ไม่ได้ฆ่าสัตว์ แต่กินเนื้อสัตว์ เป็นความผิดบาปไหม??

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย @^น้ำใส^@, 11 เมษายน 2007.

  1. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    วามเห็นจาก พระอาจารย์

    อาตมามั่นใจว่าหากชาวพุทธปฏิบัติศีลข้อ ๑ อย่างเคร่งครัด ก็ไม่มีเนื้อสัตว์กินแล้ว
    เพราะไม่มีใครฆ่ามาขาย หรือฆ่ามากิน ยิ่งอาชีพที่ชาวพุทธที่พระพุทธเจ้าห้ามอีก
    เป็นมิจฉาอาชีพ(อาชีพที่ผิดเป็นบาป) ๕ ประการ คือ
    ๑.การค้าขายอาวุธ
    ๒.การค้าขายสัตว์เป็น
    ๓.การค้าขายเนื้อสัตว์
    ๔.การค้าขายยาพิษ
    ๕.การค้าขายสิ่งเสพติด มอมเมา
    อนุโมทนาสาธุกับโยมที่มีความเห็นที่ถูกต้องใน
    เรื่องนี้ ธรรมรักษา

    พอสรุปได้ในตัว นอกจากสุขภาพ ที่ดีกว่า ยังทำให้ศีล มั่นคง เว้นจากการฆ่า สังหาร
    เว้นบริโภคเนื้อสัคว์ เพื่อเมตตาธรรม ต่อสรรพสัตว์ เืพื่อนร่วมโลก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • life.jpg
      life.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.5 KB
      เปิดดู:
      80
  2. สหพัฒน์

    สหพัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +710
    สำหรับตัวผมน่ะครับ งดเว้นการฆ่าเด็ดขาด
    แต่ถ้าจะกินเนื้อสัตว์ ส่วนมากมาจากกับข้าวสำเร็จมากกว่า(แต่ถ้าคิดว่าเป็นการส่งเสริมทางอ้อม ก็ไม่ปฎิเสธ) แต่ถ้าผมเห็นตอนเขาฆ่าไม่ว่า จะเป็นไก่ เป็นหมู หรือว่าปลา หรือสัตว์อื่นใด อันนี้ผมจะไม่กินเลย คือว่ากินไม่ลง จะหันไปกินผักกับน้ำพริกและข้าวแทน แต่ถ้ามีโรงทานเจ ผมก็จะไปใช้บริการ อาศัยปฏิบัติแบบพระและฆราวาส ผสมกัน และตามความเหมาะสม และโอกาส ระวังอย่าบัญญัติในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ
     
  3. สายสุดสวาท

    สายสุดสวาท สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +4
    เป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะค่ะ

    กินเนื้อให้น้อยดีกว่าค่ะ
     
  4. 9ศักดา9

    9ศักดา9 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +3
    นานาจิตตังครับ
    แต่สำหรับผมกินครับ แต่เนื้อสัตว์ใหญ่ไม่กิน และก็
    1. ไม่เห็น
    2. ไม่ได้ยิน
    3. ไม่รังเกียจ
     
  5. กำนันธงชัย

    กำนันธงชัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +75
    ใครไม่กินได้ตลอดชีวิตก็อนุโมทนา ใครที่ยังต้องกินก็แผ่เมตตาให้เขามากๆ
     
  6. marty

    marty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +439
    โดยไม่ได้คาดหวังว่าจะได้บุญหรือไม่ได้บุญ การทานอาหารธรรมชาติ หรือ อาหารบริสุทธิ์ เช่น มังสวิรัติ หรือ อาหารเจ อาหารชีวจิต เป็นวิธีที่สมถะมากๆค่ะ อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ ประหยัดและง่ายๆสบายๆในเรื่องการทำอาหาร เหมาะกับนักปฏิบัติธรรม นอกจากได้สุขภาพที่จะทำให้เรามีอายุยืนขึ้นเพื่อที่จะใช้กายสังขารนี้ในการปฏิบัติบำเพ็ญ สร้างบารมีได้ต่อไป แล้วยังสามารถทำให้เราไม่เกี่ยวกรรมกับสรรพสัตว์

