ไม่ได้ฆ่าสัตว์ แต่กินเนื้อสัตว์ เป็นความผิดบาปไหม??

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย @^น้ำใส^@, 11 เมษายน 2007.

  1. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    ขออภัยมาตอบช้าไปหน่อยนะครับ

    ผมไม่รุ้จัก คุณกร หรืออะไร ออกตัวไว้ก่อนนะ แล้วผมก็ไม่ใช่ ศิษย์คุณกรนะครับ

    ที่ผมเคยโพสว่าช่วยกัน คำแนะนำของเขามีประโยชน์ ให้คนหันมาสนเรื่องเหล่านี้

    แม้จะยังไม่ใช่ที่สุดของการพ้นทุกข์ ก็ยังดีกว่ามา คุยกันแบบ ส่อเสียดไปวัน ๆ ผมก็ไปสาธุกับเขาก็เท่านั้น

    แล้วก็ ถ้ายืนยันว่าพูดจริง แบบนั้นจริงๆ ตั้งใจจะคิดแบบนั้นไปเรื่อยๆ ก็จบละกันครับ เดินต่อไปละกันนะครับ

    อย่างที่บอก รอไปถามพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปก็แล้วนะครับ ถ้ามีโอกาศไปเกิดนะ

    ผมก็ไม่ขอต่อความยาวสาวความยืด ต่อไป จริงๆก็ต้องให้มองเจตนา แต่ ถ้าเถียงกันแบบเด็กๆ ก็ไปดีกว่าครับ เสียดายเวลา

    อีกอย่างนึงนะครับ คุณกรหรืออะไรก็ตาม คุณต้นละรู้จักเขาหรือเปล่า แต่ผมไม่นะ

    ยังไม่เคยได้คุยหรืออะไรเลย ผมขอจบเรื่องไว้ดีกว่า ทำไปทำใครทำมันก็แล้วกัน

    คุยกันแบบเด็กไม่คุยดีกว่านะ

    ขอให้มีความสุข สมหวังทุกประการ ตามที่คุณตั้งใจทุกๆประการนะจ้ะ ^^

    กรรมใดก็ตามที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วง เกินแก่ คุณต้นละ ด้วยกายกรรม ด้วยวจีกรรม ด้วย
    มโนกรรม ขอให้ คุณต้นละ ได้โปรด อโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด


