ธรรมชโย วัดพระธรรมกาย จริงๆแล้วเป็นใคร??มีคำตอบ..

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย maxgatod, 16 มกราคม 2011.

  1. afseven

    afseven เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +516
    แยกได้ครับผมทำมาแล้วสมัยเป็นพระ
    ตามกฏของมหาเถรสมาคม ให้เจ้าอาวาสถือปัจจัยไว้ใช้ในวัดได้2000บาท ที่เกินกว่านั้นให้เข้าบัญชีของวัด ย้ำว่าบช.ของวัดไม่ใช่ของบช. องค์กรหรือมูลนิธิใดๆ หรือคณะกรรมการใดคณะหนึ่ง ฉะนั้นการบอกบุญโยมจะต้องแจ้งอย่างชัดเจนว่างานนี้ทำบุญอะไร และต้องบอก คณะกรรมการหรือผู้จัดการทั้งหลายให้แจ้งแก่ผู้ที่ประสงค์ทำบุญว่า จะทำในส่วนใด
    จริงๆแล้วเนี่ยะการทำบุญเข้าวัดตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไปทางเจ้าอาวาสจะต้องออกใบอนุโมทนาให้กับ ผู้ทำด้วยไม่ว่าจะร้องขอหรือไม่ก็ตามมันเป็นกฏระเบียบ
    ประโยชน์ของใบอนุโมทนา มันสามารถนำไปลดหย่อนในเรื่องของภาษีได้ หลายท่านอาจไม่รู้จึงไม่ขอ หรือบางท่านอาจกังวลใจ กลัวว่าจะถูกมองว่าทำบุญเอาหน้าหรือหวังประโยชน์ ก็ฝากหลายๆท่านคิดสักนิดนึงว่า ท่านทำบุญ ท่านหวังสิ่งใด
    ใช่ทุกท่านหวังบุญทั้งนั้นแหละครับ แต่ที่ต้องขออนุโมทนานี่เพราะว่ามันเป็นสิทธิที่ท่านจะได้รับ จากทางบ้านเมืองหลังจากทำบุญแล้ว ที่สำคัญเพื่อเป็นการยืนยันจุดประสงค์ของการทำว่าจะทำในส่วนใด และง่ายต่อผู้เป็นตัวแทนหรือผู้ปกครองสงฆ์ ได้แยกแยะได้ถูกต้อง ไม่หมิ่นเหม่ต่อพระธรรมวินัยที่ทรงตั้งเอาไว้ และยังสร้างเสริมศรัทธา ความเบิกบานให้มั่นคง เพิ่มพูนแก่ผู้ทำด้วย ตัวนี้สำคัญมาก
     
  2. หน้าใส

    หน้าใส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +128
    แปลกดีจัง...ถ้าไม่มีปัญหา ทำไมศาลเมืองไทยถึงรับฟ้อง แล้วตัดสินให้คืนเงินล่ะ ...คุณว่าแปลกไหม?:cool:

    แปลก!!!~~ ศาลไม่ได้ตัดสินให้คืนเงิน แต่หลวงพ่อเซ็นต์โอนเงินให้วัดเอง ศาลไม่ได้สั่งหนิ ส่วนเวลาที่มีคนถวายที่กับวัด มัคคทายกเค้าก็จะให้คนถวายออกมาพูดประมาณว่า ที่ดินผืนนี้ขอถวายแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อให้ไปใช้ตามความประสงค์ แม้ครั้งที่ 1 แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3... ประมาณนี้ ส่วนเรื่องปาราชิกผมว่าเลิกพูดเถอะนะครับ ลิขิตสมเด็จพระสังฆราชคุณว่าเป็นของจริงรึเปล่า หนังสือนั้นแม้แต่พระเทพสารเวทีเลขานุการของท่านยังบอกว่าไม่เคยเห็นเลย แล้วลายเซ็นต์ท่านก็ไม่เหมือนกับของจริง ใช้วิจารณญาณหน่อยครับ อย่าตั้งหน้าตั้งตาเถียง หากล่วงเกินท่านผู้ใดก็ขอขมามา ณ ที่นี้ด้วย

    มารบ่มี บารมีบ่กล้า
     
  3. รักษ์11

    รักษ์11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +516
    :cool::cool::cool:

    .................................................................
     
