ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ซีเอ็นเอ็นเผยบิน ลาดินตายแล้ว

    [​IMG]

    วอชิงตัน 2 พ.ค.- สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐรายงานว่า นายอุซมะห์ บิน ลาดิน ผู้นำเครือข่ายอัลกออิดะห์เสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐเป็นผู้พบศพ และว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะแถลงข่าวนี้ในเร็ว ๆ นี้

    ซีเอ็นเอ็นอ้างว่า แหล่งข่าวรัฐบาล 3 คนเป็นผู้เปิดเผยเรื่องนี้ นายบิน ลาดินถูกสังหารที่คฤหาสน์นอกกรุงอิสลามาบัดของปากีสถาน

    สหรัฐตามล่า บิน ลาดิน ชาวซาอุดีอาระเบียมาหลายปี และยิ่งเพิ่มความพยายามมากขึ้นตั้งแต่เขาหายไปในอัฟกานิสถานในปลายปี 2544 หลังเกิดเหตุวินาศกรรมสหรัฐ 11 กันยายนในปีเดียวกัน มีผู้เสียชีวิตราว 3,000 คน เชื่อว่าส่วนใหญ่เขาหลบซ่อนตัวตามพรมแดนระหว่างอัฟกานิสถานกับปากีสถาน.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 2 พ.ค. 2554

    ผู้นำสหรัฐ ออกแถลงการณ์ยืนยัน บิน ลาดิน เสียชีวิตแล้ว

    [​IMG]

    สหรัฐ 2 พ.ค.-ผู้นำสหรัฐออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ ยืนยันนายอุซมะห์ บิน ลาดิน หัวหน้าเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์เสียชีวิตแล้ว

    ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ที่ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตันว่า นายอุซมะห์ บิน ลาดิน หัวหน้าเครือข่ายก่อการร้าย อัลกออิดะห์ เสียชีวิตแล้ว หลังจากที่เมื่อวานนี้หน่วยปฏิบัติการของสหรัฐระดมกำลังไล่ล่าในปากีสถานอย่างหนัก เวลานี้สหรัฐได้ศพของนายบิน ลาเดน แล้ว ทั้งนี้บิน ลาดิน ถูกกองกำลังสหรัฐสังหารเสียชีวิตในอาคารที่พักชานกรุงอิสลามาบัดของปากีสถาน ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไป ปรากฏว่าประชาชนจำนวนมากพากันไปรวมตัวที่ด้านหน้าทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐในกรุงวอชิงตัน พร้อมกับโบกธงสหรัฐและส่งเสียงเชียร์สหรัฐกันดังสนั่น.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 2 พ.ค. 2554

    ประวัติ อุซมะห์ บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายอัลกออิดะห์

    [​IMG]

    สหรัฐ 2 พ.ค.-ประวัติของนายอุซมะห์ บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ก่อนที่จะถูกสังหาร

    อุซมะห์ บินลาเดน เกิดเมื่อปี 2500 โดยเขาเป็นลูกคนที่ 17 จากจำนวนทั้งหมด 57 คน ของครอบครัวนักธุรกิจ ซึ่งมีกิจการในซาอุดีอาระเบีย เมื่ออายุได้ 13 ปี บิน ลาเดน ได้รับมรดกมากมายจากบิดาที่เสียชีวิตหลังเครื่องบินที่ขับประสบอุบัติเหตุตก

    สำหรับการสู้รบกับสหรัฐนั้นเชื่อว่าน่าจะเริ่มขึ้นหลังกองกำลังสหรัฐเข้าไปประจำการในซาอุดีอาระเบียในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซียเมื่อปี 2533 หลังจากอิรักรุกรานคูเวต ซึ่งบิน ลาเดน มองว่าเป็นการแบ่งแยกดินแดนอิสลาม และเรียกร้องให้ทำสงครามศาสนากับสหรัฐ ซึ่งต่อมาบิน ลาเดน ถูกตัดออกจากครอบครัว และถูกเพิกถอนสัญชาติซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2537 บิน ลาเดน ย้ายไปอยู่ที่ซูดาน เมื่อปี 2534 ก่อนจะถูกขับออกนอกประเทศในอีก 5 ปีต่อมา และเขาได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในอัฟกานิสถานก่อนที่กลุ่มตอลิบานจะเข้ายึดการปกครอง ซึ่งบิน ลาเดน ได้เป็นบุคคลวงในของกลุ่มตอลิบานในเวลาต่อมา

    สหรัฐกล่าวหาบิน ลาเดน และเครือข่ายอัลกออิดะห์ว่าก่อเหตุโจมตีหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ระเบิดอาคารเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ ในนครนิวยอร์กเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 6 คนแต่มีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 1,000 คน นอกจากนี้ยังนายบิน ลาเดน ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการสำคัญในการสังหารทหารสหรัฐ 24 คนในซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2548-2549 และยังอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดโจมตีสถานทูตสหรัฐในเคนยา และแทนซาเนียเมื่อปี 2551 มีผู้เสียชีวิต 224 คน และบาดเจ็บ 4,000 คน หลังเหตุการณ์สถานทูตถูกโจมตี สหรัฐได้ใช้ขีปนาวุธถล่มโจมตีสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นค่ายฝึกของบิน ลาเดน หลายแห่งทั้งในอัฟกานิสถาน และซูดาน

    ทางการสหรัฐยังระบุด้วยว่าเครือข่ายก่อการร้ายของบิน ลาเดน เป็นผู้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีเรือรบยูเอสเอส โคล ของสหรัฐที่นอกชายฝั่งเยเมนเมื่อเดือนตุลาคม 2543 ทำให้ทหารเรือสหรัฐเสียชีวิตไป 17 คน และเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดคือการจี้เครื่องบินโดยสารของสหรัฐพุ่งชนอาคารเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ และกระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3,000 คน หลังจากนั้นเป็นต้นมา สหรัฐได้ปฏิบัติการไล่ล่าบิน ลาเดน อย่างหนัก โดยเชื่อว่าเขากบดานอยู่ในบริเวณชายแดนปากีสถานและอัฟกานิสถาน พร้อมตั้งทั้งค่าหัวเอาไว้สูงถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการแจ้งเบาะแสในการนำจับ.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 2 พ.ค. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    " มาบูส (MABUS) จะตายในไม่ช้า "

    [​IMG]

    คำพยากรณ์เซ็นจูรี่ เล่มที่ 6 : ท้องฟ้าจะลุกเป็นไฟ เพลิงจะผลาญเข้าสู่เมืองใหม่

    “ ท้องฟ้าจะถูกเผาผลาญ ณ องศาที่ 45 เพลิงจะพุ่งเข้าสู่เมืองใหม่ในบัดดล ดวงไฟใหญ่จะแตกกระจายทะลวงพุ่งขึ้นมา”

    “ มาบูส (MABUS ) จะตายในไม่ช้า จะมีการฆ่าหมู่คนและสัตว์อย่างสยดสยอง ทันใดนั้นการแก้แค้นจะปรากฎขึ้นจากร้อยแผ่นดิน ความกระหาย อดอยาก จะเกิดชึ้นเมื่อดาวหางโคจรผ่านมา…..”

    “ ศาสนาที่มีชื่อเหมือนทะเลจะมีชัย การต่อต้านนิกายของอะดาลูนกาทิฟผู้บุตร พวกหัวดื้อ พวกโศกเศร้าตำหนินิกายจะกลัวเกรง อาลิฟ กับ อาลิฟ ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสอง….”

