนึงจะตัน ความรักกับ พีเค-ปิยะวัฒน์ รอดยาก...หมิว-ลลิตา เกิดราศีกันย์ เป็นคนมีเสน่ห์แรง สามารถเกิดและดับได้ตลอดเวลา...เวียร์-ศุกลวัฒน์ ดวง อยู่ราศีเดียวกะ ขวัญ-อุษามณี ทายเลยว่า เวียร์ จะมาชนกะ ปอ-ทฤษฎี...มาช่า วัฒนพานิช กับ กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ เหมาะจะเป็นคู่กัน ส่วนจะแต่งงานหรือเปล่าเป็นเรื่องของเขา...ภูริ หิรัญพฤกษ์ ดวงชะตาอาภัพรักชัดเจน การคบกับ แอน-อลิชา ตามดวงไปด้วยกันยาก ต้องคบกันยาวๆถึงจะไปกันได้ เพราะดวงภูริ เกิดราศีเมษ มีดาวมฤตยูเล็งจุดเกิด ดาวคู่ครองเป็นวินาศ ต้องหาคู่ที่เป็นผู้ใหญ่กว่าสัก 10 ปี...หนุ่ม-กรรชัย จริงๆถ้าใครได้คบได้อยู่ใกล้ จะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่ากอด น่าสงสาร ถ้ามีสัมพันธ์กับใครจะผูกพันเพราะใจอ่อน คนที่จะคบกับหนุ่มต้องรีบแต่งงานมีลูกเลยถึงจะเอาอยู่ แล้วคนเป็นแฟนหนุ่มต้องหนักแน่น ต้องคิดเสียว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวหนุ่มก็กลับบ้าน เมย์ เฟื่องอารมย์ ให้อภัยหนุ่มเถอะนะ (อ้าว!'จารย์ “ประสานร้าว” กลางอากาศซะงั้น)
“ฟันธง” แล้ว “มายา” จะเป็นไปตามดวงหรือไม่...เดี๋ยวก็รู้!!

ทีมข่าวบันเทิง ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD class=headline-normal> ฤกษ์ดี วันดี ปี 2550</TD></TR><TR vAlign=top align=left><TD class=messageblack>

​

โบราณว่า ทำสิ่งใด ให้ดูฤกษ์
ร้านจะเปิด คนจะคลอด ต้องวันไหน
จะบวชนาค แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่
ปีใหม่นี้ ฤกษ์ยามไหน ให้โชคเอย.
เรื่องฤกษ์ยามนั้น เป็นหลักเกณฑ์ที่มีบทบาทอยู่ในธุรกิจและชีวิตประจำวันของคนเราอยู่มากตั้งแต่เกิดมาเลยทีเดียว การให้ฤกษ์ที่สมบูรณ์จริง ๆ นั้น มีหลักเกณฑ์มากมายหลายประการ อาทิ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้ทรงสอดแทรกไว้ในพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ ตอนพระพรตให้โหรหาฤกษ์ราชาภิเษกพระรามดังนี้

.....บัดนี้ ขุนโหรผู้มียศถา

ก้มเกล้ารับราชบัญชา จับกระดานชนวนมาทันที

แล้วตั้งศักราชลงสองฐาน บวกลบคูณหารตามที่

ขับไล่ใส่สอบทุกคัมภีร์ โดยศรีชันษาพยากรณ์

แล้วเอาชะตาเมืองเข้ามาเปรียบ เทียบกับชะตาพระทรงศร

ทั้งองค์อัฐเคราะห์โคจร ถาวรสถิตเป็นมิตรกัน

เห็นพร้อมแล้วกราบบาทบงสุ์ ทูลพระองค์พระพรตรังสรรค์

ว่าข้างขึ้นสามค่ำวันจันทร์ สิบหกชั้นฤกษ์สี่ดีนัก

จะทำการราชาพิเษก ถึงที่เอกองค์พระยาจักร

มีแต่จำเริญศิริลักษณ์ เป็นหลักโลกาธาราตรี

พิจารณาความตามพระราชนิพนธ์บทนี้ จะเห็นได้ว่า การให้ฤกษ์นั้นนอกจากจะให้ได้ฤกษ์ดีและให้พระเคราะห์ต่าง ๆ อยู่ในตำแหน่งดีและสัมพันธ์ดีต่อกันแล้ว ยังต้องให้สัมพันธ์ดีกับดวงชะตาของผู้ประกอบฤกษ์อีกด้วย ส่วนคำว่า “ข้างขึ้นสามค่ำวันจันทร์” นั้นก็เป็นวัน “ราชาโชค” เหมาะจะทำการ “ราชาพิเษก” และ “สิบหกชั้นฤกษ์สี่ดีนัก” หมายถึง ได้เวลาที่เป็นฤกษ์ที่สี่ คือ “ฤกษ์ภูมิปาโล” เหมาะแก่การจะเป็นผู้รักษาแผ่นดิน ปกครองบ้านเมืองอีกด้วย
ผู้ที่จะคำนวณฤกษ์ได้ตามพระราชนิพนธ์ดังกล่าวมานั้นจะต้องเป็นโหรที่มีความเชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์และแตกฉานเรื่องฤกษ์เป็นอย่างดี

อ.ธนกร สินเกษม นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวถึงการดูฤกษ์ยามในปัจจุบันให้ฟังว่า ในยุคปัจจุบันนี้ ประชาชนต้องดิ้นรนเรื่องปากท้องของตัวเอง ตั้งแต่เช้ากลับบ้านก็มืดค่ำแล้ว คงจะไม่มีเวลาที่จะไปพบโหรเพื่อให้คำนวณฤกษ์ที่ละเอียดได้

ดังนั้นประชาชนจึงนิยมยึดถือฤกษ์จากกาลโยคประจำปี ซึ่งดูได้สะดวก โดยไม่ต้องเสียเวลาในการทำมาหากิน สำหรับในปี พ.ศ. 2550 นี้ จะต้องยึดถือกาลโยค 2 ช่วง คือ

......อ.ธนกร กล่าว เสริมกาลโยคในปี 2550 ว่า ตามดวงเมืองแล้วดวงพฤหัสบดีโคจรมาอยู่ดาวมรณะ ทำนายได้ว่า จะมีเรื่องราวของวงการศาสนาและวงการการศึกษาเกิดขึ้น มีดาวราหูเป็นกาลีโลกกับดวงเมือง ดาวราหูหมุนโคจร โยกกลับมา ดวงเมือง มีความสัมพันธ์กับดวงเมือง จึงทำให้ 4 เดือนแรกของปี เรื่องราวเกี่ยวกับหวยใต้ดิน ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพลจะฟื้นคืนชีพ

