ถ้าเราไปแย่งสามีของคนอื่นมาแล้วแย่งมาได้จริงๆ บาปนั้นจะร้ายแรงแค่ไหนกัน

ถ้าเราไปแย่งสามีของคนอื่นมาแล้วแย่งมาได้จริงๆ บาปนั้นจะร้ายแรงแค่ไหนกัน

 

ผลของกรรมคงจะทำให้คุณถูกแย่งกลับ

 

บาปตั้งแต่แค่คิดจะแย่งแล้ว ได้มาก็ไม่มีความสุข

 

ผู้ชายเหลือน้อยขนาดต้องแย่งกันเลยหรือ? บาปเท่าที่ทำความทุกข์ให้เกิดขึ้นกับภรรยาที่ถูกต้อง หากเขาทุกข์น้อยบาปคุณก็เบาหน่อย แต่หากเขาทุกข์มากจนถึงขั้นปลิดชีวิตตนเองคุณได้ฆ่าคนด้วยตัวคุณ

 

.สงสัยจะเป็นช่วงน็อคเอ้าน์เซลซะล่ะมั้ง.เลยต้องแย่งมา....หากมีคนๆนั้นจริงๆเขาคงได้สำนึกแล้วล่ะ.แค่สำนึกได้ก็ดีแล้ว.เจ้าตัวเขาคงรู้ล่ะว่าควรจะทำในสิ่งที่ถูกต้องยังไงต่อไป..จะได้สบายใจ

 

อย่าไปแย่งเค้า ผมยังว่างอยู่

 

แต่สมัยนี้คนเราแย่งกันกินแย่งกันใช้นี้หน่า ไม่ใช่แบ่งกันกินแบ่งกันใช้

 

ไม่ดีหรอก เพราะเราทำให้อีกคนกำลังทุกข์ทรมารด้วยการไปแย่งคนอันเป็นที่รักไม่ว่าคนนั้นจะเป็นสามี หรือภรรยา หรือลูกของเขา (หากเขามีนะ) กรรมนั้นมันจะทำให้คุณมีแต่ความหวาดระแวง และคอยกลัวว่าคนที่แย่งมานั้นจะอยู่กับคุณตลอดไปไหม หากวันไหนกรรมส่งผลให้คนที่คุณแย่งมาไปเจอคนที่ดีกว่าคุณ เค้าคนนั้นก็จะแย่งคนรักของคุณไปอย่างที่คุณไปทำกับเจ้าของแรกไว้ และคุณจะได้รับความทุกข์ทรมารใจด้วยเช่นกันซึ่งจะเหมือนหรือมากกว่าที่คุณทำกับเจ้าของแรกไว้

 

ใช่จริง ๆ อย่างน้อย ทุกข์ใจน๊อ

 

สิ่งใดทำแล้วต้องมาเร่าร้อนทุกข์ทรมานเดือดร้อนในภายหลังก็ควรงดเว้น การคิด พูด ทำ ในสิ่งนั้นๆเถิดครับ

 

ทำไมต้องแย่งของของคนอื่นด้วยอ่ะ ระวังคุณจาถูกแย่งของรักของคุณเข้าซักวันนะ

 

การที่ไปแย่งสามีของคนอื่นมาได้ ผู้แย่งสามีคนอื่นได้มาอาจมีความดีใจ สะใจ หรือสุขใจก็ตาม
แต่ถ้าหันกลับไปคิดถึงผู้ที่ต้องสูญเสียสามี (ผู้ที่ถูกแย่งไป) เขาคงกำลังทุกข์ใจ (มาก) ลูกๆของเขา (ถ้ามี) ก็กำลังอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ ครอบครัวของเขาก็จะมีปัญหา ลูกๆเขาขาดความอบอุ่น ขาดความรักความดูแลเอาใจใส่จากผู้เป็นพ่อ เด็กอาจกลายเป็นเด็กที่มีปัญหาต่อไป (น่าสงสาร และน่าเห็นใจ)

ถ้าผู้ที่คิดจะแย่งสามีของผู้อื่น หรือแย่งไปได้แล้ว มีความเห็นแก่ตัวลดลงสักหน่อย เห็นอกเห็นใจผู้อื่นขึ้นบ้างสักนิด ( คืนคนรักของเขาไปเถอะครอบครัวเขาจะได้ไม่มีปัญหา ) สิ่งใดที่ไม่ดีทำไม่ดีไปแล้วก็แก้ไขให้ดีใหม่ได้ แย่งสามีเขาไปแล้วก็ส่งคืนกลับได้ อย่างน้อยๆตราบาปที่อยู่ในใจก็ถูกตัดตอนให้สั้นลง ถ้าปล่อยไว้นานๆตราบาปก็จะค้างคาในใจนาน (ถ้าสำนึกแต่ไม่ยอมแพ้กิเลส)