    นั่นคือโคลงที่ว่ากันว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะตีความไปในทางเดียวกัน เพราะนอสตราดามุสเขียนแบบไม่ค่อยจะติดต่อเป็นเรื่องเป็นราวเท่าใดนัก ที่สำคัญเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องของเวลาอย่างแน่ชัด แต่กระนั้นหลายคนตีความว่า ยามที่นอสตราดามุสมองเห็นเครื่องบินพุ่งเข้าใส่ตึกเวิล์ดเทรด ไม่แตกต่างไปจากหอกแหลมจากฟากฟ้าจะบินมาพร้อมกับลูกไฟ

    เพราะหัวของเครื่องบินที่มีปีกนั้น ดูเผินๆก็ไม่แตกต่างกับหอกขนาดยักษ์เท่าใดนัก เช่นเดียวกับการชนก็เกิดการระเบิดทันทีจนเป็นลูกไฟไปทั่วฟ้า ที่สำคัญเขาพูดถึงเมืองที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามว่าเป็น ดินแดนที่ 45 ตรงกับเส้นรุ้งที่ 45 อันเป็นที่ตั้งของมหานครนิวยอร์กเหมือนกัน

    แต่สิ่งเหล่านั้นยังไม่น่ากลัวเท่ากับการที่นอสตราดามุสกล่าวต่อว่า จะเกิดสงคราม ผู้คนจะล้มตายเมื่อมาบูสถูกฆ่าในเวลาไม่นานนับจากนี้ เพราะมีการตีความต่อว่า Mabus นั้น มาจากการย้อนชื่อต้นของ Usama Binladen (อุสมา บิน ลาเดน) ซึ่งเป็นคนที่สหรัฐมองว่าเป็นตัวการในการก่อวินาศกรรมครั้งนี้ ยิ่งถ้ามองตามคำทำนายต่อ หลายคนเชื่อว่า การตายของบินลาเดน จะเป็นจุดสิ้นสุดของยุคสันติภาพและจะเป็นสงครามที่ยิ่งใหญ่และยาวนานกว่าทุกครั้ง

    โดยการแก้แค้นของพวกร้อยแผ่นดิน (United State) ซึ่งก็คือ สหรัฐนั่นเอง ส่วนอาวุธลับที่สหรัฐจะใช้จัดการกับขบวนการก่อการร้าย จนกระทั่งเกิดการตายอย่างมากมายนั้น นอสตราดามุสใช้คำว่า ดาวหางมาเยือน จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ดาวหางที่นอสตราดามุสเห็นจะเป็นระบบป้องกันภัยจากอวกาศที่สหรัฐภาคภูมิใจนักหนา เช่นเดียวกับเรื่องของความอดอยาก เพราะเมื่อสหรัฐทราบว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง มาตรการแซงชั่นป้องกันไม่ให้นำอาหารเข้าสู่ประเทศนั้นๆจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

    by admin on ส.ค..04, 2010

    ที่มา http://www.thainostradamus.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • tower2.jpg
      tower2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.5 KB
      เปิดดู:
      2,735
    • 9-11.jpg
      9-11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39 KB
      เปิดดู:
      94
    • 9-11-c.jpg
      9-11-c.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.1 KB
      เปิดดู:
      93
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2011
  3. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ความกระหาย อดอยาก จะเกิดชึ้นเมื่อดาวหางโคจรผ่านมา…..

    เรื่องบังเอิญของภาพยนต์เรื่อง Deep Impact และ ดาวหาง Elenin ที่จะมาใกล้โลกเดือนสิงหาคมนี้



     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    BIBLE CODE:
    AHMADINEJAD ASSASSINATED

    [​IMG]

    2010 AD: There is a date in this Bible code for the Hebrew Year of 5770 = SEPT 2009 AD to SEPT 2010 AD in our western calendar. Its possible Israel will assassinate Ahmadinejad in 5770 in another of his propoganda trips to The United Nations?

    It is also possible that Israel will assassinate Ahmadinejad in Sept 2009-2010 AD (at a UN speech) at the same time Israel launches a bombing campaign to destroy Iran's nuclear weapons program. What is interesting is the time frame for a possible war between ISRAEL vs IRAN (2009- 2010 AD), a war that will clearly trigger the Biblical Apocalypse.

    ที่มา BIBLE CODE: AHMADINEJAD ASSASSINATED - [ แปลหน้านี้ ]

    คำทำนายของนอสตราดามุส

    "มาบูส จะตายในไม่ช้า
    จะมีการฆ่าหมู่คนและสัตว์ อย่างน่าสยดสยอง
    ทันใดนั้น การแก้แค้นจะปรากฏขึ้นจากร้อยแผ่นดิน
    ความกระหาย อดอยาก จะเกิดขึ้นเมื่อดาวหางโคจรผ่านมา" II 62

    ที่มา http://ericbox.exteen.com/20090122/entry

    สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระฟาติมา

    การลงโทษจะมาอย่างแน่นอน เมื่อบุรุษผู้หนึ่งซึ่งมีตำแหน่งสำคัญถูกฆาตกรรม เหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดมติที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหานั่นคือ กองทัพที่มีพลังมหาศาลจะบุกเข้าสู่ยุโรป แล้วสงครามนิวเคลียร์จะเริ่มขึ้น มันจะทำลายทุกสิ่ง ความมืดจะครอบคลุมโลกเป็นเวลา 72 ชั่วโมง และ 1 ใน 3 ของมนุษย์ชาติซึ่งจะมีชีวิตรอดจากช่วงเวลาแห่งความมืด 72 ชั่วโมงนั้นจะเข้าสู่ ชีวิตในยุคใหม่และเป็นคนดี"

    ที่มา http://www.palungjitrescuedisaster.com/

    คำทำนายของพระฮวน พอล วัลเดส

    สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นจากเหตุการปลงชีพของผู้นำประเทศตะวันออกกลาง สงครามจะถึงจุดสูงสุด เมื่อประเทศตะวันตกทิศเหนือ ไม่อาจยอมทนต่อไปกับการวางระเบิดแบบสละชีพและก่อการร้าย ของชนประเทศตะวันออกลางต่ออธิปไตยของประเทศ

    ที่มา http://www.palungjitrescuedisaster.com/<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    หมายเหตุ

    มาบูส ในคำทำนายของนอสตราดามุส ยังมีคนตีความว่าอาจจะหมายถึง นายมาห์มูด อาห์มาดิเนจาด ประธานาธิบดีอิหร่านผู้นี้ด้วย ซึ่งอาจจะเป็นผู้นำตะวันออกกลางที่ถูกลอบสังหาร จนเป็นชนวนเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็เป็นได้ครับ เพราะเคยมีคนพยายามลอบสังหารมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ

    เกิดเหตุระเบิดลอบสังหารผู้นำอิหร่าน

    5 ส.ค. 2010 ... เกิดเหตุระเบิดลอบสังหารผู้นำอิหร่าน. เกิดเหตุลอบสังหารนายมาห์มูด ... (ตรงตามคำทำนายในคัมภีร์ไบเบิ้ล)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2011
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระฟาติมา

    [​IMG]

    อนึ่งผมได้รับเอกสารชิ้นหนึ่งจากคุณ สนธิ สารธรรม จ่าหน้าว่า "สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระที่ฟาติมา" ผมจะขอคัดข้อความส่วนที่กล่าวถึงการทำนายมาลงในที่นี้ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อความชิ้นแรก ที่ผมได้อ้างมาแล้วในตอนต้น

    "หลังจากที่สมเด็จพระสันตปาปายอห์น ปอล ได้ทรงอ่านทำนายข้อที่ 3 แล้วก็เช่นเดียวกันพระองค์ทรงโทมนัสมากจากข้อความในสาสน์นั้น และทรงอนุญาตให้เปิดเผยบางส่วนให้โลกได้รับทราบในปี ค.ศ.1983-1985 พระองค์ทรงทำดังนี้เพราะมีเวลาเหลืออยู่น้อยแล้ว"

    "เสียงจากพระแม่ได้ตรัสกับลูเซียว่า........ลูกที่รักของเราจงไปและบอกให้โลกได้รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากมนุษย์ไม่ฟังคำสั่งที่พระเป็นเจ้าทรงวางไว้ต่อหน้าพวกเขา ปีศาจจะปกครองโลกและมันกำลังทำให้คนทั้งหลายเกลียดชังกัน อาวุธที่มนุษย์สร้างขึ้นนั้นก็สามารถทำลายโลกได้ในเวลาเพียงนาทีเดียว ครึ่งหนึ่งของมนุษย์ชาติจะถูกทำลาย พระศาสนาจักรเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความชั่วร้าย จนว่าไม่มีมนุษย์สักคนเข้าใจดีกันได้และมนุษย์จะสูญเสียความเชื่อ.......

