'ภัยพิบัติถูกเลื่อนออกไป' นั้นเป็นได้แค่ 'ข้ออ้าง' ?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 4 พฤษภาคม 2011.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    [​IMG]

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>
    </td></tr></tbody></table>
    <style>.expanded { width: 620px; z-index: 9999; }</style>กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--สำนักพิมพ์ ปัญญาชน
    หนังสือ ตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนก เกิดด้วยแรงจิตอธิฐานด้วยความศรัทธาในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าด้วยเรื่องราว
    - ตามรอยพระองค์ท่านในเรื่องความเพียร ในบาทความสำเร็จ จากอิทธิบาท ๔ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า
    ที่ยิ่งใหญ่กว่า The Secret กฎแห่งการดึงดูด
    [​IMG]
    <noscript>[​IMG]</noscript>- ตามร่องรอยเมืองโบราณ ในพระมหาชนกกับเมืองในปัจจุบัน และการเรียนรู้ทางภูมิศาสตร์

    - เป็นเรื่องราวความมหัศจรรย์พระราชนิพนธ์พระมหาชนก ว่าด้วยความมหัศจรรย์แห่งมณี เมขลา
    ในการใช้ปัญญาประยุกต์เข้ากับฝนหลวง ใช้เป็นแนวกั้นพายุนาร์กีส
    อีกทั้งข่าวเรื่องการทำฝนเทียม เป็นแนวป้องกันการเกิดพายุเข้าสู่ประเทศ
    เลยทำให้ผมเกิดความปิติเป็นล้นพ้น ที่ได้เกิดมาบนพื้นแผ่นดินไทยที่มีพระองค์ท่านเป็นยิ่งกว่าคำว่าพระมหากษัตริย์
    ทุกครั้งที่เล่าเรื่องราวนี้จะเกิดความปิติทุกครั้งไป
    จนทำให้ผมอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกจากใจของผมให้เพื่อนๆคนไทย ๖๐ ล้านคน
    ได้มีโอกาสรับรู้ความมหัศจรรย์แห่งพระมหาชนก
    แล้วจะรู้ว่าคำว่า “เรารักพระเจ้าอยู่หัว”ไม่มีนิยามไหนจะมาอธิบายได้มากกว่าคำๆนี้
    สำหรับคนที่ เกิดบนพื้นแผ่นดินไทย

    ผมอยากจะกล่าวว่าชีวิตนี้ช่างโชคดีนักที่ได้เกิดเป็นพสกนิกรในยุคสมัยของพระองค์ท่าน
    “เรารักพระเจ้าอยู่หัว”

    ฝนหลวง ต้านพายุ จริงหรือการที่มีกระแส ข่าวออกมามากมาย
    ทั้งคำถามที่เกิดขึ้นว่า ฝนเทียม หรือ ฝนหลวงของไทย สามารถเป็นแนวกั้นพายุได้จริงหรือไม่
    ถ้าได้แล้วทำไมประเทศอื่นไม่ทำ หรือ ไม่น่าจะทำได้เพราะ แค่ฝนเล็ก ๆ จะกั้นพายุลูกใหญ่ ๆ ได้อย่างไร
    เหล่านี้ล้วนแต่เป็น เรื่องเชิงวิชาการทั้งสิ้น

    ...ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ ฝนหลวง กันเสียก่อน
    พระปรีชาสามารถ ฝนหลวงป้องกันพายุนาร์กีสให้แก่พสกสิกร
    อ่านแล้วน้ำตาไหล...

    ฝนเทียมในหลวงป้องกันภัยพายุไซโคลนนาร์กีสให้แก่ไทย


    ขออนุญาตนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเล่าสู่กันฟัง
    เมื่อวันศุกร์ผมได้มีโอกาสได้เข้าค่ายที่ศูนย์ฝึกทหารของค่ายนเรศวร วันแรกที่เข้าไปกะบรรยากาศครึ้ม ๆ ผมก็ว่า เอ... แปลกๆนะ ทำไมอากาศอบอ้าวเหมือนจะมีฝน แต่ก็คิดว่าคงเป็นไปตามสภาพอากาศพอไปถึงก็ทำกิจกรรมจนได้เข้าหอประชุมตอนดึก ใกล้เวลานอนมากแล้ว อาจารย์เอกราช ท่านได้มาพูดถึงเรื่องของฝนที่ตกนี้ว่า
    “ก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงให้คณะทำงานเกี่ยวกับฝนเทียม
    รีบทำฝนเทียมเพื่อเป็นแนวกันลมพายุดีเปรสชั่นซึ่งตอนนั้นยังไม่เกิดขึ้น
    แต่พระองค์ทรงเหมือนกับเทวดาองค์หนึ่งที่ทราบเรื่องนี้ก่อนถามว่าตอนนั้นกรมอุตุรู้เรื่องนี้ไม”
    ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดพายุที่ประเทศพม่าด้วยซ้ำ พอคณะทำงานด้านฝนเทียมทำงานเสร็จด้วยความสำเร็จ... ผลงานที่พระองค์ได้ทำก็ก่อให้เกิดผล
    การสร้างฝนเพื่อดักพายุ มีมานานแล้ว การกำจัดความชื้นก่อนที่พายุจะเข้าจะทำให้พายุหันทิศทาง ซึ่งเป็นพระปรีชาสามารถของพ่อหลวงโดยแท้ การที่พ่อหลวงจะรับรู้ได้ว่ามีพายุนั้นไม่แปลกเลยที่สำคัญ พระองค์ทรงมีหน่วยงานพยากรณ์อากาศที่มีประสิทธิภาพสูงมากเป็นหน่วยงาน ที่ทำฝนเทียมให้ประชาชนชาวไทยอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยทั่วประเทศ โดยไม่ต้องโฆษณาเหมือนทรราชประชานิยม
    หน่วยงานที่ว่านี้มีเครื่องมือตรวจวัดสภาพอากาศที่ทันสมัยของภูมิภาคนี้ รู้ความชื้นสัมผัส ความเร็วลม ฯลฯ ทำงานมาหลายสิบปี ย่อมรู้แน่ว่าจะมีพายุรุนแรงระดับไหน ท่านจึงได้ป้องกันประเทศเราจากพายุไว้ก่อนได้ อย่างมิต้องสงสัยเลยเมื่อเกิดพายุอย่างที่พระองค์ตรัสไว้ที่พม่า และพายุนี้ก็ได้สร้างความเสียหายและสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศพม่าจนทำ ให้เกิดความสูญเสียอันมหาศาลกับประเทศ ... แต่สำหรับประเทศไทย แนวกำแพงฝนเทียมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงสร้างไว้ก็ทำให้เกิดฝนตกเพียงเล็กน้อย ถ้าเทียบกับพายุที่จริงๆแล้วสามารถสร้างความเดือดร้อนกับประเทศได้มาก
    พระองค์ที่ต้องมาทรงงานอย่างหนักเพราะพระองค์ก็ทรงรักและเป็นห่วงลูกหลาน ของพระองค์ ลูก ๆ หลาน ๆ ที่อยู่ในประเทศนี้ ท่านทรงงานทุกอย่างเพื่อให้คนในประเทศได้สบาย เพื่อคนในประเทศได้อยู่ดีกินดีเหมือนเทวดาที่ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไป ที่ไหนที่นั่นจะชุ่มฉ่ำ ที่ ๆพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินไปจะพบแต่ความสงบสุข มีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร
    พอผมได้ทราบผมถึงกับอึ้งขนลูกซู่ กับ สิ่งที่พระองค์ได้ทำไว้ให้กับประเทศของเราถึงแม้นจะเป็นเรื่องที่ดีที่ทราบ เรื่องนี้ แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ผมสะเทือนใจกับสิ่งที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้
    วันที่ 2 ที่เข้าค่าย ครูฝึกได้เปิดวีซีดีเกี่ยวกับพระองค์ให้ดูผมก็ดูไปเรื่อยๆจนถึงตอนหนึ่งที่ เค้าตัดเอาตอนที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนิน เพื่อไปส่งเหล่ากษัตริย์จากต่างประเทศ คณะทูตที่มาเข้าเฝ้าในงานฉลองศิริราชสมบัติครบ ๖๐พรรษา
    ภาพที่ทำให้ผมปวดจี๊ดขึ้นมาในหัวใจก็คือตอนที่พระองค์ทรงเสด็จพระราช ดำเนินลงบันได(ขอโทษครับพอดีไม่ทราบว่าเขียนยังไง พระองค์เกือบหกล้ม ดีที่ทหารรักษาพระองค์ที่เดินนำหน้าคอยประคองพระองค์ไว้ พอพระองค์ทรงยืนได้ก็ปัดมืออกผมไม่ทราบว่าพระองค์ตรัสตรงนั้นทันทีไมหรือ ตรัสกับคนสนิทในภายหลังว่า
    “ไม่ต้องมาพยุงเรา เราจะเดินให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า
    เราเดินได้ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเราสามารถปกครองคน 64 ล้านคนด้วยตัวของเราเองได้”
    ถึงตอนนี้แล้ว ...น้ำตาผมคลอเบ้า คนที่ดูกันก็สะอื้นกันไปหลายคนทุกๆคนในที่นั้นเงียบหมดกับคำพูดที่พระองค์ ได้ตรัสไว้ ผมได้ยินเสียงกระซิบจากเพื่อนข้างๆว่าสงสารพระองค์ที่ต้องมาทรงงานอย่างหนัก ถึงแม้นจะอายุเยอะแล้วแต่พระองค์ก็ยังทรงรักและเป็นห่วงลูกๆหลานของพระองค์ ลูกๆหลานๆที่อยู่ในประเทศนี้ ท่านทรงงานทุกอย่างเพื่อให้คนในประเทศได้สบาย เพื่อคนในประเทศได้อยู่ดีกินดี
    อาจารย์ได้บอกกับพวกเราเมื่อวีซีดจบว่า พระองค์เหมือนฝนที่ทำให้ประเทศร่มเย็นเหมือนเทวดาที่ไม่ว่าจะเสด็จพระราช ดำเนินไปที่ไหนที่นั่นจะชุ่มฉ่ำที่ๆพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปจะพบแต่ความ สงบสุข มีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร
    ท้ายสุดนี้ผมอยากจะบอกพระองค์หากแม้นมีใครผ่านมาอ่าน ถึงจะเป็นคำพูดที่อาจจะได้ยินมาบ่อยๆแต่ผมก็ไม่สามารถจะคัดกรองคำพูดใดๆมา พูดได้อีกนอกจาก
    “ขอพระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชา เป็นร่มโพธิ์ทองของเหล่าปวงชนชาวไทย
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญตราบนานเท่านาน”
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    นายสมยศ ศุภกิจไพบูลย์
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

