เพื่อการกุศล :::(เปิดจอง)ล็อกเกตพระแก้วมรกต"ภูริทัตตเถรานุสรณ์-สมเด็จองค์ปฐมอมฤตศุภมงคลญาณสังวร":::

watjang2
จองสีเขียว

โอนเงิน 1,550.55 บาท
ธ.กสิกร วันที่ 01/05/11 เวลา 10.51

 

แนะนำพระีดี ชั้นเจ้าคุณแห่งเมืองไทยอยากให้ท่านเมตตาเสกด้วย

พระเกจิอยุธยา
เจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์

พระเกจิอ่างทอง
เจ้าคุณทอง วัดปลดสัตว์

 

สวัสดีครับช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยไม่ได้เข้ามาดู ขอแจ้งให้ทราบดังนี้ครับ

จองล๊อตที่ 2 ประกอบไปด้วย

สีเขียว 1 อัน
สีขาว 3 อัน
สีดำ 2 อัน

สรุปว่าน้องที่จองผ่านผมบางท่านได้ไปจองกันเองแล้วจึงสรุปว่า มีผู้สละสิทธิ์ สีเขียว 1 อัน และ สีดำ 1 อัน
คุณdekdelta รบกวนเคลียร์ยอดกับ waiting list เองนะครับ

 

ท่านใดโอนเงินแล้ว โทรบอกdekdelta2 (ไม่ได้บอกในกระทู้) ถ้ายังมี dekdelta2 บอกด้วยครับ

ผู้ที่จองไว้รอหน่อยนะครับ

 

โอนเกือบหมดครบทุกท่านแล้ว อาจจะไม่มีเหลือให้สำหรับล็อตที่ 2 ที่จองไว้เผื่อมีผู้สละสิทธิ์

ยินดีกับทุกท่านครับผม

 

โอนเกือบหมดครบทุกท่านแล้ว อาจจะไม่มีเหลือให้สำหรับล็อตที่ 2 ที่จองไว้เผื่อมีผู้สละสิทธิ์

ยินดีกับทุกท่านครับผม

 

สรุปยอดทั้งหมด ที่จองนะครับ น้องกฤษณ์ และ น้องตี๋

สีเขียว 7 ชิ้น สีขาว 3 ชิ้น และ สีดำ 1 ชิ้น รวมทั้งหมด 11 ชิ้น

ขออภัยที่ล่าช้าเนื่องจากแต่ละคนติดต่อไม่ค่อยได้ ท้ายสุดผมเองก็ตัดสินใจตัดสิทธิ์เขาเหมือนกัน เพราะล่าช้ามาท้ายสุด
น้องตี๋ครับหากต้องการจะนิมนต์ พระอาจารย์เอราวัณร่วมปลุกเสก ก็แจ้งมาครับจะติดต่อให้

ด้านล่างคือสลิปโอนเงินล๊อตสุดท้าย จำนวน 6001 บาท

 

วันที่ 8 บ่ายโมงหลวงปู่ขาวกลับจากอัญเชิญพระอุรังคธาตุของพระสังฆราชบังกลาเทศ มีลูกขอให้อยู่โปรดศิษย์ที่สนามบินนะครับ แล้ววันที่ 9 จะมีขบวนแห่พระอุรังคธาตุตามพิธีโบราณที่พระสังฆราชบังกลาเทศ มอบให้ ซึ้งเป็นพระอุรังที่ดูแลสืบๆกันมาของพระสังฆราชบังกลาเทศรุ่นก่อนๆ

ยังๆก็ลองไปรอที่สนามบินสุวรรณภูมินะครับท่านจะอยู่โปรดศิษย์ที่นั้นเพราะลูกศิษย์ขอไว้ ผมไม่รู้นะครับไม่แน่อาจจะเจอพระสังราชของบังกะลาเทศด้วยนะครับ

ขอโทษจริงๆครับเงินโทรศัพท์ผมหมด

 

ขออภัยนะครับน้องตี๋และ น้องกฤษณ์ ที่ล่าช้า ขอแจ้งให้ทราบยอดทั้งหมด สีเขียว 7 สีขาว 3 และ สีดำ 1 รวมเป็น 14 ชิ้น

หากต้องการจะนิมนต์ พระอาจารย์เอราวัณ ร่วมปลุกเสกและอธิษฐานจิต รบกวนแจ้งล่วงหน้าครับจะติดต่อให้ครับ
ไม่ค่อยว่างจะเข้ามาอ่านกระทู้ น้องตี๋และทีมงานจงภูมิใจในสิ่งที่ทำนะครับ ว่าอีกหน่อยจะเป็นตำนาน ทำพระให้คนบูชานั้นง่าย แต่ทำให้ดีนั้นยากมาก ไม่ใช่มีเงินว่าจะทำได้ทุกครั้งไป ต้องอาศัยความอดทน ตั้งใจ เสียสละ และที่สำคัญผมคิดว่าสิ่งที่พวกคุณทำอยู่นั้น เทวดาและ สิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้และร่วมโมทนากับทีมงานทุกท่าน งานหนึ่งงานใดหากเรามีความตั้งใจ มุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ และ ที่สำคัญใช้ใจทำ ใส่ความตั้งใจลงไป ผมเชื่อว่าการที่คนจะทำสิ่งเหล่านี้มันไม่ง่ายครับ
และผมก็เชื่ออีกว่าคุณได้ผ่านการทดสอบหลายสิ่งหลายอย่าง มีเสียงนก เสียงกาเล็ดลอดผ่านหู ได้ฟังคำติฉินนินทา สารพัด แต่ขอให้อดทนครับ สังคมเรายังขาดคนดีๆและเสียสละอีกมาก อย่าท้อครับ อย่าเลิก แต่พักก่อนก็ได้นะครับ หากต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการคำปรึกษาด้านหนึ่งด้านใด ยินดีครับ งานบุญดีๆแบบนี้ดีมากครับ

