คิดได้... แต่ทำไม่ได้ (กระทู้ขอบ่น)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chate_SP, 29 มีนาคม 2011.

  1. chate_SP

    chate_SP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +220
    ทำไมคนเราถึงต้องการเงินทอง อำนาจ ลาภยศ สรรเสริญ ทั้งที่มันเกินความจำเป็นของร่างกาย

    ร่ายกายเราต้องการเพียง อาหาร ยารักษาโรค เสื้อผ้า-เครื่องนุ่งห่ม และ ที่อยู่อาศัย
    ทำไมตอนนี้ผมต้องมาเช่าอพาร์ทใกล้ที่ทำงาน เป็นลูกจ้างกินเงินเดือน เพื่อนำมาจ่ายหนี้ต่างๆ

    หากเราละทิ้งชีวิตในเมืองล่ะ? ลาออกจากงาน ไปอยู่ตามป่า-ตามเขา ปลูกผักกินเอง มันคงมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว

    แต่ทำไม่ได้... เพราะอะไร?

    เหตุใด มนุษย์ถึงต้องสร้างนู่น สร้างนี่ ให้มันวุ่นวาย พัฒนาเทคโนโลยีไปก็เท่านั้น

    ความทันสมัยคือคำตอบของชีวิตหรือ?

    เราควรหันมาหาความสุขที่ธรรมชาติมอบให้ไม่ดีกว่าหรือ?

    ตอนนี้ผมไม่อยากให้ประเทศไทยพัฒนาอีกเลย หมายถึงในแง่ของความเจริญด้านวัตถุ

    จะเรียนไปทำไมหนักหนา เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ถ้าไม่ได้ตั้งใจจะไปเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือวิศวกร

    เรียนจบออกมาทำงาน
    มีนายจ้างคนไหนสั่งให้หาพื้นที่ในออฟฟิศบ้าง?
    มีนายจ้างคนไหนสอบสัมภาษณ์โดยการให้ท่องตารางธาตุ?
    มีนายจ้างคนไหนสั่งให้เราไปซื้อกบมาผ่าให้ดู?

    ผมว่าตอนนี้มันไม่จำเป็นอีกแล้ว ควรเน้นไปที่การทำความดี สอนให้เป็นคนดีมีคุณธรรมมากกว่า

    พูดง่ายๆ ผมอยากให้เรากลับไปใช้ชีวิตที่มันเรียบง่ายมากที่สุด เท่าที่จะทำได้

    ไปล่ะ... มาบ่นแค่นี้แหล่ะ - -"
     
  2. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +705
    ก็เพราะไอ้ตัวกิเลสมันเต็มหัวใจอยู่น่ะสิครับ ความอยากเข้าครอบงำ
    ไม่รู้จักพอเป็นสันดาน อิจฉาริษยา นี้โคตรน่ากลัวกรธเมื่อไรตัวใครตัวมัน
     
  3. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    ขนาดบ้านผมเองอยู่ตามป่เขา อย่างที่คุณว่ามาทั้งหมดยังไม่วายที่จะมีเทคโนโลยีเข้ามาเลยครับ
     
  4. teeo79

    teeo79 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +96
    เพราะยังมีกฏแห่งกรรม จึงมีกิเลสในแต่ละคน
    เริ่มออกเดินทาง จากอ่างใบใหญ่นี้เถอะ
    แล้วคำถามจะไม่มี
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    ตัวทะยานอยาก
    ของใครของมัน หาทางทำลายด้วยปัญญา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +91
    เพราะไม่รู้ ถึงต้องเรียนรู้
     
  7. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ใช่ ...

    ส่วนใหญ่ เรามักจะคิดได้ แต่ทำไม่ได้
    ส่วนน้อย คิดได้ ทำได้
    ใครหักโซ่ตรวนต่างๆได้ ถือว่า "แน่มาก" (ชื่นชม)

    ว่าแล้วก็หันมามองที่โซ่ของตัวเอง..เฮ้อ! (บ่นด้วยคน)
     
  8. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    โดยส่วนตัวนะ ดิฉันไม่ได้รังเกียจเทคโนโลยีหรอก ออกจะชื่นชมความฉลาด สร้างสรรค์ ช่างคิดของผู้ประดิษฐ์คิดค้นเสียด้วยซ้ำ

    แต่ทุกวันนี้ บางอย่าง มันก็เกินความพอดีไปเยอะเหมือนกันนะ
    จนบางเรื่อง ต้องตั้งคำถามกับมันว่า จำเป็นแค่ไหน?
    และต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง?

