โหลดไฟล์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในอินเตอร์เน็ตมาใช้ ผิดศีลหรือไม่ ?

อนุโมทนาครับ ผมสงสัยมานาน ขอ

ถามนิดหนึ่งว่าในอดีตถ้าเกิดว่าเราตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ แต่เราลืมคิดเรื่องลิขสิทธิ์เรื่องโหลดเพลง หรือหนังฟรีไป โดยไม่เอะใจเลยว่ามันเกี่ยวกับมิติของศีลด้วย การที่เราคิดว่าเรารักษาศีลห้าครบนี่ถูกไหมครับ จริงๆแล้วครบหรือเปล่ากันแน่ ตอนนั้นมั่นใจมากว่าครบ แต่ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยมั่นใจแล้ว

 

ขออนุญาตตอบครับ ลักษณะแบบนี้เจตนาไม่เต็มร้อย ถึงจะผิดก็ไม่มาก แต่ถ้าจิตมัวแต่วิตกกังวลจนเกินไป จากผลที่ไม่มากก็จะกลายเป็นมากได้ คนเราอยู่ได้เพราะมีบุญและบาป ถ้ามีแต่บุญหรือบาปฝ่ายเดียวก็คงไม่ต้องเกิดแล้ว ดังนั้นถึงแม้จะเป็นบาปผิดศีลแต่เจตนาไม่มี ผลเล็กน้อย ถ้าละทิ้งได้ ทำใจให้ผองใส บาปเล็กน้อยหรือจะสู้บุญใหญ่ ไม่มีใครรักษาได้ครบร้อยในครั้งแรกทันทีหรอกครับ

 

ทุกคนที่ ใช้คอมพิวเตอร์ประมาณ 90% ของคนไทยเลยนะ ผิดศีลแน่นอนผมเป็นช่างซ่อมคอมผมรู้ดี

 

กรรมใดพลาดไปแล้ว ทำล่วงไปแล้วอย่ามัวระลึกหรือตั้งข้อรังเกียจ(ข้อพิจารณาถึงความบาปนั้ืน) เพราะจิตจะมัวกังวลจนเป็นห่วงผูกมัด สุดท้ายเมื่อถึงจิตดวงสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต ถ้าจิตที่มัวไตร่ตรองเรื่องการผิดศีลนั้น มัวพันผูกกับการตั้งข้อรังเกียจนั้น ย่อมเป็นตัวฉุดรั้งไปสู่ทุคติได้

 

แต่ขณะเดียวกันต้องระวังอย่าให้ผิดซ้ำซาก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผิดแล้วผิดอีก ทำจนเป็นนิสัย ทำจนเป็นสันดาน เมื่อผิดแล้วให้ไตร่ตรองให้รู้ว่าผิด...ผิดที่ไหน ผิดตรงไหน แล้วอย่าให้มันเกิดอีก ระลึกตนมีสติ การใช้ซอฟแวร์วินโดวส์ละเมิดลิขสิทธิ์ ก็เหมือนคนที่นึกอยากกินไก่แล้วเดินไปซื้อไก่จากตลาด...คนผิดที่สุดต้องเป็นคนฆ่าไก่ แต่คนที่นึกอยากกินไก่ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งให้คนฆ่าเอามาขายยังไงก็ผิด...ถ้าจะตื่นตระหนกและตั้งข้อรังเกียจในความผิดละเมิดลิขสิทธิ์ก็คงต้องเริ่มตั้งกันตั้งแต่ข้าวกระเพราไก่กันเลยทีเดียว...อย่าไปยึดติดในบาปที่ไม่อาจล่วงไปได้ โดยว่าเป็นไปเพื่อการตั้งอยู่ของกายสังขารนี้เลย หากเกิดแล้ว หรือจำต้องอยู่กับมันก็อย่าไปวิตกกับมัน เมื่อมีเวลาก็อุทิศบุญให้เจ้าของลิขสิทธิ์บ้าง...เหมือนกับที่อุทิศบุญให้เจ้าของเนื้อที่เรากินเค้านั่นแหละ แต่หากมัววิตกใจพันผูกว่าตรงนั้นก็ผิด ตรงนี้ก็บาป ใจมันก็จะผูกพันอยู่แค่นั้น มันจะดึงจิตเรา ใจเราไปสู่ทุคติ สู่อบายได้...บาปนั้นหากเลี่ยงได้จงเลี่ยง เมื่อเลี่ยงไม่ได้จงสำนึกผิดและระวังอย่าทำอีกหรือก่อให้เกิดเป็นนิสัย ที่สำคัญเมื่อบาปนั้นสำเร็จแล้ว ระลึกแล้ว สำนึกแล้ว จงอย่าวิตกในผลของมัน แต่จงอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมผู้เราล่วงบาปนั้นไปแล้วแก่เค้า...เพราะหากเรายังตั้งอยู่ด้วยกายนี้ สภาวะแห่งฆราวาสนี้ ย่อมไม่มีทางหลีกหนีบาปหรือความทุศีลได้ 100 เปอร์เซ็นต์...

