การที่ผู้ชายทิ้งผู้หญิงคนนึง เพราะรับพฤติกรรมไม่ได้ เป็นบาปไหม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย emanon, 17 พฤษภาคม 2011.

  1. emanon

    emanon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    [​IMG]

    รู้จักกับแฟนมาสี่เดือนค่ะ ตอนรู้จักกันใหม่ๆ เค้าบอกว่าเค้าเคยมีแฟนแล้วเลิกกันไป เราก็ไม่ได้คิดอะไร จนพักหลังไปอ่านเจอข้อความที่ผู้หญิงส่งมาว่า ทำไมฝ่ายชายไม่ติดต่อกลับไปเลย เราก็เลยไปถามเค้าตรงๆว่า ผู้หญิงเค้ารู้ตัวหรือยังว่าไม่ได้เ็ป็นแฟนเธอ(ฝ่ายชาย)แล้ว ผู้ชายก็เลยเริ่มเล่าทุกอย่างให้ฟัง เค้าเล่าว่า เค้าคบผู้หญิงคนนี้มาสองปี และจับได้มาตลอดว่า เธอไปมีคนอื่น และใช้เรือนร่างแลกเงิน ด่าทอผู้ชาย พอมีเรื่องก็ชอบเรียกตำรวจ และเคยเอามีดมาขู่ฝ่ายชาย...ฝ่ายชายพยายามจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ักับผู้หญิงคนอื่นหลายครั้ง แต่เนื่องจากฝ่ายชายรักหญิงคนนั้นมาก และผู้หญิงคนนั้นก็ยังหวงผู้ชายคนนี้ จนกระทั้งมาเจอเรา... ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อ จนผู้หญิงคนนั้นโทรมาหาเรา เราก็คุยจนได้ความว่า ทีผู้ชายเล่ามาเป็นเรื่องจริง และผู้หญิงได้ขอให้เราจากไปเพราะเค้าท้อง..

    ผู้ชายบอกว่า ไม่แม่ใจว่าเป็นลูกเค้า แต่คิดว่าไม่น่าใช่ และไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงคนนี้อีก เค้าบอกว่าเค้าเคยพยายามจะแสดงความช่วยเหลือต่อเด็ก แต่พอผู้ชายติดต่อไป ผู้หญิงก็ก่อกวน และรีดไถเงิน(ถ้าไม่ให้จะเรียกตำรวจให้วุ่นวาย) และดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ขณะตั้งครร

    เราขอให้เค้าตรวจ dna และถ้าใช่ลูกก็ส่งเสีย.. แต่เค้าบอกว่า ถ้าเค้าเข้าไปยุ่งอีก ชีวิตเค้าจะไม่ปกติสุข มีแต่เรื่องเดือดร้อน...เราเคยบอกเค้าว่า ถ้ามันจะเดือดร้อนเค้าก็ต้องทนไป เพราะถ้าเด็กเกิดจากการกระทำของเค้า เค้าก็เลี่ยงไม่ได้ แต่เค้าก็ยังไม่อยากเข้าไปยุ่งอยู่ดี

    เราเองก็อยากจะออกมาจากเรื่องราววุ่นวายนี้ และเราเองก็ไม่สบายใจว่า เราเป็นบาปไหม แต่ผู้ชายก็ขอให้อยู่กับเค้า ขอให้ช่วยอยู่กับเค้า เพราะเค้าไม่มีใคร เราเองทุกวันนี้จะเรียกได้ว่าพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่ผิด แต่เหมือนลึกๆก็จิตใจหม่นหมอง

    คำถาม คือ

    1. การที่ผู้ชายเลิกกับผู้หญิงคนนี้เพราะเรานี่เราจะเป็นต้นเหตุพรากของรักมาจากเขามั้ย
    2. การที่แฟนไม่ยอมตรวจ dna แล้วเกิดว่าความจริงแล้วคือลูกของเค้า เราจะเป็นคนพรากพ่อเค้ามามั้ย
    3. ความเห็นอื่นๆค่ะ

