สีสัน..อินเดีย

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย wvichakorn, 10 เมษายน 2011.

  1. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    จินตนาการบวกฝีมือคือสร้างสรร
    ทุกสิ่งอันพลันเห็นมีความหมาย
    ได้ช่วยสื่อให้เด่นชัดและแยบคาย
    หากสบาย..ลองทำอีกก็..แล้วกัน..(ฮับ)
     
  2. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1450648/[/MUSIC]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,212
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ขอบคุณครับ.........:cool:
     
  4. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    เอตทัคคผู้ถึงสรณะก่อน

    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ประวัติ นางสุชาดา (มารดาพระมหาสาวก ยสะ)[/FONT]​



    [FONT=courier new,courier,monospace].....นางสุชาดาเป็นธิดาของเสนียะ(เสนานิกุฏุมพี) ผู้มีทรัพย์ซึ่งเป็นนายใหญ่แห่งชาวบ้านเสนานิคม ตำบลอุรุเวลา และเป็นมารดาของพระยสมหาสาวก.[/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace].....ในอดีตกาล ครั้งพระพุทธเจ้านามว่า ปทุมุตตระ บังเกิดใน เรือนสกุล กรุงหังสวดี ต่อมา นางฟังธรรมกถาของพระศาสดา เห็นพระศาสดา ทรงสถาปนาอุบาสิกาผู้หนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาผู้ถึงสรณะ(พระพุทธ,พระธรรม,พระสงฆ์) ก่อนอุบาสิกาทั้งปวง จึงทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น. [/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace].....นางเวียนว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์ถึงแสนกัป บังเกิดในครอบครัวของกุฎุมพีชื่อเสนียะ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ก่อนพระศาสดาของเราบังเกิด เจริญวัยแล้วได้ทำความปรารถนาไว้ ณ ต้นไทรต้นหนึ่งว่า [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace]ถ้านางไปมีเหย้าเรือนกะคนที่เสมอ ๆ กัน ได้บุตรชายในท้องแรกจักทำพลีกรรมประจำปี. ความปรารถนาของนางก็สำเร็จ.[/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace].....เมื่อพระมหาสัตว์ทรงทำทุกรกิริยาครบปีที่ ๖ ในวันวิสาขปุณณมี นางมีความประสงค์จะทำพลีกรรมในวันเพ็ญเดือน ๖ และก่อนหน้านั้นแหละ ได้ปล่อยแม่โคนมพันตัวให้เที่ยวไปในป่าชะเอม ให้แม่โคนม ๕๐๐ ตัว ดื่มน้ำนมของแม่โคนม ๑,๐๐๐ ตัวนั้น แล้วให้แม่โคนม ๒๕๐ ตัว ดื่มน้ำนมของแม่โคนม ๕๐๐ ตัวนั้นรวมความว่า นางต้องการความข้นความหวาน และความมีโอชะของน้ำนมจึงได้กระทำการหมุนเวียนไป จนกระทั่งแม่โคนม ๘ ตัวดื่มน้ำนมของแม่โคนม ๑๖ ตัว ด้วยประการฉะนี้. ในวันเพ็ญเดือน ๖ นางคิดว่า จักทำพลีกรรมตั้งแต่เช้าตรู่ จึงลุกขึ้นในเวลาใกล้รุ่งของราตรี แล้วให้รีดนมแม่โคนม ๘ ตัวนั้น ลูกโคทั้งหลายยังไม่ทันมาใกล้เต้านมของแม่โคนม แต่เมื่อพอนำภาชนะใหม่เข้าไปที่ใกล้เต้านม ธารน้ำนมก็ไหลออกโดยธรรมดาของตน. [/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace].....นางสุชาดาเห็นความอัศจรรย์ดังนั้น จึงตักน้ำนมด้วยมือของตนเองใส่ลงในภาชนะใหม่ แล้วรีบก่อไฟด้วยมือของตนเอง.[/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace].....เมื่อนางกำลังหุงข้าวปายาสนั้นอยู่ ฟองใหญ่ ๆ ผุดขึ้นไหลวนเป็นทักษิณาวัฏ น้ำนมแม้จะแตกออกสักหยาดเดียว ก็ไม่กระเด็นออกไปข้างนอก ควันไฟแม้มีประมาณน้อยก็ไม่ตั้งขึ้นจากเตาไฟ. [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace]สมัยนั้น ท้าวจตุโลกบาลมาถือการอารักขาที่เตาไฟ ท้าวมหาพรหมกั้นฉัตร ท้าวสักกะทรงนำดุ้นฟืนมาใส่ไฟให้ลุกโพลงอยู่ เทวดาทั้งหลายรวบรวมเอาโอชะที่สำเร็จแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายในทวีปใหญ่ทั้ง ๔ มีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวารมาใส่ลงในข้าวปายาสนั้น ด้วยเทวานุภาพของตน ๆ เสมือนคั้นรวงผึ้งซึ่งติดอยู่ที่ท่อนไม้ถือเอาต้นน้ำหวานฉะนั้น. [/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace].....จริงอยู่ ในเวลาอื่น ๆ เทวดาทั้งหลายใส่โอชะในทุก ๆคำข้าว แต่ในวันบรรลุพระสัมโพธิญาณ และวันปรินิพพานใส่ลงในหม้อเลยทีเดียว. [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace].....นางสุชาดาได้เห็นความอัศจรรย์มิใช่น้อย ซึ่งปรากฏแก่ตน ณ ที่นั้น ในวันเดียวเท่านั้น จึงเรียกนางปุณณาทาสีมาพูดว่า "[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]นี่แน่ะแม่ปุณณา วันนี้เทวดาของพวกเราน่าเลื่อมใส่ยิ่งนัก เพราะว่าเราไม่เคยเห็นความอัศจรรย์เห็นปานนี้ ในเวลามีประมาณเท่านี้ เธอจงรีบไปปัดกวาดเทวสถานโดยเร็ว".นางปุณณาทาสีรับคำของนางแล้วรีบด่วนไปยังโคนไม้.[/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace].....ในตอนกลางคืนวันนั้น แม้พระโพธิสัตว์ก็ได้ทรงเห็นมหาสุบิน ๕ ประการ เมื่อทรงใคร่ครวญดู จึงทรงกระทำสันนิษฐานว่า วันนี้ เราจักได้เป็นพระพุทธเจ้าโดยไม่ต้องสงสัย เมื่อราตรีนั้นล่วงไป จึงทรงกระทำการปฏิบัติพระสรีระ ทรงคอยเวลาภิกขาจาร [/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace].....พอเช้าตรู่ จึงเสด็จมาประทับนั่งที่โคนไม้นั้น ยังโคนไม้ทั้งสิ้นให้สว่างไสวด้วยพระรัศมีของพระองค์. [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace]ลำดับนั้น นางปุณณาทาสีนั้นมาได้เห็นพระโพธิสัตว์ประทับนั่งที่โคนไม้ มองดูโลกธาตุด้านทิศตะวันออกอยู่. และต้นไม้ทั้งสิ้นมีวรรณดุจทองคำ เพราะพระรัศมีอันซ่านออกจากพระสรีระของพระองค์. นางปุณณาทาสีนั้นได้เห็นแล้วจึงมีความคิดดังนี้ว่า วันนี้ เทวดาของเราเห็นจะลงจากต้นไม้มานั่งเพื่อคอยรับพลีกรรมด้วยมือของตนเอง จึงเป็นผู้มีความตื่นเต้น รีบมาบอกเนื้อความนั้นแก่สุชาดา.[/FONT]