 

ใช้ Open source ครับ ปลอดภัย ทั้งหลักกฎหมายและศีลธรรม

 

พูดกันตรงๆได้เลยว่า เมื่อสักสิบกว่าปีก่อนเวลาซื้อคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะมาสักหนึ่งเครื่อง
นับแต่ได้ใบเสร็จมานั้นข้างในไม่มีอะไรนอกจาก DOS
ทีนี้คนขายก็ถามว่า "จะเอาอะไร, ไม่เอาอะไรบ้าง?"
ผู้ใช้อย่างเรามีสิทธิ์เลือกของด้วยหรือ? คำตอบคือ "มีอะไร เอามาให้หมดครับ..."
ทุกอย่างที่อยู่ในกระเป๋าซอฟท์แวร์ช่างไม่ว่าจะเป็นOS MSword หรือphotoshopโปรแกรมแต่งภาพที่แม้แต่เด็กห้าขวบยังมีใช้ในเครื่องนั้นมันผิดลิขสิทธิ์ทั้งสิ้นครับ
OSชุดนึงใช้ได้เครื่องเดียว โปรแกรมต่างๆก็ตัวละแสนบ้าง ครึ่งแสนบ้าง
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเวลาผู้ติดตั้งโยนแผ่นซีดีไปมาระหว่างกล่องอุปกรณ์ แผ่นที่ว่านั้นมีค่าแผ่นละไม่กี่บาท

ดีหน่อยที่สมัยนี้มักจะมีวินโดว์ลิขสิทธิ์แบบใช้ในบ้าน ยัดมาให้เราพร้อมกับเครื่องฯ
แต่กระนั้น ทุกอย่างที่เหลือก็เถื่อนอยู่ดี
จะเอาผิดกับผู้ใช้ในระดับครัวเรือนเหรอ?
นั่นก็เท่ากับว่าต้องงัดกันในระดับหมู่บ้าน ไล่กันทุกตารางเมตรในประเทศไม่มีเว้น แม้กระทั่งวัดหรือในศูนย์ราชการ
ไม่ใช่เกาหลีเหนือหรือพม่าที่ทางการอยากบุกเข้ามาค้นอะไรในบ้านเมื่อใหร่ก็บุก ที่นี่ประเทศไทย ทุกคนรู้ดี
ทีนี้เจ้าของลิขสิทธิ์ทั้งหลายก็จะเบนประเด็นจับตายไปที่ ห้าง ร้าน องค์กรหรือร้านเน็ตต่างๆแทนที่จะไปจับผู้ขายแทน
ที่เขียนมานี่ไม่ได้จะเข้าข้างการกระทำแบบนี้ แต่เป็นเพราะว่ามันกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยุดได้แล้วหละครับ
ของบางอย่างผมยอมรับว่าเราถอนตัวไม่ขึ้นจริงๆ มีเพียงราคามหาโหดเท่านั้นเป็นอุปสรรค
แต่ว่า เพลง, หนัง, game, applicationบนhandheldทั้งหลาย หรือของใช้บางอย่างเราสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า
สิ่งที่เราสามารถทำได้จากเสี้ยวของจิตสำนึกอันน้อยนิดของเรา ที่ยังโชคดีพอเหลืออยู่ไว้ให้คำว่ามนุษย์นั้นสมฐานะ ก็พอมีอยู่บ้าง