    ขออภัยนะคะ ถ้ามันเป็นเรื่องทางโลกซะมากมาย แต่อยากได้คนช่วยให้แง่คิด เพราะอย่างที่บอกว่า ตัวเองนั้น ทำใจเป็นกลางไม่ค่อยได้เลยค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 พฤษภาคม 2011
  2. prapud_pratum

    prapud_pratum ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +88
    สวัสดีค่ะ จากกระทู้ที่คุณถามมา นั้นว่าเป็นบาปมั้ยในกรณีของคุณนั้น
    1.ผู้หญิงคนนี้ทำไม่ถูกหรอกค่ะ อย่างที่คุณบอกอยู่ว่า เขาขายร่างกายของเขาเอง ซึ่งมันไม่แปลกที่แฟนคุณจะสงสัยว่าเด็กไม่ใช่ลูกของเขา แต่เนื่องจาก แฟนของคุณ เคยมีส่วนร่วม หรือ สามารถถูกลากเข้าไปข้องเกี่ยวได้เพราะเขาสองคนเคยคบกัน ฉะนั้น (ความเห็นส่วนตัว) ควรจะตรวจ ดี เอ็น เอ ดีกว่าค่ะ ดี เอ็นเอ ไม่ใช่สิ่งที่เสียหายอะไรเลย ตรวจเพื่อ ไขข้อสงสัย เพราะถ้าเกิดใช่ขึ้นมา แน่นอนค่ะ ว่า ฝ่ายชาย และคุณ บาปอยู่แล้ว เพราะเด็กนั้นเป็นสิ่งบริสุธ การมีลูกนั้นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะเขาเป้นสิ่งบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และสวยงาม มาก เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แต่ต้องมารับกรรม เพราะการกระทำของคนที่รู้เรื่อง ไม่กี่คน คุณก็ลองคิดดูเอาเองว่า จะบาปไหม แต่คุณก็ ถือว่า เป็นคนที่จิตใจดีพอสมควรเลยค่ะ ที่บอกให้เขารับผิดชอบในสิ่งที่เขาก่อ เชื่อเถอะค่ะ ว่าแค่ความคิดที่เป้นกุศลแบบนี้จะทำให้ชีวิติคุณมีความสุข จงรักษาสิ่งดีงามนี้ไว้นะค๊ะ และดีใจมากที่ยังเห็นคนกลัวบาปกรรมอยู่
    2.การที่เรา ไปแย่งชิง หรือ ไปเป็นเมียน้อยใคร ทั้งๆที่เขามีครอบครัวอยู่แล้ว ทั้งที่รู้หรือไม่รู้ก็ตาม ล้วนแต่เป็นบาปทั้งนั้น แต่ถ้าคุณไม่ได้ไปแย่งชิงใครมา หรือฝ่ายชายสมัครใจมากคบเรา เพราะเข้ากับคนรักเก่าไม่ได้แล้วเลิกรากันไปแล้วมาเริ่มต้นใหม่กับเรา เราก็คือรักครั้งใหม่ ไม่บาปค่ะ
    ส่วนถ้าเด็กเกิดมา นี่คือ สิ่งที่คนเป็นพ่อ และ แม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเด็กก็คือเด็กค่ะ เขาต้องการความรัก ฉะนั้น คิดว่า คุณควรจะพูดตรงๆ กับแฟนคุณเลยเรื่องการตรวจดีเอ็นเอ เพราะ มันจะเป็นการดีต่อ ทั้ง คุณ และ ตัวแฟนคุณด้วย จะได้สบายใจด้วยกันทั้งคู่ ไม่ต้องมานั่งเป้นทุกข์ไปตลอดชีวิต กับเครื่องหมายคำถามคาใจตลอดเวลาว่า ฉันจะบาปไหมนะ ถ้าเด็กเป็นลูกของเขา
    ทางที่ดีที่สุดคือการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ ส่วนฝ่ายหญิง นั้น เขากระทำสิ่งใด เขาก็จะได้รับสิ่งๆนั้นเหมือนที่เขาทำน่ะตอบแทน เช่น ก่อ กวนให้ผู้อื่นได้รับความ เครียด ความเจ็บปวด เขาก็จะได้รับกรรมของเขาเอง เพราะสิ่งที่คุณเล่ามาเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ ไม่ว่าจะเท็จหรือจริงก็ตาม การกระทำแบบนี้ ไม่ใช่การกระทำของกุลสตรีและแม่คน เพราะ การที่เขากำลังจะเป็นแม่คนนั้น คือเขาจะต้องเป็นแม่พิมพ์ให้กับลูกของเขาเอง ฉะนั้นคนที่จะทุกข์ใจที่สุดในบทสรุปก็คือตัวผู้หญิงคนนั้นเอง เพราะการกระทำของตัวเขาเอง
    ขอให้ทุกอย่างจบด้วยดีนะค๊ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
     
