ธรรมชโย วัดพระธรรมกาย จริงๆแล้วเป็นใคร??มีคำตอบ..

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย maxgatod, 16 มกราคม 2011.

  1. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +3,637
    [​IMG]

    แต่ถ้าสัญญาลักษ์แบบนี้ มีทุกวัดในประเทศไทย
     
  2. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ถ้าบรรพบุรุษไทย เป็นคนเช่นคุณ สถาปัตย์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม

    ประเพณีอันดีงามทางพุทธศาสนาของไทย คงไม่เหลือให้เห็นเช่นทุกวันนี้ สงสัย

    จะเป็นแนว เอเลี่ยนทุกทิศทั่วไทยแน่นอน นึกถึงภาพแล้ว บอกตรงๆ ว่าสยอง
     
  3. tepamorn

    tepamorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    786
    ค่าพลัง:
    +1,081
    ขอโทษครับที่เข้ามาตอบผมเจริญวิปัสนาไม่เป็นหรอกครับ
    แต่ถ้าเจริญวิปัสนาแล้วปากดีแบบคุณผมก็ไม่เอา
    แล้วอย่ามาเหน็บผมอีกนะครับล่วงเกินไปก็ขออภัย
    แต่อย่ามาสอนหรือเหน็บผมขอร้องไม่ชอบครับ....
    เข้าใจนะครับว่าจบอย่ามาสอนหรือเอาผมไปเกี่ยวอีกนะท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2011
  4. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    613
    ค่าพลัง:
    +683
    ครับผม แค่คุณเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรผมก็โอเคแล้ว

    ถ้าคุณแยกแยะได้ตั้งแต่แรก ก็คงไม่ต้องมานั่งเถียงกัน

    ผมล่วงเกินอะไรก็ขออภัยและกันนะครับ
     
  5. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    613
    ค่าพลัง:
    +683
    ][​IMG]

    [​IMG]

    มีทั้งจานบิน มีทั้งดวงดาว สัญญาลักษ์ สอดคล้องกันมาก





    ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร ตอนนี้ชักเริ่มเอะใจแล้วสิ

    เกี่ยวกับการล้มล้าง กลืนกิน

    ตราสัญญาลักษ์เหมือนเหมือนลัทธิ

    คงไม่ไช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2011
  6. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,035
    พยายามจังเนอะ เอาเหอะ
     
  7. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +3,637
    พวกเราไม่ได้เงิน ไม่ได้ทอง แต่ไม่ต้องการไห้พุทธศนิกชนหลงผิด

    ไปได้ที่นั่น แต่อยากไห้ยึดพระพุทธเจ้า เอาไว้ในใจเป็นสิ่งสำคัญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 เมษายน 2011
  8. มัธฌิมา

    มัธฌิมา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    ครับ

    ผมว่ากำนันพูดถูก
     
  9. มัธฌิมา

    มัธฌิมา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    q

    ผมว่าก็จริงของคุณ NuJulie
     
  10. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +3,637
    เห็นด้วยครับผม
     
  11. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +3,637

    ...................................................
     
  12. ธรรมเกิน

    ธรรมเกิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +140
    ข่าวด่วน! อเมริกา กำลังส่งตัวแทนผ่านประเทศไทย เพื่อติดต่อสื่อสารกับจานบินที่ร่อนลงจอดแถวปทุมธานี เพื่อพบปะกับเอเลี่ยน ใส่ชุดอวกาศสีเหลือง ตาโต หัวกลมๆ โตๆ เพื่อศึกษา หาวิธีการเดียวกับ จานบินเรื่อง มอมเมาประชาชน ว่าทำวิธีการใด ถึงหลอกเอาเงินจากประชาชนไปได้ เพราะอเมริกาถังแตก เก็บภาษีไม่พอ ต้องหาวิธีที่จะหาเงิน เลยต้องมาปรึกษา...เอ๊าาาา ฮาาาา
     
  13. น้องศรีเหวิ่ง

    น้องศรีเหวิ่ง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +24
    สำหรับธงของวัดก็มาจากแนวคิดธรรมดาค่ะ

    แนวคิดเหมือนวัดทั่วๆไปค่ะ

    ในวัดมีอะไรเด่นก็ใช้อันนั้นเป็นสัญลักษณ์
    บางวัดใช้พระพุทธรูป บางวัดเป็นธรรมจักร
    บางวัดเป็นลูกนิมิตร บางวัดก็เป็นเจดีย์