.....“ดาวราหูเป็นกาลี มีความสัมพันธ์ถึงดวงเมือง ซึ่ง ดวงราหู หมายถึง ภัยธรรม ชาติ ฉะนั้นโอกาสที่จะเกิด สึนามิหรือแผ่นดินไหวสามารถ เกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทุกคนจึงไม่ควรประมาทเมื่อต้องเดินทางไปใกล้กับภูเขา เพราะอาจ เกิดแผ่นดินไหวได้ หรือใกล้ริมน้ำ ริมทะเล ที่อาจเกิดคลื่นลมแรงได้ ทั้งนี้รวมถึงตึกสูง ๆ ด้วย ต้องมีความระวัง คิดก่อนทำเสมอ”

....หลังเดือนเมษายน 2550 ดวงศุกร์จะเป็นกาลี ทำให้เกิดการเสื่อมเสียทางด้านหญิงขายบริการ แหล่งบันเทิงต่าง ๆ รวมทั้งอาหารต้องระวังการเกิดสารเคมีปลอมปนในอาหาร มีการละเมิดลิขสิทธิ์ ด้านภาพ ยนตร์และเพลง อีกทั้งต้องระวังโรคเอดส์ด้วย โดยเฉพาะในแหล่ง บันเทิงต่าง ๆ
.....ขณะนี้ดาวเสาร์โคจร มาทับดาวจันทร์ ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศตั้งแต่ มกราคมถึงกรกฎาคม ประมาณ 7 เดือนแรก ยังไม่ดีเท่าที่ควร โบราณกล่าวไว้ว่า “เสาร์ทับจันทร์ จะพลันร้าย ทรัพย์สินเสียหายลูกเสียหนี” ฉะนั้นทุกคนจึงควรยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตาม พระราชดำรัสในหลวง ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทในทุก ๆ เรื่อง ทุก ๆ ด้าน

“การดูฤกษ์ยามเป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราทราบว่าในช่วงนี้ควรจะทำอย่างไร สิ่งใดที่ต้องระวัง เมื่อทราบอยู่แล้วว่าตอนนี้ ดาวราหูแรงอยู่ก็อย่าไปเล่นหวยใต้ดิน อย่าเข้าไปใกล้ หรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อย่าไปทำให้สิ่งที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลควบคุมเราได้ หรือต้องอยู่ภายใต้อำนาจผู้มีอิทธิพล เมื่อทราบว่าในปีนี้จะมีปัญหาเรื่องโรคเอดส์ เวลา มีเพศสัมพันธ์ก็ต้องระวัง รู้จักป้องกันไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

รวมทั้งการดำรงชีวิตควรอยู่ในความไม่ประมาท ไม่ว่าจะทำ อะไรก็ตาม ทั้งการทำงาน การเดินทาง การใช้ชีวิตประจำวัน ต้องรอบ คอบ มีสติ อย่าหุนหันพลันแล่น เป็นดีที่สุด เรื่องเศรษฐกิจที่ตอนนี้ไม่แน่ไม่นอน เพราะรัฐต้องใช้เงินในการช่วยเหลือภาคเกษตรที่เสียหาย จากน้ำท่วมเป็นจำนวนมาก จึงต้องรู้จักออมและประหยัดในการใช้จ่าย

ขอให้ทุกคนดำรงชีวิตอย่างพอเพียง อย่าฟุ้งเฟ้อ รู้จักออมและประหยัด ทำอะไรให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท กลางคืนถ้าไม่จำเป็น ก็อย่าออกนอกบ้าน หรือถ้าต้องเดินทางในเวลากลางคืนต้องระมัดระวัง คิดให้รอบคอบก่อนจะทำ แล้วทุกชีวิตจะปลอดภัย”
ฤกษ์เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยเสริมการตัดสินใจให้กับบุคคล แต่จะดีหรือไม่นั้นเราเป็นผู้กำหนดเอง....
เดือนมกราคม วันที่ดี คือ วันที่ 1, 4, 7, 8, 11, 13, 14, 18, 20, 22, 25, 26, 27
เดือนกุมภาพันธ์ วันที่ดี คือ วันที่ 1, 2, 3, 5, 9, 12, 15, 16, 18, 23, 25
เดือนมีนาคม วันที่ดี คือ วันที่ 2, 3, 4, 8, 9, 10, 11, 15, 16, 17, 18, 22, 24, 25, 26, 29, 31
เดือนเมษายน วันที่ดี คือ วันที่ 1, 2, 5, 6, 7, 8, 9, 12, 13, 14, 15, 16, 19, 20, 23, 24, 26, 27, 29, 30
เดือนพฤษภาคม วันที่ดี คือ วันที่ 1, 3, 4, 6, 10, 11, 14, 18, 21, 22, 24, 27, 28, 29, 31
เดือนมิถุนายน วันที่ดี คือ วันที่ 1, 5, 7, 8, 9, 10, 12, 14, 17, 18, 19, 24, 26, 29
เดือนกรกฎาคม วันที่ดี คือ วันที่ 1, 2, 3, 6, 8, 9, 10, 12, 13, 15, 19, 24, 26, 29, 30, 31
เดือนสิงหาคม วันที่ดี คือ วันที่ 2, 3, 5, 7, 9, 10, 12, 16, 17, 19, 20, 24, 26, 27, 30, 31
เดือนกันยายน วันที่ดี คือ วันที่ 2, 3, 6, 10, 13, 14, 16, 20, 24, 25, 27, 28, 30
เดือนตุลาคม วันที่ดี คือ วันที่ 1, 2, 7, 8, 9, 12, 15, 16, 18, 19, 25, 26, 29, 30
เดือนพฤศจิกายน วันที่ดี คือ วันที่ 2, 4, 5, 6, 8, 9, 11, 13, 16, 18, 20, 22, 23, 25, 26, 27, 30
เดือนธันวาคม วันที่ดี คือ วันที่ 2, 3, 7, 9, 11, 13, 16, 17, 18, 20, 23, 24, 25, 27, 30, 31

ทีมวาไรตี้ (จุฑานันท์ บุญทราหาญ)​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.dailynews.co.th/dailynew...ault.aspx?Newsid=112643&NewsType=1&Template=2

 

3 โหราผ่าดวงเมือง ปีหมู 2550 อสูรสำแดงแผลงฤทธิ์



ผลพวงจากปัญหาในปี 2549 ที่ผ่านมา ทำให้บรรยากาศของปี 2550 ซึ่งเป็นรอบนักษัตร "ปีหมู" เริ่มต้นบรรยากาศที่ไม่ค่อยจะราบรื่นเท่าใดนัก ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