  4. รักษ์11

    รักษ์11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +516

    เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ศาลโดยนายสุนพ กีรติยุติ ผู้พิพากษาอาวุโส และองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์ มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องในคดีดำหมายเลขที่11651/2542 และคดีดำหมายเลข 14735/2542 ที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย หรือนายไชยบูลย์ สิทธิพล อายุ 62 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และนายถาวร พรหมถาวร อายุ 57 ปี ลูกศิษย์คนสนิท เป็นจำเลยที่ 1-2

    ทั้งนี้ เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานและสนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานและสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น

    โดยร่วมกันยักยอกทรัพย์ และเงินบริจาคของวัดพระธรรมกาย จำนวน 6.8 ล้านบาท ไปซื้อที่ดินเขาพนมพา ต.หนองพระ อ.วังทรายมูล จ.พิจิตร โดยโอนกรรมสิทธิ์ใส่ชื่อนายถาวร จำเลยที่ 2
    และเงินจำนวน 29,877,000 บาท ไปซื้อที่ดินเนื้อที่ 902 ไร่เศษ ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร และ ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ. เพชรบูรณ์ โอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ 2


    ที่ดินแถวจังหวัดพิจิตร ลองไปถามชาวบ้าน หรือคนที่รู้ดูสิ

    ที่ดิน บรฺเวณนั้น มันเป็นที่ดินที่สายแร่ทองคำผ่าน

    ชาวบ้าน ชาวช่อง เขาก็ไปขุด ไปร่อนทองกันอยู่

    คงคิดกันออกนะครับ ว่าซื้อที่ดินตรงนั้นทำไม

    นักธุกิจใหญ่ ทำการใหญ่

    โดนสกัดดาวรุ่ง..

    Business Man ของแท้เลยครับพี่น้อง

    ของบอก ไม่เป็นรองทักษิณ ชินวัตร แน่นอน
    ทักษิณ ก็ ทักษิณเหอะน่า!!!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มิถุนายน 2011
  5. รักษ์11

    รักษ์11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +516
    สรุปเรื่องข้อมูล ภัยต่อความมั่นคงของสถาบันพระศาสนาของโลก

    พระพรหมโมลี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชยญาติ (ที่สนับสนุนแม่ชีทศพร) นั้น ตามกฎนิคคหกรรมซึ่งเป็นกฏหมายสำหรับชำระคดีความทางสงฆ์ กำหนดให้เจ้าคณะภาค 1 เป็นประธานศาลสงฆ์ในคดีพระธัมมชโยโดยตำแหน่ง ซึ่งน่าแปลกใจว่า ประธานศาลสงฆ์ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาคดีความของพระธัมมชโย กลับไปแสดงตัวเป็นพยานให้พระธัมมชโยในคดีอาญา ถามว่ามันเป็นไปได้อย่างไร ? คือตัวเองเป็นผู้พิพากษาในคดีทีเกี่ยวกับพระธรรมวินัย