    วัดพระธรรมกาย มีมหาธรมกายเจดีย์ เป็นที่สะดุดตา
    วัดก็เลยใช้เจดีย์เป็นตราธงของวัด
    ตัวเจดีย์นั้นก็มีสีเหลือง
    สีอะไรตัดสีเหลืองดีที่สุด? ก็คือสีแดง
    จึงใช้พื้นสีแดง แล้วก็ตัดขอบขาว ธรรมดาๆ

    ไม่ต้องออกแบบวิจิตรการตาอะไรมากมายค่ะ ดูพื้นฐานดีด้วย
     
  14. ธรรมเกิน

    ธรรมเกิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +140
    การที่จะทำอะไรควรดูตามความเหมาะสมด้วยนะครับ วัดมาจากไหนละครับ มาจากศาสนาพุทธใช่หรือเปล่า ผมว่าน่าควรที่จะยึดรูปแบบต่างๆจากสิ่งที่เคยมีมา อย่ามัวมองแต่การตลาดเลย เพราะนี่เป็นเรื่องของศาสนา ไม่ใช่เรื่องการตลาด ที่จะต้องให้ทุกคนเข้าใจว่า เห็นธงนี้แสดงว่ามาจากไหน เหมือนกับสิ่งที่ทำอยู่ การตลาดทั้งนั้น...ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างใหญ่โต เพื่อเน้นความยิ่งใหญ่ หาเงินเข้ากระเป๋าใครก้อไม่รู้..แต่อ้างพุทธศาสนาเข้ามา อ้างสวรรค์เข้ามา สารพัดจะอ้าง เพื่อเงินทั้งนั้น...ส่วนที่ทำไป จะผิดหรือถูก ผมเชื่อว่า...สวรรค์มีตาครับ สักวันคงรู้ได้ด้วยตัวเอง:':)'(
     
  15. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +1,870
    555 ก็พยายามจะหยุด จะทำอะไรต่างๆนานา

    จนปัญญา ก็โยงไปเรื่องจานบิน

    เดี๋ยว ปลายปี 2012 เขาก็มาแล้ว ลงจอดมาที่

    วัดธรรมกายแล้วจะอึ้ง
     
  16. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +1,870

    สงสัยจะต้องส่งคุณพรานป้า ไปเรียนศิลปะกันใหม่

    นี่ก็คือรูปจักรที่มองจาก top view

    ของธรรมกายก็เป็นแบบ side view

    ความหมายก็คือการแผ่ไพศาลของพระพุทธศาสนาเหมือนกัน
     
  17. baankvee

    baankvee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +33
    ถ้ามองเผินๆ

    อย่างน้อย ธรรมกาย ก็ทำคุรปนะโยชน์ต่อชาติและศาสนาไว้มาก

    กลับกัน

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->maxgatod<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4268701", true); </SCRIPT>

