สำนักสงฆ์พุทธนิมิต ขอเชิญร่วมบริจาคสร้างสถานปฏิบัติธรรม

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย พระภาคภูมิ, 29 มกราคม 2011.

  1. พระบุญ

    พระบุญ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    นมัสการและอนุโมทนาเนื่องในวันปฏิบัติธรรมวันมาฆบูชา สาธุ....
     
  2. พระบุญ

    พระบุญ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    เจริญพร โยมที่ร่วมอนุโมทนาและนำคำสอนพระพุทธศาสนาร่วมเผยแผ่ในกระทู้
    เพราะได้ประโยชน์ทั้งสองด้าน
    ขอเจริญพร
     
  3. ธรรมนิยาม

    ธรรมนิยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +170
    นมัสการ กิจกรรมวันมาฆบูชาเป็นอย่างไรบ้างครับ
    ตอนนี้ผมกำลังบอกบุญเพื่อจะไปช่วยอีกแรงหนึ่งนะครับ
    คาดว่าสัปดาห์หน้าคงจะมีเพิ่มเติมอีกครับ นมัสการลาครับ.....
     
  4. Dhamthai

    Dhamthai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +10
    กราบเรียน พระอาจารย์ไม่ทราบว่าห้องน้ำยังขาดอีกกี่ห้องครับ.....
     
  5. หลวงพ่อโจ

    หลวงพ่อโจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +35
    Luang Phor Jo,I have declared sumnak song Phra Yai already'.
    Please read my post.
     
  6. พระไพโรจน์ กตธัมโม

    พระไพโรจน์ กตธัมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +2,824
    ขอให้ประสบความสำเร็จตามโครงการ
    "สร้างสำนักสงฆ์ให้เป็นสถานปฏิบัติธรรม"
    นะครับ.

    นมัสการครูบาภาคภูมิครับ(ศิษย์เก่า มหาจุฬา.)


     
  7. anatata

    anatata Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +39
    นมัสการ อนุโมทนาครับที่ลงภาพกิจกรรมให้ร่วมบุญด้วยกัน........
     
  8. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    การเทฐานพระวันนี้ร้อนมากแต่โยมมีศรัทธาอุตสาหะช่วยกันจนแล้วเสร็จ
    ขออนุโมทนาสาธุการ บุญย่อมสำเร็จแด่ผู้ทำ ขอเจริญพร
     