    ก่อนอื่นต้องขอแสดงความดีใจกับพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือหลวงพี่ธัมมชโย ผู้ก่อตั้งวัดพระธรรมกายให้ยิ่งใหญ่เป็นหนึ่งในโลก กับการที่ทางอัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา "ขอถอนฟ้องพระธัมมชโย" ซึ่งต้องคดีอาญามาจากปี พ.ศ.2542 และนับจากวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปปาฐกถาที่วัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม คือเดือนก่อน ถึงวันนี้ (22 สิงหาคม) ก็แค่ 35 วันเอง เห็นผลทันตายิ่งกว่าต้มมาม่า วันที่ศาลอาญาได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าคำร้องขอมีเหตุผลพอเพียง จึงสั่งจ่ายคดีพระธัมมชโยออกจากสารบบ ปลดพันธนาการอันทุกข์ทรมานของท่านธัมมชโยซึ่งแทบจะเรียกว่า "ศึกหนักที่สุดในชีวิต" นี้ออกไป ต่อไปวัดพระธรรมกายก็คงจะเดินหน้าไปตามเป้าหมายหรืออุดมการณ์ที่วางไว้ ซึ่งสังคมไทยก็ต้องจับตาต่อไปว่า การตัดสินใจถอนฟ้องของอัยการสูงสุดครั้งนี้จะเป็นผลดีหรือผลร้ายต่อคณะสงฆ์ไทย ซึ่งต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
    การที่ศาลอาญาพิจารณาให้ "ถอนฟ้อง" ได้ในครั้งนี้ นับเป็นกรณีที่แปลกประหลาด เพราะว่าเป็นการขอถอนฟ้องโดยผู้ฟ้องคืออัยการสูงสุด ซึ่งอัยการสูงสุดได้บอกเหตุผลแก่ศาลว่า เหตุที่ต้องขอถอนฟ้องพระธัมมชโยนั้น เพราะ
    1. พระธัมมชโยได้คืนเงินให้แก่ทางวัดพระธรรมกายครบถ้วนทุกบาททุกสตังค์แล้ว ถือว่าได้ปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จึงไม่มีเหตุผลที่จะฟ้องร้องเอาผิดอีกต่อไป
    2. เรื่องพระธรรมคำสอน ได้รับความคิดเห็นสนับสนุนจากผู้รู้และมียศตำแหน่งในทางพระพุทธศาสนาสำคัญ 3 ท่าน คือ 1.อธิบดีกรมการศาสนา 2.ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 3.เจ้าคณะภาค 1 ซึ่งทั้งสามท่านยืนยันว่า พระธัมมชโยมิได้สอนสั่งนอกพระไตรปิฎกแต่อย่างใด ทั้งจำเลยยังได้ช่วยเหลือกิจการคณะสงฆ์ไทยเป็นอันมาก ทั้งในด้านการศึกษา การเผยแผ่ และสาธารณูปการ รวมทั้งการสาธารณสงเคราะห์ด้วย ซึ่งผลงานของวัดพระธรรมกายนั้นเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล มิใช่เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น
    3. ถ้าฟ้องร้องต่อไปให้สิ้นสุดกระบวนการ ก็จะเป็นการสร้างความแตกแยกในศาสนจักรและประชาชนคนไทยในชาติ
    นั่นเป็นเหตุเป็นผลที่ทางอัยการสูงสุดได้สืบเสาะหาในการอ้างต่อศาลเพื่อขอถอนฟ้องพระธัมมชโย ซึ่งก็เป็นการประจานตัวเองของอัยการว่า "นอกจากจะดำรงตำแหน่งอัยการแล้ว ยังรับจ็อบเป็นทนายช่วยแก้ต่างให้แก่พระธัมมชโยอีกต่างหากด้วย" และต่อไปนี้เป็น "มุมมองของพระมหานรินทร์" ต่อประเด็นที่อัยการขอถอนฟ้อง ประมวลเหตุผลที่อัยการได้อ้างมานั้น เราท่านจะเห็นว่า เป็นเหตุผลที่น่าฟัง แต่ก็ยังไม่สนิทใจ ก่อนอื่นต้องขอพูดคุยในเรื่องอำนาจหน้าที่ของอัยการเสียก่อน อัยการมีอำนาจหน้าที่ในการ "ยื่นฟ้อง" หรือ "สั่งฟ้อง" ต่อศาล เมื่อเห็นว่าจำเลยมีความผิดจริงตามหลักฐานพยานที่ปรากฏ แต่การยื่นหรือสั่งฟ้องต่อศาลของอัยการนั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องผ่านกระบวนการวิเคราะห์หาเหตุผลว่ามีน้ำหนักเอาผิดจำเลยได้หรือไม่ ซึ่งเมื่อเห็นว่าจำเลยทำผิดจริง มีหลักฐานพยานชัดเจน และเข้าข่ายคดีอาญา อัยการก็จะทำเรื่อง "สั่งฟ้อง" หรือ "ยื่นฟ้อง" ต่อศาล เพื่อขอให้พิจารณาตัดสินคดี และเมื่อยื่นฟ้องไปแล้ว ก็จะเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลอาญาจะพิจารณาไต่สวนประมวลความผิดและตัดสินลงโทษหรือยกโทษให้แก่จำเลยซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับการหักล้างกันในชั้นศาลเป็นประการสุดท้ายด้วย นั่นเป็นนิยามของคำว่า "สั่งฟ้อง" หรือ "ยื่นฟ้อง" แต่สำหรับคดีพระธัมมชโยครั้งนี้ อัยการมีคำสั่งฟ้องหรือยื่นฟ้องไปนานแล้ว กำลังอยู่ในระหว่างสืบพยานในศาลซึ่งทราบว่าเหลือพยานอีกเพียง 2 ปาก คดีก็จะสิ้นสุดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ทว่า ก่อนที่คดีจะเดินทางไปจนสิ้นสุดกระบวนการอยู่แล้ว จู่ๆ อัยการก็ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาว่า "ขอถอนฟ้อง" ซึ่งมิใช่การสั่งไม่ฟ้อง ตรงนี้ดูให้ดีนาท่านผู้อ่าน พระธัมมชโยนั้นถูกฟ้องโดยอัยการสูงสุดไปหลายปีดีดักแล้ว เพราะตอนนั้นอัยการพิจารณาจากพยานหลักฐานทุกประการแล้ว ก็ประชุมกันลงมติว่า "สมควรฟ้องศาลเพื่อเอาผิดพระธัมมชโย" แต่ต่อมา เมื่อดำเนินคดีไปได้หลายปีจวนจะจบแล้ว อัยการเกิดกลับใจกลับไปบอกศาลเสียใหม่ว่า "ไม่ติดใจเอาความกับพระธัมมชโยแล้ว" ตามเหตุผลที่ได้ยกมาอ้างข้างต้น
    ดังนั้น การถอนฟ้อง จึงมิใช่การไม่ฟ้อง หากแต่เป็นการไม่ฟ้องโดยได้ฟ้องไปแล้ว


     
  6. กำนันธงชัย

    กำนันธงชัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +75
    นำร่องไปแล้ว ช่อง5 อุบาสิกาล้านคน

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=pvSkBsz-vlo&feature=player_embedded#at=470]YouTube - ‪tv5 531228 08 53 บุษบาบานเช้า โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 1 ล้านคน‬‏[/ame]


    บวชพระแสน

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=voJsZlcoZzE]YouTube - ‪ชวนบวชแสน รายการบุษบายามเช้า ททบ.5.wmv‬‏[/ame]


