เชื้อสายครุฑหรืออดีตสัตว์ในหิมพานต์ มาแลกเปลี่ยนเรื่องป่าหิมพานต์กันคะ

สระน้ำทั้ง ๗ ในหิมพานต์


​

๑. สระอโนดาต ​

สระอโนดาต เป็นสระที่ได้ยินชื่อบ่อยที่สุด ธารน้ำทั้งหลาย ย่อมไหลลงมาที่สระอโนดาต พื้นสระอโนดาต เป็นแผ่นหินกายสิทธิ์ ชื่อมโนศิลา บริเวณที่เป็นดิน ก็เป็นดินกายสิทธิ์ชื่อหรดาล (ใช้ถูตัวได้ดี) น้ำใสแจ๋วสะอาด ท่าอาบน้ำ มีมากมาย เป็นที่สรงสนานแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย รวมถึงเหล่าผู้วิเศษผู้มีฤทธิ์ทั้งหลาย เช่น ฤๅษี วิทยาธร ยักษ์ นาค เทวดา เป็นต้น
รอบสระอโนดาต มียอดเขารายรอบอยู่ ๕ ยอดเขา (เหตุที่ได้ชื่อว่าอโนดาต ก็เพราะ มีเงื้อมผาโค้งงุ้มดังปากกา โอบบังแสงไว้ด้านบน ทำให้แสงอาทิตย์และแสงจันทร์ ไม่สามารถส่องผ่านไปโดนน้ำตรงๆ ได้ แสงเพียงลอดเข้าด้านข้าง ในแนวเหนือใต้ ตรงระหว่างรอยต่อยอดเขากับยอดเขา เท่านั้น สระนี้ จึงได้ชื่อว่า “อโนดาต”...แปลว่า ไม่ถูกแสงส่องให้ร้อน..)
จากสระอโนดาต... จะมีปากทางให้น้ำไหลระบายออกอยู่สี่แห่ง ทิศละแห่ง คือ

สีหมุข... ปากแม่น้ำแดนราชสีห์ (เป็นถิ่นที่ราชสีห์อาศัยอยู่มาก)
หัตถีมุข... ปากแม่น้ำแดนช้าง (เป็นถิ่นที่ช้างอาศัยอยู่มาก)
อัสสมุข... ปากแม่น้ำแดนม้า (เป็นถิ่นที่ม้าอาศัยอยู่มาก)
อุสภมุข... ปากแม่น้ำแดนโคอุสภะ (เป็นถิ่นที่โคอาศัยอยู่มาก)

เกิดเป็นแม่น้ำใหญ่สี่สาย ไหลล่อเลี้ยงรอบนอกของเขาหิมพานต์ ก่อนลงสู่มหาสมุทร...

ด้านทิศตะวันออก จากสระอโนดาต เลี้ยวขวาสระอโนดาตสามเลี้ยว ไม่ข้องแวะกับแม่น้ำอีกสามสาย ไหลผ่านถิ่นอมนุษย์ทางภูเขาหิมพานต์ ด้านทิศตะวันออก ลงสู่มหาสมุทร

ด้านทิศตะวันตก จากสระอโนดาต เลี้ยวขวาสระอโนดาตสามเลี้ยว ไม่ข้องแวะกับแม่น้ำอีกสามสาย ไหลผ่านถิ่นอมนุษย์ทางภูเขาหิมพานต์ ด้านทิศตะวันตก ลงสู่มหาสมุทร

ด้านทิศเหนือ จากสระอโนดาต เลี้ยวขวาสระอโนดาตสามเลี้ยว ไม่ข้องแวะกับแม่น้ำอีกสามสาย ไหลผ่านถิ่นอมนุษย์ทางภูเขาหิมพานต์ ด้านทิศเหนือ ลงสู่มหาสมุทร
(ที่แม่น้ำทุกสาย ไหลวนรอบสระอโนดาตเหมือนกัน แต่ไม่ข้องแวะกัน เพราะ ไหลลอดอุโมงค์หิน ไหลลอดภูเขา ออกไป)