  9. natcha2505

    natcha2505 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +16
    " คำสอน"พระพุทธเจ้า" "
    ให้ลูกหลานทั้งหลายจงจดจำคิดว่า "โลกนี้เป็นอนิจจังทุกอย่างไม่มีอะไรเที่ยงมันไม่มีการทรงตัวโลกนี้ถ้า เราเอาจิตเข้าไป ยึดถือมันก็เป็นทุกข์" ให้ทุกคนทำกำลังใจแข็งไว้ว่า เราจะไม่ยอมแพ้ความชั่ว จะไม่ยอมให้ความชั่วเข้ามาเป็นเจ้านายหัวใจ เราจะทรงกำลังใจ ไว้แต่เพียงความดี เมื่อจิตใจมันเข้มแข็งอย่างนี้ ความชั่วมันเป็นเจ้านายไม่ได้
    สิ่งใดที่เคยทำผิดพลาดไปแล้ว พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า ให้ลืมเสียทุกอย่างไม่ตามนึกถึงมัน มุ่งหน้าเฉพาะความดีที่ให้ภาวนา พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี้ให้นึกถึงความดีอย่างเดียว ไอ้ความที่ไม่ดี อาจแลบเข้ามาบ้างเป็นของธรรมดา เราก็นึกถึงความ ดีให้มาก ไม่ตามนึกถึงมัน มันก็ไม่เกาะใจเรา ใจเราเกาะเฉพาะบุญใช่ไหม เกาะเฉพาะบุญ เวลาตาย บุญก็นำเราไปก่อน ไปสวรรค์ก่อนอย่างน้อย
    การปฏิบัติพระกรรมฐานนี้ มีความสำคัญมากเพราะว่า เราทุกคน ถ้าก่อนจะตาย ถ้าจิตจับอารมณ์ที่เป็นบาป อย่างใดอย่างหนึ่ง ในขณะนั้นแล้วก็ตาย อย่างนี้ตายไปอบายภูมิแน่ ถึงแม้จะทำบุญไว้มากสักเพียงไรก็ตาม ต้องไปนรกก่อน เราจะไปสวรรค์ก่อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มีชีวิตอยู่ ถ้ามีความฉลาด ถึงแม้ว่าเราจะบาปมากจะมีบุญน้อย ก็ควบคุมอารมณ์ ที่เป็นบุญไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าทุกคนตั้งใจ ไว้เฉพาะพระนิพพาน ถึงแม้เราจะมีบุญน้อย เราก็สามารถไป พระนิพพานได้
    พระพุทธเจ้าทรงแนะนำไว้ว่า ท่านทั้งหลายจงอย่านึกถึงความชั่ว ที่ทำมาแล้ว ความชั่วก็คือ บาป บาปก็คือ ความชั่วเราไม่ยอมนึกถึงมัน นึกถึงความดีอย่างเดียว ควบคุมจิตให้เป็นฌาน ให้ได้ทุกวัน ฌานก็ได้แก่ อารมณ์ชิน คิดไว้เสมอว่า เราจะเจริญสมาธิภาวนาได้ทุกอย่างเป็นพุทโธ วันหนึ่งเราสามารถทำได้สัก10 นาที 20 นาทีก็ตาม แม้จะมีเวลาน้อย และถ้าทำได้ ให้นึกถึงภาพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เราชอบ แล้วภาวนาอย่างนี้ทุกวันจนชิน อย่างนี้เรียกว่า เป็นฌาน
    ถ้าทำได้แบบนี้ทุกวัน ถึงแม้จะบาป มากขนาดไหนก็ตาม ก่อนตายแทนที่จะเห็นภาพ ที่เราเคยทำบาป บาปจะเข้ามาไม่ได้ มันมีแต่ภาพของบุญอย่างนี้ไปสวรรค์แน่ เป็นอย่างต่ำ การเจริญพระกรรมฐานอันดับแรก ให้ทุกคนกำ หนดรู้ลมหายใจเข้า ออก เวลาหายใจเข้ารู้อยู่หายใจเข้า เวลาหายใจออกรู้อยู่หายใจออก การภาวนาไม่จำกัดใคร จะภาวนาว่า อย่างไรก็ไม่เป็น ไรตามถนัดแต่ว่าก่อนภาวนา ให้นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อนถือเป็นพุทธานุสสติ เวลาภาวนาจะใช้เวลาไหนบ้างก็ตามชอบ ใจถ้าเวลาอื่นไม่มี ก็นอนอย่าลืม ถ้าศรีษะถึงหมอน ภาวนาพุทโธทันที นึกถึงภาพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่ง ที่เราชอบคิด ว่าองค์นี้คือ พระพุทธเจ้า แล้วก็ภาวนา อาจจะภาวนา "พุทโธ" หายใจเข้านึกว่า "พุท" หายใจออกนึกว่า "โธ" สัก 2-3 ครั้งก็ ได้ตามความพอใจมากก็ได้น้อยก็ได้แล้วก็หลับไป พอตื่นขึ้นมาใหม่ๆ ก็นึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอีกแล้วก็ภาวนาว่า "พุทโธ" อีก ทำอย่างนี้ทุกวัน จนกระทั่งวันไหน ถ้าเราไม่มีโอกาสจะทำ วันนั้นรำคาญ ต้องทำเป็นอารมณ์ชิน อย่างนี้ ถือว่า ทรง ฌานในพุทธานุสสติกรรมฐานแล้ว แม้ศีลมันจะขาดมันจะบกพร่องบ้าง ถึงยังไงก็ตาม ตายแล้วต้องไปสวรรค์แน่นอน