    มีอีกเรื่อง ที่เขาว่า คนไทยอินเทรนด์ ไม่เคยตกยุค เมืองนอกมีอะไร เมืองไทยจะตามมาติดๆ เรียกง่ายๆ ว่า ส่วนใหญ่เป็นนักใช้เทคโนโลยี เกาะติดเทคโนโลยี แต่ไม่ค่อยจะมีนักประดิษฐ์ หรือผู้สร้าง ...
    อ่านแล้วก็... เออ มันจริงเนอะ!
    [FONT=Tahoma,]

    [/FONT][FONT=Tahoma,]วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7425 ข่าวสดรายวัน[/FONT]
    [FONT=Tahoma,]
    คนไทย กับเทคโนโลยี(4)


    พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต ป.ธ.๙)


    ทีนี้ หันกลับมาสู่เรื่องที่พูดไว้แต่ต้นว่า คนไทยเรานี้ไม่มีนิสัยนักผลิต แล้วยังขาดความเข้มแข็งทางปัญญาอีกด้วย เริ่มแต่ขาดความใฝ่รู้ ทีนี้เราก็มาดูภูมิหลังว่าที่เป็นอย่างนี้เพราะอะไร การที่พูดถึงเรื่องภูมิหลังต่างๆ ของคนไทย ก็เพื่อรู้จักตัวเราเองให้ถูกต้อง และในหลายเรื่องก็ต้องเอามาเทียบกับฝรั่ง (ที่เราเห็นว่าเขาเจริญ) ด้วย

    เมืองไทยเรานี้ มีทุนดีพิเศษติดตัว คือ สภาพภูมิศาสตร์ ที่มีธรรมชาติแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ อย่างที่เราชอบพูดอยู่เสมอด้วยความภูมิใจว่า "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว"

    อย่างไรก็ตาม เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าเรามัวเพลินอยู่กับความสะดวกสบายจากความอุดมสมบูรณ์นี้ ข้อดีก็ทำให้เกิดผลร้ายตามมาได้ คือทำให้คนไทยตกอยู่ในความประมาท ชอบผัดเพี้ยน ไม่กระตือรือร้นขวนขวาย จะเอาแต่ที่สบาย และอ่อนแอ ขาดความมุ่งมั่นที่จะทำการต่างๆ อย่างเด็ดเดี่ยวจริงจัง ต่างจากฝรั่งที่ธรรมชาติแวดล้อมบีบคั้น ทำให้เขาต้องลุกขึ้นดิ้นรนขวนขวาย ตั้งจุดหมายแน่วแน่ ทำจริงจังมั่นคง ผัดเพี้ยนเวลาไม่ได้ แล้วก็ทำให้เข้มแข็ง

    ทีนี้ก็มาดูภูมิหลังในด้านความสัมพันธ์กับ เทคโนโลยี ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงแง่ของความสัมพันธ์ในเชิงเป็นฝ่ายผลิต หรือฝ่ายบริโภค แต่จะมีอีกแง่หนึ่งที่จะต้องพูด คือแง่ของจุดเริ่มต้นที่คนไทยได้สัมพันธ์เจอะเจอกับเทคโนโลยี อันนี้เป็นเรื่องของภูมิหลังที่ผ่านมาแล้ว แต่มีผลต่อความแตกต่างในด้านจิตใจ

    คนไทยก็ใช้เทคโนโลยี ฝรั่งก็ใช้เทคโนโลยีอย่างเดียวกัน แต่ความรู้สึกนึกคิดและการมองความหมายไม่เหมือนกัน เราเคยคิดวิเคราะห์ความแตกต่างในเรื่องเหล่านี้ไหม ฝรั่งมองเทคโนโลยีในความหมายอย่างไร ไทยมองในความหมายอย่างไร ภูมิหลังเป็นมาอย่างไร การมองความหมายและความสัมพันธ์นั้นสร้าง สรรค์ชีวิตและจิตใจอย่างไร คนไทยเจอกับเทคโนโลยี แล้วเราได้รับผลต่อชีวิตจิตใจต่างจากฝรั่งอย่างไร

    คนไทยเจอเทคโนโลยีเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว โดยฝรั่งนำเข้ามา ข้อสังเกตก็คือว่า

