จิตวิญญาณดวงหนึ่งของพระนเรศวรอยู่กับพระรูปใด?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +3,602
    ในพระอภิธรรมอ้างดวงจิตไว้ 100 กว่าดวง แต่เวลาดวงจิตทํางานมันทํางานเพียง 1 ดวงในขณะ 1 อาการ 1 เวลา เกิดไวดับไว จับอาการไม่ได้ เวลาจับอาการก็ใช้การกับหนดเครื่องมือของจิตคืออารมณ์ กําหนดเอาความเห็นจิดเกิดดับนี่มองไม่รู้ ไวมาก จึงกําหนดที่อารมณ์แทนอารมณ์รู้นี้เรียกว่าสติ

    การเกิดใหม่ หรือการตาย ดวงจิตจะเกิดหรือตายไม่วิสัสชนาเพราะเข้าข่ายอภิธรรมที่ข้าพเจ้าเป้นผู้รู้ไม่จริง ยกเพียงปฏิจสมุปาท ที่เริ่มการเกิดขึ้นฝ่ายรูปคือสังขารฝ่ายนามคือวิญญาณเป็นจุดเริ่มของการเกิด ไม่นับรวมอวิชชาในบทเริ่ม สังขารในที่นี้ให้ความหมายไม่เหมือนสังขารในขันธ์ 5 แต่ให้ความหมายของสังขารตรงๆตัวก็คือ เนื้อหนังร่างกายนี่หล่ะ
    เมื่อพิจรณากงล้อนี้ก็จะเห็น ว่า สิ่งที่เกิดดับแท้แน่คือ ร่างกาย และ วิญญาณ มันเกิดใหม่เรื่อยๆ ตามอวิชา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2010
  2. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    พิจารณาแบบงมงาย ท่านว่ามีความเชื่อ เหนือปัญญา... แต่หากพิจารณาด้วยปัญญา ท่านให้มีปัญญา ..อยู่เหนือศรัทธา

    จะขอยกตัวอย่าง เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ พิจารณาให้เปนปรมัตถ์..จะเกิดผล
    ตัวอย่าง... งานวัดแขก สีลม ที่ผ่านมา ... มีประชานชนมาร่วมงานมากมาย บางคนแต่งกายเปนองค์เทพ เทพเพียง 1 องค์ คนสามารถแต่งกายเปนองค์เทพ ได้ถึง 100 คน ลักษณะนี้ ..มิใช่ การดับ แล้วเกิดใหม่ ในร่างของใครคนใด คนหนึ่ง แต่กล่าวกันว่า เปนการสัมผัสจิตญาณ จากเทพเพียงองค์เดียวกัน ที่ คน 100 คน รับได้ เช่นนี้ เรียกว่า..การแตกจิต

    จิตแท้ดั้งเดิม ของตนนั้น มีเพียงหนึ่ง.. แต่ด้วยเหตุของการเกิด - ดับ ข้ามภพ มาหลายชาติ...

    หากเปรียบ "จิต" เปน memory ย่อมต้องเกิดการสะสมของการจุติทุก ๆ ชาติ จนมารวมเปน ปัจจุบันชาติ จิตเดิมเมื่อแรกเกิด จะทำหน้าที่ในสภาวะปัจจุบัน เช่นเดียวกับ จิตใต้สำนึก อีกหลาย ๆ ดวง ก็ทำงานเปนเส้นขนาน ภายใต้ร่างกาย ด้วยเช่นกัน..

    บ่อยครั้ง ที่มีการรวมตัวสวดมนต์ ที่วัดพระแก้ว.. เพราะอะไร... ?
    เพราะการสวดมนต์หมู่ ในปริมาณคนที่มาก ก่อให้เกิดการวมตัวขนาดใหญ่ของดวงจิต จนเกิดเปนพลังเสียง กระจายไปในชั้นบรรยากาศ ปกคลุมรอบขอบเขต...มิใช่ เพราะมาจากหลาย ๆ ดวงจิต มาหล่อมหลอมรวมเปนพลังงานเพียงหนึ่งเดียวหรอกหรือ..!

    บางท่าน... อาจเคยได้ยิน การนั่งสมาธิ เพื่อรวมจิตญาณ หากอาจเกิดเปนคนชาติอาหรับ ,ผิวดำ , ผิวขาว หรือแม้แต่สัตว์ทุกชนิด การรวมสมาธิ เพื่อให้ภพภูมิของตนที่อยู่กันกระจัดกระจาย มารวมเปนหนึ่ง เปนเรื่องละเอียดในเชิงลึก คงไม่อาจกล่าวได้....