สถานการณ์รอบตัวที่เกิดขึ้นจึงต้องจับตามองชนิดอย่ากะพริบ และใส่ใจอย่างละเอียดเพื่อให้รู้เท่าทัน และหาทางแก้ไขปัญหา จากหนักให้เป็นเบา จากเบาให้อยู่รอดปลอดภัย

เรื่องของ "ดวง" หรือ โหราศาสตร์ ย่อมเป็นคัมภีร์ที่หลีกเลี่ยงมิได้

หมอดูรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง "สุคนธา" ซึ่งเขียนทำนายใน "ศาสตร์แห่งโหร" มาจับปากกาผ่าดวงเมืองและนิสัยคนไทยในปีหมูให้รู้กันจะจะ ว่าในปี 2550 จะดีจะด้อยอย่างไร

คุณหมอ (ดู) สุคนธา บอกถึงอุปนิสัยคนไทยในปีหมูก่อนเลยว่า คนไทยซึ่งเป็นคนธาตุไฟ จะใจร้อน แต่ก็จริงใจ และตรงไปตรงมา มีเมตตา

สังเกตได้จากเวลาคนทำไม่ดีด้วย แม้จะร้ายแรงขนาดไหนถ้าเข้ามาพูดดีด้วย มากราบมาขอโทษจะใจอ่อนยอมยกโทษให้ เราจึงพูดกันเสมอว่า "คนไทยขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือคน" ทำให้ดูเหมือนหลอกง่าย แต่ในความเป็นจริง คนไทยเป็นคนให้โอกาสคน เมื่อยังไม่รู้ว่าคนคนนั้นดีหรือไม่ดีจริง จะไว้ใจก่อนเสมอ

พื้นฐานของคนไทยมาจาก "ความเป็นคนจริงใจ" ที่มีการศึกษาน้อย จึงทำให้ถูกคนฉลาดหาวิธีเข้ามาผูกสัมพันธ์ แต่เมื่อได้เรียนรู้จนเห็นข้อผิดพลาดแล้วจะฉลาดขึ้นเรื่อยๆ

คนไทยถือการปฏิบัติเป็นการศึกษาจากชีวิตจริง "ความผิดจึงเป็นครูเป็นบทเรียน" ของชีวิต

ดาวบริวารเป็นดาวอาทิตย์ เป็นเกษตรในราศีสิงห์ เป็นธาตุไฟมาสถิตในราศีเมษ ซึ่งอยู่ในลัคนา "ดวงเมือง" หมายถึงคนไทยส่วนใหญ่เป็นคนอดทน อึด เห็นได้จากอาชีพหลัก คือ "ทำนา" ซึ่งเป็นงานหนักที่ต้องใช้ความอดทนสูงมาก ใช้ความอึดกว่าจะได้ข้าวเต็มยุ้งฉาง เราจึงสอนลูกหลานให้กินข้าวให้เกลี้ยงจาน อย่ากินทิ้งกินขว้าง

นอกจากความอดทนแล้ว ดาวอาทิตย์ยังบอกถึงความมีศิลปะ สังเกตได้จากคนไทยทุกภาคมีฝีมือด้านการช่าง ต้นไม้พืชไร่ทุกชนิดสามารถนำมาพลิกแพลงใช้ประโยชน์ได้หมด และคนไทยยังเป็นคนรักชาติ

รักความเป็นอิสระ ยอมตายดีกว่าเป็นทาส เพราะดาวอาทิตย์บอกถึงความมีเกียรติยศ ชื่อเสียง และศักดิ์ศรี ใครมาพูดจาดูหมิ่นจะไม่ยอม จะต้องเอาเป็นเอาตายกันไปข้างหนึ่ง

คนไทยจะมีความผูกพันกับสถาบัน นิสัยยอมคนที่มีคุณธรรม ความดีเท่านั้น แต่เพราะความใจอ่อน ความจริงใจ และความไว้ใจ ทำให้เราพลาดพลั้ง ถูกหลอกโดยผู้นำที่ไม่ดี และต้องเดือดร้อนเพราะคนเหล่านั้น

จึงควรระมัดระวังในการเลือกผู้นำ

ดวงเมืองของไทย เจ้าเรือนเป็นดาวอังคาร ในสมัยก่อนจึงชอบทายกันว่าจะถูกปกครองโดยทหาร แต่จริงๆ แล้ว ดาวอังคารไม่ได้แปลว่าทหารเท่านั้น อังคารยังแปลว่าความดิ้นรน การพัฒนา การต่อสู้ การแก้ปัญหา การใช้ชีวิตที่ค่อนข้างเป็นอิสระ มีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา

ดังนั้น คนไทยจึงมีลักษณะของคนขี้เห่อ มีอะไรใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ ก็จะเห่อ เพราะอยากรู้อยากเห็น และยังมีดาวอังคารซึ่งอยู่ในเรือนการเงิน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประ และเป็นราชาโชค ทำให้ "รวยไม่ทน จนไม่นาน" พอเริ่มมีเงิน พอมีกินมีใช้ก็เริ่มไม่ระมัดระวังการใช้สอย แต่พอเงินหมดทำให้ดิ้นรนที่จะหาช่องทางและโอกาสใหม่ๆ เพื่อจะได้เงินมาใช้ เป็นอย่างนี้ตลอด จึงต้องรู้จักประมาณและไม่ประมาท

เศรษฐกิจพอเพียง จึงเหมาะกับคนไทยที่สุด ตามพื้นดวงเมืองไทยจะไม่อยู่ในขั้นรวยมาก แต่ในขณะเดียวกันจะไม่ย่ำแย่ยากจน เป็นพื้นฐานกลางๆ

ในส่วนของเพื่อนและพันธมิตรบ้านใกล้เรือนเคียง ประเทศไทยมีเพื่อนบ้านที่มีทั้งเจริญก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยี และเพื่อนที่ยังด้อยเทคโนโลยี ต้องเลือกที่จะ "สร้างสัมพันธ์" กับเพื่อนบ้านและพันธมิตร ต้องใช้ศิลปะในการอยู่ร่วมกันกับเพื่อนตลอดเวลา

สิ่งที่สำคัญสำหรับประเทศไทยและคนไทย คือ ต้องรักษาวัฒนธรรมและประเพณีที่มีมานานตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อเราไปชั่วชีวิตจนถึงรุ่นลูกหลาน เช่น วัฒนธรรมที่สืบสานจากพุทธศาสนาและจารีตประเพณีที่งดงามมาแต่ดั้งเดิม