    ไม่มีกรรมต่อกันไปอีกนะครับ ขอจบ ไว้เพียงเท่านี้
     
  2. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    คราฟ
    รอถามพระพุทธเจ้าดูละกัน
    ก็อย่าพิมพ์เหมือนเด็กสิคราฟ จะได้ไม่เถียงเหมือนเด็กนะคราฟ ผมเองก็เสียเวลาพิมพ์นะ
    ไม่เป็นไรคราฟฟ ผมเองไม่เคยเก็บมาใส่ใจ
    ก็แค่ตอบตามที่โพสมานะ
    ท่าน อาร์... ไม่มีเวรกับผมคราฟ
    สบายใจได้คราฟ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 พฤษภาคม 2011
  3. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    คุณต้นละครับ อย่าเอาผมไปเกี่ยวเลยท่านเคลียร์กับท่านอาร์มเลยนะครับ(อย่าบอกให้ไปถามผมผมก็งงมันยาว55)
    ผมจะขอพูด(จริงๆคำว่าขอพูด นี่ไม่ได้ขอพูดเเต่จุดประสงค์คือขอให้ฟังผมเดล้วเอาไปคิดหน่อยนะครับ) เรื่องราวชักจะไปกันใหญ่พูดไปพูดมาหลงประเด็นพูดกระทบนั่นกระทบนี่ไปมา
    เอาตรงๆตามชื่อกระทู้นะครับถ้าเห็นต่างหรือผมกล่าวไม่ชัดเจนหรือท่านว่าผมเข้าใจไม่ถูกแก้เลยนะครับ
    ที่ผมเข้าใจคือ
    1. การกินเนื้อสัตว์บาปไหมครับ คำถามกว้างมากช่องโหว่เพียบเเต่ต้องการคำตัดสินผมขอตอบล่ะนะครับ
    ไม่เสมอไปเพราะการกินกับการฆ่าคนละส่วนกันผู้ที่กินอาจไม่มีกิเลสแต่จิตของผู้ที่ฆ่าสัตว์ด้วยความจงใจนั้นมีกิเลสแน่นอนการกินเนื้อสัตว์ไม่ได้เท่ากับการกินชีวิตสัตว์
    ตรงไปตรงมาพระศาสดาตรัสสอนภิกษุเพื่อความบริสุทธิ์แห่งมรรค พระบรมครูไม่ได้บังคับหรือแนะนำให้กินเจ แต่เว้นสัตว์ที่ถูกฆ่าเจตนาเพื่อคนกินโดยเฉพาะเเม้ได้เห็นได้ยินหรือสงสัย และห้ามเนื้อสัตว์สิบอย่างที่กินเนื้อนั้นแล้วเกิดความไม่ปลอดภัยแก่ภิกษุเกิดคำติเตียน
    ถ้าถามว่าบาปไหม คงต้องมาdefinitionคำว่าบาปเป็นความหมายใดก่อน หรือเกิดผลใดก่อนไหมครับขอบเขตความเข้าใจเเค่ไหนไหมเพราะความเข้าใจคนต่างกัน(สมมติบัญญัติ) แม้พระศาสดาเรียกเเค่นี้ๆเเต่คนเราเข้าใจไปเองมากกว่าหรือน้อยกว่าคนถามก้ไม่ได้definition หรือreference ไว้ความหมายอาจเคลื่อนไป
    ผมอยากให้ใช้คำว่าได้รับผลหรือเป็นผลเช่นไรเพราะกรรมใดๆล้วนให้ผล(ก้มีที่ยกเว้นเช่นอโหสิกรรม)
    จะเป็นผลทางสุขภาพก็เหตุคือกินเข้าไปดูดซึมนำไปใช้ถ้ามากไปก็คงไม่ดีน้อยไปก็คงไม่ดี
    หรือเวรกับสัตว์หรือไม่เมตตาสัตว์ ก็ขึ้นกับเจตนาซะมากกว่าว่าจิตตอนนั้นเป็นเช่นไร
    ซึ่งอันนี้เเล้วเเต่ทรรศนะไหมครับว่าท่านให้ความสำคัญมากน้อยขนาดไหน แต่ผมเน้นว่าไม่ใช่ใจความหลักของศาสนาพุทธคนกินเจหรือไม่ก็ไปนิพพานได้ อันนี้ไม่เถียงผมใช่ไหมครับ
    ถึงได้บอกว่ากินเนื้อแล้วไม่สบายใจท่านก็ไม่ต้องกินด้วยเหตุผลใด ท่านก็สาธยายไป คนที่เห็นตาม ทำแล้วใจมีความสุขก็ทำ คนที่ไม่เห็นตาม มีเหตุผลอื่นแต่ยังอยู่ในวิถีในครรลองก็ทำถามว่าใครประเสริฐกว่ากัน เเล้วแต่เอาอะไรมาวัดนะครับผมไม่discuss บางคนเห็นว่าหลงสมมตินั่นเป็นธาตุหาได้ใช่สัตว์ไม่ บางคนเห็นหว่านี่เคยเป็นสตว์ที่เราเคยรักใครเเละเมตตา ตามสบายเลยครับเพราะคิดไงใจก็ไม่ได้สนุกสนานไปในการกินร่างกายของคนอื่นแล้วอยากฆ่าสัตว์ที่เห็นมากินใช่ไหมครับ(ท่านอาจคิดว่า กินเจโอกาสติดรสในเนื้อแล้วเเสวงหาฆ่าหรือให้คนอื่นฆ่าจะน้อยกว่าอันนี้เเล้วเเต่เลยใจใครใจมันดูเอานะครับ)
    เเต่ความบริสุทธิ์ของพระอริยเจ้าไม่ได้มี การกินเป็นเครื่องอยู่ไม่ได้มีการกินเป็นที่ตั้ง อยู่ที่จิต
    ถ้าวิถีใดเหมาะสม จิตปรอดโปร่งโล่งสบายก็ทำ
    ที่ผมต้องมาโพส จุดประสงค์คือพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่การกินอยู่เป็นทางสายเอก มรรคเเละวิถีปฏิบัติก็มิได้บัญญัติหรือยกย่องการกินเจอเะใเคยมีผู้เสนอพระองค์ก็คัดค้าน เเละได้ได้เสนอการกินเจในวาระใดหรือสำหรับพุทธบริษัทจำพวกหรือเหล่าใด เเละพระองค์ก็ไม่ได้ห้ามประเดนนี้โอเคนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2011
  4. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ประเดนที่สอง การกินของฆารวาสต่างกับภิกษุ
    พระภิกษุผู้อาศัยผู้อื่นอยู่ในการเลี้ยงชีพชอบย่อมปฏิเสธไม่ได้ เห็นด้วยครับ
    แต่ประเด็นผมชอบการสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่าเราไม่ได้มีเจตนาเอาชีวิตใครถ้าใครตั้งใจเอาชีวิตนั้นมาให้เราก็จะไม่รับเจ๋งมาก เมตตาต่อหมู่สัตว์สุดๆ เพราะขัดต่อโลกวิถีไม่ได้จึงตรัสสอนเช่นนั้น เเล้วให้ภิกษุทำใจไม่ยินดีโดยการปฎิเสธเนื้อที่เห็นได้ยินหรือสงสัยว่าฆ่ามาเพื่อถวาย
    ต่อจากนี้ก็มีผู้คิดเลยเถิดไปว่าพระองค์ไม่ให้ฆ่าเป็นอาหาร
    ประเด็นคืออะไร ผมมองว่าเมื่อเราห้ามผู้อื่นไม่ได้ การฆ่านั้นจิตผู้ฆ่าย่อมเจือกิเลสอยากได้ทรัพย์อยากได้อาหารฆ่าเพราะความโกรธกลัวหรือไม่พอใจหรือแม้กระทั้งฆ่าเพราะไม่รู้ว่านี่เป็นบาปกรรมย่อมเกิดขึ้นจากการฆ่าผลย่อมมีแก่ผู้ถูกกระทำเพราะสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน แต่พอสัตว์นั้นตายลงร่างกายนั้น ย่อมปราศจากวิญญาณธาตุแล้วจิตสุดท้ายก่อนทำกาละย่อมมีต่อกรรมที่อยู่ตรงหน้าน้อยนักที่จะติดตามร่างกายที่ถูกแยกไปเป็นส่วนๆ ผลกรรมของสัตว์นั้นก็กำลังให้ผลอยู่จริงอยู่เราเมมตาต่อสัตว์เดต่เนื่องจากสัตว์นั้นมีกรรมของตน มีทั้งกรรมเก่าใหม่คละกันสัตว์บางชนิดกรรมนำให้มาเกิดเเละส่งผลให้ต้องถูกเอาชีวิต ทำอย่างไรเล่า จะพ้นไปได้คือ ชดใช้หรือกระทำกรรมใหม่ที่ให้ผลแรงกว่าหรือ กรรมที่จะให้ผลนั้นกลายเป็นอโหสิกรรมไป เรื่องกรรมนี้เราหรือท่านเองก็ไม่พึงคิดแต่หากกระทำเหตุที่คิดว่าสมควรแล้วก็ย่อมปล่อยให้เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยเพราะไม่เคยมีสิ่งใดที่ไม่สมควรเเก่เหตุ
    สรุป พระหรือฆารวาสกินแต่งต่างกัน ด้วยเหตุพระวินัย ฆารวาสเลือกกินได้ตามใจอันนี้เเล้วแต่ว่าจะเป็นฆารวาสที่มีปัญญาเล็งเห็นเหตุและผลหรือไม่เข้าใจประโยชน์หรือไม่รู้อุบายอันเดยบคายหรือไม่
    แต่วาระจิตพึง กระทำเช่นเดียวกันคือ สักว่าธาตุและไม่ติดในรสหรือสมมติบัญญัติว่านี่คือสัตว์
    ถ้าไม่เเน่ใจไม่มั่นใจกลัวพลาดต้องการความชัวร์ก็อย่ากินเนื้อเลย ผมเองก็ไม่ชัวร์ว่าพิจารณาธาตุตลอดไหม แต่เจตนาตอนนั้นไม่ได้คิดจะกินชีวิตใคร
    ผู้ไม่รู้วาระจิตหรือกฏแห่งกรรมรวมถึงผลของมันที่จะเกิดขึ้นแน่นอนเช่นพระพุทธเจ้าก็ไม่พึงวินิฉัย
    แต่เมือ่พระศาสดาตรัสสอนภิกษุเช่นไรเราก็ควรนำมาพิจารณาและปรับใช้ให้ตามสมควร
    พระองค์เคร่งครัดกับภิกษุมากกว่าฆารวาส ขนาดพระท่านก็ไม่ได้บัญญัติให้ฉันเจ เเสดงว่า ไม่เป็นวัตรที่จำเป็นไม่ใช่ทางสายเอก แต่อาจเป็นเหตุให้เดินสะดวกหรือง่ายกว่าก็ได้ถามว่าจำเป็นไหมไม่แต่ต้องวางหรือเตรียมจิตให้ดี
    มีประเด็นอื่นอีกไหมครับ
     
