แจ้งข่าวภัยพิบัติที่จะมาถึงในเดือน พฤษภาคม 2554

เป็นกำลังใจให้ อย่างน้อยก็ทำให้หลายๆคนพลิกชีวิตกลับมาให้ความสำคัญด้านศาสนามากขึ้นมีความยับยั้งชั่งใจในการทำผิดศีลกันมากขึ้นและหันมาเร่งปฎิบัติกัน แค่นี้ก็คุ้มค่ากับการเสียสละที่ออกมาเตือน ได้มากกว่าเสียครับ

 

การให้ธรรมะเป็นทาน ประเสริฐกว่าการให้ทั้งปวง...ทองแท้ต้องทนต่อการพิสูจน์...เมื่อทนได้ จึงจะเป็นทองที่มีคุณค่า...

 

การเห็นเหตุการณ์ในอนาคตมี 3 แบบ
1. เห็นเหตุการณ์จริง(ระดับอรหันต์ขึ้นไป)
2. เห็นบางสิ่งที่เขาต้องการให้เห็น(อาจเป็นเหตุการณ์ที่จริงก็ได้ ไม่จริงก็ได้ สุดแท้แต่ว่าเขาจะให้เราเห็นอะไร)
3. เห็นบางสิ่งที่เกิดจากการปรุงของจิตของเราเอง(ส่วนใหญ่จะไม่ตรงจริง)

บางครั้งในความฝันก็เกิดจากข้อที่ 2. หรือข้อ 3.
บางครั้งในสมาธิที่เห็นนิมิตก็เกิดจากข้อ 2. หรือข้อ 3. ได้เช่นกัน

อนาคตังคญานจริงๆแล้วระดับพระอรหันต์ถึงจะเป็นของแท้ ฉะนั้นหากเราเห็นอนาคตเราพึงถามตัวเองก่อนว่าเราถึงระดับอรหันต์หรือยังถ้ายังก็แสดงว่ายังมีความคลาดเคลื่อนอยู่

ส่วนพระอรหันต์ท่านก็บรรลุธรรมแจ้งแล้วเวลาท่านเห็นเหตุการณ์ในอนาคตท่านก็ไม่อาจบอกใครได้เพราะผิดกฏแห่งกรรมท่านจึงวางเฉยเสีย พวกเราก็เลยไม่อาจรู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ครับ

 

กำลังลุ้นว่า จะเกิดหรือไม่เกิด เว็ปล่มมาช่วยไว้ได้ทัน

 

แม้แต่พระอรหันต์ที่ได้อนาคตังญาณ ก็ยังมองอนาคตได้ไม่เที่ยงตรง (กรณีของพระสารีบุตรกับสามเณร) ญาณของพระอรหันต์มองอนาคตจากปัจจุบันขณะ และเหตุการที่เห็นนั้นเป็นจริงในขณะนั้น แต่อนาคตมีความไม่แน่นอนในตัวของมันเอง มันเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุแห่งปัจจุบัน ดังนั้น สิ่งที่เห็นนั้นเห็นจริง แต่อาจไม่เกิดขึ้นจริง

มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่มองอนาคตได้ตรง และเกิดตามนั้น ตามวันเวลาที่ทำนาย ก็เพราะว่า พระพุทธเจ้ามีญาณใหญ่(ทศพลญาณ) ที่พระอรหันต์สาวกไม่อาจมีได้ ทศพลญาณทำให้พระพุทธเจ้าแตกต่างจากอรหันต์สาวก

อานุภาพแห่งทศพลญาณ สามารถรู้อดีต สืบต่อปัจจุบัน ต่อยอดถึงอนาคต และอนาคตที่เห็นไม่อาจเปลี่ยนไปจากนี้ เพราะทศพลญาณครอบคลุมเหตุแห่งการปรุงแต่ง เหตุแห่งการเกิด ทุกอย่างไว้ครบครัน

แม้ในศาสนาคริสต์เอง พระเยซูได้กล่าวถึงวันพิพากษาโลกไว้ แต่พระองค์ไม่อาจระบุวันเวลาได้อย่างชัดเจน เพราะผู้ที่ทรงรู้ทุกอย่างคือพระเจ้า ไม่ใช่พระองค์