ขอแสดงความยินดีกับทุกๆท่านที่ได้จองล๊อคเกตรุ่นนี้เพราะผมเชื่อว่า เป็นวัตถุมงคลอีกรุ่นหนึ่งที่ทรงคุณค่า ดีนอก ดีใน
ดีทั้งเจตนา ดีทั้งมวลสาร ดีทั้งผู้สร้าง ดีทั้งความตั้งใจ ขอชมเชยและคารวะจากใจจริง

ด้านล่างคือสลิปโอนครั้งสุดท้ายครับ 6001 บาท ช้าไปนิด แต่อาจจะทำให้หลายคนดีใจ เพราะว่า มีเหลือ สีเขียว 1กับสี ดำ 1 5555555 (f)

 

มานั่งรอลุ้นครับเผื่อมีฉากเขียวเหลือถึงลำดับสำรอง อิอิอิ

 

หลวงปู่เร็ว วัดหนองโน ศิษย์ใต้ร่มเงาหลวงปู่ญาท่านสวน

เผอิญวันนั้นผมได้เดินทางไปเอารูปหล่อญาท่านสวน และพระอุปคุตของวัดนาอุดมครับ แล้วนึกได้ว่า หลวงปู่เร็วศิษย์ญาท่านสวนอยู่ใกล้ๆวัดนาอุดม ห่างกันแค่ 2 กิโลเมตร ผมก็เลยนะพระอุปคุต รูปหล่อญาท่านสวน พร้อมกับล็อกเก็ตรุ่นนี้ไปให้ท่าอธิษฐานจิตเพิ่มให้ครับ ซึ่งท่านก็เมตตาอธิษฐานจิตอย่างตั้งใจมากครับ ขณะที่ท่านอธิษฐานนั้นฝนก็ตกโปรยปรายลงมาครับ พอท่านอธิษฐานเสร็จผมก็เลยรีบลาท่านพระแถวๆวัดท่านถนนเป็นดินแดงครับกล้วติดหล่มไม่ได้กลับบ้าน แต่พอขับรถถึงหน้าวัดฝนก็หยุดตกไปเฉยๆ (ผมก็เลยคิดเอาเองว่า พระอุปคุตท่านรับรู้ครับ เพราะหลวงปู่คำบุวัดกุดชมภูเคยบอกผมว่า ถ้าเสกพระอุปคุตถ้าท่านรับรู้ผมต้องตกครับ ^^ ซึ่งหลวงปู่เร็วเองก็อยู่ในสายที่มีการเสกพระอุปคุตที่มีชื่อเสียงที่สุดอยู่แล้วด้วยเช่นกันครับ)

พระอธิการประเทือง หลวงปู่เร็ว วัดหนองโน ตำบลสำโรง อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี

 

หลวงปู่บัว แก้วคง วัดทัพหลวง ศิษย์หลวงปู่เทพโลกอุดร

หลวงปู่บัว แก้วคง อายุ 85 ปี วัดทัพหลวง ต.ตาหลวงใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เทพเจ้าแห่งวังน้ำเย็น พลังกสิณน้ำเปิดโลก เปิดชีวิต เปิดดวงชะตา หนุนโชคลาภวาสนาบารมีให้เจริญรุ่งเรือง เดิมท่านจำพรรษาอยู่แต่ในป่าในถ้ำในดิน แดนป่าอาภรรพณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 ท่านออกธุดงค์แสวงหาโมกขธรรม เริ่มตั้งแต่ที่ป่าภูเขียวแล้วย้ายมาอยู่ในถ้ำวัวแดง จ.ชัยภูมิ เกือบ 2 ปี ก่อนจะมาอยู่กับ ลป.คำพันธ์ 1 ปี จากนั้นก็ธุดงค์มาจำพรรษที่ถ้ามะเค็ง หนองคอก ฉะเชิงเทรา เกือบ 2 ปี จากนั้นเดินธุดงค์มาจำพรรษที่ถ้ำแรด ฉะเชิงเทรา 5 ปี แล้วธุดงค์มาจำพรรษาในเขาตะกรุบ ฉะเชิงเทราอีก 3 ปี ต่อมาญาติโยมนิมนต์มาอยุ่ที่วัดทัพหลวง ปี 2546 ระหว่างที่เดินธุดงค์และจำศิลภาวนาอยู่ในป่าในถ้ำนั้นท่านได้เจริญภาวนา ปฏิบัติพระกัมมัฎฐานอย่างเคร่งครัดจนกระทั่ง พบกับ หลวงปู่เทพโลกอุดร ในนิมิตขณะที่ท่านเจริญสมาธิก็ปรากฎดวงแก้วใสสว่างก็ปรากฎเป็นพระภิกษุอายุ มากนุ่งห่ม จีวรสีกรัก น้ำตาลเข้มเกือบดำเหมือนพระป่า แล้วท่านบอกพระคาถาขึ้นครูให้พูดตามท่าน จากนั้น หลวงปู่เทพโลกอุดรก็มานิมิตเพื่อถ่ายทอดวิชาอาคมไสยเวทย์ต่างๆ บางครั้งก็มีเพียงแค่เสียงกระชิบบอกพระคาถา ซึ่ง หลวงปู่ก็สามารถจดจำได้หมด แต่ที่น่าอัศจรรย์คือ หลวงปู่บัว ไม่เคยได้ร่ำเรียน อักขระ เลขยันต์และพระคาถาจากที่ใดมาก่อน วิชาอาคมต่าง ๆ ที่มีอยู่ล้วนเกิดขึ้นได้เองในตัวท่าน เป็นปัจจัตตังที่สำเร็จอยู่ในตัวท่านเอง