    ญาติโยมพุทธบริษัทบางท่าน ที่ไม่สามารถจะรักษาศีล 5 ได้ครบถ้วนก็ให้จับ อารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนึ่งพุทธานุสสติกรรมฐานอย่าทิ้งพระพุทธเจ้า และประการที่สองให้จับอารมณ์สังฆทาน มีภาพแบบไหน มีอะไรบ้างว่าเรา เคยถวายสังฆทานแล้วในชีวิตนี้ จับอารมณ์ให้ทรงตัวส่วนนี้ เป็นส่วนหนึ่ง ที่พาท่านไปนิพพานได้โดยง่ายเหมือนกัน และจงอย่าลืมคิด ตามความเป็นจริง ตามอริยสัจว่า การเกิดมันเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ ความป่วยไข้ไม่สบายเป็นทุกข์ ความ พลัดพรากจากของรัก ของชอบใจเป็นทุกข์ ความตายเป็นทุกข์ ถ้าเราจะเกิดอย่างนี้ อีกกี่ชาติ ก็จะมีทุกข์อย่างนี้ เมื่อเวลาใกล้จะตาย จิตอย่าลืมนิพพาน ต้องยึดไว้ทุกวัน นิพพานนี้ นึกให้เป็นอารมณ์ไปจนชินตัว นึกว่าถ้าตายจาก โลกนี้เมื่อไหร่ขอไปนิพพานเมื่อนั้นให้จิตเป็นฌานที่เรียกว่า อุปสมานุสสติกรรมฐาน อย่างนี้ทุกคนจะไม่พลาดนิพพาน
    ที่นี้การฝึกอารมณ์บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทส่วนใหญ่ มักจะไปบ่นว่าอารมณ์ไม่ทรงตัวบ้าง อารมณ์ไม่สงัดบ้างอย่างนี้เป็นความคิดมากเกินไป คนที่มีอารมณ์สงัดจริงๆ นะมีเฉพาะพระอรหันต์ ขึ้นไปเท่านั้น ถ้าต่ำกว่าพระอรหันต์จะถือว่า อารมณ์สนิททรงตัวสนิท ไม่คิดอะไรอีก ไม่มีอรหัตมรรค ยังมีอารมณ์ฟุ้งซ่าน คนที่มีจิตไม่ฟุ้งซ่าน คือ พระอรหัตผล ในเมื่อเรายังไม่เป็นพระอรหันต์จิตก็ต้องฟุ้งซ่าน เป็นของธรรมดาที่มี การที่จะทรงตัวให้อารมณ์อยู่เป็นปกติ ก็ต้องใช้เวลาน้อยๆ วันหนึ่งถ้าเราสามารถ ทรงสมาธิได้จริงๆ สัก 5 นาทีหรือ10 นาที ก็ควรจะพอใจเพราะว่า เวลาที่จิตทรงสมาธิ เวลานั้นพระพุทธเจ้าถือว่า จิตว่างจากกิเลส ที่พระพทธเจ้าทรงตรัสกับพระสารีบุตรว่า "สารีปุตตะ ดูก่อนสารีบุตร บุคคลใดมีจิตว่างจาก กิเลส วันหนึ่งชั่วขณะจิตหนึ่ง ตถาคตถือว่า บุคคลนั้นมีจิตไม่ว่างจากฌาน"
    สมเด็จรพระจอมไตรองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสว่า ถ้าเราต้องการหมดความทุกข์ ต้องการมีความสุขก็จงอย่า คิดว่า โลกนี้เป็นของเรา ร่างกายนี้เป็นของเรา ร่างกายของบุคคลอื่น เป็นเราของเรา จงคิดว่า ร่างกายมันเป็นพียงธาตุ 4 มันเข้ามาประชุมกัน เห็นร่างกายภายใน คือ ร่างกายของเรา ก็ทำความรู้สึกเพียงสักแต่ว่าเห็น คือ ไม่สนใจ ไม่ยึดถือว่ามัน กับเราจะอยู่ด้วยกันตลอดกาลตลอดสมัย
    ตัดความโลภเสียด้วยการให้ทาน ตัดความโกรธเสียด้วยการเห็นใจซึ่งกันและกัน ตัดความหลงคือยอมรับนับถือกฎของความเป็นจริง
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
     
