พลังอิทธิฤทธิ์ "หัวใจเปรต" สามารถบังคับและควบคุมเปรตให้อยู่ในอำนาจได้

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 22 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,238
    [​IMG]


    <!--sizeo:7--><!--/sizeo-->บั<!--sizec--><!--/sizec-->ณฑิตหนุ่มผู้มีความเชื่อมั่นศรัทธาต่อการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและสมถะกรรมฐานผู้
    หนึ่งเขามีความรู้สึกภูมิใจในตนเองยิ่งนักที่เขาเป็นผู้มีความสามารถพิเศษสามารถควบค
    ุมเปรตตนหนึ่งให้อยู่ภาย
    ใต้พลังอำนาจจิตอันยิ่งใหญ่ของเขา


    เปรตพร้อมและเต็มใจที่จะปฏิบัติตามคำสั่งและความต้องการของเขาด้วยความเต็มใจ
    เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อฝึกจิตให้ได้บรรลุธรรมวิเศษจนมีพลังอำนาจจิตเหนือมนุษ
    ย์
    สองปีมาแล้วที่เขาค้นพบความสามารถพิเศษของตนเอง
    เขาพบเปรตตนหนึ่งมาปรากฏร่างให้เห็นในนิมิตขณะที่เขากำลังเข้าสมาธิในคืนวันหนึ่ง
    มันน่าเกลียดและน่ากลัวมากเกินกว่าจะบรรยายได้
    แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกมากที่เขากลับไม่รู้สึกเกรงกลัวเปรตตนนั้นเลย
    กลับมีความรู้สึกคุ้นเคยกับเปรตตนนั้นมากเหมือนเคยรู้จักเปรตตนนั้นมาก่อน
    มันก็คงจะรู้สึกเหมือนเขาเช่นเดียวกัน
    มันไม่ได้แสดงอาการดุร้ายต่อเขาเลย
    กลับแสดงอาการนอบน้อมกับเขาเสมือนเขาเป็นนายเหนือมัน
    เพียงเขาคิดอยู่แต่ในใจเปรตตนนั้นจะปฏิบัติตามที่เขาคิดเหมือนรู้ใจเขา
    ความภาคภูมิใจที่เขามีพลังอำนาจเหนือมนุษย์สามารถบังคับและควบคุมเปรตให้อยู่ในอำนาจ
    ของเขาได้
    ทำให้เขาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
    เขามักจะแสดงกิริยาท่าทางดูถูกเหยียดหยามลบหลู่ดูหมิ่นพูดจาเยาะเย้ยถากถางผู้ปฏิบัต
    ิธรรมอื่น
    ว่าไม่รู้จริงเหมือนเขา


    สิ่งที่เขาถนัดคือ การนำเรื่องเปรตขึ้นมาข่มขู่ผู้อื่น
    แต่เขาไม่เพียงแต่ขู่เฉย ๆ
    เขายังทำตามที่เขาขู่ได้ด้วย
    หลายคนยอมรับว่า เขามีความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์
    เขาสามารถบังคับควบคุมเปรตให้ไปจัดการหลอกหลอนผู้ที่ไม่ให้ความเชื่อถือศรัทธาในตัวเ
    ขาได้

    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ<!--colorc--><!--/colorc-->

    หลายคนพบเห็นมาด้วยตนเองจนเกิดอาการเข็ดขยาด
    เมื่อมีโอกาสได้พบกับนักศึกษาค้นคว้าวิชาพรหมศาสตร์ผู้หนึ่ง
    เขาก็เริ่มออกอาการยกตนข่มท่านเพื่อหวังข่มขู่ให้ยอมรับในความยิ่งใหญ่ของเขา
    แต่นักศึกษาพรหมศาสตร์ผู้นั้นวางเฉย ไม่ให้ความสนใจและไม่โต้ตอบเดินหลบเลี่ยงไป
    สร้างความไม่พอใจให้กับบัณฑิตหนุ่มผู้ร้อนวิชาเป็นอย่างมาก
    คืนนั้นเปรตถูกเรียกตัวมาเพื่อมอบหมายภาระหน้าที่ให้ไปจัดการสั่งสอนนักศึกษาพรหมศาส
    ตร์
    ผู้ไม่ให้เกียรติ์เขา

