พลังจักรวาลที่ออกจากฝ่ามือทดสอบได้อย่างไร มีไว้ทำอะไรครับ

จากการทดสอบของเพื่อน เขาเอามือสองข้าง หันหน้าเข้าหากัน ห่างประมาณ 1 เมตร มือข้างหนึ่ง อยู่เฉยๆ มืออีกข้าง บิดในแนวตั้ง จนหน้ามือหงายขึ้น และบิดลงมาให้หน้ามือมาตรงกับฝ่ามืออีกข้าง และบิดผ่านลงไปด้านล่าง แล้วบิดกับขึ้นบนอีก ทำหลาย ๆ ครั้งให้มั่นใจว่า ไม่ได้คิดไปเองว่ามีอะไรมาปะทะฝ่ามืออีกข้างที่อยู่เฉยๆ

และก็กระทำแบบนี้ สลับข้างกัน มือที่อยู่เฉยๆ ก็รู้สึกได้ว่ามีพลังอะไรมาโดนมือแล้วหายไป แล้วเมื่อฝ่ามือหันมาตรงกัน ก็มีพลังอะไรมาโดนอีก

ลองทำกับประตูไม้ดู โดยให้ประตูไม้อยู่ตรงกลาง แล้วเอาฝ่ามือมาประกบหน้า - หลังของประตู ทำแบบเดิม บิดมือขึ้นลง มือด้านที่อยู่เฉยๆ ก็รู้สึกเหมือนเดิม คือมีพลังอะไรบางอย่างมาประทะฝ่ามือ

หรือจะลองทำกับกำแพงปูนซิเมนต์ ข้างในปูนน่าจะเป็นอิฐบล๊อคแดง หนาประมาณ 3นิ้ว โดยกางมืออกให้อยู่คนละด้านกับกำแพง แล้วบิดมือดู มือด้านที่อยู่เฉยๆ ก็รู้สึกว่ามีพลังอะไรมาโดนมือ แต่รู้สึกน้อยกว่าประตูไม้

สอบถามผู้มีประสบการณ์ครับว่า

คือพลังอะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร เอาไว้ทำอะไร แล้วจะวัดปริมาณได้อย่างไร หรือ จะทำการทดสอบกับสิ่งอื่นได้ไหมว่า มีจริง โดยที่เขาไม่ได้คิดไปเอง
แล้วจะเสื่อมไหม หรือจะเพิ่มปริมาณได้อย่างไร

เคยเข้าไปในถ้ำธรรมชาติที่คนยังไม่ค่อยได้ไปมาก หินบางส่วนจะมีพลังมากโดยเอามือไปสัมผัส ๆ ดู ห่างประมาณ 2นิ้ว ก็มีพลังดันมืออย่างผิดสังเหตุว่ามีมากจนรู้ว่าหินนี้มีพลัง

ขอผู้รู้เมตตาด้วยครับ

 

ของจริงยังไม่เคยเห็น แต่ถ้าพวกเล่นกลพอมีให้ได้ดูบ้างแล้ว
แต่ตรงท้ายประโยค เรื่องของถ้ำ ถ้าใครสัมผัสแบบที่ว่าได้เรื่องการมีพลังบางอย่างนั้น
ก็น่าจะมีพลังแห่งจิตที่เกิดจาก ฌาน หรือญาน อย่างใดอย่างหนึ่งมั้ง จึงรับรู้ได้
แต่มันเป็นเรื่องเฉพาะตนมากๆอยู่ค่ะ

 

รุ่นพี่ผม เขาฝึกเพ่งพลังฝ่ามือจนหลุดเข้าฌาณ4ไป ทำเล่นๆไม่ตึง ไม่หย่อนมาก ตอนนี้หน้าใส เครียดน้อยลงเยอะเลยครับ

 

คุณเป็นผู้สัมผัสพลังจากฝามือได้

 

ก็พลังในร่างกายเรานั่นแหละ ในร่างกายคนมันจะมีจุดที่พลังรวมกันหนาแน่น
หลายจุดแบบจักระแบบนั้น ลองเอามือไล่ผ่านตั้งแต่หัวลงมาจนถึงท้องน้อยก็ได้
ถ้าจักระเปิดดีก็รู้สึกเหมือนตัดผ่านพลังงาน คือมันไหลเข้าไหลออกเป็นปกติอยู่
แล้วนะพลังอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ประโยชน์ก็มีอย่างบางทีคนที่เขารักษาโรคด้วย
พลังจิตเขาใช้พลังผ่านฝ่ามือไป หรือบางทีเราจะกินอาหารอะไรเอามือสัมผัสได้
ว่าเหมาะกับร่างกายเราหรือเปล่ามันสั่นบอกเรราเลย ฝึกเยอะก็ทดสอบกับวัตถุได้
นะมีคนบอกให้ลองกับลูกปิงปองลองผลักมันดูผมก็ทำไม่ได้เหมือนกัน