    ผู้ที่ทานเนื้อสัตว์ จะต้องสร้างบุญกุศลให้หนักแน่นมากเป็นพิเศษ อย่าสร้างและเกี่ยวกรรมเพิ่ม บุญทั้งหมดที่ทำ ก็ต้องไปชำระกับวิญญาณสรรพสัตว์ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวร จึงต้องหมั่นสร้างบุญ บำเพ็ญจิตใจให้ดีๆ

    เรื่องการกิน เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคล ไม่สามารถบังคับใครได้ ดังสมัยที่พระเถวทัตเสนอแนวบังคับให้พระสงฆ์สาวกทุกองค์รับประทานมังสวิรัติ ซึ่งพระพุทธองค์ไม่รับข้อเสนอ เพราะ เรื่องนี้ไม่ควรนำมาเป็นเรื่องบังคับ ขัดใจ เพราะจะทำให้พระสงฆ์แตกแยกกัน (ระหว่างผู้ทานเนื้อ VS ผู้ทานผัก) ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตาม กฎแห่งกรรมจัดสรร ไม่มีใครฝืนกฎแห่งกรรมได้

    บาปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาวะจิตใต้สำนึกของแต่ละบุคคล แต่ละบุคคลย่อมรู้อยู่แก่ใจของตนเอง
    ช่วงนี้ภัยพิบัติมากมาย ขอให้พวกเรามาแสดงความรักความเมตตาต่อทุกจิตญาณทุกชีวิตบนโลกเรา ไม่เบียดเบียน ไม่เข่นฆ่า ไม่ทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ ไม่ทำให้ผู้อื่นแตกแยก

    เมื่อสัตว์ถูกฆ่าน้อยลง โอกาสที่จะได้กินเนื้อสัตว์ย่อมน้อยลงไปด้วย สาธุ
    เมื่อภัยพิบัติใหญ่ๆมา สัตว์ก็ต้องล้มตายกันหมด เพราะฉะนั้น โอกาสในการกินพืชเป็นหนทางหนึ่ง เช่น การปลูกผักด้วยระบบน้ำ และอื่นๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2011
  7. ตรีเพชร์

    ตรีเพชร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +528
    มั่วครับ มั่ว100%
     
  8. Blow

    Blow สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    ไม่ผิดประการใดครับ เพราะว่าเจตนาไม่มีเหมือนกันเราเจตนาเพื่อที่จะดับความหิวแต่นั้นเจตนาที่จะฆ่าดังนั้นจึงไม่ผิดอะไรครับ

    การที่จะเกิดอกุศลกรรมหรือกุศลกรรมนั้นต้องอยู่ที่เจตนาเป็นหลักครับ

    เช่นบางคนเผยแพร่ธรรมมะด้วยคำพูดดีๆแต่ในใจอาจจะคิดที่จะเสียดสีใครก็ได้แบบนี้เป็นอกุศลครับ

    บางคนเผยแพร่ธรรมมะไม่น่าฟังแต่ในใจอาจจะเผยแพร่เพราะว่าต้องการสืบทอดประเพณีศาสนา อันนี้ก็ได้กุศล

    ดังนั้นการที่จะทำอะไรเจตนาเป็นหลักครับ
     
  9. อนันตา.

    อนันตา. ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +105
    ปัญหาการบริโภคเนื้อสัตว์

    -----------------------------------
    เห็นด้วยกับที่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาสอนไว้ครับ

    อันนี้ประสพการณ์เล็กๆ น้อยๆ ส่วนตัว
    มัััััังสวิรัติ ถ้าเน้นในเรื่องการบำเพ็ญบารมี ได้ประโยชน์มากในเรื่อง เมตตาบารมี ...กินได้ก็ดีแน่นอนครับ แต่คงไม่ถือว่าเป็นเรื่องหลักเรื่องเดียวเท่านั้น

    แต่ถ้าเน้นในการฝึกกรรมฐาน มังสวิรัติหรือไม่ ไม่น่าจะเป็นประเด็น โดยถ้าเรากินแบบไม่ไปปรุงรสเกินควร ก็เอื้อต่อการพิจารณาอาหาร เพราะไม่ค่อยมีรสมาชวนเราตามไปอร่อยมากนัก การเริ่มฝึกอาหารเรปฏิกูลสัญญาก็อาจจะทำให้กินง่ายกว่า ก่อนดูลงไปลึกๆ ผักมันจืดๆ กลางๆ กว่า การใช้สัญญาเห็นเนื้ออร่อยๆ หรือเนื้อเน่าๆ ครับ :d:d:d