    (ที่เคยออกไปแล้ว)

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=wqt-lfBDRxY]YouTube - ‪tv5 04เมย54 บุษบาบานเช้า สกู๊ปโครงการบวชภาคฤดูร้อน1แสนรูปทุกหมู่บ้านทั่วไทย‬‏[/ame]
    ช่องNBT

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=mk2GlJX8Y0U]YouTube - ‪หมายเหตุประเทศไทยบวชพระแสน54‬‏[/ame]


    ช่อง3 เรื่องเล่าเช้านี้(ออกทุกวัน)

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=9QYod25u-iQ]YouTube - ‪แค่สักครึ่งหนึ่ง Spot ชวนบวช‬‏[/ame]

    บิลบอร์ดรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง(ออกไปแล้ว)

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=RaSeNnL5nCo]YouTube - ‪ผู้หญิงถึงผู้หญิงชวนบวชแสนฤดูร้อน‬‏[/ame]


    หนังสือพิมพ์ต่างชาติ

    [​IMG]



    [​IMG]
     
  7. กำนันธงชัย

    กำนันธงชัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +75
    ตาราง
    กิจกรรมโครงการอุปสมบทหมู่บวชพระเข้าพรรษาแสนรูป

    [​IMG]



    [​IMG]
     
  8. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    698
    ค่าพลัง:
    +226
    ตอนแรกผมคิดว่าการต่อต้านวัดพระธรรมกายเป็นสิ่งดีรึเปล่า แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าควรทำอย่างไร ขอให้ทุกท่าน คอยดูนะครับ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่กำลังจะเกิด เราจะช่วยกอบกู้ศาสนา เพื่อเชิดชูแก่นธรรมของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง
     
  9. ธรรมเกิน

    ธรรมเกิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +140
    ไม่เคยคิดตั้งหน้าตั้งตาเถียงหรอกนะ...เพียงแค่อยากค้นหาความจริงจากสิ่งที่ได้ยินมาก้อเท่านั้น แม้หลายๆท่านจะบอกว่า ให้เป็นไปตามกรรม บางคนบอก ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวเพราะเขาเป็นพระ เดี๋ยวจะบาป แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้มีเหลือบอยู่ในพุทธศาสนาพุทธของเรา จึงขอเป็นกระบอกเสียงเล็กทางนี้ กระตุ้นจิตสำนึกในความเป็นพุทธของชาวไทยอย่างเราๆ ท่านๆ ให้หันมามองดูกันบ้าง จะถูกหรือผิดอย่างไร ถึงต้องค้นหาความจริงไงล่ะ ไม่ใชบอกแต่ว่า เดี๋ยวจะบาป แต่สำหรับผม ผู็้้้้้้ไม่รู้คือผู้ไม่ผิด ผู้ที่สอบถามคือผู้มีความจริงใจ การที่เราจะสอบถาม หรือค้นหาความจริง มันผิดตรงไหนครับ ...? และยิ่งถ้าเป็นแค่มนุษย์หัวโล้นที่อวดอุตริเอาผ้าเหลืองมานุ่งห่ม พวกคุณยังยอมที่จะกราบไหว้หรือครับ ยังยอมให้เขาเอาเรื่องราวต่างๆมาหลอกให้หลงงมงายหรือครับ ที่สำคัญคุณยังจะยอมให้มนุษย์เหล่านี้มาใช้ศาสนาพุทธของเราเป็นเครื่องมือในการกอบโกยทรัพย์สมบัติเข้าตัวเองอยู่อีกหรือ...ถ้าคุณยอม คุณยังเป็นชาวพุทธอยู่หรือเปล่า?
     
  10. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +18
    บวชพัน บวชหมื่น บวช แสน ผมก็ทำได้ จ้างคนละ 200 บาท มันก็เอาแล้ว ผมจะจ้าง 100 ล้าน ยังได้เลย เรื่องพวกนี้ทำไมจะทำไม่ได้
     
  11. หน้าใส

    หน้าใส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +128
    ยังยอมให้เขาเอาเรื่องราวต่างๆมาหลอกให้หลงงมงายหรือครับ ที่สำคัญคุณยังจะยอมให้มนุษย์เหล่านี้มาใช้ศาสนาพุทธของเราเป็นเครื่องมือในการกอบโกยทรัพย์สมบัติเข้าตัวเองอยู่อีกหรือ...ถ้าคุณยอม คุณยังเป็นชาวพุทธอยู่หรือเปล่า?<!-- google_ad_section_end -->
    แล้วถ้าเรื่องราวที่เอามาพูดสั่งสอนมันเป็นเรื่องจริงหล่ะ หลายท่านอาจจะเคยได้ฟังเรื่องราวของน้าจี้แล้ว คุณอย่าคิดแต่ว่ารายได้มาก รายจ่ายก็มากเหมือนกัน เดือนหนึ่งหมดค่าน้ำ-ไฟ-อาหาร-อื่นๆ เป็นร้อยล้าน ถ้าจ้างคนมาบวชแล้วได้คนดีกลับมา แม้ได้คนดีเพียงคนเดียวก็ถือว่าคุ้มแล้ว สมัยนี้คนชั่วมันเยอะนะครับ สังคมมีแต่ยิง ฆ่า ข่มขืน ถ้าไม่มีคนช่วยกันสอนศีลธรรมแล้วใครจะมาช่วยสอนครับ