    สำหรับดวงจิต ที่มีเปนล้าน ล้านญาณ ..แบบประมาณการมิได้ เปนเรื่องเหนือวิสัย เหนือโลก อย่าลืมว่า ... ประตูบานนี้ มิได้มีเราอยู่เพียงผู้เดียว ยังมีพลังงานชีวิต ที่ซ้อน ๆ กันอยู่มากมาย..ใบไม้นอกกำมือ ที่พระพุทธองค์มิได้เอ่ยถึง ไม่ใช่ว่ามีไม่จริง แต่พระองค์ท่านปรารถนาที่จะสอนธรรมเพียงแค่ในหนึ่งกำมือเท่านั้น คือ กรรมดี (กำแบ) และ...กรรมชั่ว (กำไม่แบ)






     
  3. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +3,602
    กลายเป้นห้องพระพุทธศาสนา ไปซะแล้วนะ
    เอาอย่างนี้ละกันนะครับ
    จิตมันเกิดดับ ตามอารมณ์รู้เกิดและอารมณ์รู้ดับ มันไม่ได้เกิดดับแบบชาติ แบบภพ ถ้าแบบนี้มันไม่ดับ
    สิ่งที่ดับคือ
    รูป สังขารร่างกายจะกายหยาบกายละเอียดก็ ถือเป็นสังขาร
    นาม คือ วิญญาณ วิญญาณนี่คนละความหมายกับวิญญาณที่สิงสถิตย์ แบบนั้นเป็นวิญญาณกายละเอียดเป็นรูป วิญญาณที่หมายถึงในส่วนนาม คือ ความรู้ เป้นวิญญาณอยู่ในธรรมหมวดขันธ์ 5

    รูปนามที่เกิดดับภพชาติมันเป้นอันนี้ จิตมันไม่ได้ตายไม่ได้เกิด ไม่ได้จุติ เกิดตายในที่นี้หมายถึงตายเกิดแบบภพชาติ แต่เกิดดับ แบบธรรมชาติมันเกิดดับ
    แยกเกิดดับกับเกิดตายจากคัว่าจิตก่อน

    สังขารที่เกิด นี่เป็นมูลเหตุให้วิญญาณคือธาตุรู้ตามมา
    สังขารเหมือนระฆัง
    วิญญาณธาตุรู้เหมือน เสียงระฆัง
    จิตเหมือนการได้ยิน เสียงหมดมันก็ไม่ได้ยิน ถ้าจิตหวนคิดมันก็ได้ยิน หรือเสียงดังจิตเดิมมันก็คือไม่ได้ยินก็ได้ ถ้าธาตุรูคือวิญญาณในแบบขันธ์มันเห็นว่าเสียงก็ไม่มี

    ระวังคุยเรื่องจิตไปคุยเรื่องจิตมาจะสับสนครับ เรื่องภพชาติ เป็นเรื่องของอวิชา ให้เกิด

    จิตไม่ได้ตายไม่ได้เกิดผมอธิบายแบบมั่วๆให้เห็นภาพตามได้แค่นี้หล่ะครับ

    ไหนๆก็จะจบก็ให้จบวงรอบแบบหยาบๆ พอเสียงไปกระทบหู สัญญาความจําได้หมายรู้ ว่าเสียงดีไม่ดี ถูกใจไม่ถูกใจ มันไปโดน เข้าให้พอมันไปโดน ก็เกิดอยากและไม่อยากฟังมันก็ตามมา ตามมาถ้าเป็นเสียงดีมันก็ติดอยากจะฟังต่อ หรือไม่อยากฟังต่อ พอความอยากมันเกิดขึ้นก็ก็ขวนขวายแต่เสียงรําไป ถ้าได้ฟังเสียงไม่อยากฟังก็ ทุกข์ใจหนวกหู มันเป็นแบบนี้ นี่เรียกเกิดตาย จิตมันไม่ได้เกิดไม่ได้ตาย พิจรณาความเกิดโดยชาติก็แบบเดียวกัน 4 บรรทัดพอให้เห็นภาพแค่นี้ 1 เกิด 1 ดับของจิต ว่าไวขนาดไหนจิตทํางานหน่อยเดียว ท่านให้กําหนดเพียงรู้เห็นความเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2010
  4. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +973
    อนุโมทนาครับ ผมเข้าใจครับหลายเรื่องยากอธิบาย โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะ แตกต่างวาสนาและบารมีกัน แต่ก็ช่วยอธิบายชี้แจงได้ชัดเจนครับ
     
