ถ้าบวชแล้วจะซื้อ ของกินได้ไหมครับ

ขอบพระคุณล่วงหน้า ครับ

 

ไม่มั่นใจนะครับ ว่าต้องอาบัติหรือเปล่า

แต่ที่แน่ ๆ อยากกินอยากฉันอะไรก็บอก โยมอุปัฏฐาก ดีที่สุดครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

ตามพระวินัยผมเคยอ่านเจอนะครับว่า ไม่ได้ เพราะเป็นการติดรสอาหาร ขอให้โยมทำอาหารให้ก็ไม่ได้ครับ ผิดพระวินัย ขนาดโยมบอกชื่อ อาหาร ให้พระท่านรู้พระท่านฉันยังผิดเลยครับ

ขนาดพระอานนท์ท่านทำอาหารมาถวายพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ยังสั่งให้ไปเททิ้งครับ

ส่วนเรื่องการบอกให้โยมไปทำโน่นทำนี่ให้จริงๆผิดพระวินัยนะครับ โยมจึงต้องมีปัญญานิดนึงว่าพระท่านขาดอะไร ตัวโยมเองต้องเป็นคนทำให้หมดทุกอย่าง

วินัยเเม้เพียงเล็กน้อยอย่าผิดเลยครับเพราะมันจะเป็นโทษหนักขนาดที่เรานึกไม่ถึง

อย่างเช่นสมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะ(หรือเปล่าไม่เเน่ใจ)มีพระรูปหนึ่งปฏิบัติดีมากโดยตลอดน่าจะบรรลุด้วยซ้ำเเต่วันหนึ่งท่านนั่งเรือเเล้วท่านเอามือลงไปในน้ำโดยที่มือนั้นไปเกี่ยวกับต้นไม้น้ำทำให้ต้นไม้ขาดไปนิดนึงทำให้ท่านตายเเล้วไปเป็นพญานาคไม่สามารถบรรลุธรรมได้ขนาดสมัยพระพุทธโคดมท่านไปหาพระพุทธองค์เเล้วฟังธรรมท่านยังไม่สามารถบรรลุธรรมอะไรได้เลยเพราะท่านเป็นเดรัจฉานท่านเสียใจมากร้องไห้ตัดพ้นกับพระพุทธองค์

ยังไงลองศึกษาพระวินัยดูนะครับผมอาจจะผิดก็ได

 

อันนี้ผมว่าดูเกินไปนะครับ เพราะเหมือนกับไม่มีเจตนา และทำกับต้นไม้ด้วย แต่ทำไมกรรมถึงเล่นซะหนักเชียว

 

ซื้อได้ครับ แต่จะฉันได้หรือไม่ อีกเรื่องนึงครับ(บางอย่างมีข้อยกเว้น ในเวลา และโอกาส)
อยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพระวินัยน่ะครับ ผมแนะนำไปดูหนังสือ อริยวินัยดูน่ะครับ ในรูปแบบไฟล์ pdf. ก็มีน่ะครับ ละเอียดมาก
แบบว่าอธิบายมันเยอะ มีหลักให้คิดพิจารณาเยอะมากครับ ลองไปหาดูน่ะครับ...

 

เท่าที่ผมเข้าใจ คือท่านจิตไปติดอยู่กับการพรากของเขียว แต่ที่เข้าใจอีกอย่างท่านปฏิบัติแต่ยังไม่ถึงขั้นพระอรหันต์ครับ ไว้หาไฟล์ดเสียงของท่านจิตโตที่เคยเทศน์เรื่องนี้มาให้อีกที่ครับ

 

ถ้าบวชแล้วก็อย่าไปถือเงินเลยครับ มันหนัก เพราะว่าการบวชนั้นเราต้องการออกจากโลก ในที่นี้ไม่ใช่โลกที่เราเหยียบอยู่นะครับ

แต่หมายถึงโลกธรรม 8 (มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญ นินทา แล้วก็ สุข ทุกข์)

ถ้าหากจะบวชแล้วอย่าไปยึดถือหรืออย่าไปจับอะไรเลยครับ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะหนักไปซะหมด

----------

ทั้งที่กิจของสงฆ์มีข้อหนึ่งบอกว่า บิณฑบาตเลี้ยงชีพ เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องซื้อแล้วครับ ที่จริงผมว่าไม่ควรพกเงินนะครับ

ลองคิดดูนะครับว่ามีเงินแล้วซื้อข้าว ก็ต้องมานั่งคิดอีกว่าวันนี้จะกินอะไร ทุกข์อีก

ทั้งที่การกิน เรากินไปเพื่ออยู่ แต่สังเกตุว่าเวลาซื้อของกิน ทำไมต้องเป็นเมนูนี้เมนูนั้น แต่ที่จริงก็ขี้ออกมาเท่ากัน

ทุกวันนี้เราดำเนินชีวิตด้วย สัญญา (ในขันธ์ 5) มากกว่าดำเนินชีวิตด้วยปัญญา


ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ และขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะครับ ^^

 

บวชก่อนจะรู้คะว่าซื้อได้หรือเปล่า ปฏิบัติตามพระวินัยดีที่สุดคะ และอยู่ที่ตัวเราคะบุญรักษาคะ

 

หลังเที่ยง ถึง เจ็ดโมงเช้า ก็จะฉันไม่ได้นั้นจะอาบัติ ก่อนบวชต้องศึกษาพระธรรมวินัยก่อนละกัน

1.พระควรสมรวม

2.พระควรจะศึกษา ปฏิบัติ ไม่ใช่แต่นอน นอน นอน กิน กิน กิน แล้วก็ Sleep เป็นหมูนะ

3.พระไม่นึกคิดว่าอาหารที่ญาติโยมมาถวายนั้นเป็นอาหารที่ไม่ชอบ แต่เลือกทางได้ เพราะจะอาบัติ

4.พระไม่ควรนึกถึงปัจจัยว่าจะได้กี่บาทละ

5.ทำกิจของสงฆ์เช้าทำวัตร เดินบิณฑบาตร ทำวัตรเย็น กวาดลานวัด นิมนต์(ถ้ามี)

6.ไปดูธรรมวินัยดีกว่าครับ ชัดเจนกว่่า หาในเว็บไซด์มีเยอะเยะ อย่าเอาแต่ถามในนี้เลย เสียเวลา


ปล.มีเนื้อ 10 ชนิด ห้ามฉันตามพระศาสดาได้ตรัสไว้ในพุทธกาล


ธรรมะวินัยของพระภิกษุสงฆ์ 227 ข้อ อ่านให้หมดเลย ถือให้หมดแล้วคุณจะได้บุญเยอะมาก อย่าให้อาบัตินะ

 

ถ้าบวชแล้วจะซื้อ ของกินได้ไหมครับ


ได้ ถ้ามีสตางค์ และมีของนั้นขาย