    แผ่นดินไหวจะทำลายแนวเส้นแบ่งของโลก (เส้นศูนย์สูตรของโลก) ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าจะตาย บุคคลเหล่านี้เป็นพวกที่ชีวิตของเขามีรากฐานอยู่บนวัตถุสิ่งของ คนหลายล้านคนจะเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่วินาที ส่วนพวกที่มีชีวิตรอดก็ปรารถนาให้ตัวเองได้อยู่ในหมู่ผู้ตาย (อยากตาย) สภาพของโลกที่อยู่เบื้องหน้าเรานั้นเป็นสภาพที่ไม่อาจจินตนาการได้ แต่สิ่งนี้จะมาอย่างแน่นอน พระเป็นเจ้าจะทรงลงโทษผู้ที่ไม่ต้องการที่จะยอมรับพระองค์ พวกที่เชื่อและสัตย์ซื่อต่อพระองค์จะมีชีวิตรอดและจะมีความเชื่อเพิ่มมากขึ้น"

    ลูเซีย เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เธอได้กลายเป็นแม่ชี และเคยกล่าวเอาไว้ว่า

    ".........แม่พระทรงโทมนัสมาก เพราะไม่มีใครสนใจในสาสน์ปี ค.ศ.1917 ของพระแม่ จงเชื่อเถิดว่าการลงโทษกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ และมีวิญญาณมากมายจะประสบความพินาศ หลายชาติจะหายไปจากโฉมหน้าของโลก ในระหว่างนี้ถ้ามนุษย์กลับตัวกลับใจโลกก็จะปลอดภัย........ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะเริ่มภาวนา ทำการใช้โทษบาปและส่งสาสน์นี้ให้แพร่หลายต่อไปยังครอบครัวญาติมิตร "

    "การลงโทษจะมาอย่างแน่นอน เมื่อบุรุษผู้หนึ่งซึ่งมีตำแหน่งสำคัญถูกฆาตกรรม เหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดมติที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหานั่นคือ กองทัพที่มีพลังมหาศาลจะบุกเข้าสู่ยุโรป แล้วสงครามนิวเคลียร์จะเริ่มขึ้น มันจะทำลายทุกสิ่ง ความมืดจะครอบคลุมโลกเป็นเวลา 72 ชั่วโมง และ 1 ใน 3 ของมนุษย์ชาติซึ่งจะมีชีวิตรอดจากช่วงเวลาแห่งความมืด 72 ชั่วโมงนั้นจะเข้าสู่ ชีวิตในยุคใหม่และเป็นคนดี"

    "ในคืนที่มีอากาศหนาวจัด เมื่อเวลา 10 นาทีก่อนเที่ยงคืน แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำให้โลกสั่นสะเทือนเป็นเวลา 8 ชั่วโมง นี่คือสัญญาณที่ 3 ซึ่งแสดงว่าพระเป็นเจ้าทรงเป็นผู้ครอบครองโลก คนดีและผู้ที่ได้เผยแพร่สาสน์ของพระแม่จะไม่ต้องหวาดกลัวเลย จะต้องทำอะไรเล่าจงคุกเข่าและภาวนาวอนขอพระเมตตาจากพระเป็นเจ้า จงอย่าออกไปข้างนอกจงอย่ายอมให้ใครก็ตามเข้าไปในบ้านของท่าน คนดีเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอดจากหายนะครั้งนี้ ส่วนคนชั่วจะตกอยู่ในน้ำมือของปีศาจ "

    แม่ชีลูเซียได้แนะ "ทางรอด" ให้แก่ผู้ที่เตรียมตัวพร้อมเอาไว้ดังนี้ว่า

    " ดิฉันขอให้เครื่องหมายเหล่านี้ คือคืนนั้นจะหนาวมาก ลมจะพัดแรงและในช่วงเวลาอันสั้นโลกจะเริ่มสั่นสะเทือน ที่บ้านของท่านจงปิดหน้าต่างทุกบานและอย่าพูดกับคนหนึ่งคนใดนอกจากคนในบ้าน อย่ามองออกไปภายนอก อย่าอยากรู้อยากเห็น เพราะนี่เป็นพระพิโรธของพระเป็นเจ้า จงจุดเทียนเสกเพราะจะไม่มีแสงสว่างในรูปแบบอื่นส่องแสงได้เป็นเวลา 3 วัน คุกเข่าต่อไม้กางเขนแล้วภาวนา.....

    เมื่อโลกหยุดสั่นสะเทือนแล้วท่านจึงมองออกไปภายนอกได้ แต่อย่าได้แตะต้องหรือนำสิ่งใดก็ตามที่ได้สัมผัสกับสิ่งที่เป็นพิษ มิฉะนั้นตัวท่านจะได้รับพิษนั้นด้วย ทุกคนที่ไม่เชื่อและไม่ฟังจะตาย ลมจะพัดเอาอากาศธาตุ (ก๊าซ) มาและแผ่กระจายไปทั่วโลก ในคืนที่ 3 แผ่นดินจะหยุดสั่นสะเทือน มันจะอยู่ในสภาพนิ่ง ดวงอาทิตย์จะปรากฎมา บรรดาทูตสวรรค์จะมาจากฟ้าและอวยพรแผ่นดินโลกอีกครั้งหนึ่ง "

    (คัดลอกมาจาก หนังสือ เทพอวตาร เขียนโดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    453
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 02 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7459 ข่าวสดรายวัน


    ทีทีอาร์ชี้เดือนพ.ค.ข้าวไทยราคาพุ่ง อานิสงส์สต๊อกโลกลด-หลายชาติแห่ประมูลซื้อ



    นายสุทัศน์ เศรษฐบุญสร้าง ผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาข้าวในตลาดโลก รวมทั้งตลาดไทยตั้งแต่เดือนพ.ค.54 เป็นต้นไป จะมีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่สต๊อกข้าวเพื่อความมั่นคงของประเทศปรับตัวลดลง เนื่องจากหลายประเทศ โดยเฉพาะอินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ อาจจะต้องเข้าประมูลซื้อข้าวในตลาดโลก เพื่อนำไปบริโภคในประเทศ โดยอินโดนีเซีย สต๊อก 1.97 เดือน ฟิลิปปินส์ 1.41 เดือน และเวียดนาม 1.08 เดือน โดยสต๊อกข้าวลดต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของสต๊อกข้าวโลกที่ 2.60 เดือน ดังนั้นครึ่งหลังปีི ข้าวไทยน่าจะได้รับอานิสงส์จากสต๊อกข้าวลดลง และในฐานะที่ไทยมีสต๊อกข้าวอันดับ 1 ของโลก ปริมาณ 6.93 เดือน ส่งผลให้ราคาข้าวของเกษตรกรปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

    ขณะเดียวกัน ราคาข้าวในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของข้าวเปลือกในตลาดชิคาโก สหรัฐ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาข้าวในตลาดโลก รวมทั้งตลาดไทยคงไม่หวือหวาเหมือนช่วง 2-3 ปีก่อน เพราะปริมาณข้าวใน สต๊อกของโลก ซึ่งเป็นสาเหตุฉุดราคาข้าวไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้น

    ทั้งนี้สต๊อกข้าวของประเทศต่างๆ ในปีི เมื่อเทียบกับการบริโภคมีแนวโน้มลดลง แม้ขณะนี้จะมีปริมาณที่มากกว่าปีก่อนอยู่ก็ตาม แต่สต๊อกข้าวไทยยังถือว่าเป็นอันดับ 1 หากเทียบกับประเทศผู้ผลิตอื่นๆ ดังนี้คือ ประเทศไทย มีสต๊อก 6.93 เดือน ลดลงจากปีก่อนที่มี 7.18 เดือน สหรัฐมีสต๊อก 5.12 เดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 3.59 เดือน ญี่ปุ่นมีสต๊อก 4.12 เดือนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 3.94 เดือน จีน มีสต๊อก 3.88 เดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 3.65 เดือน และอินเดีย มี สต๊อก 2.85 เดือน ลดลงจากปีก่อนที่มี 2.87 เดือน แต่สต๊อกข้าวโลกทั้งหมดสูงถึง 2.60 เดือนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่สต๊อกข้าวลดลงอยู่ที่ 2.57 เดือน โดยสต๊อกข้าวในโลกเพิ่มจาก 93.81 ล้านตันมาเป็น 97.09 ล้านตัน เป็นระดับสต๊อกข้าวในโลกที่สูงที่สุดตั้งแต่ปีཀྵ/46 ซึ่งเป็นผลทำให้ราคาตลาดโลกเพิ่มไม่มากนักเมื่อเทียบกับธัญพืชสินค้าอื่นๆ

