ตรุษจีน เชิดสิงโต แห่มังกร

<TABLE id=Table6 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE id=Table7 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD><TABLE id=Table8 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=messageblack width="100%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=top align=left>ประเพณีของคนไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น และจะมาต่อจากเทศกาลวันแห่งความรักของทุกๆ ปี ซึ่งปีนี้ก็ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม 2550
เสียงประทัดดังกึกก้อง และขบวนเชิดสิงโต สีสันแห่งประเพณีตรุษจีนที่หลายคนอาจยังไม่ทราบถึงความหมายอันลึกซึ้งที่แฝงมากับความสวยงามตามประเพณี

ก่อนที่จะพาไปพบกับขบวนเชิดสิงโต และแห่มังกร ก็ขอบอกให้รู้ถึงความหมายอันมีนัยแฝงกันก่อน
การจุดประทัด เกิดจากในอดีตมีคนหัวใสนำดินระเบิดไปบรรจุในบ้องไม้ไผ่เล็ก ๆ แล้วจุด เสียงไม้ไผ่ระเบิดก็ดังสนั่นหู เด็กเล็กได้ยินก็ร้องจ้า บรรดาสุนัขและสัตว์เลี้ยงทั้งหลายต่างพากันกลัวเสียงประทัดวิ่งหนีกันได้ ทำให้มีคนคิดว่าเสียงดังโป้งป้างของประทัด น่าจะไล่เจ้าตัวเหนียนได้ ซึ่ง ‘เหนียน’ คำนี้เป็นเสียงจีนกลาง จีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า ‘นี้’ แปลว่า ‘ปี’ คนจีนโบราณเชื่อว่าช่วงสิ้นปีที่อากาศหนาวเย็นจัด คนไม่สบายกันมากเพราะเจ้าตัวเหนียนออกมาอาละวาด การจุดประทัดเสียงดังน่าจะไล่เจ้าตัวเหนียนและโรคภัยไข้เจ็บให้ตกใจกลัวหนีไปได้ ต่อมาธรรมเนียมนี้ก็ปรับเปลี่ยนไปว่า การจุดประทัดให้เสียงดัง ๆ นี้จะเรียกโชคดีให้มาหา บ้างก็ว่าเพื่อให้สะดุดหูเทพเจ้า ท่านจะได้มาช่วยคุ้มครอง

ส่วน การเชิดสิงโต คนจีนเรียกว่า ‘ไซ่จื้อบู่’ แปลง่าย ๆ ว่า ‘ลูกสิงโต’ จัดอยู่ในหมวดการแสดงสวมหน้ากากสัตว์ จากบันทึกของราชวงศ์เหนือ-ใต้ (พ.ศ. 850 - 1132) เมื่อชาวบ้านในมณฑลกวางตุ้ง มีการแสดงเชิดสิงโตเพื่อไล่ผีที่เชื่อว่า มาลงกินผู้ชายและสัตว์เลี้ยง ก่อเกิดเป็นความเชื่อว่า เชิดสิงโตช่วยไล่ภูตผีปีศาจได้ ก็เลยเข้าคู่กันเหมาะมากกับการจุดประทัดวันตรุษจีน

ส่วน การแห่มังกร ก็เริ่มจากในสมัยราชวงศ์จิ๋นหรือฉิน (พ.ศ. 254 - 339) จัดเป็นการแสดงเล็ก ๆ แล้วมาจัดเป็นโชว์ใหญ่ที่สวยตระการตาในสมัยราชวงศ์ฮั่น (พ.ศ. 337 - 763) โดยเริ่มต้นมาจากตำนานปลาหลีฮื้อกระโดดข้ามประตูสวรรค์ ก็จะกลายเป็นปลามังกรมีฤทธิ์เดช โดยปลามังกรนี้คือสัตว์ยิ่งใหญ่มีพลังอำนาจ ใครได้พบได้ชมก็จะได้รับพลังช่วยเสริมให้เจ้าตัวโชคดีทำมาหากินได้ผลบริบูรณ์
แต่เนื่องจากทั้งการเชิดสิงโตและแห่มังกรนี้ ผู้แสดงต้องมีความสามารถพิเศษในเชิงกายกรรมต่อตัว การสมดุลตัว ที่สุดของการเชิดสิงโตคือการได้ซองอั่งเปา สุดยอดของการแห่มังกรคือ การต่อตัวขึ้นไปเพื่อหยิบซองอั่งเปาบนไม้สูงที่เมื่อทำได้ ความหมายของการได้ซองอั่งเปานี้คือ การจะได้โชคดีกันถ้วนหน้าตลอดปีทีเดียว