    1.คนไทยเจอสิ่งของเครื่องใช้ทางเทคโนโลยีที่สำเร็จรูปแล้ว ไม่ต้องผ่านการเพียรพยายามในการผลิตหรือการสร้างสรรค์ เจอปั๊บสำเร็จรูปมาแล้ว

    2.เครื่องใช้เทคโนโลยีสำเร็จรูปที่เจอนั้น มาเด่นมาชัดมามากในประเภทบริโภค ไม่ค่อยมีอุปกรณ์เทคโนโลยีประเภทผลิต เพราะฝรั่งเดินทางมานี้เพื่อบุกฝ่าพรมแดน เที่ยวหาอาณานิคม เขาเอาเครื่องมือสำเร็จรูปมาใช้ มาอำนวยความสะดวกสบาย ส่วนเครื่องมือที่ผลิตอยู่ในประเทศของเขาเอง

    ทีนี้ เมื่อคนไทยเจอเครื่องมือหรืออุปกรณ์เทคโนโลยีประเภทสำเร็จรูป ที่มันมาช่วยในการดำเนินชีวิตให้สะดวกสบายในประเภทบริโภคนี้เข้า ก็เลยมองเทคโนโลยีในความหมายแบบบริโภคเลย คือมองว่า เทคโนโลยีก็คือเครื่องช่วยอำนวยความสะดวกสบาย

    คนไทยสะดวกสบายอยู่ แล้ว ในด้านสภาพแวดล้อม ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เมื่อเจอเทคโนโลยีประเภทบริโภคมาเสริมความสะดวกสบายเข้าไปอีก เลยยิ่งสบายใหญ่ สบายซ้ำสอง ฉะนั้น แนวโน้มของจิตใจก็ยิ่งเห็นแก่ความสะดวกสบายมากขึ้น เสริมความเป็นนักเสพบริโภค แล้วก็ยิ่งอ่อนแอลงอีก

    ทีนี้ เราหันไปดูเทคโนโลยีกับฝรั่งบ้าง อุปกรณ์เทคโนโลยีชิ้นเดียวกันอันอำนวยความสะดวกสบายที่คนไทยเจอซึ่งมากับ ฝรั่งนั้น มีความหมายสำหรับฝรั่งโดยสัมพันธ์กับภูมิหลังแห่งการสร้างสรรค์ว่า มันเป็นผลผลิตแห่งความเพียรพยายามในการสร้างสรรค์ของเขาเป็นเวลาเกินกว่า 100 ปี กว่าเขาจะสร้างและพัฒนามันมาจนเป็นเครื่องใช้เทคโนโลยีชิ้นนั้นได้ มันนานเหลือเกิน
    [/FONT]
     
  9. รักษ์11

    รักษ์11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +516
    ยุงบอก 7 วันของชีชิต ยาวนานเหลือเกิน

    กว่าจะได้ชิม ลิ้มลอง เลือดอันโอชะ

    คนได้ฟังหัวเราะ 7 วันเนียะนะ แสนจะสั้น

    เจ้ายุงเอ๊ย

    คน อายุนับเป็นร้อยปี นานมากๆ ไม่ไช่ 3 วัน 7 วัน

    เทวดา ชั้นต่ำๆ ได้ฟัง นึกสงสารโถ โถ มนุษย์

    แค่ครึ่งวันของเรา เท่ากับ 50 ปี ในเมืองมนุษย์

    ช่างประมาทกันเสียเหลือเกิน
     
  10. Preeya54

    Preeya54 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +17
    ชอบค่ะ เพราะตอนนี้คนรอบข้างเป็นเเบบนี้กันหมดเลย แม้ไม่สามารถเปลี่ยนใจใครได้ก็ขอเปลี่ยนใจตัวเองก่อนใคร
     
  11. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    คิดได้...แต่ทำไม่ได้ ก็เพราะ มันสายเกินไปแล้วครับ
     
  12. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,353
    ค่าพลัง:
    +6,491
    คิดได้ ต้องทำได้ ถ้าตั้งใจจริงที่จะทำมัน ชีวิตไม่ใช่เรื่องยาก เราทำให้มันยากเองต่างหากเล่า
     
  13. อังศุทร

    อังศุทร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    เพราะความต้องการของคนเราไม่เหมือนกัน
     
  14. Kinglondon

    Kinglondon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +70
    สั้นๆ กิเลส ^_^
     
