ข้อควรระวังในการฝึกกสิณ หรือกรรมฐานต่างๆที่ส่งจิตออกนอก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บัวใต้น้ำ, 24 สิงหาคม 2007.

  1. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936
    สวัสดีครับ เห็นเพื่อนๆในเวบพลังจิต สนใจฝึกกรรมฐาน ๔๐ กันมากมาย นับเป็นเรื่องที่ดีในการไขว้ขว้า บุญกุศล สั่งสมบารมี ทำดีละชั่วให้กับชีวิตนี้ แต่กรรมฐานทั้งหมดในโลกมีทั้งส่วนที่เป็นทั้งสมาธิและส่วนของวิปัสสนา โดยกรรมฐานต่างๆแทบทั้งหมดนั้น ถ้าเราทำอย่างไม่ถูกหลัก หรือผิดพลาดไปหรือเริ่มต้นไม่ถูกหลักแล้ว และที่สำคัญถ้าไม่ตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างครบถ้วนแล้ว จะทำให้เราไปติดขัด ไปติดอยุ่ในกลางทางของกรรมฐานกองนั้น ไม่สามารถก้าวหน้าในการปฏิบัติ เช่นติดอยู่ที่สมถะ จิตไม่สามารถเข้าสู่วิปัสสนาได้เป็นต้น

    ผุ้ที่ไม่เคยหัดเจริญสติมาก่อน แต่เริ่มต้นที่การทำสมาธินั้น มีอันตรายที่มองไม่เห็นแอบแฝงอยู่ ถือว่าเป็นดาบสองคม ถ้าทำถูกต้องก็เป็นสัมมาสมาธิ แต่ทำผิดก็เป็นมิจจาสมาธิไป( มิจฉาสมาธิไม่สามารถนำมาเจริญวิปัสนาได้ ) เพราะจุดสูงสุดที่ได้จากสมาธิคือ"ความสงบชั่วคราว" ซึ่งระดับของความสงบจะมากหรือน้อย หยาบหรือละเอียด ขึ้นอยู่กับ ระดับของสมาธิและความละเอียดของจิต

    ถ้าเจริญสมถะกรรมฐานถูกต้อง หรือที่เรียกว่า "สัมมาสมาธิ" แล้ว จิตจะเกิดความตั้งมั่นขึ้นเองโดยอัตโนมัติสามารถเห็นจิตเป็นส่วนนึง กรรมฐานหรือกสิณที่เราตั้งไว้เป็นอีกส่วนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ นักปฏิบัติจะติดหลงเข้าไปที่"มิจฉาสมาธิ"

    อันตรายที่สำคัญจากการทำมิจฉาสมาธิคือ เมื่อได้"ความสงบ"มาแล้ว จิตก็จะติดอยู่กับความสงบนั้น หรือบางคนที่จิตฟุ้งซ่านคิดเรื่องต่างๆนาๆ ก็จะเป็นการส่งจิตออกไปนอกกาย นอกใจ ไปปรุงภาพนิมิตต่างๆนาๆตามแต่ที่เราต้องการ ให้เกิดขึ้นชัดเจนในใจเรา โดยมีกำลังของฌาณที่ได้จากการทำกสิณหรือสมถะกรรมฐานเป็นสิ่งหนุนหลัง สิ่งที่รู้เห็นเข้าก็เป็นของจริงบ้าง ของปลอมบ้างปนๆกัน ( แต่ส่วนใหญ่ จะเป็นของปลอมครับ เพราะจะเห็นแต่ของจริงได้ ต้องเป็นพระอริยเจ้าเท่านั้นครับ)

    ตรงนี้ถือเป็นสิ่งทีสำคัญ เพราะเมื่อนักปฏิบัติทำได้ถึงจุดนี้แล้ว ร้อยละ 99 % ก็จะไม่สามารถขึ้นวิปัสสนาได้ ถ้าไม่มีผู้ชี้ทางที่ถูกให้( แนะนำสภาวะที่ถูกต้องให้ )


    ดังนั้นขอแนะนำครับว่าผู้ที่ต้องการมรรคผลนิพพาน หรือผู้ที่บำเพ็ญบารมีเป็นพุทธภูมิ ควรจะมา"หัดเจริญสติ"ให้เป็นก่อน เมื่อเข้าใจแล้ว การทำสมาธิของท่านจะมีผลมาก มีอานิสงส์มาก และเป็นการสั่งสมปัญญาบารมี เป็นผู้ฉลาดทั้งในทางโลกและทางธรรมครับ




    ปล. แนะนำข้อมูลเกี่ยวกับการเจริญสติ เลือกอ่านเล่มไหนก็ได้ครับ
    http://wimutti.net/surawat/#books
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  2. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ไม่เจอกันเสียนาน อนุโมทนาค่ะคุณบัว

    ขอให้นำสาระดี ธรรมดีๆ ที่ได้รับรู้มา ปฏิบัติดีแล้วมาแจ้งต่อพวกพี่ๆ น้องๆ ที่ยังต้องการคำบอกเล่า คำแนะนำนะคะ