    [FONT=courier new,courier,monospace].....นางสุชาดาได้ฟังคำของนางปุณณาทาสีนั้นแล้วมีใจยินดีพูดว่า ตั้งแต่วันนี้ไป เจ้าจงตั้งอยู่ในฐานะเป็นธิดาคนโตของเรา แล้วได้ให้เครื่องอลังการทั้งปวงอันสมควรแก่ธิดา. ก็เพราะเหตุที่ในวันจะได้บรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า ควรจะได้ถาดทองใบหนึ่งซึ่งมีราคาหนึ่งแสน ฉะนั้นนางสุชาดานั้นจึงทำความคิดให้เกิดขึ้นว่า เราจักใส่ข้าวปายาสในถาดทองนางมีความประสงค์จะให้นำถาดทองราคาหนึ่งแสนมา เพื่อใส่ข้าวปายาสในถาดทองนั้น จึงรำพึงถึงโภชนะที่สุกแล้ว ข้าวปายาสทั้งหมดได้กลิ้งมาตั้งอยู่เฉพาะในถาด เหมือนน้ำกลิ้งมาจากใบปทุมฉะนั้น ข้าวปายาสนั้นได้มีปริมาณเต็มถาดหนึ่งพอดี นางจึงเอาถาดใบอื่นครอบถาดใบนั้นแล้วเอาผ้าขาวพันห่อไว้ ส่วนตนประดับประดาร่างกายด้วยเครื่องประดับทุกอย่างเสร็จแล้ว ทูนถาดนั้นบนศีรษะของตนไปยังโคนต้นไทรด้วยอานุภาพใหญ่ เห็นพระโพธิสัตว์แล้วเกิดความโสมนัสเป็นกำลัง สำคัญว่าเป็นรุกขเทวดา จึงโน้มตัวเดินไปตั้งแต่ที่ที่ได้เห็น ปลงถาดลงจากศีรษะแล้วเปิด (ผ้าคลุม) ออก เอาสุวรรณภิงคาร คนโทน้ำทองคำ ตักน้ำที่อบด้วยดอกไม้หอมแล้วได้เข้าไปหาพระโพธิสัตว์ยืนอยู่. [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace]บาตรดินที่ฆฏิการมหาพรหมถวาย ไม่ได้ห่างพระโพธิสัตว์มาตลอดกาลมีประมาณเท่านี้ ขณะนั้นได้หายไปพระโพธิสัตว์ไม่ทรงเห็นบาตร จึงเหยียดพระหัตถ์ขวาออกรับน้ำ นางสุชาดาจึงวางข้าวปายาสพร้อมทั้งถาดลงบนพระหัตถ์ของพระมหาบุรุษ ๆทรงแลดูนางสุชาดา ๆ กำหนดพระอาการได้ทูลว่า [/FONT]