    เท่าที่ทดลองมาเข้าใจว่า ในแง่อาหารเรปฏิกูลสัญญา กินเนื้อ ไม่กินเนื้อก็ไม่ต่างกันครับ ถ้า เพราะตกลงประกอบจากธาตุ ๔ เหมือนกัน อยู่ที่จิตใจ ผมเคยได้ทานอาหารมังสวิรัติที่อร่อยกว่าอาหารเนื้อสัตว์ แล้วก็เกือบจะหลงไป ...แย่กว่าเดิมอีก แทบจะติดเอา เพราะเป็นรสอร่อยที่ละเอียดกว่าที่เคยชินมา หลอกเนียนกว่าเดิม

    หรือถ้าบางทีถ้าเราไม่ใส่ใจในการสรรหาอาหาร พอไม่มีมังสวิรัติกิน ก็เลยต้องอดๆ งดๆ อาหาร หรือกินแต่ข้าวเปล่าไปบ้าง หรือถ้าไม่ค่อยมีกินแล้ว แถมกินมื้อเดียว กินไม่พอต่อร่างกายนานๆ มันผอม ถ้าจิตใจ ธาตุขันธ์ยังรับไม่ได้ ก็อ่อนแอเฉยเลย แรงไม่ค่อยมี (แต่เท่าที่พบ ก็มีหลายๆ คนทำได้สบาย แล้วแต่บุคคล) ...โดยประสพการณ์ส่วนตัวผมเข้าใจว่าถ้าเลือกกินมังสวิรัติ หรือกินเจ ก็ต้องมีเวลาสรรหาอาหารพอสมควรครับ อย่างน้อยต้องหาผัก หรือผลไม้ได้บ้างในมื้อนั้น วันนั้น ไม่งั้นแป๊บเดียวหุ่นนางแบบ (deejai) ...เดี๋ยวนี้ก็เลยกินแต่ผักแทน เนื้อปนๆ บ้างก็เขี่ยออก แล้วก็ดูมันเป็นดินไปซะเลย ได้บ้างไม่ได้บ้างไปตามเรื่อง

    ผมก็ขออนุโมทนากับผู้ที่ทานมังสวิรัติครับ
     
  10. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=kk8yVlBhSE8&feature=player_embedded"]YouTube - ชีวิต - ฆ่าฉันเป็นอาหาร[/ame]



    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=FZ-4Ff3X0JQ&feature=related"]YouTube - ??????????? ???????????[/ame]


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=zqVjq5pcGRo&feature=player_embedded"]YouTube - วิธีล้มหมู.mp4[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=y_xuFLM6T7A&feature=player_embedded"]YouTube - ก่อนขึ้นเขียง[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=JJ_5fwyH6no&feature=related"]YouTube - Broadcast Yourself[/ame]


