ที่เเท้ทำมาเป็นบาปหรือว่าบุญ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย taothai, 21 กรกฎาคม 2011.

  1. taothai

    taothai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +23
    วันนี้เองผมได้ตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องของผมที่กระทำเมื่ออดีต เเละเป็นสิ่งที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าผิดหรือว่าถูก เเละพยายามที่จะไม่พูดถึงเเต่ก็พยายามหาวิธีเเก้หลายครั้ง

    เริ่มเล่าเรื่องเลยนะครับ ครอบครัวของผมเองมีอาชีพทำนา เเละพ่อของผมเองก็มีอาชีพที่เสริมเข้ามาก็เป็นอาชีพเกี่ยวกับการรับจ้าง
    ทำบ้าน เป็นช่าง การทำนาของผมก็ไม่ได้มีนามากมายอะไรก็มีพอที่จะทำเเล้วเลี้ยงดูครอบครัวได้ทั้งปี ตั้งเเต่ผมเด็กนั้นผมจำความได้ว่า พ่อกับเเม่ของผมนั้น พอหมดจากฤดูทำนาเเล้วก็จะไปหารับจ้างเพื่อหาเงิน จำได้ว่าครอบครัวของผมไม่มีเงินมากหรอกเเต่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นพอสมควร เเม่จะพยายามทำให้ผมไม่น้อยหน้ากว่าใครเเม้จะไม่มีเท่าเทียมกับคนอื่น ก็ถือว่ามีความสุขมากเลยทีเดียว ผมเองก็ไม้ได้เรียกร้องอะไรมากมายจากพ่อเเละเเม่

    เเต่เมื่อเวลาผ่านไปพอผมจะขึ้นเรียน ป1 ครอบครัวของผมก็ต้องย้ายถิ่นฐานบ้านเรือนไปอีกจังหวัดหนึ่ง เเละนี่เเหละก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด การย้ายนั้นทำให้ครอบครัวของผมไม่มีเงินเก็บเลย ต้องกู้หนี้ยืมสินมาทำบ้านเพื่อที่จะพออยู่ไปก่อน ก็เป็นหนี้มากพอสมควร
    ที่ใหม่เองนี้ที่ตั้งบ้าน ก็เป็นบ้านของย่าเเบ่งที่ดินให้ส่วนหนึ่งที่มีคนเล่าว่าที่ดินตรงนี้ใครอยู่เเล้วจะต้องมีคนตาย (ความเชื่อมั้ง) เเละเมือ่ตั้งเเต่ย้ายมาอยู่ที่ใหม่นั้นเอง คนรอบข้างไม่ให้การสนับสนุนครอบครัวของผม เเม่ของผมไม่ถูกกับย่า ทั้งที่เเม่ของผมเเละรวมไปถึงพ่อของผมทำงานทุกอย่างให้กับย่าเเต่ย่าก็ยังไม่พอใจ รวมทั้งลูกๆๆ คนอื่นของย่าด้วย

    ต่อมาไม่นานพ่อเิริ่มเครียดไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนกัน เริ่มที่จะดื่มเหล้าเเละการดื่มเหล้าของพ่อ มักจะมาทะเลาะกับเเม่ทุกครั้ง
    บางครั้งก็ไล่ตี บางครั้งก็ด่าเสียงดัง เเรกๆๆ นั้นก็นานๆ ครั้ง เเต่พอนานๆไป ดื่มทุกวัน ด่าทุกวัน ไม่ใช่เเค่้ด่าเเม่เเต่พ่อด่าไปทั่วมั่วไปหมด
    บางครั้งก็กินเหล้าทั้งวันทุกวัน เเละก็ด่าทุกวัน เเละไล่ตีเเม่ทุกวัน เเละคนที่ต้องรับผิดชอบงานทุกอย่างเเละลูกก้ตกไปอยู่ที่เเม่ทั้งหมด