    E-mail: khunyod@hotmail.com


    ข้อมูลจาก แนะนำหนังสือ ตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนก





    <table id="post2525513" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);">[​IMG] 21-10-2009, 04:26 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> ยอด
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Sep 2006
    ข้อความ: 42
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2525513" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center>แนะนำหนังสือ ตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนก

    </center> เปิดตัวในงานวันที่ 21 ตค. ในงานสัปดาห์หนังสือที่ บูธ K12 มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 14 , 15-25 ตุลาคม 2552 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


    หนังสือ ตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนก เกิดด้วยแรงจิตอธิฐานด้วยความศรัทธาใน องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าด้วยเรื่องราว

    • ตามรอยพระองค์ท่านในเรื่องความเพียร ในบาทความสำเร็จ จากอิทธิบาท ๔ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า ที่ยิ่งใหญ่กว่า The Secret กฎแห่งการดึงดูด
    • ตามร่องรอยเมืองโบราณ ในพระมหาชนกกับเมืองในปัจจุบัน และการเรียนรู้ทางภูมิศาสตร์
    เป็นเรื่องราวความมหัศจรรย์พระราชนิพนธ์พระมหาชนก ว่าด้วยความมหัศจรรย์ แห่งมณี เมขลา ในการใช้ปัญญาประยุกต์เข้ากับฝนหลวง ใช้เป็นแนวกั้นพายุนาร์กีส อีกทั้งข่าวเรื่องการทำฝนเทียม เป็นแนวป้องกันการเกิดพายุเข้าสู่ประเทศ เลยทำให้ผมเกิดความปิติเป็นล้นพ้น ที่ได้เกิดมาบนพื้นแผ่นดินไทยที่มีพระองค์ท่านเป็นยิ่งกว่าคำว่าพระมหา กษัตริย์ ทุกครั้งที่เล่าเรื่องราวนี้จะเกิดความปิติทุกครั้งไป จนทำให้ผมอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกจากใจของผมให้เพื่อนๆคนไทย ๖๐ ล้านคนได้มีโอกาสรับรู้ความมหัศจรรย์แห่งพระมหาชนก แล้วจะรู้ว่าคำว่า “เรารักพระเจ้าอยู่หัว”ไม่มีนิยามไหนจะมาอธิบายได้มากกว่าคำๆนี้สำหรับคนที่ เกิดบนพื้นแผ่นดินไทย

    ผมอยากจะกล่าวว่าชีวิตนี้ช่างโชคดีนักที่ได้เกิดเป็นพสกนิกรในยุคสมัยของพระองค์ท่าน

    “เรารักพระเจ้าอยู่หัว”


    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2011
  2. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ถ้าเรามองว่าภัยพิบัิตินี้เป็นภัยที่เกิดตามธรรมชาติล้วน ๆ
    เราอาจจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องการเลื่อนภัยพิบัติออกไป
    แต่หากเราเชื่อว่าภัยพิบัติเป็นธรรมชาติที่มี 'ผู้ดูแล' หรือมี 'ผู้จัดการ' และนอกจากนั้นยังถูกแทรกแซงได้
    ดังเช่นที่เราเห็นฟ้าดินปลอดโปร่งเหมือนเทวดาเป็นใจในงานพิธีสำคัญ ๆ
    เราคงมองเห็นความเป็นไปได้ของโอกาสที่คำเตือนจะคลาดเคลื่อน
     
  3. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อริยะบุญ [​IMG]
    ตุ้ยบอกว่าวันนี้(๗ พ.ค. ๒๕๕๔)มันพึ่งเริ่ม วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ นี่ของจริงครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ช่วงกลางคืนที่ 8 พ.ค. - 12 พ.ค. 54

    ระวังตัวกันหน่อยนะค่ะ...พายุเข้ามาแล้ว...รักษาสุขภาพด้วย

    ถ้าฝนตกหนักมากๆ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน - หลุมยุบได้

    รวมทั้งอาจมีไฟฟ้าดับได้ เตรียมไฟฉายไว้ข้างกายด้วยนะค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. CopperOxide

    CopperOxide เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +289
    "สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม

    คนสองตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย"

    จักเห็นประโยชน์ในวิกฤติ ดีกว่าเพ่งจับผิดเพราะอัตตาตน
     
  5. 404

    404 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    Thaiwater.net
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • none.gif
      none.gif
      ขนาดไฟล์:
      90.8 KB
      เปิดดู:
      108
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2011
  6. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    แปลงวิกฤตให้เป็นโอกาสไม่ดีกว่าหรือ เร่งทำความดี ไม่เกิดอะไรขึ้น สังคมก็สงบสุข คนทำก็ได้ความสุข เครื่องมือข้าวของที่เตรียมไว้ ล้วนใช้ในชีวิตประจำวันและใช้ในยามจำเป็นทั้งนั้น หรือใช่ในตอนท่องเที่ยวแคมปิ้ง ไม่เสียหายอะไร แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน จะไม่มีใครสามารถช่วยใครได้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เพราะทุกคนต้องพยายามเอาตัวเองและครอบครัวให้รอดตาย รถพยาบาลไม่พอ โรงพยาบาลเสียหาย อุปกรณ์ยา แพทย์ พยาบาลไม่พอ บอกได้ว่าโลงศพต่อไม่ทัน ประเทศญี่ปุ่นเขาไฮเทคและเตรียมพร้อมดีมาก ตายเกือบ 3 หมื่นคน (รวมที่หาไม่พบ) แล้วถ้าเรา รัฐ ไม่เตรียมพร้อม จะเป็นจำนวนเท่าใด ?
     