  5. sart sawangsin

    sart sawangsin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +76
    งงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    เอาเป็นเนื้อหามาเลยได้ไหมครับ
    จะได้ศึกษาครับ
     
  6. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ถ้าวิญญาณแยกส่วนได้

    แล้วการได้รับผลกรรม

    ไม่ว่าจะเปนกรรมดีก็ดีหรือกรรมชั่วก็ดี

    จะเกิดขึ้นได้ไงครับ
     
  7. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    906
    ค่าพลัง:
    +3,887
    การทำให้คนหลงผิดปิดทางบรรลุมรรคผลนิพพานและกล่าวตู่พระพุทธเจ้าเป็นบาปมหันต์
    ใครทำอะไรก็ได้สิ่งนั้นตอบแทนเองแน่นอน
    ถ้าสิ่งที่ผมพูดว่าจิตมีดวงเดียวเกิดที่ใด ดับที่นั่น แต่เราไม่รู้เพราะสันตติมันเร็วมากเป็นการปิดทางนิพพานคนอ่านกระทู้ ผมต้องได้รับกรรมอันเผ็ดร้อนนั้นเองแน่ๆ สาธุ กรรมใครกรรมมัน จัดสรรเอาเอง
     
  8. yongjae

    yongjae สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนบุญกับคุณอาภากร....:cool:
     
  9. ploysaisai

    ploysaisai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +7
    อ่านแล้วได้ความรู้ ได้ความคิด
    และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย
    ที่แม้วัน เวลาจะผ่านไปนานแสนนาน พระองค์ท่านยังคงรัก ห่วง และหวง
    แผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลานของพระองค์ ขอขอบคุณผู้เขียนที่ค้นคว้ามาประดับสติปัญญาผู้อ่านอ่ะ
     
  10. Kimbie1

    Kimbie1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +362
    ผมเคยอ่านในหนังสือ หลวงพ่อธุดงค์ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เทวดามาบอกหลวงพ่อว่า พระนเรศวรท่านมาเกิดแล้วนี่ครับ เป็นใคร ลองไปหาดูนะครับในหนังสือหลวงพ่อธุดงค์
     
  11. a-pin-ya

    a-pin-ya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +672
    เราทราบ แต่ไม่สมควรบอก และท่านเป็นผู้ทรงอภิญญาสูงส่งด้วย คอยทำงานปกป้องชาติบ้านเมืองอย่างเงียบเชียบ และท่านเป็นศิษย์เอก หลวงปู่ ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2011
  12. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    849
    ค่าพลัง:
    +75
    52 คูณ 121 เท่ากับ 6292 ดวงจิตเจตสิกในมนุษย์
    คัดตัดกรองให้เหลือ 1 ดวงจิต โคตรยาก
     
  13. อริยมันเตร

    อริยมันเตร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +2
    ความจริงคือ..พระนเรศตายไป-ไม่ตกนรก ถึงบาปเยอะแต่บารมีสูง...ได้เป็นม้าทรงของเทพองค์ใดองค์หนึ่ง...ตอนนี้ก็ลงมาเกิดชดใช้กรรม...พร้อมกับหน้าที่อะไรซักอย่าง...
    สักวันหนึ่งท่านจะเห็นเอง...แต่มิได้มาในฐานะอดีตเคยเป็นพระนเรศแน่นอน...
    มาในฐานะอวตาลของพระนารายณ์ครั้งสุดท้าย..เพราะเท่าที่เรารู้มาท่านถือกำเนิดมาจากดวงจิตของพระนารายณ์...จริงแล้วพระนเรศไม่สามารถแบ่งดวงจิตได้ท่านมิใช่เทพ...สักวันคนที่รอดจากภัยพิบัติได้จะได้เจอแน่...ตอนนี้อายุท่านเท่ากับตอนที่ท่านกลับมาจากหงสา...อยากรู้จงฝึกจิต แล้วถามดู...อย่าเชื่อใคร นอกจากเราจะหาคำตอบเอง...
     