    เปรตแสดงความไม่พอใจและโกรธแค้นศัตรูมากกว่าเขาเสียอีก
    เมื่อเขาเข้านอนหลับและฝัน
    เขาฝันเห็นเปรตผู้เป็นทาสรับใช้เขาถูกผูกมัดโบยตีด้วยแซ่เหล็กร้องโหยหวนอย่างน่าสยด
    สยองยิ่งนัก
    ทุกครั้งที่แซ่เหล็กกระทบร่างของเปรตเขาจะสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดทรมานเหมือนเปร

    ได้รับเหมือนเขาถูกตีด้วย

    เปรตวิ่งขย่มธรณีตรงเข้ามาจะทำร้ายเขาด้วยท่าทางที่อาฆาตแค้น
    เขายอมรับว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นสร้างความหวาดกลัวให้แก่เขาสุดขีด
    กลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน
    เขาพยายามรวบรวมพลังอำนาจจิตที่เขามีอยู่เข้าบังคับควบคุมเปรตตนนั้น
    แต่มันไม่เกิดปฏิกิริยาอะไรเลย
    เปรตร้องเสียงแหลมจนแสบแก้วหูหัวเราะเยาะเย้ยเขา
    มันเอื้อมมือที่มีแต่หนังหุ้มกระดูกแต่ละนิ้วยาวเหมือนนิ้วเท้าของนกอินทรีย์มีเล็บย
    าวและแหลมคม
    ขยุ้มร่างของเขายกขึ้นจากพื้น
    เล็บแต่ละเล็บเจาะลึกฝังเข้าไปในร่างของเขาเสมือนมีดแหลมคมที่ทิ่มแทงเข้าไป
    เขากรีดร้องเสียงแหลมด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างไม่เคยได้รับมาก่อนเลย

    คุณพระช่วย

    เสียงกรีดร้องของเขาไม่ใช่เสียงของมนุษย์แต่มันเป็นเสียงกรีดร้องของเปรตนรกชัด ๆ
    แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกหวาดกลัวเสียงกรีดร้องที่หลุดออกมาจากปากของเขาเอง
    เปรตเหวี่ยงร่างของเขาลงไปในบ่อหินเดือดที่เต็มไปด้วยลาวาที่กว้างและไกลสุดสายตา
    ร่างของเขาจมดิ่งลงไปสู่ก้นบ่อเหมือนก้อนกรวดเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ จมลง
    กลิ่นไหม้ของเนื้อและกระดูกของตัวเองเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถรับไหว
    เขากำลังถูกหลอมละลายในบ่อลาวาหินเดือดทั้งเป็น
    ความทุกข์ทรมานจากพิษความร้อนเกินกว่าที่จะบรรยายให้เห็นเป็นภาพพจน์ได้ชัด
    สิ่งที่เป็นยอดปรารถนาของเขาในขณะนั้น

    เขาเรียกร้องหาความตายเพื่อให้เขาได้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานอันใหญ่หลวง
    ซึ่งเขากำลังได้รับอยู่ในขณะนี้
    นานและนานและนาน
    เขาโผล่พรวดขึ้นจากบ่อหินเดือด
    เนื้อและกระดูกเดิมของเขาถูกหลอมละลายในไฟนรกไปจนหมดแล้ว
    ที่เหลืออยู่ในขณะนี้คือ
    เขาอยู่ในร่างของเปรตผู้เป็นทาสรับใช้เขานั่นเอง


    พระเจ้า / .........เขากำลังเสวยผลกรรมในสภาพของเปรตนรกหรือ ?..........
    ขณะที่เขากำลังสับสนอยู่นั้น
    เปรตสี่ตนก็ทะลึ่งโผล่พรวดขึ้นมาจากบ่อหินเดือดยกมือชูขึ้นไหว่ท่วมหัว

    เปรตตัวที่หนึ่งร้องตะโกนสุดเสียงว่า

    “ทุ”

    ร้องได้เพียงคำเดียวร่างเปรตก็กลับจมดิ่งกลับลงสู่ก้นบ่อหินเดือด
    พร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานและความหวาดกลัวสุดขีด

    เปรตตนที่สองร้องตะโกนสุดเสียงว่า

    “สะ”

    แล้วจะหายตามเปรตตนที่หนึ่งไป

    เปรตตนที่สามร้องตะโกนสุดเสียงว่า

    “นะ”

    แล้วจมดิ่งตามเปรตทั้งสองไป

    เปรตตนที่สี่ร้องตะโกนสุดเสียงว่า

    “โส”

