เมื่อสามีขอเลิกเพราะรักหญิงอื่นที่คุยกันทางmsn

ครอบครัวเราสงบสุขมานาน จนกระทั่งมีลูก สามีก็เปลี่ยนไป เริ่มแชท นัดเจอ แล้วก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับผู้หญิงใหม่ ยอมทิ้งทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเราหรือลูก ทำไมเค้าทำได้คะ เศร้ามากๆเพราะเมื่อเรารู้ความจริงสามีก็ขอเลิกทันที
ควรทำไง ให้เค้าไปมีความสุขใหม่เลยงั้นเหรอ สับสนจัง แล้วลูกหล่ะเค้าไม่สนใจเลยเหรอ
เราไม่ได้ผิดอะไรเลยทำไมผู้ชายเค้าถึงทำกับเราได้

ส่วนผู้หญิงก็รู้ว่าเค้ามีครอบครัวแล้วยังไม่ยอมเลิก พูดแต่ว่าเรารักกันไม่มีอะไรทำให้เลิกรักได้
ส่วนเราจำใจรับตำแหน่งม่ายลูกติดที่สามียัดให้ทั้ง ๆที่รักเค้า เศร้าจัง

 

การที่คนเราดีมาตลอดชีวิต แล้วทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ ไม่เข้าใจ
ศีลข้อ 3 เป็นศีลข้อที่สามารถปฏิบัติได้ง่ายที่สุด(สามีเคยกล่าวไว้)
แต่พอผิดศีลข้อนี้แล้วทุกสิ่งสลายหมด ไม่ว่าความสุข ความไว้เนื้อเชื่อใจ
เราต้องเข้มแข็งอยู่กับลูกให้ได้ใช่มั้ย
ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม

 

"ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ"
​

 

ผู้หญิงที่รู้ว่าตัวเองเป็นมือที่สาม แล้วยังไม่หยุดทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก นี่เราควรทำกับเค้ายังไงดี

 

เป็นกำลังใจให้นะคะ..สู้ๆค่ะ

 

ครับตอนนี้คุณคงทุกข์ใจมาก แต่สิ่งที่จะช่วยได้อย่างมากตอนนี้คือการทำใจยอม
รับความเป็นจริง ใครจะอยู่ใครจะไปเราห้ามเขาไม่ได้ ถ้าเขาจะไปจริงๆ ไม่ว่าคุณ
จะเสียใจมากน้อยเขาก็ต้องไปอยู่ดี ถ้าคนจะต้องอยู่ด้วยกันเกลียดกันทะเลาะกัน
จะเป็นจะตายก็ต้องอยู่ด้วยกัน ดังนั้นสิ่งที่คุณควรเตรียมใจคือเมื่อเขาไปแล้วก็
ต้องทำใจให้ได้ เพราะทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเองไม่มีใครเป็นเจ้าชีวิตใคร อยู่
เพื่อจากอยู่แล้วไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้สิ่งที่อย่าได้ขอเลย
ไม่พึงได้ คือ ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย ไมพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก นี่
ขอไม่ได้อย่างไรต้องเกิด และไม่ใช่เกิดกับเราคนเดียวทุกคนเป็นหมดแต่อาจ
แตกต่างออกไป ทำบุญมาวิเศษขนาดไหนก็ต้องพลัดพราก นี่เป็นกฎของ
ธรรมชาติไม่มีใครเขียนบทขึ้น ไม่มีใครทำใครสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณก็เป็นไปตาม
กรรม ไม่มีเรื่องบัญเอิญ คุณไม่ใช่เหยื่อผู้โชคร้าย เขาคนนั้นไม่ใช่ผู้ร้ายที่บังเอิญ
ทำคุณ เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คุณไม่เคยทำเขา เขาก็ทำอะไรคุณ
ไม่ได้ สิ่งที่คุณควรสนใจมากกว่าคือคุณทุกข์หรือเปล่าและจะดับทุกข์อย่างไร ถ้า
คุณปล่อยให้สิ่งต่างๆ เป็นไปตามกรรมได้โดยไม่ขัดขืนได้ก็ดี แต่ถ้าคุณทำไม่ได้
ก็พยายามแก้ไขสิครับคุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าเขาต้องการที่จะทำอย่างไร คุณต้อง
การที่จะทำอย่างไร คุณมีสิทธิ์ไม่เห็นด้วย เขาก็มีสิทธิ์ที่ไม่เห็นด้วย หาข้อตกลง
กันใหได้สิครับถือว่าทำเพื่อลูกและทำเพื่อตัวคุณเอง เพราะถ้าทำดีที่สุดแล้วก็ไม่
เสียใจและตำหนิตัวเองไม่ได้ สิ่งที่จะช่วยได้มากตอนนี้คือการเลิกคิดถึงเรื่องที่
เขาและผู้หญิงคนนั้นทำกับคุณ หลายๆ คนก็จะพูดถึงเรื่องพวกนี้ทั้งวันทั้งคืน ว่า
เขากับกับเราแบบนี้บ้าง มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาหรอกครับ เมื่ออยากจะคิด
เรื่องพวกนี้ต้องเตือนตัวเองให้มองเป็นเรื่องของกฎแห่งกรรมจะช่วยได้มาก
มองกลับเข้ามาหาตัวเอง คุณสามารถดับทุกข์ได้นะครับโดยที่คุณไม่ต้องสนใจว่า
คนอื่นจะดีหรือร้ายกับคุณ