  5. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ครับผมเข้าใจหลายเรื่องเเต่อาจไม่เข้าใจความหมายของท่านก็ได้
    เห็นท่านกล่าวทำนองว่าผมต้องเข้าใจ หลายๆเรื่อง
    ยากนะท่านต้นละในการอธิบายสมมติ หลายๆคนที่ไม่เข้าใจก็ไม่ใช่หรือไม่ได้แปลว่าปัญญาทรามซะด้วย หุหุ เพราะปัญญาคืออะไรเเง่ไหนก็อีกล่ะ ไม่เอาดีกว่าเน้อ
    ท่านต้นละครับบางคนพอยกพุทธวจนะมาอ้างก็บอกว่าเอาพระพุทธเจ้ามาเถียงเอาตำรามาอ้าง
    พอบอกว่าคิดเองเข้าใจเองก็บอกว่าเข้าใจไปเองเอามาจากไหน
    สรุปปุถุชนคือปุถุชน ยังไงก็คาดเคลื่อนผมเองก็ปุถุชน

    ผมก็ไม่ได้ว่าท่านกล่าวเรื่องกายหอม กับศีลผมแค่ยกตัวอย่าง
    หลายๆจุดผมแค่ยกตัวอย่างอย่าหยิบเอาประเด็นเล็กน้อย มาหาจุดเเย้งเลย
    ประชดประชัดได้ดีครับ ถ้าเป็นเพื่อนนักปฏิบัติทั่วไปผมคงกล่าวว่าให้ระวังมานะ
    แต่เป็นท่านผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมีหรือไม่ท่านคงเห็น เอาเถอะครับผมเข้าใจเเละเชื่ออย่างงั้นจริงๆว่าคนเราได้รับการสั่งสอนหรือมีประสบการณ์ต่างกัน เช่น เนื้อหมาเอามากกว่านั้นเลยครับเนื้อคางคกเนื้อตัวเงินตัวทองเนื้อเน่าๆ หนอน หรือเนื้อสัตว์ที่ตายเองข้างทางจะกินไหม เเล้วเเต่สถานการณ์ครับ (กังวล เดาใจไม่ออกว่าคำตอบหรือต่อไปจะเกิอะไรขึ้นจะลากใคร เข้ามาอีกหนอ อาจตอบกลับมาว่าไม่ต้องกังวลเแกมประชดหรือกว่าว่าข้าพเจ้าฟุ้งซ่าน โอ้ ท่านช่างมีเมตตาต่อหมู่สัตว์ 55 หรือเอาวาทะผมมาเล่นงานผมอีกว่า ท่านกล่าวเองเรื่องการประชด ผมก็เพ้อเจ้อไปเรื่อยนะครับขำๆ เเละดูจิตตัวเองไปเรื่อยๆ)
    พระพุทธเจ้าท่านห้ามไหมละครับ และมันเหมาะสมกับธาตุขันธ์ไหมล่ะครับมนุษย์ที่มีปัญญาก็คงพิจารณาได้ ท่านอย่ากล่าวเหมือนกับว่าอ่านใจผู้อื่นได้เลย ถ้าอ่านใจผู้อื่นได้ก็คงไม่กล่าวเช่นนี้หรือแม้กระทั่งท่านใจกว้างคิดหลายมุมหลายประเด็นจริงๆในเรื่องที่เรากำลังสนทนากันอยู่ท่านก็คงไม่กล่าวเสียดสีตนเช่นนี้
    ความคิดความเห็นไปเรื่อยจริงๆ (กลัว อาจมีคำตอบมาว่าท่านไม่ต้องกลัว555 ผมคิดในใจดีกว่าเพราะท่านอ่าใจผมไม่ได้55)

