ตั้งใจปฏิบัติจริงก็โดนทดสอบหนัก..!

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 16 มีนาคม 2011.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    <TABLE class=alt1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    ถาม : ในขณะที่นอน ถ้า ๑. นอนเต็มอิ่มแล้วตื่นขึ้นมาตอนกลางวัน ๒. ไม่ได้เป็นการหลับเพื่อหลับตอนกลางวัน ๓. ไม่ได้ป่วยเป็นอะไร จากนั้นเมื่อหลับแล้วก็จะตื่นขึ้นมาคล้ายๆ กับว่าตัวจะแยกออก ตัวจะเจ็บเหมือนกับจะแตกออก ทำไมบางครั้งถ้าเรากำหนดเข้าไปมากๆ ก็ยิ่งเจ็บ เราภาวนา "พุทโธ" เพื่อให้จิตแยกจากความเจ็บ แต่ก็ยิ่งเจ็บ ?

    ตอบ : ลักษณะอย่างนี้ จะเป็นการทดสอบว่าเราแน่วแน่ต่อการปฏิบัติจริงหรือเปล่า ?

    อาจารย์ที่สำคัญที่สุดของนักปฏิบัติมี ๓ ตัวคือ

    ๑. สติ

    ๒. ปัญญา

    ๓. ความทุกข์

    อาจารย์ทั้งสามนี้สำคัญที่สุด ท่านจะสอนเราอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาท่านก็จะทดสอบเรา

    พอเจ็บก็ไปโอดครวญอยู่กับความเจ็บอันนั้นผิดแล้ว ให้เรารับรู้อยู่เฉยๆ แล้วพิจารณาแยกแยะออกให้ได้ว่า อาการเวทนาจากความเจ็บปวดนี้เป็นของเราหรือเป็นของร่างกาย ถ้าเป็นของร่างกายก็เรื่องของร่างกายไปเถอะ เราไม่ใส่ใจ เราก็อยู่กับการภาวนาของเรา

    ถ้าสามารถแยกแยะออกลักษณะนี้ จิตจะรวมตัวเร็วมาก และจะก้าวข้ามขั้นนั้นไปเลย แต่ถ้าเราไปภาวนาเพื่อระงับกายสังขาร ลักษณะเหมือนกับยิ่งไปสู้ ก็ยิ่งโดนหนัก

    บางคนเหงื่อไหลพลั่กๆ ออกมา คือเจ็บชนิดที่เรียกว่า ถ้าเป็นคนทั่วๆ ไปก็ไม่สามารถจะทนได้ แต่เนื่องจากว่าเราตั้งใจอยู่แล้วว่าสิ่งที่เราทำอยู่เป็นสิ่งที่ดี เรามั่นใจในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าจะตายตอนนี้เราก็ขอไปอยู่กับท่าน ถ้าจะตายก็ให้ตายไปเลย ถ้าเราตั้งกำลังใจอย่างนี้ได้ เขาก็จะทดสอบเราอย่างชนิดถึงใจเหมือนกัน แต่ถ้าเราก้าวข้ามตรงจุดนั้นไปแล้วก็จะไม่เป็นแบบนั้นอีก


    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕


    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2540



    .
     
  2. ดร.แอนดี้

    ดร.แอนดี้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,403
    ค่าพลัง:
    +3,807
    ขอบคุณครับ....:cool:
     
  3. บูชาพุทธ

    บูชาพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +858
    ทำจริง ๆ มันยากมากเลยที่จะผ่านไปได้
    แต่ก็ไม่ละความพยายามเหมือนกัน
     