    มีอยู่วันหนึ่ง ตอนนั้นผมก็เด็กมาก เรียนประมาณ ป.4 ป.5 กลับมาจากโรงเรียน เห็นพ่อกำลังด่าเเละตีเเม่อยู่เเละน้องก็อยู่ด้วยกับเเม่
    ด้วยความที่โกรธเเละเห็นเเม่ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวจึงได้ต่อว่าเเละพยายามปกป้องเเม่อย่างเต็มที่ นานๆเข้าเเละบ่อยๆ เข้าคำพูดที่ต่อว่าของผม
    ก็เปลี่ยนไปเป็นด่าที่หนักขึ้น เพราะทนไม่ได้จริงๆที่เห้นเเม่อยู่ในสภาพที่ไม่น่าดูเลย ไหนจะต้องไปทำนา ไหนจะดูเเลลูก งานบ้านอีก เเม่รับทุกอย่าง
    ผมเองก็พยายามช่วยเเม่ทุกอย่าง ทั้งงานบ้าน งานนาทำทุกอย่าง ยอมรับเลยว่าบางวันไม่อยากไปโรงเรียนเพื่อที่อยากดูเเลเเม่
    ส่วนพ่อ ตอนนั้นผมมองว่าเป็นคนที่เลวมาก พ่อจะด่าคำหยาบมาเท่าไหร่ ผมด่ากลับไปเท่านั้น

    พอผมเรียน มัธยม เวลานี้ยิ่งหนักไปอีกพ่อไปรับจ้างที่ไหนเงินที่ได้นั้นจะหายไปกับเหล้าหมด เเละก็เป็นภาระของเเม่ผมอีกเหมือนกันที่จะถือว่ต้องหาเงินให้ผมเรียนทั้งที่ต้องดูเเลงานทุกอย่างที่ทำได้ ก็ถือว่าหนักขึ้นมากๆๆ จากที่หาเงินบางครั้งเหลือจากการที่กินเหล้าก็พอเหลือให้เเม่นำมาให้ลูกไปโรงเรียนบ้างก็เริ่มไม่มี ผมเองก็เริ่มที่จะช่วยเเม่ทำงานทั้งงานบ้านงานสวน งานนาทำหมดเเล้วเเต่ว่าเเม่จะบอก เเละที่หนักไปกว่านั้นพ่อเริ่มลงไม่ลงมือ
    เเล้ว ตีจริง เจ็บจริง เเละเหมือนไม่มีสติมากขึ้น เเละผมเองวุฒิภาวะทางอารมณ์ก็น้อย บางทีเห็นเเม้โดนตี ผมก็ตีกลับ บางทีเห็นเเม่โดนด่าก็ด่ากลับไป
    บางทีอาจจะมากกว่าที่ด่ามาหรือว่าตีมา ก็ยอมรับว่าทุกวันจนความอดทนไม่มีเเล้วจริงๆ เรื่องการไปเรียนนั้นผมก็ไปเรียนทุกวันเเต่การไปเรียนก็ห่วงเเม่มากเหมือนกันที่อยู่บ้าน เเต่ถ้าไม่ไปเรียนก็ไม่รู้จะอยู่ทำอะไร เรื่องผลการเรียนนั้นก็ยังถือว่าดีเเละเป็นที่ยอมรับของเพื่อน เเละไปโีรงเรียนผมก็ทำตัวปกติ เเละหลังจากเลิกเรียนกลับมา บางวันก็เริ่มทะเลาะกันตั้งเเต่กลับมาจากโรงเรียนยอมรับว่าตอนนั้นเหนื่อยมากจริงๆๆ เเละเคยถามเเม่ว่าทำไมเเม่ไม่เลิกไปสักที เเต่เเม่ก็บอกว่ายังทำเพื่อลูก