    COPY มาให้ดูนะครับ
    ว่าเขาน่าสงสารแค่ไหนครับ

    อย่าเถียงกันเพื่อความอร่อยของ ปาก ท้อง ตัวเองเลย

    ปาณาติปาตา เวรมณี = เจตนา เป็นเครื่องงดเว้นจากการฆ่า การเบียดเบียน การทำร้ายร่างกายคนและสัตว์ แล้วมีจิตใจประกอบด้วยเมตตากรุณา มีความปรารถนาดี และสงสารเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สัตว์อื่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2011
  11. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    พระบรมศาสดาได้ทรงแสดงธรรมไว้บทหนึ่งว่า  มโนปุพพังคมา ธัมมา  มโนมยา  มโนเศรษฐา  แปลว่า ใจเป็นใหญ่  ใจเป็นประธาน  ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ  ในบรรดาสิ่งต่างๆที่มีอยู่ในโลกนี้ พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ว่าไม่มีอะไรจะสำคัญเท่ากับใจ  เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดได้ด้วยใจ  ใจเป็นใหญ่  ใจเป็นประธาน  ใจเป็นผู้สร้างขึ้นมา  ไม่ว่าจะเป็นความดีงาม ความประเสริฐเลิศโลกทั้งหลาย  หรือความเลวทรามต่ำช้าทั้งปวง มีใจเป็นผู้สร้างขึ้นมาทั้งนั้น สวรรค์ นรก มรรค ผล นิพพาน ก็มีใจเป็นผู้สร้างขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างจึงขึ้นอยู่ที่ใจเป็นสำคัญ พระพุทธองค์จึงทรงสอนให้ดูแลรักษาใจ  
    ผมเห็นว่า กินหรือไม่กิน ก้ดูใจไปกินด้วยใจมีกิเลส หรือไม่กินด้วยใจมีสติหรือไม่ กินด้วยว่าใจเสพอะไรอยุ่สำคัญกว่าท่านไม่กินเนื้อ แต่เบียดเบียนอาหารผุ้อื่นเบียนเบียน ผุ้อื่นด้วยกายด้วยวาจาด้วยใจอยุ่ก้คงไม่ดี
    พระโพธิสัตว์ที่กินเนื้อเพราะชาตๅิเพราะโคตรก้มีอยุ่(เกิดในสกุลราชสี)หรือต้องเลี้ยงดูผุ้มีพระคุณ แต่ใจของพระโพธิสัตว์นั้น มิได้กระทำตามกิเลส เช่นท่านเหล่านั้นจะอธิฐานขอสัตว์ที่เคยเปนอาหารเอละตั้งใจเปนอาหารให้เรา การกระทำปาณติบาทก้มิได้กระทำด้วยความทรมานหรือคะนองแต่อย่างใด
    สัตว์ทั้งหลายล้วนมีกรรมเปนของตนที่โดนฆ่าก้ล้วนเปนไปตามกรรม เราเพียงไม่เอาเราไปเปนส่วนหนึ่งของกรรมนั้น เเละอโหสิกรรมให้กันและกันก้พอ
    การไม่กินเนื้อเพราะเมตตาก้ดีเพราะสงสารก้ดีเปนสิ่งดีแต่ท่านเองก้ไม่พึงลูบคลำวัตรนั้นด้วย ผมกล่าวกลางๆ ท่านไม่กินก้ดีแล้วส่วนท่านที่กินเนื้อก้อย่าสนุกมาก ให้คิดถึงตอนที่เขาโดนเอาชีวิตด้วย
    ขออนุโมทนา ผม กินเนื้อที่พระศาสดาอนุญาติ
     
  12. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    อ้อ
    ขอบคุณสำหรับภาพที่ทำให้สยดสยองการกระทำปาณาติบาทครับ เห็นเเล้วก้สงสารทั้งผุ้ที่ถุกกระทำและผุ้กำลังกระทำโดยไม่รุ้ว่าภายภาคหน้าเขาต้องประสบเช่นเดียวกันนี้หรือทรมานมากกว่า แต่ก้ขอให้สัตว์ที่โดนกระทำพ้นจากบ่วงกรรมที่เขาเคยกระทำ เเละได้พบผุ้มีสัมมาทิฐิสอนเขาให้พบกับทางที่ดีครับ สาธุๆ
     
  13. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    เราได้ร่างกายเป็นซากอันปราศจากวิญญานนี้มาด้วยใจที่ไม่ได้กระทำปาณติบาทผุ้ใด แม้กระนั้นเราขออุทิศส่วนบุญที่เราได้กระทำในอดีตและปัจจุบันให้เขาเหล่านั้นตามสมควร ขอท่านที่ละกายนี้จงอย่าได้ยึดติดกับกายนี้เลยจงดำเนินไปสู่มรรคอันชอบ สุขติตามทางที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ดีเเล้วเถิด
     
  14. Dongky

    Dongky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +84
    ผมจะกินเนื้อสัตว์ก็เฉพาะ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน และไม่ได้นึกรังเกียจ เท่านั้นครับ !!


