ใครรู้สึกบ้างครับว่าช่วงใกล้เกิดภัยใหญ่นี้บำเพ็ญธรรมได้ง่ายกว่าปกติ

รู้สึกค่ะ ว่าผลการปฎิบัติธรรมเร็วและพัฒนาขึ้นอย่างมาก
น่าจะเป็นเพราะเหลือเวลาน้อยเต็มที ทุกเวลาจึงมีค่าเสมอ
อีกทั้งเห็นการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงทั้งเร็วและแรงมาก
เป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมให้เจริญมรณานุสติได้ง่ายและชัด เห็นกฎของไตรลักษณ์ชัดเจนมากๆ

เห็นเพื่อนบ้านได้รับภัยพิบัติ มักจะสมมุติเสมอๆว่า ในเวลาอันใกล้ ไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่งเราเองอาจจะตายแบบนั้นก็ได้ แต่ถึงไม่เกิดภัยพิบัติก็อาจจะตายด้วยสาเหตุอื่นๆ แต่อย่างไรซะก็จะตายอย่างแน่นอน...
ร่างกายนี้เป็นสมบัติของโลก ต้องคืนโลกไป ก็เหลือแค่จิตดวงนี้ที่จะต้องท่องเที่ยวต่อไป จึงพยายามรักษาใจให้ผ่องใสและมีสติ ถ้าเผลอคิดอะไรที่ทำให้ใจหมอง สติจะเตือนทันที ..กลัวค่ะ กลัวตายตอนใจหมอง จะเสียทีที่อุตส่าห์ขวนขวายปฎิบัติธรรมมาเสียนาน..แต่ลึกๆแล้ว อุ่นใจ เพราะเสบียงบุญที่เตรียมเอาไว้ไม่น้อยเลย ถ้าต้องตายไปเสียคงไม่ลำบากแน่นอน...

แต่เห็นด้วยค่ะ ว่าช่วงเวลานี้ช่วยอย่างมากในการบำเพ็ญธรรม ขออนุโมทนากับการเพียรปฎิบัติธรรมของทุกท่านเช่นกันค่ะ

 

ใช่ค่ะ ช่วงนี้ครูบาอาจารย์เบื้องบน ท่านเมตตามากๆ ในการช่วยดึงและดันให้พวกเรามีความก้าวหน้าในเรื่องของการบำเพ็ญจิต ซึ่งแต่ละคนก็จะพบประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

ขอเป็นกำลังใจในการฝึกปฏิบัติบำเพ็ญจิตของทุกท่านค่ะ

 

ช่วงนี้ก็ปฏิบัติทุกวันครับ เวลาเหลือน้อยเต็มที เร่งๆปฏิบัติกันครับ

 

คิดว่ารู้สึกไปเองเสียอีกนะคะ ปกติปฏิบัติก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีสติ
แต่ช่วงนี้ไม่ได้ปฏิบัติเลยแต่พอไปวิ่งออกกำลังกายรู้สึกถึงการหนัก การเค้น การว่างชัดมาก
เมื่อก่อนตอนเดินจงกรมยังไม่รู้สึกขนาดนี้เลยนะคะ

>>>> สังเกตบ้างมั้ย ว่าเหมือนเวลาผ่านไปเร็วขึ้นแต่ร่างกาย(กาย)ไม่รู้ตัว

 

ผมฝันถึงภัยพิบัติน่าจะเกิน 20 คืนแล้วครับ
มีคืนนึง ฝันเห็นภาพชัดเจนมาก และ มันรุนแรงมากเกินจินตนาการ
ผู้คนกรีดร้องวิ่งหนีตายกันอลหม่าน..

อยู่ๆ ก็มี ชายชราท่านหนึ่ง รูปร่างกลางๆ สุงประมาณ 160
ผมเกรียนสีดอกเลา หงอกๆ พอควร
เดินเข้ามาขนาบข้าง ขณะที่ผมกำลังหันซ้ายหันขวามองภาพด้วยความตกใจ(แต่ไม่ได้วิ่งไปไหน)
ชายชราท่านนั้นบอกว่า ดุไว้นะ มันจะเกิดแบบนี้ ที่นั่นที่นี่ ๆๆ... (ผมจำไม่ได้ ว่าที่ไหนบ้าง ตื่นมาแล้วพยายามนึกทบทวนก็จำไม่ได้)

จริงๆ ยังมีอีกหลายภาพ หลายฝัน อีกหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
และมันทำให้ สะบัดอะไรต่างๆ ไปพ้นจากการยึดจับได้ทันที
รักษาศีลได้ดี ง่ายขึ้น ปฏิบัติก็ง่ายขึ้นตามที่เจ้าของกระทู้ว่านั่นแหละครับ


โลกที่เคยมอง ก้เปลี่ยนไปมากมายอีกเช่นกัน

 

ท่านมาแนะสอนแบบตัวต่อตัว เข้มข้น
จากที่เหลวไหล เอาแต่ขี้เกียจ ผลัดเวลาผลัดวัน
แม้การถือศีลต้องเคร่ง แต่งหน้า ทาแป้งเด็ก สบู่ที่มีกลิ่นไม่ได้
กินอาหารมีเวลา มีกำหนด/เลืิอกกิน....

 

คิดไม่ดีกับใคร เป็นมโนกรรม ท่านให้สมาทานศีลใหม่ทันที

 

เป็นเหมือนกันครับ ปัจจุบันเริ่มเข้าใจเหตุปัจจัยต่างๆ ได้มากขึ้น เข้าใจปัญหาธรรมได้ง่ายขึ้น
จะเร่งรัดทั้งทาน ศีล ภาวนา เจริญสติ เพื่อให้เกิดปัญญาโดยเร็ว

สติมา ปัญญาเกิด