  4. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    การตั้งใจปฏิบัตินั้นจะว่ายากก็ยากจริงครับ ต้องผ่านด่านการทดสอบต่างๆจนบางครั้งเราก็ทนไม่ได้ต้องยอมพ่ายแพ้ต่อจิตของเราเอง แต่ความเป็นจริงถ้าจะว่าง่ายแล้วนั้นก็ง่ายจริงๆครับ อย่าลืมนะครับจิตก็เหมือนม้าป่าที่ยังไม่ได้ฝึก การที่จะฝึกให้เข้าที่จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจกับบารมี 10 ประการ ซึ่งได้แก่ 1.ทานบารมี 2.ศีลบารมี 3.เนกขัมมะบารมี 4.ปัญญาบารมี 5.วิริยะบารมี 6.ขันติบารมี 7.สัจจะบารมี 8.อธิษฐานบารมี 9.เมตตาบารมี 10.อุเบกขาบารมี ควบคู่กับ อิทธิบาท 4 ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
    ฉันทะ ความพอใจ คือพอใจในการปฏิบัติความดี
    วิริยะ มีความเพียร
    จิตตะ มีใจจดจ่ออยู่ในสิ่งนั้น
    วิมังสา ใช้ปัญญาควบคุมอยู่เสมอ หมายความว่าใช้ปัญญาควบคุมอารมณ์อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าปัญญาในที่นี้ต้องใช้ใคร่ครวญเป็นตัวนำอยู่เสมอที่เรียกกันว่า สัมมาทิฏฐิ
    หากว่าเราสามารถเข้าถึง บารมี และ อิทธิบาท 4 แล้ว การปฏิบัติก็จะง่ายเข้า ที่สำคัญอย่าลืม การตั้งจิตอธิษฐานขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ช่วยให้การปฏิบัติผ่านสำเร็จด้วยดี และการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกทุกพระรูป พระเกจิอาจารย์ทุกทุกพระรูป เทพเทวดาทุกทุกพระองค์ ในหลวง ราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ เทวดาที่คุ้มครองตัวเอง เทวดาที่คุ้มครองบ้านเรือน พ่อแม่ พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหาย ครูบาอาจารย์เจ้ากรรมนายเวร ภูต ผี ปีศาจวิญญาณ เปรต อสุรกาย สัมภเวสี ทั้งหลาย ท้ายสุดอุทิศให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ขอให้ทุกท่านผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายโดยมี สติและปัญญา เป็นที่ตั้ง
     
  5. tuta868248

    tuta868248 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +1,117
    ใช่แล้วคะยิ่งปฏิบัติจะโดนทดสอบมากสุดๆ เราต้องเอาชนะทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นกับเราถ้าเรายอมแพ้ เราก็ต้องเริ่มต้นใหม่ ต้องสู้กับเวทนา มันเกิดที่กาย ไม่ใช่เกิดที่จิต เราแยกกาย จิต แยกรูป แยกนาม ออกจากกันแล้วเราก็จะผ่านได้ สบายคะ บุญรักษาคะ
     
  6. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +973
    ไม่เคยรู้จักหลวงพี่เล็กมาก่อน แต่ที่ท่านได้ตอบในเรื่องกัมมัฏฐานที่มีผู้เรียนถาม