ด้านทิศใต้ จากสระอโนดาต เลี้ยวขวาสระอโนดาตสามเลี้ยว แล้วไหลตรงไปทางใต้ประมาณ ๖๐ โยชน์ โผล่ออกมาใต้แผ่นหิน ตรงบริเวณหน้าผา กลายเป็นน้ำตกสูงใหญ่ยิ่ง ความสูงสายน้ำตกประมาณ ๖๐ โยชน์ สายน้ำตกอันรุนแรงนั้น ตกกระทบแผ่นหินเบื้องล่าง จนหินแตกกระจายออก ในที่สุดกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รองรับสายน้ำตกนั้น แอ่งน้ำนี้มีชื่อเรียกว่า “ติยัคคฬา” เมื่อน้ำมากขึ้น ได้พังทำลายหินอันโอบล้อมอยู่ออกไปได้ทางหนึ่ง เจาะกระแทกหินที่ไม่แข็ง เป็นอุโมงค์ ไหลไป จนถึงส่วนที่เป็นดิน ก็เจาะทะลุดิน เป็นอุโมงค์ และไหลลอดตามอุโมงค์ดินนั้นไป จนถึงภูเขาหินขวางอยู่ (ติรัจฉานบรรพต=ภูเขาขวาง) ภูเขานี้เรียกว่า วิชฌะ เมื่อน้ำกระทบหินเข้า ก็ไปต่อไม่ได้โดยง่าย แรงน้ำได้ดันจุดที่อ่อนแอที่สุดออกไปได้ ๕ จุด เกิดเป็นทางแยก ๕ แยก และกลายเป็นต้นน้ำสำคัญแห่งมนุษย์ ๕ สาย ด้วยกัน คือ แม่น้ำคงคา แม่น้ำยมุนา แม่น้ำอจิรวดี แม่น้ำสรภู แม่น้ำมหิ และแม่น้ำทั้ง๕ นี้ นอกจากผู้ตาทิพย์แล้ว ไม่มีใครบอกได้ว่า ของจริงอยู่ที่ไหน ...

อีกเจ็ดสระ เดี๋ยวมาต่อ ไป ปาร์ตี้ก่อนคระ 555+

 

คิดยังไงกับเรื่องรอยพญานาครอยล่าสุดอ่ะคับ...​

สำหรับบอม 50 50 นะ ไม่รู้สิ มันเป็นไงไม่รู้​

ปล.อยากได้เพชรพญานาคสีแดงเพลิง เสริมเตโชกสิณจังอ่ะคับ​

เห็นขายเต็มตู้โชว์กระจกแถวท่าช้างเยอะเลย อิๆ​

 

วันศิลใหญ่ ไปวัดกันมารึยังจ๊ะ
อย่าลืมไปเวียนเทียนด้วยนะคะทุกคน
​

 

ใช่อันนี้ป่าวคระ
รอยพญานาค ที่บ้านโขงใหญ่ ต มะค่า อ กันทรวิชัย จ มหาสารคาม
http://video.postjung.com/21065.html

 

o..m..g ป่าหิมพานต์ นี้ ดูมี มนต์ขลัง ชวนหลงไหล จังเลยนะคับ

อยากไปจริงจริง สงสัยไปเเล้วคงมัวเมากับกินรี 55+sory

 

ป่าหิมพานต์นี้ ดูคลาสสิค เเล้ว เเฟนตาซี มากเลยครับ ถ้าข้าพเจ้า ได้ไป นะ

จะไม่ขอกลับออกมาอีกเลย อิอิ

จะเเอบดูกินรีเล่นนําทั้งวัน

เออลืมครับ สวัสดีเจ้าของกะทู้ เเละ ทุกท่านด้วยนะคับ

 