    สุขใจจริงๆ ที่ได้เข้ามาห้องคุณบัวฯ ครั้งนี้
     
  3. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    อ้อ...ตอนนี้ยายผีป่าก็เน้นการพิจารณาการเกิด การตั้งอยู่ และการดับค่ะ

    เน้นที่ว่า อะไรคือเหตุแห่งการเกิด บางทีเรามองบทบาทเราในเวบนี้ ได้ข้อคิดอะไรมากมายเลยค่ะ บางทีเราอาจคิดเข้าข้างจริตของเราเอง เราก็ต้องตรวจสอบจากจิตสำนึกที่เราได้รับการอบรมมาค่ะ

    ธรรมะอยู่รายรอบเราหมด จริงไหมคะคุณบัว เราเอาทุกอย่างมาพิจารณาได้ทั้งสิ้น

    ขึ้นกับว่าเราจะยอมรับมันได้ไหมเท่านั้นเองเนาะ

    ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า อย่าเบื่อโลก อย่าหนีจากโลก จนกว่าเราจะเข้าใจโลก
     
  4. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    อย่าหาว่ามากวงติงนา...

    หลังๆผมมีความรู้สึกว่า
    นอกจากอย่าติดส่งออกนอกแล้ว
    ส่องเข้าในก็ติดไม่ได้ด้วย

    ไม่ได้ยืนยันว่าจะถูกนะ เสนอความเห็นเฉยๆ
     
  5. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936
    โมทนาด้วยครับ เข้าใจถูกต้องแล้วครับ

    แต่คำว่าส่งออกนอก ตามหัวข้อกระทู้หมายถึง มันส่งออกนอก"การรู้" แล้วเราไม่รู้ว่ามันส่งออก ก็คือ"หลง"



    ส่วนที่คุณบอกว่า ส่งออกนอก และส่งเข้าในนั้น ถือว่าเห็นได้ละเอียดครับ ถ้าผู้ที่มีสมาธิที่ดีเป็นพื้นฐานแล้ว จะเห็นได้ว่ามันออกจากฐานไปข้างนอกเพื่อคิดเรื่องที่ยังมาไม่ถึง และออกจากฐานย้อนเข้ามาในตัวเพื่อคิดเรื่องอดีตต่างๆนาๆ เห็นได้ว่ามันไปคนละที่กัน แต่รวมแล้วก็คือส่งออกจากการรู้

    (verygood)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  6. กายในกาย

    กายในกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +1,265
    อนุโมทนาครับ กับผู้ที่ปฏิบัติสมาธิได้ ผมอยากนั่งมาก แต่สถานที่ไม่อำนวย ได้ฟังหลายกระทู้แล้ว อยากปฏิบัติให้เห็นจริงเหมือนคนอื่นเข้าบ้าง
     
  7. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936
    สวัสดีครับ ไมได้คุยกันนานมากครับ พอดีผมเคยมีประสบการณ์เรื่องการพิจารณา ถือว่ามาเล่าสู่กันฟังละกันครับ


    จริงๆแล้วคำว่าพิจารณา ของพระพุทธเจ้าไม่ได้แปลว่า การคิดขึ้นมา จินตนาการขึ้นมา

    ในศาลจะมี"ห้องพิจารณาคดี" ก็หมายถึงห้องที่ดูตามหลักฐานที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ไมได้แปลว่าห้องที่คิดเข้าข้างตัวเอง หรือคิดนู่น คิดนี่ขึ้นมาครับ ดังนั้นคำว่า"พิจารณา"ในทางธรรม ถ้าจะเทียบกับคำศัพท์ในยุคนี้แล้ว น่าจะหมายถึง "การสังเกต การมองตามความเป็นจริงในกาย ใจ"


    ดังนั้นที่คุณยายฯ ปฏิบัติอยู่ตามที่เล่ามา ว่าพิจารณาการเกิด-ดับ พิจารณาบทบาทของตัวเองในเวบนี้ ตรงนี้ถือเป็น"การทำสมาธิรูปแบบหนึ่ง" เท่านั้นครับ ยังไม่ใช่วิปัสสนา ผลที่จากตรงนี้คือจิตใจจะถูกอบรมมากขึ้น เป็นคนมีเหตุมีผลมากขึ้น เข้าใจโลกได้มากขึ้น( แต่เป็นการเข้าใจในระดับเหตุผล ความเข้าใจที่มาที่ไปต่างๆนาๆ ) หรือการทำมรณนุสติ คือการระลึกถึงความตายบ่อยๆ มีโอกาสตายได้ทุกที่ ทุกเวลา การคิดเรื่องตาย ก็จะมีผลให้ราคะ ความอยากต่างๆ หายไปได้ สงบได้ชั่วคราวเช่นกันครับ