 

ใครๆย่ิอมเข้าถึงความเศร้าโศกเพราะเสียของรัก..น่าเห็นใจกับสิ่งที่เกิดครับ..

แต่เอาเถิด ใครจักบังคับใจใครได้เล่า โมฆะบุรุษที่กำลังถูกตัณหาลากจูงไปบันเทิงในบาปกรรมนั้น ย่อมไม่รู้สึกเดือดร้อนเลย แต่ในกาลภายหน้า เขาจะเป็นผู้ที่มีอาการอย่างเดียวกับที่ท่าน จขกท เป็นอยู่ และในตอนนั้น เขาจะตั้งคำถามเดียวกันว่า......

ครับ นี่คือกงเกวียนแห่งกรรม ที่ไม่มีใครอยากทราบ เพราะทราบแล้วก็เท่าักับถูกกล่าวหาว่าตนเป็นคนไม่ดี มาก่อน แต่ใครจะยอมรับหรือไม่ หลักความจริงสากลนี้ย่อมปรากฏอยู่ ไม่ขึ้นกับความเชื่อของใครๆ เหมือนคนที่ต้มน้ำร้อนเดือด แล้วบอกใครๆว่า นี่แน่ะท่าน น้ำนี้ร้อนนะ คนนอกนั้นบ้างก็เชื่อ บ้างก็แลบลิ้น ส่ายหน้าแล้วหลีกไป ..

ท่าน จขกท พึงทราบว่าเรื่องที่ปรากฏนี้ ส่วนหนึ่งมาจากอำนาจจัดสรรแห่งบาปเก่าที่ตนเคยล่วงศีลมา..กรรมได้จัดแจงให้ได้มาพบกับพาลบุรุษที่สามารถกล่าวถึงศีลบางข้อได้แต่ไม่อาจประพฤติตามได้เพราะอำนาจตัณหาราคะที่แรงกล้าสั่งสมมานานจึงอาจหาญทิ้งธรรมของมนุษย์ กอดรัดเอาธรรมของเดรัจฉานมีการสมสู่ไม่เลือก ทั้งทิ้งภาระรับผิดชอบกระทั่งลูกเลือดเนื้อเชื้อไขของตน ไปได้ ท่าน จขกท พึงเข้าใจว่า แม้ในภพหน้าอีกมากมายที่โมฆะบุรุษนี้จะเกิดในตระกูลที่พ่อหรือแม่จะทอดทิ้ง ไม่เหลียวแลเขา เฉกเช่นเดียวกับที่ลูกในปัจจุบันประสบอยู่..

สำหรับท่าน จขกท และลูก บัดนี้คือการใช้วิบากจากกรรมเก่า เมื่อใช้เเล้วลย่อมลดหรือหมดไป..ส่วนโมฆะบุรุษนั้น ย่อมสร้างวิบากที่ตั้งขึ้นโดยฉับพลันทันทีที่ทำกรรมแล้ว ผลนั้นรอปัจจัยเพื่อส่งให้เสวยมีกำลังไม่ใช่๑ครั้งแต่มากมายนับร้อยพันชาติทีเดียว..