    พอเวลาผ่านไปไม่นานพ่อของผมเอง ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวช ก็กินเหล้ามากจนจิตหลอน เเละเข้าก็เข้ารักษาตัวเรื่อยมาเป็นประจำ เเละหลังจากที่ได้รับการรักษาเเล้วอีกไม่เกิน 1 เดือน ก็กินเหล้า เเล้วก็ไปโรงพยาบาลอีกเป็นอยู่อย่างนี้ประจำ เเละผมยอมรับอีกอย่างหนึ่งว่า บางครั้งผมเองถึงกับตีกันกับพ่อที่เห็นพ่อมาด่าเเม่มันเป็นอยู่อย่างนี้เเละหนักขึ้นเรื่อยๆๆ บ้านไม่เป็นบ้าน น้องผมเองก็เด็กเลยมีอารมณ์ก้าวร้าว
    ทางวาจาเเละคำพูดไปเลย ก็ต้องยอมรับว่าสังคมพาเป็นไปอย่างนั้นจริง

    เเม้กระทั่งวันที่เรียนจบมัธยมก็ยังมาทะเลาะกัน ผมยังจำได้วันที่ก่อนผมจะสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยพ่อเเม่ของผมทะเลาะกันเเบบ
    เเยกของเลยจำได้ว่า 20 วันก่อนสอบ เเม้ย้ายของไปคนละบ้านเลยเเบ่งสมบัติกันเรียบร้อย ตอนนั้นเองผมยอมรับว่าผมระหกระเหินมาก ผมต้องไปอยู่ที่บ้านของปู่เป็นการชั่วคราว เเต่บ้านพ่อของผมก็อยู่ติดกัน ได้ยินเเต่เสียงด่า โวยวายทั้งวัน ผมเองก็อดทนว่าต้องสอบให้เรียนให้ได้ ทั้งที่ไม่รู้เลยว่า
    จะเอาเงินจากที่ไหนไปเรียน ก็อ่านหนังสือบ้าง เครียดเรื่องครอบครัวบ้าง อ่านเเล้ววาง วางเเล้วอ่าน เป็นอยู่อย่างนี้ จนถึงงวันสอบ
    เเล้วลงทุนไปคนเดียว สอบเอง เเล้วปรากฎว่าสอบติดตามที่หวัง เเต่เรื่องราวไม่เป็นตามที่หวัง ลองอ่านต่อไปนะครับ

    เเละระหว่างนี้เองพ่อเเม่ของผมมาคืนดีกัน ไม่ถึงเดือนก็เป็นเหมือนเดิมเเหละ เเต่ตอนนี้ผมได้มาเรียนที่อีกจังหวัดหนึ่ง คนที่รับกรรม
    คือน้องผมเอง ผมเองก็เป็นห่วงน้องเเละเเม่มากๆๆ เเบบว่านอนก็ไม่เต็มอื่มรู้สึกผิดที่ตัวเองทิ้งครอบครัวมาเเล้วมาหาความสุขอยู่คนเดียว
    ผมต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนที่เรียนถือว่าเกรดที่อยูู่ในอันดับต้นของโรงเรียนมาตลอด จะมาตกก็ตอนวันก่อนสอบเเล้วพ่อเเม่ทะเลาะกันนี่เเหละ
    ก็ประมาณ ม.ุ6 เกรดถือว่าตกมาก เพราะทะเลาะตรงวันสอบทุกทีเเละทะเลาะหนักด้วย เหมือนเวรกรรมจริงๆๆ เเละตอนนั้นเครียดมากจริงๆ
    สองตันไปหมดใครพูดอะไร เอ๋อไม่จำก็ยังส่งผลบ้างจนถึงปัจจุบัน เเต่เรื่องเหมือนเวรกรรมนั้นยิ่งรุนเเรงมากขึ้น