    [FONT=courier new,courier,monospace]....."ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ดิฉันบริจาคแก่ท่านแล้ว ท่านจงถือเอาถาดนั้นไปกระทำตามความชอบใจเถิด" ถวายบังคมแล้วทูลว่า [/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace]....."มโนรถของดิฉันสำเร็จแล้ว ฉันใด แม้มโนรถของท่านก็จงสำเร็จ ฉันนั้น นางบริจาคถาดทองซึ่งมีราคาตั้งหนึ่งแสน เหมือนบริจาคใบไม้เก่าไม่เสียดายเลย" แล้วหลีกไป.[/FONT]

    [​IMG]


    [FONT=courier new,courier,monospace]......พระโพธิสัตว์เสด็จไปยังฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ทรงวางถาดทองไว้ริมฝั่ง ลงสรงสนานแล้วเสด็จขึ้น ทรงปั้นเป็นก้อนได้ ๔๙ ก้อน เสวยข้าวมธุปยาสแล้ว ทรงลอยถาดทองลงในแม่น้ำ เสด็จขึ้นสู่โพธิมัณฑสถานตามลำดับ ทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ ประทับ ณ โพธิมัณฑสถานล่วงไป ๗ สัปดาห์ ทรงประกาศพระธรรมจักรอันประเสริฐโปรดแก่ปัญจวัคคีย์แล้ว ณ ป่าอิสิปตนมิคทายวัน ทรงเห็นอุปนิสัยของเด็กชื่อยสะ บุตรของนางสุชาดา จึงเสด็จไปประทับนั่ง ณ โคนไม้ต้นหนึ่ง. [/FONT]