  3. pasit_99

    pasit_99 การเวียนว่ายตายเกิดนั้นน่ากลัว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,667
    ค่าพลัง:
    +3,459
    เป็นเรื่องของคนสองคน คือ แฟนคุณกับผู้หญิงคนหนึ่ง จะตกลงกันเอง

    คุณเกี่ยวไหม ก็เกี่ยวข้องอยู่ เพราะคุณเป็นคนปัจจุบัน แต่คุณไม่จำเป็นต้องไปยุ่งวุ่นวายกับเขา ยังไงเราก็ไม่ผิดเพราะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน และเรื่องที่แฟนคุณเล่า หรือผู้หญิงคนนั้นโทรมาบอก ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างไร

    ถ้าสงสารเด็ก คุณก็แจ้งเขาไปว่า หากเป็นลูกเขาจริง(ถ้าเขายอมรับว่าเป็นลูก ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ) คุณยินดีรับเด็กเข้าบ้านและช่วยเลี้ยงดู บอกไว้แค่นั้น เขาจะทำอย่างไรก็สุดแต่เขา

    ทำหน้าที่ของแฟนให้ดีก็พอ บางคนบางเรื่ีองภายนอกตัว เราควบคุมไม่ได้หรอกครับ
     
  4. จริยากุ

    จริยากุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,314
    ค่าพลัง:
    +1,446
    สิ่งที่แฟนคุณบอกอาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ที่ผู้หญิงต้องขายตัวอาจเพราะความจำเป็น อาจมีสาเหตุจากสามีคุณก่อไว้ อาจจำเป็นต้องทำเพราะความรักหรือความอยู่รอด แฟนคุณอาจหลอก คุณอาจโดนหลอกให้เป็นชู้ ผู้หญิงที่โดนทิ้งก็อาจโดนหลอกด้วย แฟนคุณไม่ได้ดีอย่างที่คิดเขาทำเพื่อตัวเอง คุณโดนหลอกให้เสียตัว เสียเวลา...แต่อย่าให้เสียความคิดพิจารณาและเสียความดีในตัวเอง สุดท้ายเมื่อเขาทิ้งใครบางคนเพื่อตัวเอง ไม่ว่าเหตุผลใดๆเขาจะมีเหตุผลเข้าข้างตัวเองที่น่าสงสารตลอดและจะทื้งในทุกครั้งทีเขาพบเจอในสิ่งที่เขาคิดว่ามันดีกว่าลองดูให้ดี ว่าเขาเคยทิ้งอะไรมาบ้างเขาเป็นคนดีที่สังคมมอง ลองดูให้ลึกๆ คนที่เราคิดว่าดีมาตลอด สังคมมองว่าดีตลอด 20ปีเมื่อยามลำบากจริงๆเขายังกล่าวร้ายให้เราเป็นคนไม่ดี แต่แท้จริงต้นไม้ที่เขาเคยเกาะไปไม่รอดเขาหาเหตุผลที่ดี ที่น่าสงสารเพื่อทิ้งไปสู่สิ่งใหม่โดยสังคมเห็นว่าเขาเป็นคนดีที่น่าสงสาร และเขาก็มีเหตุผลที่ดีกับตนเอง โดยปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแท้จริงเขามีชู้ และคุณอาจเป็นชู้โดยไม่รู้ตัว (ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลดก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน)ขอโทษที่อาจทำให้ไม่สบายใจแต่คิดไว้บ้างจะได้ไม่เสียใจภายหลัง โลกไม่ได้มีแต่ส่วนที่ดี ความไม่เที่ยงคือความเที่ยงเป็นธรรมดา
     