    กับที่ผมเองได้ปฏิบัติมา เป็นอย่างที่ท่านตอบไว้ไม่มีผิดเพี๊ยนเลย

    ในเรื่องกฏเกณฑ์ของโลกวิญญาณก็เช่นเดียวกัน กราบนมัสการหลวงพี่เล็กครับ

    และขอบคุณท่าน tamsak ที่ช่วยอนุเคราะห์นำมาเผยแพร่เป็นธรรมทานครับ
     
  7. จริยากุ

    จริยากุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,314
    ค่าพลัง:
    +1,446
    ทำไมบางครั้งถ้าเรากำหนดเข้าไปมากๆ ก็ยิ่งเจ็บ เราภาวนา "พุทโธ" เพื่อให้จิตแยกจากความเจ็บ แต่ก็ยิ่งเจ็บ
    จากที่เคยปฏิบัติมาตอนนั้นต้องการบุญมากทำปํจจุบันสมาธิเกือบตลอดเวลาและเมื่อมีเวลามากพอที่จะนั่งสมาธิได้ก็จะตั้งสัจจะในการปฏิบัติทุกครั้งตั้งใจว่าชีวิตนี้จะปฏิบัติบูชาและแผ่เมตตาก่อนทำตลอดและจะไม่เลิกถ้าไม่ได้ตามที่สัจจะเอาไว้วันนั้นหลังจากกำหนดจิตฝนตกหนักตลอดและหนาวมาก(นั่งตากฝน)กำหนดไว้อย่างน้อย 3 ชม. พอเริ่มนั่งฝนก็เริ่มตก เริ่มหนาวตะคริวก็จับตั้งแต่ขา มือ ก็รู้ก็คิดว่าเป็นไรเป็นกันคนที่เขาต้องการบุญเขารอด้วยความทรมานเราบอกจะให้ก็ต้องให้เราจะไม่จุ๊ผี ไม่จุ๊เทวดา แล้วก็นั่งต่ออะไรจะเกิดก็ช่างมันภาวนาเรื่อยไป ก็เริ่มหนาวมากขึ้นตะคริวกินทั้งตัวเราก็คิดอย่างเดียวตอนนี้ถ้าตายเราจะได้พบพระพุทธเจ้าภาวนาต่อเรื่อยๆไม่สนใจร่างกายและอาการที่เกิด ไม่รู้ว่าตระคิวหายตอนไหนอย่างไร ไม่มีอาการทางกายให้รู้สึกอีกเลยตอนนั้น แต่เมื่อครบเวลาเรากำหนดจิตแผ่เมตตาแล้วถอนออกจากสมาธิความรู้สึกหนาวเข้ากระดูกเป็นอย่างไรก็ตอนนั้น(อากาศช่วงนั้นไม่ต่ำกว่า 18 องศาและอยู่ที่บริเวณเชิงเขา)นี่คือเรื่องที่เจอด้วยตัวเองความรู้เรื่องการปฏิบัติตอนนั้นไม่มี เคยถามพระท่านว่า ทำเองรู้เองเป็นปัจจะตัง.
     
  8. นาย บวร-foryou

    นาย บวร-foryou สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +5
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ปล่อยว่าง วางเฉย

    ในการปฎิบัติ ผมก็พบเจอมาสองสามครั้งครับ สองครั้งแรก ขณะเจริญกรรมฐาน เห็นเป็นงูใหญ่ ยืดลำตัว มาจากหน้าต่าง จนเกือบจะถึงลำคอผม ผมควบคุมจิตไม่ได้ เลย หลุดมาจากกรรมฐาน ครั้งที่สาม ขณะที่ผมนอน ผมก็กำหนดตามไปทุกกริยา แม้แต่หลับสนิท แต่ถ้าจะพลิกขยับตัวก็ยังกำหนดได้ทัน คืนหนึ่ง ผมได้ถูกดวงจิตดวงหนึ่งมาบีบคอ แต่ผมก็มีสติอยู่ จึงไม่ได้ต่อสู้ขัดขืน ปล่อยแขนแกร็งอยู่ข้างลำตัว(เหตุที่ผมเชื่อว่าเป็นแบบทดสอบ เพราะผมได้ตามกำหนดไปด้วย เลยปักใจเชื่อครับ) จนผู้ปฎิบัติธรรมด้วยกันที่นอน ข้างๆต้องปลุก เขย่าตัว พอผมกำหนดลืมตา เพื่อนก็เล่าให้ฟัง ผมก็ได้แต่ยิ้ม เพราะผมจำคำหลวงพ่อ จรัญ ท่านสอนไว้ว่า กรรมฐาน อยู่เลยความตายไปนิดเดียว จบครับ ผมมิได้อวดอ้างธรรมในตัวน่ะครับ แค่ขอแจง ให้เพื่อนชาวพุทธ ทราบว่าแบบทดสอบมีจริง และมีหลายรูปแบบ ทุกแบบจริงๆแล้ว เป็น ปัจจัตตัง ครับ
     