ท่านใจดีมากๆนะครับ ท่านกล่าวว่าพระรุ่นนี้ให้เอาขึ้นคอติดตัวไปตลอดได้เลย อยากได้อะไรก็ให้ขอกับพระได้ครับ ท่านเป็นอีกหนึ่รูปที่ผมประทับใจจากการมาเที่ยวจังหวัดทางภาคตะวันออกครับ

 

หลวงปู่นอง วัดวังสีทอง กิ่งอำเภอวังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ศิษย์เอกหลวงพ่อเดิม

หลวง ปู่นอง ธัมมโชโต พระเกจิอาจารย์ผู้สืบสาน วิชาสายฤาษี แห่งวัดวังศรีทอง ศิษย์เอก หลานแท้ๆของ หลวงพ่อเดิม ผู้สำเร้จวิชากสิณไฟ จากพระอภิญญา หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา

หลวง ปู่นอง ธัมมโชโต พระเกจิอาจารย์สูงอายุที่โด่งดัง อยู่ ณ ภาคอีสานใต้ ผู้คนเรียกขานกันว่า “ยอดพระเกจิเข้มขลัง ฌานบารมีสัมผัส “ฤาษีตาไฟ” ให้โชคลาภร่ำรวย” พระผู้เมตตา แห่งวัดวังศรีทอง ต.วังใหม่ อ.วังสมบรูณ์ จ.สระแก้ว อายุ 87 ปี ถือกำเนิดที่จังหวัดลพบุรี มีพี่น้องหญิงชาย 8 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนสุดท้อง โยมแม่มีศักดิ์เป็นน้องสาวของ พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม) วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ “เทพเจ้าแห่งเมืองปากน้ำโพ”
ในวัยเด็กอายุ 12 ปี บรรพชาเป็นสารเณร ปรนนิบัติรับใช้ ถวายตัวเป็นศิษย์ “หลวงพ่อเดิม” ผู้เป็น “หลวงลุง” ได้รับการถ่ายทอดวิชา คาถาอาคม การสร้างวัตถุมงคล ต่างๆ ด้วยงาช้าง มีดหมอ เขียนลบผง ปถมัง เตนิสิงเห มหาราช อิทธิเจ พุทธคุณ เรียนเขียนอักขระเลขยันต์ นะ 108 คาถาหัวใจ 108 เรียนวิชาอาคม ทางด้าน คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม โชคลาภ ฯลฯ หลวงพ่อเดิม ยังได้เมตตาสักยันต์ครู “นะเมตตา” ไว้ที่หัวไหล่ของหลวงปู่เพื่อยืนยันถึงความผูกผันอีกด้วย
หลวงปู่นอง เป็นพระที่ใฝ่รู้ ได้ขออนุญาติ หลวงพ่อเดิม กลับมาเยี่ยมบ้านที่จังหวัดลพบุรี ในยุคนั้นมีพระเกจิอาจารย์ดัง อยู่ที่เขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ชื่อ “หลวงพ่อกบ” สำเร็จ วิชากสิณไฟ ล่วงรู้วาระจิต จุดไฟน้ำมันก๊าดได้โดย เพ่งสายตา ทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ รดน้ำมนต์แล้วจะมีโชคมีลาภ ทำเครื่องรางของชลัง ได้สุดวิเศษ มี อิทธิปาฏิหาริย์ นานาชนิด เขาสาลิกาในยุคนั้นเนื่องแน่ไปด้วยผู้คนที่ศรัทธาในตัว หลวงพ่อกบ แม้แต่ หลวงพ่อโอภาสี (พระมหาชวน) ยังมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่นอง เมื่อกลับมาบ้านเกิด ได้ยินเกียรติศักดิ์ อภินิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อกบ จึงได้ไปฝากตัว เป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อกบ ได้เมตตาถ่ายทอด สุดยอดวิชา ให้หลายอย่าง
เมื่อ หลวงปู่นอง อายุ 21 ปี มีหมายเกณฑ์ให้ไปเป็นทหาร จีงลาสิกขา เข้าประจำการ กองพันเสนารักษ์ กองทัพอากาศ ดอนเมือง 2 ปี จึงปลดประจำการ
เมื่อปลดประจำการแล้ว หลวงปู่นอง ได้กลับมาอุปสมบทอีกครั้ง โดยมีศิษย์ผู้พี่ หลวงพ่อโอภาสี เป็นพระอปัชฌาย์ หลวงปู่นอง จำพรรษาที่ สำนักสงฆ์บางมด และได้ต่อวิชา ร่ำเรียนวิชา เพิ่มเติม เป็นเวลานานถึง 4 ปี
จากนั้นได้กลับมาจำพรรษา ที่วัดหนองโพ นครสวรรค์ ปรนนิบัติรับใช้ หลวงพ่อเดิม จนกระทั่ง หลวงพ่อเดิม มรณภาพ หลังจากนั้น หลวงปู่นอง ได้รับนิมนต์ จากทางญาติโยม ให้มาจำพรรษาที่วัดวังศรีทอง จังหวัดสระแก้ว หลวงปู่นองจึงไม่ขัดศรัทธา ได้จำพรรษาจนถึงปัจจุบัน
หลวงปู่นอง เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความชำนาญ เชี่ยวชาญ วิชาไสยศาสตร์ยิ่งนัก เคราะห์ไม่ดี กิจการ การค้าไม่ดี หลวงปู่ช่วยปัดเป่า สงเคราะห์ ช่วยเหลือคนให้ร่ำรวย มามากต่อมากแล้ว ใครที่มีวัตถุมงคล หลวงปู่นอง บูชาติดตัว จะเจริญก้าวหน้า ค้าขายดี ประสบความสำเร็จทุกประการ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้วัตถุมงคล ของหลวงปู่นอง หมดอย่างรวดเร็ว เป็นที่ต้องการ และแสวงหากันมาก