​

เมื่อปลายปีที่ผ่านมามีโอกาสไปเที่ยวงาน “แห่เจ้าพ่อแก้ว” ที่ อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ถึงไม่ใช่วันตรุษจีนแต่ก็มีการเชิดสิงโตและแห่มังกรด้วย ชาวบ้านที่นี่เชื่อว่า เจ้าพ่อแก้วจะคอยคุ้มครองชาวบ้านไม่ให้สิ่งชั่วร้ายใด ๆ เข้ามาปองร้าย และอยู่เย็นเป็นสุข ชาวบ้านจึงจัดงานแห่เจ้าพ่อแก้วทุกปีเพื่อแสดงถึงความเคารพและบูชา

พิธีตอนเช้าเริ่มจากการเชิดสิงโตที่ตลาดบางมูลนาก วนรอบตัวอำเภอ โดยขบวนประกอบด้วย การเชิดสิงโต การแห่มังกร การแสดงเองกอ ขบวนถือป้ายเจ้าพ่อแก้ว ที่สาวๆ ในอำเภอพร้อมใจกันมาร่วมเดินขบวน ต่อด้วยขบวนแสดงของนักเรียนทั้งระดับประถมและมัธยมในอำเภอ ระหว่างทางที่ขบวนเคลื่อนผ่าน ชาวบ้านจะเปิดประตูบ้านกว้าง ๆ ให้เองกอ วิ่งเข้าไปในบ้าน พร้อมจุดประทัด เพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากบ้าน

หลังจากขบวนแห่เดินวนรอบตลาดบางมูลนากแล้ว ก็จะเดินมารวมตัวกันที่ กิโลกลางธัญญผล ลานท่าข้าวที่ใหญ่ใกล้เคียงสนามฟุตบอล เพื่อปิดท้ายการแสดงภาคเช้าด้วยการแสดงชุดใหญ่ของขบวนสิงโต และมังกรที่ปีนขึ้นเสาสร้างความตื่นตาตาใจให้ผู้เขียนไม่น้อย รวมทั้งเองกอ และขบวนของแต่ละโรงเรียน

ส่วนภาคค่ำจะมีการแสดงลิเก คอนเสิร์ตนักร้องลูกทุ่ง หนังการแปลง บริเวณรอบนอกมีของกิน และของใช้ ที่แห่กันมาขายเต็มพื้นที่ จนผู้คนเบียดเสียดแน่นงาน

และอาหารที่ผู้เขียนแวะไปชิมมาแล้วและต้องยกนิ้วให้ ก็มีทั้ง หอยทอด หมูสะเต๊ะ น้ำหวานอัดลม ที่แทบเลือนหายไปจากความทรงจำ น้ำตาลปั้น ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่หาได้ในราคาไม่แพง

พรุ่งนี้จะมาดูกันต่อว่า เงินแต๊ะเอีย หรือ อั่งเปา ได้กันมาอย่างไร​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE id=Table6 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE id=Table7 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD><TABLE id=Table8 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=messageblack width="100%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=top align=left>ประเพณีของคนไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น และจะมาต่อจากเทศกาลวันแห่งความรักของทุกๆ ปี ซึ่งปีนี้ก็ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม 2550
เสียงประทัดดังกึกก้อง และขบวนเชิดสิงโต สีสันแห่งประเพณีตรุษจีนที่หลายคนอาจยังไม่ทราบถึงความหมายอันลึกซึ้งที่แฝงมากับความสวยงามตามประเพณี