ท่านจขกท พึงยุติความเศร้าโศกอันเนื่องมาจากคนชั่วเสีย เพราะ จิตเป็นไปกับบาปใหม่ต่อเนื่อง จะเป็นช่องทางให้บาปเก่าส่งผลอื่นๆมาท่วมทับอีก ให้ถอนความติดยึดในสามี แล้วมุ่งหน้าหาทางเลี้ยงดูลูก ให้ดีที่สุด เมื่อจำเป็นก็คุยกับเขาให้ช่วยค่าเลี้ยงดูบ้าง แต่ไม่พึงหวังอะไรๆจากคนไม่มีศีล เพราะเมื่อไม่มีสำนึกของ"คน" ก็ยากที่เขาจะเลือกทำในสิ่งที่"คน"จะพึงกระทำ..เขาจะทำไปตามสัญชาตญานแห่งเดรัจฉาน เท่านั้น..

ประโยชน์แห่งการคร่ำครวญหวลไห้อาลัยรักในคนชั่ว ไม่มีเลย ควรแต่จะยินดีปรีดาปราโมทย์ที่คนชั่วปลีกตน ไปที่อื่นอันสมควรแก่สันดานอันเสมอกัน เพราะการอยู่ร่วมกับคนพาล ย่อมเป็นอัปมงคล มีแต่ความวิบัติแลฉิบหายแต่ถ่ายเดียว ..

เมื่อท่าน จขกท จะเสียใจก็พึงเสียใจในบาปกรรมที่ตนเองเคยทำไว้ แล้วปรารภว่าตนจะรักษาศีลให้มั่นคงไม่มัวเมาประมาทอีก เช่นนี้ ชื่อว่าเป็นการทำงานของจิตที่เป็นบุญ คือการตั้งหิริโอตตัปปะขึ้น เป็นฐานประคองให้การประพฤติศีลเป็นไปได้ และมั่นคง อานิสงค์ของศีลย่อมยังผู้ประพฤติให้ปลอดภัย เข้าถึงความสุข..เป็นเกราะคุ้มภัยวิเศษกว่าสิ่งทั้งปวง ยังอุปการะให้แม้ในภพหน้าอีกมากทั้งสามารถป็นปัจจัยเพื่อความพ้นทุกขทั้งปวงได้ในที่สุดครับ ..

หากเห็นประโยชน์เพื่อกระตุ้นสามี ผู้อาจมีบุญเก่าสั่งสมมาบ้าง อาจรับสาระจากธรรมะได้ สามารถU-Turn จากกรรมชั่วที่กำลังประกอบอยู่ได้ ก็พึง print out ข้อความนี้ ปะไว้ในที่อันสายตาเขาอาจเห็น..แต่ไม่พึงตั้งความหวังอันใดเกินไป เพราะ ผู้ที่มืดบอดด้วยตัณหาราคะ ย่อมมองไม่เห็นสาระจากสิ่งที่ตรงข้าม โดยเฉพาะ ความมืดบอดย่อมสกัดกั้นปัญญามิให้ปรากฏโดยง่าย บุคคลเหล่านี้..อย่าว่าแต่ print out ข้อธรรมเลย ต่อให้พระพุทธเจ้าก็ไม่อาจเอื้อเฟื้อคำสอนแก่เขาได้ เพราะเขาจะปิดทวารทั้งหมดที่สามารถรับพระธรรมได้ ดังนั้น ท่านจึงพึงเจริญ"กรุณา"แก่ชายผู้อาภัพ(อภัพพสัตว์)ว่า"ขอเขาจงอย่าได้ถึงความทุกข์สาหัสจากบาปกรรมเลย"เป็นต้น..

ขอบุญกุศลที่ท่านจขกท เคยทำมาแล้วในอดีตปกปักรักษาให้พ้นทุกข์เร็วไวนะครับ

 

คุณ ddman...สาธุ อนุโมทามิ _/\_
ขออนุญาตินำข้อความนี้เผยแผ่ เพื่อเตือนสติให้ผู้อยู่ในห้วงแห่งทุกข์ ได้มีกำลังใจในการลุกขึ้นต่อสู้ค่ะ..