 

หลวงพ่อเจริญ วัดบางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

เผอิญแวะไปทำบุญครับ เลยให้ท่านอธิษฐานให้

 

หลวงปู่ทอง ปญฺญาทีโป วัดรังสีสุทธาวาส(ไร่กล้วย) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

พระครูสุทธิคุณรังสี หลวงปู่ทอง วัดรังสีสุทธาวาส จ.ชลบุรี

 

หลวงปู่เสริฐ วัดโอภาสี ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ชลบุรี

หลวงพ่อเสริฐ เขมะโก ท่านอายุ 89 ปี พรรษา 51 ปี

ประวัติของท่านโดยคร่าว ๆ เนื่องจากยังไม่มีประวัติของท่านตีพิมพ์อย่างเป็นทางการเลย ครั้งหนึ่งท่านเคยได้รับการทำนายจาก พระครูนิวาสธรรมสาร (ท่านพ่อโต) หรือลพ.โต วัดชากโดน พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองนามแห่งภาคตะวันออกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่า "คุณเสริฐดวงชะตาของคุณนั้นจะต้องตายในผ้าเหลือง ขอคุณจงเป็นที่พึ่งของชาวบ้านเขาเถิด" ท่านจึงออกบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ราวปีพ.ศ. 2503 และเป็นศิษย์ในสายท่านพ่อโตและได้ร่ำเรียนสรรพวิชาจำนวนมากจากท่านพ่อโต แต่เนื่องด้วยท่านเป็นพระเรียบง่าย สมถะ พูดน้อย ทำจริง จึงไม่ค่อยมีคนทราบว่า "ท่านเก่งจริง" วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างก็มีบ้างเป็นครั้ง ๆ ไป เพื่อมอบให้สานุศิษย์ได้มีของมงคลติดตัวกัน (ไม่ได้จำหน่าย) บ้างก็ทำเพื่อแจกคณะกฐินที่นำปัจจัยมาทอดถวายที่วัดครับ ท่านทำแบบนี้มานานแล้วครับ ว่ากันว่า "ของไม่ดีจริงไม่ทำ" อีกต่างหาก มีเรื่องเล่ากันในพื้นที่ว่าสมัยก่อนมีคนเคยได้รับพระจากท่านไปแล้วแอบไปลอง ยิงที่เขาอีกลูกห่างจากวัดหลายกิโลเมตรเพื่อจะได้รู้ไปเลยว่า "แน่หรือเปล่า" สไตล์คนจริงของถิ่นนี้ ปรากฎว่า "ยิงไม่ออก" พอเรื่องทราบไปถึงหู ท่านก็เปรย ๆ ในว่า "ไม่ควรลบหลู่ครูบาอาจารย์"

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือมีพระเกจิอาจารย์เรืองนามที่อยู่ในยุคเดียวกันท่านก็มี หลายรูป อาทิ ลป.คร่ำ วัดวังหว้า ลป.บุญ วัดบ้านนา ลป.ยงค์ วัดศรีประชา ลพ.รวย วัดท่าเรือ แต่ลพ.เสริฐ ท่านก็เก็บตัวเงียบเหมือน "ช้างเผือกอยู่ในป่า" มานานปีมีแต่คนพื้นที่จริง ๆ เท่านั้นที่รู้ดีที่สุด แต่กระนั้นครูบาอาจารย์เหล่านี้ก็บอกกับศิษย์ของท่านให้ไปกราบลพ.เสริฐที่ วัดกัน ชื่อเสียงของลพ.เสริฐเพิ่งจะได้รับทราบในวงกว้างเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง

รูปนี้ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอีกรูปหนึ่งของภาคตะวันออก ท่านเป็นสหธรรมมิกกับลป.คร่ำ วัดวังหว้า โดยเฉพาะวิชาการเขียนยันต์ "พัดโบก" ซึ่งท่านได้เรียนมาจากลป.คร่ำ นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในวิชาที่มีพุทธคุณด้านเมตตา ค้าขายเป็นที่ประจักษ์มานานแล้ว โดยเมื่ือสมัยที่ลพเสริฐ ท่านยังพำนักอยู่ที่วัดวังหว้า เวลาใครไปกราบลป.คร่ำ ท่านก็จะบอกให้ไปกราบลพ.เสริฐด้วยเสมอ เพราะลพ.เสริฐ ท่านได้ร่ำเรียนวิชาจากหลวงพ่อโตไว้มากมาย

หลวงปู่เสริฐนี้ผมประทับใจมาก ดีใจที่ได้กราบท่านครับ ท่านเป็นพระที่สันโดษ เรียบง่าย สมถะมากๆครับ คนส่วนใหญ่จะเห็นท่านใส่ถุงเท้าสีแดง นั่เป็นถุงเท้าที่หลวงปู่คร่ำให้ท่านไว้ครับ ตอนที่ท่านอธิษฐานจิตให้ท่านก็ทำให้อย่างตั้งใจจริงครับคือ มีการโยงสายสิญจน์มาจากพระประธาน โอ่งน้ำมนต์ ไม้เท้าของท่านครับ ท่านอธิษฐานจิตให้นานถึง 40 นาที บริกรรมคาถาเยอะมากครับ องค์นี้ถ้าใครยังไม่มีวัตถุมงคลท่านหรือยังไม่เคยไปกราบท่าน ผมขอแนะนำนะครับ เก็บของท่านไว้ดีแน่นอน เพราะท่านตั้งใจทำมากครับ