    คนมีมานะมีทิฐิก็มีข้อเเย้ง กล่าวยังไงก็มีข้อแย้งขี้เกียจเถียงให้ไปถามพระพุทธเจ้าก็ยังบอกว่าพระพุทธเจ้าตรัสไว้เเล้วพระพุทธเจ้าจะต้องตอบแบบนี้ๆ จริงๆพุดไงก้ได้เพราะอจินไตยนั่นวิสัยพระพุทธเจ้า ความเห็นผมถ้าผมสงสัยผมจะถามดีกว่ามาคิดเองว่าพระองค์จะตรัสอย่างไร ตอนนี้ไม่มีพระองค์ก็ตามแต่โยนิโสมนสิการล่ะกันครับ
    พูดอีกแบบก็ขึ้นมากล่าวาทะได้ทุกครา
    ถ้าผมบอกว่าผมไม่เอาเเล้วไม่ได้เถียงเเล้วก็อาจบอกว่าใครเถียงผมไม่ได้เถียง หรือผมไม่ได้ว่าท่านก็ได้
    พูดไงก็ได้ครับ แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่(อาจตอบว่า บลาาาาาาาาหุหุมีคำต่อไปไม่จบสิ้น )
    ผมเองเริ่มไม่เห็นประโยชน์ของการสนทนาแล้ว
    สรุปประเด็นเลยดีกว่า จะกินเจไม่กินเจก็ไม่ได้เป็นเครื่องวัดว่าเมตตาต่อสัตว์
    ใจต่างหาก จิตท่านหรือผู้กินเป็นเช่นไร เมตตาก็คือเมตตามันตรงไปตรงมา คอนละส่วนกันชัดเจนมาก
    บางท่านบอกว่าเมตตาแล้วกินเนื้อได้ไงปากบอกว่าไม่อยากฆ่าแต่ก็กินเนื้ออย่าเถียงเพื่อปากท้องเลย ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ คนเเบบนี้ก็มีมาแล้ว
    ผมเคยบอกเเล้วว่าไม่ได้เถียงเพื่อให้ตนดีไม่ได้เถียงเพื่อให้ตนบริสุทธิ์ไม่ได้เถียงเพื่อปากท้อง เลยกลัวอย่างคือจะมีคนเข้าใจว่า ชาวพุทธที่บริสุทธิ์หรือชาวพุทธเแท้ต้องกินเจเท่านั้น

    ประองค์ก็ตรัสแล้วว่า ไม่ห้ามและไม่สนับสนุนให้กินเจแต่พระองค์สรรเสริญการละเว้นการฆ่าเเละการเบียดเบียน
    ถ้าคุณเเละกลุ่มคุณคิดเช่่นนั้นว่า กินเจเเล้วดี ลดการเบียดเบียน ก็ดีแล้วหล่ะครับ
    ผมห้ามไหม ผมเถียงไหม(ไม่ต้องการคำตอบคำถามบางอย่างไม่ได้มีไว้เพื่อจุดประสงค์ให้คนอื่นตอบ)
    ผมก็พูดด้วยเจตนาเดิมว่า ดีเเล้ว ตามสบาย
    พระพุทธเจ้ามิได้ห้ามหรือคัดค้าน แต่พระองค์มิได้บัญญัติเป็นวินัยและกล่าวสรรเสริญการกินเจ
    พระองค์สรรเสริญการไม่เบียดเบียนถ้าท่านบอกว่าการกินเจคือการไม่เบียดเบียน ตามสบายครับผมไม่อยากเถียงพุทธวจนะเพราะพระพุทธเจ้าสรรเสริญการไม่เบียดเบียนจริง
    ทำกรรมอะไรก็ได้อย่างงั้นล่ะครับถ้าพระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามเน้นๆก็คิดเอา
    สรุป ผมว่าการกินเจมิใช่ประเด็นหลักไม่ใช่เหตุให้ไปนิพพานแต่อาจส่งเสริมการปฏิบัติ จะกินก็กินไม่กินก็ไม่กินแต่ต้องตั้งใจดี วันหนึ่งข้างหน้าผมอาจงดเนื้อสัตว์ กินเจไปตลอดก็ได้ ไม่ถามต่อแล้วกลัวคำตอบ55
    ผมคิดว่าผมพูดในสิ่งที่ควรพูดแล้วสมควรแก่เวลา