  5. vm

    vm สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +1
    มนุษย์กว่าที่จะได้เกิดมา มีกายสังขารเป็นมนุษย์อยู่นี้ พระท่านกล่าวไว้ว่า แสนยากลำบาก แต่การจะดำรงชีวิตอยู่ยิ่งยากกว่านัก โดยเฉพาะดำรงตนอยู่ในหนทางแห่งความถูกต้องและความดี บ่อย ๆ ครั้งที่ชีวิตดำเนินอยู่ เราอาจได้พบกับเรื่องราวและเหตุการณ์ มากมาย บางเรื่องที่เราได้พบเจออาจเป็นการทดสอบของกิเลสมาร มันอาจหลอกล่อ และทำให้เราหลงทางไป เราจำเป็นต้องต่อสู้กับมารกิเลสที่มาหลอกเราว่า ถ้าทำอย่างนี้ อย่างนั้น มันจะทำให้เรามีความสุขนะ แต่ถ้าได้ตั้งสติดี ๆ ก็จะได้รับรู้ว่า ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงหรอก เป็นกำลังใจให้ข้ามพ้นปัญหาและความทุกข์ทั้งปวงไปให้ได้นะคุณ ถ้าเป็นเวรกรรมแต่ปางก่อนใช้แล้วก็หมด พอหมดแล้วก็สงบ สบายได้เอง สวดมนต์ ภาวนาแผ่เมตตาให้กับ่ผู้ที่ทำให้เราไม่สบายใจทุก ๆ วัน ...
     
  6. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    ตอบแบบตรงๆครับ ผมก็ผู้ชายคนหนึ่ง

    ข้อหนึ่ง ไม่ผิดและไม่บาปคนที่ผิดและบาปคือคนที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ชายคือแฟนคุณ ตัวเขาเองแหละรู้ทุกเรื่องว่าอะไรควรไม่ควร แต่เขามีความละอายและเกรงกลัวต่อบาปหรือเปล่า

    ข้อสอง สัจจะข้อหนึ่งของบุรุษเพศคือ กล้าทำกล้ารับ ถ้าเขาเชื่อมั่นในตนเองจริง เพื่อความสบายใจของคนที่เรารัก เขาควรกระทำเพื่อพิสูจน์ตนเอง ถ้านอกเหนือไปจากนี้มิอาจเรียกได้ว่าชายชาติอาชาไนย ควรหรือไม่ควรคุณลองใช้โยโสมนัสสิการดู

    ข้อสาม ถ้าเราเป็นเนื้องอกควรตัดทิ้งไปเสีย ก่อนจะบานปลายไปเป็นมะเร็ง
     
  7. phank

    phank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,278
    ถึงคุณ emanon

    ผมอยากให้คุณสงบ สติ อารมณ์ และความคิดที่ฟุ้งซ่านนะครับ ที่ต้องบอกแบบนี้เพราะว่าคูณกำลังหนักใจกับเรื่องที่เผชิญอยู่แต่การเอามาสุมๆ รวมกันทั้งหมดมันจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นนะครับ ก่อนอื่นสิ่งที่คุณต้องทำคือ เตรียมสภาพจิตใจในการรับเรื่องที่เลวร้ายที่สุดไว้ก่อน ว่าถ้าเกิดขึ้นคุณจะทำอย่างไร เมื่อคุณยอมรับและเตรียมใจได้แล้ว คุณจะต้องพูดคุยให้แฟนของคุณไปตรวจ DNA เพื่อที่ว่าถ้าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของแฟนคุณ ระหว่างแฟนคุณ emanon และตัวคุณ emanonเอง จะได้รู้สึกสบายใจที่ไม่ได้ทำผิดต่อเด็ก โดยที่ผลออกมาก็จะช่วยให้คิดตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้นนะครับ

