ประวัติวัดระฆังโฆสิตาราม / สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี / พระคาถาชินบัญชร

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย KWANPAT, 26 มีนาคม 2011.

  1. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ข้าพเจ้าได้รวบรวมเรื่องราวประวัติโฆสิตาราม
    และประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ โตพรหมรังสี
    พระคาถาชินบัญชรและความหมาย
    ให้สาธุชนได้ศึกษาไม่มากก็น้อย
    เพื่่อเป็นความรู้และช่วยส่งเสริม
    พระพุทธศาสนาให้สืบต่อไป


    :z9
    เนื่องในวันสงกรานต์
    ข้าพเจ้าจะสวดมนต์ภาวนา
    ต่อพระพุทธองค์และสิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลาย
    รวมถึงการสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ
    ขออุทิศบุญกุศลให้กับพระรัตนตรัย
    และสิ่งศักดิื์์สิทธิ์ทั้งหลาย
    รวมถึงบิดามารดาครูบาอาจารย์
    สรรพสัตว์ทั้งหลาย
    รวมถึงเจ้าทุนนายบุญทั้งหลาย
    และิเพื่อนกัลยานิมิตรทุกท่าน
    ท่านทั้งหลายต้องทุกข์
    ก็ขอให้พ้นจากทุกข์
    ท่านทั้งหลายที่สุข
    ก็ขอให้สุขยิ่งยิ่งขึ้นไป
    ในทุกภพภูมิของท่านเทอญ
    อนุโมทนามิ จากการปฏิบัติธรรม
    ในครั้งนี้ของข้าพเจ้า
    <fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </fieldset>

    ขอนำบุญกุศลจากการปฏิบัติธรรม
    สวดมนต์ภาวนาและสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ
    เมื่อคืนนี้มาฝากให้เพื่อนกัลยานิมิตรทุกท่านค่ะ

    ;aa27

    เริ่มทำการสวดมนต์ประมาณ 21.00 น.
    บทพระคาถาบูชาพระบรมสารีริกธาตุต่างๆ
    สวดทุกพระคาถา พระปริตร ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
    พระคาถาชินบัญชร พระบารมี 30 ทัศ
    พระคาถาโพธิบาท พระคาถามงคลจักรวาฬใหญ่
    มงคลสูตร พระคาถายันต์เกราะเพชร
    บทมหากรุณาธารณีสูตรพระโพธิสัตว์กวนอิม
    พระคาถาพระเกจิอาจารย์ทั้งหลาย
    รวมถึงองค์เทพเทวดาทั้งหลาย
    กว่าจะเสร็จก็ประมาณเกือบ 24.00 น.
    และได้แผ่บุญกุศลสำหรับทุกท่าน
    ขอนำบุญกุศลมาฝากทุกท่าน
    มา ณ โอกาสวาระดิถีขึ้นปีใหม่ไทยนี้ด้วย
    ขอให้ทุกท่านคิดสิ่งใดสมพรปรารถนาทุกประการ

    [FONT=&quot]สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ
    สัพพะสังฆานุภาเวนะ พุทธะระตะนัง ธัมมะระตะนัง
    สังฆะระตะนัง ติณณัง ระตะนานัง อานุภาเวนะ
    จะตุราสีติสะสะหัสสะธัมมักขันธานุภาเวนะ
    ปิฎะภัตตะยานุภาเวนะ ชินะสาวะกานุภาเวนะ
    สัพเพ เต โรคา สัพเพ เต อันตะรายา สัพเพ เต
    อุปัททะวา สัพเพ เต ทุนนิมิตตา สัพเพ เต
    อะวะมังคะลา วินัสสันตุ อายุ วัฑฒะโก
    ธะนะวัฑฒะโก สิริวัฑฒะโก ยะสะวัฑฒะโก
    วัณณะวัฑฒะโก สุขะวัฑฒะโก โหตุ สัพพะ ทาฯ
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ทุกขะโรคะภะยา เวรา[/FONT][FONT=&quot] โสกา สัตตุ จุปัททะวา
    อะเนกา แนตะรายาปิ วินัสสันตุ จะ เตชะสา
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง[/FONT][FONT=&quot] โสตถิ ภาคยัง สุขัง พะลัง
    สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา
    สะตะวัสสา จะ อายู จะ ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง
    ด้วยอานุภาพแห่งธรรมทั้งปวง
    ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งปวง
    ด้วยอานุภาพแห่ง รัตนะ คือ
    พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ
    ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมขันธ์
    แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ด้วยอานุภาพ
    แห่งพระไตรปิฎก ด้วยอานุภาพ แห่งพระสาวก
    ของพระชินเจ้า ขอโรคทั้งหลายทั้งปวงของท่าน
    ขอภัยทั้งหลายทั้งปวงของท่าน
    ขออันตรายทั้งหลายทั้งปวงของท่าน
    ขออุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงของท่าน
    ขอลางร้ายทั้งปวงของท่าน
    ขออวมงคลทั้งหลายทั้งปวงของท่าน จงพินาศไป
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ขอท่าน จงเจริญด้วยอายุ เจริญด้วยทรัพย์
    เจริญด้วยสิริ เจริญด้วยยศ
    [/FONT][FONT=&quot] เจริญด้วยกำลัง
    เจริญด้วยวรรณะ เจริญด้วยสุข ในกาลทั้งปวง
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ขอทุกข์ โรคภัย และเวรทั้งหลาย ขอความโศก
    ศัตรูแลอุปัทวะ
    [/FONT][FONT=&quot]ทั้งหลาย ทั้งอันตราย ทั้งหลาย
    เป็นอเนก จงพินาศไปด้วยเดช
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ขอความชนะ ความสำเร็จแห่งทรัพย์ ลาภ
    ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข
    กำลัง สิริ อายุ และวรรณะ
    โภคะ ความเจริญแลเป็นผู้มียศ
    ขอความเป็นผู้มีอายุยืนร้อยปี
    และความสำเร็จกิจในความเป็นอยู่
    จงมีแก่ท่านฯ
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา[/FONT]
    [FONT=&quot]สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ[/FONT]
    [FONT=&quot]ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา[/FONT]
    [FONT=&quot]สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ[/FONT]
    [FONT=&quot]ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา[/FONT]
    [FONT=&quot]สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทวดาทั้งปวง
    จงรักษาท่านด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง
    ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่าน ทุกเมื่อฯ
    [/FONT]

