ทำไมวัดธรรมกายสอนแบบนี้! พุทธศาสนาจะเป็นอย่างไร?? แล้วทำไมคนติดจัง

เกรียนกัปปะ ยังเกรียนได้ใจ เลวเสมอต้นเสมอปลาย

 

ความเลวของ STUPID เองก้อไม่ใช่น้อย เห่าหอน เขาไปทั่ว...ไม่นานหรอก เดี๋ยวฟ้าดินก้อจะลงโทษ เด็กอมมือ ปากหมา...สันดานชั่ว อย่างเอ็ง ...หมาอย่างเอ็งพูดดีด้วยไม่ได้ เพราะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง คอยเห่าตลอด..ชาติที่แล้วคงไม่ได้เกิดเป็นคนแหงๆ เพราะชาตินี้เลยฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง :boo::boo:

 

เดี๋ยวๆผมเลวยังไง บอกหน่อย ผมไม่ได้มาคอยมาจ้องจะจับผิดวัดจับผิดพระแบบคุณนะ บอกหน่อยผมเลวตรงไหนแค่มาเตื่อนคุณว่าอย่าทำแบบนี้ คุณ เกรียนกัปปะ

 

เลวตรงไหนหรือ...STUPID ช่างไม่รู้ตัวจริง ผมก้อไม่ได้จ้องจับผิดพระที่ดี แต่อยากให้พุทธศาสนิกชน ช่วยกันมองความจริง ปัญหาจริง ไม่ใช่นิ่งเฉย กำจัดเหลือบศาสนาออกไป แม้แต่วัดธรรมกาย ที่มีข่าวมาตลอด มีทั้งข่าวที่ดี กับข่าวที่ไม่ดี แต่ยังแก้ต่างไม่ได้ กับคนทั่วไป ผมแค่แสดงความคิดเห็น แม้ว่าอาจไม่ถูกใจคุณหรือใคร คุณก้อไม่มีสิทธิมาว่ากล่าว เพราะเป็นเพียงแค่แสดงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น...ส่วนใครจะคิดว่ามีพระเลว อยู่ในพุทธศาสนาไม่เป็นไร ก้อแล้วแต่จะคิด ส่วนตัวผม ก้อจะคอยเตือนคนทั่วไปให้หันมามองพุทธศาสนาเราอย่างจริงจัง ดีกว่าที่จะปล่อยให้มีเหลือบคอยกัดกิน...ส่วนเรื่องศาสนวัตถุ จริตใครจะชอบไม่ชอบ ผมไม่สน เพราะผมเน้นแต่พระที่ ละกิเลส เท่านั้น ละทุกสิ่ง ทุกอย่าง นั่นสิ ถึงจะเป็นพระที่แท้จริง ไม่ใช่พระที่นั่งอวดบารมี แต่เบื้องหลังมีเมียเก็บไว้

 

แล้วเกรียนกัปปะจะรู้ได้ไงว่าพระไหนดีหรือไม่ดี แล้วถ้าเกรียนกัปปะพลาดไปว่าพระที่ดีเป็นพระเลวล่ะจะเกิดอะไรขึ้น นรกไหม คิดดูดิ ผมอะไม่ได้อะไรกับคุณนักหนาหรอกนะ แค่อยากให้คิดซักนิดผมถึงบอกไงว่าถ้าไม่แน่ใจอย่าพึ่งทำอะไรออกไปเลย อย่างวัดธรรมกายนี้ผมไปบวชมารุ่น 7000รูป 7000ตำบล (จริงๆจะบวชรุ่นแรกเลยด้วย รุ่น กองพันง่ะ)แต่พอกัลยาณมิตรมาชวนบวชว่าไปบวชวัดพระธรรมกายไหม ตอนแรกก็ไม่รู้จักวัดนี้หรอก พอไปถามหลายๆคนก็บอกว่าวัดนี้ไม่ดีบ้างแหละ วัดนี้เป็นพุทธพานิชหลอกเงินคนบ้างแหละ(ใครบริจาคเงินมากได้มาก)หลังจากนั้นก็ไปลองศึกษาเอาเองก่อนผ่านทางเวป DMC ก็รู้สึกว่ากิจกรรมต่างๆล้วนออกมาดีทั้งนั้น ส่วนเรื่องพุทธพานิชตอนนั้นก็พิสูจน์ไม่ได้ ตอนนั้นคิดว่าจะไม่บวชแล้วด้วยแต่ด้วยอะไรมาดลใจก็ไม่รู้ จึงตัดสินใจบวชเลย วันแรกก็อยากกลับบ้านแล้ว คนเยอะ เป็นหมื่นเลย แต่ใจหนึ่งก็อยากจะรู้ว่าจริงๆแล้วเหมือนอย่างคนที่เค้าพูดกันไหม พอเริ่มบวช พระอาจารย์ก็สอนก่อนเลยว่า ให้ละ ทิฐิ โดยเอามือล้วงคอห่านในห้องน้ำง่ะ เกิดมาก็ไม่เคยทำแบบนี้ สอนหลายอย่างรู้สึกว่าคุ้มค่ามากเลยที่ได้มาบวชวัดนี้ เสียดายที่ไม่ได้บวชในโครงการบวชพระเข้าพรรษา ที่วัดสอนว่า เกิดเป็นลูกผู้ชายไทยต้องบวชให้ได้อย่างน้อย 1พรรษา ผมชอบคำนี้มากเลย โดนใจสุดๆ พอสึกออกมาก็มาทำงานคอมพิวเตอร์เหมือนเดิมตอนนี้อยู่หน่วยงานราชการแล้วหลังจากที่บวชมาผมก็ติดตามดูหลวงพ่อเทศทุกวัน ฟังแล้วรู้สึกถึงเป้าหมายในชีวิตจริงๆ ตอนนี้ใจอยากจะบวชตลอดชีวิตเลย แต่ติดเรื่องต้องดูแลพ่อแม่ เพราะฉนั้นเรายืนยันเลยว่าวัดนี้ดีจริงๆ ส่วนเรื่องการสร้างวัตถุต่างๆทั้งใหญ่และเล็กนั้น คุญวงบุณพิเศษเค้าอธิบายไว้ชัดเจนแล้ว เราอยากจะให้นายเข้าใจ ตอนบวชเราก็รู้ว่ากรรมจากการปรามาสพระนั้นมันบาปมากอย่าทำเลย ขอให้นายเข้าใจนะ เราคงไม่ใช่คนชั่วอย่างที่นายคิดนะ

