ปล่อยปลาแล้วมีความสุข หรือมีความสุขแล้วจึงปล่อยปลา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย meamanee, 1 กรกฎาคม 2011.

  1. meamanee

    meamanee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2011
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +41
    ปกติจะปล่อยปลาทุกวันอังคารอยู่แล้วค่ะ ตั้งใจว่าจะทำให้ได้ทุกวันอังคาร ทำมาได้สองเดือนแล้วค่ะ

    ปกติปล่อยก็ไม่มีอะไรค่ะ แต่วันนี้แปลกตรงที่ว่า เป็นวันศุกร์ ตื่นเช้ารู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกไม่ได้คิดจะปล่อยปลา เพราะเพิ่งปล่อยไปเมื่อวันอังคารค่ะ ระหว่างที่เดินไปตลาดก็คิดว่า ไหนๆก็มาแล้ว ไปปล่อยหน่อยก็ดี

    ก็เลยเดินไปที่ตลาด แม่ค้าบอกว่ามีปลาดุกเผือกอยากปล่อยมั้ยก็เลยเอาตัวดำหนึ่งตัว เผือกหนึ่งตัว 2 ตัวก็ 170 บาทค่ะ น่าจะเกิน 2 โลค่ะ

    หลังจากนั้นก็ขึ้นรถไปปล่อยที่ท่าน้ำหลังวัด ก่อนปล่อยก็เอาน้ำในคลองใ่ส่ลงไปในถุงเพื่อให้ปลาชินกับน้ำ ปลาัมันก็ดิ้นคงกลัว ก็เลยบอกมันว่าเอามาปล่อยจริงๆนะ ไม่ได้มาฆ่า แล้วก็เปิดถุงให้มันออกไป มันไม่ยอมไปทั้งสองตัวเลย แล้วก็เหมือนมองหน้านิ่งอยู่ ก็เลยบอกมันว่าไปเหอะ ปล่อยจริงๆ

    มันก็ว่ายออกไปแบบไม่รีบ ไม่ตื่นตกใจ ตอนนั้นรู้สึกมีความสุขมากเลยค่ะ ก็เลยนั่งเล่นอยู่ตรงท่าน้ำ เพราะอากาศดี ลมพัดเอื่อยๆ แดดไม่มี เพราะเมื่อคืนฝนตก พอนั่งไปสักพัก รู้สึกขอบคุณชีวิตตัวเอง ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่หลั่งไหลเข้ามา ฟังเพลงจากฉันให้เธอไปด้วย ระหว่างนั้นก็เห็นน้ำไหวๆ ใจก็คิดว่าแถวนั้นปลาคงเยอะ แต่ไม่ใช่ค่ะ เจ้าปลาดุกตัวสีดำมันโผล่หัวขึ้นมาก่อนเห็นปากอ้าพ้นน้ำเลย สักพักเจ้าตัวสีเผือกก็ว่ายโผล่ขึ้นมา เห็นทั้งตัวเลย ก็เลยบอกมันว่า ไปเถอะ โชคดีนะ เดี๋ยวนั่งอีกแป๊บนึงก็จะไปเหมือนกัน แล้วก็ไม่เ็ห็นอีกเลยค่ะ

    ที่บอกว่าแปลกก็เพราะว่าตลอดเวลาที่ปล่อยมาสองเดือนไม่เห็นเหตุการณ์แบบนี้เลยค่ะ ปล่อยแล้วก็ว่ายหายไปเลย เลยคิดว่า เรามีความสุขอยู่ก่อนแล้ว ไปปล่อยปลาอยากให้ปลาได้รับความสุขเหมือนที่เราได้รับ ด้วยการเป็นอิสระจากการคุมขัง ก็เลยทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น แล้วปลาก็สามารถรับสื่อนั้นได้ด้วยเหมือนกัน ตอนปล่อยไม่ได้อธิษฐานอะไรเลยค่ะ ปล่อยอย่างมีความสุข เหมือนได้ช่วยใครสักคนแบบไม่หวังผลตอบแทน

    ตอนนี้ก็ยังมีความสุุขอยู่เลยค่ะ เลยอยากแบ่งปันเรื่องราวดีๆ เผื่อใครเอาไปทำตามแล้วจะได้มีความสุขไปตลอดทั้งวัน ซึ่งความสุขแบบนี้ไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงินน่ะค่ะ แล้วก็ทำได้ง่ายด้วย