    และก็ไม่กินสัตว์ใหญ่ๆ เช่น วัว ช้าง ควาย ม้า ฯลฯ
     
  15. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    เลิกอุดหนุนพวกฆ่าสัตว์ พวกค้าเนื้อสัตว์เถอะ พวกสัตว์มันเจ็บปวดทรมานกันแค่ไหน โรงฆ่าสัตว์บางที่นี่โหดร้ายมากแทนที่จะให้ตายทันที ก็ไปทรมาน เขาเจ็บปวดแสนสาหัสแค่ไหนรู้กันหรือเปล่า ถ้าคุณได้ดูคลิปโรงฆ่าสัตว์คุณจะรู้ อย่าคิดว่าฉันไม่ยึดติด ไม่ยึดติดแค่ไหนกัน มีกี่คนที่กินโดยไม่ยึดติดจริงๆ เมื่อไหร่ที่เราเลิกอุดหนุน ความเจ็บปวดทรมารของสัตว์ที่ถูกฆ่าเพื่อขายเนื้อก็ลดลงไปด้วย ดูอย่างเทศกาลกินเจ การฆ่าสัตว์ลดลงไปมาก
    มันไม่สำคัญหรอกว่าผิดศีล บาปหรือไม่บาป แต่มันไม่ควรจะมีสัตว์ตัวไหน ต้องเจ็บปวด ทรมาน เพราะมีคนต้องการกินมัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2011
  16. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ให้ก้าวข้ามผ่านบาปและไม่บาปไปเสีย และทำเพื่อสรรพสัตว์ มันไม่ควรจะมีสัตว์ตัวใดที่จะต้องเจ็บปวด ทรมาน จากการถูกฆ่า เพื่อเอาเนื้อไปขายอีกต่อไป เมื่อไม่มีคนกิน ไม่มีคนอุดหนุน คนฆ่าก็เลิกอาชีพไปเอง เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใครได้ เริ่มต้นจากตัวเองนั้นแหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2011
  17. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    พระศาสดาของเรา(พระพุทธเจ้า)ห้ามไว้เช่นไร ตรัสสอนเช่นไร เราก้จะพยายามดำเนินรอยตามเช่นนั้น ไม่บัญญัติในสิ่งที่พระองค์ไม่ได้บัญญัติไว้ กาลก่อนพระเทวทัตเคยขอให้ภิกษุฉันเจเเล้ว หากพระพุทธเจ้าเห็นด้วยเเละให้ความสำคัญมากท่านคงบัญญัติลงในศีลไม่ระดับใดก็ระดับหนึ่ง คงยกย่องผลของการฉันเจเป็นแน่ แต่พระองค์ก้อนุญาติตามธาตุขันธ์ฉันสิ่งใดเเล้วเหมาะสมไม่ฉันสิ่งที่พระองค์ห้ามก็เพียงพอเเล้ว คือเนื้อสัตว์สิบอย่างและเนื้อ อื่นที่เข้าข่ายสามอย่างคือเห็นได้ยินหรือสงสัยว่าฆ่าเพื่อเรา ก็เพียงพอ เเล้ว ท่านจะเป็นเช่นไรดำเนินแบบใดเพิ่มการปฏิบัติด้วยเจตนาดีเราอนุโมทนา เเต่ถ้าเรากระทำเช่นนั้นใจเราก้จักมีมานะมีการยกตนข่มผู้อื่นด้วยว่าถือวัตรมากกว่า เราจึงกระทำเพียงปานกลางตามกำลัง วีดีโอเทป ช่างทำให้ใจหวาดกลัวต่อภพภูมิเดรฉานยิ่งเกิดมายังไม่ได้ทำความดีเลย มากที่สุดที่ทำได้ก้คือ ตั้งใจอุทิสชีวิตแก่ผู้อื่น หากมีเหตุที่ต้องลงสู่ภพนั้น ขอข้าพเจ้าจึงมีเจตจำนงเช่นนั้นในวาระนั้น มีสติบริบูรณ์ไม่หวาดกลัวต่อมรณะกาลด้วยเทอญ