    การเวลาที่ผ่านผันพลันพิสูจน์ ล้วนผลงานแท้นคำพูดนับล้าน

    มารบ่มี บารมีบ่กล้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2011
  12. maxgatod

    maxgatod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +228
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ หน้าใส [​IMG]
    แปลกดีจัง...ถ้าไม่มีปัญหา ทำไมศาลเมืองไทยถึงรับฟ้อง แล้วตัดสินให้คืนเงินล่ะ ...คุณว่าแปลกไหม?:cool:

    แปลก!!!~~ ศาลไม่ได้ตัดสินให้คืนเงิน แต่หลวงพ่อเซ็นต์โอนเงินให้วัดเอง ศาลไม่ได้สั่งหนิ ส่วนเวลาที่มีคนถวายที่กับวัด มัคคทายกเค้าก็จะให้คนถวายออกมาพูดประมาณว่า ที่ดินผืนนี้ขอถวายแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อให้ไปใช้ตามความประสงค์ แม้ครั้งที่ 1 แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3... ประมาณนี้ ส่วนเรื่องปาราชิกผมว่าเลิกพูดเถอะนะครับ ลิขิตสมเด็จพระสังฆราชคุณว่าเป็นของจริงรึเปล่า หนังสือนั้นแม้แต่พระเทพสารเวทีเลขานุการของท่านยังบอกว่าไม่เคยเห็นเลย แล้วลายเซ็นต์ท่านก็ไม่เหมือนกับของจริง ใช้วิจารณญาณหน่อยครับ อย่าตั้งหน้าตั้งตาเถียง หากล่วงเกินท่านผู้ใดก็ขอขมามา ณ ที่นี้ด้วย


    มารบ่มี บารมีบ่กล้า
    ....................................................

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->โลกีย์ฌาณ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4818204", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2010
    ข้อความ: 80
    พลังการให้คะแนน: 33

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ศาลโดยนายสุนพ กีรติยุติ ผู้พิพากษาอาวุโส และองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์ มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องในคดีดำหมายเลขที่11651/2542 และคดีดำหมายเลข 14735/2542 ที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย หรือนายไชยบูลย์ สิทธิพล อายุ 62 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และนายถาวร พรหมถาวร อายุ 57 ปี ลูกศิษย์คนสนิท เป็นจำเลยที่ 1-2

    ทั้งนี้ เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานและสนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานและสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น

    โดยร่วมกันยักยอกทรัพย์ และเงินบริจาคของวัดพระธรรมกาย จำนวน 6.8 ล้านบาท ไปซื้อที่ดินเขาพนมพา ต.หนองพระ อ.วังทรายมูล จ.พิจิตร โดยโอนกรรมสิทธิ์ใส่ชื่อนายถาวร จำเลยที่ 2
    และเงินจำนวน 29,877,000 บาท ไปซื้อที่ดินเนื้อที่ 902 ไร่เศษ ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร และ ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ. เพชรบูรณ์ โอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ 2



    ตอบเอกสาร โฉนดที่ดินไห้ได้เสียก่อนนะคับ

    ตอบด้วบครับ..................
     
  13. maxgatod

    maxgatod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +228
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พรานยึ้ม [​IMG]
    เพี้ยนนุคุณน่ะ เขาพูดถึง ยานอาวกาศ เอ๊ย จานบิน ที่ลงจอดที
    ประทุม ว่ามีความเป็นมาอย่างไง สถาปัตย์ของใคร

    ตอบซะอ้อมลิบโลก ลื่นเหมือนปลาไหล

    ว่าไปเรื่อย เหมือน ลูกพี่ ธัมชโยโห่หิ้วนะแหละ

    อวดอุตริมนุษย์ธรรม เพียงครั้งเดียว ต้องอาบัติ ปราชิก ในพระวินัย ขาดจากความเป็นพระ หมดสิ้นแล้ว

    บอกไว้ชัด ธรรมชโย ปราชิก ทุกวี่ ทุกวัน เล่าเรื่อง คนนั้น ไม่รู้จักกี่คน

    เกิดมาชาตินี้ มาจาก ตระกูลอะไร มาจากภพภูมิใด เล่าเป็นตุ เป็นตะ

    สารพัด เห็นนั่น เห็นนี่ ตรงพระไตรปิฏกมั่ง ไม่ตรงมั่ง ว่าไปเรื่อย

    ปราชิกนับครั้งไม่ถ้วน ยังจะเหลือความเป็นพระอยู่อีกหรือ?

