เรียนศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ศรี มหาวีโรทุกท่านเพื่อโปรดทราบ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย mgladbach, 5 กันยายน 2007.

  1. mgladbach

    mgladbach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +601
    เรียนศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ศรี
    มหาวีโร ทุกท่านเพื่อโปรดทราบ

    ในเรื่องความเป็นจริงที่เกี่ยวกับหลักปฏิบัติหรือปฏิปทาของท่าน หลวงปู่ศรีท่านเป็นผู้ปฏิบัติที่เคร่งครัดต่อพระธรรมวินัยมาก โดยนิสัยส่วนตัวของท่านนั้น ท่านเป็นผู้มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน มีความเคารพต่อครูอาจารย์มาก ซึ่งเป็นเยี่ยงอย่างแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง ท่านจะสอนศิษยานุศิษย์ให้อยู่ในศีลสังวรณ์ ให้อยู่ในไตรสรณคมน์ ให้ยึดมั่นในคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐสุดแล้ว อย่าไปเชื่อมงคลตื่นข่าวหรือเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะการทำเหรียญหรือการปลุกเสกต่างๆ

    ท่านพูดกับลูกศิษย์เสมอว่า นั่นไม่ใช่ทางปฏิบัติของพระพุทธเจ้า มันเป็นของศาสนาพราหมณ์ อย่าพากันไปหลงงมงาย ให้มุ่งมั่นต่อพระธรรมวินัยเป็นสำคัญ

    ทุกวันนี้ ชาวพุทธเราส่วนมากยังไม่เข้าใจลึกซึ้งในหลักคำสอนหรือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ยังขาดการประพฤติปฏิบัติเพื่อหยั่งรู้ถึงธรรมะอันเป็นที่พึ่งที่แท้จริงอยู่มาก ถ้าหากพระสงฆ์เราไปส่งเสริมให้เขาทำรูปเหรียญมาให้เช่า มันก็จะกลายเป็นสินค้าไป ก็เท่ากับว่า พาเขาเดินผิดทางของพระพุทธเจ้าหรือมืดมิดเข้าไปอีก นี่คือส่วนที่หลวงปู่เคยสอนศิษยานุศิษย์อยู่เสมอมา

    ประการสำคัญ คือ ท่านไม่เคยอนุญาตให้ลูกศิษย์คนไหนเลยแม้แต่คนเดียวให้ทำเป็นเหรียญที่มีชื่อหลวงปู่ศรี มหาวีโร รุ่นนั้น รุ่นนี้ ไม่มีเด็ดขาดถ้ามี ก็ถือว่าเป็นศิษย์เนรคุณ ขายครูบาอาจารย์กินเห็นแก่เอกลาภ ไม่สำนึกถึงบุญคุณ ไม่เชื่อฟังตั้งอยู่ในโอวาทของท่าน แทนที่จะพากันตั้งใจปฏิบัติบูชาคุณท่านในเวลาที่ท่านอาพาธ กลับพากันขายพ่อแม่กิน เห็นแล้วน่าละอายใจมาก

    จึงขอเรียนให้ศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ ผู้มีความเคารพบูชา มีกตัญญูรู้คุณต่อหลวงปู่ศรี มหาวีโร จงช่วยกันปกป้องรักษาขนบธรรมเนียมอันดีงามที่หลวงปู่ท่านพาปฏิบัติ เพื่อจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกหลานต่อไป

    ถ้าหากท่านผู้ใดกำลังทำเหรียญจำหน่ายอยู่ ก็ขอความกรุณาขอให้ท่านหยุดเสียเพื่อไม่เป็นการท้าทายต่อปฏิปทาขององค์หลวงปู่ท่าน ดีกว่าท่านจะมานั่งเสียใจภายหลัง

    หวังอย่างยิ่งว่าคงได้รับความร่วมมือจากทุกท่านที่เป็นศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ฯ ด้วยดีเสมอ จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

    จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน

    คณะศิษยานุศิษย์ วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง)
    โดยการอนุญาตของหลวงพ่ออินทร์
    กตปุญโญ ให้เผยแพร่ได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2007
  2. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]

    พระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร)
    วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง)
    อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
    พระภิกษุสงฆ์ ในประเทศไทย สายอรัญวาสี หรือที่เรียกว่า "พระป่า พระธุดงคกรรมฐาน" นับตั้งแต่ ปีพุทธศักราช 2458 เป็นต้นมา ได้รับการอบรม วางหลักปักฐาน การเผยแผ่ ศาสนธรรม จากพระบุพพาจารย์ใหญ่ สายวิปัสสนากรรมฐาน คือท่าน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    ด้วยปฏิปทาบารมีธรรม ของพระเดชพระคุณหลวงปู่มั่น ทำให้บังเกิดกองทัพธรรมพระกรรมฐาน นำธงชัย แห่งพระพุทธศาสนา กระจายเผยแผ่อมตะธรรมไปทั่วสารทิศ และในบรรดาพระกรรมฐาน ลูกศิษย์ของท่าน ได้มีสมณะผู้ทรงศีลาจารวัตร เป็นที่เลื่อมใสศรัทธา ของชาวพุทธกว้างไกล และนำพาซึ่งประโยชน์ แห่งการพระศาสนาอย่าง สัมฤทธิ์ผล ปรากฏชัด ณ ปัจจุบันกาล พระคุณเจ้ารูปนี้คือ
    [​IMG] พระเทพวิสุทธิมงคล ( หลวงปู่ศรี มหาวีโร ) วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด
    นามเดิมของท่านชื่อ ศรี เกิดในสกุลปักกะสีนัง เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2460 ตรงกับวันศุกร์ เดือนหก ปีมะเมีย ที่บ้านขามป้อม อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม โยมบิดาชื่อนายอ่อนสี โยมมารดาชื่อนางทุม ปักกะสี
    ในช่วงปฐมวัย ท่านเข้าศึกษา ที่โรงเรียนประชาบาล วัดบ้านขามป้อม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำท้องถิ่น จบชั้นประถมปีที่ 6 และได้ขวนขวาย เข้ามาเรียนต่อ ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด จนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2480
    การศึกษาของท่าน ในยุคสมัยนั้น นับว่าอยู่ในขั้นดี ท่านได้เข้ารับราชการ เป็นครูในปีรุ่งขึ้น หลังจากสำเร็จการศึกษา ชีวิตการเป็นครู ท่านเริ่มที่ โรงเรียนวัดบ้านชาด ตำบลหัวเรือ มหาสารคาม และต่อมาที่โรงเรียน บ้านสวนจิก ตำบลปอภาร ร้อยเอ็ด
    ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ในพระพุทธศาสนา ท่านได้บรรพชาอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2488 ณ พัทธสีมาวัดราษฎร์รังสรรค์ บ้านป่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระโพธิญาณมุนี ( ดำ โพธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด (ธรรมยุต) เป็นอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา ทางพระพุทธศาสนา เป็นมคธว่า "มหาวีโร"
    พรรษาแรก ในชีวิตสมณะผู้ละวาง ท่านได้พำนักศึกษาปฏิบัติธรรม อยู่กับท่านพระอาจารย์คูณ อุตตโม วัดประชาบำรุง มหาสารคาม
    ปีต่อมา พ.ศ.2489 ท่านได้จาริกไปจำพรรษ ที่วัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี มีโอกาสศึกษา ปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนา กับท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ซึ่งเป็นศิษย์สำคัญของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    เมื่อออกพรรษาแล้วพระศรี มหาวีโรในครั้งนั้นได้ออกจาริกแสวงธรรม ไปตามวนาป่าเขาราวไพร อาทิ ภูเก้า ภูผักกูด บ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดนครพนม ซึ่งที่ภูผักกูด หรือภูผากูดแห่งนี้ เป็นสัปปายะสถาน ที่พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น เคยธุดงค์จาริก มาพำนัก เป็นแหล่งเจริญธรรม ที่ผู้กล้าแห่งกองทัพธรรม ได้มาประพฤติธรรม บำเพ็ญเพียร ด้วยเป็นสถานที่อยู่ไกลจากชุมชน ขาดแคลนขัดสน ในปัจจัยสี่ แต่มีภูมิทัศน์ ที่เหมาะแก่การพัฒนา ภูมิธรรมสัมมาปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง
    [​IMG]
    ปี พ.ศ. 2490 หลวงปู่ศรี มหาวีโร ธุดงค์ไปพำนักที่ถ้ำพระเวส ครั้นเข้าพรรษา ได้ไปจำพรรษา ที่วัดบ้านนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งในยุคสมัยนั้น เป็นดินแดนที่ครุกรุ่นไปด้วยสถานการณ์ แห่งความขัดแย้ง ด้านอุดมการณ์ทางการเมือง และสังคม แต่ท่านก็อยู่ด้วยความราบรื่น ปราศจากอันตราย จนกระทั่ง ออกพรรษา จึงจาริกไปยังจังหวัดสกลนคร และปี พ.ษ. 2491 เข้าจำพรรษา ที่วัดโนนนิเวสน์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นการเดินตามทางรอยธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ คือหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเคยมาพำนักที่วัดแห่งนี้มาแต่ครั้งอดีต
    ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ในปฎิปทาบารมีธรรม ของท่าน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระบุพพาจารย์ใหญ่ ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งขณะนั้น อยู่ในช่วงปัจฉิมวัย พำนักอยู่ที่สำนักป่า บ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
    พระอาจารย์ศรี มหาวีโร จึงเข้าไปกราบนมัสการ พระเดชพระคุณหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่สำนักป่าบ้านหนองผือ ขออนุญาต พำนักจำพรรษา และศึกษาธรรมกับท่าน ซึ่งหลวงปู่มั่น ก็เมตตาอนุญาต นับเป็นโอกาส อันเป็นมหามงคล ในชีวิตบรรพชิต ที่มีโอกาสศึกษาธรรม และอุปัฏฐาก พระบุพพาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รวมทั้งมีโอกาสเจริญธรรม กับสหธรรมิกร่วมสำนักร่วมครูอาจารย์เดียวกัน
    เมื่อหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาพาธพระอาจารย์ศรี ก็มีโอกาสถวายการปฏิบัติ เมื่อท่านพระอาจารย์ใหญ่ถึงแก่มรณภาพ ก็นำความวิโยคอาดูร มาสู่ผู้เป็นศิษย์ ผู้เคารพศรัทธาครูอาจารย์ อย่างสุดจิต สุดใจ พระอาจารย์ศรี มหาวีโร ได้ถวายสักการะ สรีระ หลวงปู่มั่น เป็นครั้งสุดท้าย ในงานถวายเพลิง ฌาปนกิจ ที่วัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร
    ต่อมาปี พ.ศ.2493 พระอาจารย์ศรี มหาวีโร ไปจำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนอง ผักตบ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดอุดรธานี และปีต่อมา ได้มีโอกาส ไปพำนัก จำพรรษาที่ วัดบ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ได้มีโอกาส ศึกษาธรรม กับท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งเป็นประธานสงฆ์ในสำนักแห่งนี้
    ปี พ.ศ.2495 ได้ร่วมสร้างวัดป่าหนองแซง โดยบัญชาของท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี
    ท่านพระอาจารย์ศรี ได้ออกจาริกห่างถิ่นมหาสารคาม และร้อยเอ็ดไปนานหลายปี จนกระทั้งปี พ.ศ.2496 ท่านจาริกมายังวัดป่ากุง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาประมาณ 200 ปี ท่านเป็นผู้นำศรัทธา ในการพัฒนาวัดป่ากุง ให้เรืองรุ่งโดยลำดับ จนกระทั้งเป็น "วัดประชาคมวนาราม" ที่งามสง่า เป็นศาสนสถาน อันไพศาล สำหรับชาวพุทธ ผู้ศรัทธาในธรรมะ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า และดำเนินตามธรรมวิถีของพ่อแม่ครูอาจารย์
    หลวงปู่ศรี มหาวีโร จำพรรษาที่วัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 เป็นต้นมา ท่านเป็นผู้นำ เป็นธุระในกิจการงาน พระศาสนา อย่างจริงจังและ มั่นคง สร้างคุณูปการและสาธารณประโยชน์ เป็นจำนวนมาก
    ที่เป็นงานยิ่งใหญ่อลังการคือการก่อสร้าง "พระมหาเจดีย์ชัยมงคล" ณ วัดผาน้ำทิพย์ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด
    พระมหาเจดีย์แห่งนี้ เป็นผลานิสงส์แห่งแรงศรัทธา ของชาวพุทธ ต่อพระบวรพุทธศาสนา ต่อพระสุปฏิปันโน ต่อบารมีธรรม ของพระราชสังวรอุดม เจ้าคุณหลวงปู่ศรี มหาวีโร ที่มุ่งเพื่อประโยชน์ ต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อันเป็นหลักชัยหลักใจของชาวไทย หมายจรรโลงพระพุทธศาสนา สืบสานศิลปวัฒนธรรม งานพุทธศิลปให้สถิตสถาพรสืบไป
    รูปแบบอันวิจิตร เป็นศิลปะผสมความยิ่งใหญ่ ของพระปฐมเจดีย์ กับความ โอฬารของพระธาตุพนม กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียว ประดิษฐานตระหง่าน ตระการตา ด้วยศิลปกรรม อันล้ำเลิศ ด้วยฝีมือลูกหลานไทย เป็นนฤมิตกรรมแห่งยุคสมัย ที่จะเป็นปูชนียสถานสำคัญ ของไทย และของโลกวัฒนา สืบต่อไปภายภาคหน้า
    ในยามเช้าผู้คนจากบ้านไกลเรือนไกล จากหลายถิ่น จะมารวมกัน ที่หน้าวัดประชาคมวนาราม เพื่อเตรียมถวายภัตตาหาร บิณฑบาตพระคุณเจ้า เป็นโอกาสที่พุทธศาสนิกชน จะได้กราบนมัสการหลวงปู่ศรี อย่างใกล้ชิด บางรายบางท่าน ก็มาขอพึ่งบารมีธรรมของท่าน ซึ่งท่านก็เมตตาเสมอตลอดมา
    การบิณฑบาต เป็นธุดงควัตรที่พระกรรมฐานประพฤติปฏิบัติ หลวงปู่ศรีจะตื่นแต่ดึก ออกเดินไปรอบ ๆ วัด จนถึงเวลาบิณฑบาต ท่านเป็นผู้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงแม้จะมีอายุกว่า 80 ปีแล้ว
    หลังจากบิณฑบาตรแล้ว สาธุชนจะร่วมกันถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านเป็นพระวิปัสนาจารย์กรรมฐาน ที่มีความสามารถอย่างสูงในการแจกแจงแสดงธรรม
    [​IMG]
    หลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นพระเถราจารย์ ผู้เปี่ยมด้วยพรหมวิหารธรรม เป็นเนื้อนาบุญ อันยิ่งใหญ่ ของพระพุทธศาสนา เป็นพระป่า พระกรรมฐาน ที่ศิษย์เคารพ ศรัทธา อย่างมหาศาล เป็นสมณะผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ อย่างสิ้นสงสัย