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2011
  18. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    โมทนาครับ
    ท่านเอง กล่าวเองนะครับว่าพระพุทธเจ้าตรัสห้าม ตรัสสอนเช่นไร ให้ทำอย่างนั้น
    ก็ พระพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่องศีลข้อที่ ๑ ไง ละครับ แล้วทำไมไม่ดำเนินรอยตามละครับ ทำไมเราๆๆๆๆทั้งหลายต้องมาบอกว่า เราไม่ได้ฆ่า เราแค่กิน ....ล่ะครับ
    จริงๆๆๆแล้ว ถ้าอธิบาย ชื่อกระทู้ " ไม่ได้ฆ่า แต่กินเนื้อสัตว์ บาปไหม " ว่า...
    ปาณาติบาต คือ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ นั้นจะผิดศีลก็ต่อเมื่อประกอบด้วย องค์ ๕ คือ
    ๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
    ๒. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
    ๓. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า
    ๔. อุปกฺกโม พยายามที่จะฆ่า
    ๕. เตน มรณํ สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
    ก็ถ้าไม่ได้อยู่ใน ๕ ข้อนี้ก็ไม่น่าจะบาปนะครับ แต่อย่าลืมนะครับ เวลาที่สัตว์ใหญ่กลัวมากๆๆๆ เวลาจะโดนฆ่านั้น มันจะหลั่งสารเคมีที่เป็นพิษ(จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร) ออกมาในร่างกายของมัน แล้วเราๆๆๆทั้งหลายก็บริโภค เนื้อนั้น สารเคมีนั้นก็จะมาสะสมในร่างกายเราๆๆ ก็จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่ายนะครับ

    ส่วนเรื่องพระเทวทัตนั้น พระเทวทัตเอง ท่านต้องการเอาชนะพระพุทธเจ้านะ เลยขอให้พระสงฆ์ ปฎิบัติ ๕ อย่าง คือไม่ฉันเนื่อสัตว์เป็นต้น
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสห้ามแล้วให้เหตุผลว่า
    1.เนื้อสัตว์ไม่ใช่ของเหม็น อกุศลกรรมต่างหากที่เป็นของเหม็น
    2.พระต้อง ควรเป็นผู้เลี้ยงง่าย
    3.อนุญาติในการกินเนื้อสัตว์ที่ -ไม่เห็น -ไม่รู้ -ไม่ใช่เนื้อที่ฆ่าโดยเฉพาะให้ตน
    4.อาหารเป็นแค่ของเลี้ยงกายไม่ให้ตาย อย่าสนใจมาก

    ส่วนเรื่องการฉันอาหารของพระสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์ หรือพืชผักผลไม้นั้น
    พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติว่า ให้พิจารณาอาหารเหล่านั้นให้เป็นธาตุทั้ง ๔ ก่อน ถึงฉันได้ แต่ถ้าไม่พิจารณาให้เป็นธาตุทั้ง ๔ ต้องอาบัติ(ผมจำไม่ได้ว่า อาบัติอะไร) อันนี้ต้องให้พระที่บวชมาตอบต่อนะครับ

    สรุป ในกรณีฆราวาสนะครับ ไม่เกี่ยวกับพระสงฆ์นะ ทั้งคนฆ่าและคนกิน ก็แบ่งๆๆๆๆกันไปนะครับ ตามความเหมาะสม ที่ผลกรรมจะแสดงผล นะครับ

    การกินเจนั้น ขอบอกว่าไม่ได้บุญนะครับ เสมอตัว และผมเองก็คิด คนกินเจบางท่าน เขาไม่น่าจะยกตนข่มใครเลยนะครับ เขาแค่พยายามอธิบายแทนสัตว์น้อยใหญ่ที่ มนุษย์(ผู้ประเสริฐ) กำลังกินเขา ว่า อย่ากินฉันเลย สงสารฉันมั้ง ฉันไม่อยากตาย เท่านั้นเอง

    ส่วนเรื่องเนื้อบริสุทธิ์ ๓ ประการ นั้น พระพุทธเจ้าทรงอนุญาติสำหรับพระสงฆ์ นะครับ เพราะพระสงฆ์ท่านต้องอาศัยชาวบ้าน และต้องเป็นผู้เลี้ยงง่ายนะครับ