 

หลวงพ่ออ่อง ถาวโร ถ้ำสามพี่น้อง(ถ้ำเขาวงกต) ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

หลวงพ่ออ่อง เป็นวิปัสสนาจารย์กรรมฐานที่เป็นแนวทางปัญญาอบรมสมาธิครับ ท่านจะเน้นในเรื่องของการใช้ปัญญาเพื่อการหลุดพ้น (ปัญญาวิมุตติ) เป็นพระสุปฏิปันโนที่น่าเคารพ กราบได้อย่างภาคภูมิในธรรมอันลึกซึ้งของท่านครับ วันที่ผมไปกราบท่าน ท่านก็ได้แสดงปรมัตถโวหารอันเป็นธรรมที่ลึกซึ้งในเรื่องการใช้ปัญญาในการพิจารณาขันธ์ 5 ธาตุ 4 และการพิจารณาอวิชชา

ปรมัตถโวหาร
สังขาราแปลว่าสภาพธรรม อันกองกรมจำแนกให้แปลกผัน

มีชั่วดีหลายอย่างต่างๆกัน เป็นอย่างนั้นอย่างนี้เหลือชี้แจง

พอตั้งกรรมตามก่อเป็นตัวเกิด ในกำเนิดสี่แผนกแตกแขนง

เกิดสมบัติขึ้นดัดแปลง มีตำแหน่งตามกรรมจำแนกมา

เรียกกันว่าคนสัตว์บัญญัติไว้ ผู้ดีไพร่มีอำนาจวาสนา

นั่นก็บาปนี่ก็บุญวุ่นโลกา เทวดาอีกมนุษย์สมมุติกัน

ที่จริงแท้อะไรแน่ควรพินิจ ที่ก่อกิจเกิดเป็นเบ็ญจขันธ์

ให้เรากอดกองทุกข์อยู่ทุกวัน เหตุสำคัญท่านก็หมายสังขารา

อวิชชาความไม่รู้เป็นครูใหญ่ จึงทำให้สังขารนั้นหาญกล้า

แต่งกำเนิดเกิดชาติ เกิดชรา เกิดพยาธิไข้บรรลัยลาญ

แต่งให้มีให้จนออกวนวุ่น ให้เวียนหมุนอยู่ในวัฎสงสาร

เดี๋ยวผลัดสุขเปลี่ยนทุกข์ตามยุคกาล ไม่ทนนานเทียงแท้ผันแปรไป

แต่ตามจริงจะไปโจทย์โทษสังขาร ว่าตัวการแต่งขันธ์นั้นก็ใช่

เพราะสังขารก้เป็นขันธ์ใช่อันใด ต่างอาศัยก่อเกิดกันในตัว

ทั้งเป็นของธรรมดามีปรากฏ เหมือนกันหมดจิงๆทุกสิ่งทั่ว

เพราะสมมุติหลอกเราจึงเมามัว ซ้ำถูกตัวอวิชชาพาให้งง

ส่วนสังขารทำการตามหน้าที่ มิได้มีกลในให้ใครหลง

เมื่อเหตุพอข้าก็ก่อกำเนิดตรง หมดเหตุลงข้าก็ดับระงับไป

มีเกิดดับสำหรับสำรองโลก ใครทุกข์โศกร้อนเย็นเป็นไฉน

ก็ไม่เหลียวแลดูซึ่งผู้ใด มิสุขใยทุกข์ใยไม่นำพา

ถึงอวิชชาก็เป็นหน้าที่ของเขา ใครโง่เขลาเขาจึงลู่จู่เข้าหา

มิควรหลงลงโทษอวิชชา ไม่โง่บาเขาไม่ทำไมใคร

เขาเป็นธรรมเกิดกับสำหรับโลก จะย้ายโยกไปไว้หนตำบลไหน

เขามีอยู่ทั่วจบภพไตร สุดแต่ใครรู้เข้าเขาก็เกรง

แม้นผู้ใดเดินไตรสิกขาสาม เขาก็คร้ามไม่กล้ามาข่มเหง

ไม่ต้องไล่ต้องขับเขาดับเอง เขากลัวเกรงศีล สมาธิ ปัญญา

ถ้าหากไม่วินิจฉัยให้ลุ่มลึก มักรู้สึกเหมือนเขาคิดฤษยา

แกล้งแต่งแง่ทำให้งงคิดสงกา ที่จริงหาควรเห็นเป็นเช่นนั้น

ควรจะตรองของดูในโลกก่อน เย็นกับร้อนมีอยู่เป็นคู่ขัน

ชั่วกับดีมีแน่ของแกกัน ทุกสิ่งอันมีคู่อยู่ประจำ

สุขกับทุกข์บุญกับบาปทราบกันสิ้น เพชรกับนิลรูปกับนามเป็นความขำ

เดือนกับดาวอ่าวกับโอฆโลกกับธรรม แม้จะนำเอามากล่าวก็ยาวความ

พรรณนาว่าไว้พอให้เห็น เหมือนแนะเช่นชี้ช่องไม่ต้องถาม

ถ้าตรองดูก็จะรู้กระแสความ รูปกับนามสองสิ่งเที่ยววิ่งวน

เปลี่ยนสัญญาอาการสถานที่ เดี๋ยวชั่วดีมีมาโกลาหล

ผู้ไม่ใช้วิจารณ์ส่องญาณยล ก็หลงด้นเดาดำเฝ้าคลำดี

เพราะความโง่โมห์มลทมึนเขลา จึงหลงเฝ้าเก็บกากกินซากผี

จะหาจริงสิ่งไหนก็ไม่มี จริงอยู่ที่เกิดแก่กับไข้ตาย

นอกจากนั้นสมมุติผุดเต็มโลก ควรอาโภคส่องญาณประมาณหมาย

รู้สึกบ้างก็จะสร่างบางสบาย ไม่ต้องว่ายเวียนวงไปลงวน

ใช้วิชชาฆ่าอวิชชาดับ สังขารกลับกลายเช่นมาเป็นผล

เกิดกำแพงป้อมค่ายรายล้อมตน ของคงทนกายสิทธิ์ฤทธิแรง