    เป็นได้ก็แค่ โล้นห่มผ้าเหลือ โจรปล้นพระศาสนา

    ถ้ามีญาณทิพย์จริง เอาบนโลกนี่แหละ ไม่ต้องไปถึงโลกสวรรค์หรอก ถึงนาคพิภพหรอก

    ดูสิ ว่าผม อยู่จังหวัดอะไร ไปบอกลูกพี่แกนะ ไห้ดูหน่อย เอาง่ายๆ

    ว่าผมเกิดที่จังหวัดอะไร ถ้าทายถูก

    ผมจะเอาทะเบียนบ้าน พร้อมบัตรประชาชน ไปกราบ เท้า ขอขมา

    และจะยอมตาย ถวายชีวิต จะไห้ทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น


    เห็นนอกโลก ธัมชัยโย ยังรู้ ยังเห็นได้ นาคพิภพก็รู้ก็เห็น

    เอาไอ้พรานยึ้นนี่แหละ อยู่ในโลก ดูหน่อย ว่า พรานยึ้มเกิดที่จังหวัดอะไร

    กล้าๆหน่อย ไม่ต้องดูอะไรมากมาย เอาแค่ พรานยึ้นเกิดท่จังหวัดอะไรพอ

    เอ้า ไช้ญาณวิเศษดูหน่อย ของในโลก คงไม่ยากเกินไป ไชมะ
     
  14. maxgatod

    maxgatod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +228

    นี่บอกถึงอะไร ทำไมธัมชโย สร้าง มหาเจดีย์ หรือ (ที่รูกันอยู่ทั่วไปว่า

    จานบิน) แตกต่างจากพระอริยเจ้าทั้งหลาย


    ตั้งแต่สมัยพุทธกาล จนถึงยุคปัจจุบัน มีพระอริยเจ้ามากหลายองค์เวลามีการสร้าง
    (พระอริยเจ้าที่ได้ทิพย์จักขุญาณ)
    อย่าง พระจุฬามณีเจดีย์สถานที่อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    ศิลปะกรรม และแบบ จะออกมาเหมือนกัน ถึงแม้พระท่านจะเกิด

    คนละสมัย อยุ่กันคนละทิศ บ้างอยู่ใต้ บ้างอยู่เหนือ แต่แบบออกมา

    คล้ายกัน

    แล้วทำไมธัมชโย สร้างเจดีย์ ไม่เหมือนวัดอื่นเขา แตกต่างกันราวสวรรค์กับนรกเลยทีเดียว

    ทั้งๆที่พูดถึงสวรรรค์ชั้นนู้น

    ชั้นนี่ ตายแล้วไปเกิดบนสวรรค์ชั้นนั้น ทำบุญแบบนี้ได้ไปสวรรค์ชั้นนู้นเป็นต้น

    พูดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ตอบง่ายมาก ก็คือ ธัมชโย

    เป็นแค่เพียงโล้นลวงโลก ไงล่ะครับ

    พระจุฬามณีเจดีย์สถาน เป็นสถานที่สำคัญอย่างยิ่งทางพระพุทธ

    ศาสนา เพราะเป็นที่บรรจุ หรือเก็บพระเขี้ยวแก้ว ของพระพุทธเจ้า

    ทุกๆพระองค์ สถานที่ตั้งพระจุฬามณีเจดีย์สถานอยู่ที่สวรรค์ชั้น

    ดาวดึงส์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2011
  15. maxgatod

    maxgatod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +228
    ณ. ที่กุสินารัง




    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Tahoma" colSpan=4>กุสินารา

    • ตั้งอยู่ : ตำบลมถากัวร์ อำเภอกุสินคร จังหวัดเดวเย หรือ เทวริยา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย


    • กุสินารา เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 1 ใน 4 ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเอกหนึ่งในสองของแคว้นมัลละ อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับเมืองปาวา เป็นที่ตั้งของ สาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานและเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า มีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า มาถากุนวะระกาโกฏ ซึ่งแปลว่า ตำบลเจ้าชายสิ้นชีพ