ถ้าไปดูหนังโรงได้ก็ไปเหอะครับ อายคนก็ซื้อที่7-11หรือเช่าเอา
อัลบั้มเพลงเดี๋ยวนี้ก็ไม่กี่บาท แถมยังทำเป็นmp3ไว้ให้แล้ว ซื้อดีกว่ามั๊ย
ไม่ได้ฟังหรือไม่ได้ดูเพราะเงินไม่พอจะทุรนทุรายมากหรือคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องขนาดนั้นเลยเหรอ?
game แท้ก็กล่องละไม่กี่บาท ยิ่งนานยิ่งลดราคา (เสียดายที่ว่าบ้านเราไม่มีของแบบนี้ให้เช่า)
มีตังซื้อiPadหรือiPhoneมาอวดกันในร้านกาแฟแล้วก็เจียดตังอีกไม่กี่สิบบาทซื้อapplicationบนstoreหน่อย
ถ้าไม่อายที่จะขอพ่อแม่ซื้อให้ถึงขนาดนี้แล้ว ก็ขอให้ซื้อให้อีกหน่อยสิ
พ่อแม่ก็อย่าตัดหางปล่อยวัดว่า "กูซื้อให้มึงแล้ว ที่เหลือโหลดเอาเองละกันเด้อลูก"
ความรู้สึกที่มันคาบเกี่ยวระหว่างขีดเส้นที่มีคำว่า "โหลด" และ "ซื้อ" มันก้าวข้ามมาทางโหลดได้ง่ายและเย้ายวนเอามากๆ
ยิ่งก้าวข้ามบ่อยครั้งมันยิ่งสบาย นานเข้ามันยิ่งฝังเข้าไปในฝังเข้าไปในความคิดสามัญ
เอาคำว่า "ไม่มีเวลา" มาอ้างมันยิ่งจะทำให้ประเทศของลูกหลานเราที่ลืมตามาดูโลกในวันข้างหน้าอ่อนแอลงเรื่อยๆ

"ทำ" หรือ "ไม่ทำ" ไม่ใช่ "ทำเพราะความจำเป็น" เลยนะ ของพวกนี้ยังไงซะเดิมทีเราก็ไม่มีความจำเป็นต่อชีวิตอยู่แล้ว
หลายๆคนก็จะพูดว่า "ก็ไม่ต้องใช้มันเลยสิวะ" ถือเป็นที่สุดได้มั๊ย?
แต่เพราะมีทางเลือกให้เรามากกว่าหนึ่งต่างหาก ไม่ใช่เพื่อเจ้าของซอฟท์หรือใครหรอกครับ

 

เห้อ...ในคอมพิวเตอร์ผมมีโปรแกรมอะไรถูกลิขสิทธิ์บ้างมั้ยนะ ?
55555 น้อยมากจนหาแทบไม่ได้เลยล่ะครับ ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์ราคาค่อนข้างแพง ไม่มีสตางค์ไปซื้ออ่ะครับ -*- สงสัยต้องลองมาศึกษาโปรแกรม Open Source บ้างแล้วล่ะครับ

 

เอ้อ ผมมีอะไรแนะนำครับ ถ้าไม่อยากผิดศีลเพิ่มก็เลือกโปรแกรมที่ เขาให้ทดลองใช้ 30 วันอะนะครับ นั่นแหละครับโหลด มาเถอะ เจ้าของอนุญาติ หมดเวลาก็ลบ ลงใหม่ หรืออีกอย่างใช้โปรแกรมที่มันเป็น freeware นะครับ แล้วอีกอย่างอยากได้เพลงมาฟังก็ไปซื้อโหลดเอาที่พวก dtac truemove อะนะครับ เพลงละไม่กี่บาทเอง(ไม่ได้โฆษณาให้นะ) ยอมเสียเล็กๆน้อยดีกว่า ไปรวบยอดตอนโดนกรรมตามสนอง ดีกว่า

 

:'(({):'หง่ะ..........