    คัดลอกจาก : http://www.script.co.th/buddhist/menu_7.html
    [​IMG]


    [​IMG]
    <!--BEGIN WEB STAT CODE----><SCRIPT language=javascript1.1> page="ประวัติ พระราชสังวรอุดม (หลวงปู่ศรี มหาวีโร)";</SCRIPT><SCRIPT language=javascript1.1 src="http://hits.truehits.in.th/data/i0017685.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://tracker.truehits.in.th/func/th_donate_1.4.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://tracker.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://tracker.truehits.in.th/func/th_donate_1.4.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://tracker.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT><!-- END WEBSTAT CODE -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. mgladbach

    mgladbach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +601
    ขอกราบหลวงปู่ใหญ่ เนื่องในวันเกิดครบรอบ ปีที่ 95 ด้วยกาย วาจา ใจ ครับ ขอเรียนว่า หลวงปู่ใหญ่ ท่านอาพาธ มาตั้งแต่ ปี 2549 - 2550 ครับ และเริ่มอาพาธหนักตั้งแต่ปี 2551-2552 ขอศิษยานุศิษย์ ทุกท่านตั้งจิต บำเพ็ญกุศล ถวายแด่องค์ท่านครับ
     
  4. mgladbach

    mgladbach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +601
    เรื่องราวทางโลก ล้วนแต่วุ่นวายสับสน กิเลสของคนใจหยาบ เข้าไปได้ในทุกที่แม้แต่ในวัดในวา โปรดระลึกเสมอว่า คนเราทุกคนมีอำนาจในการกำหนดการกระทำของตนเอง แต่เมื่อเราได้กระทำกรรมอันใดไว้ กรรมเหล่านั้น จะกลับมามีอำนาจเหนือเราโดยทันที เที่ยงแท้แน่นอน เปลี่ยนแปลงไม่ได้ จึงขอเตือนให้ทุคนระมัดระวังการกระทำของตนเอง โดยเฉพาะการละเมิดผู้มีศีล จะเป็นกรรมหนัก ส่งผลอย่างเร็ว........
     
  5. กังหันลม

    กังหันลม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +693
    กราบอนุโมทนาครับ ดีแล้วที่ออกมาชี้แจง บางทีบางท่านอาจจะเข้าใจผิดว่าหลวงปู่มีดำริเช่นนั้น แล้วกล่าวติเตียนท่าน เป็นบาปมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...