สงกรานต์กับความเข้าใจในพระพุทธศาสนา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย lee_99, 9 เมษายน 2011.

  1. lee_99

    lee_99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +56
    [​IMG]

    โดยทั่วไปเมื่อกล่าวถึงสงกรานต์ ก็หมายถึงปีใหม่ไทยที่ครอบครัวจะได้มีโอกาสพบปะแสดงความกตัญญูกตเวที มีการทำกุศลในวันนั้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถวายอาหารและถวายปัจจัยที่เหมาะควรแก่พระภิกษุสงฆ์ การรดน้ำผู้ใหญ่ อันเป็นอุบายให้แสดงถึงการให้ระลึกถึงผู้มีอุปการะคุณกับบุตร - หลานการสรงน้ำพระ ซึ่งควรพิจารณาตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ อย่างไรรวมทั้งการเจริญกุศลประการต่าง ๆ ตามประเพณีสงกรานต์ปัจจุบันอย่างหนึ่งคือการเล่นน้ำและการใช้น้ำเป็นเครื่องประกอบในประเพณีสงกรานต์ เช่น การรดน้ำผู้ใหญ่และการสรงน้ำพระ เป็นต้น


    ในสมัยพุทธกาลได้มีประเพณีซึ่งเป็นการละเล่นที่เป็นงานมหรสพของผู้คนในสมัยนั้นโดยการใช้น้ำเช่นกัน ซึ่งย่อมเป็นไปได้ที่จะสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันในงานประเพณีสงกรานต์ในปัจจุบัน เพราะทำประจำในเดือน 4 เช่นกันดังข้อความในพระไตรปิฎกที่ว่า.......................

    ก็สมัยนั้นมหาชนพากันเล่นมหรสพในอุตตรผัคคุณีนักขัตฤกษ์ปลายเดือน 4 ทุก ๆ ปี
    กระทำพิธีสรงน้ำที่ท่าใกล้แม่น้ำคยาด้วยเหตุนั้นชนทั้งหลายพากันเรียกมหรสพนั้นว่า{คยาผัคคุณี}
    ดังนี้
    ในการละเล่นที่ใช้น้ำในสมัยพุทธกาลที่เรียกว่า คยาผัคคุณี มีการใช้น้ำเป็นหลักด้วยความเชื่อของบุคคลสมัยนั้นว่า น้ำคือสิ่งที่ชำระล้างบาป อกุศลธรรมที่ได้ทำไว้ได้แต่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงพระธรรมให้มหาชนมีความเข้าใจถูกว่าน้ำไม่สามารถชำระล้าง
    กิเลสได้ แต่ปัญญา กุศลธรรมประการต่างๆเท่านั้นที่จะชำระล้างกิเลสที่สะสมมาจนหมดสิ้นได้
    น้ำในพระธรรมวินัยของพระอริยเจ้าที่เป็นความเห็นถูกก็อย่างหนึ่ง น้ำตามความ
    เข้าใจของปุถุชนผู้ไมได้สดับ ไมได้ฟังอีกอย่างหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงแสดงความจริงที่
    เป็นสัจจะให้ผู้ที่มีความเห็นผิด ได้มีความเห็นถูกในความเข้าใจเรื่องการละกิเลส การดับ
    กิเลสว่าน้ำไม่ใช่เหตุให้ละกิเลสได้ หากเธอจะอาบน้ำเพื่อละกิเลส เธอจงอาบน้ำนี้ซึ่ง
    สามารถละกิเลสได้ น้ำที่พระองค์ทรงแสดงจึงไม่ใช่น้ำที่เราเข้าใจกัน ต่เป็น{น้ำ}คืออริยมรรคที่มีความเห็นถูกเป็นหัวหน้า ให้เข้าใจความจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมที่ไม่เที่ยงและไม่ใช่เรา นี่คือน้ำในพระธรรมวินัยที่จะชำระล้างกิเลสที่สะสมมาที่เป็นความไม่รู้ ไม่รู้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ปัญญาเท่านั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อกิเลส ไม่ใช่น้ำที่จะชำระล้างกิเลสได้

    ความเข้าใจในเรื่องการสรงน้ำพระภิกษุ


    ประเพณีในปัจจุบันมีการสรงน้ำพระภิกษุสงฆ์โดยฆราวาส ซึ่งไม่ใช่กิจของฆราวาสและ
    พระภิกษุท่านก็ไม่ได้ป่วยจึงไม่ใช่กิจที่คฤหัสถ์ทั้งหลายจะสรงน้ำพระ การแสดงออกถึง
    การเคารพ สักการะในพระภิกษุสงฆ์คือการน้อมถวายปัจจัย 4 อันสมควรเหมาะสมกับพระ
    ภิกษุและการทำความเคารพยำเกรงในพระภิกษุสงฆ์ การสรงน้ำพระภิกษุ จึงไม่ใช่การ
    แสดงออกถึงการเคารพในพระภิกษุสงฆ์ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ซึ่งในสมัยพุทธกาล
    พระภิกษุทั้งหลายจะสรงน้ำด้วยตนเอง หากพระรูปใดป่วยก็เป็นพระภิกษุช่วยสรงน้ำให้
    กัน ดังที่พระพุทธเจ้าช่วยอาบน้ำให้พระภิกษุผู้อาพาธ

    ในชีวิตประจำวันขณะใดที่สติเกิดขึ้น


    ขณะนั้นจิตเป็นไปในกุศล

    เพราะ{สติ}ระลึกเป็นไปในกุศล

    ขณะใดที่เป็นอกุศล

    ขณะนั้นไม่ใช่สติ

    สติเป็นสภาพธรรมที่ดีงาม


    ขณะใดที่จิตเป็นกุศล

    ขณะนั้นมีสติเกิดร่วมด้วย

    <embed src="http://www.4shared.com/embed/209381724/51c72351" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" height="200" width="320">

    http://forums.212cafe.com/boxser/

    http://www.facebook.com/itsariyathanakorn

    http://twitter.com/soka45


    ......................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน.........................

    ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ......................

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 790.jpg
      790.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.1 KB
      เปิดดู:
      625
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...