เด็กใหม่อยากเรียนรู้พวกเวทย์อาคมอ่ะครับ

เคยเห็นพระปฏิบัติดี ปฎิบัติชอบ ห้อยพระไหมจ๊ะ พระของแท้อยู่ที่ใจท่านนะ น้องก็เหมือนกัน ห้อยพระไว้ที่ใจให้ได้ แม้ว่าจะยากแค่ไหน ก็ต้องทำให้ได้ ในที่สุดเราจะไปไหน ก็มีคาถาดีๆติดตัวไป พร้อมกับพระดีๆติดใจ อยู่เสมอ (verygood) เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ เพราะแก่นแท้ของธรรมะ คือ ตัวเราเองเท่านั้น ที่จะช่วยเราได้

 

ตัดกิเลสดีกว่าครับ ไปสนใจไสยศาสตร์จะตกนรกเป็นมารครับ

 

ผู้มีปัญญาย่อมจะไปถึงแสงสว่างได้เสมอ

 

คาถาส่วนใหญ่ใช้ในอุปจารสมาธิจ้ะ

 

เหอะๆ เมื่อวานไปลองของกัน 5 คน ไม่เจออะไรเลย ไม่ได้เข้าไปในสุสานอ่าลืมเอาไฟฉายไป มืดมากเลย -*- วันนี้มีความสุขมากเลย สุขในใจอ่าครับ สงสัยก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมหัดนั่งสมาธิสวดมนต์ก่อนนอน ทำให้ไปโรงเรียนยิ้มอยู่นั่นล่ะ แปลกดี โดนเพื่อนตบหัวก็ยิ้มครับ 555+ - - แต่ผมนั่งฟังเพื่อนคุยกันแล้วผมรู้สึกเบื่อยังไงไม่รู้ซิ บางคนก็โม้เรื่อยเปื่อย -*- มันเบื่อๆยังไงไม่รู้ ไม่มีคนที่สนใจธรรมะเป็นเพื่อนคุยในห้องเลย จะมีก็แต่รุ่นพี่ที่ไปลองของด้วยกันอ่ะ ส่วนมากจะคุยกันใน MSN มากกว่า เออ...ถามไรหน่อยนะครับ อุปจารสมาธิ คืออะไรเหรอครับ แล้วก็ขอบคุณพี่ๆ น้าๆ ทุกคนเลยนะครับที่อุตส่าช่วยสอนเรื่องต่างๆที่ผมยังไม่เคยรู้มาก่อน ขอบคุณมากครับ ^^

 

ตอนนี้ผมเลยฝึกไม่กี่อย่างเองครับ / จะเน้นด้านปัญญาเป็นหลักครับผม ผู้พร้อมด้วยปัญญาย่อมจะสามารถเข้าถึงและบรรลุสภาวะธรรมได้ง่ายและเร้วกว่าครับ /

 

อ่าครับ^^

 

งง ธรรมมะ กะ ไสยศาสตร์ บางอย่างเราแยกไม่ออกอ่ะ

เรื่องของคาถาอาคม

 

เริ่มด้วยการหมั่นบริกรรมภาวนาบทสวดมนต์สรรเสริญพระรัตนตรัยต่างๆก็ได้ เลือกเอาที่เราชอบสักประโยค เช่น พุทโธ,ธัมโม,สังโฆ,สัมมาอะรหัง,โอมมณีปัทเมฮุม,อิติปิโส..... ฯลฯ จากนั้นก็มีสติรู้ตัวทั่วพร้อมแล้วก็ภาวนาไปเรื่อยๆจนจิตเป็นสมาธิ(ภาวนาสลับกับการมีสติตามระลึกรู้กายกับใจ บางครั้งภาวนามากๆจิตอ่อนล้าก็ต้องผ่อนคลายด้วยการปล่อยวางทำจิตให้สงบไม่คิดอะไรบ้าง เมื่อหายเหนื่อยแล้วก็กลับมาภาวนาต่อ) ไม่จำเป็นต้องท่องหลายบทหรอก สำคัญที่สติ(การระลึกรู้) ถ้าสติต่อเนื่องมั่นคงย่อมเกิดเป็นสมาธิขึ้นมาเอง ส่วนจะมีญาณหยั่งรู้หรือเห็นรู้อะไรบ้างก็แล้วแต่ความเพียรและบารมีนะ ตั้งใจปฏิบัติให้ดีจะเป็นพื้นฐานที่ดีต่อไป