    "ช่วงที่ผ่านมายอมรับค่อนข้างแปลกใจ เพราะราคาข้าวในตลาดโลก รวมทั้งตลาดไทย ปรับตัวลดลง หรือมีการเพิ่มขึ้นบ้างแต่ยังน้อยมาก เมื่อเทียบกับสินค้าเกษตรตัวอื่นๆ โดยจากปีཱ เป็นต้นมาราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะอาหารปรับขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคส่วนที่เป็นอาหารสูงขึ้น 5.9% 5.1% และ 5.9% สำหรับเดือน ม.ค. ก.พ. และมี.ค. ตามลำดับ เมื่อเทียบกับราคาในปีก่อน นอกจากนั้นสินค้า บางตัวยังหายไปจากตลาดเป็นครั้งคราว เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำตาล และแม้แต่ไข่ไก่ อีกทั้งขณะนี้ราคาเนื้อหมูและเนื้อไก่ก็กำลังเตรียมปรับตัวเพิ่มขึ้น"นายสุทัศน์กล่าว

    นอกจากราคาข้าวที่จะสูงขึ้น เนื้อสัตว์และนมยังจะมี แนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากราคาอาหารสัตว์ยังคงสูงอยู่ และยังมีปัญหาอากาศแล้งทำให้สัตว์เลี้ยงตายไปจำนวนหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงราคาของสินค้าเหล่านี้มีผลกระทบต่อราคาในไทยและเศรษฐกิจไทยโดยตรง เพราะไทยเป็นผู้เล่นสำคัญในสินค้าหลายตัว โดยเฉพาะข้าว น้ำตาล และเนื้อไก่

    ชาวลุ่มน้ำโขงจี้หยุด สร้างเขื่อนไซยะบุรี

    วิภาวี จุฬามณี


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>"เขื่อนไซยะบุรี" ที่รัฐบาลลาวมีแผนจะสร้างกั้นลำน้ำโขงทางตอนเหนือของลาว อยู่ห่างจากประเทศไทยราว 200 กิโลเมตร ดำเนินการมาถึงขั้นตอนการแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง หรือ "พีเอ็นพีซีเอ" ซึ่งคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (เอ็มอาร์ซี) เปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิก 4 ประเทศ คือ ไทย ลาว เวียดนาม และกัมพูชา จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นภายใน และประชุมร่วมกัน เพื่อสรุปผลการตัดสินใจโครงการเขื่อนไซยะบุรี ที่กรุงเวียง จันทน์ ประเทศลาว ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

    ผลการประชุมในวันนั้น ทั้ง 4 ประเทศเห็นพ้องร่วมกันว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับโครง การไซยะบุรีควรยกให้ระดับรัฐมนตรีเป็น ผู้ตัดสินใจ เนื่องจากคณะกรรมการร่วมไม่สามารถบรรลุข้อสรุปร่วมกันได้

    โดยรัฐบาลกัมพูชาเสนอให้ขยายเวลารับฟังความคิดเห็น และศึกษาเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นผลกระทบข้ามพรมแดน เช่นเดียวกับรัฐบาลไทย ที่เห็นว่าระยะเวลาปรึกษาหารือยังไม่เพียงพอ และควรนำข้อเสนอจากสาธารณะมาพิจารณาอย่างรอบคอบ

    ขณะที่ข้อเสนอของประเทศท้ายน้ำอย่างเวียดนามดูจะดุดันกว่าใคร คือเสนอให้ชะลอโครงการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงทั้งหมดไปอีกอย่างน้อย 10 ปี เพราะกังวลอย่างยิ่งต่อการศึกษาที่ไม่รอบด้านเพียงพอ โดยเฉพาะผลกระทบระยะยาวต่อท้ายน้ำ และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ตรงกันข้ามกับรัฐบาลลาวเจ้าของโครงการนี้ ที่ยืนยันว่ากระบวนการปรึกษาหารือสิ้นสุดลงแล้ว หากขยายเวลาศึกษาเพิ่มเติมก็ไม่สามารถทำให้ทุกประเทศพอใจได้ทั้งหมด ซึ่งเท่ากับว่า ลาวดึงดันที่จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป โดยไม่ฟังเสียงของประเทศเพื่อนบ้าน

    ก่อนหน้าการประชุมดังกล่าว ในประเทศไทย ทางเครือข่ายภาคประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง รวบรวมรายชื่อ 10,000 ชื่อ และยื่นหนังสือให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ยกเลิกแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อน ไซยะบุรี และให้เลื่อนการตัดสินใจให้ความเห็นชอบออกไปก่อน

    พร้อมทั้งยื่นต่อคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ให้ช่วยตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้

    รวมถึง ดร.ศรีประภา เพชรมีศรี ผู้แทนไทยประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนอาเซียน ให้ช่วยตรวจสอบการดำเนินการโครงการเขื่อน ไซยะบุรี เพราะเห็นว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง

    นอกจากนี้ ยังชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรีลาว ซึ่งไม่ยอมส่งตัวแทนมารับหนังสือ

    ขณะเดียวกัน ในพื้นที่หัวงานก่อสร้างเขื่อนที่แขวงไซยะบุรี ประเทศลาว ก็นำรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายสิบคันเข้าไปเกลี่ยดิน ทำถนน เตรียมการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งรัฐบาลลาวหมายมั่นว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตขึ้นอีก 8 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ชาวบ้านในละแวกนั้นก็กำลังเตรียมอพยพออกจากพื้นที่ หลังได้รับเงินชดเชยรายละ 15 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 450 บาท

    สภาพการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลลาวกำลังเดินหน้าสร้างเขื่อนไซยะบุรีอย่างแน่นอน

    นายอิทธิพล คำสุข เลขานุการเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบลลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน กล่าวภายหลังเข้ายื่นหนังสือต่อหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวนมติที่จะรับซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนไซยะบุรี และยกเลิกการสนับสนุนการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขง

    ส่วนรัฐบาลลาว หากยังเดินหน้าสร้างเขื่อนไซยะบุรีต่อไป เครือข่ายชาวบ้านจะทำทุกวิถีทาง เพื่อยับยั้งโครงการนี้ เพราะมีการศึกษาแล้วว่า ผลกระทบที่ตามมาจากการสร้างเขื่อนกั้นโขงจะทำให้ "ได้" ไม่คุ้ม "เสีย"

    "เขื่อนจะทำลายระบบนิเวศทั้งหมด ความสมบูรณ์จะหายไป พร้อมๆ กับวิถีชีวิตริมน้ำของคนลุ่มน้ำโขงก็จะหายไปด้วย" อิทธิพลแสดงความกังวล

    ขณะที่ ดร.ศรีประภา เพชรมีศรี ผู้แทนไทยประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนอา เซียน กล่าวภายหลังรับมอบหนังสือจากเครือข่ายภาคประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงว่า จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับผู้แทนจากประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง รวมถึงนักวิชาการ และองค์กรพัฒนาเอกชนในภูมิภาคนี้ ว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนลุ่มน้ำโขง

    โดยในเบื้องต้นเห็นว่า ชาวบ้านถูกละเมิดสิทธิ 3 ประการ คือ สิทธิในความเป็นอยู่ที่ดี และสิทธิในการดำเนินชีวิต ซึ่งปรากฏอยู่ในปฏิญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ที่ทั้ง 4 ประเทศให้สัตยาบันร่วมกัน รวมถึงสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งรัฐธรรมนูญของทั้ง 4 ประเทศให้การรับรองไว้

    หลังรับทราบท่าทีล่าสุดของรัฐบาลลาว เครือข่ายภาคประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลลาว และบริษัท ช.การช่าง ยุติการก่อสร้างโครงการเขื่อนไซยะบุรีทันที และขอให้ปฏิบัติตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการร่วม 4 ประเทศ

    เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศลุ่มน้ำโขงทั้ง 4 ประเทศ และดำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ชีวิต และธรรมชาติของภูมิภาค ที่มีแม่น้ำโขงเป็นทรัพยากรร่วมกัน

    ไต้หวันฮึ่ม"หมอดู"ขู่สึนามิ



    เอเอฟพีรายงานว่า วันที่ 29 เม.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันขู่จะปรับเงินหมอดูชื่อ "อาจารย์หวัง" ซึ่งประกาศตัวเป็นเทพพยากรณ์ เป็นเงิน 98,000 บาท ถ้าไม่ลบคำทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มไต้หวันในเดือนหน้า ซึ่งทำให‰ชาวไต้หวันพากันตื่นตระหนก

    คำทำนายเขียนในเว็บไซต์บล็อกส่วนตัวเตือนว่าจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและสึนามิลูกใหญ่ซัดถล่มไต้หวันราววันที่ 11 พ.ค. จะมีชาวไต้หวันเสียชีวิตนับล้านคน โดยแนะนำให้ประชาชนหลบภัยในตู้คอนเทนเนอร์สินค้า คำพยากรณ์นี้ทำให้ชาวไต้หวันตื่นกลัวรีบนำตู้คอน เทนเนอร์มาสร้างที่หลบภัยขึ้นราว 170 ตู้

    กล้วยคู่วิวาห์

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>กล้วยรูป เจ้าชายวิลเลียม และ เคต เป็นงานฝีมือของ เคอิซูเกะ ยามาดะ ช่างไฟฟ้าชาวญี่ปุ่น วัย 23 ปี ใช‰ช้อนและตะเกียบแกะสลักกล้วย ครึ่งชั่วโมงได้อย่างที่เห็น แตˆทิ้งไว‰แป?บเดียวกล‰วยก็เริ่มดำ

    พอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกแล้ว พ่อหนุ่ม ก็จัดแจงเขมือบกล้วยลงท้องเป็นอันเสร็จพิธี...อิ่มอร่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2011
  7. Nutthawut

    Nutthawut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +479
    เพื่อนฝรั่งบอกวันนี้มีข่าวดี บินลาดินตายแล้ว ผมบอกเค้าว่าเป็นข่าวดีของยูวันนี้ แต่สำหรับฉันมันเป็นสัญญาณแห่งความวิบัติ เดือดร้อนวุ่นวาย กำลังจะเริ่มต้นในไม่ช้า (เฮ้อ ใกล้แล้วซินะ ยังปฏิบัติไม่ไปถึงไหนเลย )
     
  8. jozaco

    jozaco สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +0
    ภาพศพ ตัดต่อ 100% แบบนี้จะเชื่อไรได้อีกเห่อๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Pic_168489.jpg
      Pic_168489.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.2 KB
      เปิดดู:
      167
  9. spark113

    spark113 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +8
    เขาตัดต่อเพื่อเปรียบเทียบครับ
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775

    กราบโมทนาบุญด้วยครับ จะได้สานต่องานไปเป็นตัวอย่างในการพัฒนาให้ถึงพร้อมทั้งทางโลกและทางธรรมอันสมดุลและสมบูรณ์
     
  11. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    จากข่าวการตายของบินลาดิน วันนี้รวมทั้งการออกมาแถลงของผู้นำชาติตะวันตก ไม่ช้าผล การตอบโต้ของฝ่ายมุสลิมเกิดขึ้นแน่นอน

    ไทยเราแผ่เมตตาเพื่อศานสันติภาพกันเอาไว้ให้มากๆครับ

    เฝ้าดูสัญญานที่ฝรั่งเศสเอาไว้

    วาระหลายอย่างผสมเข้ามาไล่เรี่ยกันครับ
     
  12. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    2 พค. 2554 20:19 น.

    <table border="0" cellpadding="5" cellspacing="5" width="599"><tbody><tr><td class="text4"><dd> แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 36
    </dd><dd> วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่าตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร มีพระปรอท (เป็นไข้) และต่อมามีพระปัปผาสะ (ปอด) อักเสบ และพระอาการอ่อนเพลีย คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาจนหายจากพระอาการประชวรแล้ว แต่ยังประทับอยู่ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อให้คณะแพทย์ฯ ทำกายภาพบำบัดถวายเพื่อฟื้นฟูพระวรกาย และเพิ่มกำลังพระกล้ามเนื้อ ตลอดจนถวายพระกระยาหารบำรุงตามหลักโภชนาการนั้น คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวมาเป็นลำดับ แต่ยังทรงพระดำเนินไม่มั่นคง จึงได้ถวายการตรวจพิเศษต่างๆ เป็นระยะๆ ติดต่อกัน ผลปรากฏว่า ทรงมีภาวะน้ำไขสันหลังในโพรงพระสมองมากกว่าปรกติ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ทรงพระดำเนินไม่มั่นคง อาการเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ คณะแพทย์ฯ ได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างมีความเห็นตรงกันว่าควรถวายการรักษาด้วยวิธีใส่สายระบายน้ำไขสันหลังจาก ช่องพระสันหลังบริเวณบั้นพระองค์ (บั้นเอว) เข้าสู่ช่องพระนาภี (ช่องท้อง) ซึ่งเป็นการรักษาแบบมาตรฐานทั่วไป ทั้งนี้ได้กำหนดการถวายการรักษาในคืนวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2554 ส่วนผลการตรวจต่างๆ ในระบบอื่นอยู่ในเกณฑ์ปรกติและพระอาการทั่วไปดี เสวยพระกระยาหารได้เป็นปรกติ คณะแพทย์ฯ จะรายงานผลการถวายการรักษาในโอกาสต่อไป
    </dd><dd>
    </dd><dd> จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
    </dd><dd> สำนักพระราชวัง
    </dd><dd> 2 พฤษภาคม 2554</dd><dt>-------------------------------------------------------------------------------</dt><dd>ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวาย<wbr>บุญทั้งปวงที่เหล่าข้าพระพุ<wbr>ทธเจ้าได้สร้างได้บำเพ็ญมาด<wbr>ีแล้วนั้น นับแต่อดีต ปัจจุบัน ตราบจนอนาคต ด้วยชีวิต ด้วยอายุขัยของข้าพเจ้า น้อมถวายแทบเบื้องพระยุคลบา<wbr>ทองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย<wbr>ู่หัว ขอพระองค์ทรงหายจากพระอาการ<wbr>ประชวรได้โดยพลัน</dd><dt> ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    </dt></td>


    </tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2011
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,674
    ค่าพลัง:
    +51,948
    *** ศึกประลัยยากัลป์ ****

    จะเดือดร้อนกันทั่วโลก เพราะผลการกระทำของมนุษย์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE id=post4659255 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->kananun<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4659255", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: May 2006
    ข้อความ: 10,643
    พลังการให้คะแนน: 11440 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4659255 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->2 พค. 2554 20:19 น.

    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=5 width=599><TBODY><TR><TD class=text4><DD>แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 36
    <DD>วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่าตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร มีพระปรอท (เป็นไข้) และต่อมามีพระปัปผาสะ (ปอด) อักเสบ และพระอาการอ่อนเพลีย คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาจนหายจากพระอาการประชวรแล้ว แต่ยังประทับอยู่ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อให้คณะแพทย์ฯ ทำกายภาพบำบัดถวายเพื่อฟื้นฟูพระวรกาย และเพิ่มกำลังพระกล้ามเนื้อ ตลอดจนถวายพระกระยาหารบำรุงตามหลักโภชนาการนั้น คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวมาเป็นลำดับ แต่ยังทรงพระดำเนินไม่มั่นคง จึงได้ถวายการตรวจพิเศษต่างๆ เป็นระยะๆ ติดต่อกัน ผลปรากฏว่า ทรงมีภาวะน้ำไขสันหลังในโพรงพระสมองมากกว่าปรกติ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ทรงพระดำเนินไม่มั่นคง อาการเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ คณะแพทย์ฯ ได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างมีความเห็นตรงกันว่าควรถวายการรักษาด้วยวิธีใส่สายระบายน้ำไขสันหลังจาก ช่องพระสันหลังบริเวณบั้นพระองค์ (บั้นเอว) เข้าสู่ช่องพระนาภี (ช่องท้อง) ซึ่งเป็นการรักษาแบบมาตรฐานทั่วไป ทั้งนี้ได้กำหนดการถวายการรักษาในคืนวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2554 ส่วนผลการตรวจต่างๆ ในระบบอื่นอยู่ในเกณฑ์ปรกติและพระอาการทั่วไปดี เสวยพระกระยาหารได้เป็นปรกติ คณะแพทย์ฯ จะรายงานผลการถวายการรักษาในโอกาสต่อไป
    <DD>
    <DD>จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
    <DD>สำนักพระราชวัง
    <DD>2 พฤษภาคม 2554 <DT>------------------------------------------------------------------------------- <DD>ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวาย<WBR>บุญทั้งปวงที่เหล่าข้าพระพุ<WBR>ทธเจ้าได้สร้างได้บำเพ็ญมาด<WBR>ีแล้วนั้น นับแต่อดีต ปัจจุบัน ตราบจนอนาคต ด้วยชีวิต ด้วยอายุขัยของข้าพเจ้า น้อมถวายแทบเบื้องพระยุคลบา<WBR>ทองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย<WBR>ู่หัว ขอพระองค์ทรงหายจากพระอาการ<WBR>ประชวรได้โดยพลัน</DD></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขออนุโมทนาด้วยครับสาธุ สาธุ สาธุ
     
