ไม่มีกาย ไม่มีจิต มีแต่~คิด~ไปเอง

Thank a lot.

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

.......................................................................................
I do not feel like it or dislike it. I would be glad to chat with everyone fairly.

I'm afraid it will affect anything. When it is. "Temporary thing".



******************************************
The nature of learning. The curiosity of the learner

 

เอางี้เลยเหรอ
ประกาศชัดเจนเลย



ขอบคุณน่ะค่ะที่ยัง คิดถึงกันๆๆๆ


ตอนนี้ พักร้อน ว่างๆๆๆๆๆๆๆ
คุยกันไ้ด้ everything all Time.~~


********************************************


เพลงที่แนบมา

ฟังบ่ฮู้เรื่อง

 

I do not feel like it or dislike it = เฉยๆ แบบว่า อุเบกขา หรือ อุเบรคขา อะคะ

I would be glad to chat with everyone fairly. = โอ.เค. จร้า

I'm afraid it will affect anything. When it is. "Temporary thing". = งั้นหรอ งั้นขอถอนคำพูดว่า เรามีอยู่ชั่วคราว ก็แล้วกัน เนาะ

เนาะ

 

อย่างแรกก่อนนะ
วัตถุประสงค์ของการมาโพส คืออะไร?
ต้องตอบคำถามนี้กับตนเองเสียก่อน

สำหรบเรา
คำตอบ เรามาโพสเพื่อ รับรู้ความรู้ของผู้อื่น และสนทนาในสิ่งที่ต้องการจะรู้เพียงเท่านั้น จึงไม่อาจกล่าวได้ว่า จะต้องรู้สึกอย่างไร เกี่ยวกับคำตอบของบุคคลอื่น สิ่งที่แสดงออกเหล่านี้เป็นเพียงผลของการกระทำต่างๆ กันออกไป แล้วแต่วิจารณญานของแต่ละบุคคลที่จะนำไปศึกษา


ดั่งนั้น ที่คุณk.kwan เรียกคุณลักษณะนั้นว่า "เฉยๆ" สำหรับเรา เราไม่ขอแทนคุณลัษณะนั้นด้วยคำใดๆ

 

ยกมือ สนับสนุน ............................
ตอบในสิ่งที่ใช่

 

ความเป็นจริงเทียม

คุณลักษณะของการปรุงแต่งในธรรมประกอบกันมี 3 ประการ 3 ประการนี้เป็นไฉน คือ

1.มีความเกิดปรากฎ
2.มีความเสื่อมปรากฎ
3.เมื่อตั้งอยู่ความแปรปรวนย่อมปรากฎ

ประกอบด้วย 3 ประการนี้แล

อนึ่ง สิ่งใดก็ตามที่มิใช่ธาตุแท้อันหมดจดโดยตัวมันเอง เกิดขึ้นเพราะประกอบจากสิ่งอื่น คือการปรุงแต่งโดยปัจจัย สิ่งนั้นย่อมมีความเสื่อมสลายแปรปรวนธรรมดา ไม่มีเสถียรภาพ มิใช่สิ่งถาวร เป็นสิ่งที่ปรากฎชั่วครั้งชั่วคราวแล้วก็หายไป เป็นเพียงสมมุติขึ้นด้วยปัจจัยหนึ่งๆ ชั่วกาลหนึ่ง จึงชื่อว่าเป็นเพียงมายาเป็นความจริงเทียม

ก็ธรรมชาติทั้งหลายเกิดขึ้นมาแล้วด้วยอาการอย่างนี้

อนึ่ง ธรรม แปลว่า ความจริง
ชาติ แปลว่า การเกิด
ดั่งนั้น ธรรมชาติคือสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว ตั้งอยู่ และจักดับไปในที่สุด

 

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ความเป็นจริงเทียม
ธรรม = ความจริง = ไม่เกิด ไม่เสื่อม ไม่แปรปรวน = นิพพาน
ธาตุแท้อันหมดจดโดยตัวมันเอง = O