  7. ไทยคนหนึ่ง

    ไทยคนหนึ่ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +50
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ:cool:
     
  8. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,940
    ขอกราบแทบฝ่าพระบาทของในหลวงของเรา....ที่พระองค์ทรงเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดินไทยจริงๆ....ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ
     
  9. VALKYLIES

    VALKYLIES Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +55
    ฝั่งน้ำ


    ครืนครืนซ่า ครืนครืน ซ่าครืน
    ครืนครืนซ่า ครืนครืน ซ่าครืน
    คลื่นลมเริงริ้ว พลิ้วเกลียวเรียวรื่น
    ทำเพลงครืน ซ่าครืน ครื้นคลั่งฝั่งน้ำ
    มันเป็นเพลงเดิม เริ่มจังหวะกรรม
    เยื้องกรายตามลำนำ ฝั่งน้ำวนเวียนไปมา
    ทุกคืนมันบรรเลง ทุกวันมันวังเวง เคร่งขลังดังมนต์เวทย์ว่า
    นิจจังอนิจา นิจจังอนิจา โอ้ ยถากรรมชน

    โพ้นจินตนาการ สายธารทรมาน
    ช่างไหลแรงเชี่ยวเคี่ยวข้น
    เหมืนเวรเกณฑ์กรรมคน
    ทุกวัน มันเวียนวน ดิ้นรนเร้าไป


    เสียงคลื่นลม โหมฝั่งคราง
    น้ำหลากพราง ร้างยังสมุทรไทย
    พัดความลอย คล้อยไปไกล
    สู่ความล่มจม ไร้หายไปในเกลียวคลื่น


    ชะตากรรมของคนบนฝั่ง
    ไม่เคยจีรังยั่งยืน
    มีเวลา ระเริงรมย์รื่น
    ก็มีวันคืน ฝืนทุกข์ทนเศร้า


    ตราบมนต์ขลัง ฝั่งน้ำยังร่าย
    หญิงชาย ล้มตายใช้กรรมเก่า เขา
    อยู่แต่ตัว เพียงหัวถึงเท้า
    ถึงครา คราวเรา เราก็ตายตามกรรม


    ยามตัวยัง สังวรณ์เถิดชีวา
    สังวรณ์ คุณค่า ฟ้าสูงดินต่ำ
    สังวรณ์ว่า โพ้นแดนแคว้นธรรม
    พระธรรมยังพร่ำ สอนคนทำกรรมดี .......


    บทเพลง " ฝั่งน้ำ " คณะสุนทราภรณ์ วินัย จุลละบุษปะ ขับร้อง
    คำร้อง ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ
    ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
    เครดิตให้ บ้านคนรักสุนทราภรณ์ www.websuntaraporn.com

    ผมฟังเพลงนี้มาเกือบสี่สิบปีแล้ว เป็นอุทธาหรณ์ เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้ครับ
    หาฟังเพลงนี้ได้ในเวปข้างต้น หรือในyoutube

    ภัยพิบัติ จะมีหรือไม่ จะเลื่อนออกไป คนธรรมดาอย่างเรา ไม่มีใครทราบ
    ขอทุกท่าน ทำจิตให้ผ่องแผ้ว ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ก็พอ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2011
  10. ผู้ที่_

    ผู้ที่_ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +83
    เกิดเป็นคน มีกรรม ยังไงๆ ก็ต้องโดนเข้าสักวัน ไม่วันใด ก็วันหนึ่ง
     
  11. Santajitto

    Santajitto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +455
    ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ.
     
  12. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    เห็นสื่อออกประโคมข่าวเรื่องการแก้กรรม หากประเทศไทยมีกรรม หาวิธีการแก้กรรมให้ประไทยบ้างจะดีไหมน้อ?

    คลายเครียดครับ...หมั่นเร่งทำบุญกุศลกันดีกว่า
     
  13. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    คนที่ออกมาทำนายว่ามันจะเกิดวันนู้นวันนี้...แล้วในที่สุดก็ไม่เกิดเหตุการใดๆทั้งสิ้น ความหวังดีของท่านจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและที่สำคัญผู้คนเริ่ม(เซ็ง)กับข่าวแบบนี้แล้ว ทำให้ผู้คน(ส่วนใหญ่เริ่มเบื่อหน่ายกับคำทำนายพวกนี้และจะทำให้คน(ประหมาด)กันมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ที่เค้าทำงานเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัตินี้มานาน ทำงานกันยากมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นผู้ที่คิดจะทำแบบนี้อีกต้องติดให้ดีๆคิดให้หนักๆเลยค่ะ ข้อมูลที่ดิฉันได้นำเสนอนี้มาจากผู้ที่ติดตามข่าวสารจากคนข้างนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิก จะเตือนให้ดิฉันทราบเพราะว่าดิฉันเป็นคนแนะนำให้เค้าเข้ามาอ่านกันค่ะ
     
  14. kwansao

    kwansao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +619
    คุณแมวน้ำ9 คุณพูดถูก โดนใจจริงๆ (ดีที่มันใหญ่ได้แค่นี้ไม่งั้นให้คุณใหญ่กว่านี้อีก)
     
  15. 337788

    337788 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    v6 unesgo

    คาดวาข่าวลือเกี่ยวกับอุกบาตที่จะชนโลกจะเป็นจริงเพราะดาวเทียมยี่ปุ่นตรวจพบอุกบาตขนาด8000ตันความกว้าง100-200กิโมตร
    จากที่เราเคยได้ยินมามากเรื่อง อุกาบาตชนโลก และก็มีหนังออกมาแนวนี้หลายเรื่อง เช่น Deep Impact โครงการป้องกันอุกาบาตชนโลก และอีกมากมาย ในความเป็นจริงมีความเป็นไปได้ แต่ไม่มาก และเราก็มีกล้องส่องสามารถเห็นได้ก่อน แต่อยู่ที่ว่า เห็นแล้วจะหยุดมันได้อย่างไร เพราะถ้าหากเกิดขึ้นจริงแล้ว แรงกระแทกของมันจะมากกว่าระเบิดนิวเคลียร์หลายหมื่นลูก และสภาพแวดล้อมทั้งหมดจะเปลี่ยนแปลงจะรวดเร็ว จนทำให้สิ่งมีชีวิตไม่สามารถทนไหว เหมือนกับความเชื่อเรื่องการสูญพันธุ์ของยุคไดโนเสา ที่เกิดจากอุกาบาตชนโลก
    แต่จากที่ผมเคยได้รู้มาบ้าง คือมนุษย์เราไม่มีทางสูญพันธุ์แล้ว แม้ว่าจะมีสงครามโลก หรือว่าอุกาบาตชนโลกก็ตาม แต่จะตายกันมากจนเหลือเพียงส่วนน้อยที่รอด และพวกที่รอดจะต้องปรับตัวอย่างมาก จนกลายเป็นมนุษย์ที่ต่างจากเรามาก ทั้งหน้าตาบุคลิค หรือที่จำชื่อได้ว่า มนุษย์นิวเคลียร์ ซึ่งคล้ายกับสัตว์ที่เหลือรอดจากยุคไดโนเสาร์จนถึงยุคเรา ก็ต่างจากบรรพบุรุษของมันมาก