    คุณ emanon ถ้าแฟนคุณไม่ยอมไปตรวจ DNA และตัวคุณเองก็รับไม่ได้ที่จะทนอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ ที่สำคัญคุณไม่อยากสร้างเวรผูกกรรมล่ะก็ ผมว่าคุณต้องมีเงื่อนไขเพื่อให้แฟนคุณยอมไปตรวจนะครับ ซึ่งมันมีอยู่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณจะต้องเป็นคนตัดสินใจเองด้วยว่าคุณอยากจะเลือกแบบไหน

    สิ่งอื่นนอกเหนือไปจากนี้ คุณต้องคิดให้ดีว่ามันอยู่ในส่วนของคุณหรือเปล่า ขอให้ทุกๆการกระทำของคุณเป็นสิ่งที่คุณทำดีที่สุดแล้วกันนะครับ

    เอาใจช่วยครับ และก็ขอให้คุณ emanon ถ้าจะมีชีวิตคู่ก็ขอให้พบคู่ที่ดีนะครับ


     
  8. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +3,331
    ดูจากสภาพการณ์ผู้ชายคนนี้คงเพิ่งทิ้ง ญ แล้วมาอยู่กับคุณไม่นาน เพราะเขายังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ใช่ลูกเขา จะว่าไปแล้วก็น่าเห็นใจผู้หญิงทั้งสองฝ่าย หาก ญ คนนั้นเป็นแบบนั้นจริงถ้าเราเป็นชายก็คงไม่อยากอยู่ด้วย แต่ถ้าเป็นลูกของเขาก็ให้เขาตกลงกับ ญ เรื่องการเลี้ยงดู
    หากคุณรักผู้ชายคนนี้และคิดว่าเขารักคุณ ไม่ได้มาหลอกคุณๆก็ลองให้เขาแต่งงานกับคุณ เอาสินสอดแพงๆเท่าที่คิดว่าสมน้ำสมเนื้อ ให้รู้ไปว่าที่เขาว่ารัก เพราะฃองฟรีหรือเปล่า ถ้าไม่เช่นนั้นก็ตัดปัญหา คือเลิกไปได้เลย
    จะเล่าให้เป็นอุทาหรณ์คือมีเพื่อนถูก ช ที่มีเจ้าของแล้วมาชอบเขาก็เชื่อสนิทใจไม่ว่าเขาจะพูดอะไรเพื่อนก็เชื่อสุดท้ายก็เสียทั้งตัวและใจ เขาไม่ต้องการแต่งงานด้วยเพราะเขาก็ยังอยู่กับเจ้าของๆเขาและ ญ คนนั้นก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แต่เป็นความต้องการของ ช ที่ไม่รู้จักพอ
     
  9. sineseta

    sineseta สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    ระวังแฟนของคุณเอาไว้ด้วยก็ไม่เสียหายนะคะเพราะยังไม่ชัดเจนว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่ เขาโกหกหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้สึกไม่ชอบที่แฟนคุณไม่ยอมตรวจดีเอ็นเอ เรื่องจึงยังไม่โปร่งใส ขอให้คุณวางตัวเองให้ปลอดภัยรักตัวเองให้มากๆจะดีกว่านะคะจนกว่าจะแน่ใจได้แล้วว่าไม่ใช่ลูกของเขาจริง ถ้าฉันเป็นคุณจะไม่ยอมมีอะไรกับผู้ชายคนนี้จนกว่าจะแต่งงานแล้วด้วยความมั่นใจจริงๆ (ซึ่งก็ต้องตรวจดีเอ็นเอก่อนแล้วพบว่าไม่ใช่ลูกของเขาแน่ๆ) อย่าไปหวงมากนักผู้ชายน่ะ คุณยังมีสิทธิจะเจอผู้ชายดีๆอีกมากในอนาคต
     