  14. มหัศฤทธิ์

    มหัศฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +855
    หลวงปู่โง่นบอก ครูบาบุญชุ่มเป็นลูกคนโตของ พระพี่นางสุพรรณกัลยา....
    (แสดงว่าเป็นหลานพระนเรศวร จะเป็นราชครูท่านได้อย่างไร???)
    ท่านรักษาสัจจะ 3 ปี ก็ต้อง 3 ปี...คนขับรถท่านก็ยังไม่อาจเจอท่านเลย..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2011
  15. อริยมันเตร

    อริยมันเตร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +2
    พระนเรศชาตินี้เกิดมา ผิวดำ...พระเอกา ชาตินี้ผิวขาว...พระสุพรรณกัลยา..ผิวไม่ดำไม่ขาว..
    ท่านลองนั่งสมาธิแล้วดูเองเถิด...ทั้ง3 อยู่กันคนละที่ ไม่ได้เกิดมาในครอบครัวเดีญวกันในชาตินี้...ทุกคนจะมีตำหนิจาก 2ชาติที่แล้ว...
     
  16. A+O

    A+O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +120
    อยากรู้จากผู้ไม่มีญาณ หุหุ
     
  17. ไก่เหลืองหางขาว

    ไก่เหลืองหางขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +498
    คุณ อริยมันเตร

    เผอิญผมไม่เชื่อคุณทั้งหมดครับ ที่ว่าองค์สมเด็จพ่อพระนเรศเป็นเจ้าท่านทรงมีพระบารมีสูงน่ะถูกแล้วและพระบารมีของท่านก็สูงเทียบเท่ากับระดับมหาเทพ เพราะท่านทรงเป็นพระโพธิสัตว์ดังนั้นไอ้เรื่องต้องมาเกิดเป็นม้าทรงของใครน่ะไม่มีทางเด็ดขาด มีแต่ผู้อื่นนั่นละครับที่ต้องเป็นม้าทรงให้พระองค์ท่าน

    และแน่นอนท่านย่อมแบ่งดวงจิตได้อยู่แล้วตามวิสัยของพระโพธิสัตว์ครับ แต่เรื่องนี้เทพทั่วๆไปทำไม่ได้นะครับ เรื่องนี้พระเถระผู้ปฏิบัติก็รับรองครับ


    และทั้งสามพระองค์พี่น้องยังคงดำรงทิพยภาวะเป็นองค์เทพอยู่ครับ ไม่เชื่อก็ถามคนเต็มบ้านเต็มเมืองที่ได้สัมผัสพระญาณ พระบารมีของทั้งสามพระองค์ดูสิครับ

    ส่วนอวตารของพระนารายณ์ครั้งสุดท้ายคือกัลกิยาวตารครับ ไม่เกี่ยวอะไรกับองค์สมเด็จพ่อพระนเรศเป็นเจ้าท่านโดยสิ้นเชิง แล้วที่คุณใช้รูปแทนตัวเป็นพระกัลกินี่ต้องการจะสื่ออะไรครับ? ขอโทษทีนะครับ เผอิญคลิกเข้าไปที่ล็อกอินของคุณแล้วมันเห็นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2011
  18. ภควันตัง

    ภควันตัง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +1
    เราศาสนาพุทธเถรวาทนะครับผมเชื่อในศาสนาของผมเชื่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องแบ่งภาคมาเกิด หรืออวตาร ผมไม่เชื่อหรอก...ดวงจิตมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น.
     
  19. ภควันตัง

    ภควันตัง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมเชื่อในศาสนาพุทธนิกายเถรวาทของผม..ผมเชื่อในคำสั่งสอนของพระพุทธองค์..ผมไม่เชื่อการแบ่งภาคหรืออวตาร..ผมเชื่อว่าดวงจิตมีเพียงหนึ่งเดียว.
     
  20. วสันตฤดู

    วสันตฤดู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,321
    ค่าพลัง:
    +8,714
    สมเด็จพระนเรศวรมหาราชปรารถนาพุทธภูมิที่บารมีสูงมาก ท่านได้กอบกู้เอกราชเเผ่นดินไทยจากพม่า ถึงชาตินั้นท่านจะได้ต่อสู้กับพม่าจนถึงเเก่ชีวิต เเต่ท่านก็ไม่ตกนรก เพราะท่านทำเพื่อรักษาเอกราชของชาติไทยเเละมีความฉลาดในการอธิษฐาน เเม้เเต่ทหารบางคนของสมเด็จพระนเรศวรมหราชก่อนออกศึกก็ได้อาราธนาพระที่ห้อยที่คอเเละนึกถึงพระรัตนตรัยก่อน จึงไม่ตกนรก
    มาถึงชาตินี้พระองค์ก็เป็นศิษย์เอกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเกิดเป็นพ่อลูกกันมาหลายชาติ เเม้เเต่ในสมัยพุทธกาล
    ดวงจิตของพระองค์ไม่ได้ถูกใครควบคุมไว้
     

แชร์หน้านี้

Loading...