    ผมคิดว่าผมคงไม่ต้องขอขมากรรม เพราะท่านเองคงมีเมตตาต่อผมเช่นสัตว์อื่น เเต่ตามธรรมเนียมข้าพเจ้าขอขมากรรมอันได้ล่วงเกินท่านในทุกทาง ทั้งตั้งใจเเละพลาดเผลอ ทั้งมีสติรับรู้ดีละไม่มีสติรับรู้ทั้งในกาลก่อนจนกาลนี้เพื่อการสำรวมระวังใน ผู้ที่เราให้เกียรติ ในกาลต่อไป
    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2011
  6. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    อืม....
    ขำท่านจัง
    ผมไม่ได้เอาท่านมาเกี่ยวข้องเลยนะ แต่เป็นคำถามคำตอบต่อเนื่องนะ ท่านอย่าคิดมากดิ

    ส่วนการกินเนื้อผมเองก็ไม่ได้บอกว่าบาปเลย แค่บอกว่าเสพเนื้อสัตว์มากก็โรคมาก แค่นี้เอง

    ครับการกินเนื้อ กับการฆ่าคนละส่วนกัน แต่ผมแค่อธิบายให้ท่านเข้าใจเรื่องการกินเนื้อเองว่า ถ้าบริโภคมากโรคภัยก็มาก เพราะการเลี้ยงสัตว์ทุกวันเลี้ยงไม่ปกติเหมือนสมัยก่อน เพราะมีการใช้สารเคมีมาเร่งให้โตเร็วเพื่อความต้องการของตลาด ผมว่าผมอธิบายไปแล้วนะเรื่องนี้ แต่ท่านนปร..เองก็ไม่เข้าใจ รึไม่อ่าน งง...มากมาย อิอิ

    และผมเองก็ไม่ได้ บ่งชี้ให้ท่านเข้าใจว่า พระสงฆ์ต้องกินเจนิ ท่านปร....อ่านเข้าใจรึเปล่า งง...

    ครับ พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสเรื่องเนื้อบริสุทธิ์ ๓ ประการคือ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้รังเกียจ. ข้อนี้ผมเข้าใจนะครับ แต่สมัยก่อนไม่มีโรงฆ่าสัตว์เหมือนทุกวันนี้ ท่านปร.......ตอบผมหน่อยสิ ว่า
    ๑. ท่านไม่เห็นว่ามีโรงฆ่าสัตว์
    ๒. ท่านไม่ได้ยินสัตว์ที่กำลังถูกฆ่าที่ตลาด
    ๓. เนื้อที่ขายในตลาดท่านปร....ไม่รังเกียจ นิเลยซื้อมากิน ถ้า(ตัวอย่างนะ เขาขายเนื้อหมา) ท่านจะซื้อมากินไหม ????????

    ผมว่าท่านปร.... เขียนเป็นภาษาไทยจะดีกว่าไหม De.... , Re.... ผมเองไม่เข้าใจความหมายนะ เพราะตกภาษา Eng. นะครับ มันจะดีกว่านะ เพราะที่อ่านมาภาษาไทยท่านปร....ยังพิมพ์ตกเลยนะ อนุรักษ์ภาษาจะดีกว่านะ

    และไม่มีผลกรรมใดที่ยกเว้นนะครับ ขนาดพระอรหันต์ท่านหมดกิเลส ท่านยังคงต้องรับผลที่กระทำมาตลอด ตราบใดขันธ์ทั้ง ๕ ยังดำรงอยู่ ก็ต้องผลต่อไปเรื่อยๆๆๆๆนะครับ แต่พระอรหันต์ท่านอยู่เหนือผลของกรรมท่านเลยไม่เดือดร้อนของการแสดงผลนะครับ ลองอ่านผลกรรมทั้ง ๑๓ ประการของพระพุทธเจ้าดูนะครับ

    ผมบอกท่านหลายรอบแล้ว ว่าการกินเจ ไม่ได้บุญ ไม่ได้มรรคผล อะไร ท่านอ่านเข้าใจไหม..... ศัพท์แต่ว่าพิมพ์เนอะคนเรา
    และไม่ได้บอกว่าคนกินเจดีรึประเสริฐ และคนกินเนื้อไม่ดีนะ ไม่เคยพิมพ์เลยนะ ท่านเข้าใจผิดอะไรรึเปล่า ???

    ครับผมรู้พระพุทธเจ้าไม่ได้ บัญญัติเรื่องการกินเป็นทางเอก และไม่ทรงบัญญัติเรื่องการกินเจ ผมรู้มานานแล้ว แต่พระองค์ทรงสอนเรื่อง ไม่เบียดเบียนกันนะ ท่านปร....เข้าใจไหมเรื่องเบียดเบียน ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร
     
  7. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    อืม.....
    แสดงว่าท่านเองไม่เข้าใจเรื่องการฉัน อาหารของพระสงฆ์ และไม่เข้าใจเรื่อง พิจารณาอาหาร
    อิอิ ไม่อธิบายละ อธิบายไปก็เท่า นั้น ผมเข้าใจนะ ทำบุญมาไม่เท่ากัน อิอิ
     