 

" ...เพราะผมเน้นแต่พระที่ ละกิเลส เท่านั้น ละทุกสิ่ง ทุกอย่าง นั่นสิ ถึงจะเป็นพระที่แท้จริง..."


การบวชในพระพุทธศาสนานั้นมีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียว คือกระทำพระ

นิพพานให้แจ้ง ตรงนี้ชัดเจน แม้การบวชเพื่อบำเพ็ญเนกขัมบารมีของพุทธภูมิ

ก็ไม่เว้น พระที่ปฎิบัติจนสามารถละกิเลสได้ทั้งหมด สำเร็จอรหัตผล ถือเป็น

การประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะสาวก แต่การสนใจแต่เพียงอริยสงฆ์นั้น

ไม่ถูกต้องนัก เพราะปัจจุบัน พ.ศ.2554 มีพระที่ปฎิบัติจนสำเร็จนับร้อยรูปทั่ว

แผ่นดิน ก็ล้วนแล้วแต่อาศัยปัจจัย 3 ประการคือ

1. ฐานบารมีที่สั่งสมมาแต่อดีต

2. การสืบทอดอายุพระศาสนา จากรุ่นสู่รุ่น ทั้งอริยสงฆ์ในอดีตและสมมุติสงฆ์

ในอดีต ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า การสืบทอดพระศาสนาของสมมุติสงฆ์มีความจำ

เป็น ยิ่งถ้าเราได้ศึกษาประวัติศาสตร์และงานวิจัย จะพบว่า หนึ่งในหลาย

เหตุผลของการล่มสลายของพระศาสนาในอินเดียมาจาก พระที่ปฎิบัติดีปฎิ

บัติชอบ มีอัธยาศัยวัตรปฎิบัติในป่า การเผยแผ่จึงขาดช่วงและขาดพุทธบุตรที่

ทำหน้าที่ประกาศพระสัทธรรม ตรงนี้ผมฟังพระเทศนาจากพระธรรมโกศาจารย์

(ประยูร ธมฺมจิตฺโต)

3. ความเพียรของท่านในปัจจุบันชาติ

พระที่ปฎิบัติจนละกิเลสได้นั้น คือพระแท้ นี่จริงครับ แต่พระที่ละกิเลสไม่ได้

ทั้งหมดที่แต่มีความเพียรและสำรวมระวังในศีล อย่างนี้ผมก็ถือว่าเป็นพระแท้น่ะ

ครับ และมีความสำคัญไม่ย่อหย่อนไปกว่ากันเลยในด้านการเผยแผ่พระศาสนา

การสืบทอดพระศาสนากว่า2500ปีมานี้ ต้องอาศัยสมมุติสงฆ์เป็นอย่างมาก

และรอผู้มีบารมีที่แก่รอบมาศึกษาปฎิบัติ แล้วบรรลุไป จากการศึกษาประวัติ

ของพระสุปฎิปันโน จะเห็นได้ว่าครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของแต่ละท่าน บางทีก็มิ

ใช่อริยสงฆ์ เป็นเพียงสมมุติสงฆ์แต่ก็สามารถสั่งสอนศิษย์ในเบื้องต้น จนสำเร็จ

อรหัตผลได้ในที่สุด ดังนั้นในความเห็นของผม คำว่า "พระแท้" จึงมิได้หมาย

ถึง พระที่ละกิเลสโดยสิ้นเชิงแล้วเพียงอย่างเดียว

​

 