 

อันนี้ก็เป็น...เหมือนมีพลังงานอยู่ในฝ่ามือ..พอไปสนใจมันก็หายไปเป็นบ่อย...อยากรู้เหมือนกันค่ะ

 

เคยเข้าไปในถ้ำธรรมชาติที่คนยังไม่ค่อยได้ไปมาก หินบางส่วนจะมีพลังมากโดยเอามือไปสัมผัส ๆ ดู ห่างประมาณ 2นิ้ว ก็มีพลังดันมืออย่างผิดสังเหตุว่ามีมากจนรู้ว่าหินนี้มีพลัง

มีวันหนึ่งไปเทียว พิมายระหว่างรอเพื่อน ยืนรอมือวาง

 

ปราณไงครับ ไม่ต้องใช้สมาธิมากก็สัมผัสได้ครับ
ไม่เชื่อลองไปฝึกไทเก๊ก ไอคิโด หรือชี่กง ดูสิครับ
มันมีทั้งร่างกายครับ รอบๆตัวก็มี บังคับให้ร้อนก็ได้ เย็นก็ได้
แม้แต่ในแสงอาทิตย์ แสงจันทร์ก็ยังมี และเราๆก็ดูดซับได้ด้วย
เวลาเป็นไข้ไม่สบาย เราก็สามารถถ่ายออกไปภายนอกได้

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับ เป็นความรู้มีมานานแล้ว
แต่พอวิทยาศาสตร์ใหม่อธิบายว่าสสารกับพลังงานมันเป็นสิ่งเดียวกัน
ก็ทำให้เรื่องนี้กลับมาน่าสนใจอีกครั้งครับ

 

ลองใช้ X-Burner ดูสิ อิอิ

 

เคยดูหนังจีนไหม
ปราณหรือพลังชีวิต ใช้รักษาคนก็ได้ ทำร้ายคนก็ได้

คนที่ยังไม่ถึงกับมีกำลังภายในแก่กล้า
ก็สามารถรักษาตัวเองได้ เอาฝ่ามือทาบลงที่ตา หรือที่บาดเจ็บต่างๆ กระแสจิตจะออกมาทางฝ่ามือ จิตเป็นตัวแปรสำคัญ

ปราณที่จริง สามารถออกมาทางฝ่ามือ ฝ่าเท้า ตาที่สาม หรือที่จริงออกมาทุกรูขุมขน แต่คงเอารูขุมขนไปรักษาใครไม่สะดวก นิยมผ่านตาที่สาม ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
ส่วนกลางกระหม่อม นิยมใช้รับพลัง ที่จริง ฝ่ามือก็รับพลังจักรวาลได้ นิยมรับมือซ้าย และปล่อยพลังออกมือขวา (จะได้ไม่งง คือรับข้างออกข้าง แต่รับทางกระหม่อม จะดีกว่า)

ปราณนั้น ออกมาในรูปเตโชธาตุ มากกว่าธาตุอื่น (ที่จริงเป็นทั้งสี่ธาตุ)


คนเพิ่งฝึก ยื่นฝ่ามือเข้าหากันออกมาทางด้านหน้า ประมาณว่ากำลังประคองลูกบอลเล็กๆ แล้วเลี้ยงลูกบอลให้อยู่ในฝ่ามือราวหมุนลูกบอลไปมาในมือ จะมีกระแสผลักดันกันไปมา สามารถเล่นปราณจากมือหนึงเข้าอีกมือหนึ่งผ่านร่างกายตามจุดต่างๆ ก่อนออกปล่อยออกมา (คือจะเล่นอย่างไรก็ได้ สำหรับคนเดินปราณได้แล้ว นิยมเดินปราณไปทั่วร่างกายตัวเอง)

ถือว่าเป็นสมาธิขั้นไม่ได้สูงอะไร แต่ช่วยเรื่องสุขภาพได้มาก
คนที่เก่งมากแล้ว สามารถรักษาคนอื่นได้ (แต่ไม่นิยมใช้กำลังตัวเอง(เพราะจะเหนื่อยมาก) แต่จะรับพลังจักรวาลแล้วผ่านไปรักษาคนอื่นอีกที)


โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล
ใครสงสัย ค้นหาต่อเอาเองค่ะ ไม่รับตอบปัญหาใคร.....