    แล้วกลับจมดิ่งตามเปรตทั้งสามหายไป

    บัณฑิตในร่างของเปรตนรกที่เขาเคยภาคภูมิใจนัก
    เห็นภาพที่ปรากฏต่อหน้าเกิดความหวาดกลัวจนเสียสติ

    ทั้งที่มันเป็นเพียงภาพที่ปรากฏขึ้นในนิมิตเท่านั้น

    เขามิได้จมดิ่งลงในบ่อหินเดือดเหมือนเปรตนรกทั้งสี่

    เขายังเป็นคนธรรมดาเหมือนคุณกับผม

    แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ

    เขากลายเป็นคนเสียสติ

    เขามีอาการทางประสาทเกิดอาการหวาดกลัวและคลุ้มคลั่ง

    เขากลัวเปรต กลัวนรก

    หลายคนโทษว่า การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน สมถะกรรมฐาน และ การเพ่งกสิณ
    เป็นเหตุให้ผู้ปฏิบัติเป็นคนเสียสติได้

    แต่จะมีใครที่รู้จริงสักคนไหมว่า

    อะไรเป็นเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและสมถะกรรมฐาน

    การเพ่งกสิณ ต้องกลายเป็นคนเสียสติเป็นบ้าได้ ?

    บัณฑิตเคราะห์ร้ายถูกวิบากกรรมซึ่งเป็นกรรมเก่าติดตามมาส่งผลในชาตินี้

    อดีตชาติเขาเคยเป็นนักบวชที่อาศัยผ้าเหลืองหลอกลวงต้มตุ๋นผู้ที่หลงใหลศรัทธาเขามาก่
    อน

    เขาตั้งตนเป็นวิปัสสนาจารย์สอนผู้อื่นทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่มีความรู้ในทางนี้มาก่อน

    หลายคนที่หลงเชื่อและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของเขาต้องเกิดอาการทางจิตประสาท

    เพราะปฏิบัติออกนอกลู่นอกทาง

    “กรรมนี้จัดส่งผลให้เขาต้องเกิดเป็นคนเสียสติเป็นบ้าในชาติต่อไป”

    (ท้าวมหาพรหมนุษยักษ์ธรรมบาล / ยมโลก)

    บัณฑิตผู้นี้หลงผิดด้วยผลของกรรมเก่าจึงหลงไปนับถืออาจารย์ผู้หลอกลวงจอมปลอม

    หลอกให้เดินทางผิด

    เสมือนกับอดีตชาติตนเคยหลอกลวงให้ผู้อื่นหลงเดินทางผิดมาแล้ว

    ผลแห่งกรรมเก่าทำให้เกิดโมหะคือ ความลุ่มหลงมัวเมาในตนเอง
    หลงคิดว่า มีความสามารถบังคับและควบคุมเปรตได้

    หารู้ไม่ว่าเปรตที่ตนคิดว่าสามารถบังคับได้นั้นแท้จริงก็คือตัวเอง

    เป็นหนทางสายหนึ่งในทางเจ็ดสายที่จะนำพาไปสู่อบายภูมิอบายภพ

    “โมหะคือ ตัวหลงทำให้เกิดความลุ่มหลงมัวเมาในตนเป็นเส้นทางนำไปสู่เปรตภูมิ”

    เป็นธรรมที่จิตใจในกายมนุษย์ปรารถนาจะทำสิ่งใด
    สังขารซึ่งเป็นกายเปรตก็จักต้องสนองตอบต่อความต้องการนั้น

    บัณฑิตผู้โง่เขลาหารู้สึกตัวสักนิดไม่ว่า
    สภาวะของตนเองนั้น

    “คือมนุษย์ผสมเปรต”

    กายบัณฑิตเป็นกายเนื้อหรือกายหยาบที่สมารถมองเห็นได้ด้วยตา

    กายทิพย์ของบัณฑิตผู้ที่ถูกโมหะเข้าครอบงำถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นกายเปรต

    กายทั้งสองเชื่อมโยงถึงกันจึงสามารถถ่ายทอดเวทนาถึงกันได้

    เมื่อกายเปรตถูกโบยตีจึงส่งผลเวทนาถึงกายมนุษย์ได้

    บัณฑิตผู้นี้มิได้เจริญวิปัสสนาปัญญาจึงไม่เห็นธรรมที่เราแสดงข้อนี้

    ต่อเมื่อกายเนื้อถูกทำลายเหลือแต่กายเปรตจึงได้รู้ว่าแท้จริงเปรตตนนั้นก็คือตน

    ส่วนเปรตทั้งสี่ตนนั้นเป็นเปรตที่ต้องทนรับทุกข์เวทนาในบ่อหินเดือดมานานหลายกัลป์แล
    ้ว