    เมือ่เรียนมหาลัยปีเเรก เเม้ก็เริ่มออกจากสังคมเเบบเดิมก็ผ่อนคลายบ้าง เรียนเทอมเเรกยอมรับว่าตั้งใจมาก เเละเกรดออกมา
    ก็ถือว่าใช้ได้ เเต่ปีสองโดนรีไทน์ เพราะเทอมสองเกรดตดเกือบทุกตัวที่ลง เกือบทรุดตัวเลย หาที่ทรุกหัวนอนเลยว่าจะไปต่อสู้ที่ไหน
    เหตุที่ตกหมดนั้นผมเองก็ไม่โทษใครหรอกเเต่ยอมรับว่ามีเรื่องที่เข้ามากวนจิตใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเเละเรื่องครอบครัว
    เเละเรื่องอื่นๆๆ พัวพันไปหมด เเม้จะเรียนอยู่ที่นี่เเต่ปัญหาก็ยังตามมา ระหว่างนั้นก็พยายามเก็บเงิน เพื่อที่จะสอบใหม่ยอมรับเลยไม่มีกำลังใจ
    ที่จะเรียนต่อเลย ไม่มีจิตใจจะไปนั่งอ่านหนังสือสอบเเข่งกับรุ่นน้องเลยเพราะอุตสาห์หวังไว้ว่าเรียนจบเเล้วจะกลับไปเเก้ปัญหา
    ทุกอย่างพลิกผันชีวิตไปหมด

    มาเริ่มอ่านหนังสือที่จะสอบใหม่ระหว่างที่ตัวเองอ่านหนังสือนั้นก็เลยไปลงทะเบียนเรียนรามคำเเหงไว้ก็เผื่อไว้ทางสุดท้ายที่ไม่ได้อะไร กำลังใจจะอ่านหนังสือก็ไม่มีเพราะมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองเลย ปรากฎว่าสอบทุกมหาวิทยาลัยไม่ติดสักที่ พอหมดหวังเเล้ว
    เเล้วก็เกินเวลา Admision มาเเล้วหมดหวังเเล้ว เเต่บังเอิญมีคณะหนึ่งเปิดรับเพิ่มเติมเเล้วก็เป็นคณะที่พยายามจะสอบมานาน
    ก็เลยไปสอบครับ ปรากฎว่าสอบได้ ได้สอบสัมภาษณ์ เเต่เีืรื่องก็ไปกันใหญ่

    เเละระหว่างที่ผมสอบได้อยู่นั้นก็เหมือนเดิมครับครอบครัว เเละผมเองก็ได้เข้ามาเรียนเเเละตั้งใจอย่างเต็มที่เเละค่ายืนยันสิทธิ์จำได้ว่า
    ยืมเงินของพ่อเพื่อนมาจ่าย คิดไว้ยังไงไปเรียนเดี๋ยวหาช่องทางเอาใหม่ เทอมเเรกเกรดออกมา ถือว่าอันดับต้นๆของห้อง
    เเต่เทอมสองน่าเสียดายอีกเเล้วคราวนี้ไม่โดนไล่ออกหรอกครับ ค่าเทอมเเละค่าใช้จ่ายเกินตัวจริงๆๆ ไปไม่รอดคราวนี้ต้องตัดใจออกเอง
    พ่อเเม่ก็ไม่มีเงินจะส่งหรอก ถือว่าเป็นเิงินที่ไม่เคยเห็นเลยเเหละ

    หลังจากที่ลาออกเสร็จที่จริงไม่ได้ลาออกหรอก ออกมาเฉยๆๆ เพราะค้างชำระค่าเทอมเขาอยู่ถ้าจะลาออกต้องจ่ายเงินก่อน
    ผมก้เลยออกมาเอง คราวนี้ก็ทางสุดท้ายเเล้วเเหละเรียนราม คราวนี้เองผมมีเวลาเป็นอย่างมากครับ
    คิดทำงานนู่นงานนี้ คืออยากจะบอกว่าที่ผมเรียนเเล้วออกผมยังไม่บอกเเม่ของผมเลย
    เเล้วก็เริ่มศึกษาธรรมมะ เอาเเค่พอรู้ครับทีี้นี้ ผมเอาจริงเองจังลองทำสมาธิทุกเช้า เเต่ทำจริงๆๆ เว้นวัน ทำบ้างไม่ทำบ้าง
    ระหว่างก็มีเพื่อนครับ เขาให้ไปอยู่ห้องด้วยโดยไม่คิดค่าห้องผมเลย อาจเห็นใจผมมั้ง ทำไปได้ไม่นาน เเม่โทรมาบอกว่าพ่อของผมเลิกเหล้า
    ผมเเบบดีใจมาก ตอนนั้นจำได้ว่าตอนทำสมาธิผมไม่มีสมาธิหรอกคิดเรื่องนั่นเรื่องนี่ เรื่องชีวิตตัวเองจะเดินไปอย่างไร
    เเละผมเองก็กำลังเรียนรามคำเเหงอยู่ครับ ตอนนี้เลย ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาขัดขวางผมอีก เหมือนกัน เพราะกรรมที่ทำกับพ่อผมเองก็ไม่รู้
    ว่าเป็นบาปหรือเปล่าที่ทำเพื่อเเม่