 

เนื่องจาก เรื่องนี้ผมก็พึ่งจะเริ่มคิดได้ ประมาณ 1เดือนที่ผ่านมา และผมเองก็ใช้คอม เกือบทั้งวัน เลยตัดใจซื้อ หน้ามืดเลยหมดตังไปแยะ แต่ชุดถูกที่สุด ก็ สตารทเตอร์ 1400 บาท
คอมลูกใช้ office 3 คอม 2800 บาท ตัวที่ใช้เอง วิน7อัลติเมท+ออฟฟิศ5พันกว่าบาท จิตโล่งไปมากมาย พอกะกระเป๋าเลยครับ
ดีใจนิดนึง ได้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรี อัพเดทแบบ สบายใจ
เป็นเรื่อง ที่อยากถาม ครูบาอาจารย์ และท่านผู้รู้มากมายเลยว่าควรทำอย่างไร เพราะมีประเด็นที่เกียวข้องมากมาย พูดไปจริงๆละก็ยาวแน่

 

เป็นกระทู้ที่ดีครับ

 

ซื้อของจริงดีกว่าสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

 

คนเราใช้น้ำใช้ลมใช้อากาศโดยไม่ได้ขอธรรมชาติเพราะธรรมชาติ ไม่ได้อ้างความเป็นเจ้าของ แต่เราก็พยามอยู่แบบไม่เบียดเบียนธรรมชาติมมากจนเกินไป ผมก็ใช้ซอฟเถื่อนนะ แต่เจตตนาผมไม่คิดเบียดเบียนเจ้าของ แล้วทำบุญผมก็แผ่ถึงบริษัทซอฟแวร์เลย นึกชื่อนึกโลโก้ด้วยอีกต่างหาก ก็คืนเป็นเงินไม่ได้ผมคืนให้ด้วยบุญกุศลแทนละกัน ผมชอบคำตอบของพระครูธรรมธรเล็กมากเลยครับ. ให้เพราะเสน่หาแหมแอบมีกำลังใจโหลตต่อเลย

 

ผมก็กังวลมากเหมือนกันนะเรื่องซอฟแวร์เนี่ย
ทั้งที่ทำงาน ทั้งที่บ้าน ไหนจะซ่อมคอมให้คนอื่นอีก
แรกๆก็ตั้งหน้าตั้งตาโหลดบิตแบบเอาเป็นเอาตายเหมือนกัน
แต่ระยะหลังมาเนี่ย ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จะไม่โหลดเลย
เปิดดูใน ยูทูปมั้ง เวบอื่นมั่ง หรือไม่ก็ขอยืมคนอื่นมาอีกที
หรืออันไหนที่มันเป็น ฟรีแวร์ หรือ แชร์แวร์ เนี่ย ถูกใจมาก
ถึงแม้ว่าจะยังรักษาศีลข้อ2ไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่าผิดแบบเต็มๆ

 

ถ้าไม่อยากผิดก็อย่าคิดฟุ้งซ่าน คิดเสียว่าคนซื้อเขาให้โหลดต่อ เขาให้เราโหลดต่อจากเขาโดยเสน่หา

อนุโมทนา ครับ

 

ผมไม่สนับสนุนการใช้ซอฟ์ทแวร์เถื่อนครับ ยังไงก็ผิดแน่นอน
ถ้าเราจะทำความดีก็ต้องทำเต็มร้อย อย่ามาบอกว่าขอทำความดีแค่ 10% ก็พอ หรือ อยากจะถึงนิพพานแต่ขอถือศีลทุกข้ออย่างละครึ่ง มันก็คงไม่ได้มั่งครับ

หลักในการเลือกใช้ซอฟ์ทแวร์ก็คือ ซื้อที่เราต้องใช้ อย่างเช่นตัว Windows ก็ซื้อพร้อมเครื่องจะถูกกว่า Office ก็มีรุ่น Home and Student ที่ใช้งานได้ 3 เครื่องเฉลี่ยเครื่องละพัน แค่นี้ก็น่าจะพอใช้งานพื้นฐานทั่วๆไปแล้วครับ

