ภัยพิบัติคือการปรับตัวของโลก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย bluebaby2, 25 มีนาคม 2011.

  1. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    ร่างกายของเราเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ใหญ่ขึ้นไป และต้นไม้จะผลิต
    อากาศเพราะเมื่อเราหายใจเราจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้ต้นไม้
    และต้นไม้จะปล่อยอ็อกซิเจนให้กับเรา คุณเห็นไหมครับว่าการหายใจ
    คือสิ่งแรกที่เราทำนั้นเพื่อความอยู่รอดของระบบที่ใหญ่ขึ้น และที่ใหญ่
    ขึ้นไปกว่านี้มากก็คือโลก นี่เป็นสมดุลของระบบที่ใหญ่ขึ้น คือโลกของ
    เรา การหายใจซึ่งเป็นสิ่งแรกที่เราทำนั้นเป็นไปเพื่อความอยู่รอดของ
    ระบบที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งระบบโลกก็มีสมดุลของมันอยู่ และกระบวนการ
    สมดุลทั้งหลายเมื่อถูกสิ่งรบกวนสมดุล มันก็จะเกิดการปรับตัวเพื่อลด
    ผลของสิ่งรบกวนลงแล้วเข้าสู่สภาวะสมดุลใหม่ ในเวลานี้มนุษย์เรา
    เป็นสิ่งรบกวนต่อสภาวะสมดุลของโลก และภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้ง
    หลายก็คือการปรับตัวเพื่อลดถาวะของสิ่งรบกวน(การกระทำของ
    มนุษย์) เพื่อเข้าสู่สภาวะสมดุลใหม่ การปรับตัวก็ได้แก่ภัยพิบัติทาง
    ธรรมชาติที่รุนแรงที่เราต่างรู้ดี แต่การปรับตัวนี้จะหยุดไม่ได้เลยถ้าสิ่ง
    รบกวน (การกระทำของมนุษย์) ยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
    ถ้าเช่นนั้นแล้วภัยพิบัติที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคำเตือน
    และจะต้องมีการปรับตัวที่มากขึ้นต่อไปเพื่อลดผลของสิ่งรบกวนให้
    น้อยที่สุดนี่คือเหตุการณ์เลวร้ายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด สิ่งที่จะเกิด
    แน่ๆ ไม่ใช่เหตุการณ์เลวร้ายเหล่านี้ แต่เป็นการลดการรบกวนระบบ
    โลก ถ้าเราแก้ไขทันมันก็ไม่ต้องมีการปรับตัวที่รุนแรงขนาดนั้น แต่ถ้า
    ไม่ทันมันก็จะต้องมีการปรับตัวที่รุนแรงเทียบเท่ากับการกระทำของเรา
    เลยทีเดียว การอยู่รอดของระบบทั้งหมดเป็นจุดหมายของชีวิต เราก็
    เหมือนกับจิกซอว์ 1 ชิ้น เป็นส่วนหนึ่งของภาพๆใหญ่ภาพหนึ่ง นี่คือ
    ความหมายของเราคือโลก โลกคือเรา และแน่นอนว่าการพูด คิด และ
    กระทำของเราก็มีผลต่อระบบโลก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยน
    แปลงในระดับที่เห็นได้หรอกครับ เราก็เหมือนกับน้ำ 1 หยดในทะเล
    ซึ่งไม่ได้มีพลังเท่ากับน้ำในมหาสมุทร แต่ก็คือสิ่งเดียวกัน เหมือนกัน
    ในองค์ประกอบ ดังนั้นการกระทำของกลุ่มคนจึงมีผลมากกว่าการ
    กระทำของคนเพียงคนเดียว กรรมของกลุ่มคนเป็นอะไรที่ยังไม่ค่อย
    รู้จักกันเท่าไหร่ แต่ทรงพลังมาก อย่างเช่นถ้าคุณเป็นคนดีแต่เข้าไป
    อยู่ในกลุ่มของคนพาลคุณจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นคนพาลได้เลย ดัง
    นั้นพระพุทธองค์จึงสอนว่าอย่าคบคนพาล และกรรมของกลุ่มคนนี่
    แหละที่ทำให้เกิดสงครามและภัยธรรมชาติต่างๆ คุณอาจจะไม่รู้ว่า
    สงครามนี้เกิดขึ้นโดยคนจำนวนหนึ่ง เพื่อคนจำนวนหนึ่ง แน่นอนว่าคง
    ไม่มีคนใดคนหนึ่งอยากให้เกิดสงคราม แต่เมื่อเป็นกลุ่มคนแล้วเรื่อง
    แบบนี้เกิดขึ้นได้ สงครามมันเกิดจากความรุนแรงในจิตใจมนุษย์นั่น
    แหละครับ อย่างเวลาที่อยู่ดีๆ คุณเห็นคนทะเลาะกันรุนแรง คุณจะหยุด
    ทำทุกอย่างแล้วมอง นี่เป็นเพราะเวลาที่เราเห็นคนทะเลาะกันความ
    รุนแรงในจิตใจของเรามันได้รับการปลดปล่อย ไอ้ความรุนแรงตัวนี้นี่
    แหละครับที่มันทำให้เกิดสงคราม มันเคยมีการศึกษานะครับว่าช่วง
    สงครามโลกนั้น คนเครียดน้อยลง คนฆ่าตัวตายน้อยลง คนเป็นบ้าน้อย
    ลง นี่คือจุดประสงค์ของกลุ่มแล้วอย่างผู้นำหัวรุนแรงก็เช่นเดียวกัน ถ้า
    ไม่เป็นเพราะคนส่วนใหญ่เลือกเขาขึ้นไปเขาก็จะไม่มีทางมีอำนาจที่จะ
    ทำอะไรเลย ถ้าทุกคนไม่มีความรุนแรงในจิตใจคงไม่ใครเลือกผู้นำหัว
    รุนแรงกลับกันเขาคงจะถูกมองว่าเป็นคนป่วย แล้วอย่างการที่พระ
    พุทธองค์สอนเรื่องการนั่งสมาธิ มีศีล สมาธิ ปัญญา คนส่วนใหญ่คิด
    ว่าพระพุทธองค์ไม่สนใจเรื่องปัญหาของโลก และคนที่เอาแต่ปฏิบัติ
    ธรรมจะไม่สนใจปัญหาของโลก แต่ความจริงแล้วโลกอยู่ได้เพราะคน
    พวกนี้ เพราะผู้ที่มี ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่มีความรุนแรงในจิตใจที่ยัน
    โลกของเราไว้ เขาถึงเรียกพระอรหันต์ว่าเนื้อนาบุญของโลกไงครับ
    การเดินขบวนประท้วงนั้นไม่ได้ช่วยอะไรซักเท่าไหร่เลย เพราะกลุ่มคน
    นั้นไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ มีแต่คนแต่ละคนเท่านั้นที่จะ
    สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ดังนั้นถ้าคุณอยากที่จะแก้ปัญหาของ
    โลกก็แค่มีศีล สมาธิ ปัญญานี่แหละครับ