    ต่อเมื่อมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้พระองค์หนึ่งจึงจักได้โผล่ขึ้นมาครั้งหนึ่ง

    แต่ละครั้งจะมีเวลาไม่ถึงอึดใจ

    เพียงเปล่งเสียงเรียกพระพุทธองค์ให้เสด็จมาทรงโปรดช่วยให้พ้นจากทุกขเวทนาแค่คำเดียว


    ก็กลับจมดิ่งลงสู่ก้นบ่อ

    ต้องกลับไปเสวยกรรมทนทุกขเวทนาจนกว่าจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาตรัสรู้อีก

    คำที่เปรตทั้งสี่กู่ร้องเรียกพระพุทธองค์นั้น

    เมื่อนำมารวมกันแล้วจะได้ความว่า

    “ทุ สะ นะ โส”



    เมื่อเปรตตนใดที่มารบกวนหรือก่อกวนมนุษย์ผู้ทรงศีลได้ยินพระคาถาหัวใจเปรตบทนี้
    จักระลึกถึงเปรตทั้งสี่ที่ยังเสวยกรรม
    อยู่ในอเวจีมหานรก จักได้สติ เกิดความรู้สึกหวาดกลัวผลแห่งกรรมที่ตนจักได้รับ
    รีบหลบหนีไปไม่กล้ากระทำกรรมชั่ว
    อาศัยซึ่งเปรตทั้งสี่ตนนั้นเป็นอุทาหรณ์ดั่งนี้แล ฯ



    (อุทาหรณ์ อุทาหอน ตัวอย่าง การอ้างอิง การยกขึ้นให้เห็น)

    พระคาถาสี่คำที่เกิดจากเปรตทั้งสี่คนนั้นท่านอาจารย์ทางด้านไสยศาสตร์ท่านขนานนามว่า

    “พระคาถาหัวใจเปรต”

    ใช้สวดเพื่อข่มขู่ไล่วิญญาณที่ชั่วร้ายที่เข้าสิ่งร่างเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย




    <!--coloro:#C0C0C0--><!--/coloro--><!--sizeo:1--><!--/sizeo-->ขอขอบคุณ
    www.saksitsart.com<!--sizec-->
     
  2. ศิษย์hitler

    ศิษย์hitler Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +77
    ถ้าใครดูรีบอร์นน่าจะรู้จัก มุคุโร่ คล้ายๆกัน
     
  3. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,596
    ค่าพลัง:
    +6,346
    ในอดีตกาลนานมาแล้ว มีบุตรเศรษฐี 4 คน เป็นเพื่อนสนิทกันกินด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนคนหนึ่งเสนอว่า พวกเราก็มีเงินมีทองใช้จนตายก็ไม่หมด เราน่าจะเสพสุขให้เต็มที่สุขที่น่าตื่นเต้นเมื่อเพื่อน ๆ ถามว่า สุขที่น่าตื่นเต้นน่ะอะไร เพื่อนคนต้นคิดกล่าวว่า
    ก็เป็นชู้กับเมียเขาสิ ตื่นเต้นดี ภรรยาคนอื่นที่สวย

    ดูความคิดอันพิเรนของไอ้หมอนี่สิครับ!


    อีก 3 คนที่เหลือเห็นดีเห็นงามด้วย จากนั้นมา บุตรเศรษฐีเพลย์บอยทั้ง 4 ก็เที่ยวจีบเมียชาวบ้าน เอาเงินหว่าน อย่างว่า แข็งดังหินเงินง้างอ่อนได้ดังประสงค์ ภรรยาสาวของใครต่อใครตกเป็นเมียบำรุงบำเรอความสุขของเจ้า 4 คนนั้นมากมาย ไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะอำนาจเงินและอิทธิพลบารมีของพ่อของพวกเขา