    เจริญในธรรมครับ
     
  8. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936

    แนะนำให้หัดเจริญสติให้เป็นก่อนครับ ( ตามลิงค์ที่ให้ไว้ด้านบน )

    เพราะถ้าเราทำสมาธิแล้ว มันมีสิทธ์เกิดได้ทั้ง สัมมาสมาธิและมิจฉาสมาธิ แต่นักปฏิบัติเมื่อลงมือปฏิบัติแล้ว แยกไม่ออกว่าสมาธิที่กำลังทำอยู่เป็นแบบไหน ก็ปฏิบัติผิดๆถูกๆ วนเวียนไปเรื่อยๆ

    แต่การเจริญสติ จะมีประโยชน์คือเมือเราเจริญสติเป็นแล้ว พอมาทำสมาธิ สมาธิที่ได้จะเป็นสัมมาสมาธิ เพราะสัมมาสมาธิมีองค์ประกอบคือมี"สัมมาสติ" แต่มิจฉาสมาธิจะไม่มีสติเป็นองค์ประกอบ ( ถ้ามีสติ คงไม่เรียกว่าเป็นมิจฉา )


    ที่น่าสังเกตคือในสมัยพุทธกาล ครูบาอาจารย์ ดาบสทั้ง ๒ ที่พระพุทธเจ้าไปศึกษาด้วย ก็ได้ฌาณ ๗ และฌาณ ๘ ตามลำดับ แต่ไม่มีใครที่บรรลุธรรม เพราะสมาธิของดาบสทั้ง ๒ นั้นเป็นมิจฉาสมาธิ เพราะไม่มีสัมมาสติเป็นองค์ประกอบ

    พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้อริยสัจ๔ รุ้ว่าทาง ๒ ข้างคือ

    -การตามใจกิเลส ราคะ โทสะ โมหะ ก็จะครอบงำ ก็มีผลทำให้ไปเกิดทุกขคติ

    -การทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือเพ่งบังคับไว้ ก็เป็นการทำให้จิตข่มกิเลสได้ชั่วคราวมีผลให้ได้ไปเกิดสุขคติโลกสวรรค์ พรหมโลก แต่พอหมดกำลังของสมาธิแล้ว ก็เปลี่ยนภพภูมิ วนไปวนมาไม่รู้จบสิ้น


    ดังนั้นสติคือการระลึกรู้การปรุงแต่งของจิตว่าปรุงไปด้านไหน เมื่อมีสติรู้แล้ว จิตจะไม่หลงไปตามอารมณ์ปรุงแต่งนั้นๆ ตรงนี้ถือเป็นทางสายกลางที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ เพื่อให้พวกเราดำเนินตามเพื่อความล่วงพ้นจากทุกข์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  9. จันทรุปราคา

    จันทรุปราคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +659
    เรียนคุณบัวใต้น้ำ

    แล้ว ถ้า จิต ส่งนอก-เข้าใน สลับกันไป-มา ไวมาก เร็วมาก จนถึงเร็วมากที่สุด
    (เป็นหลายร้อย ถึงพันครั้งต่อ นาที )

    และกำลังสติ ไม่พอที่จะพิจารณา เห็นการเกิด-การดับได้ ตรงนี้อนุโลมกันอย่างไร

    อนุโมทนา มิ
     
  10. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936

    ขณะจิตที่คุณรู้ว่า จิตมันส่งออก - เข้าใน ตอนนั้นถือว่ารู้แล้วครับ ส่วนความคิดที่ตามมาหลังจากที่รู้ ตรงนั้นเป็นภาษาบัญญัติถือเป็นส่วนเกิน( แต่อย่าไปกำจัดทิ้ง ก็ดูๆมันไปเรื่อยๆครับ มันมีก็มี ไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปแก้ไขครับ )

    ส่วนกำลังสติ ไม่พอที่จะพิจารณา <---- คุณไม่ต้องไปพิจารณาอะไรทั้งสิ้นนะครับ ให้จิตเขาเรียนรู้ของเขาเอง ไม่ต้องไปช่วยครับ คุณทำได้ดีที่สุดเพียงรู้ว่า มันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในใจ แล้วมันก็มีอะไรบางอย่างเกิดต่อมาเรื่อยๆน่ะครับ


    ส่วนจิตมันรู้ไวมาก ---> พอจิตมันไว แล้วเรารู้เข้า ก็ให้ดูครับว่าหลังจากเห็นจิตมันไว แล้วเรารู้สึกอย่างไร แต่อย่าทิ้งการทำสมาธิในรูปแบบน่ะครับ ให้ทำทุกวันเพราะถ้าไม่ทำสมาธิไว้บ้าง จิตมันจะฟุ้งซ่าน มันจะมองเห็นไม่ชัดเจน เหมือนมองเห็นแค่ขอบๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2007
  11. ตื่นซะที

    ตื่นซะที สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +14
    โมทนาสาธุที่เข้ามาเตือนสติให้ผู้ปฏิบัติ ไม่หลงลืมตนครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...