    ยังไงผู้รู้ช่วยเเนะนำผมหน่อยนะครับวิธีเเก้ ผมเองก็ท้อมากเหมือนกันอยากเรียนให้จบสักทีจะได้ตอบเเทนพระคุณท่าน ทั้งสองเสียทีื
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2011
  2. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    ขอให้ประสบกับความสุข และขอให้สมหวังในสิ่งที่ต้องการนะครับ
    ขอแสดงความยินดีด้วยที่หันมาเดินในเส้นทางแห่งพุทธะ

    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
     
  3. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +2,951
    เเละผมเองก็กำลังเรียนรามคำเเหงอยู่ครับ ตอนนี้เลย ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาขัดขวางผมอีก เหมือนกัน

    เราก็จบรามจ้า มาเป็นกำลังใจให้ละกันเนอะ เราก็ถูกตราหน้ามาตลอดชีวิตเหมือนกัน ว่าเป็นคนบาปหนักเนื่องจากเราป่วยจนต้องลาออก เอ็นไม่ได้ เพราะต้องหาหมอตลอด
    เราของให้กำลังใจทางโลกละกันนะ
    -ม. รามไม่ใช่ที่รวมของคนโง่ หรือคนบาป หรือคนขี้เกียจ
    -คนเก่ง ม.ปิด อัตตามากมาย เก่งแต่ข้อสอบ ติดกับคะแนน และชื่อเสียง
    (ทั้งนี้ เราไม่รวมถึงทุกคน จากประสบการณ์เราน่ะ เพราะเราเป็นเด็กห้องคิง ที่ชีวิตผลันไป เพราะป่่วยหนัก จนต้องเรียนรามแทน)

    แน่ละ จบแล้ว ชีวิตการทำงานยังต้องผ่านด่าน การดูถูกว่า จบราม เสียหัวเราะเยาะเย้ย ตาเหยียดหยาม

    เหล่านี้ ออกมาจาก คนที่เรียกว่า ตัวเอง เอ็นติด เรียนเก่ง รู้มาก ทำงานเงินเดือนดี (ต้องยอมรับว่า ม. ปิด เงินเดือนจะดีกว่ารามมาก)

    จากที่เราสัมผัสมา เด็กราม น้ำใจมากกว่าคนจบโทเสียอีกน่ะ (ไม่ใช่เรานะ ไม่ได้ยกตัวค่ะ)

    ชื่อเสียงมหาลัย ไม่ใช่ตัวชี้เป็นชี้ตายสำหรับชีวิตคนเรา
    อัตตา ทำให้ คนเหล่านี้ติดอยู่กับตำรา ไม่ยอมรับอะไรใหม่ๆ หรือคิดว่า การเข้าทางธรรมเพราะ เอาตัวไม่รอด
    พวกเขาจะหาความสุขที่แท้จริงๆไม่ได้เลย เพราะติดอยู่กับกิเลส ชื่อเสียง เงินทอง

    จาก คนบาปหนัก (ในสายตาคนอื่น :love::love::love:)
     