ไม่ควรคิดจะไปเปิดกาสิโนแบบลาสเวกัส ทำไม่ได้ เมืองไทยไม่มีโชคแบบนั้น ถ้าฝืนทำมีแต่จะติดลบมากกว่าได้ มีแต่จะขาดทุนจนถึงหายนะ เมืองไทยไม่ควรส่งเสริมการพนันทุกชนิดให้เป็นของถูกกฎหมาย เพราะดวงกำหนดมาอย่างนั้น

นอกจากนี้เมืองไทยอย่าคิดทำธุรกิจใหญ่เกินกำลัง เช่น เป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลก เป็นไปไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ถูกกำหนดมาอย่างนั้น เราควรทำแค่กลางๆ พอมีพอกิน ควรรู้จักขายของด้วยตัวเองเพื่อไม่ต้องให้คนอื่นมาเอาเปรียบ

เมืองไทยถูกกำหนดไว้ด้วยเลข 1 คือ ดาวอาทิตย์ ให้เราเป็นคนมีปัญญาทางการแพทย์ การศึกษา และการเกษตร เมืองไทยจะรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจได้แน่นอน ถ้ารู้จักตัวเองได้ดีพอและใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีได้ถูกต้องเหมาะสม

เมืองไทยมีคนที่มีบารมี มีมากจริงๆ การมีวิกฤตครั้งนี้ของประเทศอย่าถือว่าแย่ เพราะวิกฤตนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาก เลิกไว้ใจที่จะฝากชีวิตไว้กับผู้นำคนใดคนหนึ่ง เพราะเมืองไทยจะต้องปกครองโดยประชาชน ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ และประชาชนต้องเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง ต้องเรียนรู้ถึงสิทธิและหน้าที่

ผู้นำของเรามีคุณธรรมและเก่ง แต่เพราะเรามีดาวเสียคือ พุธ ศุกร์ และราหู ทำให้ผู้นำของเรามักหลงผิด มัวเมาไปกับลาภ ยศอำนาจ และบริวารที่หวังผลประโยชน์ ประชาชนจึงต้องช่วยกันดูแล ด้วยการทำตัวให้เก่ง ให้ฉลาด เพื่อไม่ให้ผู้นำคนไหนๆ มาหลอกได้อีกต่อไป

ประเทศไทยจะมีความมั่นคงตลอดไป นั่นหมายความว่าประเทศชาติจะไม่เสียเมือง แม้ว่าตอนนี้จะมีคนคิดร้ายขายชาติ จะแค่เพลี่ยงพล้ำแต่จะแก้ไขได้ เราจะต้องมีพระมหากษัตริย์และพุทธศาสนา จนฟ้าดินสลาย สถาบันกษัตริย์อาจมีรูปแบบเปลี่ยนไปตามความเจริญของบ้านเมือง แต่จะยังคงอยู่อย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีดาวที่บดบังความคิดดีๆ เวลาเราหลงผิดไม่เห็นสิ่งดีที่มีอยู่ในตัว กลับไปนิยมสิ่งที่ไม่ดี เพราะเรามีดาวพุธ ดาวศุกร์ และราหูอยู่ในเรือนวินาศ จึงมักไหลไปตามยุคตามกระแส

สำหรับปี 2550 ดาวพฤหัสฯเป็นมรณะ ทำให้คนดีที่มีธรรมะ มีความเก่ง ความฉลาด จะเสียสละความสุขเข้ามาช่วยคนที่มีทุกข์ ส่วนคนที่มีทุกข์จะนึกถึงวัด ปี 2550 จึงเป็นปีแห่งการฟื้นฟูชาติ นับตั้งแต่เรื่องของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การต่างประเทศ และศาสนา

ผู้นำคนใหม่จะอยู่ในลักษณะที่ประชาชนรับได้ห้าสิบห้าสิบเท่านั้น เพราะพฤหัสฯยังเป็นมรณะ ประชาชนเพียงต้องการไล่คนเก่าออกไป

คนใหม่ที่มายังไม่โดดเด่นแต่จะเข้ามาชั่วคราวเพื่อแก้กฎหมายมากำหนดกติกาใหม่

"โสรัจจะ นวลอยู่" หมอดูที่มีคำทำนายเป็น ปีหมูหฤโหด ทำนายปี 2550 ว่า ยังเป็นปีแห่งการก่อวินาศกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแท้จริง ความยุติธรรมจะค่อยๆถูกกลืนหายไป ผู้ใช้อำนาจเป็นธรรมจะหลงระเริงอยู่บนบัลลังก์ที่ได้มาด้วยการคอรัปชั่น เป็นยุคของอำนาจทมิฬที่แฝงมากับการนำประเทศไปสู่ระบอบการปกครองแบบใหม่ ประชานิยมสุดโต่ง

ปี 2550 จะเกิดการจลาจล บุคคลในเครื่องแบบแตกแยกเป็นสองฝ่าย เกิดสงครามกลางเมืองเลือดไทยไหลนองแผ่นดิน อาจต้องใช้กำลังทหารเข้าแก้ปัญหา ต้องรบราฆ่าฟันกัน สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก

ตอนต้นปี บุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงของประเทศจะถึงแก่กรรม ผู้คนระส่ำระสาย

สำหรับปัญหาภาคใต้ ยังเป็นปีแห่งการก่อการร้ายและการก่อวินาศกรรมทั้งปีเหมือนปี 2549 ที่ผ่านมา และยังแก้ปัญหาไม่ตก อาจเสียอำนาจทางภาคใต้ของประเทศ การฆ่าผู้บริสุทธิ์รายวันยังคงดำเนินต่อไป ทำความยุ่งยากแก่รัฐบาล ประเทศไทยเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลก มีต่างชาติมาทำข่าว ความจริงจะเปิดเผยออกมา กระทบกระเทือนกับสัมพันธไมตรีกับประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง

ในแง่โหราศาสตร์การทำวู่วามใดๆ รังแต่จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ

เศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่สามารถแก้ไขได้ ขณะที่เศรษซกิจโลกก็ประสบปัญหาเช่นกัน เป็นปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลาย

ธนาคารของรัฐไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาได้ ธนาคารทั้งเล็กและใหญ่ปิดตัวลง ตลาดหุ้นกระทบรุนแรง ร่วงหล่นต่ำสุด พลเมืองประสบความยากจนค้นแค้นมากขึ้น