ผมคงต้องขอโทษคุณอย่างแรง ที่ใช้วาจาไม่สุภาพไปบ้าง ซึ่งมันไม่ควรใช้ แต่ด้วยความที่ยังมีกิเลสในใจ บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ขี้เหม็น เลยอาจจะผิดพลาดไปบ้าง ขออภัยมาไว้ ณ.ที่นี้ แต่สิ่งที่ผมหมายถึง คือพระชั่วที่มีให้เห็นกันอยู่มากมาย เพราะทุกคนยังคงความเป็นมนุษย์ขี้เหม็นเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะโกนหัว หรือไม่โกน แต่ด้วยระดับจิตใจของแต่ละบุคคล ยากที่จะคาดเดาความคิดอ่าน มันถึงมักมีเรื่องที่อยากเก็บเป็นความลับ แต่สุดท้าย เรื่องก้อแดงทุกที แต่ผมเองอ่านข่าวมาตลอดเกี่ยวกับวัดธรรมกาย ถ้าดูจากความคิดของคนทั่วไป คงมองว่า ไม่มีมูล หมาไม่ขี้ ถึงแม้เบื้องลึกจะเป็นอย่างไรก้อตามที เพื่อความสะอาด ผมถึงอยากให้มีการสืบเสาะค้นหาความจริงทุกเรื่องออกมาให้หมด แต่คงเป็นไปได้ลำบาก แต่ถ้าคิดอย่างคุณวงบุญว่า ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรกรรม ผมเองกลับไม่คิดอย่างนั้น...เพราะถ้าเกิดเป็นความจริงไม่ว่าเรื่องใดเรื่องนึง จะทำให้ศาสนาเรามัวหมอง ไม่ต่างจากพระเลวที่ได้ลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง สารพัดข่าวคาวโลกีย์ทั้งนั้น ผมถึงไม่อยากให้มันเกิดขึ้น รวมถึงเรื่องของศาสนวัตถุ ผมเข้าใจนะ ว่าญาติโยมมากันเยอะ แล้วไม่มีที่พักหรือหลบฝน จึงต้องสร้างสถานที่ใหญ่โตรองรับ สำหรับเรื่องนี้ สำหรับผมยังคงคิดแต่เรื่องไม่มีความจำเป็นในการสร้างแบบนั้น มันเหมือนกับสร้างให้เกิดความขลัง ทั้งๆที่จริงแล้ว น่าจะทำแบบง่ายๆ สมถะแทนน่าจะดีกว่า (คุณที่อ่านอย่าเพิ่งต่อว่า เพราะ นี่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ใครจะคิดว่าอย่างไร คิดไปให้พอ) ส่วนเรื่องกรรมจากการปรามาส เรากลับคิดว่า ถ้าเราก้าวล่วงไป กับพระดี เราเองก้อกล้าที่จะขอขมากับพระพุทธองค์ แต่ถ้าเราหมายถึง พระเลว คิดว่ายังไงเสีย เขาก้อไม่ใช่พระ เป็นแค่มนุษย์หัวโล้น เท่านั้น ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะ ยันตระงี๊ ภาวนาพุทโธ หลวงตาจันทร์ แต่ก่อนเป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไป...ปัจจุบันล่ะ เป็นงัย ฟ้าดินลงโทษแล้ว โดยมือของมนุษย์เราๆนี่แหละ มนุษย์น่ะเข้าใจยากมาก...บางทีสิ่งที่คุณคิดว่าดี อาจไม่เป็นอย่างนั้นก้อได้..

 

เรื่องใหญ่ที่ต้องขยาย

ด่วนระวังตกหลุมพลางลัทธิขายบุญ

ปัจจุบันวัดตามต่างจังหวัดที่เป็นวัดขนาดกลางๆ ที่เข้าร่วมโครงการบวชพระ บวชชี หรือ หน่อต่างๆ ที่ลัทธิขายบุญจัดขึ้น โดยได้รับเงินสนับสนุนจากลัทธิเช่นค่าสถานที่หรือค่าพระนั่งหัตถบาท หรือได้เป็นคู่สวดอะไรต่างๆ กำลังโดนเทคโอเวอร์เรียบร้อยแล้ว เพราะลัทธิดังกล่าว ได้จัดตั้งคนเข้าไปเป็นกรรมการเพื่อช่วยดูแลเงินบริจาคในโครงการดังกล่าว หากวัดไหนมีศรัทธาญาติโยมมีปัจจัยดีก็โดนตั้งกรรมการเข้าไปจัดการอะไรต่างๆ วุ่นวาย ด้วยเหตุผลว่าช่วยจัดงานเพื่อประโยชน์ของศาสนา(ข้ออ้าง) เมื่อได้เงินสนับสนุนไปจัดงานปัจจัยจากศรัทธาญาติโยมก็โดนคนของเจ้าลัทธิใน คราบกรรมการก็เข้าจัดการดูแลจัดสรรปันส่วน ถือเป็นการเทคโอเวอร์วัดทั่วประเทศในฉับพลันทันที ลงทุนให้แล้วถอนทุนแบบยึดกิจการ



โครงการบวช7,000รูป 7,000ตำบล สำเร็จแล้วพัฒนาเป็นบวชแสน




โครงการอุปสมบทหมู่ 100,000 รูป กำลังจะบวชแสนที่3แล้ว



โครงการอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 1,000,000 คน กำลังจะโครงการที่4แล้ว

 