ที่ถามว่าบาปนั้นจะแรงแค่ไหน แค่เพียงลองกลับไปมองฝ่ายที่สูญเสียสามีว่าเขาต้องกระทบกระเทือน(ใจ,ลูก) หรือเรื่องอะไรอื่นๆบ้าง สิ่งเหล่านั้นจะต้องปรากฎกับผู้กระทำบาปไว้ในอนาคตแน่นอน (อาจทวีคูณ) ตามเหตุปัจจัย เช่นระยะเวลาที่ค้างคาบาปที่ทำ ทำโดยเตรียมการอย่างตั้งใจมากตั้งใจสูง ฯลฯ

 

ถ ถ ถ ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบบ........

 

คุณอิสระ อ่ะให้ (rose)

 

คุณ NUI ให้เช่นกันครับ

 

บาปมากๆ ค่ะ ถ้าตายไปอาจต้องไปปีนต้นงิ้ว อ่ะค่ะ

บาปมากๆ ค่ะ ถ้าตายไปอาจต้องไปปีนต้นงิ้ว อ่ะค่ะ แล้วถ้าเผื่อตามทันในชาตินี้ คุณก็ต้องสูญเสียเค้าให้คนอื่น หรือภรรยาเก่าเค้าไปอีก แล้วก็จะเสียใจมากกว่าภรรยาเค้าตอนที่คุณไปแย่งมาอีกนะคะ อย่าดีกว่าหรือทำไปแล้วก็คืนเค้าไปซะ

ปล. ไม่เคยไปแย่งของใครหรอกนะคะแต่เห็นประสบการณ์จากเพื่อนค่ะ

 

ขอบคุณค่ะคุณอิสระ ดอกกุหลาบสีแดงสวยดีค่ะ เหมือนได้กลิ่นหอมของกุหลาบเลยนะ
ยังไงก็โปรดติดตามอ่านธรรมะในห้องอภิญญาและห้องพระพุทธศาสนาด้วยนะคะ จะนำมาฝากให้อ่านแบบเรื่อยๆค่ะ

 