อย่าดูถูก ว่า ปลาทองความจำสั้น นร้า

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=MUglpZ-PPb4&feature=player_embedded]YouTube - Raw Video: Chinese Worry Magic Trick Harms Fish[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=FQwb2E590z4]YouTube - Goldfish parade[/ame]​

 

สวัสดีจร้า แหม๋ ฮาเลย์ มาแต่ไกล รถคันนี้คุ้นๆอยู่เชียงใหม่ ป่าว

 

คุณหญิงทิพย์ เรื่องปลาทองนี้

ข่าวว่าเขาทรมานสัตว์นะครับ โดยการติดแม่เหล็กไว้ในตัวปลา

ดูปลามันไม่ค่อยว่ายเลย แต่เคลื่อนที่ไปได้เหมือนโดนดึงมากกว่า

 

ใช่คราฟ กลุ่ม ฮาเล่ห์ ร้านเบรินนิ่ง เชียงใหม่ ก่อนถึงสะพานเนาวรัฐ ถ้าเจอ ทัก ทาย กัน ได้ บอกเลย ว่าพี่ชื่อ กินรี 55+ จําได้เเน่นอน

 

อู้วววส์.... เค้าเอาแม่เหล็กใส่ปลาทองจิงเหรอ O_O งื้อๆๆ งั้นก็สงสารปลามากกว่าสินี่ ไทม่รู้เลยนร้านี่ คนทำใจร้ายชะมัด นึก ว่าปลาทองฝึกได้จิงกะจะหามาฝึกสักตัว ..... อิอิ

ใช่คราฟ กลุ่ม ฮาเล่ห์ ร้านเบรินนิ่ง เชียงใหม่ ก่อนถึงสะพานเนาวรัฐ ถ้าเจอ ทัก ทาย กัน ได้ บอกเลย ว่าพี่ชื่อ กินรี 55+ ​

อู้วววส์....จริงสิคะ ขับรถผ่านบ่อยๆไม่รู้เลยว่ามีแก๊งค์ รถถีบ ที่ฮั้นตวยยย เอ้ยย รถเคื่องใหญ่ อิอิ
ว่าแต่เค้าไม่ใช่ชื่อกินรี นะ ชื่อ กินร( กิน และ นอน ตลอดๆ) ต่างหาก
แห๋มอย่าง อย่าง ข้าเจ้าชื่อหญิงทิพย์ เจ้าคระ
แล้ว ที่ไม่ยอมอีกอย่าง เค้า 25 นะ ต้องเป็นพี่ละหรอ นี่ >_< งื้อ

 

เอิ่มมมม...มันไม่มีอะไรจะทดลองกันแล้วเหรอคับเนี่ย -*-​

 

มาแอบส่องดูกินรีที่ป่าหิมพานต์กันดีกว่า เนอะๆๆๆ

 

อื่ม...หากคุณ เข้าสู่อุปาจารสมาธิได้ จิง อารมณ์จะเริ่มเป็นทิพย์ ฉะนััน ก็ น่าพอจะรู้สึกรับรู้ว่า เหล็กใหล เค้าจะมีจิต(ย่อมมีความรู้สึกนึกคิด) ของเค้าฉะนั้น เค้า สามารถ ควบคุมกระแสของพลังงานที่ไหลเวียนได้ เช่นกัน

 

สวัสดีครับพี่หญิงแล้วก็ทุกท่าน^^...