    เมื่อพวกเขาตายไป ไปเกิดในนรก เสวยผลกรรมอยู่เป็นเวลาไม่รู้กี่กัปต่อกี่กัป จนกระทั่งถึงสมัยพระพุทธกาลนี้ สัตว์นรก 4 ตัวนี้รู้สึกสำนึกในบาปกรรมที่ตนทำ อยากจะประกาศว่า ต่อไปนี้ถ้าได้กลับไปเกิดเป็นมนุษย์อีกจะเลิกทำชั่วเด็ดขาด จะทำแต่ความดี แต่ไม่มีเวลาได้พูดตามต้องการ พูดออกมาได้เฉพาะคำต้น


    เปรตตัวแรกต้องการพูดว่า

    ทุชชีวิตะชีวิมหา เยสันโน นะทะทามหะเส
    วิชชะมาเนสุ โภเคสุ ทีปัง นากัมหะ อัตตะโน

    เมื่อยังเป็นมนุษย์มีโภคทรัพย์มากมาย เราก็ไม่ได้ให้ทาน ไม่ทำที่พึ่งแก่ตัว ทำแต่ความชั่วช้าสารเลว


    ตัวที่สองต้องการพูดว่า

    สัฏฐี วัสสะหัสสานิ ปะริปุณณานิ สัพพะโส
    นิระเย ปัจจะมา-นานัง กะทา อันโต ภะวิสสะติ

    เราตกนรกหมกไหม้เป็นเวลาหกหมื่นปีแล้ว เมื่อไรจะสิ้นเวรสิ้นกรรมเสียที


    ตัวที่สามต้องการพูดว่า

    นัตถิ อันโต กุโต อันโต นะอันโต ปะฏิทิสสะติ
    ตะทาหิ ปะกะตัง ปาปัง มะมะ ตุยหัญจะ มาริสา

    ไม่มีที่สุดสิ้นดอก เมื่อไหร่เล่ามันจะสิ้นเวรสิ้นกรรม ก็พวกเราทำแต่ความชั่วช้าสารเลวนี่ เพื่อนเอ๋ย


    ตัวที่สี่ต้องการพูดว่า

    โสหัง นูนะ อิโต คันตวา โยนิง ลัทธานะ มานุสิง
    วะทัญญู สีละสัมปันโน กาหามิ กุสะลัง พะหุง

    ถ้าเราได้เกิดเป็นมนุษย์อีก เราจะให้ทานรักษาศีล จะทำบุญกุศลเป็นอันมาก
     
  4. mu-nice

    mu-nice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +650
    สาธุ กับข้อคิดดีๆ ถ้าคนเรามองแต่ข้างหน้าอย่างเดียวไม่หันมามองข้างหลังบ้างก็จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างและต้องแก้ไขอย่างไร
     
  5. chaladda

    chaladda สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +10
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
     
  6. เกาทัณฑ์

    เกาทัณฑ์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอบคุณครับ สำหรับ เรื่องราวดีๆ

    ขอบคุณครับ สำหรับ เรื่องราวดีๆ
     
  7. มเหสักขา

    มเหสักขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +146
    แปลกมากๆๆๆๆๆครับ น่ากลัวด้วยครับ
     
  8. “*อหิงสกะ*”

    “*อหิงสกะ*” Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +52
    อ่านแล้วเสียวๆยังไงไม่รู้ คาถาหัวใจเปรต ทุ สะ นะ โส เรื่องเป็นมา เช่นนั้นเอง
    ขอบคุณครับ :cool:
     
  9. jinso

    jinso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    423
    ค่าพลัง:
    +659
    โมทนาสาธุครับ เพราะกรรมที่เขาทำจึงสนองตนเป็นเช่นนี้
     
  10. jackdongbung

    jackdongbung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +102
    โมทนาสาธุครับ กับเรื่องราว ที่เป็นข้อคิดในการดำเนินชีวิต ให้ระวังมากขึ้นกว่าเดิม ขอบคุณครับ
     
  11. phank

    phank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,278
    ขอบคุณครับผม กับความรู้ดีๆ ^^
     
  12. Violent Daughter

    Violent Daughter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +305
    มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
     
  13. เด็กสร้างบ้าน

    เด็กสร้างบ้าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,195
    ค่าพลัง:
    +538
    ขออนุโมทนาบุญสำหรับความรู้ของทุกท่านที่ได้สื่อสารให้นะที่นี้ครับ สาธุ
     
  14. คนชอบอ่าน

    คนชอบอ่าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +65
    ขอบคุณค่ะ สำหรับเรื่องราวดีๆอย่างนี้
     