กรรมมันตามทันจริงน่ะ

การที่เราแย่งของคนอื่นมาได้ ขอให้ทุกท่านเชื่อเถอะค่ะว่า ท่านต้องถูกคนอื่นที่ไม่ใช่เมียเดิม หรืออาจจะเป็นเมียคนเดิม เขาได้รับของนั้นกลับคืนแน่นอนค่ะ (ส่วนมากที่พบเจอมา) และที่เรากล้าบอกคุณแบบนี้ ก็เพราะเพื่อนเราเคยโดนเขาแย่งไปแล้ว
แต่เวรกรรมมันมีจริงและตามทันไวค่ะสำหรับกรณีของเพื่อนเรานะ เห็นได้แค่ เวลาที่ฝ่ายชายหนีไปอยู่กันทั้งวันทั้งคืน แค่ 11 วัน ค่ะ แต่ที่หล่อน(ชื่ออัญชลี จารัตน์.....หม้ายลูกติดหญิง เป็นช่างเสริมสวยมาก่อน เป็นคนตาก แต่อาศัยอยู่กทม.).ได้แอบหลบซ่อนอยู่กินกับฝ่ายชายจริง ก็หลายเดือนอยู่ค่ะ ทั้งฝ่ายชายชั่วและหญิงชั่วกลับทะเลาะกันเอง เพราะฝ่ายชายจะหนีกลับมาหาเมียตัวจริง แต่ฝ่ายหญิงชั่วอัญชลี จารัตน์ กลับไม่ยอมให้ไปจากตัวเอง เพราะอยากได้ชายคนนี้มากถึงกระทั่งยอมแย่งสามีคนอื่นไปเป็นของตัวเอง (หล่อนอัญชลี เขารู้อยู่แก่ใจน่ะค่ะว่า ผู้ชายชั่วคนนี้มีเมียอยู่และเป็นสามีภรรยากันมาถึง 10 ปี ถึงแม้เพื่อนของเราจะไม่ได้จดทะเบียนก็ตาม เพราะเพื่อนเรามีเหตุและผลเช่นกันที่ไม่ยอมจด เพื่อนเราไม่ต้องการที่จะจดทะเบียน เพราะเพื่อนเราก็ไม่พร้อมการผูกมัดจากฝ่ายชายเพราะเขาไม่แน่ใจพฤติกรรมบาง อย่างในตัวผู้ชายเช่นกัน นะตอนนั้นที่เพื่อนเรามีปัญหากับสามีเรื่องญาติของสามีชอบเข้ามายุ่งและวุ่นวายทั้งเรื่องเงินและเรื่องส่วนตัวของครอบครัวเพื่อนกับสามีก็เลยเกิดเป็นปากเสียงกันบ่อยมาก คะ) มาพูดกันต่อน่ะค่ะ ถึงเวลาบาปกรรมก็มาถึง ถึงขั้นผู้หญิงคนนั้นจะกินยาฆ่าตัวตายค่ะที่ผู้ชายหนีกลับมาหาเมียจริงซึ่งเป็นเมียมา 10 ปี ก่อนที่ผู้ชายจะหนีมาผู้หญิงชั่วคนนี้จะกินยาฆ่าล้างห้องน้ำฆ่าตัวตายต่อหน้าฝ่ายชาย ฝช.ก็ต้องห้ามเขาบอกเหตุผลว่าถ้าไม่ห้ามเกิดตายจริงเขาก็ขึ้นข่าวหน้าหนึ่ง กลัวเมียรู้นะซิถ้าเป็นเรื่องดังขึ้นมาและกลัวอายคนอีกด้วย พอฝช.ห้าม คุณอัญชลี ก็ไปคว้าส้อมมาเพื่อจะแทงเข้าแขนตัวเองอีก ร้องไห้ฟูมฟาย ฝ่ายชายบอกยิ่งอยู่ยิ่งเห็นว่าเป็นหญิงที่โง่ไม่ฉลาด เจ้าอารมณ์ ไร้สาระ ไม่มีความคิด พอนึกได้กลับเทียบกับเมียตัวจริง ก็ยิ่งไปใหญ่จึงเกิดได้ข้อคิดว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกน่ะมันผิดและบาปที่ทำกับเมีบ จน ฝช.ต้องหนีกลับมาเมีย (โดยที่ ณ เวลานั้นเพื่อนเราไม่รู้เลยว่าสามีแอบนอกใจเขาหนีไปเพราะมีชายหญิงชั่วคอยสวมเขาให้) พอฝช.หนีกลับมาหาเมียตัวจริง คุณยายอัญชลี ก็ยังโทรมาด่าต่อว่ากับญาติฝช. ว่า ถ้าชายคนนี้หนีกลับไปอยู่กับหญิงอื่นฉันจะไม่ว่า ฉันจะยอมเลิก แต่นี้ มันหนีกลับไปอยู่กับเมียตัวจริง ฉันไม่ยอม และด่าทอกับผู้ชายหลายอย่างค่ะ จนฝ่ายชาย ด่าทอ สาดเสียเทเสีย ถึงขั้นบอกให้ ท้าทายให้ไปฟ้องเอาที่ศาล) เห็นไหมค่ะคุณผู้อ่าน ขนาดอัญชลี จารัตน... เป็นคนแย่งของคนอื่นไป เขายังไม่มีสำนึก ซ้ำตัวเองยังมีลูกติดเป็นผู้หญิง อีกด้วยไม่กลัวเวรมันจะมาทันลูกสาวบ้างเหรอ แต่ไม่อยากให้เด็กได้รับบาปกรรมหรอกค่ะ เพราะคนที่สร้างเวรกรรมคือ แม่ของเขานั่นเอง สมควรได้รับกรรมที่แย่งของคนอื่น ไป ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าชายคนนี้มีเมียแล้ว แต่ยุให้เขาเลิกลากันเพื่อให้หนีไปอยู่กับตัวเอง และฝช.ก็แอบปกปิดเมียมาตลอด จนมาถึงวันที่เมียรู้ความจริง และหลังจากนั้นฝช.ยอมทำตามที่เมียเขาสั่งทุกอย่าง เพราะเขาต้องไถ่บาปด้วยการทำความดีแทนค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าฝช.จะยังได้รับผลแห่งกรรมที่ทำไว้หรือเปล่าหนอ ที่ทำผิดศีล ข้อ 3 น่ะ เฮ้อ อย่าสร้างเวรกรรมเถอะน่ะกรรมมันมีจริงน่ะ

 

เวรกรรมมีจริงค่ะ ทำสิ่งใดไว้ไม่ดี สักวันก็จะย้อนกลับมาทำให้เราต้องเจอเช่นนั้นสักวัน

 

บาปกรรม บาปกรรม โดยการไตร่ตรองไว้ก่อน มีทดลองก่อนพอเห็นผลจริงปฏิบัติจริง คิดในสิ่งที่ชอบที่ควรเถิด