  10. Ricky

    Ricky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +682
    1. ดูที่เจตนาของเรา
    2. ตรวจไปเถอะ ไม่เห็นมีอะไรเสียหายนิ ทุกอย่างจะได้กระจ่าง
    3. ถ้าคุณไม่ได้มีเจตนาที่จะพรากเค้ามาจากอีกคน มันก้อไม่ใช่กรรมหรอกครับ ไม่ต้องไปคิดมาก มันอาจจะเป็นแค่สะเก็ดกรรมที่เคยเกิดขึ้นส่งผลให้เกิดสภาพแบบนี้แค่นั้นล่ะครับ
     
  11. emanon

    emanon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ช่วยได้มากเลยทีเดียว สำหรับคนที่กำลังสับสนอย่างดิฉัน
    เรื่องเด็กนั้น ฝ่ายชายเคยมาถามดิฉันเหมือนกันว่า ถ้าเค้าเอาเด็กมาแล้วดิฉันจะช่วยเขาเลี้ยงมั้ย (เพราะจริงๆผู้ัหญิงคนนั้น ไม่อยากได้ลูกเลย) ดิฉันก็บอกเค้าไปว่า ถ้าสุดท้ายเราสองคนได้ตบแต่งกัน ดิฉันก็ไม่มีปัญหา ดิฉันรักและเมตตาเด็กเป็นทุนเดิม และก็ไม่รังเกียจพ่อหม้ายลูกติดแต่อย่างใด

    หลายๆท่านบอกให้ระวังผู้ชายคนนี้ ดิฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ อิอิ... พอดีเค้าเป็นคนต่างชาติ(คนรัสเซีย) ก็มีความคิดความเชื่ออะไรที่แตกต่างจากเราหลายอย่าง ยังเคยคิดอยู่ว่าแบบนี้หรือเปล่าที่เรียกว่า ศีลไม่เสมอกัน.. บางอย่างดิฉันว่าไม่ดี เขาก็บอกว่ามันโอเค

    ยิ่งตอนคบใหม่ๆ เค้าไม่ชอบพุทธศาสนาเอาเสียเลย เพราะแฟนคนเก่าที่ท้องนั้นนับถือพุทธ แต่ทำไม่ดีต่อเค้ามากมาย แต่มาตอนหลังๆเค้าก็พยายามจะเข้าใจความนึกคิดของเรา ซึ่งก็เข้าใจบ้าง งง บ้าง :)

    ตอนนี้ก็คงจะพยายามทำตัวทำใจเป็นกลางๆ เป็นกัลยานมิตรที่ดีต่อแฟน อย่างที่ทุกคนว่าน่ะค่ะ เราเองไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดคืออะไร จะพยายามทำตัวเป็นกลาง และใช้ปัญญาพิจาณา...ไว้มีอะไรคิดไม่ตก จะมาปรึกษาใหม่นะคะ ชุมชนนี้น่ารักมากมายค่ะ :)
     
  12. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,940
    ขอให้เรื่องทั้งหมดผ่านพ้นไปด้วยดีนะครับ
     
  13. Ricky

    Ricky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +682
    สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  14. ศิวกา

    ศิวกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +779
    แล้วถ้าสมมติว่า ผู้หญิงคนนึงไม่มีความผิด แล้วคบกันมาดีๆ ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกัน แต่เพราะอยู่คนละศาสนาภายหลังทำให้ฝ่ายชายเลือกที่จะอุบอิบไปรับหมั้นกับผู้หญิงที่แม่เตรียมหาไว้ให้ โดยไม่ยอมบอกแฟนที่ตัวเองคบอยู่ จะผิดไหมคะ แล้วการที่ฝ่ายหญิงยอมยกโทษให้ภายหลัง ถือว่าไม่ต้องมีเวรต่อกันอีกแล้วหรือเปล่าคะ