     
  2. ระฆัง

    ระฆัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +519

    [MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=56498[/MUSIC]​
     
  3. The Jude

    The Jude เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +109

    ไม่ใช่แค่แนวคิด เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะเริ่มฝึกฝน(จิตใจ)ให้ได้มากที่สุด

    เราเป็นแค่เศษเสี้ยวหนึ่งในโลก แต่ถ้าทุกเศษเสี้ยวช่วย ๆ กัน ก็ยังพอช่วยให้เรื่องร้าย ๆ ลดลงได้ ยังเจ็บใจตัวเองอยู่นิด ๆ ที่ยังมีอีกหลายอย่างในจิตใจต้องปรับปรุงอีกมากมาย
     
  4. GOTHICIA

    GOTHICIA สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +7
    จริงที่สุด ^/l\^
     
  5. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +91
    เคยอ่านทฤษฏีกายาครับ ที่บอกว่าโลกคือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่

    แล้วทฤษฏีนี้สามารถอธิบายปราฟกฏการณ์ต่างๆ หยัง ภัยพิบัติต่างๆ เพราะว่าต้องปรับให้สมดุล

    มันก็เหมือนกับร่างกายเราตอนที่เป็นหวัด ร่างกายเราก็ต้องฆ่าเชื้อโรคเพื่อให้ร่างกายเราสมบูรณ์

    แล้วโลกก็เปรียบเสมือนร่างกายที่ต้องฆ่าเชื่อโรคหยังมนุษย์เพื่อให้โลกสมดุลขึ้น

    แน่ล่ะ เชื่อโรค บางครั้งก็สกัดเป็นวัคซีนได้

    ถ้าเราทำตัวเหมือนวัคซีนช่วยโลกได้ล่ะก็ โลกก็คงจะไม่ทำลายเราละนะ

    งงไม้ ผมเขียนยังงง เลย
     
  6. โดเรมี่

    โดเรมี่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +9
    เนื้อหากระทู้นี้ดีจัง อ่านแล้วประทับใจ จริงที่สุดดด
    "จะแก้ปัญหาของโลกก็แค่มีศีล สมาธิ ปัญญา"
    เท่านั้นเอง
     
  7. one_heart

    one_heart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +648
    ถ้าอยากที่จะแก้ปัญหาของ
    โลกก็แค่มีศีล สมาธิ ปัญญา
     
  8. deedeeman

    deedeeman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +258
    เป็นแนวคิดที่ดีมากคับขอแชร์ไปเก็บในเฟสบุ้คนะคับ ปัญหาโลกแตกกำลังระบาด
     

แชร์หน้านี้

Loading...