ดัสกรจะทำลายไม่ชำรุด เพราะโลกุตรหาญกำแหง

อัษฏางคิกมรรคหลักกำแพง ธาตุทองแดงโลหะเนื้อไม่เจือปน

ถึงลูกบอมบ์จะระเบิดให้เปิดปอก ไม่ร้าวลอกรานระคายเท่าปลายขน

ล้อมวิมานเมืองวิมุติหลุดกังวล อันโสภณไปด้วยรัตนามัย

คือประชุมหมวดธรรมสามสิบเจ็ด ประดุจเพชรมรกตที่สดใส

เข้านั่งนอนผ่อนกายสบายใจ มองดูไฟเล่นก็ได้ไม่ต้องกลัว

อัคคนีร้อนแรงส่องแสงจ้า คิดเคหาภายนอกอยู่ออกทั่ว

เผาคนสัตว์ชายหญิงให้วิ่งนัว ไม่รู้ตัวไฟติดอนิจจัง

ผุ้รู้สึกเข้าอยู่ปราสาทสุข ไม่มีทุกข์มีร้อนพักนอนนั่ง

รื่นภิรมย์ชมสมบัติรัตนัง ที่ในวังวงจังหวัดวัฎฎเวียง

ความรู้สึกธรรมดาพาให้จิตต์ คิดปลื้องปลิดปลดปลีกหลบหลีกเลี่ยง

สิ่งไหนร้อนจรไกลไม่ใกล้เคียง อุบายเบี่ยงแบ่งเบาบรรเทาคลาย

สิ่งไหนเย็นเป็นกิจเปลื้องปลิดโทษ มีประโยชน์แก่ตนคนทั้งหลาย

ให้ตั้งหน้าพยายามตามอุบาย จนความหมายลุหวังดังจำนงค์

แต่ต้องเป็นความรู้ของผู้ปราชญ์ จึงสามารถเดินญาณทันประสงค์

ใชความรู้อย่างสัญญาพาให้งง ต้องหมายองค์ญาณะทัสสนาธรรม

จึงจักเปลื้องปลิดละอองได้ผ่องแผ้ว พบดวงแก้วกาญจนาเลขาขำ

แม้นพระพุทธประสงค์ทรงแนะนำ อุบายธรรมพิเศษนิเทศทาง


ทรงประสงค์ตรงญาณทัสสนะ เป็นมรรคปฎิบัติชัดสว่าง

คือสัมมาทิฎฐิญาณบรรหารวาง เป็นทางกลางมัธยมอุดมญาณ

สำหับผู้ที่ประสงค์ตรงวิมุติ เป็นคุณสุดที่จะหวังดับสังขาร

ต้องอุตส่าห์ฝึกอารามณณ์ข่มสันดาน ด้วยองค์ญาณหยั่งรู้ธรรมดา

เพราะคนเรามักจะเมาอารามณ์มาก ด้วยความอยากยังไม่สิ้นถวิลหา

แล่นมาเข้าสิ่งสู่ทางหูตา อีกนาสาลิ้นกายใจทวาร

ข้อสำคัญหมั่นมีความรู้สึก กำหนดนึกในเวลาที่มาผ่าน

เช่นตาดูหูฟังยั้งวิจารณ์ อย่าลนลานแล่นดับโดยฉับไว

ควรรู้ตามเห็นตามความเกิดดับ ถึงจะรับดูที่ควรอย่าด่วนได้

ควรตรึกตรองส่องญาณวิจารณ์ใจ ให้รู้ในทำนองของอารมณ์

ส่วนที่ดีมีมาถ้าด่วนรับ มักจะกลับกลายเช่นเป็นดีขม

หรือดีแท้แต่ไม่ยืดผะอืดผะอม จักเตรียมตรมตรองใจใช่พอดี

กลืนไม่เข้าคลายไม่ออกต้องกลอกหน้า ลงหมดท่าที่จะเบี่ยงหลีกเลี่ยงหนี

จะขากคลายก็นึกอายประชาชี ด้วยเดิมทีไม่ทันคิดจะผิดพอ

ครั้นจักขืนกลืนกล้ำจำกระเดือก ก็เกรงเกลือกที่จะทำติดลำศอ

พิพักพิพ่วนป่วนปั่นขยั้นขยอ เป็นเพราะข้อด่วนได้จึงไม่ดี

ถึงส่วนชั่วก็อย่ามัวไปด่วนขัง ต้องยับยั้งใคร่ควรให้ถ้วนถี่

มิควรหลงลงโทษในทันที ตรองให้ดีตามจริงสิ่งที่เป็น

เขาชั่วช้าตามหน้าที่ของเขา ไม่เกี่ยวเราเลยสักหน่อยไปพลอยเห็น

เฝ้าขึนเสียงเถียงจ้อคอเป็นเอ็น ก่อกรรมเวรวุ่นวายหน้าอายครัน

ถูกอารามณ์ดีชั่วยั่วให้ยุ่ง ปล่อยจิตต์ฟุ้งจนเป็นบ้าดูหน้าขัน

ส่วนความจริงไม่พิเคราะให้เหมาะกัน ควรจะหมั่นใส่ใจในเรื่องนี้

ของจริงแน่แท้เทียงเพียงเกิดดับ มีสำหรับโลกาทั่วราสี

อันการดื้อถือตัวตามชั่วดี เหมือนหามผีมาไว้ที่ในเรือน

จะพาเหม็นเป็นเหยื่อเกิดเชื้อโรคใ ให้เศร้าดสกเสียใจใครจะเหมือน

แลถูกหลอกจากมันให้ฟั่นเฟือน เป็นผีเรือนตัวสำคัญคอยปั่นใจ

จะคบทำไมนี่กับดีชั่ว ไม่เห็นตัวจริงมีอยู่ที่ไหน

มันเกิดขึ้นบัดเดี๋ยวเลี้ยวกับไป เหมือนหลอกให้เรางงเฝ้าหลงงม

อันความชั่วความดีคือกิเลส เป็นต้นเหตุจะให้ทุกข์ระทมถม

ใครขืนคิดจิตต์จ้องข้องอารามณ์ จะต้องจมในจังหวัดวัฎฎทุกข์

แม้ติดชั่วยั่วจิตต์ให้คิดโกรธ เฝ้าพิโรธอกร้อนนอนไม่สุข