 

เหตุแห่งทุกข์

ปฏิจจสมุปบาทนี้เป็นของลึกซึ้งสุดประมาณและปรากฏเป็นของลึก เพราะไม่รู้จริง เพราะไม่แทงตลอดซึ่งธรรมอันนี้ ผู้คนเหล่านี้จึงเกิดเป็นผู้ยุ่งอยู่ประดุจด้ายของช่างเย็บผ้าที่เกิดเป็นปมกระจุกด้าย เป็นผู้เกิดมาเหมือนหญ้าปล้องจึงไม่พ้นอบายทุคติ วินิบาต สงสาร
เพราะใจและกายเป็นปัจจัยจึงเกิดวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยจึงเกิดใจและกาย เพราะใจและกายเป็นปัจจัยจึงเกิดการถูกต้อง เพราะความอยากจึงเกิดความยึดถือ เพราะความยึดถือจึงเกิดภาวะ เพราะภาวะจึงมีการเกิดปรากฏขึ้น เพราะมีกำเนิดจึงมีความเสื่อม ความตาย ความโสก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์โทมนัส และความคับแค้น


ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวล ย่อมมีด้วยประการฉะนี้


อนึ่ง ในที่นี้ยก นามรูป (ใจ-กาย) เป็นเหตุแห่งวิญญาณ และวิญญาณเป็นเหตุแห่งนามรูป (ใจ-กาย) อีก เพื่อให้เห็นความวนเวียน ซึ่งจะวนเวียนกันอยู่ ณ ส่วนนี้เป็นสำคัญ


เพราะเมื่อมีใจ-กาย แล้วก็จะเกิดการถูกต้อง การถูกต้องทำให้เกิดความรู้สึก ความรู้สึกทำให้เกิดความอยาก ความอยากทำให้เกิดการยึดถือ ก็การยึดถือนี้แหละถูกเก็บไว้ในใจ ลักษณะของใจที่เป็นมวลการยึดถือรูปแบบต่างๆ ไว้นั้น คือ ภพหรือภาวะความเป็นและความไม่อยากเป็นต่างๆ ก็เมื่อใจเป็นอยู่อย่างนี้ ครั้นกายหนึ่งแตกตายไป ใจต้องด้นรนหากายใหม่อีก จึงชื่อว่านามรูปนั้นและทำให้เกิดวิญญาณ และวิญญาณนั้นและทำให้เกิดนามรูปดังนี้

ถ้าจะสาวลงไปอีกว่า แล้ววิญญาณมาจากไหน ก็พึงทราบว่าวิญญาณมาจากสังขาร ซึ่งนามรูปนี้แหละ คือมวลรวมของสังขาร ก็สังขารนี้มาจากไหน ก็พึงทราบว่ามาจากความเขลา (อวิชชา) ดังนี้


เหตุแห่งการแสวงหาทุกข์
เพราะความรู้สึกจึงเกิดความอยาก
เพราะความอยากจึงเกิดการแสวงหา
เพราะการแสวงหาจึงเกิดลาภ
เพราะลาภจึงเกิดการตกลงใจ
เพราะการตกลงใจจึงเกิดการรักใคร่พึงใจ
เพราะการรักใคร่พึงใจจึงเกิดการพะวง
เพราะการพะวงจึงเกิดการยึดถือ
เพราะกรยึดถือจึงเกิดการตระหนี่
เพราะการตระหนี่จึงเกิดการป้องกัน

เพราะการป้องกันจึงเกิดเรื่องในการป้องกันอกุศลธรรมอันชั่วช้ามิใช่น้อย คือการถือไม้ ถือมีด การทะเลาะ การแก่งแย่ง การวิวาท การกล่าวว่ามึง กู การพูดคำส่อเสียด และการพูดเท็จย่อมเกิดขึ้น ด้วยประการเช่นนี้​

​

​

 

ไม่เคยถามตัวเองเรย อะ ว่าวัตถุประสงค์ของการมาโพส คืออะไร?