แม้คำทำนายที่อาจได้มาจากผู้ได้อนาคตังญาณจริง ผมเชื่อว่าเห็นจริง แต่ปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะ และส่งผลให้อนาคตที่เห็นเปลี่ยนตามไปด้วย นี่คือข้อจำกัดของอนาคตังญาณ
ผู้ที่ทำให้อนาคตเปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เราๆท่านๆนี่แหละ
ถ้าสามเณรของพระสารีบุตรไม่ช่วยปลาที่กำลังดิ้นตาย พระสารีบุตรก็ทำนายได้ถูกต้องไปแล้ว นี่กลายเป็นสามรเณรไม่ตายภายในเจ็ดวันตามที่ท่านทำนาย จากเรื่องนี้ผมคิดได้ว่า
1 พระสารีบุตร ทำนายความตาย วันตาย ของสามเณร ไว้ที่ไม่เกิน เจ็ดวัน ท่านคงดูผลจากวิบากกรรมเก่าของเณร
2 ท่านไม่ได้ดูว่า ภายในเจ็ดวัน สามเณรจะกระทำกรรมใดๆหรือไม่ ทั้งดี หรือไม่ดี
3 ถ้าสามเณรไม่กระทำกรรมดี คือช่วยปลาไม่ให้ตาย สามเณรคงตายตามวิบากเก่า
4 พระสารีบุตรไม่ได้ทายผิด แต่ทายไม่ครอบคลุม หรือไม่อาจครอบคลุมได้ตามขีดจำกัดของญาณ

อนาคตจึงเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ตามการกระทำของเราและกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ
ผมคิดว่าถนอมใจตัวเองให้สงบ มองหาวิถีทางรอด แล้วก็รอๆๆๆๆๆ เท่านั้นเอง

 

ข้อความนี้ผมเห็นด้วยกับคุณ
ใจที่สงบ ส่งผลออกทางคำพูดได้นะครับ

 

ผมชอบคำว่า ถนอมใจตนเองให้สงบ

ยังไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะยืนยาวไปได้สักเท่าไหร่
ขอให้เราถนอมใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกัน

 

ไม่ใช่ แต่ใกล้เคียง

22/05 11:00 น.แผ่นดินไหวขนาด3.8R.ประเทศลาวห่างจากเชียงของไปทางเหนือ64กม.
dataid=672422/05 11:00 น.แผ่นดินไหวขนาด3.8R.ประเทศลาวห่างจากเชียงของไปทางเหนือ64กม. :: มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติ

 

เพียรปฏิบัติต่อ...

อนุโมทนาด้วยค่ะ ขอให้เร่งเพียรปฏิบัติต่อๆไป
นิมิตที่เกิดขึ้นในระหว่างปฏิบัติ...เป็นเพียงทางผ่านก็เท่านั้น ^^
จิตที่ผ่านด่านวิปัสสนูปกิเลส10 แล้วเข้าสู่ภังคญานได้...หรือผ่าน ภังคานุปัสสนาญาณแล้ว จะได้รับอานิสง ๘ ประการ คือ

๑. ละความใคร่ในภพต่าง ๆ เพราะรู้แล้วว่าไม่ใช่ความสุข
๒. ละความใคร่ในชีวิต เพราะเห็นแล้วว่าชีวิตเป็นไปเพื่อทุกข์และการแก้ไขเท่านั้น
๓. หมั่นประกอบความเพียร เพื่อจะได้พ้นจากทุกข์
๔ เลี้ยงชีพด้วยความบริสุทธิ์ ถูกต้องตามพระธรรมวินัย
๕. ไม่ขวนขวายในทางที่ผิด ให้ผิดไปจากพระธรรมวินัย
๖. มีความกล้าหาญ ไม่ยอมผิดศีล ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งที่จะทำให้เสียศีลธรรม
๗. มีขันติอดทน ไม่เป็นไปกับกิเลสของคนอื่น เป็นคนสอนง่าย เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อรั้น
๘. อดกลั้นต่อความยินดียินร้ายไม่ตอบสนองกิเลสของตนเองในอารมณ์ต่างๆ โดยผิดทาง

คุณธรรมทั้ง ๘ ประการนี้ เป็นอานิสงส์อันเนื่องมาจากปัญญาของผู้ปฏิบัติที่เข้าถึง ภังคานุปัสสนาญาณดังกล่าว อาศัยคุณธรรมเหล่านี้เป็นปัจจัยให้บรรลุถึงธรรมที่ดับทุกข์ ถ้าผู้ใดยังไม่ได้รับอานิสงส์นี้แล้ว ก็ยากจะดำเนิน ถึงพระนิพพานได้ อานิสงดังกล่าวมิใช่เกิดจากทาน หรือจากศีล หรือจากสมาธิ แต่จะต้องได้มาจากเหตุโดยตรง คือ จากวิปัสสนาเท่านั้น

 

ภัยพิบัติทางธรรมชาติเริ่มเกิดขึ้นมาเป็นระยะ ๆ แล้ว
เพราะมนุษย์ทำลายธรรมชาติกันมาก

ดังนั้นอย่าสนใจเพียงจะเกิดอะไร ที่ไหน วันที่เท่าไร
จะเป็นการสร้างบาปทางมโนกรรมโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ซึ่งเป็นบาปที่หนักมาก เพราะเป็นการตั้งใจ