เป็นถ่านเถ้าเผาใจยิ่งใจลุก เปรียบนรกหมกทุกข์ก็เทียมทัด

แม้นติดดีมีละโมภเข้าโลภรับ จะต้องกลับสิ้นสุขทุกข์ถนัด

อันสัตว์คนวุ่นวายในไตรวัฎฎ เพราะดีมัดจึงได้แล่นเข้าแดนมาร

แม้นรู้สึกดีชั่วว่าตัเหตุ เป็นกิเลสแต่งตั้งกองสังขาร

ให้เสวยทุกขาอยู่ช้านาน ควรคิดอ่านเลิกละอย่าปะปน

ระวังชั่วอย่าให้กลั้วกมลจิตต์ ขืนต้องติดแล้วเห็นไม่เป็นผล

ส่วนความดีเร่งประกอบให้ชอบกล คือต้องค้นหาดีที่ดีจริง

ทำแล้วต้องหมายผลดลที่สุด หวังวิมุดิหลุดทุกข์เป็นสุขยิ่ง

อย่าหลงดีติดดีที่ไม่จริง จะพาวิ่งเวียนวนไม่พ้นเอยฯ

(พระอุบาลีคุณูปมาจารณ์ สิริจนฺโท)


นี่เป็นธรรมที่ท่านได้แสดงในวันนั้นครับ ซึ่งผมขออนุญาตนำมาลงให้สหายธรรมทั้งหลายได้อ่านนะครับ ซึ่งตอนที่ท่านสอนผมนั้นท่านได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย แต่ด้วยสติปัญญาอันโง่เขลาของผมทำให้ไม่สามารถจดจำมาลงให้ท่านได้หมดและกลัวบิดเบือนจากธรรมที่ท่านได้สอนจึงขอลงเฉพาะปรมัตถโวหารที่หลวงพ่ออ่องจดจำไว้ตั้งแต่สมัยเป็นสามเณรแล้วได้มาแสดงให้ผมฟังครับ

ps. รูปนี้ลูกวัดท่าซุงก็ควรที่จะไปกราบนะครับ 555

 

ของผมโอนวันที่ 07-04-2011 เวลา 11:52:56 ครับ กลัวตรวจสอบยอดไม่พบครับ ขอบพระคุณมากครับ สาธุ./

 

หลวงพ่อบุญส่ง วัดเขาน้ำตก อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

หลวงพ่อบุญส่ง ฐิตสาโร วัดป่าสันติวนาราม(เขาน้ำตก) พระวิปัสสนาจารย์สายหลวงปู่มั่นอีกหนึ่งรูปครับ ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ครับ

 

พระธรรมวงศ์มุนี (หลวงปู่วิชัย) วัดไผ่ล้อม ต.จันทนิมิต อ.เมือง จ.จันทบุรี

๏ อัตโนประวัติ

พระธรรมวงศ์มุนี (วิชัย เมตติโก) มีนามเดิมว่า วิชัย แจ่มจรัส เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พุทธศักราช 2453 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 13 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ณ ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี ครอบครัวประกอบอาชีพชาวสวนผลไม้ ปัจจุบัน สิริอายุ 101 ปี พรรษา 81 ปี ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี และเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม (พระอารามหลวง) ต.จันทนิมิต อ.เมือง จ.จันทบุรี


๏ การศึกษาเบื้องต้น

ในวัยเยาว์ เรียนหนังสือจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดห้องคูหา ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี จากนั้นได้ลาออกเพื่อช่วยเหลือครอบครัวหาเลี้ยงชีพด้วยการทำสวนผลไม้


๏ การอุปสมบท

กระทั่ง อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2473 ณ พัทธสีมาวัดห้องคูหา ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยมีพระครูพิศาลธรรมคุณ วัดไผ่ล้อม เป็นพระอุปัชฌาย์

ภายหลังอุปสมบทแล้ว ได้ย้ายไปอยู่จำพรรษา ณ วัดไผ่ล้อม ต.จันทนิมิต อ.เมือง จ.จันทบุรี


๏ การศึกษาพระปริยัติธรรม

เนื่องจากท่านมีความสนใจใฝ่ธรรมะ จึงได้ให้ความสำคัญในการศึกษาพระปริยัติธรรม

พ.ศ.2479 สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรีและชั้นโท ตามลำดับ ณ สำนักเรียนวัดลุ่มมหาชัยชุมพล ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง

จากนั้น ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ณ สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ พ.ศ.2490 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค

นอกจากนี้ ยังได้ให้ความสนใจศึกษาศาสตร์ในหลายแขนง จนเกิดความชำนาญพิเศษ อาทิ ด้านนวกรรม สามารถแสดงธรรมปาฐกถาสอนประชาชนและคณะสงฆ์ จนมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ


๏ งานด้านการศึกษา

พ.ศ.2492 เป็นผู้ช่วยกองเลขานุการแม่กองธรรมสนามหลวง

พ.ศ.2497 เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดไผ่ล้อม โดยเป็นครูสอนนักธรรมและรับเป็นผู้อุปการะโรงเรียนวัดไผ่ล้อม (อินทก์อุทัย) โรงเรียนระดับชั้นประถม ต.จันทนิมิต อ.เมือง จ.จันทบุรี

พ.ศ.2499 รับเป็นประธานอำนวยการสอบธรรมสนามหลวง จ.จันทบุรี


๏ งานด้านส่งเสริมการศึกษา

ได้จัดส่งนักเรียนไปศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรมและแผนกบาลีไวยากรณ์ ณ สำนักเรียนวัดโบสถ์เมือง และกรุงเทพมหานคร

พ.ศ.2521 ได้เปิดสำนักเรียนแผนกบาลี ที่วัดไผ่ล้อม โดยเป็นผู้จัดหาหนังสือเรียนหลักสูตรนักธรรม และบาลีไวยากรณ์ จัดหาอุปกรณ์การศึกษาถวายแก่นักเรียนผู้ศึกษาทุกรูป ถวายนิตยภัตประจำเดือนให้แก่ครูผู้สอนบาลีไวยากรณ์ รวมทั้งจัดถวายปัจจัยเป็นค่าพาหนะแก่พระภิกษุ-สามเณร ที่จะเดินทางไปสอบในต่างจังหวัด

ท่านยังได้มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดี แต่มีฐานะยากจน ปีละ 5 ทุน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังได้ประสานขอบริจาคสมทบทุนจำนวน 200,000 บาท จากสำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติม 1 หลัง

พ.ศ.2529 จัดตั้งกองทุนสงคราะห์การศึกษานักเรียนระดับชั้นประถม บริจาคเงินนำร่อง จำนวน 10,000 บาท

พ.ศ.2530 จัดตั้งกองทุนการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณร ในเขตพื้นที่ จ.จันทบุรี จำนวนทุนก่อตั้ง 150,000 บาท


๏ งานด้านเผยแผ่พระพุทธศาสนา

ได้รับเป็นหัวหน้าพระธรรมทูต ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี


๏ งานด้านสาธารณูปการ

ได้เป็นประธานการดำเนินการจัดสร้างพระพุทธไสยาสน์ องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศ บรรจุอยู่ในพระอุโบสถหลังใหญ่ สร้างหอบำเพ็ญวิปัสสนากัมมัฏฐาน สร้างกุฏิ หอสวดมนต์ สร้างซุ้มประตูวัดไผ่ล้อม (พระอารามหลวง) สร้างถนนและบูรณปฏิสังขรณ์ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ อุโบสถหลังใหม่ เจดีย์ เป็นต้น


๏ ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์

พ.ศ.2493 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม

พ.ศ.2498 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม

พ.ศ.2499 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองจันทบุรี

พ.ศ.2520 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2522 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี

พ.ศ.2527 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี

พ.ศ.2528 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี

พ.ศ.2540 วัดไผ่ล้อม ได้รับยกฐานะจากวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง

พ.ศ.2544 ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ได้มีพระบัญชาแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี ตราบจนถึงปัจจุบัน


๏ ลำดับสมณศักดิ์

พ.ศ.2493 เป็นพระครูสรวิชัย พระฐานานุกรมในพระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ)

พ.ศ.2500 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ พระครูอาทรสมาธิวัตร

พ.ศ.2509 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2514 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก (พิเศษ) ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2524 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระพิศาลธีรคุณ

พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชจันทกวี

พ.ศ.2540 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพสิทธิมุนี

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2549 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 79 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนามที่ พระธรรมวงศ์มุนี


หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตให้ ท่านกล่าวว่าทุกครั้งที่ท่านอธิษฐาจิตจะมีพระพุทธเจ้าลอยอยู่เหนือพระที่ท่านอธิษฐานครับ ล็อกเก็ตรุ่นนี้ก็เช่นเดียวกัน ท่านบอกว่า วัตถุมงคลที่อยู่ในกล่องนี้สามารถขอได้ครับ อธิษฐานขออะไรถ้าเป็นสิ่งดีก็สมหวัง ให้กราบและสวดมนต์บูชาทุกวันครับ จะเป็นสิริมงคลอย่างสูงครับ

ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูงครับ ใจดีมากๆ ถึงแม้วัยท่านจะ 101 ปีล่วงมาแล้วแต่ท่านก็ยังทำหน้าที่เป็นพระอุปัชฌาย์อยู่ ท่านยังเดินได้อย่างแข็งแรงโดยไม่ต้องให้คนอื่นช่วยครับ ขณะนี้วัดท่านกำลังสร้างศาลาอยู่ใครอยากทำบุญกับท่านก็เชิญไปได้นะครับ ผมได้ปวารณาตัวกับท่านไว้แล้วครับ ทุกครั้งที่ทางวัดมีผ้าป่าหรือกฐินผมจะช่วย 1 สายครับ