อย่าทะเลาะกันเลย แล้วแต่คนชอบ

ส่วนที่ดีเค้าก็มี ส่วนที่ไม่ถูกต้องก็มี

 

ถ้าพูดถึงส่วนที่ไม่ถูกต้อง...ถ้ามี แล้วชาวพุทธอย่างเราจะปล่อยไว้ทำไมครับ อย่ามัวแต่รอให้พระตีกันเองเลยมันบาป ในฐานะชาวพุทธ หวังว่าพี่น้องชาวพุทธควรช่วยกันรักษาสิ่งที่ถูกต้องให้อยู่คู่กับศาสนา อย่าปล่อยให้มีคนมาคอยหากินกับผ้าเหลืองนะครับ ผมว่า ถ้าปล่อยเลยตามเลย มันไม่ยิ่งบาปกว่าหรือครับ..เหมือนกับเราเห็นพ่อแม่ พี่น้องเรา กำลังจะจมน้ำ แล้วเราจะยืนดูเฉยๆหรือครับถ้าเรามีห่วงยางหรืออุปกรณ์อื่นๆที่ช่วยเขาได้ ฉันใดก็ฉันนั้น ในเมื่อเรารู้อยู่แก่ใจกลับนิ่งเฉยไม่ต่างอะไรกับการปล่อยให้ญาติพี่น้องเราจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา... แต่ถ้าคิดว่ามันถูกต้อง ก้อวางเฉยเสีย ปล่อยไปตามยถากรรมก้อแล้วกัน

 

อันนี้ก็ไม่ทราบไปรับข่าวมาจากไหน การบวชพระแสนรูปนั้นได้รับ

การตอบรับอย่างกว้างขวาง มีประชาชนร่วมบุญมาทั่วประเทศผ่าน

ศูนย์อบรมต่างๆ โดยแยกเป็น2กองคือ

1.โครงการอุปสมบทหมู่1แสนรูป เงินทั้งหมดจะเข้ากองกลาง เป็น

ค่าโดยสารและอัฐบริขาร รวมไปถึงสื่อต่างๆเช่นหนังสือสวดมนต์ ซี

ดีธรรมะ

2. อุปถัมภ์งานบวชพระในโครงการ ส่วนภูมิภาคตามวัดต่างๆ แยก

เป็นเจ้าภาพภัตตาหารและน้ำปานะ


ส่วนคำว่า "เป็นการเทคโอเวอร์วัดทั่วประเทศในฉับพลันทันที" นั้น

ยังไม่ปรากฎพยาน หลักฐานชัดเจน ที่จะใช้คำนี้ได้ ดูเป็นการ

กล่าวหาเกินความเป็นจริง และใส่ร้าย เพราะต้องอธิบายขอบเขต

ของคำว่า "เทคโอเวอร์" ด้วย ว่าคิดขอบเขตขนาดไหน เพราะ

เพียงการนำเงินไปใช้ตามจุดประสงค์ของผู้บริจาคที่ร่วมกับพระทั้ง

แสนรูป ก็ควรเข้าส่วนกลาง ไม่ควรไปกระจุกอยู่เพียงศูนย์ใดศูนย์

หนึ่ง ไม่รวมไปถึงเงินของแต่ละวัดที่โยมถวายเป็นค่าน้ำค่าไฟน่ะครับ

คิดดูให้ดีๆว่าเจ้าอาวาสวัดไหนจะยอมให้เทคโอเวอร์วัด การใช้คำนี้

ต่างหากที่ Over เกินความเป็นจริง และเป็นการดิสเครดิตโครงการ

อย่างเทียบกันไม่ได้<!-- google_ad_section_end -->

 

"เพียงการนำเงินไปใช้ตามจุดประสงค์ของผู้บริจาคที่ร่วมกับพระทั้งแสนรูป ก็ควรเข้าส่วนกลาง "
ถามครับว่าส่วนกลางนั้นบัญชีใครที่ไหน??? และเคยเปิดเผยตัวเลขหรือไม่????

มีวัดในจังหวัดตราดที่มีการตั้งคนของสำนักเข้าเป็นกรรมการทั้งที่ก่อนหน้าไม่เคยมี เป็นการแทรกแซงหรือไม่???

 