ปี 2550 ภัยพิบัติธรรมชาติยังรุนแรง ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม ขาดการเหลียวแลเอาใจใส่จากภาครัฐ เกิดแผ่นดินถล่มและทรุดตัวไปทั่วประเทศ ไม่เว้นแม้แต่กรุงเทพฯ อาจต้องสูญเสียแผ่นดินทางภาคใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน เพราะราวปลายปีจะเกิดสึนามิถล่มครั้งใหญ่ และให้ระมัดระวังวาตภัยเข้าถล่มภาคใต้ที่ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี

ปลายปี 2550 โลกเข้าสู่ยุคเข็ญ ตะวันออกกลางเริ่มเปิดฉากอาวุธปรมาณู ทำให้จุดวิกฤตของโลกเขม็งเกลียวอาจกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้

และเมื่อนั้นปีกุนหฤโหดก็จะสำแดงฤทธิ์
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0140010150&day=2007/01/01

 

ดวงเมืองปี 2550 แยกเป็นรายเดือน



มกราคม

ประชาชนมีความทุกข์ใจจนต้องเข้าวัดเพื่อหาที่พึ่ง ทำให้เกิดการรื้อฟื้นขนบธรรมเนียมประเพณีของพุทธศาสนา ซึ่งเราละเลยกันมานานขึ้นมาใหม่

ผู้มีธรรมะจะเข้ามาช่วยเหลือดูแลให้ความรู้ในเรื่องศาสนา เพื่อฟื้นฟูจิตใจ ประชาชนจะมีความคิดดี คิดถูก และลงมือกระทำในแนวที่ถูกที่ควร จนมองเห็นความถูกต้องชัดเจนขึ้น องค์กรสำคัญๆ ต่างๆ และต่างประเทศจะให้ความร่วมมือ มีการสร้างกฎระเบียบ กติกา ใหม่ๆ ของการอยู่ร่วมกัน เพื่อลดข้อบกพร่องที่เห็นได้จากปี 2549

การคลังและการพาณิชย์จะมีการวางกฎระเบียบและกติกาใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดการคอร์รัปชั่น จะมีการตรวจสอบและรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ เพื่อหาสาเหตุของความเดือดร้อน ควบคู่กับการดิ้นรนหาเงินมาชดใช้หนี้สินที่เกิดจากการก่อหนี้ไว้ในปีก่อนๆ จะต้องมีการเจรจาหาทางแก้ไขผ่อนปรน เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถที่ทำได้ การคลังและการพาณิชย์จึงเป็นเป้าหมายของการฟื้นฟูที่สำคัญ

ส่วนลาภจากการพนัน การเสี่ยงโชคทุกชนิด ถือว่าเป็นลาภปลอมๆ จะรักษาไว้ไม่ได้ จะถูกทำลายล้างหมดไปแบบไม่เหลือซาก แต่เราจะได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของเราเอง รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและจารีตประเพณี ศิลปวัฒนธรรม จะถูกฟื้นฟูจนเป็นที่ชื่นชอบของคนต่างชาติ



กุมภาพันธ์

เป็นเดือนที่ประชาชนต้องทำงานหนัก ต้องแสวงหาต้องดิ้นรน เพราะเมื่อวิกฤตผ่านไป เราจะหายมึนเพราะต้องมานั่งเก็บซาก เลือกสิ่งที่ดีเก็บไว้ สิ่งที่ใช้ไม่ได้ทิ้งไป

จะมีผู้ใหญ่แสดงความกล้าหาญด้วยการปรากฏตัวเพื่อรับใช้ประเทศชาติ หรือพยายามจะช่วยเหลือด้วยการแสดงกระบวนการความคิดของตัวเองให้ปรากฏ เพื่อนำไปพัฒนาให้เป็นรูปธรรม ประชาชนจะตื่นตัว กระตือรือร้นที่จะทำมาหากิน



มีนาคม

ระบบการคลังจะวุ่นวายจนต้องมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร เกิดวิกฤตทางการเงิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำผิดพลาด ทั้งเรื่องพิมพ์ธนบัตร การกู้เงินล่วงหน้าและการเจรจากับเจ้าหนี้ ที่ทำให้ประเทศเสียเปรียบ ต้องมีการขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการเงินการคลังทั้งหมด

บุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลังจะถูกคัดออก ถูกเปลี่ยนคน หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง จนเกิดความวุ่นวาย

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์จะมีเรื่องวุ่นวายที่ปั่นป่วนในเรื่องการค้าและการผูกขาดของเจ้าสัวที่มีไม่กี่บริษัท

สื่อมวลชนจะลุกขึ้นมาแบ่งพวกกันเองจนเห็นได้ชัด จะมีการเปลี่ยนคนในสื่อสารมวลชนด้วยการถูกปลด ย้าย หรือถูกลงโทษหรือดำเนินคดี

คนดี เช่น นักวิชาการจะลุกขึ้นมาจับกลุ่มกันหาทางช่วยประเทศชาติ และแสดงตัวเต็มที่ในเดือนเมษายน ทหาร ตำรวจ นักการเมือง วิศวกร ดิ้นรนหรือกระตือรือร้นในการหาช่องทางหรือวิธีคิดใหม่ๆ เพื่อหาทางลดต้นทุนของพลังงาน และต้องทำงานหนักเพื่อค้นคว้า จนได้ผลสำเร็จในเดือนเมษายน



เมษายน

ช่วงสงกรานต์ ประชาชนจะเผด็จศึกชนะ จนทำให้คนที่มายึดประเทศพ่ายแพ้ไป การค้าขายจะทำมาหากินคล่องขึ้น มีโอกาสที่จะทำอะไรๆ ใหม่ๆ มากขึ้น จนทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

จะเริ่มรู้ถึงปัญหาคาราคาซังที่ผู้นำประเทศได้ก่อไว้ ทั้งเรื่องสัญญา เอกสาร นิติกรรมต่างๆ จะถูกเปิดโปง และต้องเจรจาเพื่อหาทางแก้ไข นำทรัพย์สมบัติของเรากลับคืนมาได้จนประชาชนพอใจ และจะมีมาตรการใหม่ๆ ทางกฎหมายที่เกี่ยวกับการคลัง การธนาคาร และระบบการค้าที่ทำให้ประชาชนพอใจมากขึ้น

กลุ่มทหาร ตำรวจ จะเปลี่ยนระบบเก่าจนได้ระบบใหม่มาใช้ รวมทั้งสามารถจัดการกับผู้มีอิทธิพลทั้งหลายที่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้ตัวเองด้วยวิธีที่ผิดกฎหมายได้สำเร็จด้วย