 

กรวดน้ำให้เขาบ่อย ๆ "บุญกุศลใดๆที่ข้าพเจ้ากระทำดีแล้ว (นึกถึงบุญกุศลที่เคยทำ) ขอให้ถึงญาติ เทวดาผู้รักษา และเจ้ากรรมนายเวรของนาย.....(ชื่อสามี) และขอให้ถึงศัตรูหมู่มารในทุกภพชาติที่เป็นผู้หญิงชื่อ....(ถ้ารู้จักชื่อมือที่สาม) เมื่อได้รับบุญกุศลแล้ว ขอให้ขาดจากสามีของข้าพเจ้าด้วยเถิด"

กรวดน้ำให้บ่อยๆ วันละหลายครั้ง หากไม่สะดวกให้คิดเอาวันละหลายๆรอบ ตั้งจิตให้มั่นแล้วแผ่ออกไป ดูที่ www.samyeak.com มีวิธีการโอนบุญ ลูกเกเร สามีเกเร โอนบุญให้อย่างไร

ขอให้โชคดีนะคะ ถ้าคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอกค่ะ

 

ขอบพระคุในทุกคำแนะนำค่ะ

กรรมเก่าแน่ๆ เพราะตลอดที่ผ่านมาอยู่ดีมีสุขตลอดและแล้วสามีที่แสนดีปฏิบัติธรรม
เข้าวัดมาตลอดก็ไม่สนใจปฏิบัติอีกเลยเพราะได้เจอเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นผู้หญิงชื่อ...
ที่เค้าป่าวประกาศตัวว่าเค้าเป็นคนดีคนหนึ่ง มีชีวิตที่ดีมาตลอดจนเจอผู้ชายที่แสนดี
(แต่มีครอบครัวแล้ว)คนนี้ และทั้งคู่ก็จะอยู่ด้วยกันเพราะเรารักกัน ไม่ใยดีว่าลูกเมีย
เค้าจะอยู่ยังไง ไม่ใยดีว่าครอบครัวใครจะแตกแยก และไม่ใยดีต่อทะเบียนสมรส
สรุปเราและสามีมาเจอกันเพราะกรรมเก่า และมือที่สามก็มาทวงคืน
ไม่มีใครดีใครเลว กรรมเท่านั้นกำหนด

ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมทั้งที่ตั้งใจ ไม่ต้ังใจ ในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ
ต่อสามีของข้าพเจ้าและเจ้ากรรมนายเวรศัตรูหมู่มารที่เป็นผู้หญิง
ขอให้ขาดจากสามีของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะขอชดใช้ด้วยบุญ

 

แต่ตอนนี้สามีว่าฉันเลวที่สามารถทำทุกอย่างให้เค้ากลับมา
ทั้งๆที่รู้ว่าไม่รักแล้ว จะหน้าด้านยื้อเค้าไว้ทำไม

 

ประโยชน์แห่งการคร่ำครวญหวลไห้อาลัยรักในคนชั่ว ไม่มีเลย ควรแต่จะยินดีปรีดาปราโมทย์ที่คนชั่วปลีกตน ไปที่อื่นอันสมควรแก่สันดานอันเสมอกัน เพราะการอยู่ร่วมกับคนพาล ย่อมเป็นอัปมงคล มีแต่ความวิบัติแลฉิบหายแต่ถ่ายเดียว ..

อนุโมธนาค่ะ อ่านประโยคนี้แล้วมีกำลังใจขึ้นมาก ๆ
ที่ผ่านมาชีวิตพุงสูงมากแล้วก็ตกอย่างรวดเร็วเพราะมัวมาหาคนผิด
มาโทษคนโน้นคนนี้ จากนี้เริ่มใหม่ ใครจะไปตามทางของใครก็ปล่อยเค้าไป
แม้ว่าทางมันจะแสนขรุขระก็ช่างเค้าเลือกเอง
จากนี้เราต้องเลือกทางที่ราบเรียบให้กับตัวเองและลูก

 

ก็เพราะทุกข์ นี่เอง ทำให้เราได้พบสัจจธรรมที่โดยปกติ เมื่อยังสุขสบายกันดีอยู่ ก็ไม่เคยใส่ใจที่จะรู้ จมอยู่ในความมืดอยู่ตลอดเวลา แต่ฉับพลันที่ล้มลงในความมืด ไม่ทันเตรียมเครื่องทำแสงสว่าง จึงทุกข์ยิ่งนักได้แต่ตะโกนโหวกเหวกขอความช่วยเหลือจากภายนอก ...

ผู้ที่อยู่ภายนอก ที่เคยประสบเหตุเดียวหรือคล้ายคลึงกันก็มีใจกรุณา หยิบยื่นแสงสว่างให้ ..ผู้ที่ได้เรียนรู้วิธีกำจัดความมืดก็เร่งบอกวิธี .. ทั้งนี้ทั้งหมดหวังเพียงให้ผู้ที่กำลังทุรนทุรายล้มแล้ว กลับลุกขึ้นยืนได้ ทั้งสามารถเดินออกมาจากความมืดนั้น ก้าวต่อไปด้วยความมั่นคงไม่คลอนแคลน..