เป็นเรื่องภายในสงฆ์ ที่ตัดสินกันเอง เกิดจากความเห็นชอบกันเอง

ของวัดดั่งเดิมและวัดพระธรรมกาย เรื่องนี้ ผมไม่มีข้อมูล แต่ก็ยังไม่

เห็นความไม่ถูกต้องว่าแทรกแซงแล้วจะทำไม เพื่อภราดรภาพในการ

ประสานงานพระศาสนา เพราะโครงการต่างๆต้องอาศัยวัดสาขา ยิ่ง

อุบาสิกาแก้วล้านคนที่จะจัดแทบทุกเดือนด้วยแล้ว ยิ่งจำเป็นอีก แต่

หากเกิดปัญหาในอนาคตจริง ก็มิใช่เรื่องยากที่จะยกเลิกหรือแต่งตั้ง

กรรมการชุดใหม่ แล้วไม่ทราบว่าเจ้าอาวาสวัดนั้นว่าอย่างไรบ้าง

ท่านคงเห็นด้วย ไม่งั้นเรื่องมันดูแปลกๆมั้ย



ส่วนเรื่องตัวเลขบัญชี สงสัยว่าวัดส่วนใหญ่ทำด้วยหรือ วัดพระแก้ว

ทำมั้ย วัดหลวงพ่อโสธรทำมั้ย หรือถ้าอยากทราบจริงๆก็ติดต่อไปที่

วัดหรือไม่ก็มหาเถรสมาคม ส่วนตัวผมเองนั้นไม่มีความจำเป็นต้อง

ทราบ เพราะเงินก็วนเวียนในพระศาสนาอยู่แล้ว ยิ่งวัดพระ

ธรรมกายดังอย่างนี้ สื่อมวลชนคงจับตาตลอดเวลา หากการเงินไม่

ถูกต้องคงมีข่าวไปแล้ว ขนาดเรื่องแก้พระไตรปิฎก ไม่มีมูล หมามัน

ยังขี้เลย

 

ผมไม่ได้ว่าใครในกระทู้นี้น่ะครับ เพียงแต่ไปเห็นมาในกระทู้อื่น เว็บอื่นๆ

คือ ความพยายามแยกสงฆ์ออกเป็นฝ่ายๆ โดยเฉพาะวัดพระธรรมกายออก

จากเถรวาท ผมจึงอยากชวนมาดูความเห็นของพระบ้าง ซึ่งเกิดจากการสุ่ม

สัมภาษณ์พระที่มาร่วมงานวันคุ้มครองโลกในปี2551 และถือเป็นการชวนไปร่วม

งานบุญใหญ่ที่จะมีการรวมสงฆ์ทั่วโลกทุกนิกาย กว่า30,000วัด พุทธบุตรนับ

แสนรูป และถวายภัตตาหาร ถวายสังฆทาน


ไปดูกันเลย ว่าพระท่านว่ายังไงบ้าง ทุกนิกาย


http://video.dmc.tv/media/scoop_upda...ity29.wmv.html



http://video.dmc.tv/media/scoop_upda...ity30.wmv.html



http://video.dmc.tv/media/22unity/520424.wmv.html



http://video.dmc.tv/media/22unity/520425.wmv.html



http://video.dmc.tv/media/22unity/520427.wmv.html



อยากให้ทุกคนได้ดูครับ พระทุกรูปพูดเป็นเสียงเดียวกันครับว่า "ต้องการให้วัดพระธรรมกายเป็นจุดศูนย์รวมของพระพุทธศาสนา"<!-- google_ad_section_end -->

 

คงไม่ใช่แค่เพียงเรื่องภายในคณะสงฆ์อย่างที่คุณบอกหรอกเพราะเมื่อเป็นกรรมการก็จะมีการจัดการงานต่างๆ เพื่อสนองรับจากเจ้าสำนักเพื่อทำงานได้รวดเร็วขึ้นในอนาคตเหมือนเป็นสาขา คอยรับนโยบายจากบริษัทแม่ อย่างที่คุณบอกนั้นแหละได้วัดอื่นมาเป็นสาขา ไม่ใช่"เทคโอเวอร์"
แล้วเรียกว่าอะไร
เรื่องที่ทำทั้งหมดเพิ่งเริ่ม แต่ต่อไปนี้การบรรเลงจะเข้มข้นขึ้นเงินทุกบาทจะต่อตรงเข้าส่วนกลาง

 

ผมไม่ได้เห็นความสำคัญเลยว่า เงินจะเข้าส่วนกลาง แต่กลับมองว่า

เงินก็ต้องจ่ายออกจากส่วนกลางด้วย รายจ่ายต้องเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

เพราะงานพระศาสนาขยายออกไปแล้ว คุณคิดหรอว่าเจ้าอาวาส

ต่างๆทุกๆวัดจะยอมให้การบริหารเงินทุกส่วนเข้ากับส่วนกลางคือวัด

พระธรรมกายทั้ง100% ซึ่งยากต่อการเบิกจ่าย หากเรื่องมากนัก

ท่านก็อาจไม่สนับสนุนวัดพระธรรมกายต่อไปอีกเลย เรื่องเงินนั้นไม่

ใช่ปัญหา เพราะมหาเศรษฐีระดับชาติในวัดพระธรรมกายหาได้

ง่ายกว่าเก้าอี้เสียอีก

ทั้งนี้ทั้งนั้น ตั้งอยู่บนบรรทัดฐานว่า "ยังไม่มีข้อมูลทั้งคุณและผม ว่ามีการตั้งกรรมการขึ้นมาแม้แต่เพียงวัดเดียว"

คุณลองคิดถึงผลดี-เสียให้ดี

 

