หินทิเบตพลังมหัศจรรย์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 4 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    [​IMG]ตั้งแต่สมัยอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้พัฒนาท่ามกลางความเชื่อต่างๆ นานา ถึงแม้ว่าสังคมมนุษย์ในวันนี้เจริญเติบโตเพียบพร้อมไปด้วยความทันสมัย

    แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คือ ปัจจัยด้าน "ความเชื่อ" (Believes)

    ทั้งนี้ *ความเชื่อ* ย่อมมีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับความฝันและจินตนาการในสิ่งพิศวง จนหลายครั้งอาจหาข้อพิสูจน์ไม่ได้

    โดยเฉพาะในบางศาสนาที่บ่มสร้างความขลัง และความศักดิ์สิทธิ์ต่อลัทธิตนเอง ด้วยการตอกย้ำตำนานเรื่องราวทางประวัติศาสตร์

    ซึ่งสัญลักษณ์และวัตถุโบราณชิ้นสำคัญถูกนำมาใช้เป็นช่องทางการนำเสนอความศักดิ์สิทธิ์ของลัทธินั้นๆ จึงพอสรุปได้ว่าศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจมาโดยตลอด

    ทั้งนี้ สภาวะทางจิตของผู้คนในสังคมเริ่มถดถอยลง สาเหตุสำคัญคือความขัดแย้ง การชิงดีชิงเด่น เป็นบ่อเกิดของความสับสนและความว้าวุ่น ทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือ

    *การสร้างรูปแบบความเชื่อใหม่ๆ บนวัตถุใหม่ๆ เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ*

    "หินทิเบต" หรือหิน DZi (ดีซีไอ) นับว่าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจอีกชนิดหนึ่ง และเป็นของขลังที่คนไทยในปัจจุบันให้ความสนใจมากพอสมควร โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

    แต่สิ่งที่น่าสนใจต่อความเชื่อในวัตถุประเภทนี้ คือ ความสัมพันธ์ระหว่าง "ความเชื่อ" ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมพลังลี้ลับอีกทีหนึ่ง โดยเฉพาะด้านจิตวิญญาณ จึงนับได้ว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการพลิกโฉมหลักความเชื่อที่สามารถอธิบายในเชิงตรรก มีเหตุมีผลมากขึ้นกว่าเดิม

    ทั้งนี้ ผู้ที่นิยมสวมใส่หินทิเบตอาจแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มนิยมใส่ตามแฟชั่น หรือกระแสนิยม ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งมีความเชื่อต่ออำนาจความขลังของวัตถุ

    สำหรับผู้อ่านทางบ้านอาจจะอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม ว่าหินทิเบต หรือหิน DZi (ดีซีไอ) นั้นมีดีอะไร ถึงได้รับความนิยมปานนี้ ผมก็ขออนุญาตอธิบายโดยสังเขป

    ประเทศทิเบตมักถูกเปรียบเปรยว่าเป็น "หลังคาโลก" มาโดยตลอด เป็นดินแดนที่เปรียบได้กับสวรรค์บนโลก เพราะทิเบตเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ และความเร้นลับที่ชวนให้ค้นหาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหิน DZi (ดีซีไอ) ที่กำลังเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน

    หิน DZi (ดีซีไอ) หรือลูกปัดหินทิเบตนี้ได้มีการทำขึ้นเกือบ 2,500 ปีมาแล้ว การทำหิน DZi (ดีซีไอ) ถือเป็นวัฒนธรรมหนึ่งของชาวทิเบต สามารถพบได้ในประเทศทิเบตเอง และในประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาณาบริเวณติดกับประเทศทิเบต

    หิน DZi (ดีซีไอ) จัดได้ว่าเป็นเครื่องประดับล้ำค่าของชาวทิเบต มีรูปลักษณ์เป็นท่อรูปทรงยาว สลักเป็นรูปดวงตา บางทีถูกเรียกว่า "หินแห่งสวรรค์"

    อันเป็นหินที่ถูกแกะสลักเป็นลวดลายสีขาว-ดำ หรือน้ำตาล-ดำ ที่แฝงไว้ซึ่งความหมายมากมาย และที่สำคัญคือ ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพลังจักรวาลอีกด้วย

    ผู้ที่ทุ่มเทศึกษาในประเด็นดังกล่าว ได้พยายามอธิบายว่า "พลังจักรวาล" มีคุณประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติเป็นอย่างยิ่ง โดยที่คุณประโยชน์จากพลังจักรวาลสามารถแบ่งออกเป็นหมวดหมู่หลักๆ ที่สำคัญได้ 4 หมวด ด้วยกัน คือ

    1.พลังแห่งการปกป้องล้างอาถรรพณ์ รวมถึงการป้องกันและลบล้างอาถรรพณ์จากคุณไสยมนต์ดำ

    2.พลังแห่งความเมตตา ซึ่งเป็นพลังทางด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ อันเป็นพลังที่ช่วยเสริมทางด้านสิริมงคลให้แก่ชีวิต

    3.พลังแห่งการป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง

    4.พลังทางด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยจะช่วยในการปรับสมดุลของธาตุทั้งสี่และพลังชีวิตภายในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี

    ทั้งนี้ "ดีซีไอ" ในภาษาทิเบต แปลว่า ความเจิดจรัส ความสว่างไสว ความสุกสกาว โดยตามความเชื่อของชาวทิเบตที่สืบต่อกันมานับเป็นพันปี

    กล่าวถึงการสวมใส่หิน DZi (ดีซีไอ) ไว้ว่าจะสามารถคุ้มครองผู้ที่สวมใส่ให้ปลอดภัยจากเคราะห์ร้าย และภยันตรายทั้งมวลได้

    อย่างไรก็ตาม ในเชิงวิทยาศาสตร์หิน DZi (ดีซีไอ) เองก็เป็นหินอาเกต ซึ่งจะมีพลังสูงอยู่ในตัวอยู่แล้ว คือมีค่าสูงถึง 13-17 วัตต์ ซึ่งถือว่ามีพลังวัตต์มากกว่าคริสตัลเสียด้วยซ้ำ

    หินอาเกต เป็นหินที่มีค่าความแข็งอยู่ในช่วง 7-8.5 และเดิมเคยเป็นน้ำในภูเขาไฟก่อนที่จะกลายมาเป็นหินอาเกตในปัจจุบัน

    ดังนั้น ในเนื้อหินอาเกตจึงมีสารแมงกานีสและแมกนีเซียมประกอบอยู่ ซึ่งทั้ง 2 แร่ธาตุมีคุณสมบัติสนับสนุนการหมุนเวียนของโลหิต ช่วยในเรื่องความดันโลหิตที่ผิดปกติ รวมทั้งยังสามารถช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวกับเส้นเอ็นได้อีกด้วย

    ซึ่งก็หมายถึงว่าการสวมใส่หิน DZi (ดีซีไอ) จะช่วยปรับสภาพความสมดุลของธาตุภายในร่างกาย ทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้น

    แต่ที่น่าพิศวงคือ อำนาจลี้ลับทางธรรมชาติที่แฝงอยู่ในหิน กล่าวกันว่าสนามพลังที่มีอยู่ในธรรมชาติเกิดขึ้นจากสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก

    ทั้ง 3 สร้างปฏิสัมพันธ์ด้วยการส่งพลังคลื่นแม่เหล็กบางๆ ต่อกัน และสนามพลังดังกล่าวนี้เองที่ส่งผลต่อระบบประสาทและพลังชีวิตในร่างกายของมนุษย์

    หิน DZi (ดีซีไอ) เป็นหินที่มีคลื่นแม่เหล็กจำพวกนี้อยู่ในตัวเอง ดังนั้นหิน DZi (ดีซีไอ) จึงทำหน้าที่เป็นเสมือนสื่อในการนำสนามแม่เหล็กโลก ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ มาอยู่ในร่างกายมนุษย์ ส่งผลให้ร่างกายของผู้ที่สวมใส่ได้รับคลื่นแม่เหล็กจากทั้งภายในตัวหินที่ใส่ และจากสนามแม่เหล็กในธรรมชาติที่ผ่านเข้ามา

    สิ่งที่ผมได้กล่าวมาทั้งหมดย่อมขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล และควรพิจารณาบนวิจารณญาณของผู้อ่าน

    แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกสนใจต่อประเด็นที่นำเสนอในวันนี้ คือ หลักความเชื่อในปัจจุบันนั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

    กล่าวคือมีมิติด้านการอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์มากขึ้น และที่สำคัญคือ มีความเกี่ยวโยงต่อแนวทางศึกษาด้านจิตวิญญาณวิทยา ซึ่งเป็นศาสตร์แขนงใหม่

    ก่อนที่จะจากไปไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ สิ่งเหล่านี้ต้องพิสูจน์ด้วยตนเองถึงจะรู้นะครับ
     
  2. *44*

    *44* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    528
    ค่าพลัง:
    +1,808
    เราเคยดู สารคดีเรื่องจริง ที่ฝรั่งเขาไปถ่ายทำมา
    พระธิเบต ถูกทหารจีนไล่ทุบตี อย่างทารุณ
    ชาวบ้านธิเบต ขาดหมอ ป่วยตายตามยถากรรม
    เด็ก ๆ เป็นโรคติดต่อ
    รวม ๆ สุขภาพอนามัย ของพวกเขาอยู่ในขั้น ที่ถือว่าแย่ ( ความคิดของฝรั่ง )
    และที่สุด ความยากจน ของชาวธิเบต ที่ยังมีอยู่มาก
    แต่ชาวธิเบต ยังมั่นคงต่อศัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่มาก แม้จะมีฝรั่ง นำศาสนาคริสของเขาไปเผยแผ่ บ้างแล้วก็ตาม
    เราอยากให้ หินธิเบต ช่วยเหลือชาวธิเบต มังจังเลย ???
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,159
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,349
    เมื่อวานเพื่อนผม ทำ DZI ตกแตก ปรากฎว่าข้างในเป็นยาง ผสมกับอะไรไม่รู้เลยทำให้เนื้อมันเงา สรุปว่าโดนพ่อค้าต้ม หุหุหุ
     
  4. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    บอยคุง นายโดนพ่อค้าขาย เรซิ่น ให้แล้วล่ะสหาย เป็นโอทอป พม่า
     
  5. เจสุน ลาโม

    เจสุน ลาโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2006
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +218
    หินธิเบตที่ขายอยู่ทุกวันนี้ เป็นของปลอม ! ผลิตโดยคนจีน ! ซึ่งหินนั้นไม่มีอานุภาพอะไร
    ทุกวันนี้ ในเมืองลาซา ที่พวกจีนเรียกกันว่า "เขตปกครองตนเองธิเบต" มีเอดส์ระบาดเต็มเมือง และพระพุทธศาสนาถูกกวาดล้าง ! พระและสามเณรีถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก ! นักบวชทั้งหลาย ถูกห้ามปฏิบัติศาสนกิจ ! มีคนธิเบตส่วนหนึ่ง ซึ่งรวมทั้งพระและสามเณรี พยายามที่จะเรียกร้องเอกราช คนธิเบตที่ทำเช่นนั้นจะถูกจับกุม และจะถูกทุบตีอย่างทารุณ บางคนตาย และหมอเอาอวัยวะภายในไปใช้ บางคนรอดออกมาจากคุกได้ ก็จะมีสภาพแย่มาก เช่น หน้าถลอกไปหมด และต้องออกจากธิเบต อาหารในคุกน่าสะอิดสะเอียน สกปรก ผู้คุมในคุกทุบตีอย่างไม่เลือก สรรหาวิธีมาทารุณได้มากมาย เวลาที่ถูกขังคุกช่างยาวนาน ไม่รู้จักจบ ไม่มีที่สิ้นสุด !
     
  6. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    โหดจังเลย ขนาดนรกบนโลกมนุษย์ยังตีกันขนาดนี้ แล้วนรกในอีกภพจะขนาดไหนเนี่ย
    แล้วท่านเจสุน ลาโม ทั้ง2ท่านมาจากไหนเหรอครับ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 กุมภาพันธ์ 2007
  7. jdean

    jdean เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +147
    สรุปว่ายังไงกันแน่คับ ทิเบตเนี่ย!!!
     