    ส่วนฆราวาส มีโอกาสเลือกได้ว่าจะ กินอะไรได้มั้งนะครับ
     
  19. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ข้าเเต่ท่านผู้เจริญ คุณต้นละครับ เห็นคำว่าพยายามอยู่เนาะ เหอๆๆ พยายามแปลว่าตั้งใจ จะทำได้ทำไม่ได้อีกเรื่อง เหอๆๆ
    เห็นยกหลักฐานมาอ้างอิง เข้าใจว่าเรียนพุทธพจน์มาไม่น้อย พระพุทธพจน์ มีตรงไหนที่ท่านตรัสว่า บริษัททั้งหลายหรือส่วนใดส่วนหนึ่งจงอย่าได้บริโภคเนื้อสัตว์ ครับ(ถามเเบบนี้คนที่มีจิตใจแบบนึงอาจคิดว่าผมกวน หรือจะยกพุทธพจน์มาข่ม คนที่มีจิตเเบบนึงก้กะลังคิดว่า ยึดถือมากทิฐิมาก อ้างตำรา หึหึ จิตกุศลก้มี นานาจิตตัง) เอาตรงๆ เรื่องที่ควรตีความว่าพระองค์ไม่ได้บัญยัติห้าม คือ เรื่องที่พระองค์ ตรัสไว้ให้อนุโลม แปลว่า ไม่ได้สำคัญมาก ไม่ใช่ใจความใหญ่ที่พระองค์ห้าม ถ้าชัดมากว่าทำแล้วไม่ดีพระศาสดาผู้มีเมตตาต่อหมู่สัตว์ย่อมทรงตรัสไว้ชัดเจนเเน่นอน พระองค์ตรัสเเก่พระสาวกว่าไม่อนุญาติเนื้อสัตว์สิบอย่างและสามอย่างที่ใจสงสัย(ไม่ว่าได้เหนได้ยินหรือสงสัยด้วยใจ)ว่าฆ่ามาเพื่อเรา ชาวพุทธก้พึงพิจารณาเองเเละปรับใช้เอง มันก้ไม่ได้ยากนี่ครับ เนื้อสิบอย่างเราก้ไม่ได้จำเปนต้องกินเเละเวลาซื้ออาหาร ก้ไม่ได้ไปชี้เอาตัวนี้ๆ เเล้วให้เค้าฆ่าให้ หรือสั่งว่าจงทำอะไรๆ เอาเนื้อนั่นนี่โน่นอะไรให้เราก้พอเเล้ว เพราะถือว่าเราได้อะไรมาขอให้เปนอาหารก้กินไปเท่านั้น
    ประเด็นของผมคือ การกินเนื้อสัตว์ไม่ใช่การฆ่าสัตว์นะครับ คนที่กินเนื้อใจอาจไม่ได้เจือด้วยเจตนาของการเบียดเบียนเลย เเต่คนที่ฆ่าสัตว์ด้วยเจตนาความตั้งใจของเขากระทำความตั้งใจด้วยความเบียดเบียน ไม่เพราะอยากได้ทรัพย์หรือเพราะความโกรธหรือแม้กระทั่งความไม่รู้(มีกิเลส)แน่นอน ผมไม่ไดถือว่าตนดี หรือถือว่าตนไม่มีกิเลสเเล้วกินแต่เมื่อทราบความ(ที่พระศาสดาตรัสกะภิกษุ)อันนั้นแล้ว ผมไม่ฆ่าเเละไม่ใช้ให้คนอื่นฆ่า ใครจะตีความว่ายังไงก็ตาม ผมไม่มีเจตนาจะเอาชีวิตใคร เพราะว่าพระพุทธเจ้าสอนว่าอย่างงั้น จะได้เนื้อนั้นมาไง ก้ไม่ทราบเหมือนกัน จะคิดปรุงแต่งไปทำไมว่าสัตว์นี้ตายด้วยน้ำมือใคร ตายอย่างไร เพราะสิ่งนี้เปนชิ้นส่วนนี้ เปนอดีตก้ละไปเเล้ว มีก้กินไมีมีก้ไม่กินไม่ได้ไปใช้ให้ใครฆ่ามาให้กิน เเละไม่ได้ฆ่ากินเอง ก็จบครับ
    เวลาไปซื้ออาหารก้คือไปซื้ออาหารเค้าจะใส่อะไรมาก้กินไป เท่านั้นเอง ไม่ได้เเสวงหาร้านพิเศษใครชวนไปไหนกินไรก้ไป มีก้กินไม่มีก้ไม่กิน