    • กุสินาราในสมัยพุทธกาล มหาปรินิพพานวิหาร ภายในสาลวโนทยานในสมัยพุทธกาล เมืองกุสินารา อันเป็นที่ตั้งของสาลวโนทยานอยู่ในแคว้นมัลละ 1 ใน 16 แคว้น ซึ่งเป็นเขตการปกครองสมัยพุทธกาล โดยในสมัยนั้นแคว้นมัลละแยกเป็นสองส่วน คือ ฝ่ายเหนือมีเมืองกุสินาราเป็นเมืองหลวง เจ้าปกครองเรียกว่า "โกสินารกา" และฝ่ายใต้มีเมืองปาวาเป็นเมืองหลวง เจ้าปกครองเรียกว่า "ปาเวยยมัลลกะ" ทั้งสองเมืองนั้นตั้งอยู่ห่างกันเพียง 12 กิโลเมตร โดยมีแม่น้ำหิรัญญวดีคั่นตรงกลาง กุสินารานั้นเมื่อเปรียบเทียบกับแคว้นอื่น ๆ ในสมัยพุทธกาล จัดว่าเป็นแคว้นเล็ก ไม่ค่อยมีความสำคัญมากนักในด้านเศรษฐกิจ
    • สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธองค์อยู่ในพระราชอุทยานของเจ้ามัลละฝ่ายเหนือแห่งกุสินารา ภายในสาลวโนทยาน แปลว่า สวนป่าไม้สาละ ป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญญวดี เป็นป่าไม้สาละร่มรื่น ซึ่งหลังการปรินิพพานของพระพุทธองค์แล้ว กษัตริย์แห่งมัลละก็ได้ประดิษฐานพระพุทธสรีระไว้ ณ เมืองกุสินาราเป็นเวลากว่า 7 วัน ก่อนที่จะประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ มกุฏพันธนเจดีย์









    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Tahoma" bgColor=#ffffcc>[​IMG]

    พระพุทธรูปปางปรินิพพาน





    </TD><TD style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Tahoma" bgColor=#ffffcc>[​IMG]

    พระพุทธรูปปางปรินิพพาน





    </TD><TD style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Tahoma" bgColor=#ffffcc>[​IMG]

    สังเวชนียสถานกุสินารา อินเดีย





    </TD><TD style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Tahoma" bgColor=#ffffcc>[​IMG]

    ทัวร์สังเวชนียสถานกุสินารา





    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Tahoma" bgColor=#ffffcc>



    [​IMG]

    </TD><TD style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Tahoma" bgColor=#ffffcc>[​IMG]

    สาลวโนทยานกุสินารา อินเดีย





    </TD><TD style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Tahoma" bgColor=#ffffcc>[​IMG]

    สถานที่วางพระศพ กุสินารา





    </TD><TD style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Tahoma" bgColor=#ffffcc>[​IMG]
    สาลวโนทยานกุสินารา อินเดีย






    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="FONT-SIZE: 10pt; FONT-FAMILY: Tahoma" colSpan=4>• การที่พระพุทธองค์ทรงเลือกเมืองกุสินาราอันเป็นเมืองเล็กแห่งนี้เป็นสถานที่ปรินิพพาน มีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุสำคัญ คือทรงทราบดีว่าเมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว พระสรีระและพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์จักถูกแว่นแคว้นต่าง ๆ แย่งชิงไปทำการบูชา หากพระองค์ปรินิพพานในเมืองใหญ่ เมืองใหญ่เหล่านั้นอาจไม่แบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้เมืองเล็ก ๆ เช่น เมืองกุสินารา เป็นต้น ซึ่งก็เป็นความจริงเพราะหลังพระพุทธองค์ปรินิพพาน เจ้าผู้ครองแคว้นต่าง ๆ ก็ได้ยกกองทัพหลวงของตนมาล้อมเมืองกุสินาราเพื่อจะแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ แต่ด้วยความที่กุสินาราเป็นเมืองเล็ก จึงต้องยอมระงับศึกโดยแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้ทุกเมืองโดยไม่ต้องเกิดสงคราม



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ณ. ที่กุสินารัง

    ขณะที่นายโทณะพราหม ตักพระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เพื่อแบ่ง แจกจ่ายไห้กับบันดาประกรเมืองต่างๆ ก็ได้เห็นพระเขี้ยวแก้ว ขององค์สมเด็จ

    ก็คิดว่า เราเก็บไว้เป็นของเราจะเหมาะกว่า ก็ได้เอายัดไว้ที่ผ้าโพกศรีษะ ต่อมา พระอินทร์

    เห็นว่า ไม่เหมาะสม จึงได้เอาพระเขี้ยวแก้วขององค์สมเด็จพะรสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปประดิษสถาน

    ที่พระจุฬามณีเจดีย์สถาน

    พอทำการแจกจ่ายเส็จ นายโทนะพราหม ก็เอามือไปคลำที่ศรีษะเพื่อหาพระเขี้ยวอแก้ว ปรากฏว่า

    ได้หายไปแล้ว นายโทณะพราหม ก็เลยเอาภาชนะที่มีรูปคล้ายกะลา คิดว่า เราเอานี่และกัน
    ไปบูชา เพราะเราไช้ตักพระบรมธาตุเพื่อแบ่ง แจกจ่าย

    ต่อมาสิ่งต่างๆภาชนะ ที่ไช้ตัก ตวงสิ่งของ ทุกคนก้จะเรียกว่า โทนะ คือเรียกชื่อตาม

    พอนานวัน จนถึงปัจจุบัน ก็เพี้ยนกลายมาเป็นทะนาน อย่างเช่น ทะนานตวงข้าวสารเป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2011
  16. หน้าใส

