เผยชีวิตยายเยอรมัน ใช้ชีวิตบนโลกใบนี้โดยไม่ต้องใช้เงิน

ผมว่าไม่แปลกนะครับ

พระสงฆ์ในเมืองไทยนับแสนรูปที่ท่านอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้เงิน

ใช้ธรรมมะสอนญาติโยม แลกกับอาหารที่ขอบิณฑบาตรครับ

 

อ่านแล้วทำให้นึกถึงคนไทยสมัยก่อน ซึ่งแต่ก่อนนั้นคนไทยมักจะมีการแลกเปลี่ยนสิ่งของกันโดยไม่มีการว่ามากหรือน้อย และมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อ ซึ่งกันและกัน คำว่าเงินสมัยก่อนแทบจะไม่จำเป็นด้วยซึ้า ถ้าจะเปรียบเทียบกับสมัยโลกานิวัติ แค่ให้ช่วยตักกิ่งไม้ยังต้องใช้เงินจ้าง เฮ้อ เห็นแล้วรุ้สึกปลง

 

ขอบคุณมากค่ะที่นำสิ่งดีๆมาให้อ่าน

 

ขอบคุณครับ ที่นำเเบ่งปันให้อ่านครับ ขออนุโมทนาสาธุครับ

 

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ กับแนวคิดและการปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่ดี สังคมไทยในอดีตก็ใช้แนวทางนี้มาก่อน ถ้าจะช่วยกันค่อยๆรื้อฟิ้นคง สังคมคงจะดีขึ้นเรื่อยๆนะครับ แล้วในที่สุดคงน่าอยู่กันทุกแห่งทั่วโลก มาช่วยกันเริ่มที่ตัวเองกันนะครับ

 

ยากมากนะ ไม่น่าจะแลกได้ทุกอย่าง เช่น น้ำล่ะ จะไปแลกอะไรมาถึงได้น้ำใช้ โอเค ขุดบ่อน้ำเอง ไม่มีน้ำบริโภคที่สะอาด ต้มน้ำเอง แล้วไฟฟ้าล่ะ อ้อ อาจจะปั่นเอง น้ำมันล่ะ ขุดเองรึ สำหรับ อาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค มีคนให้กันอยู่แล้ว แลกกันได้ แล้วเวลาคิดจะเดินทางไปไหนมาไหน ขึ้นรถ ไม่ต้องใช้เงินรึ ถ้าอยู่แบบสมถะจริงๆ แค่ กิน นอน ไม่ไปไหนเลย ไม่ทำอะไรเลย อยู่ไปอย่างนั้น ไม่มีการเจ็บป่วย ถ้าเจ็บป่วยก็รักษาไปตามที่มี และรอความตาย มันเป็นไปไม่ได้ทั้งหมดแน่นอน ในยุคนี้ อย่างเช่นมีหมู่บ้านอามิส ที่อยู่ในรัฐเพนสิวาเนียในสหรีฐ ก็บอกว่าหมู่บ้านนี้ อยู่อย่างสมถะแบบนี้แหละ ไม่มีการใช้เงิน ไม่มีรถยนต์ใช้ ใช้รถม้าเป็นยานพาหนะ ไม่มีไฟฟ้า ใช้ตะเกียงแทน ไม่มีสักบ้านหนึ่งที่มีโทรศัพท์ใช้ ผู้คนทำอาหาร ทำขนมปังเอง ไม่มีการไปซื้อ มีการเลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก ทุกอย่างปลูกเอง กินเอง แลกกันแบบนี้แหละ เมล็ดพืชก็แลกกันเอาไปปลูก ช่วยเหลือแรงงานกัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง เรื่องนี้ก็คงเป็นแบบเดียวกัน ไม่ใช่ทุกอย่าง ไม่เชื่อเลยว่าไม่มีการใช้เงิน มันไม่น่าเป็นไปได้ ลองเข้าไปเที่ยวสิ แล้วจะรู้ว่าที่เขาเอามาเล่า เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น

 

เห็นด้วยค่ะ อยากให้มีในประเทศไทยจัง เป็นหมู่บ้านที่ไม่ต้องใช้เงินเลย ใครนะจะเป็นผู้นำร่อง

 

ชีวิตไม่มีอะไรมาก รู้เท่าทันแล้วจะตลก โลกสมมติ เวียน ว่าย ตาย เกิด ตลกจริงๆ