ปล.บทสวดมนต์ต่างๆเป็นสื่อที่นำจิตเราให้เกิดสมาธิ ส่วนสมาธิที่มั่นคงจะเป็นพื้นฐานที่ดีให้กับปัญญาต่อไป เพราะเมื่อจิตสงบผ่องใสย่อมเห็นทุกสิ่งได้ตามความเป็นจริง(ปราศจากนิวรณ์หรือสิ่งที่จะมาขัดขวางความดีและปัญญาไม่ให้เห็นตามความเป็นจริง) สมาธิและปัญญาคือเป้าหมายที่แท้จริงครับ(เมื่อเกิดปัญญารู้เห็นตามความเป็นจริงมีความเห็นที่ถูกต้อง การรักษาศีลจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องฝืนใจ เพราะเข้าใจครับ)

ขึ้นอยู่ที่เป้าหมายและเจตนาครับ ถ้าเป้าหมายเป็นไปเพื่อ ศีล สมาธิ และปัญญา ก็เป็นธรรมะ แต่ถ้าเป้าหมายเป็นไปในทางที่ก่อให้เกิดกิเลสหรืออกุศลก็เป็นไสยศาสตร์ครับ (บางทีบริกรรมภาวนาบทสวดมนต์บทเดียวกันแท้ๆ แต่เจตนาต่างกันก็มีครับ ให้เอาเจตนาเป็นเครื่องชี้วัดนะ)

 

ขอบคุณค่ะ

 

ผมเรียนอยู่ ม.5 อายุ 17 ปี จะฝึกได้ไหมครับ ถ้าได้ ผมควรที่จะเริ่มต้นอย่างไรครับ ไม่เคยใช้มาก่อน

 

ในปีใหม่นี้ขอให้ทุกๆท่านมีดวงตาเห็นธรรม / ธรรมใดที่พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งเห็นจริงแล้วนั้น ขอธรรมนั้นท่านทั้งหลายจงเห็นเช่นเดียวกัน

 

^^ ผมนั่งสมาธิไปๆมาๆแล้วไม่อยากเล่นอาคมแล้วอ่ะ อยากไปนิพพาน ^^

 

แอดมาสิ เดี๋ยวสอนให้ ไสยศาสตร์น่ะ con_angle@hotmail.com

 

จ๊าก

ร.ร.พ่อมด

 

ไสยศาสตร์ กับ พระนิพพาน ไม่เกี่ยวกันนะครับ การจะไปถึงพระนิพพาน ไม่จำเป็นต้องมีไสยศาสตร์นะครับ ถ้าต้องการไปถึงพระนิพพานจริงๆ คนไม่มีฤทธิ์ หรือเวทมนต์ อะไรก็ไปถึงครับ เข้าข่าย สุขวิปัสสโก จริต ครับ(ถ้าผมเขียนผิดช่วยตำหนิด้วยนะครับ ผมจะได้แก้)

 

สาธุ
ดีแล้วละ ไปนิพพานจะเป็นทางที่แน่นอนกว่า
ถ้าเรียนไสยศาสตร์แล้วอาจจะหลงทางได้ง่าย

*การเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากแสนยาก*


ซัมโดรล ซังโม

 

ขอเราไม่โหดหรอก นั่งตรงศาลา ตอนเที่ยงคืน คนเดี่ยว คนอื่นเข้าบ้านร้าง ขี้เกียจบอก โคตรจะซวย

 

ผมก็เป็นเหมือนกับ ที่น้อง เล่าละ ที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นอยู่นะ สัมพัสได้ถึง มันติดมาแต่เกิด