ลองคิดดูว่า หากมีการทำนายว่าจะเกิดในถิ่นฐานที่เราอาศัยอยู่
และมีผู้มาคอยดูว่า จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เราจะรู้สึกอย่างไร ทุกข์ใจบ้างหรือไม่

หากเราเคารพพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาโดยแท้จริงแล้ว

พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ตถาคตคิดถึงความตายอยู่ตลอดเวลา

หมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน
คิดดี ทำดี พูดดี มีเมตตา กรุณา แม้จะต้องตายไปก็ไม่กลัวว่าจะไปอบายภูมิ

ความตายอาจไม่น่ากลัวเท่ากับว่า เมื่อตายแล้วจะไปที่ไหน

สมัยนี้คนตายแล้วไปนรก มากกว่าไปสวรรค์มากมายหลายเท่า
เสวยกรรมในนรกแล้ว ยังต้องมาเกิดเป็นเปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน
กว่าเราจะได้เิกิดมาเป็นคน โดยเฉพาะเราเกิดมาโชคดี ที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย
ที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม มีโอกาสพบพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์
ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง

ดังนั้นภัยพิบัติจะเกิดขึ้นหรือไม่ ย่อมไม่สำคัญเท่ากับเราเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง
ในการทำความดี หมั่นให้ทาน ศีล ภาวนา เพื่อหนีนรก ไปสู่ภพภูมีที่สูงขึ้น ๆ ครับ

 

เห็นด้วย...

สิ่งสุดท้ายที่จะติดตัวเราไป...คือผลบุญ คุณงามความดี บารมีสั่งสม...ไปใช้ในชาติภพหน้าเท่านั้น

 

แจ้งข่าวภัยพิบัติที่จะมาถึงในเดือน พฤษภาคม 2554

กระทู้นี้น่าจะปิดได้แล้ว หรือน่าจะเปลี่ยนใหม่ มันข้ามเดือนแล้วนะ

 

(good)(good)(good)(good)(good)

 

อยากรู้ด้วยจังครับ

 

คำเตือน บอกให้เราตั้งอยู่บนความไม่ประมาทครับ

 

ผมเคยแสดงความคิดเห็นผ่านกระทู้ต่าง ๆ หลายครั้งเรื่องคำเตือนที่ระบุวัน เวลาที่ชัดเจน เพราะเท่าที่สังเกตุมา หากมีการเตือนที่ระบุวันเวลาที่ชัดเจนแล้ว เหตุการณ์มักไม่เกิดขึ้น ผมเองไม่เคยคิดว่า ผู้ออกมาเตือนไม่แม่น หลอกลวงหรืออยากเด่นอยากดัง แต่เพราะเจตนาบริสุทธิ์ที่ท่านทั้งหลายคิดห่วงสรรพสัตว์บนโลก เป็นห่วงเพื่อนมนุษย์ถึงได้ออกมาเตือน แต่ความลับสวรรค์ ความลับยังงัยคือความลับ หากการออกมาเตือนของทุกๆท่าน ไม่ก่อให้เกิดกรรมกับท่านผู้ออกมาเตือน ผมยังอยากให้มีการออกเตือนภัยที่ระบุวันเวลาที่ชัดเจน เพราะความลับคือความลับ เมื่อถูกเปิดเผยก็น่าจะเลื่อน หรือรอเวลาจะเกิดเหตุการณ์

แต่เมื่อถึงที่สุดแล้ว กรรมใครก็กรรมเขา
ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม
ยึดอุเบกขาเป็นอารมณ์ จะได้ไม่ทุกข์
หมั่นสร้างบุญกุศลไว้ให้มาก ดีที่สุด<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->


ปิดกระทู้ก็ดีครับ จะได้ติดตามข่าวสารใหม่ ยังอยากให้ผู้มาใหม่ออกมาแสดงความคิดเห็นหรือเตือนในสิ่งที่ได้ยิน หรือสิ่งที่ท่านรู้ต่อไป ยังเป็นกำลังใจให้ผู้ออกมาเตือนเสมอครับ

 

คิดดี คิดถูก ย่อมเกิดผลดีเสมอ

 

แจ้งเปลี่ยนเดือน เตือนกันเป็นเดือนๆดีกว่าเพื่อความไม่ประมาท ไม่เกิดก็ไม่เป็นไร ความคิดเห็นขอสมาชิกท่านอื่นๆเห็นว่าไงกันบ้าง

 

เห็นด้วย ใครมีข้อมูล ข่าวสาร คำเตือนจากผู้รู้ (ที่น่าเชื่อถือ) บอกเตือนบ้างครับ เพื่อการเฝ้าระวัง

 

ดีเหมือนกันค่ะ เห็นด้วย ๆ