    [FONT=&quot]ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทวดาทั้งปวง
    จงรักษาท่านอานุภาพแห่งพระธรรมทั้งปวง
    ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่าน ทุกเมื่อฯ
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทวดาทั้งปวง
    จงรักษาท่าน ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งปวง
    ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่าน ทุกเมื่อฯ
    [/FONT]

    fairy3catt12
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2011
  2. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,438
    จริงๆๆเรื่องพระคาถาชินบัญชร เจ้าประคุณหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ท่านได้รับจากคัมภีร์โบราณ ที่เป็นภาษาลังกา แต่พระคาถาชินบัญชรนั้น นำเข้ามาในเมืองไทยตั้งแต่ยุค
    พระเจ้าสิริธรรมจักวรรดิ์ติติโลกราช พระเจ้ากรุงล้านนา นำเอาเข้ามาโดย พระมหาเชยยมังคละศีละวังสะ นิกายป่าแดง ซึ่งตำราเดิมของเจ้าประคุณที่ได้รับมาน่าจะเป็นของ ท่านมหาเชยยะมังคละศีละวังสะ เจ้าประคุณหลวงปู่ได้เอาดัดแปลงแก้ไขเป็นสำนวนอย่างที่เราสวดทุกวันนี้ ดังนี้พื้นเพท่านต้องเป็นชาวกำแพงเพชรแน่นอน เพราะในสมัยพระเจ้าติโลกราชกำแพงเพชรเป็นเมืองประเทศราชของล้านนา และมีพระสงฆ์จากป่าแดงมาจำพรรษาด้วย เลยมาเล่าเป็นเกร็ดให้ฟัง ที่บางที่บอกพรหมชินะปัญชระมาบอก อันนี้เป็นประวัติของอีกสำนักแต่ในทางประวัติศาสตร์ที่พระยาทิพโกษาบันทึกจะคล้ายกับที่ผมบอกครับ
     
  3. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับความรู้
    ที่คุณให้มาเพื่อให้ท่านทั้งหลาย
    ได้ศึกษาเพิมเติมค่ะ

    denceecatt14

    ขอให้อนิสงค์ผลบุญ
    แห่งการอ่านธรรมะ
    เพื่อใช้ในการปฏิบัติ
    ส่งผลให้ท่านเป็นผู้เจริญด้วย
    ทางโลกและทางธรรม
    ซึ่งพระนิพพานในชาติ
    ปัจจุบันด้วยเทอญ.

    ;aa27
     
  4. thontho

    thontho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +612
    คาถาชินปัญชร เป็นคาถาที่รวมเอาหัวใจความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในพระไตรปิฏก มารวมอยู่ในบทเดียวเพื่อให้ชาวโลกได้มีสิ่งที่ยอดเยี่ยมไว้ป้องกันภัย ......ไม่สามารถคิดได้โดยสมองมนุษย์ ประวัติศาสตร์ค้นไปไม่ถึงหรอก ของก่อนเกิดเป็นพันๆปี คาดคะเนกันไปเรื่อย
    นอกจาก ท่านผู้รู้กล่าวไว้ว่า ท่านท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ แต่งขึ้นบนสวรรค์แล้วทิ้งลงมาให้มนุษย์ ด้วยพระเมตตา แม้แต่เทวดายังสวดพระคาถานี้ นี่ซิมีความเป็นไปได้มากกว่า
     
  5. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,438
    ผมมีทั้งฉบับลังกา ฉบับล้านนา แต่งโดย พระมหาเชยยมังคละเขามีวัดเดือนปีที่แต่งไว้เยอะครับ เดี๋ยวจะนำลงครับ
     
  6. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,438
    ก็พระมหาเชยยะมังคละเป็นพระอรหันต์ไงครับ อีกอย่างท่านได้มาจากตำราลังกาแต่งโดยพระอรหันต์ชาวลังกาครับ
     
  7. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +973
    องค์พระโพธิสัตว์ เวียนตายเวียนเกิด เพื่อโปรดสัตว์และสร้างบารมี

    เพื่อสานต่อในงานช่วยสืบทอดพระศาสนา

    แต่ละพระชาติแห่งการทำงาน ต่างๆกันไปตามแต่ท่านอธิษฐานจิตลงมา

    นับพระชาติไม่ถ้วน..........เรา-ท่าน แต่ละคนนั้น...รับรู้ได้...ตามกุศลบารมี

    "พระธรรมกว้างใหญ่ไพศาล เกินจะรู้ทั่ว"
     
  8. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับความรู้
    ที่ท่านทั้งหลายจะนำมาให้ความรู้
    สำหรับเพื่อนกัลยานิมิตรทุกท่าน
    ได้ศึกษาเพิมเติมค่ะ


    ปล. แต่อย่าแตกแยกทางความคิดนะค่ะ
    มีเหตุมีผล องค์สมเด็จโตท่านคงไม่ยาก
    ให้เราแตกแยก หรือผิดใจกันหรอกค่ะ

    denceecatt14

    ขอให้อนิสงค์ผลบุญ
    แห่งการอ่านธรรมะ
    เพื่อใช้ในการปฏิบัติ
    ส่งผลให้ท่านเป็นผู้เจริญด้วย
    ทางโลกและทางธรรม
    ซึ่งพระนิพพานในชาติ
    ปัจจุบันด้วยเทอญ.