 

พี่ๆคะ ในป่าหิมพานต์มีสัตว์ที่มีหัวและตัวเป็นเต่าแต่มีหางเป็นปลาไหมคะ ใครพอจะมีข้อมูลเรื่องนี้บ้างไหมคะ พอดีมีเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ชนิดนี้อ่ะค่ะ รบกวนพี่ๆโปรดเมตตาเจ้าค่ะ

 

เห็นทรงนี้แล้วนึกถึง ทรงคนหัวล้านแล้วปัดข้างเลย อิอิ
อดขำไม่ได้จิงๆ น้ำตาเล็ด T_T



​

 

เต่าหน้าคน เจอแล้ว ขอ วิ่งด่วนนนน

เห็นแต่ตัวนี้คะ
​

 

คด
คดนั้นมีกำเนิดอันลี้ลับมหัศจรรย์ที่ผู้รู้ในอดีตท่านปกปิดเป็นความลับได้บันทึกเอาไว้ว่าคดที ๒ ชนิด​

๑. คดที่เกิดจากพืช คดที่เกิดจากพืช เป็นของกายสิทธิ์กำเนิดจากบัญชาสวรรค์บันดาลให้เกิดโดยเทพผู้ทรงอิทธิฤทธิ์เนรมิตขึ้นมาเพื่อมอบให้กับผู้ที่มีวาสนาจะได้ครอบครองเป็นของคู่บุญเฉพาะคน เช่น คดขนุน คดมะม่วง คดตะเคียน คดไม้กาหลงรัง คดเถาวัลย์หลง คดขมิ้น คดมะพร้าว เป็นต้น

คดขนุน​

คดมะพร้าว​

คดขมิ้น​

๒. คดที่เกิดจากสัตว์ ( ส่วนที่เกิดจากมนุษย์จะไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้ )
คดที่เกิดจากสัตว์ มีกำเนิดสืบเนื่องมาจากบุพกรรมของสัตว์ชนิดนั้นๆซึ่งแต่เดิมก็คือเทพเทวา นางฟ้าที่ได้กระทำผิดกฎสวรรค์บางประการแล้วได้ถูกลงทัณฑ์ให้ลงมาเกิดเป็นสัตว์ชนิดต่างๆตามแต่ผลกรรมของตนจะบันดาลให้ไปเกิด เมือถึงคราวจะหมดกรรมก็จะอธิฐานร่างให้เป็นของกายสิทธิ์อันเป็นการสร้างทานบารมีก่อนที่จะกลับขึ้นไปยังสวรรค์ดังเดิมเช่น คดหอย คดกุ้ง คดปู คดดักแด้ คดไข่ เป็นต้น

คดดักแด้​

คดหอย​

คดไข่​

ส่วนคดประเภทที่เป็นเขา เขี้ยว หรือลูกตานั้น จะเกิดขึ้นมาพร้อมกับชีวิตของสัตว์เหล่านั้นเป็นของ คู่บุญบารมีของสัตว์ตนนั้น เพื่อที่จะได้ทำการปกป้องคุ้มครองชีวิต และร่างกายให้ปลอดภัยจนกว่าสัตว์ตน นั้นจะหมดกรรมลง เช่น เขากวางคุด เขากระจง เขี้ยวหมูตัน ฟันเสือกวง งาช้างกวง คดเขี้ยวจระเข้ คดเขี้ยวสิงห์โต เพ็ชรตาแมว เป็นต้น

เขากวางคุด

เขี้ยวหมูตัน

เพชรตาแมว​

อานุภาพของคดนั้นเป็นของวิเศษมีอิทธิคุณรอบตัว น้องๆเหล็กไหล แต่ที่กล่าวว่าดีกว่าเหล็กไหลก็คือ คดนั้นจะแผ่พลังปราณออกมาปกป้องคุ้มครองผู้เป็นเจ้าของโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เรียกว่าจะดีหรือจะชั่วช้าอย่างไรฉันก็จะคุ้มครองช่วยเหลือ จนกว่าจะตายจากกันไปเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามการเขียนบทความเรื่อง “ คด “ ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ถือเป็นการนำความลับที่บูรพาจารย์ท่านได้ปกปิดเป็นความลับในบางเรื่องมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ฉะนั้นผลบุญใดอันเกิดจากบทความนี้ให้ถือเป็นธรรมทานอย่างหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าขออุทิศผลบุญนี้แด่บูรพาจารย์เจ้าของความรู้นี้ด้วยเทอญ สาธุ..ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคด และฟอสซิล<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>​