ผู้ที่ล้มดิ้นในความมืด บางราย รักที่จะอยู่ในที่มืด บางรายรีบฉวยแสงสว่างที่มิตรทั้งหลายหยิบยื่นให้ รายแรก ก็ได้แต่เพ้อพร่ำจมโศก เป็นที่น่าเวทนาแก่ชนทั้งหลาย ทั้งยังเป็นเรื่องน่าแปลกใจแท้ๆแก่ชาวเราว่าเหตุใดหนอ เธอเหล่านั้นจึงไม่รักตนเลย เหตุใดจึงทำร้ายตนเองแล้วๆเล่าไม่เลิกรา ราวกับเป็นเรื่องสนุก ...โอ้หนอ อำนาจแห่งตัณหาราคะติดยึดในคนอื่นช่างยิ่งใหญ่น่ากลัวยิ่งนัก ขอเราอย่าได้เป็นเช่นนั้นเลย...

แต่เป็นที่น่าปลื้มใจที่ท่าน จขกท เป็นผู้ที่มีปัญญาเห็นสาระในแสงสว่างอันมิตรหยิบยื่นให้โดยพลัน จึงสามารถประกาศเจตน์จำนงอย่างกล้าหาญ ที่จะก้าวหน้าไปทางสว่างว่า..

ขออนุโมทนาในเจตนารมณ์นี้ครับ ขอชื่นชมด้วยใจจริง..อย่าลืมว่าเราทั้งหลาย ย่ิอมมิได้ทำแต่บาปกรรมมาอย่างเดียวในวัฏฏะอันหาที่เบื้องต้นและเบื้องปลายไม่พบนี้ แต่เราย่อมได้เคยทำบุญกุศลมามากมายแล้วเช่นกัน..อาศัยปโยคะใหม่ในปัจจุบัน(การกระทำ) ที่สมควร เป็นไปกับศีล ย่อมเป็นปัจจัยให้บุญเหล่านั้นนำผลมาส่งให้เราได้เช่นกัน..

เมื่อเกิดมาเป็นคน ก็ย่อมมาด้วยกุศลแน่แท้ ไม่ใช่มาด้วยบาปแต่ประการใด การเป็นคนย่อมประเสริฐกว่าสัตว์เดรัจฉาน หรือสัตว์นรก เป็นต้น เพราะยังสามารถทำสิ่งกุศลได้หลายอย่าง คือทานศีลและภาวนา.. แต่สัตว์ในอบาย ถูกทุกข์ครอบงำจนไม่อาจขวนขวายในบุญใดได้ง่าย แม้จะทำได้ก็ยากเเสนเข็ญ ต้องอาศัยรอใครอื่นอุทิศบุญมาให้..ดังนั้น ที่จะพ้นจากอบายภูมิ จึงเป็นของยากอีกเช่นกัน ..ส่วนเราก็พึงใช้ทุนดีที่ส่งมาเป็นคน ต่อบุญเพื่ออย่่างน้อยไม่ไปอบายภูมิ ก็นับว่าประเสริฐนักแล้ว..

อีกประการหนึ่งที่พึงเข้าใจให้ถูกต้อง คือ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของเฉพาะตน ไม่อาจแบ่งหรือโอนกรรมใดๆของตนไปให้คนอื่นได้ เหมือนหนึ่งว่า ตาของเราย่อมเห็นภาพเฉพาะเพื่อเราเอง ไม่อาจแบ่งภาพที่เราเห็นไปให้ใครอื่นได้ หากคนอื่นไม่มีตาหรือตาบอดหรือมีตาแต่ไม่ได้มองภาพที่เรากำลังมอง ก็ไม่ใช่ฐานะที่ใครอื่นจะเห็นภาพนั้น..

ดังนั้น เราเองเท่านั้นที่ทำกรรมอันจะส่งผลเฉพาะเรา เราย่อมไม่ไปนรกเพราะสามีผู้ไร้ศีลนอกใจ เขาต่างหากที่จะได้ไปนรกสมเจตนาของเขา..หรือไปสวรรค์เพราะเขาทำบุญ ..แต่หากเราโกรธแค้นอาฆาตพยาบาทเขาอยู่ นี้ย่อมลากจูงเราไปนรกได้เช่นกัน..