    ;aa27
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2011
  9. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ขอให้อนิสงค์ผลบุญ
    แห่งการอ่านธรรมะ
    เพื่อใช้ในการปฏิบัติ
    ส่งผลให้ท่านเป็นผู้เจริญด้วย
    ทางโลกและทางธรรม
    ซึ่งพระนิพพานในชาติ
    ปัจจุบันด้วยเทอญ.

    ;aa27
     
  10. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,438
    พระคาถาไจยะเบ็งชร ปฐมบทชินบัญชร(ล้านนา)
    [​IMG]
    ชะยาะสะนา กะตา พุทธา เชตตะวามารัง สะวาหะนัง จะตุสัจจังมะตะ ระสัง เยปิวิงสุ นะราสะภา
    ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก มุนิสสะรา
    สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร
    หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะวามะเก
    ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะราหุลา กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก
    เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว
    กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก โส มัยหัง วะทะเนนิจจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร
    ปุณโณ อังคุลิมาโลจะ อุปาลี นันทะสีวะลี อิเม ปัญจะ มหาเถรา นะลาเฏ ตีละกา มะมะ
    เสสาสีติ มะหาเถรา ชิตะวันตา ชิโนระสา ชะลันตา สีละเต เชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา
    ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะ กัง ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง
    ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะสุตตะกัง อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา
    ชินนานัง พะละสังยุตเต ธัมมะปาการะลังกะเต วะสะโต เมสะกัจเจนะ สัมมาสัมพุทธะปัญชะเร
    วาตะปิตตา ทิสะชาตา พาหิรัชฌัตตุปัททะวา อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะเตชะสา
    ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮีตะเล สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เตมะหาปุริสาสะภา
    อิจเจวะเม กะโตรักโข สุรักโข พุทธานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโค สังฆานุภาเวนะ
    ชิตันตะราโย จะรามิ ธัมมานุภาวะปาลิโตติ