    [FONT=courier new,courier,monospace]......แม้ยสกุลบุตรเห็นนางบำเรอนอนเปิดร่างในลำดับต่อจากครึ่งราตรี เกิดความสลดใจพูดว่า วุ่นวายหนอ ขัดข้องหนอ แล้วออกจากนิเวศน์เดินไปยังสำนักพระศาสดานอกพระนครฟังธรรมเทศนาแล้วแทงตลอดมรรคผล ๓. [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace]ขณะนั้น บิดาของยสกุลบุตรเดินตามรอยยสกุลบุตรไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ทูลถามเรื่องของยสกุลบุตร. [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace]พระศาสดาทรงปกปิดยสกุลบุตรไว้ ทรงแสดงธรรมจบเทศนา เศรษฐีคฤหบดีก็ดำรงอยู่ในพระโสดาปัตติผล. [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace]ส่วนยสะบรรลุพระอรหันต์ [/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace]......พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะเขาว่า "จงเป็นภิกษุมาเถิด". [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace]ทันใดนั้นนั่นเอง เพศคฤหัสถ์ของเขาก็หายไป เขาได้เป็นผู้ทรงบาตรและจีวรสำเร็จด้วยฤทธิ์. แม้บิดาของท่านก็นิมนต์พระศาสดา. พระศาสดาทรงมีพระยสกุลบุตรเป็นปัจฉาสมณะ ติดตามไปข้างหลัง เสด็จไปเรือนของเศรษฐีนั้น เสวยภัตตาหารเสร็จแล้ว ก็ทรงแสดงธรรมโปรด. [/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace]......จบเทศนา นางสุชาดามารดาและภริยาเก่าของพระยสะ ก็ดำรงอยู่ในพระโสดาปัตติผล. [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace]ในวันนั้น นางสุชาดากับหญิงสะใภ้ ก็ดำรงอยู่ในเตวาจิสรณะคือถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ครบ ๓ เป็นสรณะ. นี้เป็นความย่อในเรื่องนั้น. ส่วนโดยพิสดาร เรื่องนี้มาแล้วในคัมภีร์ขันธกะ. [/FONT]
    [FONT=courier new,courier,monospace]ภายหลังต่อมา พระศาสดาเมื่อทรงสถาปนาเหล่าอุบาสิกาไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ ตามลำดับ จึงทรงสถาปนาอุบาสิกาผู้นี้ไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกา ผู้ถึงสรณะ แล.[/FONT]

    [FONT=courier new,courier,monospace]#องฺ.อ. ๑/๒/๘๓-๘๖; วินย. ๔/๒๗-๒๙; อป.อ. ๘/๑/๑๓๗-๑๔๐[/FONT]
    http://www.oknation.net/blog/diamond/2009/06/26/entry-1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2011
  5. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    ....พอพระวิทยากรท่านบรรยาย..ถึงตอนนี้

    ....."ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ดิฉันบริจาคแก่ท่านแล้ว ท่านจงถือเอาถาดนั้นไปกระทำตามความชอบใจเถิด" ถวายบังคมแล้วทูลว่า

    ....."มโนรถของดิฉันสำเร็จแล้ว ฉันใด แม้มโนรถของท่านก็จงสำเร็จ ฉันนั้น นางบริจาคถาดทองซึ่งมีราคาตั้งหนึ่งแสน เหมือนบริจาคใบไม้เก่าไม่เสียดายเลย" แล้วหลีกไป.

    ...หลายคนรวมถึงตัวเองรู้สึกเหมือนมีอะไรแน่นขึ้นมา..เห็นพี่ ๆ เค้าน้ำตาคลอ...พี่ติ๋ม (หทัยพร)..มาเล่าให้ฟังทีหลังว่า... "ทั้งที่เคยอ่านเรื่องอินเดีย ประวัติพระพุทธเจ้ามาแล้วบ้าง..แต่ไม่มีความรู้สึกเหมือนที่มาฟังพระวิทยากรท่านพูดอยู่ในที่ที่เป็นที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ...น้ำตาไหลทุกครั้ง..."


    [​IMG]

    [​IMG]



    จากตรงที่พระศาสดาทรงลอยถาด
    ตอนนี้เนรัญชราแห้งผาดอยู่ตรงหน้า
    มองตรงไปเห็นมหาเจดีย์พุทธคยา
    เด่นเป็นสง่า..ที่องค์พระสัมมาตรัสรู้

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN8571.JPG
      DSCN8571.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.7 KB
      เปิดดู:
      242
    • DSCN8573.JPG
      DSCN8573.JPG
      ขนาดไฟล์:
      116.2 KB
      เปิดดู:
      245
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2011
  6. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    <TABLE cellPadding=6 width=428><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เหมือนได้ร่วมทางไปด้วยเลยค่ะคุณตุ่ม ทั้งภาพและข้อมูล
    พร้อมเพลงประกอบเย็นๆ ผ่อนคลายดีจังเลย
     
  7. i คนพิการ

    i คนพิการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +172
    [​IMG]