คนหลายคนที่ถูกทุกข์ย่ำยีเอาแล้วย่อมหาทางแก้ทุกข์โดยประการต่างๆ บ้างก็ถูกโทสะบงการให้แก้ทุกข์ด้วยบาปกรรม มีการฆ่า ทุบตีทำร้ายข่มขู่เขา หรือยังความวิบัติมาสู่เขาด้วยวิธีพิศดารจนเกินบรรยาย...เล่นคุณไสย สาปแช่ง ฯลฯด้วยความวิจิตรของกิเลสตัณหานั่นเอง ..

บ้างที่ได้สดับพระธรรม"ที่ถูกต้อง" ของพระพุทธเจ้าก็ย่อมแก้ทุกข์ด้วยปัญญาด้วยวิถีทางอันสงบไม่เบียดเบียนใครๆ เพราะเชื่อมั่นในหลักกรรมและการให้ผล ไม่คิดเร่งเร้าให้อีกฝ่ายหนึ่งฉิบหายด้วยอำนาจพยาบาทวิตก ..ผู้ที่เลือกทางนี้ ย่อมทำได้ไม่ง่ายนัก แต่เมื่อทำแล้ว ผลย่อมไพบูลย์เกษมปลอดภัยทั้งในปัจจุบันและโลกหน้า..คนกลุ่มนี้ จะถูกคนเขลารอบข้างมองว่าเป็นพวกซื่อบื้อหรือโง่งมที่ไม่คิดต่อสู้แบบตาต่อตาฯ แต่ผลของการแก้ไขด้วยสันติวิธี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเห็นของคนบอดเขลาหรือบันฑิต ผลนั้นย่อมปรากฏตามจริงตรงตาม"เจตนา"(=กรรม=การกระทำ)ของตนเท่านั้น...

อีกประการหนึ่ง เมื่อจะคิดถึงบุญกุศลก็พึงน้อมเอาบุญนั้นมาเป็นที่ตั้งแล้วตั้งอธิษฐานว่า "ด้วยอำนาจแห่งกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้แล้ว ขอจงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้ามีศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างยิ่งยวด ขอจงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้อง มีปัญญา มีศีล สามารถพาตนพ้นทุกข์ได้ ทั้งในปัจจุบัน ภพหน้าต่อๆไปจน สามารถพ้นจากวัฏทุกข์ได้ในที่สุด"

การอธิษฐานเช่นนี้ จะเป็นการสั่งสมอุปนิสัยสันดานให้สามารถเดินไปในทางที่ถูกต้อง มีอานิสงค์ยิ่งยวดต่อไปอีกในหลายอัตภาพทีเดียว......ไม่ควรกังวลที่ จะต้องอุทิศบุญอะไรๆให้เจ้ากรรมฯที่ใหน เพราะไม่มี ..ที่แน่แท้ ก็เราน่ะเองที่เป็นนายเวรของตนเอง...คิดดูเถิด ถ้าตนไม่ทำกรรมชั่วมา ที่ใหนจะได้รับผลเช่นนี้ ส่วนนายพาลบุรุษก็เป็นเป็นเพียงอุปกรณ์หรือ เครื่องมือ ที่ทำให้ผลของกรรมมาปรากฏได้ ก็เท่านั้นเอง ลองคิดดูอีกต่อไปว่า เวลานี้ท่านก็ได้มีฐานะแห่งนายเวรของสามีเข้าไปแล้ว..ถ้าว่าท่านจะต้องตามไปเกิดเพื่อนอกใจเขาอีกสิบพันชาติ มันจะไหวหรือ ? ก็แล้วท่านทำบาป๑ที ผลไม่ใช่๑ชาตินี่นา เป็นร้อยพันแสนล้าน หรือถึงกับนับไม่ได้เลย..แล้วไม่ต้องไปนรกหรือ กว่าจะหลุดออกมาจากนรก เกิดสามีบรรลุเป็นพระอรหันต์ แล้วนายเวรอย่างท่านจะไปนอกใจใครอีก ?? ดูไม่มีเหตุผลเลย..ยุติความเชื่อเชนนี้เถิด เป็นแต่ทางเสี่ยงและเสื่อมเท่านั้น..