ก่อนที่จะพาไปพบกับขบวนเชิดสิงโต และแห่มังกร ก็ขอบอกให้รู้ถึงความหมายอันมีนัยแฝงกันก่อน
การจุดประทัด เกิดจากในอดีตมีคนหัวใสนำดินระเบิดไปบรรจุในบ้องไม้ไผ่เล็ก ๆ แล้วจุด เสียงไม้ไผ่ระเบิดก็ดังสนั่นหู เด็กเล็กได้ยินก็ร้องจ้า บรรดาสุนัขและสัตว์เลี้ยงทั้งหลายต่างพากันกลัวเสียงประทัดวิ่งหนีกันได้ ทำให้มีคนคิดว่าเสียงดังโป้งป้างของประทัด น่าจะไล่เจ้าตัวเหนียนได้ ซึ่ง ‘เหนียน’ คำนี้เป็นเสียงจีนกลาง จีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า ‘นี้’ แปลว่า ‘ปี’ คนจีนโบราณเชื่อว่าช่วงสิ้นปีที่อากาศหนาวเย็นจัด คนไม่สบายกันมากเพราะเจ้าตัวเหนียนออกมาอาละวาด การจุดประทัดเสียงดังน่าจะไล่เจ้าตัวเหนียนและโรคภัยไข้เจ็บให้ตกใจกลัวหนีไปได้ ต่อมาธรรมเนียมนี้ก็ปรับเปลี่ยนไปว่า การจุดประทัดให้เสียงดัง ๆ นี้จะเรียกโชคดีให้มาหา บ้างก็ว่าเพื่อให้สะดุดหูเทพเจ้า ท่านจะได้มาช่วยคุ้มครอง

ส่วน การเชิดสิงโต คนจีนเรียกว่า ‘ไซ่จื้อบู่’ แปลง่าย ๆ ว่า ‘ลูกสิงโต’ จัดอยู่ในหมวดการแสดงสวมหน้ากากสัตว์ จากบันทึกของราชวงศ์เหนือ-ใต้ (พ.ศ. 850 - 1132) เมื่อชาวบ้านในมณฑลกวางตุ้ง มีการแสดงเชิดสิงโตเพื่อไล่ผีที่เชื่อว่า มาลงกินผู้ชายและสัตว์เลี้ยง ก่อเกิดเป็นความเชื่อว่า เชิดสิงโตช่วยไล่ภูตผีปีศาจได้ ก็เลยเข้าคู่กันเหมาะมากกับการจุดประทัดวันตรุษจีน

ส่วน การแห่มังกร ก็เริ่มจากในสมัยราชวงศ์จิ๋นหรือฉิน (พ.ศ. 254 - 339) จัดเป็นการแสดงเล็ก ๆ แล้วมาจัดเป็นโชว์ใหญ่ที่สวยตระการตาในสมัยราชวงศ์ฮั่น (พ.ศ. 337 - 763) โดยเริ่มต้นมาจากตำนานปลาหลีฮื้อกระโดดข้ามประตูสวรรค์ ก็จะกลายเป็นปลามังกรมีฤทธิ์เดช โดยปลามังกรนี้คือสัตว์ยิ่งใหญ่มีพลังอำนาจ ใครได้พบได้ชมก็จะได้รับพลังช่วยเสริมให้เจ้าตัวโชคดีทำมาหากินได้ผลบริบูรณ์
แต่เนื่องจากทั้งการเชิดสิงโตและแห่มังกรนี้ ผู้แสดงต้องมีความสามารถพิเศษในเชิงกายกรรมต่อตัว การสมดุลตัว ที่สุดของการเชิดสิงโตคือการได้ซองอั่งเปา สุดยอดของการแห่มังกรคือ การต่อตัวขึ้นไปเพื่อหยิบซองอั่งเปาบนไม้สูงที่เมื่อทำได้ ความหมายของการได้ซองอั่งเปานี้คือ การจะได้โชคดีกันถ้วนหน้าตลอดปีทีเดียว

​

เมื่อปลายปีที่ผ่านมามีโอกาสไปเที่ยวงาน “แห่เจ้าพ่อแก้ว” ที่ อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ถึงไม่ใช่วันตรุษจีนแต่ก็มีการเชิดสิงโตและแห่มังกรด้วย ชาวบ้านที่นี่เชื่อว่า เจ้าพ่อแก้วจะคอยคุ้มครองชาวบ้านไม่ให้สิ่งชั่วร้ายใด ๆ เข้ามาปองร้าย และอยู่เย็นเป็นสุข ชาวบ้านจึงจัดงานแห่เจ้าพ่อแก้วทุกปีเพื่อแสดงถึงความเคารพและบูชา

พิธีตอนเช้าเริ่มจากการเชิดสิงโตที่ตลาดบางมูลนาก วนรอบตัวอำเภอ โดยขบวนประกอบด้วย การเชิดสิงโต การแห่มังกร การแสดงเองกอ ขบวนถือป้ายเจ้าพ่อแก้ว ที่สาวๆ ในอำเภอพร้อมใจกันมาร่วมเดินขบวน ต่อด้วยขบวนแสดงของนักเรียนทั้งระดับประถมและมัธยมในอำเภอ ระหว่างทางที่ขบวนเคลื่อนผ่าน ชาวบ้านจะเปิดประตูบ้านกว้าง ๆ ให้เองกอ วิ่งเข้าไปในบ้าน พร้อมจุดประทัด เพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากบ้าน