  8. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    อืม....
    ผมไม่ได้ประชดประชันครับ
    ผมคงไม่กล้าออกตัวว่า เป็นนักปฏิบัติหรอกครับ และขอบคุณที่บอกให้ผมระวังนะครับ และผมเองก็จะบอกท่านว่าไม่มีอะไรต้องระวัง นอกจากผมผิดศีลเองนะ นั้นละต้องระวังระครับ อิอิ

    ขำท่านจังช่างมันเถอะ อิอิ
    ผมก็ตอบตามที่ท่านพิมพ์มานั้นละ ๕๕๕++
     
  9. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    คุณต้นละครับ ถึงได้บอกไงล่ะครับว่าคนอย่างท่านไม่ใช่ไม่เคยมีหรืออาจเป็นท่านเองที่กลับมาเกิดอีกหึหึ
    ไม่ใช่เฉพาะท่านหรอกผมก็ขำ ทั้งจิตตนเเละพฤติกรรมของท่าน
    ในส่วนของผมก็เดินต่อ สนทนากับท่านนี่มันทำให้ใจผมกระเพื่อมดี
    สำหรับผมผมว่าผมได้ประโยชน์ เเต่สมควรแก่เวลา
    จึงลาไปเพราะว่า ผมมั่นใจเเละเชื่อมากว่าไม่อาจเปลี่ยนเเปลงหรือทำอะไรใครได้อยู่เเล้ว
    เเม้พูดอะไรไป ก็ไม่รู้จะทำไรให้ดีขึ้นไหม. (เช่นผมก็พูดได้นะครับว่า ก็ไม่ได้บอกนี่ครับว่าคุณต้นละบอก เเค่เเจ้งให้ทราบว่าเข้าใจเเบบนี้ถ้าเห็นด้วยก็บอกไม่เห็นด้วยเเสดงเหตุผล เเต่ผมก็ไม่พูดมันจะยาวไปเถียงไปเรื่อย)ในวงเล็บไม่ได้พูดนะครับเเต่อยากให้รู้ว่าคิดอะไรจริงๆมากกว่านี้แค่นี้ก็เยอะเเล้ว เอาเเค่ความคิดที่อยากให้รู้เเละ คำพูดที่พูดโดยที่บอกด้วยว่าคิดไงเหอๆๆ

    คร้าบบ ไม่ได้ประชดก็ไม่ได้ประชดครับ กรรมส่อเจตนา เจตนาเป็นเครื่องก่อให้เกิดกรรมอยู่แล้ว ที่อ่านมาเนี่ยประชดเยอะอยู่นะคับ55ถ้าเป็นคนอื่นผมคงคิดว่าคนที่ย้อนความคนอื่นคงคิดว่าเท่หรือเอาชนะได้ เเต่เป็นคุณผมเลยไม่กล้าคิดว่าคิดอะไร ถูกครับผมไม่เคยพบคนที่ทำบุญมาเท่ากันเลยครับหุหุ
    ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคุณกำลังคิดว่าทำบุญมากกว่าคนอื่น(เอาเเล้วไงปล่อยไปๆหุหุ เเต่เด๋วท่านก็อาจจะบอกเราว่าเราเข้าใจไปเอง อืมก็ถูกนะเราเข้าใจว่าเขาเจตนาอย่างนี้55) เท่ากับหรือต่ำกว่า พอมีการเปรียบเทียบว่าตนดีหรือเลวกว่าคนนั้นย่อมทะเลาะกับเขา ไม่อยากให้เกิดเเบบนั้นกับผู้ที่มีเมตตาต่อหมู่สัตว์ เเถมออกตัวว่าไม่ได้ประชดและบอกว่าไม่ได้ประชดเเต่จัดมาเต็มถ้าเป็นเพือ่นที่ทำงานผมคงบอกว่า กลืนน้ำลายตัวเอง (ถ้าเป็นคุณต้นละน่าจะคิดออกกระมังว่าควรใช้คำว่าอะไรจึงจะสมควรแก่การกระทำเช่นนั้น)ไม่ต้องบอกนะครับผมคิดในใจเฉยๆ
    (จิตเกิดดวงเดียวดับดวงเดียว ดับไปเเล้วววววววจิตอีกดวงเกิดมาเเล้ว ผมก็ยิ้มกริ่ม)

    การสนทนาได้ประโยชน์บอกอะไรเราหลายอย่างจริงๆ555
    (อ้าวนึกว่ารู้จัก อโหสิกรรม ว่าเป็นกรรมที่ไม่ให้ผล) ไม่ได้พูดนะคำในวงเล็บครับแค่คิด
    คำภาษาอังกฤษหึหึ (ไม่พูดดีกว่า. คิดในใจเดาไงก็ไม่ถูก555เเต่ทำให้ผมรู้ว่าอืมอาจมีคนส่วนหนึ่งที่ไม่รู้จักการใช้งานด้วยgoogle 555)
    ท่านก็พูดซะขำ( เเล้วใครเข้าใจถูกหรือคู่ควรเเก่คำว่าเข้าใจล่ะครับท่านเหรอ ถ้าจะเถียงต่อผมจะถามว่ารู้ได้ไงว่าเข้าใจ เเล้วรู้ได้ไงว่าถูกเเต่ผมไม่ถามนะครับ ) ย้ำอีกครั้งในวงเล็บคิดในใจอิอิ
    เเถมมีอีกหลายจุดทึ่คุณต้นละเองยังไม่เข้าเจตนาของผม
    แต่ประโยชน์ที่ได้น้อยเหมือนที่คุณกล่าวกะผมนั่นหล่ะครับว่าไม่อธิบายดีกว่า