 

พลังนั้นคืออะไร ลองวางไว้ก่อน มาดู ในบางแง่มุมของอำนาจ
แห่งพลังนั้นซึ่งด้อยลงได้ด้วย อิฐหินดินปูน

จากการทดลองที่เกิดขึ้นจริง คือ เอามือส่งพลังอันเลิศนั้นผ่านประตู
ปรากฏว่าส่งได้อยู่ แต่พอเอาพลังอันเลิศนั้นผ่านอิฐหนาแค่ 3 นิ้วก็
เป็นอันลดลง โดนกักไว้ ด้อยคุณวิเศษลง

เมื่อ อิฐหนิดินปูน มีอำนาจมากกว่า พลังวิเศษนั้น จึงเกิด ทิฏฐิหนึ่ง
ขึ่นในใจว่า เหวยๆ

"ฤาว่า อิฐหินดินปูน จะมีพลังวิเศษยิ่งกว่าพลังจากมือเรา"

เมื่อเกิด ทิฏฐิอย่างนั้น จึงเกิดการแสวงหาแล่นไป เหวยๆ รึว่า ในโลกนี้
จะมี หินอันวิเศษที่มีพลังเลิศกว่าพลังจากสมาธิแห่งเรา ไฉนเลยจะไม่แสวง
หาหินวิเศษเหล่านั้นมาวางเพื่อกราบไหว้ ยกเป็นนายเหนือหัว เหนือยกว่าเรา

 

สำหรับผู้มีความรู้ยิ่ง(อภิญญา) ย่อมไม่โอนความศักดิ์สิทธิ ให้อิฐหินดินทราย
งูปลาไก่หงอน วัวควายหมาหอน แต่ย่อมพิจารณาความศักดิ์สิทธินั้นย้อนมาที่
ตน

เมื่อนั้น เหตุใด พลังวิเศษแห่งมือเราจึง ด้อยกว่าอิฐหินปูนทราย เมื่อสำรวจ
บ่อยเข้าก็จะเห็น มายาของความหนาคือ 2นิ้วบ้าง 3นิ้วบ้าง หนาดั่งหินผา
บ้าง เหล่านี้คือ บัญญัติโดยมีคำว่า หนากว่า บางกว่า หนักกว่า นานกว่า
อยู่มีนานกว่า มีอายุกว่า หาที่มาที่ไปไม่ได้มากกว่า เป็นที่มาของคุณลักษณะ
ซึ่งนำมาซึ่งมายา โดยคิดไปว่า ความหนานั้นควาเก่าความขลังย่อมกันและสะท้อน
พลังวิเศษของเราได้ เมื่อดำริโอนความวิเศษ อาศัยการมีพลังวิเศษ โดยอิงจาก
วัตถุวิเศษกว่า เพื่อความวิเศษแห่งตน แต่นำมาซึ่งความเจริญคือ "สงสัย"

เพราะสงสัยว่า มันหนาขึ้นมันจึงกั้นพลังวิเศษเราได้

เพราะสงสัยว่า มันเก่าและขลังมันจึงสะท้อนพลังวิเศษที่เราส่งไปแล้วรับรู้ได้

พลังวิเศษยิ่งขนาดไหนยกไว้ แล้วย้อนดู สงสัยที่พอกพูล ร้อยรัด

เมื่อความ สงสัย พอกพูลร้อยรัดเหนียวแน่น อย่าว่าแต่ก้อนหินในถ้ำ หาก
มีอะไรที่เต็มไปด้วยความสงสัย(ไสย)ของกลุ่มชน แม้แต่ กล้วยทอด เราก็
อาจจะนิยมกราบไหว้ได้โดยง่าย

ดังนั้น สิ่งที่มีอำนาจจริงๆ ไม่ใช่ พลังจากฝ่ามือ ไม่ใช่พลังกางกั้นจากหินผา

แต่มันมาจาก ความสงสัย ที่พอกพูล ติดในบัญญัติ ติดในมายา อุปทาน

ยิ่งสงสัยเข้าไปมากๆ พลังก็จะยิ่งมาก

อำนาจแห่งความ "สงสัย" หรือ "ไสย" มีแต่ผู้รู้จริงเท่านั้น จะไม่ติดในความรู้ยิ่ง(อภิญญา)แบบนี้

 

ส่วนผมมีประสบการณ์ดังนี้ครับ เมื่อคนหนึ่งตัวร้อน ให้เอามือไปจับคนที่มีร่างกายเย็น (เข้าใจว่าคงธาตุเย็น) แล้วคนที่ไปจับก็จะรู้สึกสบายขึ้น ความร้อนลดลง

อันนี้ ก็ฝากถามผู้รู้อีกคน???