    ก็ไม่ได้ทำประโยชน์และชาติและศาสนา ได้เพียง เสี้ยวหนึ่ง ของธรรมกายเลย

    มื้อไม่พาย เอากายถ่วงน้ำ
     
  18. maxgatod

    maxgatod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +228

    ทำประโยชน์หรือหาประโยชน์กันแน่?หัวหน้าคณะ และพรรคพวกรวยกันเป็นแถว

    แน่จริง เชิญไปอยู่ภาคใต้ สัก1พรรษา

    ตัดสะ ชื่อเสียง เครื่องลาภสักการ คำสรรเสริญเยินยอ สื่อต่างๆ

    ที่ทำการโฆษณา มีพลังจิตจริง รู้นั้น รู้นี้จริง เห็นอดีต อนาคตจริง

    เห็นพูดออกไมค์อยุ่ทุกวัน

    ไปช่วยภาคใต้หน่อย เอาบารมี ที่มีอยู่ ไปสร้างความสงบหน่อย

    เอาไห้ได้สัก ขี้เล็บ ของหลวงปู่ทวดที่เหยียบน้ำทะเลจืด

    ไปดูสมัยหลวงปู่ ทวด ท่านอยู่ ด้วยพระบารมีของพระโพธิสัตว์

    สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สงบ ร่มเย็น

    มาสมัยนี้ ก็ไปดูหลวงพ่อฤษีลิดำ ท่านลงไปนับครั้งไม่ถ้วน ไปสร้างวิหาร สร้างโบส์

    ไปอยู่กับทหาร แล้วบอกทหารด้วยว่า วันไหนจะโดนกลุ่มทำลายชาติ

    เข้าโจมตี ไปหาอ่านสะหนังสือพระเมตตา ที่หลวงพ่อท่านเขียนไว้

    เล่าถึงเกี่ยวกับภาคใต้ ด้วยบารมีของหลวงพ่อฤษี ก็ดับไฟ้ร้ายได้ไห้ร่มเย็นลงได้

    สมัยที่หลวงพ่อท่านมีชีวิตอยู่ ท่านเอาตัวเข้าแลก ขึ้นเครื่องบิน บินอยู่กลางกลุ่ม
    ผู้ก่อการร้ายเลย แล้วก็บอกกับทหารด้วยว่า วันนี้ไปไหนได้ วันนี้ไปไหนไม่ได้ ทหารก็เชื่อท่าน

    ตอนนี้ เจ้าสำนักธัมมะชัยโย โห้หิ้ว ก็เอาหน่อยสิ ลงไปดูหน่อย

    อย่าเอาแต่มือถือไมค์ ไฟส่องหน้า โชว์ตัว ตามสื่ออินเตอร์เน็ต

    แล้วก็มีชื่อคอบครองที่ดิน มากกว่า 1000ไร่ ไช้ชื่อว่านายด้วย

    ตามที่หนังสือพิพม์ ไปถ่ายเอกกสาร เอามาโชว์หลาไห้ดูกันทั่ว

    หรือไม่ก็ไปหน่อย แถวสุรินทร์ เขมรมันหึ้มๆอยู่ ไช้บารมี ความวิเศษ

    ยั้งรู้อดีต อนาคต ช่วยเหลือชาติหน่อย ทดแทนคุึณแผ่นดินหน่อย

    อย่าเอาแต่ หาผลประโยชน์ โดยไช้กุลโลบายหลอกว่าทำดีบังหน้า

    แต่เบื้องหลังก็คือนักธุรกิจ เสวยสุขอยู่ในเมืองอยู่เลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2011
  19. ธรรมเกิน

    ธรรมเกิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +140
    ขอปรบมือให้ดังๆเลยครับ ... ตรงใจผมที่ซู๊ดดดด... ถ้าหัวหน้าคณะเก่งขนาดนั้น ถอดกายทิพย์มาหาผมที จะกราบตีนงามๆเลย ถ้าทำได้น่ะ...
     
  20. maxgatod

    maxgatod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +228
    THURSDAY, FEBRUARY 08, 2007
    ยักยอกเงินบริจาควัด ปราชิก แต่ ไม่ยอมสึก???
    ศาลสั่งจำหน่ายคดีวัดพระธรรมกาย หลัง อสส.ยื่นคำร้อง ขอถอนฟ้อง“พระธัมมชโย” กับศิษย์ ฐานยักยอกเงินบริจาควัดกว่า 35 ล้าน ยกเหตุจำเลยคืนเงินวัดกว่า 950 ล้าน ทั้งยังเผยแผ่ศาสนาตามพระไตรปิฎก ตามพระลิขิตพระสังฆราชแล้ว ขณะที่คดีธรรมกายอีก 3 สำนวน อัยการพร้อมยุติคดีสั่งไม่ฟ้อง

    เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ศาลโดยนายสุนพ กีรติยุติ ผู้พิพากษาอาวุโส และองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์ มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องในคดีดำหมายเลขที่11651/2542 และคดีดำหมายเลข 14735/2542 ที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย หรือนายไชยบูลย์ สิทธิพล อายุ 62 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และนายถาวร พรหมถาวร อายุ 57 ปี ลูกศิษย์คนสนิท เป็นจำเลยที่ 1-2

    ทั้งนี้ เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานและสนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานและสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น

    โดยร่วมกันยักยอกทรัพย์ และเงินบริจาคของวัดพระธรรมกาย จำนวน 6.8 ล้านบาท ไปซื้อที่ดินเขาพนมพา ต.หนองพระ อ.วังทรายมูล จ.พิจิตร โดยโอนกรรมสิทธิ์ใส่ชื่อนายถาวร จำเลยที่ 2
    และเงินจำนวน 29,877,000 บาท ไปซื้อที่ดินเนื้อที่ 902 ไร่เศษ ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร และ ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ. เพชรบูรณ์ โอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ 2

    คดีนี้เรืออากาศโทวิญญู วิญญกุล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาล เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2549 สรุปว่า ตามที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสอง เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2542 และวันที่ 16 ธันวาคม 2542 ตามลำดับ โดยกล่าวหาว่า จำเลยทั้งสองกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันกระทำผิด

    โจทก์ขอเรียนว่า การดำเนินคดีนี้สืบเนื่องจากจำเลยที่ 1 กับพวก ไม่ปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่มีว่า ความบิดเบือนพระพุทธธรรมคำสั่งสอน โดยกล่าวหาว่าพระไตรปิฎกบกพร่อง เป็นการทำให้สงฆ์ที่หลงเชื่อคำบิดเบือนแตกแยกออกไปกลายเป็นสองฝ่าย มีความเข้าใจความเชื่อถือ พระพุทธศาสนาตรงกันข้าม เป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ทำให้สงฆ์แตกแยกเป็นอนันตริยกรรม มีโทษทั้งปัจจุบันและอนาคตที่หนัก ส่วนที่มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการทำที่ถูกต้องคือ ต้องมอบสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัดทันที ไม่ได้คิดให้มีโทษเพราะคิดในแง่ยกประโยชน์ให้ว่า ในชั้นต้นหากมิใช่มีเจตนาถือเอาสมบัติของวัดเป็นของตนจริงๆ แต่ เมื่อถึงอย่างไรก็ไม่ยอมมอบคืนสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะที่เป็นพระคืนให้แก่วัด ก็แสดงชัดแจ้งว่าต้องอาบัติปาราชิก ต้องพ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัติ ต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับผู้ไม่ใช่พระปลอม เป็นพระด้วยการนำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครอง ทำความเศร้าหมองเสื่อมเสียให้เกิดแก่สงฆ์ในพระพุทธศาสนา

    บัดนี้ข้อเท็จจริงในการเผยแผ่คำสอน ปรากฏจาก อธิบดีกรมการศาสนา ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เลขาธิการมหาเถรสมาคม และ เจ้าคณะภาค 1 ว่า ในปัจจุบันจำเลยที่ 1 กับพวก ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนา ตรงตามพระไตรปิฎก และนโยบายของคณะสงฆ์??? ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เป็นที่ยอมรับทั่วไป ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกิจการของศาสนา ทั้งของคณะสงฆ์ ภาครัฐ และเอกชนจำนวนมาก

    สำหรับในด้านทรัพย์สินนั้น ปรากฏว่า จำเลยที่ 1 กับพวก ได้มอบทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งมีทั้งที่ดินและเงินจำนวน 959,300,000 บาท คืนให้แก่วัดพระธรรมกาย การกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ 1 กับพวก จึง เป็นการปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ครบถ้วนทุกประการแล้ว???

    ขณะเดียวกัน ขณะนี้บ้านเมืองต้องร่วมกันสร้างความสามัคคีของคนในชาติทุกหมู่เหล่า เห็นว่าหากดำเนินคดีกับจำเลยทั้งสองต่อไป อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในศาสนจักร โดยเฉพาะพระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั้งในและต่างประเทศ ที่นับถือศาสนาพุทธ และไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ

    อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งให้ถอนฟ้องคดีนี้ ดังนั้น โจทก์จึงขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้ทุกข้อกล่าวหา ขอศาลโปรดอนุญาต เมื่อศาลได้สอบถามว่าจำเลยทั้งสองจะคัดค้านหรือไม่ ซึ่งจำเลยทั้งสองแถลงว่า ไม่คัดค้าน พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสอง ก่อนศาลมีคำพิพากษา โดยอ้างเหตุดังข้างต้น เมื่อจำเลยทั้งสองไม่คัดค้านที่โจทก์ถอนฟ้อง จึงมีเหตุสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยทั้งสอง ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 ศาลจึงอนุญาตให้ถอนฟ้องจำเลยทั้งสองและจำหน่ายคดีของโจทก์ออกจากสารบบความของศาลอาญา

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ได้มีการสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างการสืบพยานจำเลย ซึ่งที่ผ่านมามีการสืบพยานไปแล้วเกือบ 100 ครั้ง เหลือการสืบพยานอีกเพียง 2 ครั้ง ในวันที่ 23-24 สิงหาคม นี้ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อธิบดีอัยการคณะกรรมการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า การถอนฟ้องคดีก่อนศาลจะมีคำพิพากษา สามารถทำได้ ซึ่งในอดีตอัยการสูงสุด เคยยื่นคำร้องขอถอนฟ้องแล้วเช่น ความผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ คดีกบฏ ผู้ก่อการร้าย