    เข้ามาอ่านหลายรอบแล้วค่ะ แต่ไม่ใด้ทักทายเลยค่ะ ^^

    รูปภาพที่เอามาโพสถ่ายเองหรือค่ะสวยทุกภาพเลยใด้บรรยายกาศอินเดีย ดีจัง

    สีสั..อิดี
     
  8. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    ขอบคุณค่ะ..คุณแอ๊ด..
    ไว้มีโอกาสต้องไปอินเดียพร้อมกันยกแก๊งค์นะคะ
    (รอ..น้องเจง..น้องสร้อย..คุณกบ..คุณปู..ฯ รวมคุณแอ๊ด)
     
  9. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236

    ขอบคุณค่ะ..คุณ i
    ถ้าเป็นรูปเป็นรูปที่ถ่ายเองค่ะ..
    แต่ช่วงเดินทางบางตอน(ยังไม่ได้เล่าถึงค่ะ)
    ลบไฟล์ผิด..ก็มีขอยืมคนอื่นมาบ้างค่ะ
    ..อยากให้ทุกท่านที่มาอ่านเห็น สีสั..อิดีค่ะ
     
  10. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236

    ดร.พระมหาพัน สุภาจาโรเขียนไว้ในหนังสือพาแม่เที่ยวอินเดียว่า..

    "ผู้ที่จะมาอินเดียได้ จะต้องประกอบด้วยสิ่งเหล่านี้คือ..."
    ๑ ต้องมีศรัทธา
    ๒ ต้องมีปัจจัย
    ๓ ต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง
    ๔ ต้องมีผู้นำ
    ๕ ต้องไม่มีมารมาผจญ..


    .......ข้อที่ ๑ - ๓ พวกเราผ่านกันมาแล้วค่ะ...
    .......ข้อที่ ๔ ต้องมีผู้นำ..ไม่ให้หลงไปในที่ต่าง ๆ ไม่ให้หลงไปในเรื่องต่าง ๆ ...พระวิทยากรจึงเป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในคณะจาริกบุญนี้..ซึ่งถ้าเป็นบริษัททัวร์..ก็ต้องมีไกด์อย่างเยี่ยมยอด..ถึงจะทำให้ผู้ที่ผ่านข้อ ๑ - ๓ มาแล้ว..ได้ตามรอยพระบาทพระศาสดาได้อย่างแกล้วกล้า..เหมือนตามที่ดร.พระมหาพันท่านเขียนไว้ค่ะ..
    .......สำหรับข้อที่ ๕ ก็ หมายถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ อันอาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน..ตลอดระยะเวลาที่ยังเดินทางจาริกอยู่ในแดนพุทธภูมิ..ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเหมือนกัน..เพราะนี่เป็นบททดสอบผู้จาริกมากมาย..ทั้งอดทน ความเพียร วิริยะ เมตตา อุเบกขา..มากันเพียบ..แล้วแต่จะเลือกใช้ในแต่ละโอกาส..ที่ผ่านมากระทบค่ะ...ก็เลยเป็นทั้งทดสอบวิทยายุทธที่มีอยู่เดิม..และฝึกฝนเพิ่มเติมวิทยายุทธใหม่..หรือผู้ที่ยังไม่เคยผ่านสนามไหนมาเลย..ก็ได้ลงสนามจริงในครั้งนี้เองค่ะ...


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2011
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,865
    ค่าพลัง:
    +43,529
    พี่ตุ่มจ๋า ทำไมบางรูปไม่ขึ้นอ่ะจ๊ะ........
     
  12. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    กำลังสงสัยเหมือนกันค่ะ..น้องสร้อย..
    มาจากต้นตอไฟล์ที่เราไปโหลดมาหรือเปล่าไม่รู้..
    แต่ลองไปเปิดที่เครื่องอื่นก็มีรูปค่ะ..ยังงง ..งง อยู่จ้า
    พี่เห็นน้องสร้อยถามพี่ในกระทู้น้องสร้อยเหมือนกัน..
    ขอบคุณ..ที่ส่งข่าวนะคะ..
     
  13. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    ...เป็นเพราะปัญหาเรื่องการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าที่เกินความจริงของหน่วยงานที่ดูแลเรื่องไฟฟ้าในรัฐพิหาร......ทำให้พุทธศาสนิกชนไม่ว่าชาติใดภาษาใดไม่สามารถเข้าไปชมวัดนานาชาติต่าง ๆ ที่อยู่รายรอบองค์มหาเจดีย์พุทธคยาได้ค่ะ....