  15. pakung

    pakung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,625
    ค่าพลัง:
    +429
    เรียกว่าการพัฒนา เป็นปกติ ถ้าโลกนี้ไม่พัฒนา ก็เรียกว่า ล้าหลัง

    แค่นี้เองง ==
     
  16. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    หาทางออกให้เจ้าของกระทู้ (รวมถึงดิฉันด้วย) ได้แล้ว
    ไม่รู้จะถูกใจหรือเปล่านะ

    ส่วนตัว เราก็ใช้ชีวิตให้เรียบง่าย แบบทำเท่าที่พอจะทำได้
    "พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี" ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไง
    หลักการนี้ใช้ได้กับคนทุกกลุ่มนะ ไม่จำกัดอยู่แค่กลุ่มเกษตรกร
    มันเป็นลักษณะของทางสายกลางนั่นแหละ

    ถ้าเป็นเรื่องของส่วนรวม เลือกสิ่งที่จะทำให้เกิด การพัฒนาอย่างยั่งยืน แทน การพัฒนาที่นำไปสู่จุดจบ กันดีกว่า คิดไว้ในหัว เผื่อเวลาที่ต้องเลือก จะได้เลือกถูกไง..

    ถึงแม้วันนี้ ดูเหมือนจะบ่ายไปแล้ว (มากกว่าสาย) ก็เหอะ!

    การพัฒนาแบบยั่งยืน (Sustainable Development) หมายถึง “การตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน โดยไม่มีผลกระทบในทางลบต่อความต้องการของคนรุ่นต่อไปในอนาคต”

    เนื่องจากทุกครั้งที่มีการตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน ต้องมีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลกระทบในทางลบต่ออนาคต การพัฒนาที่ยั่งยืนจึงเป็นแนวคิดในการแก้ปัญหานี้ โดยการพยายามอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ในลักษณะที่เป็นส่วนรวมหรือมหภาค คือ หากมีความจำเป็นที่จะดำเนินการให้กระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมในที่ใดที่หนึ่ง ก็จะต้องเสริมสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมในที่อื่นๆ เป็นการชดเชยเพื่อให้ในแง่มหภาคของคุณภาพสิ่งแวดล้อมคงอยู่ได้ดังเดิม

    กระแสโลกาภิวัฒน์ (Globalization) ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และกลไกการตลาด ก่อให้เกิดการเติบโต การผลิต การบริโภคที่เป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ชีวิตมนุษย์ สัตว์ และพืชพรรณ ดังนั้น การที่มนุษย์ยังคงใช้แนวทางพัฒนาแบบเก่า ซึ่งไม่คำนึงถึงข้อจำกัดในการพัฒนา อันหมายถึง ข้อจำกัดด้านสภาพความสามารถที่จะรองรับการบริโภค และการใช้ประโยชน์จากโลก และเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่จะนำมาบริโภค และใช้ประโยชน์หมดลง อีกไม่นานทุกชีวิตบนโลกจะต้องจบสิ้น เพราะมนุษย์จะไม่สามารถอาศัยอยู่บนโลกได้อีกต่อไป การพัฒนาแบบยั่งยืน จึงเป็นแนวคิดเพื่อป้องกันมิให้โลกต้องเดินไปสู่จุดจบ


    การพัฒนาแบบยั่งยืน (Sustainable Development) เครดิต :
    Muangthong Aluminium Industry Co.,LTD
     
  17. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ไม่รู้ว่าพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่านะคะ
    แต่เข้าใจว่า เป็นเรื่องการพัฒนากับการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก

    ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่สาย ทำได้เรื่อยๆ ปรับให้เหมาะสมกับตน
    ถ้าเป็นเรื่องส่วนรวม บ่ายไปมากทีเดียว คนตัวเล็กๆ (no power) จะทำอะไรได้มาก คนตัวใหญ่ๆ ยังเล่นเกมส์ชักเย่อกันอยู่ในเวทีโลกเลย

    ประชุมแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนนั่นไง ตัวอย่าง!
     
  18. aetipp

    aetipp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +1,505
    หลง คือเส้นทางที่น่ากลัวมากที่สุด
     
  19. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ^
    ^
    ^
    ทำไม คนตอบกระทู้ที่นี่ ส่วนใหญ่ เขานิยมคุยกันสั้นๆ ล่ะคะ? :eek:
    เป็นปริศนาธรรมให้คนอ่านขบคิด?
     

แชร์หน้านี้

Loading...