  10. anijjata

    anijjata Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +37
    นมัสการพระอาจารย์ภาคภูมิ

    ธรรมะไม่ล้าสมัย
    หลวงตามหาบัว
     
  11. ธรรมนิยาม

    ธรรมนิยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +170
    ฝากธรรมะให้กับผู้ร่วมอนุโมทนา ครับ.....

    พุทธแ้ท้ไม่มีนิกาย
    ที่มา หลวงปู่มั่น

    มีแต่ความเป็นไปตามธรรมชาติไม่มีใครเป็นเจ้าของ
    ที่มา พุทธโฆสาจารย์

    ว่างอย่างมีสติ
    ที่มา พุทธทาส

     
  12. พระไพโรจน์ กตธัมโม

    พระไพโรจน์ กตธัมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +2,824
    นมัสการครูบาภาคภูมิ ถ้าหล่อเสาได้เก้าต้นแล้วก็แจ้งบอกอีกครั้งนะเพราะตอนนี้แม่พิมพ์พระประธานพร้อมกับช่างหล่อพระอยู่ที่มหาสารคาม.

    สัจธรรมจะยั่งยืนถ้าช่วยกันเผยแผ่พุทธพจน์

    พระไพโรจน์ กตธมฺโม
     
  13. deesure

    deesure สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +13
    ขออนุโมทนากับการหล่อเสาฐานพระหน้าลานธรรมที่กำลังจะครบ ๙ ต้นครับ
    สาธุ ครับ
     
  14. anatata

    anatata Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +39
    นมัสการ ผมตัวอย่างพระประธานที่มหาสารคามให้ดูครับ
     
  15. tamdede

    tamdede สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +17
    ธรรมสบายๆ

    รรมฐานชาวบ้าน

    ธรรมะหงายบนฝ่ามือง่ายๆสั้นๆชุดที่ 3 กรรมฐานชาวบ้าน
    1.มีสติอยู่ทุกขณะคือมีพุทธะอยู่ในจิต (ชั่วคราวก็ยังดี)
    2. ป่วยกายอย่าป่วยใจ
    3. การนับหนึ่งให้ถึงสิบเพื่อทำให้จิตระงับ
    3.1 หายใจเข้า-หายใจออกนับหนึ่ง
    3.2 หายใจเข้า-หายใจออกนับสอง...นับอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนถึงสิบก่อนจะตัดสินใจทำอะไร
    4. การเดินจงกรมสองจังหวะตามธรรมชาติของการเดิน
    4.1 ขณะเท้าขวาสัมผัสพื้นนึกคำว่าพุท
    4.2 ขณะเท้าซ้ายสัมผัสพื้นนึกคำว่าโธ
     
  16. khonde

    khonde Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +46
    นมัสการ อยากทราบค่าสร้างกุฏิกรรมฐานและใช้วัสดุอะไรทำครับ....
     
  17. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    สร้างกุฏิกรรมฐาน

    ใช้วัสดุอุปกรณ์คือไม้ยูคาลิปตัสมีโยมบริจาคมาแล้วปลอกเปลือกทำโครงแล้วมุงสังกะสีรุ่นไม่เป็นสนิมคือ สังกะสีอลุสซิ่งความกว้างกุฏิ 2 เมตร50เซนติเมตร ยาว 3.50 เมตรใช้ฝาไม้ไผ่ลายขัดแผ่นละ100บาทยังขาดอยู่
    6 แผ่น
     
  18. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    ความคืบหน้าสร้างกุฏิ

    กุฏิหลังที่2ใช้กระเบื้องวันนี้ไปชื้อมาเพิ่ม10แผ่นครบโครงเสร็จเหลือมุง
     
  19. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    เทเสาพระประธานลานธรรมเหลือ3เสากุฏิ2หลังกุฏิเสร็จไป60เปอร์เซนต์ทำไปเรื่อยฯเพราะแรงงานช่างก็มีน้อยมีผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน2คนชาวบ้านตามโอกาสขออนุโมทนา
    ยังผู้เจริญทุกท่าน ส่วนการสร้างคนได้มาก
    85เปอร์เชนต์ก็ประมาณ30-40คนในแต่ละอาทิตย์จัดประฏิบัติธรรมทุกวันอาทิตย์เพราะอาตมาไม่รับกิจนิมนต์วันอาทิตย์พาปฏิบัติญาติโยมมาไกลจะได้ไม่ผิดหวังคุ้มค่ากว่าเลยประกาศบอกญาติโยมแถวนี้ก็เข้าใจ คนแก่และคนทุกข์เริ่มเห็นความสำคัญ
     
  20. พระไพโรจน์ กตธัมโม

    พระไพโรจน์ กตธัมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +2,824
    การเดินจงกรมสองจังหวะตามธรรมชาติของการเดิน
    และกำหนดได้ทุกขณะของการเดิน

    ขณะเท้าขวาสัมผัสพื้นนึกคำว่า พุท ,
    ขณะเท้าซ้ายสัมผัสพื้นนึกคำว่า โธ
     

แชร์หน้านี้

Loading...