    ...พระอาจารย์มหาจูมจึงพาคณะจาริกไปยังมหาเจดีย์พุทธคยา..หลายคนใจไปถึงนานแล้ว..ไม่มีเสียงคัดค้าน...เป็นเรื่องน่าแปลก..คนที่เพิ่งไปที่พุทธคยาครั้งแรก..ใครพาทำอะไรก็ทำไปตามนั้นค่ะ..แล้วความรู้สึกต่างเกิดตามมาภายหลัง.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2011
  14. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    เขียนได้ดีมากค่ะ อ่านแล้วเหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วย

    ช่วงที่เดินทางจากพุทธคยาไปโกลกัตตา มองจากหน้าต่างรถจะเห็นอาคารริมถนนเป็นตึกเก่า ๆ เหมือนเป็นตึกร้าง เพราะประตู หน้าต่างปิดไฟมืดหมด ถนนก็มืด คนขับรถทัวร์ใจดีจอดให้พวกเราลงไปเดินทำธุระกันตามอัชฌาสัย ปรากฏว่า มีปรากฏการณ์อินเดียมุง มายืนดูกันใหญ่ (ทุกทีเลยเวลาเจอคนไทย :boo:) เลยต้องวิ่งกลับมาที่รถ เป็นเรื่องสนุกสนาน หัวเราะกัน

    มาทราบทีหลังว่าคนอินเดียจะไม่นิยมทาสีด้านนอกของตึกเลยเพราะต้องการประหยัด จะทาเฉพาะด้านในเท่านั้น ตึกจึงดูเก่ามาก ๆ ยิ่งกลางคืนจะมองไม่ออกเลยเพราะมันมืดมากจริง ๆ
     
  15. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    เป็นเรื่องจริงค่ะ วัดไทยบางแห่งก็ถูกตัดไฟ ไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องปั่นไฟใช้เอง ซึ่งแพงมากชั่วโมงละหลายพันทีเดียว
     
  16. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236

    ไชโย..มีคุณ Omino มาช่วยเติมสีสัน.อินเดีย แล้ว..
    กำลังหารูป "ทำธุระกันตามอัชฌาสัย" อยู่ค่ะ..
    ขอบคุณนะคะ..มาช่วยเขียนอีกนะคะ
     
  17. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    [​IMG]

    [​IMG]





    ...ปรากฏการณ์ "ทำธุระตามอัชฌาสัย"..ตามที่คุณ omino เล่าค่ะ..แต่นี่เป็นภาคกลางวัน...เสร็จธุระแล้วก็เริงร่าอย่างที่เห็นค่ะ....

    ที่จริงแล้วได้เห็นสัจจธรรมอย่างหนึ่งว่า..

    "เมื่อมีทุกข์แล้ว..หากเก็บไว้..ก็ทุกข์ร่ำไป..นาน..นาน..
    แต่หากได้ปลด ปล่อยทุกข์ออกจากตัวแล้ว..
    เราก็จะได้มีพลัง หรือเตรียมพร้อม
    ที่จะพบกับสิ่งที่จะเกิดข้างหน้าต่อไป..
    ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะทุกข์หรือสุข..
    แต่ขณะนี้พร้อมแล้ว
    เพราะทุกข์เก่าปลด ปล่อยออกไปแล้ว.."


    [​IMG]


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN92900.JPG
      DSCN92900.JPG
      ขนาดไฟล์:
      148.1 KB
      เปิดดู:
      366
    • DSCN92933.JPG
      DSCN92933.JPG
      ขนาดไฟล์:
      155 KB
      เปิดดู:
      222
    • DSCN92944.JPG
      DSCN92944.JPG
      ขนาดไฟล์:
      150 KB
      เปิดดู:
      265
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2011
  18. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,212
    ค่าพลัง:
    +23,196
    สีสัน แห่งการปลดถ่ายเททุกข์ ณ ทุ่งท้องเรืองทอง

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN929.jpg
      DSCN929.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.4 KB
      เปิดดู:
      258
    • DSCN9293.jpg
      DSCN9293.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.7 KB
      เปิดดู:
      298
  19. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    ขอบคุณค่ะ..
    แค่..สีสัน..และscope ของภาพก็ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนได้เหมือนกัน..

    "...นี้เป็นรูปและนาม..ที่เข้ามากระทบอายตนะ.."

     
  20. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...