    เลยทำให้คิดว่า มีความสุขแล้วไปปล่อยปลา ดีกว่าไปปล่อยปลาแล้วคิดว่าจะทำให้มีความสุขค่ะ

    บุญกุศลใดๆอันพึงบังเกิดขึ้นแล้ว ทำให้ข้าพเจ้าได้รับความสุขความสบายใจ ขอแบ่งปันให้กับทุกสรรพสิ่งให้ได้รับความสุขเสมอเหมือนข้าพเจ้าทุกประการโดยไม่มีข้อแม้และเงื่อนไขใดๆ
     
  2. สุภาพรกิ่งนอก

    สุภาพรกิ่งนอก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2008
    โพสต์:
    405
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ขออนุโมทนาสาธุ ในบุญนี้ด้วยนะคะ ..สาธุ

    เดือนที่แล้วก็ไปซือ้ปลาเหมือนกันค่ะ เป็นปลานิล หรือไนก็จำไม่ได้ ตัวใหญ่มาก เหลือเป็นตัวสุดท้าย เขาเอาวางไว้บนกระจาดรอให้ใจขาดตาย ตลาดก็กำลังจะวาย จอดรถหน้าตลาดแล้วให้ลูกนั่งคอยอยู่บน เพราะหากตำรวจมาจะได้แก้ตัวได้ ว่าจอดเพราะอะไร

    เจอปลาตัวนั้นกำลังจะขาดใจ ดูว่าน่าจะตายแล้ว ก็นึกเสียใจอยู่เหมือนกัน ว่ามาช้าไปหรือเปล่า ยืนมองปลา..ในใจก็อธิษฐาน "ว่าอย่างเพิ่งตายน๊ะ จะเอาไปปล่อยแล้ว" ถามคนขายว่าตายหรือยัง คนขายก็อยากจะขายเพราะเป็นตัวสุดท้ายก็ตอบทันทีว่า "ตายแล้ว เหลือตัวเดียวจะลดราคาให้" ดิฉันก็เอานื้วแตะปลาเพื่อจะดูว่าเขายังโอเคอยู่ไหม ดิฉันก็ตอบว่า "หนูจะมาซื้อเขาไปปล่อยไม่ใช่เอาไปกิน" คนขายมองและเข้าเจตนาของเรา

    คนขายก็เลยเปลี่ยนเป็นพูดว่า "ยังไม่ตาย เพิ่งเอาขึ้นจากน้ำเมือ่สักครู่" ดิฉันก็เลยบอกว่า "ตาช่วยเอาเขาใส่ในถังเอาน้ำใส่เดี๋ยวนี้เลยได้ไหมคะ" พอใส่ปลาในถังที่มีน้ำ เขาก็ไม่กระดุกกระดิกเลย ตัวแข็งทื่อ ตาเขาก็ขุ่น เหงือกก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย เหมือนตายแล้ว ดิฉันได้แต่ยืนมองเขาน้ำตาซึมเลยค่ะ ดิฉันก็เลยใช้มือลูบตัวเขา บอกเขาว่า "อย่าเพิ่งตาย หายใจน๊ะ จะเอาไปปล่อย" ดิฉันยืนจ้องเขาเช่นนั้นเกือบ 10 นาที จนคนที่เดินไปมามองว่าดิฉันดูอะไร ก็มารุมดูกัน ดิฉันก็ตั้งจิตขออาราธนาพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้โปรดช่วยชีวิตปลาตัวนี้ ด้วยบุญของปลาที่ยังมีอยู่ ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยค่ะ ปลาเริ่มขยับเหงือก ถ้าไม่สังเกตมองไม่เห็น แล้วก็เงียบไป อีกสักเกือบ 10 นาที ก็เริ่ม อีก ดิฉันคิดว่าเขาเองก็คงพยายามและเพราะแรงอธิฐาฐานด้วย ปลาก็เลยขยับเหงือกแรงกว่าเดิม คนขายก็บอก "ไม่ตายแล้ว" ดิฉันก็เลยบอกตาว่า "ตาช่วยหิ้วถังปลาไปให้หนูด้วยได้ไหมค่ะ" ดิฉันไม่ต่อราคาเลย แถมบอกคนขายไม่ต้องลดราคาหรอกค่ะ จ่ายเงินแล้วก็รีบไปที่รถ เขาก็ดิ้นอยู่ในถังไปตลอดทาง ดิฉันรีบขับรถให้ถึงที่หมาย คือ บุ่งตาหลัว เฮ้ย! ค่อยโล่งอกไปที