  8. ง้วนดิน

    ง้วนดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,362
    ค่าพลัง:
    +11,047
    วิธีสังเกตุหินทิเบต DZI เก่าของแท้

    พอดีไปอ่านเจอ "วิธีสังเกตุหินทิเบต DZI เก่าของแท้" มา
    ขออนุญาตนำมาลงในกระทู้นี้นะคะ
    เผื่อมีใครยังไม่ทราบ
    ......................................................................



    วิธีสังเกตุหินทิเบต DZI เก่าของแท้

    1. สีของเนื้อหิน
    โดยทั่วไปแล้วสีของหิน DZI มี 5 สี คือ ขาวครีม ดำ น้ำตาล แดง เขียวอ่อน โดยสีที่พบมากที่สุดคือ สี น้ำตาลเข้ม-ขาวครีม ซึ่งมักทำมาจากหินอาเกตที่นำมาจากภูเขาหิมาลัย

    2. สีของลายบนเนื้อหิน
    สีของหิน DZI ทั้งลาย และเนื้อหินส่วนมากจะเป็น สี น้ำตาลอ่อน-ขาวครีม , ดำ-ขาว , น้ำตาลเข้ม-ครีม โดยดูที่ความคมชัดของเนื้อหินและลาย

    3. ความเงาของหิน
    เนื่องจากความเก่าของหินและอายุการใช้งาน ในความเงาบนเนื้อหินย่อมมีคราบบ้าง ความเงาของหินจะมากหรือน้อยดูได้จากแสงสะท้อนจากแสงไฟ และลักษณะความเงาก็มีหลายแบบ เช่น แบบมัน , แบบด้าน , แบบแก้ว , แบบมันด้าน , แบบมัน และในบางทีถ้าเป็นหินใช้งานมามากมักจะมีคราบเปื้อนอยู่บนเนื้อหินซึ่งทำให้แสงสะท้อนจากไฟไม่ผ่านมากนัก

    4. ความใสของเนื้อหิน
    ความใสของเนื้อหินดูได้จากความสามารถในการผ่านของแสง อาจเอาไฟฉายส่อง แต่วิธีนี้ไม่สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการดูหินได้อย่างแท้จริง

    5. ความสมบูรณ์ของเนื้อหิน
    หิน DZI ส่วนมากผ่านการใช้งานมาแล้วความสมบูรณ์ของหินจึงดูโดยตรงได้จากเนื้อหินว่ามีร่องรอยอะไรบ้าง และตรงปลายหินอาจจะมีรอยกระแทกอยู่บ้าง ซึ่งร่องรอยเพียงเล็กน้อยไม่ทำให้หินลดค่าไป บางทีเนื้อหินบางส่วนอาจถูกขูดเพื่อนำไปใช้ทำยาก็สามารถยอมรับได้เช่นกัน แต่ถ้าหินหักเป็น 2 ท่อนไม่แนะนำให้สวมใส่

    6. ร่องรอยจากสภาพอากาศบนเนื้อหิน
    ร่องรอยจากสภาพอากาศบนเนื้อหินเป็นร่องรอยของอายุหิน ถ้ามองจากแว่นขยายก็จะพบรอยกระจายทั่วไปโดยมีความลึก ไม่ค่อยสม่ำเสมอกันซักเท่าไร ร่องรอยตรงนี้จะเห็นได้ชัดบนสีดำ หรือสีน้ำตาลซึ่งเป็นเป็นสีลายของหิน หรือที่เราเรียกกันว่า ลายตัวหนอน และเกล็ดมังกร

    7. จุดแดงหรือจุดดำบนเนื้อหิน
    จุดแดงหรือจุดดำบนหินจะปรากฏจากภายในเนื้อหินขึ้นมาบนชั้นผิว หิน DZI บางประเภทก็ไม่มีจุด บางประเภทมีก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นหินประเภทดีเช่นกัน จุดแดงหรือจุดดำ เป็นสิ่งที่ค่อนข้างใช้บ่อยในการจำแนกแยกหิน DZI ว่าเก่าหรือใหม่ ในบางเม็ดเมื่อใส่ไปเรื่อย ๆ สีของจุดแดงอาจจะอ่อนลง หรือเข้มขึ้นได้ และจากที่ได้ศึกษามา จึงได้ข้อสรุปว่าจุดที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดจากคราบการเปื้อนเหงื่อ แต่เกิดจากปฏิกิริยาของพลังแม่เหล็กในเนื้อหินกับร่างกายของผู้สวมใส่