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]หลุมหลบภัย

    Mthainews : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการก่อสร้างหลุบหลบภัยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้าน หลังจากที่ได้มีการประสานงานกับกระทรวงการคลัง เร่งรัดอนุมัติงบประมาณให้มีการก่อสร้างหลุมหลบภัยตามที่ทาง จ.สุรินทร์ ร้องขอโดยเร็ว
    ทั้งนี้นายองอาจ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการยกเว้นระเบียบในการจัดจ้างเพื่อให้ทันกับความต้องการของประชาชน ทางจังหวัดสุรินทร์ จึงได้เร่งรัดให้ผู้รับจ้างเข้าพื้นที่ทำงานทันที โดยเริ่มจากที่สถานีตำรวจกาบเชิงก่อน เพราะที่โรงพักไม่มีหลุมหลบภัย แต่ตำรวจต้องอยู่ปฎิบัติหน้าที่ตลอดเวลา ไม่มีการอพยพไปกับชาวบ้าน จึงต้องสร้างให้ก่อน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้รับจ้างได้เข้าพื้นที่ทำงานมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่เมื่อมีการปะทะกันในพื้นที่อำเภอกาบเชิง ผู้รับจ้างจึงได้ถอนตัวออกไปชั่วคราว มาวันนี้ สถานการณ์ดีขึ้น จึงได้เข้าทำงานทันที
    ขณะที่หลุมหลบภัยดังกล่าว สร้างตามแบบของกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย บรรจุคนได้ 30 คน ต่อหลุม มูลค่าการก่อสร้างหลุมละ 109,000 บาท แล้วเสร็จภายใน 45 วัน โดยแต่ละหลุม หากไม่มีเหตุการณ์ปะทะให้ต้องหยุดงานจะแล้วเสร็จไม่เกิน 10 วัน โดยจะจัดสร้างทั้งหมด 169 หลุม ในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.กาบเชิง 131 หลุ อ.พนมดงรัก 38 หลุม ใช้งบประมาณ 18 ล้านบาท
    ส่วนจากการปะทะขยายพื้นที่กว้างออกไป ชาวบ้านได้ร้องขอหลุมหลบภัยเพิ่มเติม ตนจึงได้ประสานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ และ จ.อุบลราชธานี เร่งทำการสำรวจจุดก่อสร้างเพิ่มเติม โดยเฉพาะที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และ อ.น้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งการก่อสร้างจะได้รับการยกเว้นกฎระเบียบการจัดจ้างกระทรวงการคลัง เพื่อให้ทันกับความต้องการ
    อย่างไรก็ตามสถานการณ์ไทยปะทะเขมรตามแนวชายแดน วันนี้ สถานการณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ จึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประชุมหัวหน้าศูนย์อพยพ ทั้ง 35 ศูนย์ เพื่อประเมินสถานการณ์ หากพื้นที่ใดเห็นว่ามีความปลอดภัยมากขึ้น ก็จะอนุญาตให้ชาวบ้านกลับไปดูแลบ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงในเวลากลางวันได้ และให้กลับมาพักค้างในเวลากลางคืนที่ศูนย์
    ทั้ง นี้ เชื่อมั่นว่า ภายใน 2-3 วัน หากไม่มีการปะทะเกิดขึ้นอีก ประชาชนก็สามารถทยอยกลับบ้านได้ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับการยืนยันความปลอดภัยจากทางทหารเสียก่อน

    Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]

    [​IMG]
    หลังลงใต้เยี่ยมโรงเรียนน้ำท่วมลด
    ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมข้าราชการระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางลงพื้นที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเป็นประธานและร่วมพิธีเปิดงาน Big Cleaning day ที่โรงเรียนบ้านนบพิตำ หลังจากพื้นที่ดังกล่าวเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในห่วงเวลาที่ผ่านมา
    ทั้งนี้ นายชินวรณ์ ได้กล่าวบนเวทีว่า จากกรณีที่เกิดภาวะน้ำท่วมหนักใน จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่เมื่อ วันที่ 25 มีนาคม จนถึงวันที่ 2 เมษายน และทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อีกทั้งยังทำให้พื้นที่การศึกษามัธยมเขต 12 ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมนั้น จึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการซ่อมแซมโรงเรียนในพื้นที่ เนื่องจากใกล้ถึงวันเปิดภาคเรียน ดังนั้นการเดินทางมาดังกล่าวนั้นจึงได้มาจัดกิจกรรมให้มีงาน รวมน้ำใจชาวศึกษาธิการฟื้นฟูโรงเรียนใน จ.นครศรีธรรมราช ขึ้น ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวนั้น เพื่อเป็นการรวมพลคนกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมกับยังเป็นการช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง ที่ประสบภัยพิบัติ ซึ่งก็ควรได้รับการดูแล ฟื้นฟูร่างกาย จิตใจและขวัญกำลังใจ
    พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดเผยถึงกรณีการเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณในการฟื้นฟูโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายจำนวน 422 ล้านบาท เพื่อเร่งซ่อมแซมพื้นที่โรงเรียนที่ได้รับความเสียหายให้ทันก่อนการเปิดเรียน
    ส่วนแนวคิดที่จะมีการปรับปรุงโรงเรียนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมอีกนั้น ทางกระทรวงก็ได้มอบหมายให้ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือ สพฐ. สำรวจโรงเรียนที่มีปัญหาในพื้นที่เสี่ยงและออกแบบแล้ว โดยการออกแบบอาคารเรียน ในเบื้องต้นจะใช้โครงสร้างอาคารแบบใต้ถุนโล่ง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม ซึ่งก็จะให้มีการสำรวจตรวจสอบในทั่วประเทศ
    ขณะเดียวกันที่ผ่านมา โรงเรียนก็ไม่เคยได้ถูกจัดสรรงบประมาณ ในการปรับปรุงหรือสร้างอาคารเรียน จนได้งบประมาณของรัฐบาลตามโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งก็เชื่อมั่นว่า ภายใน 3 ปีข้างหน้าเรื่องการปรับปรุงแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโรงเรียนทั่วประเทศจะมีความชัดเจน
    อย่างไรก็ตาม กรณีโรงเรียนที่อยู่บริเวณแนวชายแดนข้อพิพาทที่มีการสู้รบกันนั้น ก็ให้อำนาจแก่ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อำนวยการโรงเรียน ใช้ดุลยพินิจในการเปิดภาคเรียน ส่วนเรื่องการสร้างหลุมหลบภัยก็เป็นข้อเสนอของทางโรงเรียนที่เห็นว่าอาคารเรียนที่มีอยู่อาจไม่ปลอดภัย เพราะหากมีการยิงระเบิดขนาดใหญ่ก็จำเป็นจำต้องมีหลุมหลบภัย จึงขอให้โรงเรียนประสานกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ว่า โรงเรียนใดบ้างจำเป้นจะต้องมีหลุมหลบภัย เพื่อให้ฝ่ายความมั่นคงมาสร้างหลุมหลบภัยให้ต่อไป
    นอกจากนี้ นายชินวรณ์ ยังได้นำคณะทำงาน ลุยป่ายาง ลงพื้นที่ อ.สิชล เป็นประธานมอบบ้านน้ำใจกระทรวงศึกษาธิการแก่ ด.ช.พีรยุทธ แก้วสวน อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดชนสังขรณพิจิตร นักเรียนยากจน ทั้งนี้ ครอบครัว ด.ช.พีรยุทธ มีครอบครัวทั้งหมด 4 คน พี่ชายศึกษาอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนเดียวกัน บิดาเป็นโรคประจำตัวมีอาการทางสมอง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทุกเดือน ขณะที่มารดาต้องรับจ้างทำงานทั่วไป หาเงินเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว
    นอกจากนี้ บ้านหลังเดิมยังมีสภาพเก่าผุพัง เป็นกระท่อมไม้ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้เป็นแม่งานหาหน่วยงานเข้ามาสนับสนุนในการสร้างบ้านให้ ด.ช.พีรยุทธ ด้วยจำนวนเงิน 350,000 บาท โดย ด.ช.พีรยุทธ ก็ได้กล่าวขอบคุณนายชินวรณ์ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง ที่มาสร้างบ้านให้ ด้วยน้ำตาคลอเบ้าด้วย