ถ้าอยากคุยก็จะคุย ถ้าสนใจความคิด ความรู้ของใคร ก็จะลองสนทนาดู

ถ้าคุยกันรู้เรื่อง ก็จะคุยต่อ ถ้าคุยกันแล้วมันเข้าใจกันยาก คือ ไปคนละเรื่อง

ก็คงจะหยุดไปเอง ไปเรื่อยๆ อะ ความรู้ก็ไม่มีจะให้ใคร มีแต่คุยได้เท่าที่รู้

ขอบคุณนะ ที่คุยกับเรา ^^" พอดีหา ญ. คุยในบอร์ดนี้ ไม่ค่อยมี

แร้ววันหน้า คงมีโอกาสได้คุยกันอีกเนาะ

 

รู้ปฎิสมุปบาท แล้วทำไม บอกว่า ไม่มีอะไร?

 

...............................................................







อืม
ม่ะมีเวลาโทรหาใคร
เพราะ
มันเป็นเส้นทางที่ถ่างออกไป




ยินดีด้วย
ที่คล่องแคล่ว
ไม่ติดขัด


วิชาสุดท้าย
ที่ทำให้ผมได้ตระหนักชัด
และ
พบสัจจะธรรม
ก็คือ

ผมได้ลาออก
จากศาสนา


ในหัวผม
ไม่มีศาสนา
ไม่มีพระพุทธเจ้า
ไม่มีมรรค
ไม่มีผล
ไม่มีเกิด ไม่มีดับ
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง



เป็นเนื้อหาเดียวกัน
กับธรรมชาติ
อยู่อย่างนั้น


สบายใจ
ที่กลายเป็นคน
ไร้ศาสนา
........................
........................
........................
........................
........................



ครูบาเรียวอิชิ.





.......................................................................


คือ
เมื่อไม่มีอะไรกับอะไร
ไม่มีศาสนา
ไม่มีพระพุทธเจ้า
ไม่มีปฏิจจสมุปปบาท
ไม่มีอริยสัจจ์
ไม่มีอรหันต์
ไม่มีหลุดพ้น
ไม่มี...ไม่หลุดพ้น
ไม่มีผ่านกะไม่ผ่าน



เมื่อลาออก
จากการบันทึกความทรงจำเหล่านี้


รูปแบบ
แห่ง
ศรัทธา
ปัญญา
ซึ่งเป็นอัตตาละเอียด
ที่มันแฝง
และ
ฝังลึกในหัว
ก็จะ
ไม่ปรากฎขึ้นเป็นความคิดการปรุงแต่ง
ขึ้นมาอีก


ไอ้แป๊ว
ไอ้ปอ
ไอ้ชัย
ล้วนแต่
ลาออก
จาก
กระบวนการ
ทาง
ศาสนา
กันหมดทุกคนแล้ว




แล้ว
คุณนายล่ะ
ลาออก
หรือยัง



คนที่ปักษ์ใต้
คิดถึงคุณทุกคน



ฝากเตือน
อย่าเข้าไปป่วนที่ห้องzen
อีกนะ



เด๋วจะโดน
แบบนี้อีก​

 

มีทุกข์ หรืิเปล่า หรือ มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ไม่เอาแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ขออนุโมทนา

 

ห้องเซน??


งง???

จริง...........................

 

555 เลอะเทอะ ส่งกันไปส่งกันมา งงกันเอง
แขวะซ้าย ขวาเลยมึน

มีแต่คิดไปเอง

 

แน่ะ มี หวง zen ด้วย zen ข้า ใครอย่า แตะ

 

อืม..............

 

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""


ส
ใส่
เกือก

 

.......................................................