แต่หากท่านคิดจะอุทิศบุญให้ใครๆด้วยหวังเกื้อกูลให้เขามีความสุข ก็ทำได้และควรทำ..แต่ที่อุทิศไปด้วยเงื่อนไขว่าขอให้เขากลับมา จงกลับมา ตรงนี้ไม่เป็นบุญแล้ว เพราะทำไปด้วยอำนาจของโลภะ ไม่มีผลอะไรๆอย่างที่ใครๆร่ำลือหรอกครับ...กลับกลายเป็นการมีมิจฉาทิฏฐิว่า เรานี้สามารถบัญชาเอาอะไรๆได้ดังใจปรารถนา เพียงด้วยการกระทำอย่างนี้ ไม่อาจคิดได้ว่า สิ่งทั้งปวงมีเเละเกิดได้ด้วยปัจจัยต่างๆที่มาประชุมกัน ไม่เชื่อเรื่องกรรมว่ามีผลจริง เพราะคิดว่าตน"ขอ"เอาได้ตามใจนึก เช่นนี้ก็จะได้สั่งสมอุปนิสัยขี้ขอ ชอบแต่จะขอและไม่ทำอะไร ดังชนส่วนมากในภารตะประเทศ..อะไรทำให้เขาไปเกิดร่วมกันในที่นั้นเล่า??

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งการกระทำ ไม่ใช่อ้อนวอนร้องขอ สอนให้มีปัญญารู้จักเหตุผล ไม่งมงาย ในทุกกรณี..หากยังเป็นพุทธเพียงในทะเบียนบ้าน ก็พึงเร่งศึกษาคำสอนที่ถูกต้องโดยเร็วพลัน ย่อมเป็นการสงเคราะห์ตนเอง เป็นอุปการะแก่ตนที่ยิ่งกว่าอุปการะอันมารดาบิดาจะพึงเอื้อเฟื้อแก่บุตรเสียอีก..



ถ้าว่ามีเจ้ากรรมนายเวรจริง พระเทวทัตทำกรรมหนักแก่พระพุทธเจ้า ท่านต้องรับอกุศลวิบากมากมาย..ทีนี้ถามว่า เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ใครเล่าหนอเป็นเจ้ากรรมนายเวรของพระเทวทัต?


ลัทธินี้นิยมแพร่หลายมาก ดูเหมือนจะใช้apply ได้ในทุกสถานการณ์ หากยังเชื่อหรือนิยมอยู่ก็เท่ากับส่งเสริมสร้างสมสันดานที่จะไปเข้าลัทธินิยมนี้อีก จนตกจากศรัทธาในพระรัตนตรัย บอกตรงๆว่า..น่ากลัวครับ..


ท่าน จขกท น่าจะขอบใจสามีที่เป็นเหตุปัจจัยให้ได้มาอ่านแม้ข้อความนี้ เพราะเพียงอ่านก็ชื่อว่าได้สั่งสมเหตุที่"ไม่ธรรมดา" อันจะมีผลสืบเนื่องอุปการะแก่ท่านเองในอีกมากชาติ..

ขออุทิศบุญจากธรรมทานนี้แก่ผู้มีใจครองทุกท่านครับ..

 

ธรรมทานที่หาได้จากกัลยาณมิตร แม้ไม่รู้จัก ขอบพระคุณอย่างสูง

:boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo:
เป็นเวลานานมากแล้วที่เราเฝ้าเก็บเหตุการณ์ร้ายๆไว้ในจิตใจเพียงลำพังเพียงเพื่อรอวันที่คนดีคนหนึ่งอาจสำนึกแล้วกลับใจ ใคร ๆจะได้ไม่มีอคติต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าพ่อ ของลูก ทำให้เก็บกดมานาน
จนได้พบธรรมทานจากเหล่ากัลยานมิตรที่แม้เราไม่รู้จักกัน
อนุโมธนา ขอให้บุญใด ๆที่ท่านได้แสดงเป็นธรรมทานแก่ข้าพเจ้าผู้โง่เขลาได้ประจักษ์ในธรรม จนเป็นเหตุให้ท่านได้พบเจอแต่สิ่งดีงาม​

 

อดีตของเรา...คงเคยแย่งเขามาอ่ะครับ...
พอมาชาติปัจจุบันเขาก็มมาเอาคืนครับ......