    ท่านเองยังไม่ทราบเลยว่าผมกล่าวกับเพื่อนนักปฏิบัติว่าให้ระวังอะไร (ถ้าอ่านใจผมไม่ได้ตอบอะไรมาก็ไม่ถูกหรอกครับ) เรื่องการเรียกว่านักปฏิบัติคุณต้นละคิดว่าอย่างงั้นผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ไม่เรียกก็ได้ครับเหอๆ
    ผมเองก็ไม่กล้าเรียกตัวเองว่านักปฏิบัติคำนี้ผมเอาไว้ใช้เรียกผู้อื่นหนะครับซึ่งผมเห็นว่าเขากำลังปฏิบัติสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่มีวัตรและการกระทำที่น่ายกย่องนับถือ ท่านเหล่านั้นก็ไม่ได้เรียกตัวเองเช่นกัน

    ไม่มีใครไม่เข้าใจถูกหรือผิดหรอกครับ หรือเเม้กระทั่งเเค่คำว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจ
    เพราะเขาก็เข้าใจเเบบเขานั่นหล่ะท่านก็เข้าใจเเบบท่าน
    เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย
    จะมีก็ต่อเมื่อมีคนเข้าไปตัดสินว่าถูกผิดเขาจึงจะเข้าใจถูกหรือผิด (บางทีจุดตัดยังไม่ได้ตกลงไม่รุ้จะพูดไปทำไมว่ากันไปเรื่อย) (มานะเละทิฐิในใจผมก็มีชัดขึ้น ยิ้มกริ่มครับเห็นชัด ชอบๆปกติดูยากกว่านี้55)

    มาถึงตรงนี้ คิดว่ามันชักจะนานเกินไป ผมเข้าใจท่าน ไม่สนด้วยว่าเข้าใจถูกผิด เพราะท่านเองก็เป็นท่าน ผมเลยจบที่นี่และยิ้มกับตัวเองเบาๆ (ไม่น่าเลยเรา55) เเต่ก็พูดในสิ่งที่ควรพูดไปแล้ว (เดาได้เเต่ดักไว้ก็เปลี่ยนทาง55 มีรูปแบบที่เรียกว่าไร้รูปแบบ เหมือนกับบอกว่าไม่ยึดถือแต่ยึดถือในความเชื่อที่ไม่ยึดถือ การกระทำที่เราพึงกระทำคือพูดในสิ่งที่ควรพูดเเล้วเงียบซะที่เหลือก็ปล่อยไปซึ่งก็คิดว่าไม่จบเเน่555คงหาเรื่องพูดอีกแน่ )หุหุ เงียบเพราะคิดในใจชั่วครู่

    เเล้วผมก็กล่าวลอยๆรำพึงรำพันกับตัวเองครับว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมผมเป็นสัตว์โลกผมก็ไปตามกรรมผมดีกว่าไม่ได้ ว่าใครไม่ได้มีจุดประสงค์ใด55
    ผมไปแล้วครับ มีอะไรหลายอย่างที่เกิดในใจ555
    ผมไม่ควรกล่าวจากลาผู้อื่นด้วยศัตรู ผม ประสงค์ตนในฐานะเเห่งมิตรเพราะเดินทางไกลเจริญในธรรมครับขอขมากรรมหากการกระทำของกระผมก่อให้เกิดสิ่งที่ไม่เป็นกุศล และอนุโมทนาในความดีที่เกิดขึ้นครับ
    ไปละครับ โชคดีครับเหอๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2011
  10. เด็ก3ขวบ

    เด็ก3ขวบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ชาตินี้ใครไม่กินเนื้อสัตว์ชาติหน้าขอให้กินหญ้าตลอดไป.....55555
     
  11. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    คราฟ ผม
    ไม่ได้เปรียบเทียบคราฟ
    แค่บอกว่า ทำมาไม่เท่ากัน เลยเข้าใจไม่เหมือนกันนะคราฟ และไม่กล้าว่าท่านรึท่านทั้งหลายว่าต่ำกว่าด้วยนะคราฟ เพราะผมเองความรู้น้อยนิดเองนะคราฟฟ

    คราฟผมเองก็ไม่รู้ว่าท่านกล่าวอะไรกับเพื่อนนักปฏิบัติ(เห็นท่านกล่าวว่า นักปฏิบัติ นะ อิอิ) ก็คงจะเป็นเรื่องดีนะคราฟ
    ส่วนผมเองก็ไม่ได้ปฏิบัติไรเลย เพราะพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ถ้าเป็นฆราวาสให้รักษาศีล ๕ ถ้าละเอียดขึ้นมาหน่อยก็ศีล ๘
    ศีล ๕ บางวันผมเองก็ยังไม่ครบเลย ๕๕๕++

    เรื่องภาษา ผมแค่บอกว่าคนบางกลุ่มภาษาตัวเองยังพิมพ์ไม่รู้เรื่องเลย แล้วยังเอาภาษาอื่นมาปนด้วยนะ เหอะๆๆ(อิอิ ) ไมผมเองต้องเข้าไปหาข้อมูลด้วยละ เพราะไม่น่าจะมีประโยชน์ เพราะท่านพิมพ์มาเองนะ เขาไว้หาข้อมูลที่ไม่เคยเจอและแปลกๆๆนะ ส่วนในวงเล็บไม่เข้าใจคราฟ ไม่เข้าใจจริงๆๆ เพราะท่านพิมพ์วนไปวกมา อ่านแล้ว งง..!!!!!(คงเข้าใจแค่คนพิมพ์มานะ)