    (ชะยะปัญชะระปัณณะระสะคาถานิฏฐิตา)
    ตำนานประวัติความเป็นมา

    คาถา ชินบัญชรเกิดขึ้นที่ประเทศลังกา ตามประวัตินิทานในใบลานกล่าวไว้ว่า มีพระราชาของลังกาพระองค์หนึ่ง ทรงมีโอรสกับพระมเหสี จึงเป็นที่ปลาบปลื้มพระทัยของพระองค์ยิ่งนัก หลังจากนั้นจึงให้หมอโหรทายทักดวงชะตาของพระโอรส หมอโหรได้ตรวจดูดวงชะตาราศีแล้วทายทักว่า เมื่อพระโอรสมีพระชนมายุได้ 7 ปีกับอีก 7 เดือน จะถูกฟ้าผ่าถึงแก่สวรรคต ในตอนแรกพระราชาก็คงไม่ทรงเชื่อมากนัก อยู่ต่อมาจนกระทั่งอายุของพระโอรสได้ 7 ปีกว่าๆ แต่ยังไม่ถึงกว่า 7 เดือน พระโอรสกำลังน่ารัก พระองค์จึงเกิดการปริวิตกพระทัย คิดว่าถ้าเกิดเหตุจริงตามที่หมอโหรได้ทายไว้ จะเสียพระโอรสไป จึงได้ทรงปรึกษาข้อปริวิตกเรื่องนี้แก่พระสงฆ์เถระในลังกา เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงภัยอันจะเกิดขึ้นแก่ราชโอรส พระเถระชาวลังกาจำนวน 14 รูป จึงได้ประชุมตกลงกันจะประกอบพิธีขึ้นที่ปราสาทของกษัตริย์ลังกาชั้นที่ 7 โดยพระสงฆ์ทั้ง 14 รูปได้แบ่งหน้าที่กัน โดยให้แต่ละรูปแต่งคาถาขึ้นรูปละ 1 บท และที่สำหรับแต่งคาถานั้นอยู่ใกล้กับป่องบัญชร คาถานั้นจึงได้ชื่อว่า ชัยบัญชร เมื่อแต่งคาถาเสร็จแล้วมีจำนวน 14 บท จึงให้พระราชาบูชาด้วยอามิสต่างๆ เช่นอาสนะ ฉัตร พัด ช่อ ธง เทียนธูป ประทีป ข้าวตอกดอกไม้เป็นต้น แล้วให้พระโอรสเรียนเอาคาถานั้นท่องบ่นทุกวัน
    เมื่อถึงกำหนดวันที่โหร ได้ทำนายไว้ คืออายุพระโอรสครบ 7 ปี กับ 7 เดือน ฟ้าได้ผ่าลงมาจริง แต่ไม่ถูกพระโอรส แต่ผ่าถูกหินก้อน 1 อยู่ทางทิศตะวันตกเมืองลังกา พระโอรสจึงได้แคล้วคลาดจากภัยในครั้งนั้น เชื่อว่าเป็นเพราะพระโอรสได้ท่องบ่นคาถาที่พระสงฆ์ทั้ง 14 รูปแต่งขึ้นนั้นเอง และนอกจากนั้นยังทำให้พระโอรสมีอายุยืนยาวได้สืบต่อราชสมบัติแทนพระราชบิดา ปกครองบ้านเมืองด้วยความผาสุกจนสิ้นอายุขัย
    นำคาถาชินบัญชรจากลังกาเข้ามาในล้านนา
    เมื่อราว พ.ศ.1981 / A.D.1438 มีพระมหาเถรองค์ 1 ชื่อ ชัยมังคละ อยู่วัดมหาธาตุ
    เมือง หริภุญไชย (ปัจจุบันวัดพระธาตุหริภุญไชย) เป็นผู้อุปัฏฐากองค์พระธาตุ ได้เดินทางไปไหว้พระทันตธาตุที่เมืองลังกา และได้เสาะแสวงหามนต์ศาสตรศิลป์กับครูบานักปราชญ์ชาวลังกา นักปราชญ์ชาวลังกาจึงได้มอบคาถา 14 บท พร้อมทั้งวิธีการใช้ให้แก่มหาเถรชัยมังคละ มหาเถรชัยมังคละจึงคัดลอกคาถานั้นลงใบลาน เมื่อเสร็จแล้วพระมหาเถรจึงเดินทางกลับเมืองหริภุญไชย ต่อมาพระมหาเถรจึงได้เขียนคาถา 14 บทที่คัดลอกจากเมืองลังกาถวายแด่พญาติโลกราช กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ เพื่อใช้สวดก่อนนอน จึงทำให้พญาติโลกราชอยู่ด้วยความสุขความเจริญ ปราบชนะข้าศึกทั้งปวง และมีอายุยืนยาว ได้สร้างและบูรณะวัดวาอารามในศาสนา เช่นพระธาตุหริภุญไชย เป็นต้น เสนาอามาตย์ และข้าทาสบริวาร ไพร่ฟ้าประชาชนทั่วไปจึงพากันเรียนเอาคาถา 14 บทนั้นไว้ท่องบ่นสักการะบูชา จึงทำให้ชาวบ้านชาวเมืองมีความสุขความเจริญโดยทั่วหน้ากันสมเด็จพระญาณ สังวรได้ทรงค้นคว้าเรื่องประวัติความเป็นมาของคาถาชินบัญชรใ เป็นเหตุให้ได้ความรู้เกี่ยวกับคาถาชินบัญชร ตามที่เชื่อถือกันอยู่ในทางเมืองเหนือเพิ่มขึ้นอีกหลายประการ จากท่านผู้รู้ทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์ของเมืองเหนือสรุปความได้ดังนี้
    ๑. คาถานี้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายทั่วไปในหมู่ประชาชนทางเมืองเหนือมาแต่ โบราณ ทั้งภิกษุสามเณรและชาวบ้านนิยมสวดกันทั่วไป และรู้จักกันในนามว่า “สูตรเชยยเบงชร” หรือออกเสียงตามสำเนียงพื้นเมืองว่า “ไจยะเบงจร” แต่ที่จดจารึกไว้ในใบลานบ้านบันทึกไว้ในสมุดไทยบ้าง ด้วยอักษรล้านนา เท่าที่สำรวจพบแล้วขณะนี้นั้น เรียกชื่อต่างๆ กันเป็นหลายอย่างคือ เชยยเบงชร ชัยเบ็ญชร ไจยะเบงชร ชยา และมีฉบับปรากฏอยู่ทั่วไปนับจำนวนพัน
    ๒. ความเชื่อเกี่ยวกับคาถาชินบัญชรของชาวเมืองเหนือนั้น เป็นไปอย่างกว้างขวาง กล่าวคือ ใช้สวดสืบชะตา ขึ้นบ้านใหม่ ขึ้นธาตุ ขึ้นถ้ำ สวดขอฝน นอกจากนี้ยังนิยมเอาบางตอนของคาถานี้ (คือคาถาที่๑๐, ๑๑, ๑๒) มาเขียนย่อเป็นยันต์ลงในแผ่นกระดาษหรือแผ่นผ้าขนาดสี่เหลี่ยมสำหรับติดที่ ปลายเสาดั้งของบ้านเรือน โบสถ์ วิหาร เพื่อป้องกันฟ้าผ่า ไฟไหม้ เรียกว่า “ยันต์เทียนหัวเสา” บ้าง “ยันต์เสาดั้ง” บ้าง “ยันต์ฟ้าฟีก” บ้าง ๓. หลักฐานเกี่ยวกับคาถานี้ มีจดจารึกไว้ด้วยอักษรล้านนาเท่าที่ค้นพบในขณะนี้มี ๒ ลักษณะคือ จารไว้ในใบลานหรือสมุดไทย (สมุดข่อย) ที่ชาวล้านนาเรียกว่า ปั๊บ (พับ) เป็นเอกเทศบ้าง เขียนไว้ในปั๊บสา (สมุดกระดาษสา) หรือปั๊บสูตร (หนังสือสวดมนต์ที่ทำด้วยกระดาษสา) รวมกับสูตรอื่นๆ ทั่วไป บางที่จารหรือเขียนไว้เป็นเอกเทศนั้นมีน้อย เท่าที่สำรวจพบแล้วโดยสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในจังหวัดเชียงใหม่และลำปางมีเพียง ๕ ฉบับ ที่พบมากที่สุดนั้นเขียนไว้ในปั๊บสา (คือหนังสือรวมสวดมนต์แบบสมุดข่อย) บางฉบับมีคำแปลเป็นไทยไว้ด้วย บางฉบับก็ไม่มีคำแปล บางฉบับมีวันเดือนปีที่จารหรือจารึกไว้ด้วย เท่าที่สำรวจพบในขณะนี้ ฉบับที่มีอายุเก่าที่สุดคือฉบับของวัดชัยมงคลเวียงใต้ จังหวัดน่าน จารในใบลานรวมกันหลายสูตร เมื่อ พ.ศ.๒๔๐๔ (จ.ศ.๑๒๒๓)
    ๔. เกี่ยวกับประวัติความเป็นมานั้น ยังไม่พบหลักฐานแน่ชัด คาถาชินบัญชรฉบับอักษรล้านนาบางฉบับเท่าที่ค้นพบแล้วมีบอกประวัติของคาถานี้ ไว้ด้วย เช่นฉบับวัดชัยมงคลเวียงใต้ จังหวัดน่าน บอกว่า “เป็นคาถาของพระมหาพุทธโฆสเถระเจ้าเมื่อคราวลงไปค้นเอาพระธรรมที่:pบ (หรือตู้) หลวง เมืองลังกา ([​IMG]บนั้น) ท่านติดกุญแจไว้ ๗ ชั้น เพื่อไม่ให้ใครไขได้ พระมหาพุทธโฆสเถระเจ้าสวดพระคาถา ๒๙ บทนี้ พร้อมกับเดินพนมมือประทักษิณ:pบพระธรรมของหลวงนั้น ๓ รอบ กุญแจ ๗ ชั้นนั้นก็หลุดออกหมด ท่านจึงได้เอาพระธรรมออกมาเขียนได้ทั้งหมด สร้างขึ้นไว้ในชมพูทวีปเรานี้แล” ผู้รู้บางท่านกล่าวว่า คาถานี้แต่งขึ้นในลังกา โดยพระอรหันต์ ๘ รูป เพื่อถวายแก่มกุฎราชกุมารของลังกา ซึ่งถูกทำนายว่าจะถูกฟ้าผ่า (แต่ยังหาหลักฐานไม่พบ) บางท่านกล่าวว่า ในตำนานสืบชาตาของเชียงใหม่ ซึ่งมีมาแต่ครั้งพระเมืองแก้ว (ครองราชย์ระหว่างพ.ศ.๒๐๓๘-๒๐๖๘) มีกล่าวถึง ไจยะเบงจร ซึ่งพระจะต้องสวดรวมกับสูตรอื่นๆ ด้วย อันเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่า คาถาชินบัญชรนี้ได้มีมาในเชียงใหม่เกือบ ๕๐๐ ปีแล้ว จากข้อมูลต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว ผู้รู้บางท่านของเชียงใหม่จึงสรุปว่า คาถาชินบัญชรนี้แต่งขึ้นที่ลังกา แล้วไทยเรารับเอามาอีกทีหนึ่ง บางท่านสรุปว่า แต่งขึ้นที่เชียงใหม่ ในสมัยพระเจ้าติโลกราชมหาราช รัชกาลที่ ๑๑ แห่งเชียงใหม่ บางท่านสรุปว่าแต่งขึ้นที่เชียงใหม่ โดยพระสีลวังสะ (หรือศีลวงศ์) ผู้แต่งคาถาอุปปาตสันติ ซึ่งมีลีลาและความหมายคล้ายกับคาถาชินบัญชร แต่ทั้งนี้ก็โดยสันนิษฐาน เพราะยังไม่พบหลักฐานที่แน่ชัด
    ๕. ในทางเมืองเหนือถือกันว่า บทว่า “รตนํ ปุรโต อาสิ” ของคาถาชินบัญชรนั้น เป็นหัวใจของคาถาชินบัญชร ถือกันในทางไสยศาสตร์ว่าขลังนัก เรียกกันว่า “คาถาตาลหิ้น” เพราะอยู่ยงคงกระพันถึงขนาดยิงจนยอดตาลหิ้น ([​IMG]น) ก็ไม่เป็นอันตราย
    สำหรับ คำอ่านไจยะเบงชรหรือชินบัญชรล้านนานี้ ข้าพเจ้าภูชิชย์ สุรรัตน์ได้รับถ่ายทอดคำอ่านมาจากท่านพระครูใบฏีกาหล้า อมรเมโธ วัดพระสิงห์ราชวรวิหาร เชียงใหม่
    หมายเหตุในพระคาถาตัวแดงคือคาถาชินบัญชรล้านนาที่แตกต่างกับฉบับสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ครับ
     