    ยานอพอนโล่11ก่อส่[​IMG]งข่าวนี้มาคล้ายกันม[​IMG]าก[​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2011
  16. ไทยคนหนึ่ง

    ไทยคนหนึ่ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +50
    กระตุ้นให้พวกเราเร่งทำดีกันยิ่งขึ้น เจริญมรณานุสติกันมากขึ้น เพราะไม่รู้เราจะมีลมหายใจกันถึงเมื่อไหร่ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสอย่างที่สมาชิกท่านนึงบอกไว้จริง:cool:
     
  17. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ บวรทัต [​IMG]
    เดิม วันมอบทองเข้าคลังหลวง จะจัดในวันที่ 12 เมย.54 แต่เลื่อนเป็น 16 เมย.54
    แล้วก้อเลื่อน 7 พค.2554....พิจารณาเอง

    ถ้าย้อนไปสู่ปี 2540 ที่ไทยโดน USA โจมตีค่าเงินจนประเทศต้องฉิบหายไป
    หากวันนั้นไม่มี องค์หลวงตามหาบัวฯ ออกมาต่อสู้ปกป้องประเทศไทยแล้วจะเป็นอย่างไร ???

    กุศโลบายอันหนึ่งขององค์ท่าน คือ ให้คนไทยทุกคนทำบุญ นำเงิน ทองอื่นๆ เข้าคลังหลวง เพื่ออะไร
    เพื่อให้คนไทยทุกคนทำความดี ทำบุญ ซึงจะปกป้องประเทศไทย ได้อย่างแท้จริง...

    ผมยังคิดย้อนไปอีกว่า หลังการละสังขารขององค์ท่านไม่นาน...
    ก็เกิดแผ่นดินไหว ที่นิวซีแลนด์ ต่อด้วย ญี่ปุ่น จนโรงไฟฟ้าระเบิด...
    เป็นไปได้หรือไม่ว่า ที่พระอริยสงฆ์ ละสังขาร เพื่อช่วยประเทศ...

    หากย้อนไป ช่วงสงครามคอนมูนิสต์....
    มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง ประวัติศาสตร์ต้องจารึกว่า ไทย ต้องสูญเสียพระอริยสงฆ์ ครั้งเดียว 5 รูป
    ท่านทั้ง 5 รู้ว่าเมื่อขึ้นเครื่องบินแล้วต้องตาย และท่านรู้ว่า จริงๆ แล้ว ท่านยังมีอายุขัยอยู่ได้อีกนาน แต่.....
    หลังจากนั้น ประเทศไทย ก็สงบ รอดพ้นจากภัยสงครามคอมมูนิสต์...

    แต่ชะตากรรมภัยพิบัติครั้งนี้ ไม่รู้ว่า เราต้องเสียพระอริยสงฆ์อีกเท่าไร
    หากคนไทย และคนของโลกใบนี้ ยังเป็นอยู่แบบนี้...

    แต่หวังว่า พวกเรา ...เร่งสร้าง ทาน ศีล ภาวนา เพื่อให้รอดและมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เท่าที่ทำได้

    อย่ารอให้พระอริยสงฆ์ ต้องละ เพื่อพวกเราเลย....คับ


    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระอริยะสงฆ์ ครูบาอาจารหลายท่านอาพาธ ณ เวลานี้ เท่าที่ผมรู้จัก หลวงพ่อคูณ หลวงปู่หงษ์ หลวงปู่ศรี มหาวิโร หลวงปู่บุญฤทธิ์ และอีกหลายท่านที่ผมไม่รู้จัก และในหลวงทรงพระประชวรอยู่ในขณะนี้ ไม่ทราบเป็นเพราะแบกรับผลกรรมของประชาชนส่วนใหญ่ และประเทศไทยให้พ้นจากภัยพิบัติหรือเปล่า แต่หลายคนก็ไม่พึงสังวรณ์ ไม่มีหิริ โอตัปปะ ยังก่อกรรมทำชั่วได้ไม่เว้นแต่ละวัน[/QUOTE]


    มารับพรจากหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ เพื่อความเป็นสิมงคลกับชีวิตครับ






    <TABLE class=tborder style="MARGIN: 10px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 425><THEAD><TR><TD class=tcat style="TEXT-ALIGN: center" colSpan=2></TD></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=panelsurround align=middle><EMBED src=http://www.youtube.com/v/bH_8K-uMMJ4 width=425 height=350 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" wmode="transparent"></EMBED></TD></TR></TBODY></TABLE>
    *** คลิ๊กที่ลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยครับประวัติหลวงปู่หงษ์ ***


    ***
    ๙๙๙ อิทธิมงคล มหาบารมี วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ๙๙๙ ***





    ศิษย์มีครู

    นะเมติ นะเมติ นะเมติ<!-- google_ad_section_end --> ​




    C5
     
  18. 337788

    337788 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    </TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center>[​IMG]| [​IMG] | [​IMG]</TD><TD vAlign=center align=left>ฟันธง'วันสิ้นโลก2036' อุกาบาตขนาดยักษ์น่าจะชนโลก แล้วมนุษย์เราจะเป็นอย่างไร ?
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 04:02:46 pm »
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>ข่าวช่อง 3 นำมาออกอากาศเมื่อวานนี้ ซึ่งในวันที่ 13 เมษายน 2579 รัสเซียฟันธง'วันสิ้นโลก2036' มนุษย์สังเวย10 ล้านชีวิต
    อุกาบาต ( Meteor) การศึกษาอุกาบาตช่วยให้มนุษย์ได้สืบค้นถึงประวัติความเป็นมาของโลก ดาวเคราะห์ดวงพิเศษสุดที่เราถือกำเนิดและอาศัยกันอยู่ทุกวันนี้ได้ดีขึ้น ในบางคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใส เราอาจเห็นแสงวูบวาบตกลงมาจากฟากฟ้า เรียกกันว่า ดาวตก หรือ ผีพุ่งไต้ แต่ความจริงดาวตกเป็นวัตถุแข็งจำพวกหินหรือเหล็ก ตกเข้าสู่เขต บรรยากาศโลกด้วยความเร็วหลายร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง แรงเสียดสีกับบรรยากาศทำให้ร้อนจัด หลอมตัวเป็นลูกไฟสว่าง มีควันเป็นทางยาว หากวัตถุชิ้นเล็กจะลุกไหม้สว่างกลายเป็นไอสลายไป หมด แต่บางก้อนที่มีขนาดใหญ่จะมีเสียงดังคล้ายเสียงยิงปืนหรือเสียงฟ้าผ่าเมื่อวิ่งผ่านอากาศตกลงมา และหากสลายตัวไม่หมด มักเหลือซากตกลงถึงพื้นโลก เรียกว่า ลูกอุกาบาต มีขนาด เล็กใหญ่แตกต่างกัน ตั้งแต่น้ำหนักเพียงไม่กี่กรัมจนถึงก้อนหนึ่งหนักหลาย ๆ ตัน