ที่่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเครื่องแสดงเจตนาที่ไม่เป็นไปตามหลักพุทธศาสนา แต่สำนักนี้ยังอ้างพระพุทธศาสนาอ้างหลักธรรมคำสอนที่บิดเบือน แล้วที่บอกว่า "ถ้าหากการเงินไม่ถูกต้องสื่อมวลชนต้องเสนอไปแล้ว" ก่อนหน้านี้เจ้าสำนักยักยอกทรัพย์เข้าบัญชีส่วนตัวจนต้องคืนเงินออกมานั้น(เป็นคดีความในชั้นศาล) ถึงแม้จะไม่ผิดในทางโลกคือกฎหมายเอาผิดไม่ได้เพราะคืนออกมา แต่ในพระวินัยการยักยอกทรัพย์นั้นเป็นอาบัติปาราชิกขาดจากการเป็นสงฆ์ตั้งแต่เงินทั้งจำนวนนั้นเข้าบัญชีตัวเองไปแล้ว ไม่ว่าจะคืนหรือไม่ก็ปาราชิกแล้ว จะบอกว่าดีอยู่อีกหรือ คนที่หลงผิดก็ควรกลับตัวมิใช่ตะแบงเป็นมิจฉาทิฐิ สิ่งไม่ดีของสำนักนี้ถูกปอกเปลือกออกมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแต่เพราะมีคนหูหนวกตาบอดอยู่คนนี้จึงยังอยู่ได้
ทุกสิ่งที่ทำนั้นเพราะอ้างความดีจึงมีคนทำแต่การอ้างความดีนั้นตัวเองในฐานะผู้สอนต้องดีด้วยมิใช่มีความไม่ดีแอบแฝงอยู่ เค้าเรียกว่าหลอกลวง

 

ไม่ได้เข้ามานานเลยเรา

แม้คุณจะคิดว่าผมพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว
แต่ความจริงที่ผมเคยพูดไปนั้นเป็นคำพูดที่มาจากคณะครู นักเรียน ที่พูดถึงปัญหาในการจัดงานชุมนุม v-star ทั้งสิ้น ย้ำ!ปัญหาในการจัดงานชุมนุมv-star
ไม่ใช่ปัญหาของโครงการ v-star อ่านให้ดีก่อนสรุป

โครงการเด็กดีV-star เป็นโครงการที่ผมยอมรับว่าเป็นโครงการที่ดีมีการปลูกฝังให้เยาวชนไทยเป็นผู้ที่มีคุณธรรมจริยธรรมอันดีงาม
ทั้งกิจวัตร 10 อย่าง
5ห้องสร้างนิสัย
การจับความดีคนรอบข้าง
การบันทึกความดีของตนเอง
การบัญทึกการออมบุญ
การบันทึการไปวัดในวันพระ
และกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมและการเป็นผู้นำบุญต่างๆอีกมากมาย
ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่ทำทั้งตลอดปีซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้งบอย่างมหาศาลในการปลูกฝังคุณธรรมในกิจกรรมนี้

ซึ่งจากที่ผมสังเกตนักเรียนที่เข้าโครงการนี้มีเด็กหลายคนที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อยกตัวอย่างจากเด็กแถวบ้านที่เป็นเด็กซนเกเรชอบแกล้งเพื่อนแต่เมื่อเขามาเข้าโครงการนี้เขากลับมีพฤติกรรมที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หรือแม้แต่ผู้ปกครองบางคนเคยพูดกับเพื่อนผมที่เป็นครูว่า
โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ลูกของเขาเปลี่ยนไปมากจากที่ไม่เคยล้างห้องน้ำก็หันมาเอาใจใส่ในความสะอาดของห้องน้ำ ไม่เคยไหว้พ่อแม่ ก็หันมากราบไหว้พ่อแม่ ทั้งเช้า และก่อนนอนทุกวัน
จากที่ผมได้สัมผัสและได้เห็นได้ฟังมา ในความคิดของผมคือโครงการนี้ดีมากๆ
ใครจะว่าโครงการนี้ไม่ดีผมเถียงตาย

แต่ผมไม่รู้ได้ว่าโครงการนี้เน้นคุณภาพ หรือเน้นปริมาณ เพราะผมไม่ได้ไปสัมผัสถึงก้นบึ้งของจิตใจของแต่ละคนจึงไม่อาจรู้ได้ แต่ที่เห็นๆก็ได้ทั้งคุณภาพทั้งปริมาณ เพราะโครงการนี้มีทั่วประเทศไทยแถมตอนนี้ได้ข่าวว่ามีนอกประเทศไทยด้วย ซึ่งอันนี้ผมก็ยินดีที่ โครงการนี้ได้ไปสู่ระดับสากลที่คนทั้งโลกรู้จัก