  9. afseven

    afseven เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +516
    สำหรับผมแล้วแบบทดสอบที่ว่านั้น มันอยู่ที่จิตของเราเอง จิตแท้ๆของเรานั้นบริสุทธิ์ แต่พอมาถึงปัจจุบัน มันถูกห่อหุ้มด้วยกิเลสต่างๆไม่รู้ว่ากี่ชั้นต่อกี่ชั้น
    การเอาจิตรับรู้ในความทุกข์ถูกต้องแน่นอน แต่การเอาปัญญาเข้าไปสอดส่ายพิจารณา เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง
    จิต มีหน้าที่สังเกตุ ตามดู ตามรู้ เท่านั้น จนกว่า มันจะสั่งให้ใช้ปัญญาเท่านั้น จึงจะเห็นธรรม ตราบใดที่จิตยังไม่พูด ปัญญามันจะเกิดได้อย่างไร พระบรมศาสดาของชาวพุทธทรงเรียงลำดับไว้คือ ศีล แล้วมาสมาธิ แล้วถึงจะมีปัญญาเป็นสุดท้าย
    หากผิดจากนี้จะเป็นวิปัสนูปกิเลส ตัวนี้สำคัญมาก มันจะค่อยๆเกิด และถ้าเราไม่สังเกตุ หรือมองไม่เห็น มันจะทำให้แก้ได้ยาก และจะยากมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงแก้ไม่ได้ ส่วนมากจะโดนตัวนี้กันมาก จนทำให้ยังไม่เจอของแท้กัน ผลคือ จะคล้ายกับชาล้นถ้วย แต่จะรุนแรงกว่า
    ที่ถูกคือ ใช้จิตสังเกตุ ตามดู ตามรู้
    อย่างความเจ็บปวดเนี่ยะดูมันซิ รูปร่างหน้าตามันเป็นยังไง มันเกิดอยู่ส่วนไหน ถ้าใช้จิตพิจารณาจริงจะเห็น เพียงสามอย่างเท่านั้นเองไม่มีอะไร กำหนดจิตให้ทันกับอาการปัจจุบันที่สุดแล้วท่านจะรู้ เห็นเอง ว่าที่เขาพูดกันว่า เห็นสัจจธรรมในธรรม มันเป็นอย่างไร ธรรมเป็นของได้ยากก็จริง แต่ไม่เกินความสามารถของจิต หากตั้งใจปฏิบัติจริง อย่าลืมพื้นฐานของการปฏิบัติคือศีล ต้องรักษาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะมันจะเป็นกำลังหนุนที่จะทำให้เราผ่านบดทดสอบได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร
    สาธุ
     
  10. AMATIS

    AMATIS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +158
    อนุโมทนาสาธุ ยังแยกกายกับจิตไม่ได้ พอเวทนาเกิด คิดว่าเป็นเรา ๆ ๆ ตลอด
     
  11. เบา-ใส

    เบา-ใส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +29
    สาธุ
    กำลังโดน โลกธรรมแปดทดสอบอยู่พอดี อ่านแล้วได้กำลังใจเยอะ
     
  12. มหัศฤทธิ์

    มหัศฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +855
    สาธุคับ..เป็นเช่นนั้นจริงๆ....เป็นแล้วหายเป็นแล้วหาย...สู้ไปสู้มา...กว่า 4 ชั่วโมง .
    แต่ก็..ไม่ผ่าน...ต่อไปจะสู้ยิ่งๆ ขึ้นไปครับ.....
     
  13. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805


    อนุโมทนา
    กระจ่าง แจ้ง
    ขอบคุณครับ
     
  14. afseven

    afseven เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +516
    สาธุ กับความตั้งใจปฏิบัตครับ
    ผมยินดีด้วยที่คุณมองเห็นว่าเป็นแล้วหาย ใกล้เคียงแล้วครับ แต่ยังไม่จัง ลองทบทวนดูสังเกตุดูนะครับว่าจริงๆมันคืออะไรแน่
    แต่ผมติงนิดนึงครับ ที่คุณบอกว่าสู้ยิ่งๆขึ้นไปเป็นเรื่องดีครับ แต่คุณต้องรู้ว่าสู้กับอะไร วิธีสู้กับเวทนาที่ถูกและเหมาะสมคือ ต้องรู้จักรับ และรุก แต่ถ้ารุกอย่างเดียวจะมีแต่เสียหาย อาจจะไม่ได้อะไรเลย เมื่อคุณรบชนะโดยที่ไม่เคยได้ตั้งรับเลย มันจะทำให้คุณกระหายในสงครามนั้นไม่รู้จักจบสิ้น เมื่อถึงเวลานั้น นั่นแหละอันตรายมาเยือนคุณโดยไม่รู้ตัว
    ก่อนเกิด กำลังเกิด หลังเกิดทุกขเวทนา คุณต้องมีขั้นตอนรุกและรับไปพร้อมกัน อย่าไปบังคับให้ถึงความสำเร็จโดยเร็วเพียงเพราะเราอดทนได้น้อย ต้องใช้ความอดทนน้อยของเราให้เป็นประโยชน์ด้วยการใช้จิต ตามสังเกตุตลอดเวลา เมื่อทำอย่างนี้ได้บ่อยๆทุกครั้ง จิตจะมีกำลังแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วคุณจะเจอทุกขเวทนาที่แข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ คุณก็ใช้วิธีที่ผมแนะเอาไว้นั่นแหละ นี่แหละคือตามดู ตามรู้ ถ้าคุณชนะมันครั้งแรกได้ ก็ไม่มีอะไรที่หน้ากลัวต่อไปอีก ในชัยชนะนั้นจิตคุณจะเห็นสัจธรรมเอง มันจะเห็นไปเรื่อย รู้ไปเรื่อย พอถึงจุดนึงมันก็จะเป็นเหมือนเพียงแค่กระพริบตา คือทุกอย่างที่ว่ามาจิตรับรู้ไดเพียงกระพริบตา แต่กว่าจะถึงขนาดนั้น ต้องประกอบด้วยบุญ บารมีหลายอย่างรวมกันจนถึงแล้ว ในบุญบารมีเหล่านั้นจะต้องมีเมตตาเป็นที่ตั้งจะไปได้เร็วมาก ถ้าไม่ถึงพระอริยบุคคลก็ต้องถึง ญาณ11อย่างแน่นอน พอถึงขั้นนี้แล้วอาจไม่ต้องมีใครแนะท่านอีก เพราะกำลังเข้าสู่กระแสพระนิพพานแล้วจะตรงไปตลอดไมไขว้เขว บิดเบือน หรือเสื่อมถอย ครับ อนุโมทนาสาธุครับ
     