Shareware หรือ Freeware ก็เป็นทางออกที่ดี สำหรับงานบางประเภท แต่ถ้าต้องใช้ License software อย่างเช่น Adobe ก็คงต้องซื้อ ถ้าเราเอาไปทำประโยชน์ใส่ตน หรือ ใช้ทำงาน

 

เรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ทั้งหมดทั้งมวล พวกที่ริเริ่มคือพวกฝรั่ง เขาเหล่านั้นได้ใช้ช่องว่างของกฎหมายนี้มาสร้างความได้เปรียบ(เอาเปรียบ)หลายๆประเทศที่ประสบปัญหา ตัวอย่างเช่น ข้าวหอมมะลิ ผมอยากรู้นักบรรพบุรุษของพวกฝรั่งเขาปลูกข้าวกินกันมาตั้งนานแล้วหรือที่เขาสามารถปลูกข้าวแล้วจดลิขสิทธิ์ได้ ถ้าไม่ขโมยมาจากประเทศไทย ทำไมเรื่องนี้คนไทยถึงไม่ได้รับความยุติธรรม แต่พอกลับเป็นเรื่องลิขสิทธิ์ทางซอฟแวร์ แผ่นวินโดวน์ พวกฝรั่งโวยวายกล่าวหาประเทศไทย และทำการกีดกันทางการค้าต่างๆมากมาย โดยส่วนตัวผมไม่ชอบนิสัยที่เหมือนกับว่าจะถูกต้องแต่แฝงไปด้วยกลอุบายฉ้อโกงของพวกฝรั่งที่เอารัดเอาเปรียบชาติอื่นๆมาช้านาน โดยการอ้างกฎหมายซึ่งเป็นการเอารัดเอาเปรียบมาทำให้ถูกต้อง ผมจึงไม่ค่อยที่จะยอมรับกฎหมายพวกนี้ซักเทาไรนัก ผมก็ได้แต่คิดว่าเป็นเวรกรรมกันมานะครับ เขาขโมยสายพันธุ์ข้าวเราไป ส่วนเราก็ขโมยลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ของพวกฝรั่ง

 

หากกังวลในเรื่อง software หรือ โปรแกรม เพลง ภาพยนตร์ต่าง ๆ ว่าถ้าดาวน์โหลดมาจะผิดศีลหรือไม่ ก็ไม่ต้องโหลดหรือใช้โปรแกรมเหล่านี้ หรือถ้าใช้ก็ไปซื้อให้ถูกต้องก็หมดเรื่อง เรื่องกรรมเป็นสิ่งที่ตรงไปตรงมาไม่เหมือนความคิดของมนุษย์ที่มักจะเข้าข้างตัวเองซะส่วนใหญ่ หากคุณไม่มีเงินซื้อในสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ต้องใช้ก็หมดเรื่อง เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นในการละกิเลส มีแต่เพื่อพอกพูนกิเลสเท่านั้น ถ้าคุณอยากจะรักษาศีลครบคุณก็ต้องยอมรับกติกาโดยไม่มีคำว่าแต่... เพราะกรรมไม่มีการยกเว้น บุญ และบาปแยกจากกันโดยเด็ดขาด บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป แม้แต่พระโพธิสัตว์ ฆ่าสัตว์เพื่อช่วยคน ก็ผิดเช่นกัน แต่เค้าจะแยกบุญและบาปคนละส่วน พระโพธิสัวต์ส่วนใหญ่จึงมักต้องยอมสละตัวเองเพื่อความสุขส่วนรวม...ฉะนั้นจึงไม่มีข้ออ้างว่าโหลดโปรแกรมมาเพื่อช่วยคนอื่น...เพราะบุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป ผิดศีลคือผิด อ้างว่าไม่รู้ก็คือผิด แต่ผิดโดยไม่เจตนาเท่านั้นเอง...