    อยากทราบเป็นวิทยาทาน ขอบพระคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2011
  15. NETTHAT

    NETTHAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +153
    เรารักกันแล้ว ช่วยกันแก้ปัญหาดีกว่านะ เราว่า
    ๑.คุณไม่ใช่ต้นเหตุ
    "เธอ"ต่างหากเป็นต้นเหตุ
    ให้เค้าต้องแยกห่างออกมา
    (ซึ่งผู้ชายปกติที่ไหนก็คงกระทำเช่นนั้น)
    ๒.ต่อให้ตรวจ DNA แล้วตรงกัน
    ใจคงยอมรับแม่ของลูก
    ที่เคยมีผู้ช่วยพ่อหลายๆคนยากอยู่กระมัง

    แต่ความรับผิดชอบดูแล คงต้องมี
    ตามกรรมเก่าที่เค้าร่วมกันมา
    ๓.เรามีข้อมูลฝ่ายชายเท่าที่ได้อ่าน
    เข้าใจว่า เค้าอยู่ในระดับที่คุณพอใจ
    จึงก่อเกิดความรักต่อกันได้

    ช่วยกันแก้เถิดจ้ะ
    "ปัญหาทุกอย่าง แก้ได้ทั้งนั้น"
    ขอแต่มีความมุ่งมั่น มีเหตุมีผล
    มีทางออกที่ดีแน่นอน

    เอาใจช่วยอีก ๑ เสียงนะจ๊ะ...
     
  16. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ไม่อยากตอบ เวลาและประสบการณ์ บวกกับวุฒิทางอารมณ์ของคุณจะทำให้ได้คำตอบเอง
     
  17. แฝดแก้มก้อย

    แฝดแก้มก้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +28
     
  18. สีกาอร

    สีกาอร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +599
    หาแฟนใหม่เถอะ ถ้าเราไม่รู้ก็ถูกเขาหลอก แต่เมื่อรู้แล้วว่าเขามีลูกมีเมีย ตัดไฟแต่ต้นลมดีกว่า ไม่ผิดศีล อย่าลืมว่าเราทำกรรมอะไร เราต้องรับผลของกรรมนั้น อย่าไปทำลายครอบครัวเขา ผู้ชายคนนี้คบผู้หญิงเร็วไป ด่วนมีอะไรกันไม่สืบให้ดี หาแฟนที่ไม่มีอะไรด่างพร้อยจะดีกว่า ไม่ต้องปวดหัว เดี๋ยวต้องมาเลี้ยงลูกให้เขา ซึ่งไม่ใช่ลูกเรา เหนื่อยฟรี ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2011
  19. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ชอบความคิดเห็นนี้มากเลยค่ะ ตรงๆและโดนใจดี ภัทรคิดทุกอย่างเหมือนคุณ ลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ายอมรับ การตรวจดีเอ็นเอเป็นการยอมรับความบริสุืทธิ์ของผู้ชายให้เรื่องมันจบๆไป ไม่มีปัญหาคลางแคลงใจให้เกิดกับผู้หญิงอีักคนนึง

    ส่วนตัวคุณถึงแม้มันจะไม่ใช่ความผิดคุณ เพราะผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่เมื่อคุณรู้แล้วก็ปล่อยให้เขาแก้ปัญหาให้จบก่อนดีไหม ถ้าเป็นเราๆจะให้เขาเคลียร์ตัวเองให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยกลับมาหาเรา เราก็อยากอยู่แบบผู้ไม่ผิดนะ แต่ตอนนี้ถึงเราไม่ผิดแต่จิตใต้สำนึกเรามันก็คอยหลอนเราอยู่ค่ะ
     
  20. Ricky

    Ricky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +682
    ใช่ครับ กรรมคือผลของการกระทำน่ะครับ ไม่ว่าจะเล็กหรือน้อยขนาดไหน หากมีเหตุแล้วผลย่อมต้องเกิดขึ้นเช่นเดียวกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...