แต่คำว่าเน้นคุณภาพ อย่าเน้นปริมาณที่ผมเคยโพสไปผมหมายถึงการจัดงานชุมนุม ไม่ใช่หมายถึงตัวโครงการ อย่างที่คุณเข้าใจแล้วหาว่าผมพูดความจริงครึ่งเดียว
(ไม่เชื่อกลับไปอ่านใหม่)
คำว่าเน้นคุณภาพ อย่าเน้นปริมาณ ที่ผมยกขึ้นมานั้นผมหมายความว่า
อยากให้ทางวัดหรือผู้รับผิดชอบจัดงานชุมนุมให้ดีกว่านี้เสียหน่อยเพราะอย่าที่กล่าวไปคือในงานชุมนุมนี้ปริมาณคนเยอะเกินไปเกินกว่าจะควบคุมได้ในส่วนของกิจกรรม ซึ่งทำให้หลายโรงเรียนไม่ยอมปล่อยให้นักเรียนไปร่วมกิจกรรมเพราะเกรงว่าจะเกิดพลัดหลงและอันตรายต่างๆ โรงเรียนที่หลานผมไปร่วมด้วยมีเด็กไป200กว่าคนแต่ครูไม่ปล่อยให้เดินชมกิจกรรมเลยเพราะไม่ไว้ใจในความปลอดภัยของนักเรียนเพราะงานนี้ ปริมาณคนมาร่วมงานเยอะมาก เป็นล้านคน
ยังไม่จบ (ขอวรรคย่อหน้าเพื่อพักสายตา)คราวนี้บางโรงเรียนที่ปล่อยเด็กไปร่วมชมกิจกรรมก็ไม่สามารถชมได้อย่างเต็มที่เพราะว่าปริมาณคนที่มาร่วมงานเยอะจึงทำให้การสรรจรติดขัด แถมยังซุ่มกิจกรรมในแต่ละที่อยู่ไกลกันมากยกตัวอย่างสภาธรรมกายสากลกับวิหหารคตก็เดินเอาเหนื่อย เพื่อนผมเดินไปส่งเด็กรับทุน จากสภาธรรมกาย-วิหารคต เล่นเอา เหนื่อย+ร้อน=หอบ,เครียด เวลาในการชมก็ไม่ค่อยเพียงพอในการชมกิจกรรม จึงทำให้การเที่ยวชมแกรดำเนินงานของโรงเรียนต่างๆเป็นไปอย่างเร่งด่วน
ซึ่งถ้าถามความต้องการของเด็กที่ไปร่วมงานแล้วทุกคนอยากไปร่วมชมให้ครบทุกกิจกรรมที่ทางวัดจัดขึ้น หลานของผมเล่าว่าตอนที่ครูอาสาของทางวัดไปประชาสัมพันธ์โครงการที่โรงเรียนและเปิดสไลต์ให้ดู มีทั้งการจำลองนรกสวรรค์ การจำลองสถานที่สำคัญของประเทศต่างๆทั่วโลก การจัดขบวนนางฟ้านางสวรรค์ การจำลองสถานที่ประกอบนิทานชาดกต่างๆ การจัดซุ้มกิจกรรมของพี่ๆv-chear ซึ่งกิจกรรมในวันนั้นล้วนแต่เป็นเหมือนสวรรค์ของเด็กๆที่ใฝ่ดีที่จะได้มาร่วมกิจกรรมความดีที่มีอยู่หนึ่งเดียวในโลก ซึ่งก็คือโลกในฝันของผู้ใฝ่บุญ
แต่ความฝันที่จะได้เที่ยวชมกิจกรรมคุณธรรมต่างๆในวันนั้นก็ล่มสยายไปเนื่องจาก
1.ปริมาณคนเยอะ 1ล้านคน หรืออาจมากกว่า
2.เวลาไม่เพียงพอ
3.แต่ละซุ้มอยู่ห่างกันไกลจึงเดินได้ไม่ทั่วถึงได้ชมแต่ซุ้ที่อยู่ไกล้กับที่นั่งโรงเรียน
4.มีเด็กไม่ได้ใฝ่ดีแอบแฝงมา จากที่ผมเห็น เด็กเต้นโคโยตี้ในรถบัส เด็กแทงกัน(อันนี้ออกข่าวด้วยอยากรู้ไปหาอ่านเอาในกูเกิ้ล) ที่ลานจอดรถใต้ดินเด็กจีบกันเด็กดูดบุหรี่เพียบ ซึ่งเด็กเหล่านี้และหลายๆคนไม่มีความคิดที่อยากจะมาด้วยซ้ำ แต่ครูลากมาเพราะเกรงว่าถ้าไม่ได้เด็กครบตามจำนวนกลุ่มแล้วจะไม่ได้งบ ซึ่งกรณีนี้ผมขอให้ทางวัดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องโปรดกำชับและสั่งให้โรงเรียนคัดเด็กมาร่วมงานเสียหน่อย อย่าหวังแต่จะเอางบอย่างเดียว ถ้าเป็นไปได้ให้แต่ละโรงเรียนคัดมาเฉพาะหัวกระทิมาร่วมงานเสียดีกว่า ได้แค่ไหนก็แค่นั้น มากน้อยไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเด็กจะได้อะไรจากงานนี้มากกว่า
ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีเด็กมา1ล้านคนหรอกครับ แค่มา1แสนคนก็เกินพอแล้ว ไม่มากและก็ไม่น้อย ควบคุมง่าย อาหารก็ไม่ขาดแคลน บุคลากรก็น่าจะเพียงพอ ปัญหาก็จะน้อยลงไปด้วย ความวุ่นวายก็ไม่เกิด แต่ถ้างบมีมากเหลือเฟือ ก็ให้เด็กร่วมปฏิบัติธรรมค้างซักคืน ก็คงไม่ยาก แถมยังเป็นผลดีที่เด็กจะได้มีโอกาสในการร่วมกิจกรรมความดีได้อย่างทั่วถึงด้วย เพราะคนน้อยเวลาเยอะ จะได้ไม่เครียด
ต้องเข้าใจนะครับว่างานนี้เขาจัดขึ้นเพื่อเด็ก เป็นวันเด็กทางพระพุทธศาสนา เด็กที่มาร่วมงานก็มาจากสารทิศทั่วไทย เด็กๆทุกคนที่มาร่วมงานก็อยากจะเดินชมงานให้ครบ สิ่งที่เด็กได้รับอย่างแท้จริงก็จะเป็นความประทับใจจากทางวัดที่มอบคุณธรรมจริยธรรมให้แก่พวกเขา ไม่ใช่ได้แต่กระเป๋าและเครื่องเขียนกลับบ้าน
ขอร้องเถอะครับ อย่าเอาแต่ปริมาณอย่างเดียวเลยครับ คนทั้งโลกเขารู้แล้วว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี อย่าให้แต่ละโรงเรียนยัดเด็กให้ครบตามปริมาณเลยครับ ให้แต่ละโรงเรียนคัดแต่เด็กที่ใฝ่ดีมาดีกว่า เพื่อที่เขาจะได้เป็นผู้นำบุญเอาประสพการณ์และคุณความดีที่ได้รับไปเผยแพร่กับคนรอบข้างได้อย่างทั่วถึง
ถ้าหากจัดงานชุมนุมแบบที่ผ่านมาตลอดไปผมเกรงว่ามันจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไปเสียเปล่าๆ อย่าให้เด็กที่มาร่วมงานนั่งเซ็งเป็ดกลับบ้านเลยครับ