    ที่มา : http://www.saengchandra.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=419978&Ntype=3
     
  9. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    โอ้...ป้าง้วนเรากลายเป็น ป้าง้วนผู้รอบรู้ละนะเนี่ย..รู้หมดทุกอย่างเลยค่ะ
     
  10. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    มีเรื่องราวของหินธิเบต อีกเยอะเลยค่ะ ที่กระทู้ของลุง เม้าส์ นะคะ..นี่เลยค่ะ

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=50576
     
  11. ง้วนดิน

    ง้วนดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,362
    ค่าพลัง:
    +11,047

    น่าเห็นใจคนทิเบตจังขะคุณ "เจสุน ลาโม"

    ไปช่วยกัน "ปันน้ำใจสู่ชาวทิเบต" กันนะคะ
    ตามลิงค์นี้ขะ
    http://www.palungjit.org/board/newreply.php?do=newreply&p=476695
     
  12. ตาวาว

    ตาวาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +537
    หินที่เบตที่ตาวใส่อยู่ มีพี่ทำให้ค่ะ พี่เค้าซื่อแล้วร้อยให้ พอดีว่าพี่ที่ทำให้เป็นคนที่มีอะไรสักอย่าง หินที่พี่เค้าร้อยทุกเส้นมีคุณหมดเลยค่ะ แปลกมากแล้วจะถ่ายรูปให้ดูนะค๊ะ
     
  13. ง้วนดิน

    ง้วนดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,362
    ค่าพลัง:
    +11,047

    ป้าไม่ได้รอบรู้หรอกจะ
    อ่านมา...แล้วมาบอกต่อ
    แบ่งปันความรู้กัน
    ป้าไม่ได้เก่งอาไรหรอกจะ "หนูรินนน"
    อาศัยว่ามี "ครูดี" ช่วยชี้แนะมากกว่าจ้า
     
  14. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เห็นผู้คน คลั่งไคล้ หินธิเบตกันมาก
    ผมเองก็ทำการตรวจพลัง ของหินธิเบตที่ว่ามากมาย
    เพราะมีคนเอามาให้ตรวจ
    พบว่า เป็นสิ่งที่มีพลังจริง

    แต่เป็นพลังที่เป็นดาบสองคม ใส่ได้ก็ดีไป ใส่ผิดก็อายุสั้น
    การใส่พลังในหิน ก็เหมือน พระเกจิอาจารย์ ดังๆๆอัดพระเครื่องที่ดังๆๆ
    เช่น พระรอด ผงสุพรรณ นางพญา เบญจภาคี ฯลฯ

    การอัดพลังใช้หลักของ มหาวชิรญาณ
    ที่ ใช้ หลัก Mantra การสวดมนต์ ที่ ท่อง แล้วใช้เสียง ของ ระฆังเงินที่เสียงเข้ม หรือใช้ ชามอ่างหิน ขันเงิน ที่ทำให้เกิดเสียงกังวาน
    ความถี่ของซ่อมเสียงเหล่านี้ ไม่ชินกับ คนไทย

    เพราะ เมื่อใส่หินชนิดนี้ พลังที่ออกมาจะมีความถี่ที่แปลกไป
    กระแทกโดยแรงที่ ต่อม ไพเนียล / ปิทุยแทรี่ ที่อยู่กลางสมอง
    ทำให้เกิด การมึน / ปวดหัว/ เวียนหัว ฯลฯ
    ผู้ที่จะใส่ หินธิเบตได้ จะต้อง มีพลังจิตแข็งพอควร

    จะดูว่า ใส่หินธิเบตได้หรือไม่
    ดูง่ายนิดเดียว
    ตั้งสติ ดีๆ แล้วดูอารมณ์
    พอใส่หินธิเบตเข้าไป ดูอีกที ว่า มีการเวียนหัว คลื่นใส้ มึนงง หรือไม่
    ถ้าเป็นก็ใส่ไม่ได้ จะทำให้ปวดหัว ถ้านานๆๆ ก็จะเป็นไมเกรน