  11. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ขอบพระคุณสำหรับ
    ความรู้ที่นำมาเผยแพร่
    สำหรับให้ทุกท่านได้ศึกษาค่ะ

    fairy3


     
  12. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ขอให้อนิสงค์ผลบุญ
    แห่งการอ่านธรรมะ
    เพื่อใช้ในการปฏิบัติ
    ส่งผลให้ท่านเป็นผู้เจริญด้วย
    ทางโลกและทางธรรม
    ซึ่งพระนิพพานในชาติ
    ปัจจุบันด้วยเทอญ.

    ;aa27
     
  13. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,438
    อันนี้เป็นคำแปลชินบัญชรแบบล้านนาโบราณครับ ผมคัดมาจากตำรา วัดพระสิงห์ครับ
    ดูกราสัปปุริสทังหลาย อะหัง อันว่าข้า คาระโว เป็นผู้ไปกับด้วยอันครบยำ สัปปุริโส เป็นไปกับอันอ่อนน้อม สัตถารัง ยังสัพพัญญูเจ้าตนเป็นครูสั่งสอนคนและเทวดาทังหลาย มะมะสีลังจะ อันตนข้าทังมวลนี้บูชา ระหัง ขอถวายเป็นเครื่องบูชาสัพพัญญูเจ้าทีนี้ เจติยะวะรานิวิยะ เหมือนดังเรือนแห่งพระเจดีย์เจ้า 3 ประการ คือว่าสรีระเจดีย์ ปริโภคะเจดีย์ อุทเทสะเจดีย์ เยพุทธา อันว่าพระพุทธเจ้าทังหลายฝูงใด อัฏฐะวีสะติ อันได้ 28 พระองค์ ตัณหังกะราทะโย อันมีพระเจ้าตัณหังกรเป็นเค้าพระเจ้าฝูงนั้น นะราสัพภา อันประเสริฐกว่าคนทังหลาย นายะกา อันเป็นนายนำหมู่นำสัตว์เข้าสู่นิพพาน