    [​IMG]
    แอ่งอุกาบาตในรัฐอริโซนาประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นตัวอย่างการชุดด้วยวัตถุขนาดใหญ่ เป็นแอ่งอุกาบาตที่เป็นหลักฐานที่มีชื่อมากที่สุดที่วัตถุขนาดใหญ่มาชนโลก ประมาณ 25000 ปีมาแล้ว ประกอบด้วยหินที่มีเหล็กประกอบอยู่จำนวนมากน้ำหนักประมาณ 10000 ตันที่มาชนพื้นราบของรัฐอริโซนา เกิดเป็นแอ่งยุบลงไปกว้างประมาณ 1 ไมล์ เมื่อการชนผ่านไปแล้ว ถือว่าเป็นการชนที่มีผลกระทบน้อยไม่รุนแรงมาก

    อุกาบาตแบ่งตามลักษณะเนื้อในเป็น 3 แบบ คือ อุกาบาต ชนิด หิน เหล็ก และ เหล็กปนหิน ส่วนใหญ่ ที่พบเป็นอุกาบาต ชนิดหิน ก้อนใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อ จีหลิง ( Jiling) ตกที่อำเภอจีหลิง ประเทศจีน เมื่อ 8 มีนาคม 2519 หนักเกือบ 2,000 กิโลกรัม ส่วนอุกาบาตชนิดเหล็ก ก้อนใหญ่สุดที่ค้นพบคือ โฮบา เวสท์ ( Hoba West) ปริมาตรราว 9 ลูกบาศก์เมตร หนักประมาณ 66 ตัน ตกกลางป่า ในอัฟริกาตะวันออกเฉียงใต้
    อุกาบาตชนิดหินส่วนใหญ่มีลักษณะเหมือนหินบนโลก และมักสลายตัวเพราะลมฟ้าอากาศ ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าเป็นลูกอุกาบาต การวิเคราะห์ทำได้โดยตัดผิวอุกาบาตให้เรียบ ขัดมันแล้วใช้กรดอย่างอ่อนกัด พบโครงสร้างรูปผลึกปรากฏเห็นชัดบนผิวเรียบนั้น ซึ่งเป็นลักษณะ เฉพาะตัวของอุกาบาต
    อุกกาบาตขนาดใหญ่ที่พุ่งชนโลกอย่างแรง ทำให้เกิดหลุมลึกบนพื้นโลกเรียกว่า เครเตอร์ หลุมอุกกาบาตใหญ่ที่สุดบนโลก คือ หลุมแบริงเยอร์ ในรัฐอะริโซนา สหรัฐอเมริกา คาดว่า เกิดจากอุกกาบาตชนิดเหล็กหนักถึง 1 ล้านตัน เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 เมตร ตกกระแทก พื้นโลกเป็นหลุมมหึมา ปากหลุมกว้าง 1,200 เมตร ลึก 170 เมตร ความลึกเท่ากับตึกสูง 40 ชั้นทีเดียว หลุมแบริงเยอร์อายุประมาณ 22,000 ปี นิดส์
    [​IMG]

    [​IMG]
    ภาพยนตร์เรื่อง 2012 วันสิ้นโลก หนังฮอลลีวู้ดเมื่อหลายปีก่อน ทำเอามนุษย์โลกหวาดผวาและตื่นกลัวว่าโลกจะถึงกาลแตกดับลงจริงๆ จากคำทำนายของหลายสำนักที่หนังนำมาอ้างอิง แต่นักวิทยาศาสตร์รัสเซีย ชาติมหาอำนาจด้านอวกาศที่มีเทคโนโลยีด้านอวกาศก้าวหน้าไม่แพ้สหรัฐออกมาฟัน ธงว่า ระบุวันอาร์มาเก็ดดอน หรือวันสิ้นโลกตามพระคัมภีร์ของคริสต์ได้แล้ว โดยไม่ได้อยู่ในปี ค.ศ.2012 แต่จะเกิดขึ้นในอีก 24 ปีข้างหน้า หรือในปี ค.ศ.2036 (พ.ศ.2579)
    ศ.ลีโอนิด โซโคลอฟ จากมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์ สเบิร์กในรัสเซีย กล่าวว่า อุกกาบาตที่ชื่อ อะโพฟิส รหัส 99942 มฤตยูที่จะเดินทางมาชนโลก จะเข้ามาใกล้โลกที่ระยะ 37,000-38,000 กิโลเมตร ในวันที่ 13 เม.ย.2029 และมีแนวโน้มจะเข้ามาชนโลกในวันที่ 13 เม.ย.2036 ย้อนไปเมื่อปี 2547 มีการค้นพบอุกกาบาต อะโพฟิส รหัส 99942 ครั้งแรกว่าเป็นวัตถุอวกาศที่จะเข้ามาอยู่ในโซนอันตรายต่อโลก มีขนาดกว้าง 300 เมตร
    ครื่องมือจำลองสถานการณ์ของมหาวิทยาลัยเซาท์แธมป์ตันในอังกฤษชี้ว่า ความเสียหายจะเลวร้ายมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่มันพุ่งชน ส่วนที่เลวร้ายที่สุดประเมินว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 10 ล้านราย แต่ก็ยังมีหลายเหตุผลที่ปลอบไม่ให้ตื่นตระหนก หนึ่งในนั้นคือความจริงที่ว่า มันอาจจะแตกตัวและเศษเล็กเศษน้อยอาจจะตกลงมาใส่โลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อีกเหตุผลที่ไม่ควรกลัวคือโลกจะได้รับคำเตือนก่อนแน่นอน
    โดนัลด์ เยียแมนส์ หัวหน้าสำนักงานวัตถุใกล้โลกขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซ่า กล่าวว่า ในปี 2029 เมื่อมันแกว่งเข้ามาใกล้โลก เราจะพบว่าอะโพฟิสมีหลุมแรงดึงดูดที่จะลากมันเข้ามาในวงโคจรโลกในอีก 7 ปีให้หลังหรือไม่ ช่องว่างมีเพียงแค่ 600 เมตร ดังนั้น จึงยังพอมีโอกาสที่มันจะไม่เกิดขึ้น
    ศ.โซโคลอฟ กล่าวด้วยว่า ภารกิจของนักวิทยาศาสตร์รัสเซียเวลานี้คือการพิจารณาทางเลือกและพัฒนา โครงการและแผนปฏิบัติการเพื่อรับมือกับอะโพฟิส