หลังจากขบวนแห่เดินวนรอบตลาดบางมูลนากแล้ว ก็จะเดินมารวมตัวกันที่ กิโลกลางธัญญผล ลานท่าข้าวที่ใหญ่ใกล้เคียงสนามฟุตบอล เพื่อปิดท้ายการแสดงภาคเช้าด้วยการแสดงชุดใหญ่ของขบวนสิงโต และมังกรที่ปีนขึ้นเสาสร้างความตื่นตาตาใจให้ผู้เขียนไม่น้อย รวมทั้งเองกอ และขบวนของแต่ละโรงเรียน

ส่วนภาคค่ำจะมีการแสดงลิเก คอนเสิร์ตนักร้องลูกทุ่ง หนังการแปลง บริเวณรอบนอกมีของกิน และของใช้ ที่แห่กันมาขายเต็มพื้นที่ จนผู้คนเบียดเสียดแน่นงาน

และอาหารที่ผู้เขียนแวะไปชิมมาแล้วและต้องยกนิ้วให้ ก็มีทั้ง หอยทอด หมูสะเต๊ะ น้ำหวานอัดลม ที่แทบเลือนหายไปจากความทรงจำ น้ำตาลปั้น ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่หาได้ในราคาไม่แพง

พรุ่งนี้จะมาดูกันต่อว่า เงินแต๊ะเอีย หรือ อั่งเปา ได้กันมาอย่างไร​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> ที่มา : เดลินิวส์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=message-normal vAlign=top align=middle><SCRIPT>// URLs of slidesvar slideurl = new Array('http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33057.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33059.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33060.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33061.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33063.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33064.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33065.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33066.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33068.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33069.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33070.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33071.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33072.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33073.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33075.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33076.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33077.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/thumbnails/2007/variety/2/15/35140_thumb33078.jpg') ;// Comments displayed below the slidesvar slidecomment = new Array('','','','','','','','','','','','','','','','','','');var picNo = new Array('0','1','2','3','4','5','6','7','8','9','10','11','12','13','14','15','16','17');var i;var j;var x;var z=12;var c=6;var p=0;var picturecontent=''function poppic(ncId,NewsType,picNum){window.open('/dailynews/pages/front_th/popup_news/popup_news_popuppic.aspx?ncId=' + ncId + '&NewsType=' + NewsType + '&picNum='+picNo[picNum],'','menubar=no,toolbar=no,location=no,directories=no,status=no,scrollbars=yes,resizable=yes,dependent,,');}function prevImage(){if(p == 0){p = (Math.ceil(slideurl.length/12))-1;} else {p--;}createtable(p);}function nextImage(){if(p == (Math.ceil(slideurl.length/12)-1)){p = 0;} else {p++; }createtable(p);}function lastPage(){p=(Math.ceil(slideurl.length/12)-1) ;createtable(p);}</SCRIPT><TABLE id=Table1 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-normal vAlign=top align=middle>first page | | 12 | | last page</TD></TR><TR><TD class=message-copyright vAlign=top align=middle height=10>คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เวลาให้อั่งเป่าใกล้เข้ามาเต็มที ลูกหลานคนไทยเชื้อสายจีนที่ยังเยาว์วัย ต่างรอด้วยใจจดใจจ่อ ส่วนวัยทำงานที่ผ่านพ้นวัยเด็กมาก็ต้องเข้าสู่ผู้ให้อั่งเปาบ้าง ก่อนที่จะถึงช่วงเวลาของอั่งเปา วันนี้ขอนำความหมาย

 

คิดถึงนครสวรรค์เจ้าค่ะ พูดถึงตรุษจีน แล้วคิดถึงบ้าน

 

สุขสันต์วันตรุษจีนทุกท่านด้วยครับ

คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา
ก้ง เหย ฟั่ด ฉ่อย
หม่าน ซี หยู่ ยี
ซ่ำ แสง ซี เส่ง
(ภาษากวางตุ้งครับ)

 

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้

 

ขอให้ทุกท่านมั่งมีศรีสุขครับ

 

สวัสดีปีใหม่จีนน่ะจ๊ะ เฮง เฮง เฮงกันทุกคน