    Mthai News
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    <LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>[​IMG]ของแพง

    สินค้าแห่ขึ้นราคา ข้าวของแพงจัด เต็มเข็น ไข่เจียว กระเพราะ ธงฟ้า
    2 พ.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปหรือ เงินเฟ้อ ของไทยประจำเดือนเม.ย. 2554 อยู่ที่ระดับ 112.01 สูงขึ้น 4.04% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 15 เดือน ตั้งแต่เดือนม.ค. 2553 ที่เงินเฟ้ออยู่ที่ 4.1%
    ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าอุปโภคในหมวดต่างๆ ทั้ง ผักและผลไม้สูงขึ้น 6.49% อาหารสำเร็จรูปสูงขึ้น 2.58% หมวดเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ สูงขึ้น 4.09% ไข่ไก่สูงขึ้น 11.62% เครื่องประกอบอาหารสูงขึ้น 3.44% และน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น 1.96% ซึ่งในเดือนเม.ย.นี้มีสินค้าปรับราคาขึ้นทั้งหมดจำนวน 198 รายการ อาทิ ผักสด ข้าว น้ำมัน ไข่ไก่ เป็นต้น ลดราคา 64 รายการ และราคาไม่เปลี่ยนแปลง 155 รายการ
    ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ ที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสด และพลุ่มพลังงานออกจากการคำนวณ เดือนเม.ย.2554 อยู่ที่ 105.59 สูงขึ้น 2.07% เมื่อเทียบเดือนเม.ย.2553 แต่เมื่อเทียบเดือนมี.ค.2554 สูงขึ้นเพียง 0.73% ส่วนดัชนีเฉลี่ย 4 เดือน สูงขึ้น 1.62%
    ขณะที่กระทรวงพาณิชน์คาดการณ์เงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 2 น่าจะอยู่ที่ 3.45% โดยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนเตรียมตัวใช้จ่ายในการบริโภค ลงทุน และเป็นช่วงเวลาที่ใกล้จะเปิดเทอม จึงจะมีการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างมาก ส่วนผลผลิตการเกษตรน้อย เกษตรกรต้องเริ่มซื้อวัสดุอุปกรณ์ ซึ่งจะเป็นผลให้เงินเฟ้อในไตรามาส 2 จะยังอยู่ในระดับสูง แต่โดยเฉลี่ยเงิยเฟ้อเป้าหมายทั้งปีอยู่ที่ 3.2-3.7% พร้อมมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อในปีนี้จะอยู่ในเป้าหมายอย่างแน่นอน
    นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ คือ ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับติดต่อันเป็นเวลานาน ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ต้นทุนสินค้าทุกประเภทปรับตัวสูงขึ้น
    อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดัชนีที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้ รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ จะพยายามเพิ่มการส่งออกสินค้าไทยให้มากขึ้น เพื่อให้มีรายได้เข้าประเทศ รวมทั้งจะเน้นเพิ่มรายได้เกษตรกร ข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจ รวมถึงหามาตรการลดค่าครองชีพประชาชน โดยส่วนหนึ่งคือ การจัดโครงการธงฟ้าลดค่าครองชีพ เพื่อนำสินค้าราคาถูกขายตรงสู่ประชาชน ด้านอาหารสำเร็จรูปที่ราคาเพิ่มขึ้นนั้น ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ร่วมมือกับผู้ค้าอาหารสำเร็จรูป จัดเมนูอาหารจานเดียวธงฟ้าให้ประชาชน อาทิ ข้าวไข่เจียว ข้าวพัดกระเพรา

    Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>
     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] เหนือ-อีสาน-กลาง ฝนฟ้าคะนองหนัก </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศ ทำเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

    วันนี้ (2 พ.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ว่า ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้ามาปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ด้านรับลมทางตะวันตกของประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้

    สำหรับการพยากรณ์อากาศมีดังนี้

    ภาคเหนือ
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษและอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรีและราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก
    อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุงและสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
    มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] พายุฤดูร้อนพัดบ้านพังกว่า 80 หลังคาเรือน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นางกรองกาญจน์ โกมลภมร นายกเหล่ากาชาดจังหวัด นายพงษ์พันธุ์ แสงสุวรรณ นายอำเภอจอมบึง และ เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยของ จ.ราชบุรี

    ได้เดินทางไปตรวจสอบที่วัดหนองตาเนิด ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เนื่องจากที่วัดแห่งนี้ถูกพายุฤดูร้อนพัดศาลาการเปรียญและกุฎิพระ จนสังกะสีรวมทั้งกระเบื้องหลังคาหายไปหมดทำให้พระได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่มีที่พักอาศัย นอกจากนี้ต้นใหญ่ๆภายในวัดก็พายุพัดจนหักโค่นลงมาทับสิ่งปลูกสร้างภายในวัดได้รับความเสียหายจำนวนมาก ส่วนบ้านของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับวัดก็ถูกพายุพัดได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1พ.ค. 54 ที่ผ่านมา

    <DD>
    จากนั้นคณะของ นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้เดินทางไปที่วัดหนองปรือใหญ่ ต.แก้มอ้น อ.จอมบึง เพื่อมอบข้าวสารอาหารแห้ง รวมทั้งเครื่องอุปโภค บริโภคเบื้องต้น ให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากถูกพายุฤดูร้อนพัดบ้านพังเสียหายทั้งหลัง และพืชผลทางเกษตร โดยเฉพาะต้นมันสำปะหลังที่ปลูกกันมากในพื้นที่ หมู่ 2 และ หมู่ 8 ต.เบิกไพร หมู่ 7 ต.แก้มอ้นและหมู่ 1 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง ถูกพายุพัดจนถอนต้นขึ้นมาทำให้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งแล้วรวมกว่า 87 ครอบครัว
    <DD>
    โดยในเบื้องต้นนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้เร่งให้ทางท้องถิ่นนั้นได้ทำการสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนเพื่อเข้าไปทำการช่วยเหลือเป็นการด่วน ส่วนพืชผลทางเกษตรที่เสียหายนั้นก็เร่งสำรวจเพื่อดำเนินการแจ้งให้ทางเกษตรอำเภอได้ทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนด้วย


    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] กัมพูชาพ่าย! ยอมถอนทหารพ้นปราสาทตาเมือนธมแล้ว </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>กัมพูชายอมถอนทหารออกจากจุดปะทะปราสาทตาเมือนธมแล้ว หลังขาดขวัญกำลังใจ ขาดเสบียง อาวุธหมดสภาพ