    เเละผมก้ไม่ได้ว่าใครยกตนข่มใครแต่ถ้าผมมีวัตรปฏิบัติแบบนั้นผมคงจะลูบคลำวัตรนั้นชื่นชมและรุ้สึกว่าตนเหนือกว่าคนอื่นเท่านั้นถ้าใครทำแล้วสำหรวจใจว่าไม่มีก้ไม่มีสิครับ

    เกณฑ์การวินิจฉัยของศีลมิได้มีเพื่อวินิจฉัยว่าบาปหรือไม่ เเต่เป็นเกณฑ์ที่มีไว้ว้นิจฉัยว่า กรรมระดับใดทำให้ศีลด่างพร้อยไม่บริสุทธิ์หรือศีลนั้นขาดไปเเล้วนะครับ การกระทำกรรมใดล้วนเเล้วแต่มีผลทั้งสิ้นแต่จะได้รับมากน้อยขึ้นกับหลายปัจจัย คุณต้นละเองก้คงทราบดี(จริงๆเเล้วเราชาวพุทธที่พอจะเข้าใจพุทธวจนะบ้าง(ไม่ได้บอกนะครับว่าตัวเองเก่งเรียนมาเยอะเด๋วจะหาว่ายกตัวมีมานะเหอๆ ผมเปนปุถุชนคร๊าบบ เวลาพุดในที่ที่มีผู้รุ้มากต้องระวังวาทะนิสนึง555) หรือแม้ไม่เเจ่มเเจ้งเเทงตลอด ไม่พึงแบ่งเเยกบาป ขอเรียกว่ากรรมดีกรรมไม่ดี(กรรมอันชั่ว)ดีกว่านะครับ เรียกบาปอาจเข้าใจกันไปคนละบาปอีก) การกินเนื้อสัตว์ด้วยเจตนา ไม่ใช่กรรมชั่วหากไม่มีเจตนาชั่ว แต่การฆ่าสัตว์หรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่าสัตว์ด้วยเจตนาเป็นกรรมชั่วเเน่นอนครับ

    คุณต้นละครับ พระศาสดาตรัสสอนเหตุแห่งการเกิดบุญไว้สิบประการ หากกรรมใดเข้าได้เเละมีเจตนาในสิบอย่างนั้นผู้กระทำกรรมนั้นๆย่อมได้บุญที่เขากระทำ การกินเจ ก้ได้บุญครับถ้าเขาวางใจไว้ถูกเเละมีเจตนาดี เเต่มาทางกรรมใดก้ไปเทียบเคียงเอาว่าเข้าได้กรรมบุญกริยาวัตถุใด เจตนาเเห่งจิตย่อมเหนได้ยากด้วยปุถุชน เรา(หมายถึงผมอ่ะนะ)ครับจึงไม่พึงว้นิจฉัยเเต่ให้ผุ้กระทำนั้นเทียบเอาว่าเข้าได้กับเเบบใด นี่ก้พระศาสดาตรัสไว้นะครับธรรมใดที่เข้าได้กับสิ่งที่ควรที่พระองค์เคยบัญยัติและที่เข้าได้ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นก้ควร พิจารณาเเล้วเหนควรประการใดก้ตามเเต่ใจท่านเถิด
    คุณหรือใครจะกินไร ผมก้ไม่ได้ห้ามหรือว่าไร เเค่เเสดงความคิดเหนเฉยๆว่าคิดไง
    ข้าเจ้าเพียงผ่านมาและผ่านไป วาทะที่กล่าวไปก้เปนจิตที่ปรุงแต่งสัญาเก่า ไม่ได้มีตัวตนหรือ เเก่นที่น่ายึดถือเลย พระศาสดาก็ทรงดับขันธปรินิพพานแล้ว จงอาศัยโยนิโสมนสิการเถิดกัลญาณมิตร หึหึ
    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2011
  20. acspclubs

    acspclubs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +579
    ง่ายๆนะครับ พระอริยสงฆ์อันดับชั้นแรกคือ พระโสดาบัน

    ศึล 5 ต้องบริสุทธิ์ ถ้าคุณยังกินเนื้อสัตว์อยู่ศีลคุณจะบริสุทธิ์ไหม

    แล้วที่อ้างๆกันว่าไม่ได้ฆ่า แค่ กิน

    แต่ถ้าคุณไม่กิน จะมีคนฆ่าไหม?

    สั้นๆนะครับ

    *อนุโมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...