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. 337788

    337788 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    เมื่ออุกกาบาตยักษ์ชนโลก
    <TABLE width="90%" border=0><TBODY><TR><TD width="1%" height=368>[​IMG]</TD><TD width="99%" height=368> มาถึงวันนี้แล้ว คำถามที่ว่า “เราจะทำอย่างไร ถ้า โลกของเราโดนชนด้วย อุกกาบาตขนาดยักษ์”อาจจะกลายเป็น คำถามที่เชยไปสักนิด แต่เราควรจะเปลี่ยนคำถามนิดหน่อยเป็น “เราจะทำอย่างไร เมื่อ โลกของเราโดนชน ด้วยอุกกาบาตขนาดยักษ์” ความแตกต่างของคำถามทั้งสองอยู่ที่ คำว่า ถ้า กับ เมื่อ ในคำถามแรกที่ใช้คำว่า “ถ้า” นั้น ยังคงแสดงความเป็นไปได้ในระดับที่ ต่ำกว่าคำถามที่สองที่ใช้คำว่า “เมื่อ” เนื่องจากเป็นคำถามที่สะท้อน อย่างชัดเจนว่า สักวันหนึ่งโลกของเรา ต้องโดนชนแหงๆ
    ทุกวันนี้นักดาราศาสตร์จำนวนมาก กำลังจับตาเฝ้ามองดูท้องฟ้า ส่องหาวัตถุในอวกาศที่มีโอกาส เคลื่อนที่ตัดกับแนวโคจรของโลก ซึ่งหมายถึงมีโอกาสพุ่งเข้าชนโลก จนเกิดหายนะอันยิ่งใหญ่ หากเราพิจารณาจากหลุมอุกกาบาตบนโลกหลายร้อยหลุม รวมกับหลักฐาน ทางธรณีวิทยา เราคงเข้าใจได้ดีว่า ตลอดระยะเวลานับพันล้านปีที่ผ่านมานั้น โลกโดนชนด้วยอุกกาบาตหรือดาวหางจนเกิดการระเบิดรุนแรงขนาดที่ สามารถผลาญป่าทั้งป่า ทำลายสิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ไปมากมาย และนักดาราศาสตร์ เชื่อมั่นว่า แขกที่ไม่ได้รับเชิญจากอวกาศขนาดใหญ่ๆ แบบนี้ยังคงล่องลอย อยู่ในอวกาศ รอวันดีคืนร้ายที่จะมาทักทายเราบนผิวโลก
    ความพินาศที่เราพูดถึงอยู่นี้คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่พ้นเป็นแน่ แต่ว่า นับตั้งแต่มีสิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกราว 4 พันล้านปีนี้ ดูเหมือนว่า ถ้าจะมีสายพันธุ์ใดที่จะป้องกันหายนะนี้ได้ก็อาจจะมีเพียงสายพันธุ์มนุษย์ ของเราเพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น

    </TD></TR><TR><TD colSpan=2 height=1541> บางทีอาจจะมีคนตั้งคำถามว่า เราต้องกังวลกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ ตัวอย่างที่น่าจะพูดถึงก็คือ การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ นักวิทยาศาสตร์ค่อนข้าง จะมั่นใจว่า เมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อนมีอุกกาบาตขนาดยักษ์พุ่งเข้าชนโลก ความรุนแรงนั้นทำให้ไดโนเสาร์ถึงกับต้องสูญพันธุ์ไปจากโลก นี่เป็นเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ที่นานมาแล้ว ถ้าจะหาเหตุการณ์ทำนองนี้ที่ใกล้ๆ กับเราหน่อยก็เมื่อ ประมาณ 49,000 ปีที่แล้ว มีอุกกาบาตที่มีองค์ประกอบหลักเป็นเหล็กพุ่งเข้าชนโลก ในบริเวณรัฐอะริโซนาในปัจจุบัน หลักฐานที่ทิ้งไว้เป็นหลุมอุกกาบาตขนาดหน้าตัด 1.2 กิโลเมตร โดยคาดว่าอุกกาบาตนี้สังหารสิ่งมีชีวิตในรัศมีหลายร้อยกิโลเมตรไปมากมายด้วย ใกล้เข้ามาอีกก็ในปี พ.ศ. 2451 อุกกาบาตหิน หรือไม่ก็ชิ้นส่วนจากดาวหาง ได้พุ่งฝ่าบรรยากาศโลกเข้ามาแล้วก็เกิดการระเบิดขึ้นเหนือพื้นดินประมาณ 8 กิโลเมตรที่ทังกัสกาแถบไซบีเรีย ผลก็คือ ป่าที่ราบเป็นหน้ากลอง ไฟที่โหมไหม้ และความตายของสัตว์ป่าในพื้นที่กว่า 1,600 ตารางกิโลเมตร การระเบิดครั้งนั้นรุนแรงเทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นที 10 เมกะตัน!
    เฉียดฉิวเมื่อไม่นานมานี้ก็คือปี พ.ศ. 2539 ที่มีดาวเคราะห์น้อยขนาดกิโลเมตรกว่าๆ พุ่งฝ่าบรรยากาศโลกสูงจากพื้นดินประมาณ 450,000 กิโลเมตร (ไกลในสายตาคน แต่ในทางดาราศาสตร์ก็ไม่ต่างกับการเฉียดไปแค่เส้นผม) ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ เป็นวัตถุที่ใหญ่ที่สุดที่เฉียดเข้ามาใกล้ที่สุดเท่าที่เราเคยสังเกตได้ ประมาณกันว่า ถ้าลูกนี้เกิดระเบิดขึ้นมาก็คงมีความรุนแรงเทียบกับระเบิดจำนวน 5,000 -12,000 เมกะตันนั่นเลย และสิ่งที่ทำให้เราขวัญเสียมากที่สุดกับเหตุการณ์ครั้งนี้ก็คือ เราตรวจพบดาวเคราะห์น้อยนี้ได้เพียง 4 วันก่อนหน้าที่มันจะผ่านโลกไปเท่านั้น!

