เอาตัณหาพาสู่พระนิพพาน

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 8 กรกฎาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    [​IMG]




    ถาม : ..เปิดเพลงฟังแล้วนั่งสมาธิได้ดี ?

    ตอบ : ขึ้นอยู่กับว่า เมื่อจิตเราได้ยินเสียงแล้ว จะเข้าสู่สมาธิได้ง่ายแค่ไหน ? บางคนก็อาศัยความสงบโยงจิตเข้าหาสมาธิ บางคนต้องอาศัยเสียงเพื่อโยงจิตเข้าหาสมาธิ

    เพราะฉะนั้น..ทางด้าน ตันตระ จึงมีดนตรีตอนสวดมนต์ เขาเรียกว่า เอาตัณหาพาสู่พระนิพพาน แต่ส่วนใหญ่พาไม่ถึงเสียที เหมือนกับเลี้ยงเสือให้อิ่ม แล้วเสือเชื่อง ยอมให้เราลูบหัวได้ แต่เผลอเมื่อไรเสือก็กัดเราอีก


    สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔


    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...?t=2637&page=3



    .
     
  2. thontho

    thontho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +612
    ถ้าไม่มีความอยาก กระตือรือร้น(ตัณหา) ที่จะปฏิบัติเพื่อไปสู่นิพพาน จะไปถึงนิพพานได้อย่างไร ก็คงนั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไร ไม่มีตัณหาหรือความอยากเป็นจุดเริ่มต้นปฏิบัติ ยิ่งไม่มีทางสู่นิพพานได้เลย.......ลองคิดให้ดีแสดงว่า ยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ตัณหาพาสู่นิพพาน
     
  3. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ
    ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุค่ะ_/|\_
     
  4. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    สาธุ สาธุ ใช้อธิษฐาน ศรัทธา วิริยะ แทนตัณหาจะมีประโยชน์กว่ามาก
     
  5. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,711
    ค่าพลัง:
    +5,720
    ทีแรกเหมือนว่าไม่น่าไปกันได้ อ่านไปจึงพอเห็นทางไป มองต่อไป ๆ ก็ไม่ใช้จะได้ง่ายนะครับ อนุโทนาสาธุ ๆ ๆ ครับ
     
  6. ผู้มาเยือน

    ผู้มาเยือน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2006
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +12
    ลองพิจารณาระหว่างความหมายของคำว่า" ตัณหา " กับ " ฉันทะ "(วิริยะ จิตตะ วิมังสา) ครับ.....
     
  7. supojzajiw

    supojzajiw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +39
    หากโลกนี้ได้ทุกอย่างตามที่คิด ทั้งชีวิตจะเอาของกองที่ไหน ?
    ขออนุโมทนาฯ
    พออยู่ พอกิน พอใช้ พอดี พบพอเพียงจึง......เพียงพอ
    รักในหลวง

     
  8. ultimatetruth

    ultimatetruth สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +0
    อ้าว...ตัณหาไม่ได้พาไปสร้างกิเลสหรอกหรือครับ ตกลงนี่เขาสอนกันแบบนี้แล้วหรือ เอาตัณหาพาไปนิพพานเนี่ย?

    ก็นิพพานมันพ้นไปจากกิเลส ตัณหา อุปาทาน แล้วจะเอาตัณหาพาไปนิพพานได้อย่างไรเล่า สอนกันแบบนี้ก็ไม่จบเสียทีสิ
     
  9. Red people

    Red people เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +153
    เป็นความรู้ทางธรรมที่แยบยลดีมาก


    .
     
  10. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ultimatetruth อ่านตรงนี้อีกรอบนะ


    ลางเนื้อชอบลางยา ก่อนจะว่าอะไรคิดก่อน อย่าหานรกเข้าตัวเอง
     
  11. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    ตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจด้วยปัญญาอันน้อยนิด..... ท่านหมายถึงว่าพวกที่หวังจะเอาตัณหาพาสู่นิพพานก็มี อย่างเช่นลัทธิ"ตันตระ" ที่อาศัยเอาความเพลิดเพลินเช่นดนตรี หรือการเสพกามมาใช้ในการเข้าสมาธิ โดยการจดจ่ออยู่กับอารมณ์ขณะนั้น ซึ่งลัทธิพวกนี้ก็ได้สูญหายไปแล้ว เพราะไม่สามารถนำไปสู่นิพพานหรือความหลุดพ้นได้จริง มีแต่จะทำให้หลง ยึดติด เพลิดเพลินห่างไกลทางหลุดพ้น แต่มรรคที่พระพุทธเจ้าสอนนั้นคือการเจริญสติ ละ วาง กิเลส อัตตาซึ่งสามารถนำไปสู่ความหลุดพ้นได้จริง^ ^
     
  12. กรวุฒิ

    กรวุฒิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +17
    เห็นด้วยครับ อนุโมทนา สาธุครับ
     
  13. ultimatetruth

    ultimatetruth สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +0
    ไม่ใช่ลางเนื้อชอบลางยาหรอกครับ เขาเรียกว่าจริต แปลง่ายๆว่า ฉันชอบแบบนี้ใครจะทำไม

    เพราะสมาธิแบบทำเอานั้นก็คือการเข้าไปยึดกับสภาวะอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งให้คงที่ ซึ่งมันผิดกฏไตรลักษณ์ ผลที่ได้คือการทำสมาธินั้นเป็นการเจริญอัตตาไปแทน

    สอนกันแบบนี้ก็พากันลงนรกหมดทั้งคนสอนคนฝึก เพราะมันผิดธรรม
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...