  4. จิตสีฟ้า

    จิตสีฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +192
    ::cool: ผมคิดว่าสิ่งที่คุณทำ ถูกต้องเท่าที่จะถูกต้องได้เเล้วครับ ต้องยอมรับว่าสู้ชีวิตจริงๆนะ การที่ทะเลาะเเเละตีกันกับพ่อเพื่อ"ปกป้องเเม่"เนี่ย อันนี้ขอเรียกว่าเป็นบุญกุศลตัวใหญ่เลย อาจจะมีกรรมกับพ่อเเต่ว่าคุณไม่ได้มีเจตนาทำร้าย(หากเขาอยู่ของเขาดีๆ) ผมคิดว่า การจะปล่อยให้เเม่คุณถูกทำร้าย เป็นอะไรที่เลวยิ่งกว่ามากนะ จงภูมิใจในสิ่งที่คุณทำลงไปเถอะครับ เพราะผมยังมองไม่เห็นความอยุติธรรมของคุณเลย
     
  5. manie_ae

    manie_ae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +153
    กลับบ้านไปขอขมาพ่อแม่ แล้วก็เอาน้ำล้างเท้าท่าน กราบขอขมาท่าน ตามแบบที่หลวงพ่อจรัลสอนไว้ค่ะ พอท่านอโหสิกรรมให้แล้ว ชีวิตก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ หมั่นทำ ทาน ศีล ภาวนา ให้ได้ตามกำลังนะคะ แล้วจะดีขึ้นเองค่ะ
     
  6. นาคะวงศ์

    นาคะวงศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +166
    จะชั่วจะดี ก็บุพการีผู้ให้กำเนิดเรานะคุณ น่าจะให้อภัยกับทุกสิ่งที่ผ่านมาแล้วและกลับไปจัดขัน5 ขอขมาท่านกราบเท้าท่าน เชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ดีกว่าปล่อยไปตามลมตามน้ำโดยไม่แก้ไขอะไรเลย หัวใจของคนที่เป็นพ่อแม่ ถ้าเห็นลูกทำสิ่งที่ดีกับท่านไม่มีหรอกที่ท่านจะเมินเฉยโดยไม่แยแสต่ออะไร ดีไม่ดีท่านสำนึกผิดกลับตัวใหม่เป็นคนดี ผลบุญยิ่งจะเกิดกับเราอย่างมหาศาล เหตุมันเกิดกับเรา ตัวเราเท่านั้นที่จะเป็นผู้จัดการแก้ไขให้ดีขึ้นได้ วันนี้ทำดีวันหน้าต้องได้รับผลดีไม่ช้าก็เร็ว ขอให้คุณมีชัยชนะต่ออุปสรรคและประสบผลสำเร็จตามที่ปรารถนาทุกประการ
     
  7. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    เรื่องที่ผ่านมาแล้วเรารู้ว่ามันไม่ดีเราก็เอามาเป็นบทเรียน อย่าทำผิดพลาดซ้ารอย
    เดิม การที่เราสู้กับพ่อ ด่าพ่อจะบอกว่ามันไม่บาปไม่ได้หรอก แต่มันเป็นสิ่งที่ผ่าน
    มาแล้วเราก็อย่ากังวล และอย่าไปคิดถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เอาใจเราอยู่กับ
    ปัจจุบัน ถ้าเรารู้ว่าเราเคยทำกรรมกับพ่อเราก็ไปขอโทษท่านได้เพราะท่านยังมี
    ชีวิตอยู่ถ้าเรากลัวผลกรรมที่ทำกับพ่อ ส่วนเรื่องเรียนเรื่องค่าใช้จ่ายก็คงต้องหา
    ทางบริหารให้ดีๆ ตัดรายจ่ายให้มากที่สุด และหารายได้เพิ่มเติมเพราะต้องเรียน
    ให้จบจะเสียเวลากับการเรียนตลอดไปไม่ได้ คงเป็นช่วงที่ต้องใช้ความอดทนซัก
    หน่อย และถ้าเราเข้ามาทางธรรมจะรู้ว่าทำดีย่อมได้ดี เราก็มีศรัทธาในการทำสิ่ง
    ต่างๆ ด้วยใจที่เป็นกุศล จะได้พ้นจากวิบากกรรมที่เผชิญอยู่
     