    สำหรับคดียักยอกทรัพย์วัดพระธรรมกาย ที่อัยการยื่นฟ้องต่อศาลอาญามีเพียง 2 คดีเท่านั้น คงเหลือสำนวนคดียักยอกทรัพย์ที่รอการสั่งคดีในชั้นอัยการอีก 3 สำนวน ได้แก่
    - 1.คดีที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ นางกมลศิริ คลี่สุวรรณ และนายมัยฤทธิ์ ปิตะวนิค ลูกศิษย์คนสนิท เป็นผู้ต้องหา ซึ่งถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันเบียดบังนำเงินวัดจำนวน 95 ล้านบาทเศษไปซื้อที่ดิน
    - 2.คดีที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ นางสงบ ปัญญาตรง นายมัยฤทธิ์ ปิตะวนิค และนายชาญวิทย์ ชาวงษ์ ลูกศิษย์คนสนิท เป็นผู้ต้องหา เบียดบังเงินจำนวน 845 ล้านบาทเศษ และ
    -3.คดีที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ร่วมกับนายเทิดชาติ ศรีนพรัตน์ นายมัยฤทธิ์ ปิตะวนิค และนางอมรรัตน์ สุวิพัฒน์ หรือสีกาตุ้ย ลูกศิษย์คนสนิท ผู้ต้องหา ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารและสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

    โดยเมื่ออัยการสูงสุดมีนโยบายให้ถอนฟ้อง การสั่งคดีของพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 ก็จะต้องมีความเห็นให้ยุติการสั่งคดีไว้ เนื่องจากการดำเนินคดีจะไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ข้อ 78 และ 128 โดยเมื่อยุติการสั่งคดีก็ต้องถือว่าคดีนี้สิ้นสุดลงตามกระบวนการทางกฎหมายทันที ซึ่งจำเลยทั้งสองได้คืนที่ดินและเงินที่ก่อความเสียหายรวมมูลค่า 959,300,000 บาท ให้แก่วัดพระธรรมกายแล้ว


    .......คืนเงิน คืนที่ดิน แล้วศาลสั่งไม่ฟ้อง เรื่องทางกฏหมายยุติ

    แต่ทางพระธรรมวินัย โขมยเงินคนอื่น มีค่าเท่ากับหนึ่งบาทขึ้นไป

    ก็ขาดจากความเป็นพระแล้ว อาบัติปราชิกแล้ว

    แล้วนี่ เงินตั้งหลายสิบล้าน เอาไปแล้ว อาบัติปราชิกแล้ว

    อาบัติตัวนนี้ แก้ไม่ได้ หรือปลงอาบัติไม่ตกแล้ว ทำไง

    ต้องสึกอย่างเดียวเท่านั้น ย้ำต้องสึกไปเป็นคนธรรมดา

    คุณธรรม ความดี ที่ใจครองอยู่ ไม่พอที่จะครองผ้าเหลืองได้

    ก็พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า บอกไว้ชัดเจน

    จะเอาอิธิพล บารมมีที่มีตัวเองที่มีอยุ่ ทำไห้คนไม่กล้า ไปทำอะไร

    ไม่กล้าไปแตะต้อง..เอาล่ะ

    คุณธรรม จริยธรรม บาป กรรม ไม่เกรงกลัวแล้วรึ

    ก็ไม่ว่ากัน แต่ผมเชื่อในเรื่อง บาป กรรม

    ชีวติมนุษย์นั้นสั้นนัก

    แต่สัมปรายภพ หรือโลกหน้านั้นยาวนาน

    ดังที่ พยายมราช เคยบอกไว้ กับหลวงพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบว่า

    พวกเขา คนเหล่านั้น ไม่รู้หรอกว่า พอสิ้นลมลงไปแล้ว

    พวกเขาจะไม่มีวัน กลับมาไช้ชีวิตแบบนี้อีก

    ก็พยายมราช เป็นผู้พูด แล้วพยายมราช อยู่ที่ไหน ก็คิดเอาเองแล้วกันนะครับ

    วันนี้เสวยสุขอยู่ ก็ไช้ชีวิตไป ถ้ายังดันทุรังอยู่นานเท่าไหร่

    ก็เพิ่ม อกุศลกรรมไห้กับตัวเอง มากขึ้นทุกวัน....

    อาบัติ แปลว่า บาป หรือ กรรมชั่ว

    ปราชิก 4 เมื่อพระภิษุ ได้กระทำ หรือละเมิด แล้ว ต้องสึกอย่างเดียว

    1 ลักทรพย์ 2เสพเมถุนธรรม 3 อวดอุตริมนุษย์ธรรม 4 ฆ่ามนุษย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...