และสุดท้าย ถึงคุณ วงบุญพิเศษ
ผมคงไม่มีเวลาที่จะไปเป็นอาสาได้หรอกครับแต่ผมเอาใจช่วยพวกคุณได้ ถ้าคุณทำดีได้ก็ทำไปเถิดเพื่อให้จิตใจของเราสะอาดมากขึ้น ทำไปเถิดครับถ้ามันเป็นสิ่งที่ดี ไม่ต้องไปสนใจกับสิ่งอื่นใด แต่คุณคงเข้าใจมากขึ้นแล้วนะครับว่าคำที่ผมพูดไปว่า เน้นคุณภาพ อย่าไปเน้นปริมาณ ที่ผมกล่าวถึงนั้น มันหมายถึงอะไร

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณวงบุญพิเศษ จะช่วยเป็นกระบอกเสียงในการนำข้อความนี้ไปให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานชุมนุมเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการจัดการชุมนุมครั้งต่อไป

 

นานๆจะเจอคนที่สามารถวิจารณ์ได้ดีขนาดนี้ ผมยอมรับว่าอ่านข้อ

ความของคุณแบบเร็วๆ และมีที่ต้องไปตอบอีกมากมาย จึงคลาด

เคลื่อน ผมคิดว่าคุณมีความเห็นต่อทั้งโครงการทั้งหมด แต่หากเป็น

ปัญหาในวันงานนั้น ผมยอมรับว่าจริง โครงการนี้เป็นครั้งแรกครับ

ที่มีการรวมคนล้านตามชื่อโครงการ ครั้งต่อมาก็อุบาสิกาแก้วล้านแรก

เลย ผมเชื่อว่าปัญหาหลายๆอย่างคงเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดเพราะเป็นงาน

แรก ทั้งนี้มากคนก็มากเรื่อง แต่การรวมคน1ล้านคนนั้น ผมคิดว่า

วัดคงไม่ลดยอดลงเพราะสถานที่จัดมาเพื่อรองรับสิ่งนี้อยู่แล้ว แต่

ปัญหาคงต้องค่อยๆแก้ ผมจะ print ข้อความของคุณไปให้พระ

อาจารย์ที่รู้จัก ผ่านไปให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ


ส่วนเรื่องเด็กแทงกันตายนั้น เพิ่งได้ยินนี่แหละครับ วันนั้นผมก็เข้าๆ

ออกวันน่ะ ลงไปใต้สภาก็บ่อยเพราะไปเอารถ แต่ก็ไม่ได้ยินเรื่องนี้

แต่ทางแก้คงมีทางเดียวคือการจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยเป็น

กรณีพิเศษเพิ่มเติม

 

ทำไปทำไมครับ จำนวนมากๆขนาดนั้นน่ะ..จะเอาลงกินเนสหรือเปล่าครับ หรือสร้างชื่อเสียงให้ทางวัด แล้วได้อะไรบ้างครับ ผมว่าได้นะ อย่างน้อย กิเลส ก้อน่าจะมากขึ้น...จริงแล้วไม่ต้องจัดยิ่งใหญ่ขนาดนั้นก้อได้ ค่อยๆทำไป เงียบทำไป คงน่าจะค่อยๆได้ความศรัทธาจากประชาชนเพิ่มขึ้น แต่นี่ทำเหมือนจะรีบเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เลยต้องแสดงอำนาจงบดุล ผลกำไร ให้เห็นเป็นรูปธรรม..เฮ้อ เดี๋ยวก้อคงมีคนว่า ปรามาสพระอีกมั๊ง...