  15. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    สาธุ อนุโมทนานะครับ ก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้นะทุกคน ความสุขใหญ่รอเราอยู่ข้างหน้า คือดินแดนนิพพานนั่นเอง ดินแดนที่ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกดับทุกอย่างจากควาทุกข์ความวุ่นวาย จากโลกที่เราอยู่นี้ ขอให้ธรรมะอยู่กับทุกท่านด้วยเถิด สาธุ
     
  16. Phuket

    Phuket เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    499
    ค่าพลัง:
    +877
    โดนแล้ว กิเลสครอบเลย แต่ก็กลับมามีสติอีก เพราะนึกถึงหลวงตาและพระศาสดา
     
  17. jeds22

    jeds22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +498
    เคยนั่งขัดสมาธิเพ็ชรอยู่ 3 ชม.กว่า ปวดจนกระดูกลั่นดังเปรี๊ยะทุกข้อเลยครับ
     
  18. พศวีร์

    พศวีร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +29
    "อาการเวทนาจากความเจ็บปวดนี้เป็นของเราหรือเป็นของร่างกาย ถ้าเป็นของร่างกายก็เรื่องของร่างกายไปเถอะ เราไม่ใส่ใจ เราก็อยู่กับการภาวนาของเรา"


    ผมเคยนำไปใช้แล้วครับ คิดแบบง่ายๆก็คือให้มีสติอยู่กับตัวอย่าไปพะวงกับสิ่งที่เข้ามากระทบ แยกกาย แยกจิตออกจากกันให้ได้ ความรู้สึกนั้นก็จะค่อยๆหายไปโดยอัตโนมัติตามจิตของเรา...ลองทำดูสิ ขออนุโมทนาครับ
     
  19. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    ร่างนี้ เป็นร่างกรรม มีระบบกรรมทุกอย่างที่ล้วนทำมาแล้วทั้งสิ้น ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้ ธรรมะคือทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ส่วนการปฏิบัติคือการก้าวข้ามผ่านร่างนี้ ด้วยสมาธิ ทางที่ถูกต้องคืออดทน ไม่ย่อท้อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก้ามข้ามผ่านไปด้วยสมาธิด้วยความสงบ ด้วยความเข้าใจว่าอ่อมันเป็นเช่นนั้นเองนะ แล้วก็ไม่สนใจมัน และหมั่นทำบ่อยๆเพื่อเดินทางเข้าสู่ดินแดนนิพาน ดินแดนแห่งการรู้แจ้งเห็นจริง ดินแดนที่ไม่ต้องกลับมาเกิดเช่นนี้อีกต่อไป
     
  20. Freehugs

    Freehugs สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +14
    ขออนุโมทนาสาธุครับ
    __________________
    วันคืนล่วงไปๆเราทำอะไรอยู่
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...