    คราฟฟ สัตว์ย่อมเป็นไปตามกรรมที่ทำ ทำอะไรได้อันนั้นนะคราฟฟ ก็รอสิ่งที่ทำนะคราฟ ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย อิอิ

    และสุดท้ายผมเองก็หวัง มาก ว่าสักวันท่านจะเข้าใจสิ่งที่ผมและท่านปร....พิมพ์ตอบโต้กันนะ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ผมพิมพ์ไปนั้นจะไม่ถูก อิอิ ก็ไม่เป็นไรคราฟ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 พฤษภาคม 2011
  12. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    อิอิ
    ถ้าเลือกได้
    ชาติหน้าอยากกินหญ้านะคราฟ ๕๕๕+++
    เผื่อว่าจะได้ช่วยพระพุทธเจ้าไม่ให้พระองค์ ต้องลำบากในการบัญญัติศีลข้อที่ ๑ นะคราฟฟฟ
    พระองค์จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก ในการโปรดสัตว์ทั้งหลาย
    ๕๕๕+++
     
  13. ุเพตารี

    ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,048
    ค่าพลัง:
    +800
    กินเนื้อหรือไม่กิน ก็ไม่เห็นต่างกันเท่าไร :d
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 พฤษภาคม 2011
  14. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,913
    ค่าพลัง:
    +1,513
    คำถามคงคล้ายกับ เหยียบพระธรณีแล้วบาบ ไหม มันตอบยากน่ะ
     
  15. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ต่างมากเลยนะคราฟ
    ถ้ากินเนื้อแล้วไม่มีโรคภัยไข้เจ็บนะ ควรกินอย่างยิ่ง
    แต่กินเนื้อแล้วโรคภัยไข้เจ็บมากมาย เลยนะคราฟ
     
  16. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สัตว์โลกทั้งหลายเกิดมาภายใต้พระธรณีอันยิ่งใหญ่ และมีพระธรณีรองรับการเกิดของสะตว์ทั้งหลาย ทำไมต้องบาป ด้วยละคราฟ งง....
     
  17. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    839
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ผมยินดีกินหญ้าแทนเนื้อสัตว์ครับ ถ้าเนื้อสัตว์นั้นมาจากการฆ่า
     
  18. ุเพตารี

    ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,048
    ค่าพลัง:
    +800
    หมายถึงจิตของผู้ที่วิวาททางวาจากันอยู่นี่ ร้อนไม่ต่างกันเท่าไร

    กินตามพระโพธิสัตว์ก็ดี กินตามพระพุทธเจ้าก็ดี ดีทั้งนั้น

    คติคนละสาย ไม่กินเนื้อมันก็ดี กินให้เป็นมันก็ดี กินไม่เป็นเจาะจงกินก็ติดกรรม

    สำคัญที่จิต

    กระแสโพธิสัตว์ เมตตาธรรม ชุ่มฉ่ำ เย็นสบาย จะรุ่มร้อนกันไปใย(kiss)(kiss)

    ปล.ตอบเจ้าของกระทู้ตามคติทางพุทธเถรวาท ถ้ากินเนื้อสัตว์ตามพระพุทธเจ้าดังรายละเอียดที่ท่านอื่นกล่าวมาแล้วก็ไม่ผิดศีลปาณาฯหรอกครับ
    แต่ถ้าเราเจาะจงกินแบบเข้าร้านซีฟู๊ด แล้วไปชี้นิ้วสั่งตอนมันเป็นๆว่าจะกินตัวนั้นตัวนี้ อันนี้เจตนาฆ่าผิดศีลแน่นอน

    จริงๆแล้วถ้าเราปฎิบัติธรรมไปเรื่อยๆ เมื่อจิตเข้าถึงกระแสพระโพธิสัตว์ เราจะค่อยๆละการกินเนื้อสัตว์ไปเองอย่างอัตโนมัติ
    จิตมันจะเป็นอย่างนั้นเอง เช่น เริ่มกินเจตามเทศกาล กินเจกินมังฯในวันพระหรือวันเกิด บ้างพอเห็นเนื้อชิ้นโตๆก็ขยะแขยงกินไม่ลง
    บ้างก็เริ่มเขี่ยเนื้อสัตว์ทิ้งกินผักมากขึ้น บ้างก็กินแต่หมูสับ,ลูกชิ้น,กุนเชียง เนื้อหั่นเป็นชิ้นๆไม่กิน
    บ้างกินเจ บ้างกินมังสวิรัตยังกินไข่กินนม ต่างก็เป็นไปตามสภาวะจิต

    เจริญในธรรมกันทุกท่านนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤษภาคม 2011
  19. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    เออ.....
    หมายถึง จิต....นี้เอง คริคริ
    จะบอกว่าลึกซึ้ง รึป่าว อิอิ
     
  20. ุเพตารี

    ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,048
    ค่าพลัง:
    +800
    บ้างก็ว่าลึกสุดหยั่ง บ้างก็ว่าตื้นเขินแห้งขอด แล้วแต่จิตผู้วิเคราะห์ครับผม hello4
     

แชร์หน้านี้

Loading...