ผู้นำประเทศและผู้ที่ก่อปัญหาทั้งหลายจะถูกดำเนินคดี ถูกยึดทรัพย์



พฤษภาคม

ประชาชนจะมีอำนาจมาก มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง คนถูกต้องจะชนะ สภาวะการเงินหลังวิกฤตของการทะเลาะกันระหว่างประชาชนกับผู้นำจะดีขึ้น

สื่อสารมวลชนจะสับสน ปั่นป่วน ทั้งข่าวในประเทศและนอกประเทศ กระทรวงพาณิชย์และการคลังจะวุ่นวาย เกิดความไม่ถูกต้องชอบธรรมในกระบวนการ



มิถุนายน

สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครองการกระทำที่ถูกต้องและดีทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเงิน แต่เราจะได้รับโอกาสไปเจอในสิ่งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เรื่องศาสนา เงิน ค่าครองชีพ เราจะได้พบแต่สิ่งที่ทำให้เรามีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ รวมทั้งต่างชาติจะให้ความช่วยเหลือ ประชาชนจะพอใจกับความยุติธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ



กรกฎาคม

ประเทศชาติซึ่งได้รับความบอบช้ำจากการแตกสามัคคีของประชาชน จะฟื้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะการเปลี่ยนแปลงจากเดือนมกราคม ภาพพจน์ของประเทศชาติจะดีขึ้น คนกล้าที่จะลงทุน มีการแก้ไขปัญหาที่หมักหมมจากการสร้างหนี้ให้เกษตรกร ด้วยการออกกฎหมายที่ทำให้พวกเขาอยู่ได้สำเร็จ จนหาทางออกได้ในเดือนสิงหาคม

ปัญหาของสื่อสารมวลชนรวมทั้งเทคโนโลยี จะยิ่งวุ่นวาย มีการปล่อยข่าว มีการขุดคุ้ย เปิดโปง ประชาชนต้องเรียนรู้ที่จะแยกแยะถูกผิดด้วยตนเอง ทำให้รู้วิธีที่จะอยู่กับโลกยุคข่าวสารข้อมูลอย่างแท้จริง



สิงหาคม

ดาวเสาร์ย้ายไปอยู่ราศีสิงห์ คนทำผิดจะถูกเปิดโปงจนทำให้รู้ชัดว่าใครดี ใครไม่ดี คนที่เคยมีปัญหาระหว่างกันจะกลับมาร่วมมือกัน คนที่มีความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ป่วยไข้เล็กๆ น้อยๆ จะบรรเทา คนที่หมดกำลังใจจะมีกำลังใจขึ้น เพราะเห็นช่องทางเห็นแสงสว่าง ประชาชนจะได้แผ่นดินคืนมาอย่างสมบูรณ์ คนไทยทุกชนชั้นจะกลับมาสามัคคีกัน



กันยายน

คนไทยจะขยัน จะยอมใช้ชีวิตที่อยู่บนฐานของความจริง ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ใช้ของนอก จะรู้จักพระพุทธศาสนามากขึ้น มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีความเอื้ออาทรต่อกันมากขึ้น แต่สื่อสารมวลชนจะยังคงมีปัญหา ยังคงสับสน ข่าวคราวยังเชื่อถือไม่ได้

นอกจากนี้ การขนส่งมวลชนที่เป็นการผูกขาดจะต้องถูกรื้อทิ้ง ถูกจัดระเบียบใหม่ เช่นเดียวกับการสื่อสารมวลชน ส่วนผู้นำจะต้องถูกดำเนินคดีจนดิ้นไม่หลุด ชีวิตจะดำเนินไปตามกฎแห่งกรรมแน่นอน



ตุลาคม

จะมีความคิดใหม่เพื่อทำอะไรใหม่ๆขึ้นมา ฟื้นฟูอะไรใหม่ๆ เช่น การท่องเที่ยว ต้องตกแต่งบ้าน ซ่อมแซมบ้าน เพื่อให้มีลูกค้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น การเงินยังสะพัดดี แต่ต้องทำเพื่อใช้หนี้ที่ทำไว้ และต้องผ่อนใช้ไปอีก 5-6 ปี จึงจะหมด

ปัญหาความแตกแยกภายในยังไม่หมดไป ยังมีความวุ่นวายเกี่ยวกับสื่อสารมวลชน การพาณิชย์ และการขนส่งซึ่งต้องมีการจัดการไม่ให้ตกอยู่ในอิทธิพลของคนเดิม



พฤศจิกายน

จะมีเรื่องสนุกๆ เกี่ยวกับเพื่อนบ้าน อาจเป็นเรื่องที่ต้องไปเจรจาแก้ไขการปล่อยเงินกู้ที่ทำไว้ในอดีต เพื่อให้ได้เงินคืน อาจต้องไปบอกเลิกสัญญาที่เคยไปให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับเขา หรือต้องไปต่อรองเรื่องค้างๆ คาๆ ที่ไม่ถูกต้อง พฤติกรรมที่ปกปิดไว้ในการเจรจาของผู้นำคนก่อนจะถูกเปิดโปง จนต้องมีการเจรจาใหม่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติไม่ให้เสียเปรียบ

ผู้ใหญ่ของประเทศจะดีขึ้น จะได้คนดีขึ้นครองเมือง จะมีนโยบายต่างๆ ตามเจตนาดีที่ตั้งไว้ ความคลุมเครือจะน้อยลง น่าจะผลักดันในสิ่งที่ตั้งใจไว้สำเร็จ เช่น ร่างกฎหมายได้สำเร็จตามเจตนา

ปลายเดือนพฤศจิกายน บุคคลที่เราเพิ่งยกย่องจะเริ่มมีบทบาทชัด ทำงานได้ผลจนเริ่มเห็นความสามารถของเขา กลุ่มคนที่เกี่ยวกับดาวพุธ เช่น สื่อสารมวลชน การพาณิชย์ การขนส่ง จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตลอด มีการฟ้องร้องโดนไล่ โดนประจาน เป็นคนคนไป



ธันวาคม

น่าจะมีการใช้คำว่า "ถูกปลด" กับกระทรวงพาณิชย์ และสื่อสารมวลชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสองเรื่องนี้จะต้องถูกฟ้องถูกไล่ออก

ปรับเปลี่ยนผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งได้สำเร็จ ประเทศไทยจะโด่งดัง ชื่อเสียงจะปรากฏมีข่าวสารตีพิมพ์ไปทั่วโลก