อย่าเสือก
สิครับ
ผมโพสต์คุยกับ
เจ้าของกระทู้
เท่านั้น



ไปอบรม
มารยาท
มาซะใหม่

 

.........................................................................

ขอ
ส
ใส่เกือก
หน่อยนะ
คุณ seventh heaven

คือแบบว่า
ผมเป็นเจ้าของกระทู้ห้อง zen พอดี
แล้ว Only my mindเค้าเข้าไปโพสต์ไว้
แบบทำนองป่วนผม
เกี่ยวกะ เพลงคำสัญญาที่หาดใหญ่ อะไรประมาณนั้น


แบบว่า โพสต์ทำนอง ว่า Only my mind โพสต์บอกรักผม


เนื้อหาที่เค้าโพสต์บอกผม
ก็คงบาดใจคุณ seventh heaven



รักนะคะคนดีของฉัน
จะวันไหนก็รักเพียงเธอและ
จะบอกว่ารักเธอที่สุดใจ
ของฉันดวงนี้หยุุดที่เธอ
รักนะคะคนดีของฉัน
โปรดจงมั่นใจทุกๆอย่าง
ที่ฉันทำทุกๆคำคือ..คำว่ารักเธอ<!-- google_ad_section_end -->





อโหสินะ

...................................

ห้องเซน??


งง???

จริง...........................


Only my mind
คงจำห้อง zen......สำหรับผู้เริ่มต้นปฏิบัติธรรม
ได้แล้วนะ
คนดี




[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1528007/[/MUSIC]

 

55 ก็นั่นไง

ดีไม่ดีชื่อ seventh heaven กับ เมเฆนทร์ จะเป็นคนๆเดียวกัน ก็ได้

หากใช่ขึ้นมาล่ะก็ มันช่างน่าขันนัก

แต่ถึงอย่างไรก็ตามแต่ จุดตายมันอยู่ที่ ท่านขุดขึ้นมาเอง
เห็นโพสมาจัง ที่บอกว่าไม่มีอะไรๆ แต่ทว่า Apostrophe s
อาการ "หวงก้าง" มันฟ้อง เสียอะไรเสียได้ แต่อย่าเสียดายก็แล้วกัน

ไฉน..! ท่านจึงบอกว่าในในหัวไม่มีอะไร ไง

ฉะนั้น..! แล้ว จะไปตาวะติงสา ฤา จะเป็นยอดมนุษย์ "เจ้ามดแดงแฝงพวงมะม่วง"

ก็แค่นั้นล่ะ จะจมอยู่กับจุดตาย หรือจะพลิกแพลงให้กลับเป็นจุดเปลี่ยน

จู่ๆ จะมาบอกว่าไม่มีอะไรๆ นั่นเป็นบัญญัตินิยาม ของท่านผู้หมดอาสวะแร้ว

ของเรามันต้องชำระสะสาง เป็นไปตามขั้น ลำดับๆไป จะมาเปรี้ยงปร้างเป็นไปไม่ได้หรอก
ยุคนี้ ส่วนใหญ่แล้ว มีแต่พวกอินทรีย์อ่อน เยอะ...! พึ่งแต่น้ำกระทกรก ต้องค่อยๆ อบรมตนเองไป
เค้าดูความจริงในหัวใจกันตรงนี้ จะขั้นใดก็ตามแต่ จึงจะเรียกว่าไม่ฝืนทุจริต ต่อความรู้สึกอันแท้ ต่อตนเองที่มีอยู่ในตน
ฉะนั้นแล้ว มันจะกลายเป็นสมบัติเถื่อน..! ได้มาโดยมิชอบธรรม

ลองพิจารณาเอานะ จะวิถีใดก็ตามแต่ แต่สามัญสำนึกพื้นฐาน อันเป็นรากเหง้านั้น ย่อมมีกันอยู่ทุกคน

หนักหนาสาหัสเอาการ ไม่ใช่เล่นนะ อาการนี้