    ชีวิตใครใครก็รักค่ะ

    การทำบุญควรทำให้สม่ำเสมอ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนปัจจัยแต่อยู่ที่จำนวนครั้งต่างหาก บุญไม่มีคำว่าสูญมีแต่เพิ่มค่ะ อย่าไปรอค่อยทำเมือ่ความทุกข์มาเยือน
     
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ขอให้ตั้งใจทําความดีต่อไปครับคุณ meamanee ขอเป็นกําลังใจให้ครับ ฝากหนังสือ ชีวิตเป็นอย่างนี้ หนังสือดีๆเล่มหนึ่งที่อยากให้คนดีอย่างคุณ meamanee อ่านครับ ลอง download ไปอ่านดูครับ อนุโมทนาครับ
     
  4. meamanee

    meamanee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2011
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +41
    ขอบคุณคุณวิญญาณนิพพานมากนะคะ โหลดมาอ่านแล้วค่ะ ตรงกับที่กำลังฝึกพอดีเลยค่ะ เพราะกำลังฝึกไม่ให้เอาใจไปยึดติดกับสิ่งภายนอก ฝึกการให้แบบไม่หวังผล ฝึกให้ตัวเองมีความรักและความสุขจากภายใน โดยไม่ผกผันไปตามสภาวะภายนอก อ่านแล้วก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

    ความบังเอิญไม่มีในโลก ถึงแม้จะเพิ่งได้อ่านหนังสือนี้เป็นครั้งแรก แต่ยิ่งอ่านๆไป ก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณผู้เขียนหนังสือ แล้วก็คุณวิญญาณนิพพานมากๆเลยค่ะ สิ่งที่คุณให้ยิ่งใหญ่และมีค่ามากเลย ขอบคุณอีกครั้งนะคะ หากมีโอกาสจะทำหนังสือนี้แจกฟรีเป็นธรรมทานค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2011
  5. meamanee

    meamanee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2011
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +41
    มีอีกวิธีที่อยากจะบอกค่ะ ว่าทำบุญแบบไม่หวังผลควรทำอย่างไร

    1. อย่าไปสนใจว่าอานิสงค์ของการทำบุญแต่ละอย่างได้อะไรบ้าง เพราะเมื่อท่านรู้ว่าอานิสงค์แต่ละอย่างมีอะไรบ้าง จิตของเราเมื่อรับข้อมูลแล้ว สังเกตุได้เลยเวลาท่านไปทำบุญข้อมูลพวกนี้จะผุดขึ้นมาในสมอง ว่าทำแบบนี้เราจะต้องได้แบบนี้ แบบนั้นเป็นต้น

    2. แต่ให้สนใจว่าการทำบุญแต่ละอย่างเป็นประโยชน์ต่อใครบ้างแทนค่ะ เช่น สังฆทาน เป็นประโยชน์์ต่อส่วนรวม เป็นประโยชน์ต่อพระสงฆ์ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนามนุษย์และเทวดาทั้งหลาย เช่นเราถวายหนังสือธรรมะ พระอ่านหนังสือได้ความรู้เอาไปสอนคน คนๆนึง กลายเป็นคนดี มีคุณธรรม ทำให้ครอบครัวดี สังคมดี แล้วพระรูปนึงสอนคนตั้งกี่คน อะไรอย่างนี้เป็นต้นค่ะ

    ทำมาแล้วทั้งสองข้อเหมือนกันค่ะ ยืนยันได้เลยว่าความรู้สึกต่างกันมากจริงๆ ระหว่างข้อหนึ่งกับข้อสองเวลาทำ
     
  6. Surachai Mankong

    Surachai Mankong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +329
    "สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาครับ"

    _/\_๑ _/\_๑ _/\_๑ _/\_๑ _/\_๑ _/\_๑ _/\_๑ _/\_๑ _/\_๑ _/\_๑ _/\_๑ _/\_
    ___________________________________________________________________

    vVธรรมดีดี จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อสนอง กตปุญโญVv
    :cool:คลิกๆๆ^____^:cool:
    เชิญแวะโหลดธรรมเทศนา-พระเดชพระคุณหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ
    [​IMG]Facebook-ธรรมะสว่างใจ-วัดสังฆทาน-นนทบุรี[​IMG]
    เว็บวัดสังฆทานจังหวัดนนทบุรี


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...