  8. ปราณยาม

    ปราณยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ก่อนอื่นต้องบอกว่าเห็นใจจริงๆครับกับเรื่องที่อ่านมา แต่เรื่องที่ถามมาต้องแยกกันนะครับ
    1.ที่คุณต้องการปกป้องและเป็นห่วงคุณแม่ ตรงนี้เป็นความกตัญญูที่น่ายกย่องครับ กุศลส่วนนี้มีจริงครับ
    2.ส่วนที่คุณเคยตอบโต้ทั้งทางวาจาและทางกายกับคุณพ่อ ตรงนั้นยังถือว่าเป็นกรรมบาปอยู่ คุณต้องไปขอขมากกรมกับท่านครับ เพราะกรรมที่ทำกับพ่อกับแม่นั้นให้ดอกสูงมาก
    ที่คุณทำมามีทั้งดีและไม่ดี ผลจึงยังต้องส่งผลให้ทั้ง2อย่าง แต่อย่าท้อนะครับ วันนี้เรารู้แล้ว พร้อมแล้วที่จะทำดีขอให้สิ่งดีเกิดขึ้นกับคุณนะครับ
    วันก่อนผมได้ดูข่าวในพระราชสำนัก ฟ้าหญิงท่านได้กล่าว่า.. หลวงตาพระมหาบัวเคยสอนท่านว่า คุณที่เคยทำผิดแล้วคิดกลับใจ นับว่าประเสริฐกว่าคนที่ทำความดีมาโดยตลอดอีก..สู้ๆนะครับ
     
  9. เขตปกครอง230

    เขตปกครอง230 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +324
    วิบากกรรมก็ผ่านไปแล้ว...ก็ต่อสู้กันต่อไป
     
  10. xushukung

    xushukung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +465
    สร้างบาปอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้บุญอย่างหนึ่ง ก็คงได้ทั้งบุญทั้งบาปไปพร้อม ๆ กัน แต่เจตนานี่ซิสำคัญ ว่าเจตนาคืออะไร คุณเจตนาดี ผลดีย่อมตามมามากกว่า เวลาพระท่านบิณทบาต บางทีท่านก็ไปเหยียบมด เหยียบแมลงบ้าง แต่ท่านก็ไม่ได้เจตนา ถามว่าบาปมั้ย ฆ่าสัตว์มันก็ต้องบาปแหละ เมื่อทำไปแล้วไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ก็ตาม แต่ใจเราสำนึกได้ผมว่านั่นก็ดีที่สุดแล้ว จะให้ดีขึ้นไปอีกก็ไปขออโหสิกรรมท่านซะ
    ส่วนเรื่องอะไรที่ผ่านมาอย่าคิดว่ามันเป็นกรรมเลย คนเราถ้ามามัวมองแต่อดีตที่เลวร้าย ชีวิตมันก็ไปข้างหน้าลำบากเพราะมัวแต่โทษนั่นโทษนี่อยู่ร่ำไป
    ทางข้างหน้ายังมี วันนี้ยังเริ่มต้นใหม่ได้ ก็มุ่งไปในทางที่ดี ขอให้คุณประสบความสำเร็จในทางข้างหน้า สู้ สู้ ครับ:cool:
     
  11. ธิดารัตน์

    ธิดารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,939
    ค่าพลัง:
    +4,568
    สู้ๆๆนะคะขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นเรื่องไม่ดีไวไว
    ยังไงอย่าท้อ ผลแห่งบุญมีอยู่จริง
    ถ้าเรามีศรัทธาในบุญ ในกรรม ในพระพุทธองค์
    สิ่งเหล่านี้มักจจะช่วยเราเสมอ
    แต่ต้องหมั่นสร้างด้วยนะคะ คอยเติมเลเวลบุญอยู่เสมอๆ
    เด็กรามเหมือนกันค่ะ พรีดีกรี จบม.หกไปยังไงก็จะไม่ทิ้งเรียนราม
    ใครจะมองยังไงก็ช่างเขานะคะ เราจงภูมิใจที่เป็นลูกพ่อขุน หุหุ
    สู้ๆๆๆๆค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...