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ พระสยามเทวาธิราช และทวยเทพเทวดาแซ่ซ้องสรรเสริญ ประชาชนจะได้ร่วมเฉลิมฉลอง 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยหัวใจที่ร่าเริงและสมัครสมานสามัคคีกันเป็นอย่างดี สันติสุขจะกลับคืนมาสู่บ้านเมืองอีกครั้ง

รวมทั้งปัญหาภาคใต้จะหมดไป จะได้หัวใจพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับคืนมาด้วย

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0141010150&day=2007/01/01

 

"การเงินไม่แน่นอน ถ้าประมาทอาจเสียหาย" โหร เชตตรีฤทธิ์ ปิลไล



ปีนี้โดยทั่วไปดีมากๆ ดาวดีดาวไม่ดีก็อยู่ในที่ของมัน ปีนี้ควรตั้งหน้ารับความเจริญทำตัวให้เข้ากับดวง ประชาชนมีความสุข มีคุณธรรมมากขึ้น ทำอะไรก็มักจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับอาชีพ

ปีนี้จะดีในเรื่องการค้าขาย เริ่มอะไรใหม่ๆ ได้ แต่ต้องมีหลักการ อยากทำอะไรก็ขอให้มีหลักการ สำเร็จแน่

ข้อเสียตามอิทธิพลของดวงดาว คือ ประชาชนจะเกิดความประมาท เอาแต่ใจ ดื้อรั้น ความประมาทแก้ด้วยการประนีประนอม (ดาวศุกร์) ความเอาแต่ใจดื้อรั้น แก้ด้วยความมีวินัย (ดาวเสาร์)

การเงินการคลังปี 2550 ของประเทศยังมีความไม่แน่นอน สับสน มีอุปสรรคมาก ถ้าประมาทอาจจะเสียหายได้มาก

ต้องกลางปีเดือนมิถุนายน จึงเริ่มดีขึ้น การเงินจัดระเบียบใหม่ให้หลักการเข้มงวด ส่วนเมืองไปได้แน่นอน

เรื่องภาษีของรัฐซึ่งเป็นรายได้สำคัญ ปีนี้อาจจะมีปัญหามาก อาจจะต้องจัดการเรื่องกฎหมายในเรื่องภาษีเสียใหม่ เพราะในดวงบอกว่ามีการเสียภาษีที่ไม่ถูกต้องเป็นเงินก้อนใหญ่จากคนมีต่ำแหน่งใหญ่ ถ้าจัดการเร็วรายได้ก็มาเร็ว

การคมนาคม ปีนี้จะมีการเจรจาเรื่องใหญ่ๆ ในเรื่องการเดินทางสาธารณะ มีการติดต่อ สัญญากันเพื่อพัฒนาเรื่องรถเมล์ รถไฟ ฯลฯ และเป็นผลดีมาก

แต่ต้องระวังการคอร์รัปชั่นด้วย ถ้าระวังก็ดีจะได้ไม่เสียหาย

การไปรษณีย์ การสื่อสาร วิทยุ ทีวี ฯลฯ มีการจัดการเซ็นสัญญาใหม่ที่โปร่งใส บริษัทที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มีการเปลี่ยนแปลง การติดต่อใหญ่ๆ ต้องระวังใต้โต๊ะ

ความสงบภายใน คนส่วนใหญ่ยังหนักใจ แต่ดวงบอกว่าไม่น่าจะมีปัญหามากนัก เรื่องภาคใต้ก็มีอยู่ แต่ดีขึ้นแน่นอน เพราะการจัดการของรัฐบาล ในการเผยแพร่ข่าวสารและการใช้คุณธรรม

หุ้น ตลาดหุ้นไม่สดใสเท่าที่ควร มีแต่ความสับสน ไม่แน่นอน แต่ถ้าทำอย่างมีวินัย มีหลักการ รวยได้

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จะเด่นมาก พวกนายหน้าต้องระวังตัว เพราะอาชีพนี้จะเฟื่องฟู เรื่องเบี้ยวค่านายหน้าจะมีมาก

การลงทุนด้านอื่นๆ จะมีมาก เช่น การบริการ บันเทิง การลงทุนด้านโรงงาน

การสาธารณสุขจะเข้าที่เข้าทาง มีระเบียบ มีการพัฒนาในด้านการปฏิบัติ มีการก่อตั้งองค์การในเรื่องนี้ด้วย

ข้าราชการจะถึงเวลายกเครื่องใหม่ ปรับปรุงการทำงาน รวมทั้งการข่าวสารต่างๆ ประเทศเพื่อนบ้าน พูดกันเข้าใจดี ประนีประนอม การค้าร่วมมือกันดี ปีนี้เป็นปีที่ดีมากในเรื่องนี้
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0142010150&day=2007/01/01

 

ดวงเมือง ปี พ.ศ. 2550
ถอดเสียงการทำนายของ คุณภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ
ในรายการ “The Icon” ออกอากาศ วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2549
​

"1. ด้านเศรษฐกิจ
ก็ยังทรง ๆ ก็คงจะยังไม่ดีขึ้นนัก เพราะฉะนั้นก็ต้องทำใจ (แต่ยังดีกว่าปี 49) เพราะเสาร์ทับจันทร์ในดวงเมือง เสาร์ก็คือประชาชนนั่นเอง ประชาชนก็ต้องถูกจำกัด เงินที่คนมีก็ต้องถูกจำกัดจำนวน กำลังซื้ออาจจะน้อยลง จะให้ดีเนี่ยต้องหลังปลายปีเป็นต้นไป ก็จะดีขึ้น หลัง 10 ส.ค. เสาร์จะยกจากราศีกรกฏที่ทับจันทร์เข้าสู่ราศีสิงห์ในเรือนปุตตะของดวงเมือง ประชาชนก็น่าจะมีความหวังขึ้น ดาวพฤหัสก็จะโคจรจากภพมรณะเข้าสู่เรือนศุภะ ซึ่งเป็นภพที่ดี ซึ่งตรงนี้เป็นที่หวังของประชาชนว่าปี 2550 ปลายปีไปแล้วสถานการณ์ทางเศรษฐกิจคงจะดีขึ้น ตอนนี้ก็ต้องช่วงกันประคับประคองไปก่อน