ขอให้ ตั้งใจทำ ทาน ศีล เจริญสมาธิ มากๆนะครับ

 

ในเมื่อสามีของพี่เค้าเป็นแบบนั้น เค้าก็ไม่สามารถเป็นตัวอย่างให้ลูกได้
ตอนนี้เหลือแต่พี่แล้วนะคะ
ขอให้พี่คิดไว้ว่าอยู่เพื่อลูกนะ
พี่ต้องเข้มแข็งให้ลูกดู ทำให้ลูกเห็นว่าพี่อยู่ได้
เชื่อมั่นค่ะว่าลูกพี่จะเข้าใจพี่และในอนาคตเค้าจะเป็นลูกที่ดีที่รักแม่มากๆ

 

"พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี"

คนเราจะทุกข์เพราะว่าไม่พอใจ ถ้าพี่เปลี่ยนเป็นพอใจที่ถูกสามีทิ้ง ทำให้ได้รู้ธาตุแท้ของคน ทำให้รู้ว่าคนที่เราอุตส่าห์ปรนนิบัติมาทั้งชีวิตกลับคิดแบบนี้ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องมาเสียเวลามาดูแลกันอีก เราจะได้มีเวลาให้ตัวเองและลูก เพราะตัวเราเองนี่แหละที่จะอยู่กับเราตลอดไป
หรือนี้อาจจะเป็นเรื่องดีเพราะภายหน้าสามีอาจนำเรื่องเดือดร้อนอื่น ๆ มาให้ก็ได้ ขอโทษนะคะที่พูดแรงไป แต่เจตนาคืออยากให้ลูกผู้หญิงด้วยกันเข้มแข็งและลุกขึ้นสู้ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ

"คนที่มีความสุขไม่จำเป็นต้องมีสิ่งที่เลิศเลอ แต่ทำสิ่งที่ตัวเองมีให้เลอเลิศ"

 

ปล่อยวาง แล้วจะสุขใจ

(ผ่านมาแล้วเหมือนกัน ตอนนั้นลูกแค่ขวบเดียวเอง)

สำหรับตัวเองแล้วไม่เสียใจเลยที่เลิกกัน เพราะคบต่อมีแต่ทุกข์ มีชีวิตอยู่เพื่อลูกดีกว่าค่ะ สุขที่ได้เลี้ยงเขา ได้นอนกอดลูก ได้บอกรักลูกในทุกๆวัน

มุ่งหาความสุขอย่างแท้จริง แล้วคุณจะรู้ว่าสุขใดๆในชีวิตไม่อาจเทียบได้เท่ากับสุขในธรรม สุขโดยที่ไม่มีทุกข์ใดๆอีกแล้ว

 

ขอให้กำลังใจนะคะเราก้อเป็นเหมือนกันผ่านมา 1 ปีแล้วยังเจ็บอยู่เสมอเมื่อลืมตัว ให้คิดว่ามันคือบททดสอบที่ต้องผ่าน ขอใช้คำพระที่ไ้ด้ยินว่า ทุกข์มีไว้เห็น ไม่้มีไว้เป็น และมองให้เห็นวางให้เป็น ทำเช่นนี้คิดเช่นนี้เป็นประจำเราต่างกันตรงที่ มีลูก 3 หนี้ 1 ล้าน และดอกเบี้ยต่างหากรับราชการ ลำบากมาก แต่ต้องผานให้ได้ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

 

จริงอย่างที่คุณว่าทุกอย่าง

สามีของดิฉันก็เป็นเหมือนกับคุณ คือ ครอบครัวที่มีความสุขมานาน พอเล่น msn ก็เปลี่ยนไป ผู้หญิงรู้ว่ามีครอบครัวแล้วก็จะเอา ผู้ชายก็ต้องการ พอเรารู้ความจริงก็ขอหย่า ไม่รับผิดชอบแม้กระทั่งครอบครัว เมื่อไม่หย่าก็พรากลูกไป
1คน เพื่อแลกกับใบหย่า พูดใส่ร้ายต่างๆนาๆ แต่ดิฉันเลือกที่จะถอยออกมาจากความสกปรกเหล่านั้น เขาอยากไปก็ให้เขาไปสมสู่กันให้สาใจ เขาเอาลูกมาแลกใบหย่าก็ช่างเขา เราไม่ทำตามใจเขาเราก็กลายเป็นคนไม่ดี ถ้าเราตามใจเขาเราก็จะกลายเป็นคนดีทันที โดยที่เขาไม่มองเห็นความจริงว่าเขาทำร้าย เมีย ลูก และครอบครัวยังไง เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับคุณค่ะยื้อไว้ก็ยิ่งเหนื่อย
เขายิ่งอยู่กับเราเราก็ยิ่งทุกข์