    และในทางวิชา หลักของ ออร่า
    คนที่ ชอบสีมืด เช่นแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีมืด พวก เฉด ดำ น้ำเงิน เทา เขียว ฟ้า
    ให้เลือกใส่ หินสีที่ออก ดำ เขียว น้ำ เงิน เท่านั้น
    ถ้าใส่ผิดจะป่วยทันที

    คนที่ชอบแต่งตัว ด้วยสีสว่าง พวก เฉด แสด ส้ม เหลือง แดง ม่วง
    ให้ใส่ หินธิเบต สี สว่าง พวก สีน้ำ ตาล ชมภู เหลือง
    ถ้าใส่ผิด ก็จะป่วยเช่นกัน

    ถ้าใส่ ถูกออร่า แล้ว ยัง มึนงง ปวดหัว
    ก็แปลว่า ใส่ไม่ได้ อย่างแน่นอน ถ้าไม่อยาก จะอายุสั้น
    เท่าที่ ตรวจมา พบว่า มีคนที่มาให้ตรวจ
    ใส่ได้ไม่ถึง 30 %
    เป็นดาบสองคมจริงๆๆ

    เมืองไทยก็มีหินที่มีพลังไม่ด้อยกว่า หินธิเบต
    นั้นคือลูกปัดหิน ทวาราวดี จาก ถิ่น ราชบุรี กาญจนบุรี และ สุพรรณบุรี
    ราคาก็ไม่เบา ชุดละ ไม่ต่ำกว่า 8 พันบาท

    ผมเคยไปตรวจพระเครื่องที่ งานศพ คนสำคัญของ สุพรรณบุรี
    มีคนเอาลูกปัดมาให้ตรวจดู
    ครั้งแรก ผมไม่รู้จัก ว่า ลูกปัดดูเก่าๆๆ คร่ำๆๆ คือ อะไร
    เขามาให้ตรวจพลัง
    บางเส้นมีพลัง ถ้ามีก็แรงไปเลย แสดงงว่า เป็นของแท้
    ถ้าไม่มี ก็ไม่มีเลย แปลว่า ของปลอม

    ที่แปลก คือ พอบอกว่า มีพลัง เท่านั้น
    ผู้คนก็จะแย่งกันคว้า จาก มือ ผมไปเลย ได้ยินเสียงต่อ รองราคา 6พัน 8 พัน
    เจ้าของ ให้บ้าง ไม่ให้บ้าง
    ผมก็เลยเพิ่งรู้ว่า ลูกปัด ทวาวดี นี้ มีพลังและมีราคาแพง

    มีคนเอามาให้ดู 4-5 พวง เขาชอบสะสม
    พบว่า มีพลังจริงเกือบหมด
    มีอยู่เส้นเดียว ที่มีพลัง เพียงครึ่งเดียว
    จึงดูอย่างละเอียด จึงพบว่า มีการปลอม
    เพราะของดี มีราคาแพง จึง มีการทำปลอม

    โดยมีของจริงมา 1 ใน 3
    คือ เอา 1 เส้น มาทำ ให้ได้ สามเส้น
    โดยเอาของปลอม ใส่เข้าไป มีจริง อยู่ 1 ใน 3
    โดยวิธีนี้ จะได้ สร้อย ลูกปัด ทวาราวดี สาม เส้น
    กำไร สามเท่า

    นี่คือ โลภของมนุษย์ ที่เอาทุกท่า
    ผิดศึล ข้อ ลักทรัพย์
    ตกนรก แน่นอน
    ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2007
  15. ตาวาว

    ตาวาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +537
    แต่แปลกนะค๊ะ ของตาว มีคนดูให้เหมือนกันค่ะ
    หินที่ร้อยมาแต่ละเส้นความหมายของหินกับ
    พลังที่พี่เค้าร้อยมาให้นั้น ไม่ตรงตามความหมาย
    จองหินเลยค่ะ อย่างหิน9ตาที่ร้อยออกมา
    คุณน้าที่ตรวจพลังให้ก็บอกว่าใส่แล้วจะกัน
    คุณไสยค่ะ หินเขี้ยวเสือ ก็บอกว่าเป็นพระสังกรรจายค่ะ
    และมีอยู่เส้นหนึ่งที่รักมากค่ะ น้าเค้าบอกว่า
    เป็นพ่อพระศิวะค่ะ
    แปลกจริงๆค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...