    ชะยาสะนากะตา อันผจญแพ้ยังฤกษ์ฟ้าคือว่ากิเลสตัณหาทังมวล เชตตวา ผจญแพ้แล้ว มารัง ยังมาร สวาหะนัง กับทังริพลมารและเสนามาร พระพุทธเจ้าทั้งหลายฝูงนั้น ปิวิงสุ ก็ดูดกิน จะตุสัจจัง มะตะระสัง ยังน้ำอะมะฤตคือสัจจะ 4 ประการ เตพุทธา อันว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลายฝูงนั้น สัพเพ ทั้งมวล มุนิสสะรา อันเป็นใหญ่กว่านักปราชญ์ทั้งหลาย ปะติฏฐิโต จุ่งมาตั้งอยู่ มัตถะเก ในกระหม่อมแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ พุทโธ อันว่าพระพุทธเจ้าฝูงประกอบด้วยคุณทังหลายคือ ทะสะคุณ และ นะวะคุณ ทั้งหลายอันมีอะระหันตะคุณเป็นเค้า สิเสปะติฏฐิโต จุ่งมาตั้งอยู่เหนือหัวแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ ธัมโม อันว่าพระสัทธัมเจ้า 9 ประการ 10 กับทั้งพระปริยัติธรรม อันประกอบด้วยคุณทังหลาย 3 ประการ อันมี สวาขาตะคุณเป็นเค้า ปะติฏฐิโต จุ่งมาตั้งอยู่ ทวิโรจะโน ในตาแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ สังโฆ อันว่าพระอริยเจ้าตนประกอบด้วยคุณอันอุปัฏฐากแก่สัพพัญญูเจ้า ราหุละเถระเจ้าตนเกิดมาแต่อกแห่งพระพุทธเจ้าก็ดี อาสุง จุ่งมาตั้งอยู่ ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง ในหูกล้ำขวาแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ อุพภะเถโร อันว่ามหาเถรเจ้า 2 พระองค์ กัสสะโป จะ มะหานาโม คือว่ามหากัสสะปะเถระเจ้า ตนประกอบด้วยอันทรงบังสุกุลอันประเสริฐก็ดี มหานามะเถระเจ้าก็ดี วามะโส ตะเก ปะติฏฐิตา จุ่งมาตั้งอยู่ในหูกล้ำซ้ายแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ เกสันเต ปิฏฐิภาคัสะมิง สุริโย จะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว อันว่ามหาโสภิตะเถระเจ้า มุนิปุงคะโว อันประเสริฐกว่านักปราชญ์ทั้งหลาย สิริสัมปันโน อันประกอบด้วยศีลอันประเสริฐ สุริโย จะ ปะภังกะโร อันกระทำรัศมีรังสีอันรุ่งเรืองงามดีเป็นประดุจดั่งรัศมีแห่งพระอาทิตย์ นิสินโน จุ่งมาตั้งอยู่ เกสันเต ปิฏฐิภาคัสะมิง ในที่สุดปลายผมเบื้องหลังแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ กุมาระกัสสะโปนามะ พระกุมาระกัสสะปะเถระเจ้า มเหสิโน อันมีปกติอันแสวงหายังคุณอันประเสริฐ จิตตะวาทะโก อันกล่าวคำอันม่วนเพราะเสนาะใจ โสเถโร อัน มหากัสสะปะเถระเจ้าตนนั้น คุณากะโร อันบัวระมวลด้วยคุณทั้งมวล ปติฏฐาสิ จุ่งมาตั้งอยู่ มัยหัง วะทะเน นิจจัง ในปากแห่งผู้ข้าเป็นอันเที่ยงแท้เทอะ อิเมปัญจะมะหาเถรา อันว่ามะหาเถระเจ้า 5 พระองค์ฝูงนั้น ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ คือมะหาปุณณะเถระเจ้าก็ดี มะหาอังคุลิมาละเถระเจ้าก็ดี มะหาอุปาลี นันทะสิพะลี มะหาอุบาลีเจ้าก็ดี มะหาอานันทะเถระเจ้าก็ดี ติละกา อันปรากฏในโลกทั้ง 3 คือ กามะโลก รูปะโลก อะรูปะโลก นะราเต มะมะ ปะติฏฐิตา จุ่งมาตั้งอยู่หน้าผากแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ เสสาสีติ มะหาเถรา อันว่ามะหาเถรเจ้าอันเหลือกว่าอันได้กล่าวพระนามมาแล้วแต่ภายหลังนั้น ชิตะวันตา อันมีกิเลสหากผจญแพ้แล้ว ชิโนระสา อันเกิดมาแต่อกแห่งพระพุทธเจ้า ชะลันตา สีละเตเชนะ อันรุ่งเรืองด้วยเตชะศีลแห่งตน อังคะมังเคสุ ปติฏฐิตา จุ่งมาตั้งอยู่ในองค์อันใหญ่อันน้อยแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ ระตะนัง อันว่ารัตนะสูตร ปุระโต อาสิ จุ่งมาตั้งอยู่กล้ำหน้าแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ เมตตะสุตตะกัง อันว่าเมตตะสูตร ทักขิเณ อาสิ จุ่งมาตั้งอยู่ข้างกล้ำขวาแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ ธะชัคคัง อันว่าธัชชัคคะสูตร ปัสสะโต จุ่งมาตั้งอยู่กล้ำหลังแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ อังคุลิมาละกัง อันว่าอังคุลิมาละสูตรก็ดี อาสิ จุ่งมาตั้งอยู่ข้างซ้ายแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ ขันธะโมระปะริตตัญจะ อันว่าขันธะปริตตะสูตรก็ดี โมระปริตตะสูตรก็ดี อาฏานาฏิยะสุตตะกัง อันว่าอาฏานาฏิยะสูตรก็ดี อากาเสสะทะนัง อาสิ จุ่งมาตั้งอยู่เป็นพิดานกั้งในอากาศภายบนหัวแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ เสสาสุตตะ อันว่าสูตรทั้งหลายอันเศษเหลือกว่าสูตรอันกล่าวแล้วแต่ภายหลังนั้น ชินนนังพะละสังยุตเต อันประกอบด้วยกำลังอาชญาแห่งพระพุทธเจ้า ปัณณะรา จุ่งมาปรากฏเป็นกำแพงอันแล้วด้วยแก้วมณีโชติ และด้วยสูตรประการทั้งหลายฝูงนั้น สัตตะปาการะลังกะเต อันประกอบด้วยอันรักษา 7 ประการ จุ่งมาแวดล้อมภายนอกตนแห่งผู้ข้าทั้งหลายทุกวันคืน พะหิรัชฌะตุปัททะวา อันว่าอุปัททะวะทั้งหลายอันเป็นภายในและภายนอก วาตาปิตตาทิสะชาตา อันเกิดมาในลม อะวะเสสา วินะยัง ยันตุ จุ่งเถิงเซิ่งอันฉิบเสียบ่เศษหลอ อนันตาชินะเตชะสา ด้วยเตชะแห่งสัพพัญญูเจ้าตนมีคุณหาที่สุดบ่ได้ วะสะโต เม แก่ข้าอันอยู่ สัมพุทธะปัญชะเร ในสีละปัญจะอันประเสริฐ คือว่าพระพุทธเจ้า สักกัจเจนะ ด้วยอันครบยำ สะทา ในกาลทุกเมื่อเทอะ เต มะหาปุริสา อันว่ามหาปุริสะเจ้าฝูงนั้น สะภา อันประเสริฐกว่าสัตว์ 2 ตีน และสรรพสัตว์ทั้งมวล วะสันตา อยู่ มะหิตะเล เหนือแผ่นดินและภูผาในชุมพูทวีปทั้งมวล สะทาปาเลนตุ จุ่งประกอบพิพักรักษา มะยิ ในฝูงหมู่ข้าทั้งหลาย วิหะรันตัง อันตั้งอยู่ ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ ในที่ท่ามกลางขบวนกระอูบแก้ว คือว่าอาชญาแห่งพระพุทธเจ้าองค์ประเสริฐล้ำเลิศยิ่งนัก มะหิตะเล เหนือแผ่นดิน สะทา ในกาลทุกเมื่อเทอะ อิจเจวะ เม กะโต สุรักโข ชินา นุภาเวนะ

    ชิตุปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย จะรามิ ธัมมานุภาเวนะ ปะริตโต อันว่ามนต์อันนี้ อิจเจวะ มักว่า เอวัง ด้วยประการเท่านี้ สุกะโต อันผู้ข้าหากกระทำสวาทธิยายดีนัก สุรักขา อันผู้ข้ารักษาดีคุ้มครองไว้ดี ชิตุปัททะวา ก็อาจผจญแพ้อุปัททวะอันตรายภัยหื้อหมดเสี้ยงบ่หื้อเศษหลอ ชิตุปัททะวา พุทธานุภาเวนะ ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าหุ้มหัวผู้ข้า

    ชิตะสังฆา ก็อาจผจญแพ้หมู่ข้าศึกศัตรูทั้งมวล สังฆานุภาเวนะด้วยอำนาจพระสังฆเจ้าหุ้มหัวผู้ข้า อะหัง อันว่าข้า ธัมมานุภาเวนะ ปาระโต ด้วยอานุภาพพระสัทธรรมเจ้ามารักษากั้งบังดีนัก จะรามิ หากจรเดินไปในทิศที่ใดก็ดี ก็จุ่งแจ้งสว่างหายภัยอันตรายรำงับดับเสี้ยง หะเม มักว่า เอกันเตนะ อันมีเที่ยงแท้อย่าคลาดอย่าคลา ด้วยอำนาจอาชญาแห่งพระรัตนตรัยเจ้า 3 ประการ หากมาพิพักรักษายังตนตัวแห่งผู้ข้าทั้งหลายเทอะ
    ชินะ ปัญชะระ ปะริตตัง นิฏฐิตัง
     
  14. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ขอบพระคุณสำหรับความรู้
    ที่คุณ
    joni_buddhist
    มาแบ่งปันเพื่อนกัลยานิมิตร
    เพราะพัฒน์ไม่ค่อยสันทัด
    ด้านองค์ความรู้การค้นคว้า
    ประวัติต่างๆค่ะ มือใหม่ค่ะ

    :z9
     
  15. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,438
  16. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ;aa40ขอบคุณมากค่ะ
     
  17. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    เนื่องในวันสงกรานต์
    ข้าพเจ้าจะสวดมนต์ภาวนา
    ต่อพระพุทธองค์และสิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลาย
    รวมถึงการสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ
    ขออุทิศบุญกุศลให้กับพระรัตนตรัย
    และสิ่งศักดิื์์สิทธิ์ทั้งหลาย
    รวมถึงบิดามารดาครูบาอาจารย์
    สรรพสัตว์ทั้งหลาย
    รวมถึงเจ้าทุนนายบุญทั้งหลาย
    และิเพื่อนกัลยานิมิตรทุกท่าน
    ท่านทั้งหลายต้องทุกข์
    ก็ขอให้พ้นจากทุกข์
    ท่านทั้งหลายที่สุข
    ก็ขอให้สุขยิ่งยิ่งขึ้นไป
    ในทุกภพภูมิของท่านเทอญ
    อนุโมทนามิ จากการปฏิบัติธรรม
    ในครั้งนี้ของข้าพเจ้า
    <fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </fieldset>
     