<O></O>

มีผู้ที่สนใจ และนักสะสมธาตุกายสิทธิ์ประเภทคดจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจผิด คิดว่าคดกับฟอสซิลเป็นอย่างเดียวกัน ซึ่งผู้เขียนเองก็เคยได้ยินได้ฟังผู้ที่ชอบเล่นและค้นหาคดพูดแบบเข้าใจสับสนจนแยกไม่ออกว่าอะไรคือคด และอะไรคือฟอสซิล
แท้จริงแล้วคดกับฟอสซิลนั้นมีส่วนคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน ที่กล่าวว่าเหมือนกันก็คือทั้งสองชนิดนี้ต่างก็มีสถานะทางกายภาพที่แข็งเป็นหินด้วยกันทั้งคู่แต่ส่วนที่ต่างกันก็คือ แหล่งกำเนิดที่มาที่ไปซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยต่างหาก
ฟอสซิลเกิดจากซากพืชหรือสัตว์ที่ตายลงและได้ผ่านกระบวนการทางธรรมชาติเก็บรักษาไว้ในหิน โดยที่เมื่อสิ่งมีชีวิตนั้นได้ตายลงส่วนต่างๆจะค่อยๆถูกเปลี่ยน ช่องว่าง โพรงหรือรูต่างๆในโครงสร้างได้มีแร่ธาตุต่างๆซึมเข้าไปตกผลึกทำให้แข็งขึ้นซึ่งเรียกขบวนการเหล่านี้ว่า “การกลายเป็นหิน” โดยขบวนการเหล่านี้จะต้องใช้ระยะเวลานานเป็นหลายๆล้านปีเลยทีเดียว
ส่วนคดนั้นมีกำเนิดมาจากความลี้ลับซับซ้อนในเรื่องของจิตวิญญาณ อำนาจศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติ และเรื่องของกรรมลิขิต ดังนั้นคดต่างๆจึงมีขั้นตอนของขบวนการเกิด หรือการกลายเป็นหินโดยใช้ระยะเวลาเพียงสั้นๆเท่านั้น หรือแบบที่เรียกว่า “เนรมิต” ประมาณนั้น
ส่วนความแตกต่างทางด้านพลังปราณหรืออานุภาพกายสิทธิ์ จากการตรวจสอบและทดสอบของผู้เขียนไม่ว่าจะจากผู้อื่นที่มีความสามารถทางจิต และจากการตรวจสอบด้วยตัวของผู้เขียนตั้งแต่เริ่มเล่น และสะสมคดต่างๆมาเป็นระยะเวลากว่า30 ปี พบว่าคดมีพลังงานแฝงหรือพลังปราณที่เข้มข้นอัดแน่นไปทั่วทุกอณู มีอำนาจเร้นลับศักดิ์สิทธิ์แอบแฝงอยู่ ส่วนฟอสซิลนั้นมีเพียงพลังปราณที่ซากพืชซากสัตว์ได้ดูดซับจากธรรมชาติเข้ามาเก็บสะสมไว้ แม้จะเป็นระยะเวลาหลายล้านปีก็ตาม แต่กลับมี พลังปราณที่อ่อนเบาน้อยกว่าคด ชนิดที่เรียกว่าเทียบกันไม่ได้หรือ คนระดับชั้นกันเลยทีเดียวเชียว

---------------------------------------------------------------------
*** ข้อความจาก เว๊ปไซด์ พิพัฒน์ ชมรมธาตุกายสิทธิ์​

 

แผ่นดินไหวที่ นิวซีเเลนด์ 7.3 ริกเตอร์ T_T​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=opsiKirDfdE&feature=player_embedded"]YouTube - Dramatic aerial video as strong earthquake hits Christchurch, New Zealand[/ame]​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=LcKaqEKePiA&feature=related"]YouTube - 'Significant damage' from Christchurch quake[/ame]​