    [​IMG]
    หลังจากนั้น ระบบตรวจสอบวัตถุที่จะเฉียดมาทักทายกับโลกก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว นักดาราศาสตร์ในอะริโซนา และแคลิฟอร์เนีย กลุ่มเล็กๆ 4 กลุ่ม (ซึ่งนับหัวรวมแล้ว ยังน้อยกว่าพนักงานในร้านฟาสต์ฟู้ดด้วยซ้ำ) ได้ใช้กล้องดูดาวของพวกเขาช่วยกัน เขียนแผนที่ระบุวัตถุในอวกาศที่อยู่ใกล้โลกกันขึ้นมา วัตถุเหล่านี้มีชื่อย่อว่า NEOS : Near Earth Objects
    สิ่งที่เข้าข่ายเป็น NEOS ก็คือ ดาวเคราะห์น้อย หรือดาวหาง ที่มีแนวทางโคจรตัดกับ แนวโคจรของโลกหรือเข้ามาเฉียดแนวโคจรของโลก ถ้า NEOS เคลื่อนที่ตัดกับ แนวโคจรของโลกโดยที่โลกของเราโคจรไปยังตำแหน่งนั้นพอดี ก็จะทำให้เกิด ความเสียหายกับโลกของเราตั้งแต่ เสียหายเป็นบางส่วน สูญสิ้นอารยธรรม หรือพินาศทั้งโลก ขึ้นอยู่กับว่า NEOS ที่ชนเรามีขนาดใหญ่แค่ไหน
    ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 กลุ่มผู้ริเริ่มในการล่าดาวเคราะห์น้อยกลุ่มหนึ่ง ได้รับความร่วมมือจากสถาบันเอ็มไอที, กองทัพอากาศ, ห้องปฏิบัติการลินคอล์น โดยมีเงินทุนสนับสนุนจากเพน-ทากอน พวกเขามีโอกาสได้ใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นกล้องดูดาวที่ทำงานร่วมกับดาวเทียมของกองทัพอากาศ กล้องถ่ายภาพ ระดับคุณภาพจากเอ็มไอที รวมทั้งระบบอัตโนมัติที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย ด้วยเครื่องไม้เครื่องมือที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ทำให้พวกเขาสำรวจดาวหางและ ดาวเคราะห์น้อย ทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ได้อย่างรวดเร็ว และมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น กองทัพอากาศก็ยังเอาจริงกับเรื่องนี้ต่อไปโดยการส่งดาวเทียมจิ๋ว เพื่อค้นหาดาวเคราะห์น้อยโดยเฉพาะขึ้นไปอีกด้วย
    ทีนี้ถ้าเราเกิดพบดาวหาง หรือดาวเคราะห์น้อยที่ส่อแววว่าจะทำให้เรา เดือดร้อนขึ้นจริงๆ เราจะทำอะไรต่อไป
    อันดับแรก เราต้องหวังไว้ก่อนว่า เราพบมันล่วงหน้าเป็นเวลานานพอ ที่จะให้เราทำอะไรได้ เริ่มจากการส่งยานอวกาศไปสำรวจองค์ประกอบ ของดาวเคราะห์น้อยนั้นว่ามันมีโครงสร้างเป็นอย่างไร เป็นหินหรือโลหะ เนื้อแน่นหรือร่วน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อมูลให้เราตัดสินใจเลือกวิธี ปฏิบัติการได้เหมาะสม (ปฏิบัติการในขั้นนี้จะเหมือนกับปฏิบัติการของ ยานอวกาศเนียร์-ชูเมกเกอร์ ที่กำลังสำรวจดาวเคราะห์น้อยอีรอสอยู่ในเวลานี้)
    ตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอส อลามอส และลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ ก็มีแผน (ฝันหรือเปล่าก็ไม่ทราบ) ดีๆ ในการจัดการกับ แขกตัวร้ายของเราอยู่หลายแผน พวกเขาอาจจะใช้ระเบิดนิวเคลียร์ทำลายมัน ให้เป็นผุยผง ถ้าดาวเคราะห์น้อยมีขนาดเล็ก แต่ถ้าลูกใหญ่ ก็อาจใช้วิธีเบี่ยงเบน ทิศทางการโคจรของมันแทนได้หากมีเวลามากพอ รวมทั้งทำการคำนวณได้อย่าง แม่นยำด้วย แผน-การบางอย่างก็อาศัยยุทธวิธีดั้งเดิมคือการระเบิดล้วนๆ แต่บางแผน ก็จะใช้สมอยึดอุกกาบาตเข้ากับเครื่องยนต์จรวด หรือเครื่องยนต์ขับเคลื่อน ด้วยแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในการเปลี่ยนวิถีโคจรของดาวเคราะห์น้อย (วิธีการ เปลี่ยนแนวโคจรของดาวเคราะห์น้อย มีให้เห็นในนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Hammer of God ของ อาเทอร์ ซี. คลาร์ก)
    นับถึงต้นปีนี้ มีการค้นพบ NEOS ขนาดตั้งแต่ 0.9 กิโลเมตร (ใหญ่พอจะ สร้างความเสียหายให้โลกทั้งใบได้) ขึ้นไปเพียงครึ่งหนึ่งของที่คาดกัน (น่าจะมีจำนวน 500-1,000) เท่านั้น เป็นไปได้ว่า ในบรรดาดวงที่เรายังสำรวจ ไม่พบนั้นจะเป็นดวงที่มีเส้นทางโคจรตัดกับโลกอยู่ด้วย และบางทีอาจจะกำลัง พุ่งมาที่โลกอยู่แล้วในตอนนี้ก็ได้ โดยเฉพาะหากมีดาวหางปรากฏตัวขึ้นในทันทีทันใดแล้ว ความตระหนกตกใจก็จะยิ่งรุนแรง เพราะโดยทั่วไป ดาวหางจะมีขนาดใหญ่กว่า แถมยังมีความเร็วในการพุ่งชนมากกว่าดาวเคราะห์น้อยถึงสองเท่า นั่นคือความเสียหายก็จะมีมากกว่าด้วย ดาวหางพวกนี้มักเป็นดาวหางที่มี คาบการโคจรรอบดวง-อาทิตย์นานมาก (ดาวหางเฮล-บอพพ์ก็เป็นหนึ่งใน ดาวหางพวกนี้) เรามักจะเห็นมันก็ต่อเมื่อมันเริ่มปลดปล่อยก๊าซและมวลสาร ออกมาซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อดาวหางเดินทางมาถึงดาวพฤหัสบดี หรืออาจจะเข้ามา ใกล้กว่านั้นก็ได้ ทำให้เรามีเวลาประมาณ 18 เดือนก่อนที่มันจะมาถึงโลก อันเป็นระยะเวลาที่น้อยนิดที่จะป้องกันตัว
    นอกจาก NEOS ขนาดที่ทำลายโลกแล้ว ยังมี NEOS ขนาดเล็กๆ ที่มีอานุภาพในการทำลายระดับเมือง หรือก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ในท้องทะเล อีกมากมาย ซึ่งเราเองก็เพิ่งจะตรวจพบได้เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของ จำนวนทั้งหมดเท่านั้นเอง
    นั่นก็ทำให้เราวาดภาพในอนาคตได้ว่า อาจจะมีสักวันหนึ่งในขณะที่ เราออกไปเดินเล่นยามเย็น เรากลับเห็นแสงสว่างจ้าขึ้นอย่างฉับพลันที่ขอบฟ้า เพียงเดี๋ยวเดียวเราก็รู้สึกถึงพื้นที่สะเทือนเลื่อนลั่น พร้อมกับเสียงที่ดังกึกก้อง กัมปนาทปานฟ้าถล่ม แล้วทันใดร่างของเราก็โดนเผาผลาญเป็นธุลีจากอากาศ ที่ร้อนยิ่งกว่าร้อน ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเกิดอะไรขึ้น
    แค่ฉากนี้ฉากเดียวก็เพียงพอแล้ว สำหรับเหตุผลของการเฝ้ามองฟ้า ระแวดระวังวัตถุจากฟากฟ้าที่อยู่ใกล้กับโลกของเรา
    <HR>แปลจาก Will a Killer Asteroid Hit the Earth, TIME April 10, 2000
    โดย..ไพรัตน์ ยิ้มวิลัย

    </TD></TR><TR><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    <TABLE borderColor=#005ca2 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=2><TBODY><TR><TD bgColor=#000000>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ของ นายอดิศักดิ์ มหาวรรณ
    โรงเรียน ดาราวิทยาลัย เชียงใหม่ ฟิสิกส์ราชมงคลขอขอบคุณครับ
    [​IMG] [​IMG][​IMG]