  15. น้องเมธี

    น้องเมธี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +9
    สาธุ ขออนุโมทนาในบทความเตือนสติให้ระลึกถึงแต่การทำความดี ให้เกรงกลัวต่อการทำความชั่วทั้งปวง แม้คิดว่าทำบาปเพียงเล็กน้อยคงไม่เป็นไร แต่อาจได้รับผลกรรมที่ท่านคิดไม่ถึงก็ได้ ดังนั้นขอให้ท่านทั้งหลายจงตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทเถิด
     
  16. wisdom kimlee

    wisdom kimlee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +10
    มีพลังใดควบคุมพวก ผีเปรต ที่ถอดจิต เข้าสิงกาย สิงจิตได้บ้างครับ

    คือผมก็ยังอ่่อนหัด นั่งสมาธิแล้วเจอพวกผีเปรต อสุรกาย ถอดจิต ถอดกาย ไม่รุ้มาจากที่ใใดบ้าง ไม่รู้ว่าจากนรกขุมไหน เข้าสิงกายจิต ทั้งวันทั้งคืน ตอนนี้นั่งสมาธิ มันก็ผลัดกันเข้าออกกายผม ตลอดเวลา ทั้งวัน ทั้งคืน บอกมันไว้แล้วว่าทำกรรมอะไรไว้กับคนเขาไปทั่ว ชาตินี้ ยังหมดภพ หมดชาติ รีบๆ ไปทำการขอขมาเขาซะ ตามที่ผมแนะนำ แนะนำมันแต่กลับโกรธผม สิงกายจิต ผมทั้งวันทั้งคืน ท่าทางไม่ยอมออก เพราะได้ยินมันสื่อจิต จับไม่ปล่อย ทีนี้ถึงตอนนี้ ผมก็ได้แต่นั่งหัวเราะทั้งน้ำตาครับ กรรมของผม หรือของมัน เพราะถ้าจับผมไม่ปล่อย ผมก็ได้รับทุกขเวทนาไม่จบ แต่ทีนี้มองในมุมกลับ มันก็มารับกรรมไม่จบเช่นกัน ไอ้อย่างนี้ ไม่รู้ใครโง่ ใครฉลาด ใครช่วยตอบให้หายสงสัยหน่อยครับ ขนาดสวดพระคาถาคันธารปริต ผุกจิตให้นั่งสมาธิ อาราธนาองค์พระ เข้าครอบอธิษมานกาย ก็ยังไม่สำเร้จ ไม่รู้เพราะผมบาปหนา หรือไม่รู้เพราะพวกนี้กรรมมันหนัก เพราะผมนั่งภาวนา กำลังเจริญอานาปานสติ แตก็ไม่สามารถกำหนดลม ระลึกรู้ลมได้ อย่างที่ผ่านมา กายะาตุขันธ์ ที่เคยนั่งสงบ กลับต้องมีเวทนาความปวด ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเป็น ไม่รู้จะอธิบายความอย่างไร ให้ครบถ้วน ก็ลองอ่าน Facebook ผมดูก็แล้วกัน เพราะที่พูดมาเจออย่างนั้นจริงๆ ก็กล้าสาบานและสาปแช่งตัวเอง ถ้าไม่ใช่ลงเรื่องจริง
     
  17. Luthiien

    Luthiien เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +215
    ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
     
  18. cala

    cala Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +58
    เห็นว่าหลวงพ่อฉาบก็เคยเรียน
     
  19. พุทธทาส

    พุทธทาส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +27
    ได้ข้อคิดดีๆเลยครับ ขอบคุณมากมายเลยสำหรับเจ้าของกระทู้
     
  20. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    ขอบคุณ สำหรับความรู้ดีๆ
    เมื่อยังเป็นมนุษย์มีโภคทรัพย์มากมาย เราก็ไม่ได้ให้ทาน ไม่ทำที่พึ่งแก่ตัวทำแต่ความชั่วช้าสารเลว
    เราตกนรกหมกไหม้เป็นเวลาหกหมื่นปีแล้วเมื่อไรจะสิ้นเวรสิ้นกรรมเสียที
    ไม่มีที่สุดสิ้นดอก เมื่อไหร่เล่ามันจะสิ้นเวรสิ้นกรรม ก็พวกเราทำแต่ความชั่วช้าสารเลวนี่
    ถ้าเราได้เกิดเป็นมนุษย์อีก เราจะให้ทานรักษาศีลจะทำบุญกุศลเป็นอันมาก


    <!-- google_ad_section_end -->

     

แชร์หน้านี้

Loading...