2. วิกฤต?
วิกฤตการเมืองนี้ น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะวัฏะของเสาร์ยังไม่พ้น ถ้าเปรียบเทียบกับเรื่องกรรมก็ยังไม่หมดกรรม ควรจะระวังอย่างมากแถว ๆ เดือนกุมภา – มีนา เนี่ย แต่ที่เล็งกันสนิทจริง ๆ คือ วันที่ 17 – 18 – 19 มีนา อันนี้น่าเป็นห่วงนะ ระวังจะเกิดเหตุการณ์สำคัญอย่างการชุลมุน การจลาจลใจกลางพระนคร (แก้ได้?) คือมันต้องใช้กำลังเข้าไปควบคุมสถานการณ์
ต้องระวังตั้งแต่วันวาเลนไทน์ไปโน่นแหละ (ถ้าเทียบกับ 22 กันยา ที่เคยทายไว้) อันนี้น่าจะแรงกว่า แล้วเหตุการณ์มันเกิดหลายวันด้วย

3. อุบัติภัย
ในปี 49 เนี่ย ราหูที่ยกเข้ามาสู่ราศีกุมภ์เนี่ย ราหูเนี่ยเป็นพระเคราะห์ธาตุลมแล้วยกเข้าสู่ราศีธาตุลม ราศีกุมภ์เนี่ยมีดาวมฤตยู ดาวมฤตยูก็จะโคจรสวนกับราหูแล้วไปสวนกับราหูในราศีธาตุลม เพราะฉะนั้นภัยที่จะเกิดในปีหน้าจะเป็นวาตภัย เดือนมีนา – เมษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอากาศ การเดินทางทางอากาศ มีดาวบาปเคราะห์มาเกี่ยวข้อง 3 ดวง หนึ่งอังคาร เป็นเรื่องอุบัติภัย อังคารสวนทางกับราหู แล้วก็กุมกับดาวมฤตยู แล้วก็มากุมกันหรือสวนกันในราศีธาตุลม เพราะฉะนั้นเนี่ย ปัญหาเรื่องวาตภัยในช่วงเดือนมีนา – เมษา ระหว่างช่วงวันที่ 30 มีนา 50 – วันที่ 8 พฤษภา แต่ที่จะสวนกันจริง ๆ คือ ช่วง 23 – 24 – 25 เมษา 50 (ความรุนแรงในระดับไหน) รุนแรงค่อนข้างมากสำหรับสังคมใหญ่ สัมพันธ์กับดวงโลกด้วย สถานการณ์โลกช่วงเนี้ยจะไม่ดีอาจจะเกิดปัญหาในภูมิภาค
แล้วอีกอย่างที่น่าพิจารณาคือ เรารับภัยจากน้ำมาค่อนข้างเยอะ พระเสาร์เป็นพระเคราะห์ธาตุไฟที่ตกน้ำอยู่เนี่ย เรามีปัญหาเรื่องอุทกภัยแต่พอมาเดือนสิงหา 50 พระเสาร์ยกเข้าสู่ราศีธาตุไฟ ต้องระวังอัคคีภัย โดยเฉพาะในช่วงที่พระเสาร์โคจรอยู่ตรงราศีสิงห์วันที่ 30 กรกฏา ปี 50 ถึงวันที่ 25 กันยา ปี 50 อันนี้บันทึกไว้ได้เลย อาจจะเกิดอัคคีภัยครั้งสำคัญขึ้น ในสถานที่ที่ค่อนข้างสำคัญเหมือนกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เป็นที่หวังได้ว่าในอนาคตจะดีขึ้นในช่วงปลายปีไปแล้ว ให้ระมัดระวังอย่างมากในช่วงวาเลนไทน์ไปถึง มีนา – เมษา เพราะฉะนั้นใครจะทำอะไรในบ้านในเมืองก็ควรจะคิดให้ดี
ก็เป็นการเตือนภัยนะครับ คนที่มีหน้าที่ดูแลเค้าจะได้ดูแลถูก

4. การสูญเสีย
การที่พฤหัสโคจรในภพมรณะตรงเนี้ยสำคัญดาวพฤหัสเนี่ยหมายถึงคนที่เป็นที่เคารพ เป็นพระเกจิอาจารย์ เถรานุเถระหรืออาจารย์ผู้ใหญ่คนสำคัญเนี่ย ตอนเนี้ยโคจรเข้าสู่ภพมรณะของดวงเมืองแล้วก็จะอยู่ในภพเนี้ยไปจนถึง 16 พฤศจิกา ปี 50 เพราะฉะนั้นในห่วงเวลาเนี้ยก็จะเกิดการสูญเสียแล้วก็ปัญหาทางด้านกฎหมาย เพราะพฤหัสเนี่ยวงการศาสนา การศึกษา วงการกฎหมาย แพทย์ พอพฤหัสยกเข้าสู่ภพมรณะในตอนเนี้ยปัญหาที่เห็นได้ชัดในช่วงเนี้ยพระเถรานุเถระละสังขารไปหลายองค์แล้วนะ แล้ววงการกฎหมายมีปัญหา จนกระทั่งต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แล้วการร่างหรือบัญญัติกฎหมายก็ยังมีปัญหาอยู่ แล้ววงการการศึกษา จะพ้นเมื่อเข้าสู่พฤศจิกา ปี 50 พฤหัสก็เข้าสู่ภพที่ดี ตรงนี้ก็เป็นที่หวังได้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลชุดนี้ก็ต้องประคับประคองให้พ้นตรงเนี้ย

5. วงการบันเทิง
มีส่วนที่ดีแล้วก็ไม่ดีเหมือนกัน จะเห็นว่าราหูตอนนี้จรอยู่ในภพลาภะเรื่องอบายมุข ยาเสพย์ติด จะถูกดูแล จัดระบบใหม่ แต่ที่น่าเตือนก็คือในปี 2550 หลังวันที่ 21 เมษา อายุเมืองก็จะวิวัฒนเข้าสู่ ปีที่ 226 พระศุกร์ก็จะเป็นกาลกิณี กาลกิณีเดิมเป็นกาลกิณีจร พระศุกร์เนี่ยเรามองถึงด้านวงการบันเทิงได้เหมือนกัน พระศุกร์เป็นดาวศิลปะ เพราะฉะนั้นก็จะมีอยู่ห้วงนึงที่เรื่องอะไรที่เป็นข่าวเป็นคราวที่ไม่ดี มีการสูญเสียครั้งสำคัญในวงการนี้ได้ (หลัง 21 เมษา) แล้วนางสงกรานต์ปีหน้าเนี่ยเป็นวันเสาร์นะ ดาวเสาร์เนี่ยเป็นดาวที่ค่อนข้างที่จะขรึม ๆ เศร้า ๆ เพราะฉะนั้นก็จะมีเรื่องสูญเสียในวงการนี้เกิดขึ้นได้เหมือนกัน"

 

อ่านไม่จบอ่ะ เพราะว่าเยอะ มึนพอสมควร