  18. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ขอนำบุญกุศลจากการปฏิบัติธรรม
    สวดมนต์ภาวนาและสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ
    เมื่อคืนนี้มาฝากให้เพื่อนกัลยานิมิตรทุกท่านค่ะ

    ;aa27

    เริ่มทำการสวดมนต์ประมาณ 21.00 น.
    บทพระคาถาบูชาพระบรมสารีริกธาตุต่างๆ
    สวดทุกพระคาถา พระปริตร ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
    พระคาถาชินบัญชร พระบารมี 30 ทัศ
    พระคาถาโพธิบาท พระคาถามงคลจักรวาฬใหญ่
    มงคลสูตร พระคาถายันต์เกราะเพชร
    บทมหากรุณาธารณีสูตรพระโพธิสัตว์กวนอิม
    พระคาถาพระเกจิอาจารย์ทั้งหลาย
    รวมถึงองค์เทพเทวดาทั้งหลาย
    กว่าจะเสร็จก็ประมาณเกือบ 24.00 น.
    และได้แผ่บุญกุศลสำหรับทุกท่าน
    ขอนำบุญกุศลมาฝากทุกท่าน
    มา ณ โอกาสวาระดิถีขึ้นปีใหม่ไทยนี้ด้วย
    ขอให้ทุกท่านคิดสิ่งใดสมพรปรารถนาทุกประการ

    [FONT=&quot]สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ
    สัพพะสังฆานุภาเวนะ พุทธะระตะนัง ธัมมะระตะนัง
    สังฆะระตะนัง ติณณัง ระตะนานัง อานุภาเวนะ
    จะตุราสีติสะสะหัสสะธัมมักขันธานุภาเวนะ
    ปิฎะภัตตะยานุภาเวนะ ชินะสาวะกานุภาเวนะ
    สัพเพ เต โรคา สัพเพ เต อันตะรายา สัพเพ เต
    อุปัททะวา สัพเพ เต ทุนนิมิตตา สัพเพ เต
    อะวะมังคะลา วินัสสันตุ อายุ วัฑฒะโก
    ธะนะวัฑฒะโก สิริวัฑฒะโก ยะสะวัฑฒะโก
    วัณณะวัฑฒะโก สุขะวัฑฒะโก โหตุ สัพพะ ทาฯ
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ทุกขะโรคะภะยา เวรา[/FONT][FONT=&quot] โสกา สัตตุ จุปัททะวา
    อะเนกา แนตะรายาปิ วินัสสันตุ จะ เตชะสา
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง[/FONT][FONT=&quot] โสตถิ ภาคยัง สุขัง พะลัง
    สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา
    สะตะวัสสา จะ อายู จะ ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง
    ด้วยอานุภาพแห่งธรรมทั้งปวง
    ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งปวง
    ด้วยอานุภาพแห่ง รัตนะ คือ
    พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ
    ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมขันธ์
    แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ด้วยอานุภาพ
    แห่งพระไตรปิฎก ด้วยอานุภาพ แห่งพระสาวก
    ของพระชินเจ้า ขอโรคทั้งหลายทั้งปวงของท่าน
    ขอภัยทั้งหลายทั้งปวงของท่าน
    ขออันตรายทั้งหลายทั้งปวงของท่าน
    ขออุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงของท่าน
    ขอลางร้ายทั้งปวงของท่าน
    ขออวมงคลทั้งหลายทั้งปวงของท่าน จงพินาศไป
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ขอท่าน จงเจริญด้วยอายุ เจริญด้วยทรัพย์
    เจริญด้วยสิริ เจริญด้วยยศ
    [/FONT][FONT=&quot] เจริญด้วยกำลัง
    เจริญด้วยวรรณะ เจริญด้วยสุข ในกาลทั้งปวง
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ขอทุกข์ โรคภัย และเวรทั้งหลาย ขอความโศก
    ศัตรูแลอุปัทวะ
    [/FONT][FONT=&quot]ทั้งหลาย ทั้งอันตราย ทั้งหลาย
    เป็นอเนก จงพินาศไปด้วยเดช
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ขอความชนะ ความสำเร็จแห่งทรัพย์ ลาภ
    ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข
    กำลัง สิริ อายุ และวรรณะ
    โภคะ ความเจริญแลเป็นผู้มียศ
    ขอความเป็นผู้มีอายุยืนร้อยปี
    และความสำเร็จกิจในความเป็นอยู่
    จงมีแก่ท่านฯ
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา[/FONT]
    [FONT=&quot]สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ[/FONT]
    [FONT=&quot]ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา[/FONT]
    [FONT=&quot]สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ[/FONT]
    [FONT=&quot]ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา[/FONT]
    [FONT=&quot]สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทวดาทั้งปวง
    จงรักษาท่านด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง
    ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่าน ทุกเมื่อฯ
    [/FONT]

    [FONT=&quot]ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทวดาทั้งปวง
    จงรักษาท่านอานุภาพแห่งพระธรรมทั้งปวง
    ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่าน ทุกเมื่อฯ
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทวดาทั้งปวง
    จงรักษาท่าน ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งปวง
    ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่าน ทุกเมื่อฯ
    [/FONT]

    fairy3catt12
     
  19. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ด้วยอนิสงค์ผลบุญแห่งการอ่านของท่าน
    เพื่อใช้ในการปฏิบัติธรรมของท่าน
    ช่วยเป็นปัจจัยหนุนนำให้ท่าน
    และครอบครัวเจริญด้วยโภคทรัพย์
    ธนสมบัติ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ
    ตราบเท่าเข้าสู่ซึ่งพระนิพพานเทอญ.
    fairy3

     

แชร์หน้านี้

Loading...