    หน้าใส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +128
    อู้ย อยากรู้ก็ไปถามหลวงพ่อที่วัดซิ ไปรอสัก1ทุ่มที่ศาลาจาตุมหาราชิกาซิแต่อย่าพึ่งเข้าไปนะ รอดักท่านเวลารถท่านมาแล้วกระโดดเข้าไปถามนะอิอิ ท่านคงจะบอกจังหวัดที่เกิด พร้อมภพภูมิที่ลงมา แล้วคงจะตรวจดูดวงบุญ ดวงบาปให้ด้วยมั้ง ส่วนเจดีย์ในพระไตรปิฎกท่านไม่ได้เขียนไว้ว่าให้สร้างแบบใดหนิ แล้วหลวงพ่อท่านสร้างแบบนั้นผิดตรงไหน(เหตุผล+จุดประสงค์มีคงหาอ่านได้) อีกอย่างเจดีย์ทรงแบบเดียวกันนี้ก็มีที่อินเดีย สาญจิเจดีย์ไง

    ผมขอจบการตอบคำถามเพียงเท่านี้นะครับ หากล่วงเกินท่านใดก็ขออภัย หากร้อนรนทนไม่ไหวอยากถามปัญญาทางธรรมะกับหลวงพ่อธัมมชโย ก็เชิญไปพบท่านตามที่บอกข้างตน

    ขอขอบคุณในธรรมบรรณาการของทุกท่าน

    “ ยัง กัมมัง กะริสสามิ กัลฺยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะทายาโท ภะวิสสามิ “
    เราได้ทำกรรมใดไว้ ดี หรือ ชั่วก็ตาม เราจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
     
  17. maxgatod

    maxgatod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +228

    หลักฐานทางประวัติศาตร์ เจดีย์สาญจีนะครับ

    .........................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2011
  18. maxgatod

    maxgatod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +228
    [​IMG]


    ส่วนนี่ สามจี (3g) ทันสมัยน่าดู

    จานบินาสามจี กำลังจะพัฒนาเป็นสี่จี(4g)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2011
  19. ธรรมเกิน

    ธรรมเกิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +140
    เรื่องที่สอนให้ทำบุญเยอะๆแล้วได้ขึ้นสวรรค์เหรอครับ ที่ว่าเป็นเรื่องจริงน่ะ... ถามจริงๆเถอะ เขาเคยพาคุณไปแล้วเหรอ..หรือว่าเขาไปมาแล้ว ถ้าเขาไปมาจริงๆแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาไปมาจริงๆ คิดหน่อยสิ สมองมีไว้คิดนะครับ ไม่ใช่มีไว้งมงาย ถ้าเป็นเรื่องบาปบุญคุณโทษ ก้อยังโอเค เหมือนพระอื่นๆทั่วไป แต่ถ้าพูดแบบไม่มีเหตุผล แล้วจะเอาเงินอย่างเดียวน่ะ...มันคงไม่เหมาะไม่ควรมั๊ง... อ่านกระทู้ตอบของคุณโลกีย์ฌาณให้เข้าใจก่อนนะ หลักฐานมันก้อมีอยู่ ทำไมไม่พยายามเข้าใจความจริงที่เกิดขึ้นบ้างล่ะ เอาแต่งมงาย เห็นกงจักรเป็นดอกบัวกันอยู่ได้... เขาแบ่งอะไรให้บ้างแล้วรึไง..
     
  20. maxgatod

    maxgatod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +228



    เจดีย์ทรงโอคว่ำหรือสาญจี

    [​IMG]
    [​IMG]


    เจดีย์ทรงโอคว่ำ


    เจดีย์ทรงโอคว่ำ หรือเจดีย์แบบสาญจี เป็นเจดีย์รูปแบบแรก ๆ ของพุทธศาสนา มีองค์ประกอบพื้นฐานครบถ้วน คือ
    • ฐาน (บางแห่งอาจไม่มี) เพื่อยกระดับว่า เจดีย์นี้สูงศักดิ์กว่าหลุมศพธรรมดา
    • เรือนธาตุ บางแห่งทึบตัน บางแห่งกลวงเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป รูปเคารพ หรือบรรจุสิ่งของ
    • บัลลังก์ แสดงถึงวรรณะกษัตริย์ (พระพุทธเจ้าเกิดในวรรณะกษัตริย์)
    • ฉัตร (บางแห่งอาจไม่มี) เป็นเครื่องประดับบารมี

    ส่วนภาพข้างล่างนี้ สามจี...




    ประเด็นที่เขาถามไป ขอไห้ตอบด้วย

    เช่น เรื่องซื้อที่ดิน ไม่ไชถวายที่ดิน หลักฐานอยุ่ที่ศาลยุติธรรม

    หมายเลข คดีที่เท่าไหร่ ปีพศ บอกไว้เส็จ ไปขอเจ้าพนักงาน

    คัดสำเนาดูก็ได้ เชิญครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...