    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 1 พ.ค.2554 พ.อ.เนี๊ยะ วงศ์ ผู้บังคับกองร้อยทหารชายแดนที่ 402 ภูมิภาคทหารที่ 4 ประเทศกัมพูชา ซึ่งควบคุมกำลังการรบ ด้านปราสาทตาเมือนธม ตลอดช่วงเวลา 10 วันของการปะทะ กับทหารไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้โทรศัพท์มาประสานงานกับ พ.อ.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บังคับการชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ฐานปฎิบัติการปราสาทตาเมือนธม เพื่อขอยุติการสู้รบกับทหารไทย และยอมถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากแนวชายแดนใกล้กับปราสาทตาเมือนธม ตั้งแต่ช่วงเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป


    ทั้งนี้เนื่องจากทหารกัมพูชา ขาดขวัญกำลังใจอย่างหนัก ขาดน้ำดื่ม และขาดอาหาร ผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่เดินทางมาเยี่ยม กระสุน และอาวุธปืน หมดสภาพ ในการใช้งาน ไม่มีกระสุนปืนที่จะยิงต่อสู้กับทหารไทย


    พันเอกเนี๊ยะ วงศ์ สงสารลูกน้อง ที่ล้มตายเป็นจำนวนมาก และศพทหารไม่มีการนำออกจากจุดปะทะ ปล่อยให้ศพทหารเขมรเน่าเหม็นส่งกลิ่นคละคลุ้ง

    จนทหารที่อยู่ตามแนวชายแดนหวาดผวา สภาพอันน่ากลัว พากันหมดกำลังใจในการรบ จึงขอยอมแพ้ทหารไทย ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ทั้งหมด ไม่มีเงื่อนไข
    จากนั้นพันเอกอดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บังคับการชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ได้สั่งการให้ทหารทำรั้วลวดหนาม ปิดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม แบบรั้วสองชั้น และนำธงหน่วยทหาร สัญลักษณ์ ทหารพรานผู้กล้า นักรบไทย ไปปักไว้ที่รั้วลวดหนาม และยังคงตรึงกำลังทหาร อย่างเข้มงวดเช่นเดิม เพราะเกรงเป็นกลอุบายของทหารกัมพูชา

    ขณะที่บริเวณจุดปะทะ ช่องกร่าง และปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก ก็กำลังมีการเจรจากัน

    ระหว่างผู้บังคับหน่วยทหารของไทยและกัมพูชา เพื่อยุตจิการสู้รบ จาการกดดันอย่างหนัก ของทหารไทย ประกอบกับ
    ทหารกัมพูชา ขาดขวัญกำลังใจอย่างหนัก และทนรับสภาพกลิ่นเน่าเหม็นของศพ ทหารที่ตายไปแล้ว ไม่ได้ คาดว่าจะมีการแนวทางการยุติการปะทะกันในเร็วๆ นี้
    <!-- Tags Keyword -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2554

    คมชัดลึก > ต่างประเทศ > ข่าวทั่วไป


    นักรบตาลิบันปากีลั่นโจมตีสหรัฐ-ปากี




    [​IMG]

    [​IMG]




    คมชัดลึก :กลุ่มนักรบตาลิบันในปากีสถานประกาศ วันนี้(2พฤษภาคม)แล้วว่าจะโจมตีปากีสถานและสหรัฐ หลังสหรัฐอ้างว่าสามารถสังหารนายโอซามา บิน ลาเดน ผู้นำอัลไกด้าได้แล้ว




    โฆษกของกลุ่มตาลิบันในปากีสถาน บอกว่า หากบิน ลาเดน ตายจริง พวกเขาก็จะล้างแค้นให้ด้วยการก่อเหตุโจมตีต่อรัฐบาลและกองกำลังความมั่นคงของทั้งสหรัฐและปากีสถาน
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนด้วยว่า กลุ่มที่มีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับอัลไกด้าจะไม่ยอมปล่อยให้การสูญเสียบิน ลาเดนครั้งนี้ผ่านเลยไป และนักรบตาลิบันในปากีสถานจะก่อเหตุระเบิดพลีชีพ และหากปากีสถานมีส่วนสมรู้ร่วมคิดกับการปลิดชีพ บิน ลาเดน จะ ยิ่งเผชิญกับการโจมตีมากขึ้น ที่ผ่านมาปากีสถานเผชิญกับเหตุระเบิดฝีมือของกลุ่มพัวพันอัลไกด้าถึงกว่า 4,240 คนแล้วในช่วงหลายปีนี้นับตั้งแต่ปี 2550
    ส่วนในอัฟกานิสถาน ที่มีกองกำลังขององค์การนาโต้นำโดยสหรัฐเข้าไปปฏิบัติการกวาดล้างตาลิบันใน ดินแดนนี้มานาน 10 ปี ประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ เตือนให้ตาลิบันเรียนรู้บทเรียนจากบิน ลาเดน และยุติการก่อการร้าย
    ผู้เชี่ยวชาญ เตือนว่า ขณะนี้เครือข่ายอัลไกด้าขยายวงกว้างและมีการแตกแยกสาขามากขึ้นจนทำให้น้อยคน นักที่เชื่อว่าการตายของบิน ลาเดนจะทำให้การก่อการร้ายหมดสิ้นไป เพราะจะยังมีคนปฏิบัติตามแนวทางของบิน ลาเดน และสงครามจะยังไม่ยุติ
    อินเทลเซนเตอร์ องค์กรอิสระที่เฝ้าจับตากลุ่มก่อการร้าย เตือนว่า ปฏิบัติการล้างแค้นครั้งใหญ่อาจจะยังไม่เกิดในหลายวันนี้ แต่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนหรือหนึ่งปีนับจากนี้ และความเสี่ยงที่สุดก็คือ บุคคลหรือกลุ่มเล็กๆที่มีแนวคิดรุนแรงซึ่งไม่เคยขึ้นตรงกับกลุ่มอัลไกด้า


    ที่มา:
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สื่อมะกันตีข่าวปากีสถานมี “อาวุธนิวเคลียร์” เกินกว่า 100 ลูก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 มกราคม 2554 13:49 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - กองทัพปากีสถานได้เพิ่มปริมาณอาวุธนิวเคลียร์ในคลังแสงขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมทั้งมีจำนวนหัวรบนิวเคลียร์เกิน 100 ลูก หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานวานนี้ (30)

    หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานอ้างอิงข้อมูลจากนักวิชาการอิสระของสหรัฐฯ หลายท่าน โดยระบุว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ปากีสถานได้ผลิตอาวุธป้อนคลังแสงนิวเคลียร์ได้ประมาณ 30-60 ลูก

    “ปากีสถานเพิ่มปริมาณอาวุธนิวเคลียร์ค่อนข้างเร็ว” สื่อฉบับดังกล่าวรายงานคำให้สัมภาษณ์ของเดวิด อัลไบรต์ ประธานสถาบันเพื่อวิทยาศาสตร์และความมั่นคงระหว่างประเทศ

    สืบเนื่องจากการผลิตพลูโตเนียม และการเสริมสมรรถนะยูเรนียมอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา กองทัพปากีสถานอาจมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่ในครอบครองจำนวนมากถึง 110 ลูก เดวิด อัลไบรต์ กล่าว

    จากข้อมูลดังกล่าว ณ ตอนนี้ปากีสถานได้แซงหน้าอินเดีย ศัตรูคู่อาฆาตซึ่งครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เช่นกัน โดยหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า อินดียมีหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 60-100 ลูก

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000013141
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Image.jpg
      Image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.9 KB
      เปิดดู:
      1,264
  19. rehacked

    rehacked เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,191
    ค่าพลัง:
    +8,013
    แปลกอย่าง ของในประเทศขาดตลาดทำให้ราคาแพง แต่ก็ยังจะเพิ่มจำนวนส่งออก

    เหมือนอยากให้ของขาดตลาด พอขาดตลาดก็ขอขึ้นราคา
     
  20. Nutthawut

    Nutthawut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +479
    กราบอนุโมทนาด้วยครับ ได้ทราบข่าวเมื่อเช้าวันนี้ตั้งใจเจริญอานาปานุสติให้ได้ตลอดทั้งวันเพื่อถวายกุศลแด่พระองค์ท่าน และขอแบ่งเบาพระอาการพระองค์ท่านด้วยอายุขัยและสุขภาพของลูก (ขอรับพระอาการแทน) ขอพระองค์ทรงหายจากอาการประชวรได้โดยพลับ "สัมปะจิตฉามิ"
     

แชร์หน้านี้

Loading...