    <CENTER><TABLE id=AutoNumber1 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=1024 cellSpacing=0 borderColorDark=#000000 cellPadding=0 width="80%" borderColorLight=#666666 border=1><TBODY><TR><TD width="100%" colSpan=2 height=23></TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=23>ฟิสิกส์ 1(ภาคกลศาสตร์) </TD><TD align=right width="50%" height=23></TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>ฟิสิกส์ 2 </TD><TD align=right width="50%" height=19>กลศาสตร์เวกเตอร์</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>โลหะวิทยาฟิสิกส์</TD><TD align=right width="50%" height=19>เอกสารคำสอนฟิสิกส์ 1</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>ฟิสิกส์ 2 (บรรยาย) </TD><TD align=right width="50%" height=19>แก้ปัญหาฟิสิกส์ด้วยภาษา c </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>ฟิสิกส์พิศวง </TD><TD align=right width="50%" height=19>สอนฟิสิกส์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>ทดสอบออนไลน์</TD><TD align=right width="50%" height=19>วีดีโอการเรียนการสอน </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=12>หน้าแรกในอดีต</TD><TD align=right width="50%" height=12>แผ่นใสการเรียนการสอน</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=12>เอกสารการสอน PDF</TD><TD align=right width="50%" height=12>สุดยอดสิ่งประดิษฐ์
    </TD></TR><TR><TD align=left width="100%" colSpan=2 height=23></TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>บทความพิเศษ </TD><TD align=right width="50%" height=19>ตารางธาตุ(ไทย1) 2 (Eng)</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=23>พจนานุกรมฟิสิกส์ </TD><TD align=right width="50%" height=23> ลับสมองกับปัญหาฟิสิกส์
    </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=23>ธรรมชาติมหัศจรรย์ </TD><TD align=right width="50%" height=23> สูตรพื้นฐานฟิสิกส์
    </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>การทดลองมหัศจรรย์ </TD><TD align=right width="50%" height=19>ดาราศาสตร์ราชมงคล</TD></TR><TR><TD align=left width="100%" colSpan=2 height=23></TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=23>แบบฝึกหัดโลหะวิทยา </TD><TD align=right width="50%" height=23> แบบทดสอบ
    </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=23>ความรู้รอบตัวทั่วไป </TD><TD align=right width="50%" height=23> อะไรเอ่ย ?
    </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=23>ทดสอบ(เกมเศรษฐี) </TD><TD align=right width="50%" height=23>คดีปริศนา
    </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>ข้อสอบเอนทรานซ์</TD><TD align=right width="50%" height=19>เฉลยกลศาสตร์เวกเตอร์</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>คำศัพท์ประจำสัปดาห์</TD><TD align=right width="50%" height=19> </TD></TR><TR><TD align=left width="100%" colSpan=2 height=23></TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>การประดิษฐ์แของโลก </TD><TD align=right width="50%" height=19>ผู้ได้รับโนเบลสาขาฟิสิกส์</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>นักวิทยาศาสตร์เทศ </TD><TD align=right width="50%" height=19>นักวิทยาศาสตร์ไทย </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>ดาราศาสตร์พิศวง </TD><TD align=right width="50%" height=19>การทำงานของอุปกรณ์ทางฟิสิกส์</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>การทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ</TD><TD align=right width="50%" height=19> </TD></TR><TR><TD align=left width="100%" colSpan=2 height=23>
    [​IMG] การเรียนการสอนฟิสิกส์ 1 ผ่านทางอินเตอร์เน็ต [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>1. การวัด </TD><TD align=right width="50%" height=19>2. เวกเตอร์ </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>3. การเคลื่อนที่แบบหนึ่งมิติ </TD><TD align=right width="50%" height=19>4. การเคลื่อนที่บนระนาบ</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>5. กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน</TD><TD align=right width="50%" height=19>6. การประยุกต์กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>7. งานและพลังงาน </TD><TD align=right width="50%" height=19>8. การดลและโมเมนตัม</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>9. การหมุน </TD><TD align=right width="50%" height=19>10. สมดุลของวัตถุแข็งเกร็ง</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>11. การเคลื่อนที่แบบคาบ</TD><TD align=right width="50%" height=19>12. ความยืดหยุ่น</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>13. กลศาสตร์ของไหล </TD><TD align=right width="50%" height=19>14. ปริมาณความร้อน และ กลไกการถ่ายโอนความร้อน</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>15. กฎข้อที่หนึ่งและสองของเทอร์โมไดนามิก </TD><TD align=right width="50%" height=19>16. คุณสมบัติเชิงโมเลกุลของสสาร</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>17. คลื่น</TD><TD align=right width="50%" height=19>18.การสั่น และคลื่นเสียง </TD></TR><TR><TD align=left width="100%" colSpan=2 height=23>
    [​IMG] การเรียนการสอนฟิสิกส์ 2 ผ่านทางอินเตอร์เน็ต [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>1. ไฟฟ้าสถิต</TD><TD align=right width="50%" height=19>2. สนามไฟฟ้า</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>3. ความกว้างของสายฟ้า </TD><TD align=right width="50%" height=19>4. ตัวเก็บประจุและการต่อตัวต้านทาน </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>5. ศักย์ไฟฟ้า</TD><TD align=right width="50%" height=19>6. กระแสไฟฟ้า </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>7. สนามแม่เหล็ก </TD><TD align=right width="50%" height=19> 8.การเหนี่ยวนำ</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>9. ไฟฟ้ากระแสสลับ </TD><TD align=right width="50%" height=19>10. ทรานซิสเตอร์ </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>11. สนามแม่เหล็กไฟฟ้าและเสาอากาศ </TD><TD align=right width="50%" height=19>12. แสงและการมองเห็น
    </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>13. ทฤษฎีสัมพัทธภาพ</TD><TD align=right width="50%" height=19>14. กลศาสตร์ควอนตัม </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>15. โครงสร้างของอะตอม</TD><TD align=right width="50%" height=19>16. นิวเคลียร์ </TD></TR><TR><TD align=left width="100%" colSpan=2 height=23></TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>1. จลศาสตร์ ( kinematic)</TD><TD align=right width="50%" height=19> 2. จลพลศาสตร์ (kinetics)
    </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>3. งานและโมเมนตัม</TD><TD align=right width="50%" height=19>4. ซิมเปิลฮาร์โมนิก คลื่น และเสียง</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>5. ของไหลกับความร้อน</TD><TD align=right width="50%" height=19>6.ไฟฟ้าสถิตกับกระแสไฟฟ้า </TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>7. แม่เหล็กไฟฟ้า </TD><TD align=right width="50%" height=19>8. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากับแสง</TD></TR><TR><TD align=left width="50%" height=19>9. ทฤษฎีสัมพัทธภาพ อะตอม และนิวเคลียร์ </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​
     
  20. 337788

    337788 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    <TABLE height=443 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=515 align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=baseline align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="PADDING-TOP: 3px" vAlign=top align=middle background=pic_ads/axen_monitor2.jpg><OBJECT id=Player height=303 width=491 classid=CLSID:6BF52A52-394A-11d3-B153-00C04F79FAA6>
























    <embed src="file_joke.php?type=vdo&joke_id=6116" width="491" height="303" id="Player" type="video/x-ms-asf-plugin" transparentatstart="true" SendOpenStateChangeEvents="true" Autostart="1" showstatusbar="1" showcontrols="1" showdisplay="0" autosize="0" autorewind="0" animationstart="0" autostart="0" showcontrols="0"></embed></OBJECT></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><!---V1 end---><!----end VDO--->
    </P><CENTER></CENTER>
    <!--start detail topic---><TABLE style="BORDER-RIGHT: #224a6d 1px dotted; BORDER-TOP: #224a6d 1px dotted; BORDER-LEFT: #224a6d 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #224a6d 1px dotted" cellSpacing=10 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD class=text7><!---Pic DET Start--->
    <CENTER></CENTER>
    จากที่เราเคยได้ยินมามากเรื่อง อุกาบาตชนโลก และก็มีหนังออกมาแนวนี้หลายเรื่อง เช่น Deep Impact โครงการป้องกันอุกาบาตชนโลก และอีกมากมาย ในความเป็นจริงมีความเป็นไปได้ แต่ไม่มาก และเราก็มีกล้องส่องสามารถเห็นได้ก่อน แต่อยู่ที่ว่า เห็นแล้วจะหยุดมันได้อย่างไร เพราะถ้าหากเกิดขึ้นจริงแล้ว แรงกระแทกของมันจะมากกว่าระเบิดนิวเคลียร์หลายหมื่นลูก และสภาพแวดล้อมทั้งหมดจะเปลี่ยนแปลงจะรวดเร็ว จนทำให้สิ่งมีชีวิตไม่สามารถทนไหว เหมือนกับความเชื่อเรื่องการสูญพันธุ์ของยุคไดโนเสา ที่เกิดจากอุกาบาตชนโลก
    แต่จากที่ผมเคยได้รู้มาบ้าง คือมนุษย์เราไม่มีทางสูญพันธุ์แล้ว แม้ว่าจะมีสงครามโลก หรือว่าอุกาบาตชนโลกก็ตาม แต่จะตายกันมากจนเหลือเพียงส่วนน้อยที่รอด และพวกที่รอดจะต้องปรับตัวอย่างมาก จนกลายเป็นมนุษย์ที่ต่างจากเรามาก ทั้งหน้าตาบุคลิค หรือที่จำชื่อได้ว่า มนุษย์นิวเคลียร์ ซึ่งคล้ายกับสัตว์ที่เหลือรอดจากยุคไดโนเสาร์จนถึงยุคเรา ก็ต่างจากบรรพบุรุษของมันมาก

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...